ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3127

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3127 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่เฉินกล่าวว่า “เอาล่ะ ผมจะปล่อยให้เฉินจงเหล่ยอยู่กับพวกคุณก่อน คุณรีบสอบปากคำเขาทันที ผมจะให้เขาร่วมมืออย่างเต็มที่ และเขาจะพูดทุกอย่างที่รู้ หลังจากคุณเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแล้ว จัดเฮลิคอปเตอร์ส่งเขาไปที่ฐานทัพของฮามิด และคุณก็มาด้วย ให้คุณนำข้อตกลงสงบศึก และลงนามในข้อตกลงกับฮามิดให้เรียบร้อย” ซัยยิตถามด้วยความสงสัย “อาจารย์เย่ คุณต้องการนำตัวเฉินจงเหล่ยไปที่ฮามิดหรือ?” “ไม่” เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เขายังมีประโยชน์กับผม และผมจะพาเขากลับไป” ซัยยิตรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คนมีความสามารถอย่างเย่เฉินจะเป็นกุนซือของฮามิด คิดว่าเขาต้องเป็นบุคคลสำคัญที่ฮามิดเชิญมาจากภายนอก ดังนั้นเขาจึงรีบตกลงและกล่าวว่า “คุณวางใจเถอะ พวกเราจะสอบสวนเขาทันที และหลังจากรวบรวมหลักฐานครบแล้ว ผมจะส่งเขาไปหาคุณที่ฐานทัพฮามิดด้วยตนเอง!” “โอเค” เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวอีกว่า “คุณไปเรียกเฉินจงเหล่ยมา ผมจะถามเขาสักสองสามประโยค” “ได้ครับอาจารย์เย่ โปรดรอสักครู่!” …… ขณะนี้ เฉินจงเหล่ยกำลังเผชิญกับความเจ็บปวดและการทรมานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เห็นพี่น้องของตนเองถูกตนเองทรยศกับตา ถูกศัตรูมัดไว้ และถูกรถบรรทุกลากออกไปทีล่ะคัน และอนาคตที่ไม่สามารถคาดเดาได้ สำหรับเขาแล้วเป็นสิ่งที่ทรมานมาก ทหารสำนักว่านหลงทุกคนต่างเหยียดหยามและสาปแช่งเขาอย่างโหดเหี้ยม ดวงตาที่โกรธแค้นทุกคู่แทงทะลุหัวใจของเขา เขาอยากจะหลับตาและไม่มองสายตาที่โกรธแค้นของพวกเขา แต่เขาทำไม่ได้ เพราะว่าแม้แต่เปลือกตาของเขาก็ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอีกต่อไป จิตสำนึกของเขานั้นเหมือนปรสิตในร่างกาย เขาสามารถรับรู้ได้ทุกอย่าง แต่ควบคุมอะไรไม่ได้ ร่างกายของตนเองกลายเป็นกรงเหล็กแข็งแกร่งที่กักขังเขาไว้ ไม่มีสิ่งใดในโลกที่เจ็บปวดไปกว่านี้อีกแล้ว และขณะนี้เอง ซัยยิตเดินมาอยู่ตรงหน้า และกล่าวว่า “เฉินจงเหล่ย อาจารย์เย่เรียกคุณ รีบไปเถอะ!” เมื่อได้ยินคำว่าอาจารย์เย่ เฉินจงเหล่ยรู้สึกหวาดกลัว แต่ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวโดยไม่สมัครใจ และไม่ลังเลเลยแม้แต่สักครึ่งวินาที เขารีบวิ่งไปที่ห้องประชุมทันที เมื่อมาถึงห้องประชุม ร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมได้ของเฉินจงเหล่ยโค้งคำนับเย่เฉิน และกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “อาจารย์เย่ คุณต้องการพบผมมีอะไรจะสั่งหรือเปล่าครับ?” เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “อีกสักครู่ซัยยิตจะพาคุณไปสารภาพและบันทึกวิดีโอ คุณต้องร่วมมือกับเขาอย่างเต็มที่ และบอกการกระทำที่น่าละอายของสำนักว่านหลงให้พวกเขาทั้งหมด เข้าใจไหม?” แม้ว่าจิตสำนึกตนเองของฉินจงเหล่ยจะปฏิเสธไปหมื่นครั้ง แต่ร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมได้กล่าวว่า “ได้ครับ อาจารย์เย่ ผมจะร่วมมืออย่างดีแน่นอน…..” เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงหันไปกล่าวกับซัยยิตว่า “ซัยยิต คุณต้องจำไว้ว่าต้องหาคนที่มีความเชี่ยวชาญภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษจากกองทัพของพวกคุณ และบันทึกทุกอย่างไว้อย่างละเอียด แล้วทำเป็นเอกสาร และตอนที่คุณส่งเขามาที่ฐานทัพฮามิด ส่งสำเนาบันทึกมาให้ผมหนึ่งชุด ผมจะตรวจดู” ซัยยิตกล่าวว่าตกลงโดยไม่ลังเลและกล่าวว่า “อาจารย์เย่ คุณวางใจเถอะ พวกเราจะพยายามทำทุกอย่างให้เสร็จโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นผมจะพาเขาไปพบคุณ!” “โอเค” เย่เฉินยืนขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณไปจัดเฮลิคอปเตอร์ส่งผมไปสถานที่นัดหมายก่อนหน้านั้น ผมจะกลับไปรอคุณ”

