ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 5757 พันธสัญญาพันปี

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter บทที่ 5757 พันธสัญญาพันปี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5757
“เคยคิด”หลินหว่านเอ๋อร์พูด:“ฉันไปจากสระสวรรค์ ในตอนที่มุ่งหน้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างทางประสบกับความยากลำบากต่าง ๆ หลายครั้งต่างเกือบจะเสียชีวิต ในตอนที่ยากลำบากที่สุด ฉันเคยติดไปต่างๆนานา แต่เมื่อนึกถึงบิดาใช้ชีวิตแลกเปลี่ยนอายุขัยห้าร้อยปีของฉันมา ฉันก็ไม่กล้าแตะต้องความคิดนี้”

“ต่อมาฉันก็เคยคิดมาก่อน แทนที่จะวิ่งไม่หยุด นำเอาแหวนมอบให้อู๋เฟยเยี่ยนไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ ให้เธอหยุดความคิดที่จะตามฆ่าฉันแล้ว ให้ฉันใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขตลอดไปทั้งชีวิต แต่เมื่อมาคิดดูอีกที อู๋เฟยเยี่ยนถือว่าเป็นคู่แค้นที่ฆ่าบิดาของฉัน ถ้าฉันร้องขอการประนีประนอมจากเธอ งั้นฉันจะต่างอะไรกับอู๋ซานกุ้ย ที่ปล่อยให้กองทัพชิงผ่านด่านเข้ามาล่ะ? ต่างนำเอาศัตรูมาเป็นญาติมิตรแล้ว”

พูดไป หลินหว่านเอ๋อร์พูด:“หลังจากคิดทบทวนจนเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ฉันจึงตัดสินใจแล้วว่าต่อให้ยากแค่ไหน ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป;ต่อให้ยากแค่ไหน ก็จะไม่ยอมประนีประนอมต่ออู๋เฟยเยี่ยน ขอเพียงฉันมีชีวิตอยู่ต่อไป ฉันมีชีวิตยืนยาวกว่าอู๋เฟยเยี่ยนอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นฉันก็จะสามารถหัวเราะเป็นคนสุดท้ายได้”

เย่เฉินพูดอย่างมั่นใจ:“วางใจเถอะ คุณจะมีชีวิตยืนยาวกว่าเธออย่างแน่นอน”

หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า พูดอย่างจริงจัง:“คุณชายมีชีวิตยืนยาวกว่าฉันอย่างแน่นอน หลังจากฉันตายไป รบกวนคุณชายนำเอาเถ้ากระดูกของฉันฝังเอาไว้ที่ข้างหลุมศพของบิดามารดา ทั้งชีวิตนี้ฉันก็พึงพอใจแล้ว”

เย่เฉินพูดอย่างจริงจัง:“คุณวางใจเถอะ ถ้าผมสามารถหายาวงเวียนพันจักร มาได้อีกทั้งวิธีในการบำเพ็ญ ผมจะให้คุณเป็นเหมือนดั่งบรรพอาจารย์เมิ่ง มีชีวิตอยู่ถึงพันปี”

หลินหว่านเอ๋อร์หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น ส่ายหน้าตามสัญชาตญาณพูดออกมา:“มีชีวิตอยู่สี่ร้อยปีก็ทุกข์ทรมานพอแล้ว หนึ่งพันปี ฉันไม่กล้าคิดเลย คุณชายต่อให้หายาวงเวียนพันจักรออกมาได้ ฉันก็จะไม่ทานอีกแล้ว……”

เย่เฉินได้ฟังคำพูดนี้ ไม่เพียงใช้ดวงตาอันเป็นประกายมองหลินหว่านเอ๋อร์แวบหนึ่ง มองเห็นสีหน้าของเธอที่แฝงไปด้วยความโดดเดี่ยวอยู่บ้าง ในใจยากที่จะไม่ถอดถอนใจ

เขาทราบ หลินหว่านเอ๋อร์ผ่านไปสามร้อยปีนี้ คงได้รับความลำบากอย่างที่คนธรรมดาไม่เคยเจออย่างแน่นอน คนต่างพูดกันว่าคนที่มีชีวิตอยู่นาน สะพานที่เคยข้ามมากกว่าที่คนธรรมดาเคยเดินอยู่มาก แต่สำหรับหลินหว่านเอ๋อร์ ความลำบากที่เธอเคยผ่านมา เกรงว่ามากกว่าที่หลายคนเคยได้ฟัง ได้เห็นแล้ว ต่างมากกว่ามาก

จากนั้น เขาจึงเอ่ยปากปลอบใจ:“ถ้าไม่มีอู๋เฟยเยี่ยนแล้ว คงมีชีวิตอยู่อย่างไม่ลำบากแล้ว”

หลินหว่านเอ๋อร์ส่ายหน้าติดต่อกัน:“งั้นก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกห้าร้อยปีแล้ว เพียงพอแล้ว”

เย่เฉินตะลึงงันเล็กน้อย แต่ในใจของเขากลับนึกคิดว่า ตัวเองจะต้องหายาวงเวียนพันจักรออกมาก่อนที่หลินหว่านเอ๋อร์จะถึงห้าร้อยปี เมื่อถึงเวลานั้นหลังจากบำเพ็ญสำเร็จ จะต้องมอบให้หลินหว่านเอ๋อร์หนึ่งเม็ดในทันที

ไม่เพียงเพราะว่าเด็กสาวคนนี้สี่ร้อยปีที่ผ่านมามีชีวิตอยู่อย่างลำบากมากเกินไป และก็เพราะว่าเธอเคยช่วยชีวิตตัวเอง

ทว่าในจิตใต้สำนึกของเย่เฉิน ก็มีเสียงหนึ่งเคยเตือนสติตัวเองซ้ำๆ ไม่ว่าอย่างไร จะต้องให้หลินหว่านเอ๋อร์มีชีวิตอยู่อย่างคนปกติ ให้เธอมีเวลาในชีวิตที่เพียงพอ ไปรักษาประสบการณ์ที่ผ่านมาสามร้อยปี

หลินหว่านเอ๋อร์ไม่ทราบสิ่งที่เย่เฉินคิดอยู่ภายในใจ เธอรู้สึกว่า ในขณะนี้หัวข้อการสนทนาค่อนข้างหนักหน่วง เธอเดิมทีคิดว่าอยากจะทำให้บรรยากาศครึกครื้นเสียหน่อย แต่เมื่อมาคิดดู บรรยากาศถูกตัวเองทำให้เป็นเช่นนี้แล้ว ในเวลานี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

ทว่าเย่เฉินในเวลานี้ ก็กำลังคิดอยากจะเปลี่ยนหัวข้อมาผ่อนคลายบรรยากาศสักหน่อย บังเอิญเหลือบไปเห็นป้ายบอกทางริมถนน จึงพูดกับหลินหว่านเอ๋อร์ว่า:“ใกล้จะถึงโซโรเร็วๆนี้แล้ว”

หลินหว่านเอ๋อร์มองไปยังป้ายบอกทาง มองเห็นด้านบนเขียนเอาไว้ว่าโซโรยังเหลือระยะทางอีกสิบกิโลเมตร ทันใดนั้นก็ปลื้มปีติอย่างมากพูดออกมาว่า:“ในที่สุดก็ใกล้ถึงแล้ว”

พูดไป เธอก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของเครื่องบินลำนั้นของอู๋เฟยเยี่ยนสักหน่อย ยิ้มแย้มพูดออกมา:“อู๋เฟยเยี่ยนเมื่อสักครู่พึ่งจะขึ้นบินจากเมลเบิร์น เส้นทางการบินลำดับที่สองของเธอไม่มีการเปลี่ยนแปลง จุดมุ่งหมายคือเมียนมามัณฑะเลย์”

เย่เฉินพยักหน้า ถามเธอ:“คุณคิดว่าความเป็นไปได้ที่เธอจะมาโซโรมีมากเท่าไหร่?”

หลินหว่านเอ๋อร์พูด:“หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์”

เย่เฉินถาม:“ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น?”

หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มแย้ม พูดอธิบาย:“อู๋เฟยเยี่ยนเป็นคนที่มีอีโก้มาก ตามที่ฉันรู้จักเธอ ในตอนนั้นบิดาปฏิเสธความหวังดีของเธอซ้ำแล้วซำ้เล่า คิดๆดูหลายปีมานี้เธอก็ไม่สามารถปล่อยวางลงได้ เธอครั้งนี้กระนั้นเดินทางไปถึงเมียนมา ก็จะต้องมาโซโรอย่างแน่นอน!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *