ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5606 เวลาลงมือ（1）

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งรู้ดีว่า อีกสองวันครึ่ง ไม่ว่าอย่างไรตัวเองก็ต้องไปทำภารกิจที่ผู้มีพระคุณมอบหมายให้ตัวเอง

จากกำลังของเขาแล้ว แม้ว่าคนตระกูลอานจะอยู่ภายใต้การคุ้มกันอย่างดีของบอดี้การ์ด หากเขาอยากฆ่าคนตระกูลอาน ก็ไม่ใช่ปัญหาเลย

เพียงแต่ เขารู้ดีว่า ถ้าลงมือกับคนตระกูลอาน ก็ยากที่ตัวเองจะหลบหนีภายใต้การปิดล้อมจากทางการหัวเซี่ย ถึงตอนนั้นก็จะไม่มีโอกาสอีก ที่จะให้ตัวเองขุดเครื่องมือทางธรรมมากขึ้นมาจากจางเอ้อเหมา

ในช่วงขณะหนึ่ง ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็เคยคิดว่า หรือจะหาโอกาสจับจางเอ้อเหมา บีบให้เขาบอกข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลคนรวย จากนั้นก็ติดตามเบาะแสตามหาตระกูลนั้น แล้วก็ลงมือฆ่าและขโมยของมา

แต่ว่า เขาก็กังวลว่าถ้าเคลื่อนไหวมากเกินไป คนตระกูลอานจะมีวิธีแยบยล ถ้าพวกเขาสังเกตเห็น ก็เกรงว่าภารกิจหลักของตัวเองอาจจะได้รับผลกระทบ

และเขาก็ไม่เข้าใจนักว่า ทำไมข่าวดีอย่างได้เครื่องมือทางธรรมแบบนี้มา ถึงไม่สามารถทำให้ผู้มีพระคุณเลื่อนแผนการฆ่าตระกูลอานออกไปสักสองสามวัน

ด้วยความจนตรอก เขาทำได้เพียงหาวิธีเจอจุดอ่อนในตัวจางเอ้อเหมา

ถ้าเงินทำให้จางเอ้อเหมาหวั่นไหวได้ และตระกูลคนรวยของจางเอ้อเหมา ให้พวกเขาขายเครื่องมือทางธรรมในมือให้ตัวเองอย่างรวดเร็วได้ ซึ่งสำหรับท่านเอิร์ลฉางเซิ่งแล้ว เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

และสำหรับจางเอ้อเหมาแล้ว ภารกิจของเขา ก็คือให้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งบอกไทม์ไลน์สุดท้ายของเขา เพราะสำหรับเย่เฉินแล้ว มันมีความหมายอย่างมาก

หลังจากได้ยินท่านเอิร์ลฉางเซิ่งพูด อย่างมากที่สุดเขาก็สามารถรอจนถึงวันมะรืนก่อนฟ้ามืด จางเอ้อเหมาพยักหน้าพูดโดยไม่ต้องคิดว่า：“ท่านไม่ต้องห่วง ผมจะช่วยเอามาให้คุณเอง ถ้ามีข่าวอะไร ผมจะไปหาคุณที่โรงแรมทันที”

“โอเค！”ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งพยักหน้าอย่างพอใจ กำชับไปอีกว่า：“อย่าลืมบอกพวกเขานะ แค่เป็นของที่ผมชอบ เงินก็ไม่ใช่ปัญหา！”

จางเอ้อเหมาทำมือ OK ยิ้มไปพูดไปว่า：“ผมทำอะไร คุณไม่ต้องห่วง！”

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งรู้สึกโล่งใจ พูดกับจางเอ้อเหมาว่า：“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็จะไม่ทำให้ธุรกิจคุณล่าช้า พรุ่งนี้กับมะรืนนี้ ผมไม่มีอะไรก็จะมาที่นี่ มีข่าวก็บอกผมทันทีนะ”

จางเอ้อเหมาตกลง มองส่งท่านเอิร์ลฉางเซิ่งออกไป

แม้ว่าท่านเอิร์ลฉางเซิ่งจะออกไปจากร้านแผงลอยของจางเอ้อเหมา แต่ไม่ได้ไปจากตลาดของโบราณ

เขาเดินวนหนึ่งรอบ สุดท้ายก็นั่งลงในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ห่างจากแผงลอยของจางเอ้อเหมาสามร้อยกว่าเมตร แล้วจับตาดูทุกการกระทำของจางเอ้อเหมา

แม้ว่าท่านเอิร์ลฉางเซิ่งตั้งใจจะไม่ทำอะไรโจ่งแจ้ง เพื่อให้ภารกิจราบรื่น แต่เพื่อความปลอดภัย เขาจึงอยากทราบไทม์ไลน์ของจางเอ้อเหมาและเขา ในกรณีที่จำเป็น

ในเวลาเดียวกัน เขาไม่อาจตระหนักได้ว่า ชั้นสองที่อยู่ไม่ไกลนั้น มีคนรู้จักเก่ากำลังจับตาดูตัวเอง และคนรู้จักเก่าคนนี้ ก็คือท่านเอิร์ลติ้งหยวนหยุนหรูเกอ

ห้าโมงเย็น จางเอ้อเหมาเก็บแผงลอย โทรศัพท์หาฝ่ายอำนวยความสะดวกของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง ให้รถโรลส์รอยซ์มารับเขาที่ตลาดของโบราณ

ตอนนี้เขาเป็นแขกของห้องเพรสซิเดนสูทโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง ระหว่างที่เข้าพัก ฝ่ายอำนวยความสะดวกมีรถโรลส์รอยซ์คันหนึ่งที่รับใช้เขาคนเดียวโดยเฉพาะ

รถโรลส์รอยซ์หยุดอยู่ข้างถนน คนขับรถสวมชุดสูท และถุงมือสีขาวลงมาจากรถ เปิดประตูด้านหลังให้จางเอ้อเหมา พูดด้วยความเคารพว่า：“คุณจาง เชิญขึ้นรถครับ”

จางเอ้อเหมาพยักหน้า เข้าไปในรถอย่างไม่สนใจไยดี คนขับรถถามเขาว่า：“คุณจาง แล้วคุณจะไปไหน？”

จางเอ้อเหมาโบกมืออย่างเป็นมิตร ยิ้มไปพูดไปว่า：“ไปเอ็มเพอร์เนชั่น！”

เอ็มเพอร์เนชั่น เป็นสถานที่เที่ยวกลางคืนที่ใหญ่และหรูที่สุดในเมืองจินหลิง เมื่อคืนจางเอ้อเหมาก็ใช้จ่ายอย่างเต็มที่ คืนเดียวจ่ายไปหลายแสน

วันนี้ จากคำแนะนำของเย่เฉิน เขายังตั้งใจจะไปเอ็มเพอร์เนชั่นเพื่อสัมผัสความสนุกในการใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย

แค่ หลังจากเขาขึ้นรถแล้ว ก็ไม่ลืมภารกิจที่เย่เฉินให้ ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มา แล้วโทรหาเย่เฉินผ่านวีแชท

เมื่อรับสาย เย่เฉินก็ถามเขาว่า：“เอ้อเหมา จัดการเรื่องราวเป็นไงบ้าง？”

จางเอ้อเหมารีบพูดว่า：“ขายแหวนเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้ลูกค้าอยากได้สินค้ามากขึ้น”

เย่เฉินพูดว่า：“ถ้าสินค้าไม่มีปัญหาให้เขารอก่อน ช่วงนี้ตำรวจและธนาคารได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ถ้าไม่ทราบแหล่งที่มาของยอดโอนเงินจำนวนมากจะถูกจับตาดูได้ง่าย โดยเฉพาะการโอนเงินดอลลาร์ ดังนั้นสองสามวันนี้ต้องรีบเอาเงินออกมาให้หมด คุณไปบอกลูกค้าคนนั้นว่า อีกหนึ่งอาทิตย์จะมีสินค้าให้เขา”