ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 5622 ทิ้งศีรษะไว้(1)

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter บทที่ 5622 ทิ้งศีรษะไว้(1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5622 ทิ้งศีรษะไว้(1)

เดิมทีท่านเอิร์ลฉางเซิ่งคิดว่าเย่เฉินชูนิ้วกลางขึ้นเพื่อจะท้าทายตัวเอง แต่ในตอนที่เขาได้เห็นแหวนวงนั้น รูม่านตาของเขาก็หดตัวลงอย่างฉับพลัน!

แม้เขาจะไม่เคยได้เห็นแหวนวงนี้กับตามาก่อน แต่ก็เคยได้ยินผู้มีพระคุณบรรยายถึงรูปพรรณอย่างละเอียดของมัน!

ผู้มีพระคุณบอกว่าแหวนวงนี้มีตัวเรือนเป็นสีน้ำตาลแก่ มันวาว ไม่มีลวดลายการตกแต่งใดๆ แหวนกว้างประมาณสองเซนติเมตร ซึ่งก็ราวๆ0.66ซม. ขนาดพอๆกับแหวนของผู้ชายทั่วไป

สิ่งเหล่านี้ ล้วนตรงตามแหวนที่อยู่บนมือของเย่เฉินโดยสมบูรณ์

บวกกับหลี่ญ่าหลินก็ได้เอ่ยพูดถึงหลินหว่านเอ๋อร์กับแหวนของเธอ ดังนั้นท่านเอิร์ลฉางเซิ่งลงความเห็นว่า แหวนวงนี้ ก็คือสมบัติที่ผู้มีพระคุณเฝ้าฝันหามาโดยตลอด!

ผู้มีพระคุณได้กล่าวเอาไว้ ว่าแหวนวงนี้นั้นได้ซ่อนความลึกลับอันยิ่งใหญ่ เมื่อคลายความลึกลับนี้ ไม่เพียงจะทำให้ผลการฝึกฝนนั้นก้าวไปข้างหน้า แต่ยังจะทำให้มีอายุวัฒนะด้วย

แต่จะไขความลึกลับนี้ยังไง ทั้งโลกใบนี้ก็คงมีแค่ผู้มีพระคุณเท่านั้นที่รู้ แม้แต่หลินหว่านเอ๋อร์เอง คาดว่าก็ไม่น่าจะรู้

ผู้มีพระคุณเคยพูดอยู่นับครั้งไม่ถ้วน ว่าหากใครสามารถจะหาแหวนวงนี้เจอ คนผู้นั้นก็คือผู้มีคุณูปการอันดับหนึ่งขององค์กรพั่วชิง และผู้มีพระคุณเองก็จะส่งต่อสิ่งที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมาทั้งหมด ให้กับคนผู้นั้นอย่างไม่หวงแหน อีกทั้งก็ยังจะแบ่งปันความลึกลับที่มีของแหวนให้กับคนผู้นั้นด้วย

ดังนั้น สำหรับท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง การทำลายล้างตระกูลอานก็ดี หรือฆ่าลูกชายของเย่ฉางอิงก็ช่าง หรือต่อให้จะจับตัวหลินหว่านเอ๋อร์ไปส่งให้ผู้มีพระคุณกับมือ ทั้งสามสิ่งนี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับได้นำแหวนวงนี้กลับไปให้กับผู้มีพระคุณ

คิดมาถึงตรงนี้ ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็รีบพูดขึ้นว่า “เจ้าหนู!ขอแค่เจ้าเอาแหวนวงนี้ให้ข้า ข้าจะปล่อยให้เจ้ากับครอบครัวของตายายเจ้าได้ไปสบายอย่างไม่ต้องเจ็บปวด นี่ถือว่าเป็นความเมตตาที่สุดที่ข้ามีให้กับเจ้า !”

เย่เฉินเย้ยหยันกลับ“เจ้าหมาแก่ หากท่านบอกรายละเอียดทั้งหมดขององค์กรพั่วชิงมา ฉันก็อาจจะเหลือร่างที่สมบูรณ์ให้ท่าน นี่ถือว่าเป็นความกรุณาอย่างที่สุดของฉันด้วยเหมือนกัน !”

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งท่าทีดูมืดมน ตะโกนเสียงดุดัน“เจ้าหนู เจ้ามันรนหาที่!”

พูดจบ เขาก็นำมีดคุไนไม้นั้นออกมา ควบคุมมีดคุไนไม้จนเกิดเป็นใบมีด แล้วยิงมาที่เย่เฉินด้วยความเร็ว

เย่เฉินรู้ว่าคนผู้นี้มีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา หากตัวเองสู้ตายกับเขาจริงๆ ทุกคนในโฮมสเตย์ เกรงว่าก็คงไม่มีใครรอดชีวิตไปได้ ไม่แน่ว่าวิชาคาถาบางอย่าง ก็อาจจะทำให้พวกเขากลายเป็นผุยผงก็เป็นได้

ดังนั้น เขาจึงถอยร่นไปสองสามก้าวในทันที ในขณะที่หลบคมมีดที่มองไม่เห็นไปด้วย ก็พูดกับท่านเอิร์ลฉางเซิ่งไปด้วยว่า“อยากจะได้แหวน ก็ตามฉันไปยังที่ที่ไม่มีคนแล้วมาลองประมือกัน หากท่านแพ้ ก็ทิ้งศีรษะเอาไว้ หากท่านชนะ ชีวิตของฉันกับแหวนวงนี้ก็เป็นของท่าน !”

