ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 5107 มาถึงจินหลิง 4
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5107 มาถึงจินหลิง 4
เซียวชูหรันไม่ชอบการโอ้อวดตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ด้วยเหตุจึงกล่าวว่า : “ไอ๋หยาแม่ อย่าให้พ่อขับรถมารับเราเลย พ่อขับรถไม่ดีเลยจริงๆ มิเช่นนั้นฉันให้เย่เฉินโทรจองรถอเนกประสงค์ล่วงหน้าสักคันหนึ่งจะดีกว่า ไม่เพียงแต่เราสามคนนั่งได้ ป้าหลี่พวกเธอสามคนยังสามารถไปด้วยกันได้ด้วย”
หม่าหลันเบ้ปาก : “ฉันจะบอกเขาเอง!”
…….
ไม่นานเครื่องบินก็ลอยตัวกลางอากาศ บรรทุกคนหกคนออกจากนครนิวยอร์ก บินไปจนถึงหัวเซี่ย
หลังจากผ่านไป 11 ชั่วโมง ในที่สุดเครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินจินหลิง
กลับมาที่จินหลิงหลังจากห่างหายไปนาน ไม่ว่าจะเป็นเย่เฉินและเซียวชูหรัน หรือป้าหลี่และหลี่เสี่ยวเฟิน ต่างก็รู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองอย่างมาก
คลอเดียดูสงบนิ่งมาก เธอพูดคุยกับหลี่เสี่ยวเฟินมาตลอดทาง แต่เย่เฉินมองออกว่า เธอดูเหมือนจะประหม่าและไม่สบายใจเล็กน้อย
เย่เฉินเข้าใจดีว่าสาวน้อยคนนี้รู้สึกอย่างไร อย่างไรเสียเธอก็อายุสิบกว่าปี ชีวิตต้องประสบปัญหาความทุกข์ยากอย่างมาก ตอนนี้ฉันต้องจากบ้านเกิดและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองที่อยู่ห่างออกไปกว่า 10,000 กิโลเมตร เป็นที่เข้าใจได้ว่าจะรู้สึกวิตกกังวลกระทั่งสับสนและไม่สบายใจ
เพียงแต่เย่เฉินไม่ได้พูดโน้มน้าวอะไรเธอ เพราะเย่เฉินรู้จักนิสัยของคลอเดียดี ถึงแม้ว่าเด็กคนนี้จะอายุไม่มาก แต่มีความรู้ความคิดที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่แล้ว เชื่อว่าเธอจะต้องปรับตัวได้รวดเร็วอย่างแน่นอน
จินหลิงเวลานี้ เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว
เย่เฉินได้จัดการให้เฉินจื๋อข่าย พาพวกป้าหลี่ไปยังคฤหาสน์ที่ซื้อเอาไว้แล้ว
เนื่องจากมีเซียวชูหรันกับหม่าหลัน เฉินจื๋อข่ายจึงไม่ปรากฏตัว ด้วยเหตุนี้จึงจัด Toyota Coaster สุดหรูมารับที่สนามบิน
เหตุผลที่จัดรถบัสขนาดใหญ่เช่นนี้ หลักๆ ก็เป็นเพราะพิจารณาถึงว่าส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกป้าหลี่สามคนกลับมาจากต่างประเทศเพื่อสร้างรากฐาน ต้องมีสัมภาระจำนวนมากที่นำขึ้นเครื่องบินมา รถอย่างนี้ สามารถบรรจุคนหกคนได้อย่างสบายๆ และบรรจุสัมภาระของคนทั้งหกคนได้อย่าเหลือเฟือ
ที่ประตูสนามบิน ป้าหลี่และคนอื่นๆ ได้พบกับคนขับรถที่รออยู่เป็นเวลานานแล้ว
คนขับรถและผู้ช่วยหนึ่งคนได้ขนกระเป๋าเดินทางหลายใบของพวกเธอเข้าไปในรถอย่างกระตือรือร้น ป้าหลี่หันไปทางหม่าหลัน และกล่าวว่า : “คุณผู้หญิงหม่า รถคันนี้ใหญ่มากเลย มิเช่นนั้นเราไปด้วยกันดีไหมคะ?”
หม่าหลันโบกไม้โบกมือ ยิ้มและกล่าวว่า : “พี่หลี่ เราไม่ได้ไปด้วยกันกับพวกคุณหรอก ฉันรอสามีของฉันมารับ”
พูดจบ ยังอดที่จะต่อว่าไม่ได้ : “ให้ตายสิเซียวฉางควน ให้เขามารับก่อนเวลา มาเร็วๆ หน่อย ทำไมตอนนี้ถึงยังไม่โผล่หัวอีก! ถ้ากล้าเบี้ยวนัดฉันล่ะก็ ดูเอาล่ะกันว่าฉันจะไม่จัดการเขา!”
หม่าหลานยืนอยู่ริมถนนที่ทางออกของสนามบิน และโทรหาเซียวฉางควนไม่หยุด แต่ทว่าไม่สามารถติดต่อได้
นางด่าสาปแช่งไม่หยุด : “ไอ้เซียวฉางควน ไม่รู้ว่าเขาไปตายอยู่ที่ไหน ถึงไม่รับสายของฉัน”
เซียวชูหรันเอ่ยถามเธอว่า : “แม่คะ คุณบอกเวลากับพ่ออย่างชัดเจนแล้วใช่ไหม?”
หม่าหลันกล่าวด้วยความโกรธ : “แน่นอนว่าฉันบอกกับเขาอย่างชัดเจนแล้ว ในโทรศัพท์เขาก็รับปากกับฉันแล้ว ใครจะไปรู้ว่าทำไมจนถึงตอนนี้ยังไม่โผล่หัวมาและโทรศัพท์ก็ไม่รับสายด้วย ไว้ใจไม่ได้เลยจริงๆ”
เซียวชูหรันหยิบมือถือออกมาอย่างรวดเร็ว โทรไปหาเซียวฉางควน แต่ก็ไม่รับโทรศัพท์ตามที่หม่าหลันบอกจริงๆ
เธอแสดงสีหน้าตึงเครียดและกล่าวว่า : “ไม่ใช่ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับพ่อใช่ไหม……ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลานอนเลย ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์นะ?”
เย่เฉินรีบกล่าวโน้มน้าวว่า : ” ที่รักคุณอย่าเพิ่งคิดมากไปเลย คุณพ่อร่างกายแข็งแรงดี จะเกิดเหตุใดๆ ขึ้นได้ อาจจะนอนหลับก็เป็นไปได้ เช่นนั้นฉันว่าเรากลับไปดูที่บ้านก่อนเถอะ!”
Comments