คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์บทที่ 1940
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1940
”ทำไมคณะฑูตของโลกใต้เมฆีถึงมาได้?” แดร์ริลถาม
ตอนนี้เขาเป็นจักรพรรดิของเวสต์ริงตันดังนั้นเขาจึงต้องถามถึงเจตนาในการมาของโลกใต้เมฆี
ขันทีคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนตอบว่า “ฝ่าบาท โลกใต้เมฆีน่าจะส่งคณะฑูตมาเพื่อจะต่อสัญญาสงบศึกที่เราเคยทำไว้”
แดร์ริลอึ้งไป ‘นี่ไม่ถูกต้อง โลกใต้เมฆีและเวสต์ริงตันเซ็นสัญญาพันธมิตรสงบศึกไปยาวนานกว่าสิบปีไม่ใช่เหรอ?’
“ฝ่าบาท”
จากนั้นขันทีก็อธิบายให้แดร์ริลที่ยังงุนงงฟังต่อ “ฝ่าบาท พระองค์ควรได้ทราบว่าสัญญานั้นถูกระงับไปเมื่อตอนที่โดน็อกสังหารจักรพรรดิองค์ก่อน อีกอย่างจักรพรรดิองค์ใหม่ก็หมายถึงอาณาจักรใหม่”
ขันทีมองสีหน้าของแดร์ริลเปลี่ยนไปมาและพูดต่ออย่างระมัดระวังว่า “ก็คือการเซ็นสัญญาพันธมิตรสงบศึกกันใหม่นั้นเป็นเจตนาของโดน็อก แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้เป็นจักรพรรดิอีกแล้ว เพราะว่าพระองค์เป็นจักรพรรดิปัจจุบันของเวสต์ริงตัน ดังนั้นพระองค์ทรงมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะทรงลงพระนามกับโลกใต้เมฆีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“โอ้”
แดร์ริลสูดหายใจเฮือกเมื่อได้ยินดังนั้นและดวงตาก็มืดครึ้ม
หลังจากที่เสียเวลาทำความเข้าใจอยู่ครึ่งค่อนวัน ก็กลายเป็นว่าโลกใต้เมฆีนั้นอยากจะเซ็นสัญญาสงบศึกกับโดน็อก แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าโดน็อกจะไม่ได้เป็นจักรพรรดิของเวสต์ริงตันแล้วแต่ว่ากลับเป็นเขาแทน
ตอนนั้นขันทีก็พูดอย่างระแวดระวังว่า “ฝ่าบาท คณะฑูตของโลกใต้เมฆียังไม่รู้ว่าท่านยึดบัลลังก์ของโดน็อกมาแล้ว หากว่าท่านไม่อยากเซ็นสัญญากับพวกเขา กระหม่อมจะไปบอกให้พวกเขากลับไป”
“ไม่ต้อง”
แดร์ริลส่ายหน้าและยิ้ม “การมีพันธมิตรเป็นเรื่องที่ดี ทำไมเราต้องปฏิเสธพวกเขาด้วยล่ะ?”
จากนั้นเขาก็ยิ้มและถามว่า “นายเพิ่งบอกว่าพวกโลกใต้เมฆียังไม่รู้ว่าโดน็อกไม่ได้เป็นจักรพรรดิแล้วอย่างนั้นใช่ไหม?”
ขันทีส่ายหน้าและพูดอย่างรู้สึกผิด “พ่ะย่ะค่ะ พวกเขาไม่รู้ กระหม่อมเพิ่งได้ข่าวว่าพวกเขาเดินทางมาถึง ดังนั้นจึงรีบเข้ามากราบทูลให้พระองค์ทรงทราบ กระหม่อมยังไม่มีเวลาไปแจ้งพวกเขาว่าเวสต์ริงตันได้เปลี่ยนองค์จักรพรรดิแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
แดร์ริลพยักหน้า “อืม เราเข้าใจแล้ว ไม่ต้องไปบอกพวกเขาหรอก ออกไปได้แล้ว”
ขันทีขานรับและรีบออกไปจากห้องบรรทม
แดร์ริลนั้นไม่รีรอเมื่อเห็นว่าขันทีจากไป เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและมุ่งหน้าไปที่ตำหนักสุริยาอินทนิล
แดร์ริลไม่ได้ใส่ชุดคลุมมังกรแต่ว่าแต่งตัวสบาย ๆ แทน
‘ฮ่าฮ่า…’
แดร์ริลนั้นอารมณ์ดีมากขณะที่เขาเดินมุ่งหน้าไปที่ตำหนักสุริยาอินทนิล
ที่จริงเขาก็ค่อนข้างคิดถึงเธอเพราะว่าเขาไม่ได้เจอควินซี่มานานแล้ว
อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นเคยดูถูกเขาและคิดว่าเขาไม่คู่ควรกับเธอ ตอนนี้เขาต่างไปจากเมื่อก่อนเพราะว่าเขาเป็นถึงจักรพรรดิแห่งเวสต์ริงตันในตอนนี้และอยากจะเห็นว่าควินซี่จะยังจองหองอยู่ได้ไหม
แดร์ริลอยากรู้ปฏิกิริยาของควินซี่เมื่อเธอได้รู้ว่าเขาเป็นจักรพรรดิของเวสต์ริงตัน
ไม่นานแดร์ริลก็มาถึงตำหนักสุริยาอินทนิล
เฮือก
แดร์ริลอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้เห็นเมื่อเขาเข้าไปและไม่สามารถละสายตาได้
เขาได้เห็นร่างแน่งน้อยงดงามที่หันหลังให้กับทางเข้า กำลังชื่นชมภาพเขียนและภาพอักษรที่แขวนอยู่
เธอคือควินซี่ ลองก์
วันนี้ควินซี่ใส่ชุดยาวสีม่วงพร้อมเครื่องประดับลูกปัดบนศีรษะ เธอดูเรียบง่ายแต่ก็สง่างาม โดยเฉพาะเรือนร่างที่มีสัดส่วนโค้งเว้าซึ่งชายใดต่างก็ต้องลุ่มหลง
ว่ากันว่าควินซี่นั้นสวยดุจนางฟ้านางสวรรค์ ตอนนี้เธอยิ่งมีเสน่ห์และเย้ายวนมากขึ้นหลังจากที่ไม่ได้เจอเธอมาพักใหญ่
“โอ้”
แดร์ริลตั้งสติได้หลังจากที่ต้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง เขายิ้มและเดินเข้าไป
ควินซี่ไม่รู้ว่าแดร์ริลอยู่ที่นั่นเพราะว่าเธอหันหลังให้กับทางเข้าขณะที่กำลังชื่นชมภาพวาดและภาพอักษร
แดร์ริลเดินเข้าไปหาเธอพร้อมรอยยิ้มและบอกว่า “แหม นี่องค์หญิงลองก์ไม่ใช่เหรอ? ไม่ได้พบกันนานเลยนะ”
“ฝ่า-”
ควินซี่สะท้านและพูดเมื่อได้ยินเสียง เพราะเธอคิดว่าโดน็อกมาถึงแล้ว แต่เธอเพิ่งพูดออกมาได้คำเดียวเมื่อเห็นแดร์ริลและอึ้งงันไปจนพูดไม่ออก
‘แดร์ริล ดาร์บี้เหรอ?’
Comments