ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 5151 เย่เฉิน! 2

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter บทที่ 5151 เย่เฉิน! 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5151 เย่เฉิน! 2

ทว่าในใจเธอกลับคิดอยู่ว่าตกลงต้องหาหลักฐานพิสูจน์ขั้นตอนสุดท้ายยังไงกันแน่ เพื่อมายืนยันว่าเย่เฉินที่อยู่บนใบสมัคร ก็คือเย่เฉินที่ตัวเองต้องการตามหา

เธอนึกคิดในใจ: “วิธีที่ดีที่สุดน่าจะต้องโทรหาเย่เฉิน ลองฟังเสียงของเขาดูก่อน ฉันยังจำเสียงของเขาได้อยู่ ขอแค่เขาเอ่ยปากพูด ฉันก็ต้องจำได้อย่างแน่นอน”

แต่ว่าเธอไม่กล้าโทรด้วยตัวเองหรอกนะ ถ้าเกิดโทรด้วยตัวเองละก็ ไม่แน่เย่เฉินก็อาจจะจำเสียงตัวเองได้

แต่ว่าถ้าเกิดตัวเองโทรไปแล้วไม่พูด วิธีการนี้ฟังดูน่าจะเวิร์คอยู่ แต่แบบนี้มันจะดูแปลกประหลาดเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเกิดเย่เฉินลองนึกดูดี ๆ ก็อาจจะขบคิดพิรุธได้

ดังนั้นหลังจากที่เธอคิดหน้าคิดหลังแล้ว รู้สึกว่าน่าจะให้คนอื่นโทรหาเย่เฉินแทน แถมต้องคิดหาข้ออ้างที่สมเหตุสมไว้ด้วย เพื่อทำให้เมื่อเย่เฉินรับสายแล้วจะไม่เกิดความสงสัยใด ๆ

ดังนั้นเธอจึงรีบเดินลงไปจากอาคาร เดินเข้าไปในขบวนรถ แล้วเจอแม่บ้านตระกูลชิวที่ไปรับพวกเขาที่สนามบินเมื่อก่อนหน้านี้

แม่บ้านคนนี้ช่วยชิวอิงซานตรวจเช็คดูแลที่ดินทรัพย์สินส่วนบุคคลของเขาอยู่ในจินหลิงมาโดยตลอด เนื่องจากภรรยาของชิวอิงซานเติบโตอยู่ในจินหลิงมาตั้งแต่เด็ก มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นถึงได้เลือกแม่บ้านคนหนึ่งที่ละเอียดรอบคอบมากที่สุดจากทีมแม่บ้านในมาเลเซีย มาดูแลจัดการอยู่ที่นี่โดยเฉพาะ

หลินหว่านเอ๋อร์เคยเห็นรูปร่างของแม่บ้านคนดังกล่าวมาก่อนแล้ว เธอเป็นคนที่ซื่อสัตย์จริงใจ

ดังนั้นเธอจึงมุ่งหน้าเดินตรงไปถึงหน้าแม่บ้านโดยตรง ก่อนจะเอ่ยปากพูด: “พี่เสียน พี่ช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

พี่เสียนคือหญิงวัยกลางคนที่อายุประมาณ 50 กว่า ภูมิลำเนาเดิมคือคนมณฑลเยว่ ทำงานอยู่ในตระกูลชิวกับพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก อายุ 50 กว่าแล้วแต่ก็ยังไร้ญาติขาดมิตรอยู่เช่นเคย

เล่ากันว่าเมื่อปีนั้นเกิดความวุ่นวายกับเธอและครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คนทั้งครอบครัวเกือบเสียชีวิตอยู่ในแดนไกล ชิวอิงซานเป็นคนพาพวกเขาครอบครัวทั้งสี่คนมาถึงประเทศมาเลเซีย อีกทั้งมอบชีวิตและงานที่มั่นคงปลอดภัยให้พวกเขา ดังนั้นพ่อแม่ของพี่เสียน รวมไปถึงน้องสาวของเธอจึงซื่อสัตย์จริงใจต่อตระกูลชิวมาก ๆ ส่วนตอนนี้น้องสาวของเธอก็ทำงานอยู่ในตระกูลชิวเช่นกัน

เมื่อเห็นว่าหลินหว่านเอ๋อร์เอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากตนเอง แม่บ้านจึงรีบตอบกลับอย่างเคารพนบนอม: “คุณหลิน มีเรื่องอะไรก็สั่งการดิฉันได้เลยค่ะ!”

หลินหว่านเอ๋อร์ถามเธอ: “เบอร์โทรศัพท์ของพี่น่าจะเป็นเบอร์ท้องถิ่นของจินหลิงใช่ไหมคะ?”

พี่เสียนรีบตอบกลับ: “ตอบกลับคุณหลินค่ะ โทรศัพท์ของดิฉันมีซิมท้องถิ่นจินหลิงอยู่ค่ะ และมีซิมของประเทศมาเลเซียเช่นกัน”

หลินหว่านเอ๋อร์ผงกหัวพลางสั่งการ: “รบกวนพี่ใช้เบอร์โทรศัพท์ของจินหลิงช่วยฉันโทรหาใครบางคนหน่อยค่ะ หลังจากโทรติดแล้ว พี่ก็บอกกับเขาเลยว่าพี่กำลังจะออกจากบ้านแล้ว ให้เขาวางพัสดุไว้ที่ศูนย์ส่วนกลาง หลังจากที่พี่กลับไปแล้วพี่ค่อยไปเอาเอง และเขาต้องบอกกับพี่ว่าพี่โทรผิดแน่นอน จากนั้นพี่ก็บอกว่าขออภัยด้วยอาจจะกดเบอร์ผิด จากนั้นค่อยกดวางสายก็พอแล้วค่ะ”

“ได้ค่ะ”ถึงแม้พี่เสียนจะไม่เข้าใจความตั้งใจของหลินหว่านเอ๋อร์ แต่ก็พยักหน้าอย่างเคารพนอบน้อมมาก ๆ อยู่ดี จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วพูดกับหลินหว่านเอ๋อร์: “คุณหลิน คุณแจ้งเบอร์มาได้เลยค่ะ”

หลินหว่านเอ๋อร์ตอบกลับ: “เดี๋ยวฉันกดเองเถอะค่ะ”

พี่เสียนรีบยื่นโทรศัพท์ไปให้หลินหว่านเอ๋อร์ หลินหว่านเอ๋อร์จึงกดเบอร์โทรศัพท์ของเย่เฉินลงไป

จากนั้นก็คืนโทรศัพท์ให้พี่เสียน

พี่เสียนรับโทรศัพท์มา กดปุ่มโทรออก หลังจากได้ยินเสียงตู๊ดดังขึ้นมาสองครั้ง ก็มีเสียงของเย่เฉินดังออกมาจากโทรศัพท์: “ฮัลโหล สวัสดีครับ”

แค่ประโยคนี้ ก็ทำให้ดวงตาที่ดำขลับนั่นของหลินหว่านเอ๋อร์มีรังสีที่แตกต่างไปจากเดิมเป็นประกายขึ้นมาภายในพริบตา

และเป็นเพราะประโยคนี้นี่เอง ทำให้เธอสามารถยืนยันได้ว่า คนที่อยู่ทางปลายสายก็คือเย่เฉินที่เคยช่วยชีวิตตัวเองเอาไว้ตอนอยู่ยุโรปเหนือ!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *