ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 5619 ฝีปากดีไม่น้อย(3)

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter บทที่ 5619 ฝีปากดีไม่น้อย(3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5619 ฝีปากดีไม่น้อย(3)

ด้วยความตื่นเต้น เขาใช้มีดคุไนไม้ชี้ไปที่ทุกคน แล้วพูดอย่างเย็นเยือกว่า“ไม่มีใครตอบใช่ไหม?ในเมื่อไม่มีคนตอบ งั้นข้าจะเลือกเอง ฆ่าตัดหัวให้ทุกคนได้เห็น เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดูแล้วกัน!”

พูดจบ หางตาของเขาก็ชำเลืองมองไปยังอานโยวโยวที่มีท่าทีฉลาดหลักแหลม ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า“หญิงสาวคนนี้คาดว่าน่าจะเป็นลูกสาวคนรองของตระกูลอาน อานโยวโยวใช่ไหม?”

อานโยวโยวถามอย่างระแวดระวัง“คุณต้องการจะทำอะไร?!”

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งยิ้มเยาะแล้วกล่าว“ข้าต้องการจะรบกวนเจ้าเพื่อเป็นตัวอย่างสั่งสอนพ่อแม่พี่น้องของเจ้า บทเรียนนี้เรียกว่า《จุดจบของการไม่ให้ความร่วมมือ》”

พูดจบ เขาก็เหวี่ยงมีดคุไนไม้ในทันที คมมีดที่มองไม่เห็นพุ่งเข้าหาเพื่อฟันอานโยวโยวอย่างฉับพลัน

อานโยวโยวรู้สึกเพียงมีสายลมหนึ่งปะทะเข้ามาที่ตรงหน้า คนทั้งคนราวกับร่างกายนั้นถูกสะกดเอาไว้ ยืนอยู่กับที่ขยับเคลื่อนไหวไปมาไม่ได้

ในช่วงของความเป็นความตายนี้ จู่ๆหลี่ญ่าหลินก็ปาถ้วยชาทิ้งลงกับพื้น แล้วตะโกนเสียงดังว่า“ ไอ้สารเลว!หากแกยังคิดที่จะตามหาตัวหลินหว่านเอ๋อร์กับแหวนของเธอให้เจอ ก็หยุดเดี๋ยวนี้!”

รูม่านตาของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งหดตัวลงในทันที มือที่กำลังขยับอยู่ก็ชะงักไป หันมองไปยังหลี่ญ่าหลินด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อ แล้วเอ่ยถามไป“เจ้า……เจ้าเป็นใคร?!แล้วรู้ชื่อหลินหว่านเอ๋อร์นี้ได้ยังไง?!แล้วรู้เรื่องแหวนของเธอได้ยังไง?!พูดมา!เจ้ากับเธอเป็นอะไรกัน!”

หลี่ญ่าหลินไม่คาดคิดว่า คำพูดที่เย่เฉินได้สอนตัวเองนี้ มันจะมีประโยชน์จริงๆ!

เมื่อเห็นอีกฝ่ายแน่นิ่งไป ภายในใจของเขาก็โล่งอก ยังคงพูดด้วยใบหน้าที่ไม่หวั่นเกรงว่า“ฉันเป็นใคร แกไม่จำเป็นต้องรู้!”

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งพูดด้วยสีหน้าที่มืดมน“หากรู้จักเอาตัวรอด ก็พูดเรื่องที่เจ้ารู้เกี่ยวกับหลินหว่านเอ๋อร์และแหวนของเธอ ออกมาให้ข้าได้ฟังอย่างละเอียดทั้งหมด มิเช่นนั้นแล้ว ข้าจะให้เจ้าได้ตายเสียดีกว่าอยู่ !”

หลี่ญ่าหลินยิ้มเยาะและพูดว่า“ทำไม?ข่มขู่ฉันเหรอ?ฉันจะบอกอะไรให้ หากแกคิดจะทำร้ายใครที่นี่แม้แต่คนเดียว ทั้งชีวิตนี้แกไม่มีทางจะตามหาตัวหลินหว่านเอ๋อร์เจอแน่นอน !”

ภายในใจของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งทั้งประหม่าและตื่นเต้น ที่ประหม่า เพราะความสำเร็จในภารกิจที่ผู้มีพระคุณให้ทำนั้น ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ หากมีลูกธนูนับหมื่น คนของตระกูลอานที่อยู่ในที่แห่งนี้จะต้องถูกพลังมีดของตัวเองฆ่าตายทั้งหมดอย่างแน่นอน

และที่เขาตื่นเต้น ก็เพราะตัวเองกลับค้นพบเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับหลินหว่านเอ๋อร์เจอ!

หรือการมาเมืองจินหลิงในครั้งนี้ ตัวเองจะประสบความสำเร็จอย่างเต็มที่กลับไปอย่างนั้นเหรอ?!!

คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็รีบเดินไปตรงหน้าหลี่ญ่าหลิน และก้าวไปอย่างว่องไว บีบไปที่ลำคอของหลี่ญ่าหลินด้วยมือเดียว จากนั้นก็ยกตัวเขาให้ลอยเหนือพื้น พูดอย่างเย็นเยือกว่า“เจ้าไม่รู้เรื่องปราณทิพย์ และไม่รู้เรื่องวิชาบู๊ แต่เจ้ารู้ชื่อหลินหว่านเอ๋อร์นี้ได้ยังไง?พูดมา ว่าใครเป็นคนบอกเจ้า!”

หลี่ญ่าหลินถูกบีบลำคอแล้วยกจนตัวลอย ไม่นานใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นม่วงคล้ำ แต่เขาก็ยังคงอดทนกับความเจ็บปวด ยิ้มเยาะให้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง แล้วพูดด้วยสายตาที่มองอย่างดูถูกว่า“แน่……แน่จริงก็ฆ่าฉันเลยสิ !”

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งพูดอย่างเย็นชา“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้างั้นเหรอ?!”

หลี่ญ่าหลินยิ้มเยาะ กัดฟันแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ลองดู !ฉันอยากจะรู้ว่าแกกล้าหรือเปล่า !”

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งกัดฟันกร่อนอยู่ชั่วครู่ พูดด้วยใบหน้าที่ดุร้ายว่า“บอกตามตรงก็ได้ ภารกิจของข้าที่มาที่นี่ในวันนี้ คือเอาชีวิตของคนตระกูลอาน!และตอนนี้ ความสำเร็จในภารกิจนี้ ก็เหลือเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น!”

“หลังจากที่ฆ่าคนของตระกูลอานแล้ว หากข้าสามารถจะหาตัวหลินหว่านเอ๋อร์เจอ ก็ย่อมเป็นการเพิ่มลายดอกไม้ลงบนผ้าดิ้น ภารกิจในการทำลายล้างตระกูลอานวันนี้ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ใหญ่หลวง!”

“ดังนั้น เจ้าอย่าคิดว่า แค่เจ้ารู้ที่อยู่ของหลินหว่านเอ๋อร์แล้วข้าจะยอมเปิดโอกาสให้พวกเจ้า แต่ตรงกันข้ามเลย ภายในสามวินาที หากเจ้าไม่บอกที่อยู่ของหลินหว่านเอ๋อร์มา ข้าจะฆ่าเจ้าเป็นคนแรก!”

ในตอนนี้ ที่ตรงประตูก็มีเสียงที่เย้ยหยันและเหน็บแนมของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น“แค่หมาแก่ตัวหนึ่ง คิดจะทำลายล้างตระกูลอาน ตาเฒ่า ท่านจะฝีปากกล้าไปแล้ว!”

  

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *