คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1321

“อ๊าก!” เท็ดตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ร่างของเขาลอยออกไปไกลกว่าหนึ่งร้อยเมตรก่อนจะร่วงลงบนพื้น

ที่บนหน้าอกของเท็ดมีรอยยุบขนาดใหญ่ เมื่อร่างของเขาตกกระแทกลงบนพื้น วินาทีต่อมาเขาก็เสียชีวิตลงทันที

จูปาเจี๋ยฆ่าเท็ดด้วยการชกเพียงครั้งเดียว!

เท็ดเป็นองครักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของโดน็อก!

เมื่อทหารของเท็ดได้เห็นเช่นนั้น ร่างของพวกเขาก็สั่นเทาเพราะความหวาดกลัว

จูปาเจี๋ยไม่เปิดโอกาสให้ทหารเหล่านั้นได้ตั้งตัวก่อนจะรีบพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

วินาทีต่อมา ทหารเหล่านั้นก็ล้มลงบนพื้นและนอนจมกองเลือดทันที

“พวกเจ้าช่างไร้ประโยชน์!” จูปาเจี๋ยยิ้มเยาะขณะชำเลืองมองร่างของเท็ดและทหารที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น

ในตอนแรก จูปาเจี๋ยไม่ได้ต้องการทำร้ายพวกเขา แต่หลังจากที่จูปาเจี๋ยได้ยินคำพูดถากถางจากเท็ดมากยิ่งขึ้น เขาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

พวกเขาร้องขอความตาย!

“คนสวย ข้าได้ฆ่าผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนของเจ้าแล้ว ทีนี้เรามาคุยกันดี ๆ ได้แล้ว” จูปาเจี๋ยกล่าวขณะหันมองเชนเทล่าด้วยรอยยิ้ม

“คุณ…” เชนเทล่าทั้งรู้สึกโกรธและตกใจ เธอต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ ๆ ร่างกายของเธอก็รู้สึกเย็นยะเยือกราวกับว่าเธอกำลังถูกแช่แข็ง!

“หนาว! ฉันหนาวมาก!” เชนเทล่าคร่ำครวญ

ร่างกายของเชนเทล่าสั่นสะท้านและใบหน้าของเธอก็ซีดเซียวลงทันที

เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น จูปาเจี๋ยก็ขมวดคิ้วและครุ่นคิดว่า ‘นี่คงเป็นผลข้างเคียงของดอกลิลลี่เปลวเพลิงเย็นสินะ’

ในการกินดอกลิลลี่เปลวเพลิงเย็นครั้งแรกจะต้องกินในปริมาณที่น้อย ทว่าเชนเทล่ากลับกลืนดอกลิลลี่เปลวเพลิงเย็นไปทั้งดอก เนื่องจากว่าดอกลิลลี่เปลวเพลิงเย็นมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง ดังนั้นร่างกายของเธอจึงรับไม่ไหว!

“ฉันหนาวมาก!” เชนเทล่านั่งลงและขดตัวอยู่บนพื้นหญ้าด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังรู้สึกเหน็บหนาวจนทรมาน

หลังจากที่ความหนาวเย็นภายในร่างกายของเชนเทล่าหายไป วินาทีต่อมา ความหนาวเย็นก็เปลี่ยนเป็นความร้อนรุ่มราวกับว่าไฟในร่างกายของเธอกำลังลุกโชน!

“อ๊า!” เชนเทล่าคร่ำครวญ

เชนเทล่าไม่สามารถอดทนต่อความเจ็บปวดได้อีกต่อไป ร่างกายของเธอร้อนรุ่มราวกับว่าเธอกำลังถูกเผาไหม้!

“คนสวย เกิดอะไรขึ้น?” จูปาเจี๋ยเดินเข้าไปใกล้เชนเทล่ามากยิ่งขึ้น “ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังเจ็บปวดเพราะผลค้างเคียงของดอกลิลลี่เปลวเพลิงเย็นใช่หรือเปล่า? มันรุนแรงเกินไปจนร่างกายของเจ้ารับไม่ไหวสินะ”