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเห็นเย่เฉินเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว คมมีดของตัวเองยากที่จะทำร้ายเขาได้ ก็จึงเก็บคมดาบนั้นชั่วคราว แล้วเค้นเสียงหึ“เจ้าหนู อยากจะเล่นล่อเสือออกจากถ้ำเหรอ?ข้าจะบอกอะไรให้ หากไม่ส่งแหวนนั้นมาแต่โดยดี ข้าจะฆ่าครอบครัวของตากับยายเจ้าก่อน!”

เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดว่าท่านเอิร์ลฉางเซิ่งจะไม่หลงกล

ดังนั้น เขาจึงกวาดมองไปรอบๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยชา“หลังจากที่พ่อแม่ฉันเสียชีวิต นอกจากพวกที่ก่อกรรมทำชั่วที่ฉันเกลียดแล้ว คนอีกสองกลุ่มที่ฉันเกลียด ท่านรู้ไหมว่าคือสองกลุ่มไหน ?”

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งขมวดคิ้วและถามว่า“สองกลุ่มไหน?”

เย่เฉินพูดเสียงเรียบ“กลุ่มหนึ่งคือ ครอบครัวของปู่ฉัน ”

พูดจบ เย่เฉินหันมองไปยังคนเป็นตาของตัวเองที่น้ำตานองหน้า พูดเสียงเย็นเยือกว่า“อีกกลุ่มหนึ่ง ก็คือครอบครัวของตาฉัน!”

เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของคุณท่านอานก็เศร้าหมองในทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ

ส่วนท่านเอิร์ลฉางเซิ่งในตอนนี้ก็พูดอย่างดูแคลนว่า“ไอ้หนู เจ้าอย่ามาหลอกข้าซะให้ยากเลย พวกเขาเป็นญาติที่ใกล้ชิดที่สุดของเจ้า เจ้าจะไปเกลียดพวกเขาได้ยังไง?!”

เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา“ญาติที่ใกล้ชิดที่สุด?ท่านรู้ไหม หลังจากที่ท่านฆ่าพ่อแม่ของฉันไปแล้วกว่ายี่สิบปีนี้ ฉันไปอยู่ที่ไหน ?”

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งขมวดคิ้วและถามว่า “ไปอยู่ที่ไหน?”

คนของตระกูลอานในเวลานี้ต่างก็จ้องมองมาที่เย่เฉิน พวกเขาก็อยากจะรู้ ว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา เย่เฉินไปอยู่ที่ไหน !

เย่เฉินในตอนนี้ชี้ไปที่พื้นดิน แล้วพูดเสียงดัง“ยี่สิบปีที่ผ่านมา ฉันอยู่ที่เมืองจินหลิง!ฉันอยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตมายี่สิบปี!”

“จะเป็นไปได้ยังไง?!”ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งขมวดคิ้วแล้วพูดว่า“หลังจากที่พ่อกับแม่ของเจ้าตาย ไม่เพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่ตามหาตัวเจ้า พวกเราเองก็ตามหาเช่นกัน หาไปทั่วทั้งเมืองจินหลิง แต่ก็ไม่พบเจอร่องรอยใดๆของเจ้าเลย!”

เย่เฉินยิ้มและพูดว่า“ไม่เจอ เพราะพ่อแม่ของฉันท่านได้เตรียมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหนึ่งไว้ให้ หลังจากที่เกิดเรื่อง ฉันก็ใช้ชีวิตอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่น ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง”

คนของตระกูลอานหลังจากที่ได้ยินคำนี้ก็ตกใจอย่างมากเช่นกัน

แม้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า พวกเขาจะเพิ่งคาดเดาได้กับข้อสงสัยที่มีเกี่ยวกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่พวกเขายังคงไม่อยากจะเชื่อ ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา เย่เฉินไม่ได้ไปไหนเลย ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองจินหลิงมาโดยตลอด

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งผงะไปชั่วครู่ อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ“เย่ฉางอิง ช่างเป็นคนเหนือคนจริงๆ เรื่องนี้ แม้แต่ผู้มีพระคุณเองก็ยังคิดไม่ถึง……”

พูดจบ เขาก็ยิ้มเยาะอีกครั้งแล้วพูดว่า“แต่ว่าที่เจ้าพูดมาก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับข้า ข้าต้องการแค่แหวนที่นิ้วของเจ้าเท่านั้น!ส่งแหวนมา ข้าสามารถให้พวกเจ้าไม่ต้องระทมทุกข์ได้ !”

  

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *