คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์บทที่ 1939
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1939
ขั้นสูงสุดของศาสตร์การบ่มเพาะก็คือการบรรลุถึงความสมดุลของหยินและหยาง
ช่วงเวลากลางวันนั้นถือว่าเป็นเวลาของพลังหยางในตารางของหยินหยาง
พระอาทิตย์ส่งแสงสาดส่องเจิดจ้าในยามกลางวัน แสงอาทิตย์ที่แผดเผานั้นนับว่าเป็นพลังหยาง
โดน็อกจึงไม่สามารถจะควบคุมขวานแยกนภาได้ดีเท่าไรในช่วงกลางวันเพราะว่ามันจะดูดซับพลังหยางมากจนเกินไป
แต่ว่าเมื่อถึงกลางคืนทุกอย่างก็จะสงบลงเพราะว่าโลกใบนี้จะเต็มไปด้วยพลังหยินในเวลานั้น ขวานแยกนภาก็จะซึมซับพลังหยินจากโลกและเมื่อโดน็อกใช้ขวานในเวลานั้น ก็สามารถทำให้เขาควบคุมพลังหยางที่มีอยู่ในขวานแยกนภาได้ดีเพราะว่ามันอยู่ในจุดที่หยินและหยางสมดุลกัน
‘แบบนี้นี่เองสินะ…’
แดร์ริลอดยิ้มไม่ได้เมื่อคิดเรื่องนี้ เขานั้นมีทักษะในเรื่องของศาสตร์หยินหยางและสามารถขบปัญหานี้แตกได้ทันที
‘ฮ่าฮ่า จุดอ่อนของขวานแยกนภาก็คือเรื่องนี้เอง’
ไม่แปลกใจว่าทำไมโดน็อกถึงไม่เอาขวานแยกนภาออกมาใช้ในช่วงกลางวันจนกระทั่งตอนที่เขากำลังจะเผ่นหนีไป
นี่มันยอดเยี่ยมมาก เขาจะมีหนทางที่จะรับมือกับโดน็อกครั้งต่อไปที่เผชิญหน้ากันหลังจากที่ได้รู้ความลับนี้แล้ว
แดร์ริลนั้นดื่นเต้นและอารมณ์ดีมาก เขาโบกมือให้พวกนางสนม “โอเค แค่นี้แหละ พวกเธอกลับไปพักกันได้แล้ว”
“เพคะ ฝ่าบาท” บรรดาเหล่าสนมตอบรับทันทีก่อนที่จะออกจากห้องบรรทมไป
แดร์ริลเองก็เอนกายลงนอนพักหลังจากที่เห็นพวกสนมออกไปแล้ว
เขาหลับสนิทมากในคืนนั้นหลังจากที่ได้รู้ความลับของขวานแยกนภา
“ฝ่าบาท”
เช้าวันต่อมา ขันทีก็มายืนอยู่นอกห้องบรรทมและเรียกเขาอย่างระมัดระวัง “ฝ่าบาท ได้เวลาตื่นบรรทมแล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
แดร์ริลลุกขึ้นอย่างง่วงงุนและขยี้ตา รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
‘บ้าเอ๊ย’
เขาเป็นถึงจักรพรรดิแล้วแต่ก็ยังขอนอนสบาย ๆ ไม่ได้หรือไงกัน?
อึดใจต่อมาแดร์ริลก็ถามห้วน ๆ ว่า “มีเรื่องอะไรแต่เช้า?”
ขันทีเช็ดเหงื่อเย็นออกและรีบตอบว่า “ฝ่าบาท คณะฑูตของโลกใต้เมฆีมาขอเข้าเฝ้าและตอนนี้รออยู่ที่ตำหนักตะวันม่วงพ่ะย่ะค่ะ”
‘คณะฑูตของโลกใต้เมฆีเหรอ?’
แดร์ริลอึ้งไปพักหนึ่งก่อนที่จะถาม “ใครเป็นผู้นำของคณะฑูต?”
‘โลกใต้เมฆีและเวสต์ริงตันดูเหมือนจะเป็นพันธมิตรกันสินะ?’
เขาจำได้ชัดเจนว่าเขาเคยปลอมเป็นขันทีเมื่อสิบปีก่อนและเข้าไปสอดแนมในพระราชวังโลกใต้เมฆีเพื่อเอาแก่นแท้ของมังกรกลับมา ตอนนั้นเวสต์ริงตันก็ส่งฑูตไป ฉากหน้าก็เพื่อที่จะเข้าคารวะจักรพรรดินีของโลกใต้เมฆี แต่เจตนาก็คือเพื่อจะข่มขวัญดินแดนนั้น พวกเขาคิดปัญหายากเย็นแสนเข็ญขึ้นมาให้เสนาบดีของโลกใต้เมฆีต้องแก้ไข เหมือนการร้อยด้ายแดงด้วยมด
ตอนนั้นต้องขอบคุณที่แดร์ริลอยู่ที่นั่นและสามารถแก้ปริศนาของฑูตเวสต์ริงตันได้อย่างง่ายดาย เขาทำให้ภาพพจน์ของโลกใต้เมฆีดีขึ้นมากและเวสต์ริงตันก็ไม่กล้าดูถูกอีกต่อไป ต่อมาทั้งสองทวีปก็ตกลงเซ็นสัญญาสงบศึกกัน
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นมานานกว่าสิบปีแล้ว แต่แดร์ริลมีความทรงจำดีและยังรู้สึกราวกับว่าเพิ่งเกิดเรื่องนี้ขึ้นเมื่อวาน
ขันทีตอบ “ฝ่าบาท ผู้นำของคณะฑูตของโลกใต้เมฆีก็คือองค์หญิงลองก์พ่ะย่ะค่ะ”
อะไรนะ?
แดร์ริลอึ้งงันไป ภาพของคนที่มีบุคลิกเย็นชาราวน้ำแข็งก็ปรากฏขึ้นในหัวเขา
‘องค์หญิงลองก์ ควินซี่ ลองก์เหรอ? ทำไมถึงเป็นเธอได้?’
ก่อนหน้านี้ที่สุสานโบราณของลิโป้ แดร์ริลโดนควินซี่บังคับให้มอบสูตรค่ายกลให้เธอและเขาก็มอบอันที่ผิดพลาดไปให้ ซึ่งทำให้เธอธาตุไฟเข้าแทรก ตอนนั้นพวกเขาก็ไปเจอเข้ากับจักรพรรดินีของโลกใต้เมฆีที่เข้าใจผิดว่าพวกเขามีสัมพันธ์สวาทกัน พระนางจึงแต่งตั้งให้เขาเป็นราชบุตรเขยเพื่อรักษาชื่อเสียงของราชวงศ์
ตอนนั้นควินซี่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมตกลง แต่ว่าเธอไม่เต็มใจและก็ไม่เคยมองเห็นว่าแดร์ริลเป็นราชบุตรเขยเลย
แต่ในใจของแดร์ริลก็ปฏิบัติต่อเธอแบบที่เธอเป็นผู้หญิงของเขา ดังนั้นแดร์ริลจึงตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าควินซี่มาเยือน
Comments