ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5320 ฉันมีวิธีจัดการแก 2

จู่ๆหงฉางชิงก็ประหม่า

การวัดอายุนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

เมื่อวานเขากลัวว่าซือเทียนฉีจะมีความสามารถวัดอายุของอีกฝ่ายได้แม่นยำ ดังนั้นก่อนที่จะให้พวกเธอมาแสดง ได้ไปหาคนทำบัตรปลอมล่วงหน้าแล้วและทำบัตรประชาชนปลอมให้พวกเธอ และแก้ไขวันเกิดให้ห่างจากอายุจริงหนึ่งถึงสองปี เพื่อความมั่นใจทั้งสองทาง ไม่เพียงแต่ทำให้หงฉางชิงรู้คำตอบล่วงหน้าแต่ยังสร้างความสับสนให้กับคำตอบที่แท้จริง ดังนั้นแม้ว่าซือเทียนฉีจะมีความสามารถมากแค่ไหน แต่อายุที่เขาวัดได้ไม่มีทางตรงกับอายุในบัตรประชาชน

ฉะนั้นเมื่อเย่เฉินโจมตีอเขาย่างกะทันหัน เขาจะกล้าสู้กลับง่ายๆได้อย่างไร

ดังนั้นเขาจึงพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “หืม! นับประสาอะไรกับบัตรประชาชน บัตรประชาชนสามารถปลอมได้ ถ้าแกทำบัตรประชาชนปลอมมาหลอกฉันโดยเปลี่ยนวันเดือนปีเกิด ไม่ว่าฉันจะเก่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถเดาอายุในบัตรประชาชนของแกได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นแกก็รู้ดีอยู่แล้วว่าใครแพ้ใครชนะ”

เมื่อเย่เฉินได้ฟังข้อสงสัยของเขาเย่เฉินก็ถามอย่างสงสัย: “ดูเหมือนว่าแกจะรู้เรื่องสกปรกพวกรี้ดี!หรือว่าแกชนะหมอเทพซือด้วยกลอุบายพวกนี้”

หงฉางชิงรีบปฏิเสธทันที: “ฉันเปล่า! ฉันชนะซือเทียนฉีด้วยความสามารถที่แท้จริงของฉัน! ฉันแค่คิดว่าแกดูแล้วท่าทางไม่เหมือนคนดีคงตั้งใจมาหลอกฉัน !”

เย่เฉินพยักหน้า: “แกกลัวว่าฉันจะร่วมมือกับหมอเทพซือโกงแกใช่ไหม”

หงฉางชิงพูดทันทีว่า: “ถูกต้อง!”

“ได้!” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดกับเฉินเสี่ยวจาวว่า: “เสี่ยวจาว พาคนที่ฉันให้เธอไปหาเข้ามาให้หมด!”

เฉินเสี่ยวจาวรีบพูดทันทีว่า: “ค่ะอาจารย์เย่!”

พูดจบเธอก็วิ่งออกไปและโบกมือทันที ไม่นานผู้หญิงอายุต่างกันหลายสิบคนเข้ามาจากข้างนอก บางคนดูอายุยี่สิบต้นๆและบางคนดูแล้วอย่างน้อยน่าจะหกสิบถึงเจ็ดสิบปี

หลังจากที่คนเหล่านี้เข้ามาแล้วพวกเธอทั้งหมดยืนเป็นแถว เย่เฉินมองหงฉางชิงที่ตะลึงงันแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะหงฉางชิง ผู้หญิงเหล่านี้เป็นคนงานทั่วไปที่ฉันให้เสี่ยวจาวไปจ้างจากจากตลาดแรงงานจินหลิงเมื่อเช้านี้ แกมาจับชีพจรของพวกเธอดูว่าแกทายอายุพวกเธอได้ถูกต้องหรือไม่ ตามกฎที่ฉันบอกแกไปเมื่อกี้ ความคลาดเคลื่อนต้องไม่เกินเจ็ดวัน”

หงฉางชิงรู้สึกกระวนกระวายมากแต่เขาจงใจพูดเหน็บแนมว่า: “ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้จะไม่ใช่อาสาสมัครกลุ่มใหม่ที่แกหามา!”

“ไม่เป็นไร” เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม: “ฉันรู้ว่าแกต้องพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ และฉันก็กลัวว่าแกจะบอกว่าแกเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชเท่านั้นและสามารถจับแค่ชีพจรของผู้หญิงเท่านั้น ดังนั้นคนที่ฉันให้เสี่ยวจาวพามาเป็นผู้หญิงทั้งหมด”

ขณะที่เขาพูดอย่างนั้นเย่เฉินก็พูดอีกว่า: “แน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือปัญหาเรื่องการจ้างหน้าม้า ฉันให้เสี่ยวจาวพาพวกเธอทั้งหมดไปขอใบรับรองวันเกิดที่สถานีตำรวจตั้งแต่เช้าแล้ว และได้ประทับตราของสถานีแล้วเพื่อให้แน่ใจว่าใบรับรองที่ออกโดยสถานีตำรวจตรงกับวันเกิดบนบัตรประจำตัวประชาชนของพวกเธอ หากแกยังหาว่าฉันจ้างหน้าม้า งั้นฉันจะเชิญตำรวจมาเป็นพยานทันที!”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เย่เฉินสะบัดมือของเขา: “ช่างเถอะ ถ้าแกคิดว่านี่ยังไม่เพียงพอ ฉันจะโทรหาเพื่อนของฉันเพื่อแนะนำคนในสำนักงานทนายความ จากนั้นติดสื่อมวลชนให้พวกเขามาร่วมกันเป็นสักขีพยานและเราไปที่ถนนเพื่อสุ่มเลือกผู้ทดสอบโดยมีพวกเขาเป็นพยาน ให้แกเลือกผู้ทดสอบได้ตามต้องการคงพอใจใช่ไหม ถ้าแกสามารถควบคุมความคลาดเคลื่อนอายุของทุกคนให้อยู่ในเจ็ดวันจริงๆ เมื่อสื่อรายงานชื่อเสียงของอาจารย์หงก็จะมากขึ้น ไม่เพียงแต่สามารถโปรโมตแพทย์หัวเซี่ยเท่านั้น แต่แกยังสามารถบันทึกสถิติโลกใหม่ได้อีกด้วย!

พูดจบเย่เฉินมองอาจารย์หงและพูดด้วยรอยยิ้ม: “ดูสิ ฉันมีวิธีจัดการแก”

เมื่อหงฉางชิงได้ยินเช่นนี้เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า

เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเด็กตรงหน้าจะทำเขาเจ็บปวดขนาดนี้! แทบจะปิดตายตนทุกทาง! ยิ่งไปกว่านั้นมันยังจะเชิญสื่อมวลมาอีกด้วย เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงในอเมริกาเหนือถ้าเขาเสียหน้าต่อหน้าสื่อมวลชน เท่ากับว่าความสามารถของเขาก็จะถูกทำลายไม่ใช่หรือ? !