ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2915

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2915 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อันที่จริง ซูจือเฟยเองก็รู้ถึงระดับของตัวเอง

แม้ว่าตนจะเป็นหลานชายคนโตของตระกูลซู แต่นั่นก็เป็นเพียงการพึ่งบารมีของตระกูลซูเท่านั้น

คุณปู่ซูเฉิงเฟิงครอบครองอำนาจควบคุมทั้งตระกูลซู อย่าว่าแต่ตนเลย ต่อให้จะเป็นพ่อของตนก็ไม่มีอำนาจที่แท้จริงอันใด

เมื่อไม่มีอำนาจที่แท้จริง ก็แสดงว่าไม่มีทรัพย์สมบัติที่แท้จริง

ประธานแห่งตี้เหากรุ๊ปสามารถหยิบเงินสดนับหมื่นล้านออกมาได้ตามอำเภอใจ ทว่าตนเองกลับไม่สามารถหยิบเงินที่มากมายเช่นนี้ออกมาได้

หากเป็นเช่นนี้ ตนเมื่ออยู่ต่อหน้าประธานตี้เหากรุ๊ป ก็กลายเป็นคนที่ภายนอกสวยดั่งทองกับหยก ภายในเหมือนฝ้ายที่เปื่อยเน่า สวยแต่รูปจูบไม่หอม…

อีกทั้งเหตุใดเขาจึงต้องตามจีบกู้ชิวอี๋เป็นเวลาเนิ่นนานเช่นนี้ด้วย?

เหตุผลหนึ่งคือเขาหลงใหลในกู้ชิวอี๋จริงๆ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเพราะว่าเขาไม่มีอำนาจที่แท้จริงใดๆ ในตระกูลซู

ดังนั้น เขาต้องการใช้ตระกูลกู้มายกระดับศักยภาพของตน ถึงขั้นต้องการยืมศักยภาพของตระกูลกู้ ทำให้คุณปู่มองตนเปลี่ยนไป

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ในการสืบทอดตระกูลซูในอนาคตได้

และเนื่องจากเหตุผลเหล่านี้ กู้ชิวอี๋จึงมีส่วนช่วยในกลยุทธ์ของชีวิตเขาเป็นอย่างยิ่ง

ในสายตาของเขา ไม่มีวันยอมให้มีความผิดพลาดได้แม้แต่นิดเดียว!

เมื่อคิดได้ดังนั้น ภายในใจของเขาก็ยิ่งอบอวลไปด้วยโทสะ

เขาไม่เพียงแต่เกลียดประธานแห่งตี้เหากรุ๊ปผู้นี้ ที่กล้าแจ้นออกมาแก่งแย่งความรักไป ทั้งยังเกลียดคุณปู่ซูเฉิงเฟิง คนแก่ที่เหลืออายุขัยไม่นานแล้วยังกุมอำนาจการควบคุมตระกูลซูอยู่อย่างแน่นหนาอยู่อีก ไม่ยอมคลายมือแล้วยกให้คนรุ่นหลังเลยแม้แต่น้อย

ถึงขั้นว่า เขายังเกลียดน้องสาวของเขาซูจือหยูด้วย

ไม่นึกเลยว่าเธอจะใช้ผลประโยชน์จากความน้อยเนื้อต่ำใจเพียงเล็กน้อยอันนั้นที่เธอได้รับ ดื้อด้านเอาทั้งหยวนหยางขนส่งกรุ๊ป ไปจากมือของคุณปู่ไป

ถึงขั้นว่าเอาหมู่เกาะส่วนตัวที่เอาไว้ใช้ชีวิตยามแก่ของคุณปู่ไปด้วย

เมื่อเทียบกันแล้ว ตนไม่มีอะไรเลย

จริงๆ เลย อะไรก็ไม่มี…

เมื่อนึกได้ดังนั้น เขาก็กัดฟันกรอด เงยหน้ามองไปยังหวังตงเสวี่ยน เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “รองประธานหวัง คิดว่าเจ้านายของพวกคุณคงไม่ติดใจกับเรื่องเงินเท่าไรนัก ถ้าพวกเราทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน อนาคตไม่แน่อาจเป็นกิจการที่มีขนาดหลายแสนล้านก็ได้ คุณดูกิจการพลังงานใหม่ในประเทศเราสิ มูลค่าทางตลาดสูงที่สุดเกือบจะถึงแสนล้านดอลลาร์สหรัฐเลยนะ นี่มันเป็นมูลค่าถึงหกแสนล้านกว่าหยวนเลยนะ! ถ้าพวกเราร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง คิดว่าคงไม่ด้อยไปกว่าพวกเขาเท่าไร การค้าที่ใหญ่โตขนาดนี้ เจ้านายของพวกคุณคิดว่าต้องสนใจแน่นอน เพราะฉะนั้นคุณโทรหาเขาหรือส่งข้อความรายงานเขาสักหน่อยดีกว่า ดูว่าเขาสนใจหรือไม่กันแน่”

หวังตงเสวี่ยนลังเลใจอยู่ชั่วครู่ จึงเอ่ยขึ้นมา: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันรายงานต่อประธานของเราก่อนละกัน”

ซูจือเฟย มีสีหน้าดีใจออกนอกหน้าขึ้นมาทันที จึงเอ่ยว่า: “ดี! ดูว่าเขาจะบอกว่าอะไร”

หวังตงเสวี่ยนควักโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ส่งข้อความหาเย่เฉิน

เนื้อหาข้อความคิด: คุณชาย ตอนนี้ฉันควรตอบเขาว่าอะไรดี?

