ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 5691 ทักษะการพูดโม้มีมาแต่เกิด(1)

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter บทที่ 5691 ทักษะการพูดโม้มีมาแต่เกิด(1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5691 ทักษะการพูดโม้มีมาแต่เกิด(1)

ตอนที่เย่เฉินกลับไปถึงTomson Riviera เซียวฉางควนกำลังเถียงกับหม่าหลัน

เขาหยิบกระบอกกลมที่มีรูปเหมือนของเมิ่งฉางเชิง แล้วก็ได้ยินเซียวฉางควนบ่นว่า:“คุณบอกว่าวัน ๆ คุณไม่ได้ทำอะไร แม้แต่อาหารเช้าก็ไม่ทำ ไม่อยากทำอาหารก็ไม่ต้องทำ แต่สั่งอาหารน่ะ สั่งอาหารเพิ่มอีกชุดหน่อยสิ คุณสั่งของคุณเองแล้วกินจนอิ่ม ไม่เหลือให้ผมสักนิด แล้วผมยังต้องรีบไปที่สมาคม จะปล่อยให้ผมหิวไม่ได้หรอกนะ!”

หม่าหลันพูดอย่างมั่นใจว่า:“ไม่ได้ยินหรือไง ทำอะไรด้วยตัวเอง ก็จะสมดั่งใจเอง ทำไมคุณไม่ตื่นเช้ามาทำอาหารให้ฉันกินล่ะ?ยังจะให้ฉันทำให้คุณอีก ฝันหวานไปแล้ว!อีกอย่าง สั่งอาหารน่ะเสียเงินนะ?ถ้าคุณให้เงินฉันเดือนละแสนแปด ฉันจะทำให้คุณกินครบวันละสามมื้อเลย!”

เซียวฉางควนพูดด้วยความโกรธ:“เห็นแก่เงินจริง ๆ เลยนะ!”

พูดจบ ก็ก้าวออกไป

กำลังจะออกจากห้องรับแขก ก็เห็นเย่เฉินเข้ามา จึงรีบถามว่า:“ลูกเขย ทำไมกลับมาไวขนาดนี้?”

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม:“จัดการธุระของลูกค้าใกล้เสร็จแล้ว ก็เลยรีบกลับมาครับ”

พูดไป เย่เฉินก็ถามเขาก่อนว่า:“อ้อพ่อครับ นิทรรศการภาพของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดเป็นอย่างไรบ้าง?”

เซียวฉางควนถอนหายใจ พูดอย่างหดหู่เล็กน้อย:“นิทรรศการยังเตรียมการอยู่ ฝ่ายวัฒนธรรมของจินหลิงของพวกเราก็สนับสนุนอย่างดี ให้ความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก สมาชิกของสมาคมก็ยังหาภาพวาดที่สุดยอดอยู่ ตอนนี้มีการจัดแสดงมากกว่าสามร้อยรายการ”

เย่เฉินยิ้ม:“ดีนี่ ทำไมหน้าบูดล่ะครับ?”

เซียวฉางควนพูดอย่างหดหู่:“พ่อกังวลน่ะ เพราะพวกเขาหาผลงานดี ๆ ได้ แต่พ่อหาไม่ได้ ……พวกเขาอยู่ในวงการนี้มานาน รู้จักนักสะสมบ้าง แค่ไปพูดก็ยืมผลงานมาจัดแสดงได้แล้ว แต่พ่อน่ะสิ จะยืมก็ไม่รู้จะยืมใครดี!พ่อเคยไปหาจางเอ้อเหมา ตอนนี้จางเอ้อเหมาไม่ได้ยุ่งกับพวกภาพคัดลายมือแล้ว เขาทำธุรกิจซื้อขายเป็นหลัก ขายไม้เก่าท่อนหนึ่งก็ได้เงินหลายล้าน หิวเงินมากกว่าแม่แกเสียอีก นอกจากเขาแล้ว พ่อก็ไม่รู้แหล่งเลย……”

พูดถึงตรงนี้ เซียวฉางควนก็บ่นด้วยใบหน้าไม่พอใจ:“สิ่งที่เกลียดที่สุดคือสมาชิกของสมาคมเหล่านั้น พ่อหาผลงานไม่ได้ก็ว่าไปอย่างแล้ว แต่พวกเขาหาได้ทุกวัน เหมือนกับทำข้อตกลง เอามาให้พ่อวิจารณ์ และในนั้นมีเยอะมากที่เป็นผลงานจินหลิงในช่วงปลายราชวงศ์หมิงและต้นราชวงศ์ชิง แต่จินหลิงไม่ได้เป็นที่รู้จักนัก พ่อยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวแทนคือใคร ดังนั้นการรีวิวจึงน่าอาย สองสามวันนี้มีแต่เรื่องตลกเกิดขึ้น”

ตอนนี้เองหม่าหลันออกมาจากร้านอาหาร พูดอย่างเย้ยหยันว่า:“เซียวฉางควน ฉันจะบอกให้เพราะคุณมันไม่เอาไหน!คุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวอักษรโบราณ ยังจะกล้าเข้าร่วมสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดอีก คุณไม่ได้ทำเป็นเนียนว่าทำเป็นหรอกเหรอ?เมื่อก่อนทุกคนเล่นกัน มองข้อด้อยคุณไม่ออกไง ตอนนี้พอให้คุณมาออกหน้า ไม่แปลกหรอกที่คุณจะมีจุดบอด!”

เซียวฉางควนถูกหม่าหลันจี้จุด ก็มองบนใส่เธอ พูดอย่างโมโหว่า:“หม่าหลัน!ผมพูดกับลูกเขยอยู่ เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณกินอิ่มแล้วว่างมากเหรอ?”

หม่าหลันเบะปาก:“ใช่ ฉันกินอิ่มแล้วว่างมาก ใครเพิ่งบอกให้ฉันกินให้เสร็จล่ะ ทำไม มีอะไรเหรอ?”

เซียวฉางควนโบกมืออย่างรำคาญ:“ไปที่เย็น ๆ ดีกว่า ไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว”

หม่าหลันพูดอย่างเหยียดหยามว่า:“ไม่อยากยุ่งหรืออยากยุ่งฉันไม่สน คุณต่างหากที่เกรงว่าจะอยู่ตำแหน่งรองประธานได้ไม่นานแล้ว ทำไมเขาถามความเห็นคุณตลอดล่ะ?นั่นต้องเป็นเพราะเขารู้ว่าคุณเป็นจุดบอด อยากจะเปิดโปงคุณไง!”

สีหน้าเซียวฉางควนยิ่งดูแย่มากขึ้น รีบดึงชายเสื้อของเย่เฉิน พูดเสียงเบา:“ลูกเขย เราไปคุยกันข้างนอกเถอะ!”

เย่เฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ตามเซียวฉางควนมาในลานบ้าน

เซียวฉางควนพูดกับเย่เฉินด้วยใบหน้าเศร้าว่า:“”ลูกเขย สถานการณ์ปัจจุบันของพ่อ โดนกระทำเล็กน้อยจริงๆ……ตอนนี้มีเรื่องซุบซิบในสมาคมมากมาย หลายคนบอกว่าพ่อไม่มีพรสวรรค์และความรู้ที่แท้จริง ได้เป็นรองประธาน เพราะประธานเพ๋ยต่างหาก บอกว่าพ่อใช้เส้น ตอนนี้ประธานเพ๋ยก็โดนกระทำด้วย……”

พูดไป เซียวฉางควนก็ลดเสียงลง พูดต่อว่า:“เมื่อวานประธานเพ๋ยมาหาพ่อเพื่อทานข้าว แอบพูดกับพ่อสองสามคำ หมายความว่าช่วงนี้มีคนขอคำแนะนำจากเขาเยอะมาก แต่ละคนอยากจะเปิดโปงพ่อ ……”

เย่เฉินพยักหน้า ยิ้มไปพูดไป:“พ่อ มันง่ายมาก ครั้งนี้ผมไปดูฮวงจุ้ยให้ลูกค้าพอดี ก็เห็นภาพวาดลูกค้าเยอะมาก แล้วบังเอิญว่าสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดกำลังจะจัดงานนิทรรศการพอดี ผมเลยถามไปว่าเอาภาพพวกนี้ให้คุณยืมได้ไหม”

เซียวฉางควนได้ยิน ถามอย่างตื่นเต้นว่า:“ลูกเขย งั้นลูกค้าคนนั้นว่าไง?ยอมให้เรายืมไหม?”

เย่เฉินพูด:“ลูกค้าของผมมีสถานะพิเศษ คอลเลกชั่นจำนวนมากไม่สะดวกจัดแสดง แต่เขาก็ยังน่าสนใจมาก เมื่อรู้ว่าพ่อตาจะจัดนิทรรศการ จึงเอาภาพวาดออกมา บอกว่าจะบริจาคให้กับนิทรรศการภาพครั้งนี้”

พูดจบ เย่เฉินก็มอบม้วนภาพวาดในมือให้เซียวฉางควน

เซียวฉางควนถามอย่างตกใจ:“จะบริจาคภาพวาดให้กับนิทรรศการภาพวาดเหรอ?!ภาพอะไร?”

เย่เฉินโพล่งไปว่า:“ผมก็ไม่แน่ใจ ภาพวาดนี้ค่อนข้างลึกลับ ไม่มีลายเซ็นของผู้วาด และก็ไม่มีตราประทับ มีแต่ข้อความ คุณลองเปิดดูสิ”

เซียวฉางควนดีใจมาก รีบรับมา แล้วดึงภาพเหมือนนั้น ออกมาจากข้างใน

เซียวฉางควนไม่ใส่ใจที่จะเข้าไปดูในบ้าน เขาเปิดตรงนั้น พูดด้วยความตกใจทั้งที่ถืออยู่ในมือ:“โอ้!ภาพนี้เจ๋งมากจริง ๆ!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *