ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 4838 เป็นของที่เย่เฉินซังมอบให้คุณเหรอ? 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4838 เป็นของที่เย่เฉินซังมอบให้คุณเหรอ? 1
นางาฮิโกะ อิโตะพยักหน้าหนักหน่วงอย่างสะอื้น จากนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้แล้วกล่าวถามอีก: “คุณเย่ กระผมขอเสียมารยาทถามท่านสักหนึ่งเรื่อง……”
เย่เฉินอืมออกมาหนึ่งคำ: “คุณถามเถอะ”
นางาฮิโกะ อิโตะถามด้วยความนอบน้อม: “คุณเย่ กระผมอยากทราบว่า……ทานากะตอนนี้เขา……เป็นอย่างไรบ้างแล้ว? ท่านก็ให้เขาทานยาไปด้วยเช่นกันใช่ไหม?”
เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวว่า: “ผมได้ให้เขาทานยาไปแล้ว แต่ว่าระยะเวลาในการรับยาของเขาช้ากว่าคุณสองสามนาที เดาว่าตอนนี้ก็คงใกล้จะรู้สึกตัวแล้ว”
นางาฮิโกะ อิโตะถอดถอนใจออกมาได้เสียที แล้วกล่าวอย่างสะอื้นว่า: “ชีวิตนี้ของผมเป็นทานากะที่ฝ่าฟันช่วยมาได้ หากไม่มีเขา ผมอาจจะถูกคนของตระกูลทากาฮาชิยิงตายไปแล้วก็ได้ ตอนนี้เขาก็สามารถฟื้นฟูกลับมาดังเดิมได้เช่นกัน ผมก็นับว่าสมหวังไปอีกหนึ่งเรื่องแล้ว……”
พอพูดจบเขาก็มองมายังเย่เฉิน หล่าวด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยน้ำตาอาบหน้าว่า: “ขอบคุณท่านมากคุณเย่!”
เย่เฉินค่อยๆ ยิ้มออกมาแล้วกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า: “ไม่ต้องขอบคุณผมมากเช่นนี้ในเรื่องนี้หรอก ที่ผมช่วยคุณก็เป็นเพราะว่าเห็นแก่หน้าของนานาโกะ แล้วที่ช่วยทานากะทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเพราะชื่นชมในความจงรักภักดีของเขาที่มีจิตใจที่ภัดีต่อตระกูลอิโตะของพวกคุณ”
ที่จริงแล้วนางาฮิโกะ อิโตะก็เข้าใจดีอยู่แล้วว่าในใจของเย่เฉินนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญในตนเลยจริงๆ
ยังไงตอนนั้นที่เย่เฉินเพิ่งมาที่ญี่ปุ่น ตนเองก็เกิดความขัดแย้งขึ้นกับเขาแล้ว แม้กระทั่งท่าทีของตนในตอนนั้นก็ยังอวดดีมาก คิดว่าเด็กหนุ่มที่มาจากหัวเซี่ยผู้นี้ ตามหลักการแล้วก็ย่อมต้องก้มหัวให้ตนเองอยู่แล้ว
ต่อมาเมื่อเขาถูกเย่เฉินสั่งสอนความเป็นคน จึงได้รู้ว่าเด็กหนุ่มหัวเซี่ยผู้นี้ไม่ง่ายที่จะยั่วยุอย่างมาก
และที่เย่เฉินต่อมามีความเกรงใจเพิ่มมากขึ้นต่อเขา และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออีก ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะเห็นแก่หน้าของนานาโกะลูกสาวเขานั่นเอง
ดังนั้นนางาฮิโกะ อิโตะในตอนนี้ นอกจากจะซาบซึ้งอย่างหาที่สุดมิได้ต่อเย่เฉินแล้ว ในสมองก็มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ: “ชะตาชีวิตของตนทำไมถึงได้ดีเช่นนี้”
เขาไม่ใช่เพราะว่าได้รับความช่วยเหลือจากเย่เฉิน ดังนั้นก็เลยรู้สึกว่าตนเองโชคดี แต่เป็นเพราะถอนหายใจว่าตนเองโชคดีที่มีลูกสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้อย่างนานาโกะหนึ่งคนต่างหาก
หากไม่ใช่เพราะนานาโกะ เกรงว่าสภาพที่ต้องเผชิญที่ดีที่สุดของตนเองในตอนนี้ก็คือตัดขาไปแล้วก็นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ทั้งเนื้อทั้งตัวก็ต่อท่อเต็มไปหมด พึ่งพาสายน้ำเกลือแต่ละรูปแบบเพื่อประทังลมหายใจให้อยู่รอดต่อไป
แต่เป็นเพราะว่ามีนานาโกะ หลังจากที่ตนเองตัดขาไปแล้วเย่เฉินจึงช่วยตนฟื้นฟู ทำให้ตนเองใช้ชีวิตคนพิการอย่างปกติแข็งแรงได้ และในตอนนี้เย่เฉินใช้ยาทิพย์ชั้นยอดโดยตรง ทำให้ขาทั้งสองขาดที่ขาดไปของตนสามารถงอกกลับมาใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง
บัดนี้ตนเองได้กลายเป็นคนที่ครบถ้วนสมบูรณ์คนหนึ่งไปแล้ว ชาตินี้ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจที่เกี่ยวข้องกับตนอีก
และสิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขาพะวงก็คือเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตของลูกสาวของเขานานาโกะนั่นเอง
หากสามารถฝากฝังลูกสาวของตนไว้ในมือของเย่เฉินได้ด้วยมือของตนเอง งั้นชาตินี้ตนเองก็สมหวังจริงๆ แล้ว
และในตอนที่ในความคิดของนางาฮิโกะ อิโตะที่ปรากฏเป็นภาพลูกสาวสามารถแต่งกับเย่เฉินได้นั้น ทานากะ โคอิจิที่อยู่ห้องด้านข้างก็เริ่มมีประสบการณ์ที่ไม่ต่างจากนางาฮิโกะ อิโตะเลยแม้แต่นิด
แต่ดีที่ข้างกายของทานากะ โคอิจิมีหงห้าคอยเป็นหลักให้ ดังนั้นในตอนที่ทานากะ โคอิจิตกใจในขาทั้งสองข้างของตนนั้น หงห้าก็ดึงเขาให้ออกมาจากในอ่างอาบน้ำเลย หลังจากผ่านการอธิบายไปรอบหนึ่งก็ทำให้ทานากะ โคอิจิเข้าใจ ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ภาพหลอนและก็ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นเรื่องจริง
ทานากะ โคอิจิที่ตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบมิได้กล่าวด้วยอาการร้องไห้ว่า: “คุณหง ผมจะไปคำนับขอบคุณ คุณเย่!”
พูดจบก็เตรียมจะพุ่งออกไปนอกประตู
หงห้าดึงเขากลับมาในทันที จากนั้นก็ถีบเข้าไปในห้องอาบน้ำทันที กล่าวด้วยท่าทีด่าว่า: “ให้ตายเถอะ คุณเป็นคนชอบแสดงออกเหรอ! แก้ผ้าล่อนจ้อนก็จะวิ่งออกไปด้านนอก! เจ้าถั่วงอกของคุณอันนั้นอะนะไม่อายคนเขาบ้างหรือไง! ไปล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าค่อยออกไป!”
คราวนี้ทานากะ โคอิจิจึงดึงสติกลับมาได้ แล้วพบว่าตนเองเนื้อตัวล่อนจ้อนไปหมด จึงรีบโค้งคำนับอย่างเร่งรีบแล้วกล่าวว่า: “ขอโทษด้วยคุณหง ต้องขอโทษด้วยจริงๆ! เป็นผมที่ไม่ทันได้คิดหน้าคิดหลัง!”
……
Comments