เย่เฉินตอบกลับ: “เธอถามซูจือเฟยไปว่า ต้องการเจอหน้าฉันจริงๆ หรือเปล่า”

หวังตงเสวี่ยนได้รับข้อความแล้ว จึงเก็บโทรศัพท์ มองไปยังซูจือเฟย เอ่ยถามด้วยความจริงจัง: “คุณชายซู คุณแน่ใจเหรอว่าจะเจอประธานของเรา?”

“แน่ใจแน่นอน!” ซูจือเฟยเอ่ย โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย: “รองประธานหวัง ผมไม่ได้ว่าดูถูกคุณนะ แต่ธุรกิจใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องคุยกับเจ้านายพวกคุณโดยตรงจึงจะมีประสิทธิภาพที่สูงหน่อย คุณคิดว่าไงล่ะ?”

หวังตงเสวี่ยนพยักหน้า อยู่ๆ ความเป็นมิตรเมื่อครู่ก็หายไป เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “ได้ ในเมื่อคุณแน่ใจ งั้นฉันก็จะเชิญประธานของพวกเราออกมาเจรจากับนาย”

ซูจือเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า อยู่ๆ หวังตงเสวี่ยนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาแบบนี้ อีกทั้งความเคารพนอบน้อมเมื่อครู่นี้ คำเรียกที่เรียกตนก็เปลี่ยนจาก “คุณ” เป็น “นาย” ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกได้รับการละลาบละล้วง

ในขณะที่ความฉุนเฉียวของเขากำลังพุ่งขึ้นมานั้น อยู่ๆ ประตูบานหนึ่งที่อยู่ในห้องทำงานก็ถูกผลักออก น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเย็นยะเยือก: “ซูจือเฟย นายอดใจอยากเจอหน้าฉันไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2915

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2915 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อันที่จริง ซูจือเฟยเองก็รู้ถึงระดับของตัวเอง

แม้ว่าตนจะเป็นหลานชายคนโตของตระกูลซู แต่นั่นก็เป็นเพียงการพึ่งบารมีของตระกูลซูเท่านั้น

คุณปู่ซูเฉิงเฟิงครอบครองอำนาจควบคุมทั้งตระกูลซู อย่าว่าแต่ตนเลย ต่อให้จะเป็นพ่อของตนก็ไม่มีอำนาจที่แท้จริงอันใด

เมื่อไม่มีอำนาจที่แท้จริง ก็แสดงว่าไม่มีทรัพย์สมบัติที่แท้จริง

ประธานแห่งตี้เหากรุ๊ปสามารถหยิบเงินสดนับหมื่นล้านออกมาได้ตามอำเภอใจ ทว่าตนเองกลับไม่สามารถหยิบเงินที่มากมายเช่นนี้ออกมาได้

หากเป็นเช่นนี้ ตนเมื่ออยู่ต่อหน้าประธานตี้เหากรุ๊ป ก็กลายเป็นคนที่ภายนอกสวยดั่งทองกับหยก ภายในเหมือนฝ้ายที่เปื่อยเน่า สวยแต่รูปจูบไม่หอม…

อีกทั้งเหตุใดเขาจึงต้องตามจีบกู้ชิวอี๋เป็นเวลาเนิ่นนานเช่นนี้ด้วย?

เหตุผลหนึ่งคือเขาหลงใหลในกู้ชิวอี๋จริงๆ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเพราะว่าเขาไม่มีอำนาจที่แท้จริงใดๆ ในตระกูลซู

ดังนั้น เขาต้องการใช้ตระกูลกู้มายกระดับศักยภาพของตน ถึงขั้นต้องการยืมศักยภาพของตระกูลกู้ ทำให้คุณปู่มองตนเปลี่ยนไป

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ในการสืบทอดตระกูลซูในอนาคตได้

และเนื่องจากเหตุผลเหล่านี้ กู้ชิวอี๋จึงมีส่วนช่วยในกลยุทธ์ของชีวิตเขาเป็นอย่างยิ่ง

ในสายตาของเขา ไม่มีวันยอมให้มีความผิดพลาดได้แม้แต่นิดเดียว!

เมื่อคิดได้ดังนั้น ภายในใจของเขาก็ยิ่งอบอวลไปด้วยโทสะ

เขาไม่เพียงแต่เกลียดประธานแห่งตี้เหากรุ๊ปผู้นี้ ที่กล้าแจ้นออกมาแก่งแย่งความรักไป ทั้งยังเกลียดคุณปู่ซูเฉิงเฟิง คนแก่ที่เหลืออายุขัยไม่นานแล้วยังกุมอำนาจการควบคุมตระกูลซูอยู่อย่างแน่นหนาอยู่อีก ไม่ยอมคลายมือแล้วยกให้คนรุ่นหลังเลยแม้แต่น้อย

ถึงขั้นว่า เขายังเกลียดน้องสาวของเขาซูจือหยูด้วย

ไม่นึกเลยว่าเธอจะใช้ผลประโยชน์จากความน้อยเนื้อต่ำใจเพียงเล็กน้อยอันนั้นที่เธอได้รับ ดื้อด้านเอาทั้งหยวนหยางขนส่งกรุ๊ป ไปจากมือของคุณปู่ไป

ถึงขั้นว่าเอาหมู่เกาะส่วนตัวที่เอาไว้ใช้ชีวิตยามแก่ของคุณปู่ไปด้วย

เมื่อเทียบกันแล้ว ตนไม่มีอะไรเลย

จริงๆ เลย อะไรก็ไม่มี…

เมื่อนึกได้ดังนั้น เขาก็กัดฟันกรอด เงยหน้ามองไปยังหวังตงเสวี่ยน เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “รองประธานหวัง คิดว่าเจ้านายของพวกคุณคงไม่ติดใจกับเรื่องเงินเท่าไรนัก ถ้าพวกเราทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน อนาคตไม่แน่อาจเป็นกิจการที่มีขนาดหลายแสนล้านก็ได้ คุณดูกิจการพลังงานใหม่ในประเทศเราสิ มูลค่าทางตลาดสูงที่สุดเกือบจะถึงแสนล้านดอลลาร์สหรัฐเลยนะ นี่มันเป็นมูลค่าถึงหกแสนล้านกว่าหยวนเลยนะ! ถ้าพวกเราร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง คิดว่าคงไม่ด้อยไปกว่าพวกเขาเท่าไร การค้าที่ใหญ่โตขนาดนี้ เจ้านายของพวกคุณคิดว่าต้องสนใจแน่นอน เพราะฉะนั้นคุณโทรหาเขาหรือส่งข้อความรายงานเขาสักหน่อยดีกว่า ดูว่าเขาสนใจหรือไม่กันแน่”

หวังตงเสวี่ยนลังเลใจอยู่ชั่วครู่ จึงเอ่ยขึ้นมา: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันรายงานต่อประธานของเราก่อนละกัน”

ซูจือเฟย มีสีหน้าดีใจออกนอกหน้าขึ้นมาทันที จึงเอ่ยว่า: “ดี! ดูว่าเขาจะบอกว่าอะไร”

หวังตงเสวี่ยนควักโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ส่งข้อความหาเย่เฉิน

เนื้อหาข้อความคิด: คุณชาย ตอนนี้ฉันควรตอบเขาว่าอะไรดี?

เย่เฉินตอบกลับ: “เธอถามซูจือเฟยไปว่า ต้องการเจอหน้าฉันจริงๆ หรือเปล่า”

หวังตงเสวี่ยนได้รับข้อความแล้ว จึงเก็บโทรศัพท์ มองไปยังซูจือเฟย เอ่ยถามด้วยความจริงจัง: “คุณชายซู คุณแน่ใจเหรอว่าจะเจอประธานของเรา?”

“แน่ใจแน่นอน!” ซูจือเฟยเอ่ย โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย: “รองประธานหวัง ผมไม่ได้ว่าดูถูกคุณนะ แต่ธุรกิจใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องคุยกับเจ้านายพวกคุณโดยตรงจึงจะมีประสิทธิภาพที่สูงหน่อย คุณคิดว่าไงล่ะ?”

หวังตงเสวี่ยนพยักหน้า อยู่ๆ ความเป็นมิตรเมื่อครู่ก็หายไป เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “ได้ ในเมื่อคุณแน่ใจ งั้นฉันก็จะเชิญประธานของพวกเราออกมาเจรจากับนาย”

ซูจือเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า อยู่ๆ หวังตงเสวี่ยนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาแบบนี้ อีกทั้งความเคารพนอบน้อมเมื่อครู่นี้ คำเรียกที่เรียกตนก็เปลี่ยนจาก “คุณ” เป็น “นาย” ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกได้รับการละลาบละล้วง

ในขณะที่ความฉุนเฉียวของเขากำลังพุ่งขึ้นมานั้น อยู่ๆ ประตูบานหนึ่งที่อยู่ในห้องทำงานก็ถูกผลักออก น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเย็นยะเยือก: “ซูจือเฟย นายอดใจอยากเจอหน้าฉันไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+