ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 5581 ถ้าเหมาะสม ฉันซื้อ (2)

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter บทที่ 5581 ถ้าเหมาะสม ฉันซื้อ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5581 ถ้าเหมาะสม ฉันซื้อ (2)

ดังนั้น ตอนที่เขาได้เห็นค่ายกลที่เย่เฉินทิ้งไว้ในนี้ จึงไม่เข้าใจเลย ค่ายกลนี้มีประโยชน์อะไรกันแน่

อันที่จริง ค่ายกลนี้ ก็คือค่ายกลการป้องกันพาสซีฟอย่างหนึ่งที่บันทึกไว้ในตำราเก้าเสวียนเทียน เมื่อผู้ที่สวมเครื่องมือทางธรรมถูกโจมตี ค่ายกลก็จะเริ่มทำงานทันที ใช้ประโยชน์จากพลังที่แฝงไว้ในตัว มาป้องกันการจู่โจมให้เจ้าของ

ความเข้มข้นของพลังงานกับอิทธิพลของค่ายกล หลักการก็เหมือนเป็นข้อคณิตศาสตร์ที่ง่ายดาย หากว่าการโจมตีที่ได้รับน้อยกว่าความแข็งแกร่งของตัวค่ายกล งั้นเจ้าของก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด

แต่หากว่าการโจมตีที่ได้รับมากกว่าความแข็งแกร่งของตัวค่ายกล งั้นค่ายกลก็จะป้องกันการโจมตีนี้ให้เจ้าของอย่างสุดกำลังของตัวมันเอง สำหรับส่วนที่ไม่สามารถป้องกันได้นั้น เจ้าของก็จะเป็นคนแบกรับเอาไว้เอง

แต่ว่าท่านเอิร์ลฉางเซิ่งไม่เคยเห็นค่ายกลพวกนี้ เขาเลยไม่เข้าใจ ว่าแหวนหยกปานจื่อวงนี้มีประโยชน์อะไรกันแน่

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบด่าผู้มีพระคุณอยู่ในใจ : “ไอ้เจ้าเล่ห์นั่น ไม่เคยบอกของที่มีขั้นตอนลึกซึ้งให้เราเลย ถึงขนาดที่ตอนนี้กูได้เห็นเครื่องมือทางธรรมชิ้นหนึ่งแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าของชิ้นนี้มีประโยชน์อะไรกันแน่ ต่อให้ได้มาแล้ว ก็ไม่รู้สถานการณ์รอบตัวเลย หากอยากรู้จริง ๆ ว่ามีความสามารถอะไรกันแน่ เกรงว่าต้องกลับไปขอคำแนะนำจากไอ้เจ้าเล่ห์นั่น……แต่หากว่าเป็นของดีจริง แล้วไอ้เจ้าเล่ห์นั่นเอาไป ไม่ให้ฉันแล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้ ?”

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็คับแค้นจนกัดฟันกรอด ๆ

ไม่รอให้เขาทำความเข้าใจความเร้นลับในแหวนปานจื่อวงนี้ให้เรียบร้อย จ้าวเหล่าซื่อเข้าไปหา แล้วเอ่ยปาก : “คุณท่าน คุณดูพอแล้วสินะ ? พอแล้วก็คืนให้ผมเถอะ !”

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งตะลึงเล็กน้อย รู้สึกลังเล : “สำหรับคนบำเพ็ญตบะระดับฉันแล้ว เครื่องมือทางธรรมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้กระทั่งผู้มีพระคุณก็ยังนึกถึงแหวนลึกลับวงนั้นในมือของหลินหว่านเอ๋อร์อยู่ตลอดเวลา เพียงพอที่จะเห็นถึงความสำคัญของเครื่องมือทางธรรมสำหรับผู้บำเพ็ญตบะ ฉันได้เจอเครื่องมือทางธรรมที่แท้จริงที่อยู่ข้างนอกเป็นครั้งแรกในหลายปีขนาดนี้ แน่นอนว่าให้ตายก็ไม่ยอมปล่อยมือ !”

จากนั้น ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งวิเคราะห์อยู่ในใจอีก : “แต่ท้ายที่สุดฉันจะแย่งเครื่องมือทางธรรมนี้ไปเลย หรือว่าคืนให้ไอ้หมอนี่ก่อนดี จากนั้นพูดจาสุภาพแบบสูตรสำเร็จกับเขาต่อ ? การแย่งไปนั้นง่ายดาย คาดว่าไอ้หนุ่มนี้ไม่มีทางที่จะขวางฉันเอาไว้ได้ แต่ว่านี่ธารกำนัล หากว่าอีกฝ่ายแจ้งตำรวจ จากนี้ฉันจะเดินในเมืองจินหลิงอย่างยากลำบากในทุกฝีก้าวอย่างแน่นอน มิหนำซ้ำ หากว่าในมือของพี่ของเขายังมีเครื่องมือทางธรรมอย่างอื่นอยู่ ฉันจะแหวกหญ้าให้งูตื่น และจะพลาดผลประโยชน์จำนวนมาก เพื่อผลประโยชน์จำนวนน้อยเอาไม่ใช่หรอกหรือ ?”

อีกทั้งคุยกันจนถึงขั้นนี้แล้ว ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งนับว่าพิจารณาถึงตรรกะของเรื่องราวทั้งหมดนี้อย่างชัดเจนอยู่ในใจแล้ว

เขาคาดคะเนอยู่ในใจ : “ไอ้หมอนี่ที่เห็นเงินก็ตาโตที่เบื้องหน้านี้ น่าจะเป็นผู้ช่วยของทีมปล้นสุสานหนึ่งของเมืองจินหลิง ช่วงนี้คนกลุ่มนี้เพิ่งขุดสุสานโบราณแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน เลยได้รับแหวนปานจื่อวงนี้ รวมทั้งโบราณวัตถุอื่น ๆ ขณะนี้กำลังตามหาลูกค้าที่มีกำลังไปทั่วทุกที่อยู่แน่นอน ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ให้ไอ้หนุ่มนี้มาชูป้ายรอติดต่อกับนักธุรกิจเกาะฮ่องกาง……”

“ฉวยโอกาสในตอนนี้ที่ยังไม่ได้รับนักธุรกิจเกาะฮ่องกาง หากว่าฉันสามารถติดต่อเส้นสายเบื้องบนของเขาได้ น่าจะสามารถได้ดูของที่ได้มาทั้งหมดในการปล้นสุสานครั้งนี้ของพวกเขาก่อนก้าวหนึ่ง หากว่ามีเครื่องมือทางธรรมมากมาย งั้นก็ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเลยไม่ใช่หรอกหรือ ? !”

คิดถึงตรงนี้ เขาจึงมองจ้าวเหล่าซื่อ แล้วถามอย่างจริงจังมาก ๆ : “น้องชาย แหวนปานจื่อวงนี้พวกเธอขายเท่าไหร่ ? เธอแจ้งราคาจริงให้ฉัน หากว่าเหมาะสมละก็ แหวนปานจื่อวงนี้ฉันซื้อ !”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *