ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 5522 การแสดงที่ยอดเยี่ยม(1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5522 การแสดงที่ยอดเยี่ยม(1)
เพียงแวบเดียว เย่เฉินก็จำหลินหว่านเอ๋อร์ได้!
แม้เย่เฉินจะเคยได้เห็นเธอเพียงแต่แวบเดียว และต่อให้หลินหว่านเอ๋อร์จะเปลี่ยนการแต่งตัว เปลี่ยนสไตล์ เย่เฉินก็จำเธอได้ในทันที
นั้นเพราะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เงาของหลินหว่านเอ๋อร์ อยู่ในหัวสมองของเขามาโดยตลอด
ไม่เคยมีภาพจำของผู้หญิงคนไหน ที่ปรากฏอยู่ในหัวสมองของเย่เฉินได้ชัดเจนขนาดนี้มาก่อน หลินหว่านเอ๋อร์เป็นคนแรก
แม้รูปร่างหน้าตาของหลินหว่านเอ๋อร์ จะน่าตะลึงชวนสงสัยอย่างมากในความเป็นจริงที่มี แต่ที่เย่เฉินจำเธอได้ ไม่ใช่เพราะสาเหตุนี้
ที่เย่เฉินจำเธอได้ นั่นก็เพราะ เย่เฉินรู้สึกเสียดาย เสียดายที่ตอนอยู่ยุโรปเหนือ ตัวเองไม่ได้ถามหลินหว่านเอ๋อร์ถึงเรื่องราวแหล่งที่มาทั้งหมดของเธอกับองค์กรพั่วชิง รวมถึงสิ่งที่เธอรับรู้ทั้งหมด เกี่ยวกับข้อมูลทุกอย่างขององค์กรพั่วชิง
นอกจากนี้ ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เย่เฉินยังจดจำหลินหว่านเอ๋อร์คนนี้ไม่ลืม นั่นก็คือแหวนที่ยังคงกระตุกเต้นเร่าๆอยู่ในกระเป๋าของเขาตอนนี้!
ทุกครั้งที่ตัวเองถูกแหวนวงนี้ใช้กลอุบายให้ใช้ปราณทิพย์จำนวนมาก ภายในใจของเย่เฉินก็จะนึกถึงหลินหว่านเอ๋อร์อย่างควบคุมไม่ได้
และทุกครั้งที่แหวนวงนี้เต้นเร่าๆในกระเป๋า เขาก็จะนึกไปถึงหลินหว่านเอ๋อร์อย่างไม่รู้ตัว
แต่ว่า เขาไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตัวเองจะมาเจอหลินหว่านเอ๋อร์อีกครั้งได้!
ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่า หลินหว่านเอ๋อร์ที่ควรจะหนีเอาชีวิตรอดคนนั้น จะมาอยู่ที่เมืองจินหลิงได้!และยังจะมาปรากฏตัวที่หน้าห้องพักของคลอเดียได้!
ชั่วขณะหนึ่ง ภายในใจของเย่เฉินนอกจากจะตกตะลึงและมึนงงแล้ว จู่ๆก็เกิดความหวาดระแวงขึ้นมา !
เขาอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า ที่หลินหว่านเอ๋อร์มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ มันเป็นเพราะ ติดตามตัวเองมาหรือเปล่า!
หากเป็นเช่นนี้ นั่นก็หมายความว่า ในตอนที่ตัวเองใช้ปราณทิพย์เพื่อจุดสังเกตทางจิตวิทยากับเธอในตอนนั้น มันไม่ได้มีผลใดๆเลย!
ไม่อย่างนั้นแล้ว หญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกตัวเองลบความทรงจำก่อนที่จะแยกจากกันกับตัวเองในยุโรปเหนือ แต่ภายใต้การจดจำตัวเองไม่ได้แล้วจู่ๆก็มาปรากฏตัวขึ้นที่เมืองจินหลิงที่ที่ห่างไกลกว่าหลายพันไมล์นี้ ขณะเดียวกันก็มาปรากฏตัวที่ตรงหน้าของตัวเอง ในโลกนี้ จะมีเรื่องที่บังเอิญแบบนี้ได้ยังไงกัน?
หลินหว่านเอ๋อร์ในตอนนี้แม้สีหน้าท่าทีจะไม่มีอาการใดๆ แต่ภายในใจนั้นก็ประหม่าอย่างที่สุด
เธอรู้ เมื่อใดก็ตามที่ตัวเองมาปรากฏตัวขึ้นที่ตรงหน้าของเย่เฉิน เย่เฉินจะต้องเกิดความสงสัยในตัวเองอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้มีข้อพิรุธใดๆ เธอใช้การแสดงที่ได้พร่ำฝึกฝนมา ยิ้มและเอ่ยถามอีกครั้งว่า“ไม่ทราบว่าที่นี่ใช่ห้องพัก301หรือเปล่าคะ?”
ก่อนที่เย่เฉินจะได้พูดอะไร หลี่เสี่ยวเฟินที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นอย่างกระตือรือร้นว่า“ใช่ค่ะ ที่นี่คือห้อง301 ที่หน้าประตูมีป้ายติดเอาไว้ คุณเองก็พักห้องนี้เหมือนกันเหรอคะ ?”
หลินหว่านเอ๋อร์ไม่ได้มองเย่เฉิน แต่หันมองไปยังหลี่เสี่ยวเฟิน พูดด้วยรอยยิ้มที่เอียงอาย“ฉันเห็นป้ายตรงหน้าห้องแล้ว แต่มีคนอยู่เต็มห้อง ดังนั้นก็จึงถามเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง”
หลี่เสี่ยวเฟินรีบเอ่ยถามเธอ“อย่างนั้นคุณก็คงจะเป็นเพื่อนร่วมห้องเตียง02ใช่ไหม?”
หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า และถามเธอ“คุณคือเพื่อนร่วมห้อง01หรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ฉัน”หลี่เสี่ยวเฟินโบกมือ ชี้ไปยังคลอเดียที่อยู่กับป้าหลี่ แล้วพูดว่า “คนนี้คือเพื่อนร่วมห้อง01”
พูดจบ เธอมองไปยังคลอเดีย ยิ้มแล้วพูดว่า“ คลอเดีย เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ของเธอมาแล้ว !”
หลินหว่านเอ๋อร์เห็นคลอเดีย ก็พยักหน้าให้เธออย่างเป็นมิตร และพูดด้วยรอยยิ้ม“สวัสดีนะ ฉันชื่อหลินเสี่ยวหว่าน เป็นนักศึกษาใหม่ในภาควิชาโบราณคดี ต่อไปเราเป็นเพื่อนร่วมห้องกันแล้วนะ!”
เมื่อเย่เฉินได้ยินคำนี้ ดวงตาก็หรี่เล็กลงเล็กน้อย เขารู้ว่าหลินหว่านเอ๋อร์ในตอนนี้กำลังโกหกอยู่ ดังนั้นดวงตาก็เป็นดั่งเปลวไฟมองสำรวจหลินหว่านเอ๋อร์ จากสีหน้าท่าทีของเธอ อยากจะจับการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของเธอ
หลินหว่านเอ๋อร์คาดเดาได้อยู่ก่อนแล้ว ไม่ว่าตัวเองจะได้เจอกับเย่เฉินซึ่งๆหน้าในวันนี้ หรือจะได้เจอกับคลอเดียก่อน ในอนาคตหากอาศัยคลอเดียแล้วได้พบเจอกับเย่เฉิน ไม่ว่าตัวเองจะแนะนำตัวต่อหน้าเย่เฉินยังไง ก็จะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ดังนั้น ตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจจะมาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยจินหลิง เธอก็เอาแต่ฝึกฝนที่หน้ากระจกอยู่ตลอด ฝึกที่จะโกหกและไม่ให้ตัวเองต้องแสดงพิรุธใดๆออกมา
ดังนั้น แม้จะถูกเย่เฉินจ้องมองมาแบบนี้ เธอก็ยังคงควบคุมสติอารมณ์ได้ดี ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มที่สุภาพและสำรวมอยู่ตลอดเวลา
คลอเดียในตอนนี้ถามด้วยความประหลาดใจ“เธอก็เรียนสาขาโบราณคดีเหมือนกันเหรอ?”
Comments