ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2977

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2977 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ต่งรั่งหลินที่อยู่ข้างๆเห็นทั้งสองคนกระซิบกระซาบกัน พร้อมหัวเราะคิกคัก ในใจก็เกิดรู้สึกอิจฉา จึงอดบ่นขึ้นมาไม่ได้ว่า “จะหวานกันก็ดูสถานที่หน่อยก็ดีนะ อย่ามาอวดความรักให้คนโสดดูแถวนี้ได้ไหม?”

เซียวชูหรันหัวเราะคิกคักออกมา เอ่ยพูดว่า “รั่งหลิน ไหนๆเราก็อยู่โซนติดเวทีเหมือนกันแล้ว งั้นก็เข้าไปพร้อมกันเถอะ อย่ามัวแต่ยืนอยู่ตรงนี้เลย”

ต่งรั่งหลินพยักหน้า จากนั้นก็เข้าไปตรวจตั๋วพร้อมกับเย่เฉินและเซียวชูหรัน แล้วเข้าไปในโดม

ภายในโดม ณ ขณะนี้ เต็มไปด้วยผู้คนล้นหลาม ที่นั่งข้างบนเต็มไปด้วยแฟนคลับของกู้ชิวอี๋ แต่ละคนล้วนแล้วแต่ถือแท่งไฟและป้ายไฟชื่อกู้ชิวอี๋เอาไว้ในมือ คนหลายหมื่นคนโบกแท่งไฟและป้ายไฟพร้อมกัน จนทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยแสงไฟสวยๆ

ตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เฉินได้มาดูคอนเสิร์ต ดังนั้นจึงรู้สึกนิ่งอึ้งไปในทันที เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

ในตอนนี้เอง เซียวชูหรันที่อยู่ข้างๆก็ส่งเสียงออกมาด้วยใบหน้าหงุดหงิด “ไอ้หยา! ฉันลืมเตรียมอุปกรณ์เชียร์มาด้วย!”

เย่เฉินเอ่ยถามอย่างข้องใจ “อุปกรณ์เชียร์?”

“ใช่ไง!” เซียวชูหรันชี้ไปยังแท่งไฟและป้ายไฟที่แฟนคลับกำลังถืออยู่รอบๆ แล้วเอ่ยพูดอย่างจริงจังว่า​”คุณดู แฟนคลับคนอื่นเตรียมมาหมดเลย”

เย่เฉินยิ้มอย่างจนใจ เอ่ยพูดว่า “ที่รัก แค่มาดูคอนเสิร์ตไม่ต้องลงทุนขนาดนั้นก็ได้มั้ง ในเมื่อคุณชอบกู้ชิวอี๋ คุณก็ตั้งใจดูตั้งใจฟังเธอร้องเพลงเอาก็ได้นี่นา?”

เซียวชูหรันเอ่ยพูดอย่างเสียดาย “ฉันไม่ได้ชอบแค่เพลงของเธอ แต่ฉันชอบเธอด้วย ดังนั้นแล้วในฐานะแฟนคลับ ก็หวังอยากจะทำอะไรให้ไอดอลที่ชอบทั้งนั้นแหละ แต่ว่าช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่ง จนฉันลืมเรื่องอุปกรณ์เชียร์ไปเลย เป็นแฟนพันธุ์แท้ของกู้ชิวอี๋แท้ๆ แอบรู้สึกผิดอยู่เหมือนกันแฮะ”

เมื่อเย่เฉินเห็นว่าเซียวชูหรันรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

อันดับแรกเขาไม่เข้าใจรูปแบบการติ่งดาราของแฟนคลับสมัยนี้เลยจริงๆ

ในมุมมองของเขา ถ้าหากว่าชอบดาราคนใดคนหนึ่งจริงๆล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลง หรือผลงานภาพยนตร์ ก็ควรที่จะตามชื่นชมอย่างมีสติ และมุ่งความชอบไปที่ทักษะความสามารถของดาราคนนั้น

ชอบนักร้องก็ตั้งใจฟังเพลง ชอบนักแสดงก็ตั้งใจดูผลงาน อย่างอื่นไม่จำเป็นต้องตามคลั่งและทุ่มเทจนเกินงามถึงขั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตจริงๆของตัวเองเลยก็ได้

ดาราดังๆบางคน ออกงานทีตั๋วเข้างานถูกอัพราคาไปตั้งหลายหมื่น ถึงจะอย่างนั้น แฟนคลับบางคนก็ยังคงทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งชิงตั๋วเข้างานมาครอบครอง

ซึ่งในบรรดาแฟนคลับก็ไม่ใช่ว่าจะมีกำลังทรัพย์อุดหนุนสักเท่าไหร่ พวกเขาต้องประหยัดกินประหยัดใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อเก็บเงิน เพราะอยากมาเห็นไอดอลที่ตัวเองชอบกับตา ในความคิดของเย่เฉินอะไรแบบนี้มันค่อนข้างดูขาดสติไปหน่อย

เหมือนอย่างแฟนคลับผู้หญิงอายุน้อยๆ ที่ขอเงินพ่อแม่ไปตามติ่งดารา จนสุดท้ายพ่อแม่ก็แบกรับภาระไม่ไหว บางคนไปสุด ถึงขั้นหมักหมมกลายเป็นผลลัพธ์อันขมขื่นที่ไม่อาจหวนคืนได้

ดังนั้น เขาจึงพูดอย่างจริงจังว่า “ที่รัก คุณควรชื่นชอบดารา ไม่ใช่คลั่งดารา ถ้าคุณยืนอยู่ในจุดที่ชื่นชอบ แบบนั้นคุณกับเขาก็มีตำแหน่งเท่ากัน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคลั่งไคล้ คุณก็จะเสียตำแหน่งที่เท่ากันกับเธอไป เรามาที่นี่ เพื่อมาชื่นชมกู้ชิวอี๋ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นการสนับสนุนเธอแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเกินกว่าเหตุเลยด้วยซ้ำ”

เซียวชูหรันพยักหน้าเบาๆ เอ่ยพูดอย่างปล่อยวาง “ค่ะที่รัก ฉันรู้แล้ว”

เย่เฉินพูดเสียงนุ่ม “รู้ก็ดี รีบไปนั่งที่เถอะ การแสดงใกล้จะเริ่มแล้ว!”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2977

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2977 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ต่งรั่งหลินที่อยู่ข้างๆเห็นทั้งสองคนกระซิบกระซาบกัน พร้อมหัวเราะคิกคัก ในใจก็เกิดรู้สึกอิจฉา จึงอดบ่นขึ้นมาไม่ได้ว่า “จะหวานกันก็ดูสถานที่หน่อยก็ดีนะ อย่ามาอวดความรักให้คนโสดดูแถวนี้ได้ไหม?”

เซียวชูหรันหัวเราะคิกคักออกมา เอ่ยพูดว่า “รั่งหลิน ไหนๆเราก็อยู่โซนติดเวทีเหมือนกันแล้ว งั้นก็เข้าไปพร้อมกันเถอะ อย่ามัวแต่ยืนอยู่ตรงนี้เลย”

ต่งรั่งหลินพยักหน้า จากนั้นก็เข้าไปตรวจตั๋วพร้อมกับเย่เฉินและเซียวชูหรัน แล้วเข้าไปในโดม

ภายในโดม ณ ขณะนี้ เต็มไปด้วยผู้คนล้นหลาม ที่นั่งข้างบนเต็มไปด้วยแฟนคลับของกู้ชิวอี๋ แต่ละคนล้วนแล้วแต่ถือแท่งไฟและป้ายไฟชื่อกู้ชิวอี๋เอาไว้ในมือ คนหลายหมื่นคนโบกแท่งไฟและป้ายไฟพร้อมกัน จนทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยแสงไฟสวยๆ

ตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เฉินได้มาดูคอนเสิร์ต ดังนั้นจึงรู้สึกนิ่งอึ้งไปในทันที เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

ในตอนนี้เอง เซียวชูหรันที่อยู่ข้างๆก็ส่งเสียงออกมาด้วยใบหน้าหงุดหงิด “ไอ้หยา! ฉันลืมเตรียมอุปกรณ์เชียร์มาด้วย!”

เย่เฉินเอ่ยถามอย่างข้องใจ “อุปกรณ์เชียร์?”

“ใช่ไง!” เซียวชูหรันชี้ไปยังแท่งไฟและป้ายไฟที่แฟนคลับกำลังถืออยู่รอบๆ แล้วเอ่ยพูดอย่างจริงจังว่า​”คุณดู แฟนคลับคนอื่นเตรียมมาหมดเลย”

เย่เฉินยิ้มอย่างจนใจ เอ่ยพูดว่า “ที่รัก แค่มาดูคอนเสิร์ตไม่ต้องลงทุนขนาดนั้นก็ได้มั้ง ในเมื่อคุณชอบกู้ชิวอี๋ คุณก็ตั้งใจดูตั้งใจฟังเธอร้องเพลงเอาก็ได้นี่นา?”

เซียวชูหรันเอ่ยพูดอย่างเสียดาย “ฉันไม่ได้ชอบแค่เพลงของเธอ แต่ฉันชอบเธอด้วย ดังนั้นแล้วในฐานะแฟนคลับ ก็หวังอยากจะทำอะไรให้ไอดอลที่ชอบทั้งนั้นแหละ แต่ว่าช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่ง จนฉันลืมเรื่องอุปกรณ์เชียร์ไปเลย เป็นแฟนพันธุ์แท้ของกู้ชิวอี๋แท้ๆ แอบรู้สึกผิดอยู่เหมือนกันแฮะ”

เมื่อเย่เฉินเห็นว่าเซียวชูหรันรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

อันดับแรกเขาไม่เข้าใจรูปแบบการติ่งดาราของแฟนคลับสมัยนี้เลยจริงๆ

ในมุมมองของเขา ถ้าหากว่าชอบดาราคนใดคนหนึ่งจริงๆล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลง หรือผลงานภาพยนตร์ ก็ควรที่จะตามชื่นชมอย่างมีสติ และมุ่งความชอบไปที่ทักษะความสามารถของดาราคนนั้น

ชอบนักร้องก็ตั้งใจฟังเพลง ชอบนักแสดงก็ตั้งใจดูผลงาน อย่างอื่นไม่จำเป็นต้องตามคลั่งและทุ่มเทจนเกินงามถึงขั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตจริงๆของตัวเองเลยก็ได้

ดาราดังๆบางคน ออกงานทีตั๋วเข้างานถูกอัพราคาไปตั้งหลายหมื่น ถึงจะอย่างนั้น แฟนคลับบางคนก็ยังคงทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งชิงตั๋วเข้างานมาครอบครอง

ซึ่งในบรรดาแฟนคลับก็ไม่ใช่ว่าจะมีกำลังทรัพย์อุดหนุนสักเท่าไหร่ พวกเขาต้องประหยัดกินประหยัดใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อเก็บเงิน เพราะอยากมาเห็นไอดอลที่ตัวเองชอบกับตา ในความคิดของเย่เฉินอะไรแบบนี้มันค่อนข้างดูขาดสติไปหน่อย

เหมือนอย่างแฟนคลับผู้หญิงอายุน้อยๆ ที่ขอเงินพ่อแม่ไปตามติ่งดารา จนสุดท้ายพ่อแม่ก็แบกรับภาระไม่ไหว บางคนไปสุด ถึงขั้นหมักหมมกลายเป็นผลลัพธ์อันขมขื่นที่ไม่อาจหวนคืนได้

ดังนั้น เขาจึงพูดอย่างจริงจังว่า “ที่รัก คุณควรชื่นชอบดารา ไม่ใช่คลั่งดารา ถ้าคุณยืนอยู่ในจุดที่ชื่นชอบ แบบนั้นคุณกับเขาก็มีตำแหน่งเท่ากัน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคลั่งไคล้ คุณก็จะเสียตำแหน่งที่เท่ากันกับเธอไป เรามาที่นี่ เพื่อมาชื่นชมกู้ชิวอี๋ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นการสนับสนุนเธอแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเกินกว่าเหตุเลยด้วยซ้ำ”

เซียวชูหรันพยักหน้าเบาๆ เอ่ยพูดอย่างปล่อยวาง “ค่ะที่รัก ฉันรู้แล้ว”

เย่เฉินพูดเสียงนุ่ม “รู้ก็ดี รีบไปนั่งที่เถอะ การแสดงใกล้จะเริ่มแล้ว!”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+