เย่เฉินกล่าวว่า “เอาล่ะ ผมจะปล่อยให้เฉินจงเหล่ยอยู่กับพวกคุณก่อน คุณรีบสอบปากคำเขาทันที ผมจะให้เขาร่วมมืออย่างเต็มที่ และเขาจะพูดทุกอย่างที่รู้ หลังจากคุณเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแล้ว จัดเฮลิคอปเตอร์ส่งเขาไปที่ฐานทัพของฮามิด และคุณก็มาด้วย ให้คุณนำข้อตกลงสงบศึก และลงนามในข้อตกลงกับฮามิดให้เรียบร้อย”

ซัยยิตถามด้วยความสงสัย “อาจารย์เย่ คุณต้องการนำตัวเฉินจงเหล่ยไปที่ฮามิดหรือ?”

“ไม่” เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เขายังมีประโยชน์กับผม และผมจะพาเขากลับไป”

ซัยยิตรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คนมีความสามารถอย่างเย่เฉินจะเป็นกุนซือของฮามิด คิดว่าเขาต้องเป็นบุคคลสำคัญที่ฮามิดเชิญมาจากภายนอก ดังนั้นเขาจึงรีบตกลงและกล่าวว่า “คุณวางใจเถอะ พวกเราจะสอบสวนเขาทันที และหลังจากรวบรวมหลักฐานครบแล้ว ผมจะส่งเขาไปหาคุณที่ฐานทัพฮามิดด้วยตนเอง!”

“โอเค” เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวอีกว่า “คุณไปเรียกเฉินจงเหล่ยมา ผมจะถามเขาสักสองสามประโยค”

“ได้ครับอาจารย์เย่ โปรดรอสักครู่!”

……

ขณะนี้ เฉินจงเหล่ยกำลังเผชิญกับความเจ็บปวดและการทรมานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

เห็นพี่น้องของตนเองถูกตนเองทรยศกับตา ถูกศัตรูมัดไว้ และถูกรถบรรทุกลากออกไปทีล่ะคัน และอนาคตที่ไม่สามารถคาดเดาได้ สำหรับเขาแล้วเป็นสิ่งที่ทรมานมาก

ทหารสำนักว่านหลงทุกคนต่างเหยียดหยามและสาปแช่งเขาอย่างโหดเหี้ยม ดวงตาที่โกรธแค้นทุกคู่แทงทะลุหัวใจของเขา

เขาอยากจะหลับตาและไม่มองสายตาที่โกรธแค้นของพวกเขา แต่เขาทำไม่ได้

เพราะว่าแม้แต่เปลือกตาของเขาก็ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอีกต่อไป

จิตสำนึกของเขานั้นเหมือนปรสิตในร่างกาย เขาสามารถรับรู้ได้ทุกอย่าง แต่ควบคุมอะไรไม่ได้

ร่างกายของตนเองกลายเป็นกรงเหล็กแข็งแกร่งที่กักขังเขาไว้

ไม่มีสิ่งใดในโลกที่เจ็บปวดไปกว่านี้อีกแล้ว

และขณะนี้เอง ซัยยิตเดินมาอยู่ตรงหน้า และกล่าวว่า “เฉินจงเหล่ย อาจารย์เย่เรียกคุณ รีบไปเถอะ!”

เมื่อได้ยินคำว่าอาจารย์เย่ เฉินจงเหล่ยรู้สึกหวาดกลัว แต่ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวโดยไม่สมัครใจ และไม่ลังเลเลยแม้แต่สักครึ่งวินาที เขารีบวิ่งไปที่ห้องประชุมทันที

เมื่อมาถึงห้องประชุม ร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมได้ของเฉินจงเหล่ยโค้งคำนับเย่เฉิน และกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “อาจารย์เย่ คุณต้องการพบผมมีอะไรจะสั่งหรือเปล่าครับ?”

เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “อีกสักครู่ซัยยิตจะพาคุณไปสารภาพและบันทึกวิดีโอ คุณต้องร่วมมือกับเขาอย่างเต็มที่ และบอกการกระทำที่น่าละอายของสำนักว่านหลงให้พวกเขาทั้งหมด เข้าใจไหม?”

แม้ว่าจิตสำนึกตนเองของฉินจงเหล่ยจะปฏิเสธไปหมื่นครั้ง แต่ร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมได้กล่าวว่า “ได้ครับ อาจารย์เย่ ผมจะร่วมมืออย่างดีแน่นอน…..”

เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงหันไปกล่าวกับซัยยิตว่า “ซัยยิต คุณต้องจำไว้ว่าต้องหาคนที่มีความเชี่ยวชาญภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษจากกองทัพของพวกคุณ และบันทึกทุกอย่างไว้อย่างละเอียด แล้วทำเป็นเอกสาร และตอนที่คุณส่งเขามาที่ฐานทัพฮามิด ส่งสำเนาบันทึกมาให้ผมหนึ่งชุด ผมจะตรวจดู”

ซัยยิตกล่าวว่าตกลงโดยไม่ลังเลและกล่าวว่า “อาจารย์เย่ คุณวางใจเถอะ พวกเราจะพยายามทำทุกอย่างให้เสร็จโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นผมจะพาเขาไปพบคุณ!”

“โอเค” เย่เฉินยืนขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณไปจัดเฮลิคอปเตอร์ส่งผมไปสถานที่นัดหมายก่อนหน้านั้น ผมจะกลับไปรอคุณ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3127

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3127 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่เฉินกล่าวว่า “เอาล่ะ ผมจะปล่อยให้เฉินจงเหล่ยอยู่กับพวกคุณก่อน คุณรีบสอบปากคำเขาทันที ผมจะให้เขาร่วมมืออย่างเต็มที่ และเขาจะพูดทุกอย่างที่รู้ หลังจากคุณเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแล้ว จัดเฮลิคอปเตอร์ส่งเขาไปที่ฐานทัพของฮามิด และคุณก็มาด้วย ให้คุณนำข้อตกลงสงบศึก และลงนามในข้อตกลงกับฮามิดให้เรียบร้อย” ซัยยิตถามด้วยความสงสัย “อาจารย์เย่ คุณต้องการนำตัวเฉินจงเหล่ยไปที่ฮามิดหรือ?” “ไม่” เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เขายังมีประโยชน์กับผม และผมจะพาเขากลับไป” ซัยยิตรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คนมีความสามารถอย่างเย่เฉินจะเป็นกุนซือของฮามิด คิดว่าเขาต้องเป็นบุคคลสำคัญที่ฮามิดเชิญมาจากภายนอก ดังนั้นเขาจึงรีบตกลงและกล่าวว่า “คุณวางใจเถอะ พวกเราจะสอบสวนเขาทันที และหลังจากรวบรวมหลักฐานครบแล้ว ผมจะส่งเขาไปหาคุณที่ฐานทัพฮามิดด้วยตนเอง!” “โอเค” เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวอีกว่า “คุณไปเรียกเฉินจงเหล่ยมา ผมจะถามเขาสักสองสามประโยค” “ได้ครับอาจารย์เย่ โปรดรอสักครู่!” …… ขณะนี้ เฉินจงเหล่ยกำลังเผชิญกับความเจ็บปวดและการทรมานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เห็นพี่น้องของตนเองถูกตนเองทรยศกับตา ถูกศัตรูมัดไว้ และถูกรถบรรทุกลากออกไปทีล่ะคัน และอนาคตที่ไม่สามารถคาดเดาได้ สำหรับเขาแล้วเป็นสิ่งที่ทรมานมาก ทหารสำนักว่านหลงทุกคนต่างเหยียดหยามและสาปแช่งเขาอย่างโหดเหี้ยม ดวงตาที่โกรธแค้นทุกคู่แทงทะลุหัวใจของเขา เขาอยากจะหลับตาและไม่มองสายตาที่โกรธแค้นของพวกเขา แต่เขาทำไม่ได้ เพราะว่าแม้แต่เปลือกตาของเขาก็ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอีกต่อไป จิตสำนึกของเขานั้นเหมือนปรสิตในร่างกาย เขาสามารถรับรู้ได้ทุกอย่าง แต่ควบคุมอะไรไม่ได้ ร่างกายของตนเองกลายเป็นกรงเหล็กแข็งแกร่งที่กักขังเขาไว้ ไม่มีสิ่งใดในโลกที่เจ็บปวดไปกว่านี้อีกแล้ว และขณะนี้เอง ซัยยิตเดินมาอยู่ตรงหน้า และกล่าวว่า “เฉินจงเหล่ย อาจารย์เย่เรียกคุณ รีบไปเถอะ!” เมื่อได้ยินคำว่าอาจารย์เย่ เฉินจงเหล่ยรู้สึกหวาดกลัว แต่ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวโดยไม่สมัครใจ และไม่ลังเลเลยแม้แต่สักครึ่งวินาที เขารีบวิ่งไปที่ห้องประชุมทันที เมื่อมาถึงห้องประชุม ร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมได้ของเฉินจงเหล่ยโค้งคำนับเย่เฉิน และกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “อาจารย์เย่ คุณต้องการพบผมมีอะไรจะสั่งหรือเปล่าครับ?” เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “อีกสักครู่ซัยยิตจะพาคุณไปสารภาพและบันทึกวิดีโอ คุณต้องร่วมมือกับเขาอย่างเต็มที่ และบอกการกระทำที่น่าละอายของสำนักว่านหลงให้พวกเขาทั้งหมด เข้าใจไหม?” แม้ว่าจิตสำนึกตนเองของฉินจงเหล่ยจะปฏิเสธไปหมื่นครั้ง แต่ร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมได้กล่าวว่า “ได้ครับ อาจารย์เย่ ผมจะร่วมมืออย่างดีแน่นอน…..” เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงหันไปกล่าวกับซัยยิตว่า “ซัยยิต คุณต้องจำไว้ว่าต้องหาคนที่มีความเชี่ยวชาญภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษจากกองทัพของพวกคุณ และบันทึกทุกอย่างไว้อย่างละเอียด แล้วทำเป็นเอกสาร และตอนที่คุณส่งเขามาที่ฐานทัพฮามิด ส่งสำเนาบันทึกมาให้ผมหนึ่งชุด ผมจะตรวจดู” ซัยยิตกล่าวว่าตกลงโดยไม่ลังเลและกล่าวว่า “อาจารย์เย่ คุณวางใจเถอะ พวกเราจะพยายามทำทุกอย่างให้เสร็จโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นผมจะพาเขาไปพบคุณ!” “โอเค” เย่เฉินยืนขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณไปจัดเฮลิคอปเตอร์ส่งผมไปสถานที่นัดหมายก่อนหน้านั้น ผมจะกลับไปรอคุณ”

เย่เฉินกล่าวว่า “เอาล่ะ ผมจะปล่อยให้เฉินจงเหล่ยอยู่กับพวกคุณก่อน คุณรีบสอบปากคำเขาทันที ผมจะให้เขาร่วมมืออย่างเต็มที่ และเขาจะพูดทุกอย่างที่รู้ หลังจากคุณเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแล้ว จัดเฮลิคอปเตอร์ส่งเขาไปที่ฐานทัพของฮามิด และคุณก็มาด้วย ให้คุณนำข้อตกลงสงบศึก และลงนามในข้อตกลงกับฮามิดให้เรียบร้อย”

ซัยยิตถามด้วยความสงสัย “อาจารย์เย่ คุณต้องการนำตัวเฉินจงเหล่ยไปที่ฮามิดหรือ?”

“ไม่” เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เขายังมีประโยชน์กับผม และผมจะพาเขากลับไป”

ซัยยิตรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คนมีความสามารถอย่างเย่เฉินจะเป็นกุนซือของฮามิด คิดว่าเขาต้องเป็นบุคคลสำคัญที่ฮามิดเชิญมาจากภายนอก ดังนั้นเขาจึงรีบตกลงและกล่าวว่า “คุณวางใจเถอะ พวกเราจะสอบสวนเขาทันที และหลังจากรวบรวมหลักฐานครบแล้ว ผมจะส่งเขาไปหาคุณที่ฐานทัพฮามิดด้วยตนเอง!”

“โอเค” เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวอีกว่า “คุณไปเรียกเฉินจงเหล่ยมา ผมจะถามเขาสักสองสามประโยค”

“ได้ครับอาจารย์เย่ โปรดรอสักครู่!”

……

ขณะนี้ เฉินจงเหล่ยกำลังเผชิญกับความเจ็บปวดและการทรมานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

เห็นพี่น้องของตนเองถูกตนเองทรยศกับตา ถูกศัตรูมัดไว้ และถูกรถบรรทุกลากออกไปทีล่ะคัน และอนาคตที่ไม่สามารถคาดเดาได้ สำหรับเขาแล้วเป็นสิ่งที่ทรมานมาก

ทหารสำนักว่านหลงทุกคนต่างเหยียดหยามและสาปแช่งเขาอย่างโหดเหี้ยม ดวงตาที่โกรธแค้นทุกคู่แทงทะลุหัวใจของเขา

เขาอยากจะหลับตาและไม่มองสายตาที่โกรธแค้นของพวกเขา แต่เขาทำไม่ได้

เพราะว่าแม้แต่เปลือกตาของเขาก็ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอีกต่อไป

จิตสำนึกของเขานั้นเหมือนปรสิตในร่างกาย เขาสามารถรับรู้ได้ทุกอย่าง แต่ควบคุมอะไรไม่ได้

ร่างกายของตนเองกลายเป็นกรงเหล็กแข็งแกร่งที่กักขังเขาไว้

ไม่มีสิ่งใดในโลกที่เจ็บปวดไปกว่านี้อีกแล้ว

และขณะนี้เอง ซัยยิตเดินมาอยู่ตรงหน้า และกล่าวว่า “เฉินจงเหล่ย อาจารย์เย่เรียกคุณ รีบไปเถอะ!”

เมื่อได้ยินคำว่าอาจารย์เย่ เฉินจงเหล่ยรู้สึกหวาดกลัว แต่ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวโดยไม่สมัครใจ และไม่ลังเลเลยแม้แต่สักครึ่งวินาที เขารีบวิ่งไปที่ห้องประชุมทันที

เมื่อมาถึงห้องประชุม ร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมได้ของเฉินจงเหล่ยโค้งคำนับเย่เฉิน และกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “อาจารย์เย่ คุณต้องการพบผมมีอะไรจะสั่งหรือเปล่าครับ?”

เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “อีกสักครู่ซัยยิตจะพาคุณไปสารภาพและบันทึกวิดีโอ คุณต้องร่วมมือกับเขาอย่างเต็มที่ และบอกการกระทำที่น่าละอายของสำนักว่านหลงให้พวกเขาทั้งหมด เข้าใจไหม?”

แม้ว่าจิตสำนึกตนเองของฉินจงเหล่ยจะปฏิเสธไปหมื่นครั้ง แต่ร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมได้กล่าวว่า “ได้ครับ อาจารย์เย่ ผมจะร่วมมืออย่างดีแน่นอน…..”

เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงหันไปกล่าวกับซัยยิตว่า “ซัยยิต คุณต้องจำไว้ว่าต้องหาคนที่มีความเชี่ยวชาญภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษจากกองทัพของพวกคุณ และบันทึกทุกอย่างไว้อย่างละเอียด แล้วทำเป็นเอกสาร และตอนที่คุณส่งเขามาที่ฐานทัพฮามิด ส่งสำเนาบันทึกมาให้ผมหนึ่งชุด ผมจะตรวจดู”

ซัยยิตกล่าวว่าตกลงโดยไม่ลังเลและกล่าวว่า “อาจารย์เย่ คุณวางใจเถอะ พวกเราจะพยายามทำทุกอย่างให้เสร็จโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นผมจะพาเขาไปพบคุณ!”

“โอเค” เย่เฉินยืนขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณไปจัดเฮลิคอปเตอร์ส่งผมไปสถานที่นัดหมายก่อนหน้านั้น ผมจะกลับไปรอคุณ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+