ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 5506 เดินทางมาหา (2)

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter บทที่ 5506 เดินทางมาหา (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5506 เดินทางมาหา (2)

ในเวลาเดียวกัน

ณ เขตเมืองเก่าจินหลิง

ขบวนรถของตระกูลอานอันเป็นที่สะดุดตาได้แยกตัวกันก่อนเข้าสู่เขตเมืองเก่า ทำให้ไม่โดดเด่นเท่าไรนัก แต่รถทุกคันยังคงคุ้มกันยายและลุงของเย่เฉินอยู่ทั่วทุกทิศทางอย่างใกล้ชิด

และในคฤหาสน์หลังเก่าของบิดามารดาเย่เฉิน สองแม่ลูกตู้ไห่ชิงและซูจือหยูได้รับประทานทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว

ซูจือหยูแต่งตัวรัดกุมเยบง่าย หยิบกระเป๋าถือของเธอแล้วพูดกับตู้ไห่ชิงว่า “แม่คะ หนูไปมหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์ก่อนนะคะ”

ตู้ไห่ชิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ขับรถดีๆ นะลูก แล้วจะกลับมากินข้าวตอนเที่ยงไหม?”

ซูจือหยูตอบว่า “หนูน่าจะไม่กลับมาตอนเที่ยงนะคะ ว่าจะกินข้าวกับจือชิวในโรงอาหารที่มหาวิทยาลัยค่ะ”

ในฐานะหนึ่งในผู้รับผิดชอบของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด หลายวันมานี้ซูจือหยูอยู่กับเฮ่อจือชิวตลอดเวลา ให้เฮ่อหย่วนเจียงบิดาของเฮ่อจือชิวช่วยติวเสริมเป็นการเพิ่มพลัง

ตอนนี้กิจการของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนแบ่งการตลาดและรายได้จากการดำเนินงานก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผลตอบแทนมีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ แม้ว่าเด็กสาวสองคนนี้จะยังไม่พบปัญหาใดในการดำเนินงาน แต่การพัฒนา ความเร็วของบริษัทเร็วมาก ทั้งคู่เป็นกังวลว่าความสามารถของตนจะมีขีดจำกัด ทำให้บริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดขาดประสบการณ์ ดังนั้นทั้งสองจึงไปหาเฮ่อหย่วนเจียงเพื่อเติมความรู้ในด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ ณ ปัจจุบัน

เฮ่อหย่วนเจียงเป็นศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์อันดับต้น ๆ เขามีประสบการณ์และความรู้มากมาย สำหรับเด็กสาวทั้งสองคนแล้ว เขาเปรียบเสมือนมัคคุเทศก์ชั้นสูง

ซูจือหยูกำลังเปลี่ยนรองเท้าเตรียมพร้อมออกไปข้างนอก ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตูที่ลานบ้านดังขึ้น

เพื่อรักษาความรู้สึกดั้งเดิมของคฤหาสน์เก่าหลังนี้ไว้ให้ดีที่สุด ตู้ไห่ชิงยังคงเลือกใช้ประตูรั้วเหล็กเป็นประตูตรงลานบ้าน แม้ว่าจะไม่มีกริ่ง แต่เสียงเคาะก็เด่นชัดเหมือนเสียงระฆัง แม้แต่ในห้องก็ได้ยินชัดเจน

ซูจือหยูรู้สึกงุนงงเล็กน้อยแล้วพึมพำว่า “ใครกันมาที่บ้านแต่เช้า หรือจะเป็นคุณเย่?”

“จะใช่ได้ยังไง?” ตู้ไห่ชิงขึ้นตามสัญชาตญาณ “เย่เฉินบอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าถ้ามีคนมาสืบถามเกี่ยวกับเขาในช่วงนี้ ให้เราปิดปากเงียบไม่ใช่หรือ? ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ เขาจะมาที่นี่ได้ยังไง?”

จากนั้น เธอก็พูดต่อไปว่า “เดี๋ยวฉันจะออกไปดูเอง”

จากนั้น ตู้ไห่ชิงก็เปลี่ยนเป็นรองเท้าสำหรับไปข้างนอก เปิดประตูแล้วเดินตรงออกไป

มองผ่านประตูรั้วเหล็ก เธอเห็นนายหญิงใหญ่และชายวัยกลางคนยืนอยู่นอกประตู ทั้งสองคือคุณยายกับลุงของเย่เฉินนั่นเอง

แต่ว่าคุณย่าของเย่เฉินแทบไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมานานหลายปีแล้ว ส่วนอานโฉงชิวแทบจะไม่ติดต่อกับสื่อเลย เพราะเขารับผิดชอบเพียงภายใน ดังนั้นตู้ไห่ชิงจึงจำทั้งสองคนไม่ได้

เธอเดินไปที่ประตูแล้วถามว่า “พวกคุณสองคนกำลังมองหาใครหรือเปล่าคะ?”

นายหญิงใหญ่อานที่อยู่ด้านนอกประตูมองไปทางตู้ไห่ชิง ยิ้มเล็กน้อยแล้วถามเธอว่า “ฉันขอรบกวนสอบถามหน่อยได้ไหม เธอคือตู้ไห่ชิงหรือไม่?”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเรียกชื่อของเธอถูก ตู้ไห่ชิงจึงรีบตอบกลับอย่างสุภาพว่า “คุณป้าเกรงใจเกินไปแล้วละค่ะ ฉันชื่อตู้ไห่ชิง ว่าแต่คุณคือใครเหรอคะ?”

นายหญิงใหญ่อานยิ้มขึ้นแล้วพูดว่า “ฉัน… ฉันเป็นแม่ยายของเย่ฉางอิง แม่ของอานเฉิงซี ชื่อว่าเวิงฮุ่ยอิน”

ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่นั้น ก็ได้ชี้ไปทางอานโฉงชิวที่อยู่ข้างๆ แนะนำขึ้นว่า “นี่คือลูกชายคนโตของฉัน และเป็นน้องชายของ เฉิงซีด้วย เขาคืออานโฉงชิว”

“หา?” ตู้ไห่ชิงมองไปทางนายหญิงใหญ่ด้วยความประหลาดใจ เธออุทานว่า “คุณคือป้าอัน! รีบเข้ามาเร็วเข้าค่ะ! คุณอานก็เชิญด้วยนะคะ!”

พูดจบ ก็ได้เปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็ว

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *