ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2661

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2661 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“โอเค”

เย่เฉินและเฉินจื๋อข่ายมาที่สำนักงานของเขาด้วยกัน เฉินจื๋อข่ายเป็นคนที่เปิดประตู ขณะนี้หญิงวัยกลางคนอายุสี่ห้าสิบปี ที่มีแขนข้างเดียวนั่งอยู่บนโซฟาในสำนักงาน

ผู้หญิงคนนี้คือเหออิงซิ่วซึ่งเป็นแม่ของซูรั่วหลี

เหออิงซิ่วเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมจากตระกูลใหญ่ที่มีฐานะในสมัยนั้น หน้าตาของเธอสวยเป็นอันดับต้น ๆ ประกอบกับการที่เธอฝึกศิลปะการต่อสู้มาหลายปี ทำให้เธอมีรูปร่างสัดส่วนดี เพียงแต่เธอแขนขาดไปข้างหนึ่งซึ่งดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยสมดุลเล็กน้อย

เมื่อเหออิงซิ่วเห็นเย่เฉินและเฉินจื๋อข่ายเดินเข้ามา เธอก็รีบลุกขึ้นยืน และแสดงท่าทางที่ค่อนข้างระมัดระวัง

ตามความคิดของเธอ เพราะอย่างไรเสียอีกฝ่ายคือคุณชายของตระกูลเย่ ซึ่งมีสถานะสูงส่ง แต่ตนเองเป็นเพียงสมาชิกของตระกูลศิลปะการต่อสู้ และยังเป็นคนพิการอีกด้วย ดังนั้นเธอจึงมีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเล็กน้อย

ทันทีที่เย่เฉินเดินเข้ามาในห้อง เขายิ้มแล้วเดินไปหาเธอ และกล่าวว่า “สวัสดีครับ คุณน่าจะเป็นคุณผู้หญิงเหอ เหออิงซิ่วใช่ไหม?”

เมื่อเหออิงซิ่วเห็นเย่เฉิน และจากรายละเอียดการที่เฉินจื๋อข่ายเป็นคนที่เปิดประตูให้เขา เธอเดาว่าบุคคลนี้น่าเป็นคุณชายตระกูลเย่

ดังนั้นเธอจึงกล่าวอย่างถ่อมตนว่า “คุณชายเย่ ฉันเป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่โดดเด่นของตระกูลเหอ มิอาจรับความเกรงใจเช่นนี้ของคุณชายเย่ได้……”

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย “คุณผู้หญิงเหออย่ากล่าวเช่นนั้น ในแง่ของอายุแล้ว คุณเป็นผู้อาวุโส และการที่ผมให้เกียรติคุณเป็นเรื่องปกติ”

เหออิงซิ่วไม่คิดว่าเย่เฉินจะไม่ถือมาดของคุณชายใหญ่ ทำให้เธอรู้สึกมีความประทับใจแรกพบเป็นอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น เธอรู้สึกว่าคุณชายใหญ่อายุน้อยที่อยู่ตรงหน้าตนเอง แม้ว่าตนเองจะดูไม่ออกผลการฝึกฝนและทักษะศิลปะการต่อสู้ใด ๆ ของเขาได้ แต่กลับมีความรู้สึกลึก ๆ ที่ไม่อาจคาดเดาได้ และคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนธรรมดาทั่วไป

ดังนั้น เธอจึงถามด้วยความนอบน้อมว่า “คุณชายเย่ ไม่รู้ว่าคุณต้องการพบฉันด้วยธุระอะไร?”

เย่เฉินยิ้มและกล่าวว่า “คุณผู้หญิงเหอเชิญนั่งลงก่อน นั่งคุยกันเถอะ”

“โอเค……” เหออิงซิ่วพยักหน้าและนั่งบนโซฟา

เย่เฉินนั่งตรงข้ามเธอและกล่าวว่า “ได้ยินว่าตระกูลของคุณนั้นเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน?”

เหออิงซิ่วรีบกล่าวว่า “คุณชายเย่ พวกเราตระกูลเหอฝึกศิลปะการต่อสู้มาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่ถือว่ามีชื่อเสียงมากนัก อย่างไรก็ตาม ในประเทศจีนมีหลายตระกูลที่เก่งแต่ไม่เปิดเผยตัว และมีความสามารถมากกว่าพวกเราตระกูลเหอไม่น้อย”

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณผู้หญิงเหอไม่ต้องถ่อมตนขนาดนั้น เท่าที่ผมรู้ ตระกูลเหอเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลศิลปะการต่อสู้ที่สำคัญของประเทศจีน การที่สามารถอยู่ในสี่อันดับแรก ก็สามารถพิสูจน์แล้วว่าชื่อเสียงดังกล่าวไม่จอมปลอมแน่นอน”

เหออิงซิ่วยิ้มจาง ๆ และกล่าวว่า “เดิมทีตระกูลศิลปะการต่อสู้นั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษ พูดตามตรงก็ยังต้องอาศัยตระกูลชั้นสูง มิฉะนั้น หากตระกูลอย่างพวกเราไม่มีเงินสนับสนุนจากตระกูลชั้นสูง เกรงว่าลูกหลานของตระกูลอาจจะไม่มีเงื่อนไขในการฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยซ้ำ”

หลังจากนั้น เธอมองไปที่เย่เฉินและถามด้วยความสงสัยว่า “คุณชายเย่ คุณเจาะจงต้องการพบฉัน ไม่รู้ว่ามีธุระอะไร? หรือว่าตระกูลเย่สนใจที่จะร่วมงานกับตระกูลเหอ?”

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าผมอยากร่วมงานกับคุณผู้หญิงเหอและตระกูลเหอ แต่ผมไม่ได้เป็นตัวแทนของตระกูลเย่ แต่ผมเป็นตัวแทนของตนเอง”

เหออิงซิ่วมึนงงเล็กน้อย คุณชายแห่งตระกูลเย่กล่าวว่าเขาไม่ได้เป็นตัวแทนของตระกูลเย่ หรือว่าเขาสร้างธุรกิจของตนเองขึ้นมา?

ขณะนี้ เย่เฉินกล่าวอีกครั้งว่า “อย่างไรก็ตาม คุณผู้หญิงเหอ ที่ผมเชิญคุณมาคราวนี้ เหตุผลหลักคือเพราะผมต้องการให้คุณมาพบเพื่อนเก่าคนหนึ่ง สำหรับเรื่องการร่วมงานกันนั้น พวกเราสามารถปรึกษาวางแผนในระยะยาวได้”

“เพื่อนเก่า?!” เหออิงซิ่วถามด้วยความประหลาดใจ “คุณชายเย่ ไม่รู้ว่าเพื่อนเก่าที่คุณกำลังพูดถึงคือใคร?”

เย่เฉินยิ้มและกล่าวว่า “คุณผู้หญิงเหอไม่ต้องใจร้อน อีกสักครู่เมื่อเธอมาถึง คุณก็จะรู้เองว่าเป็นใคร?”

หลังจากกล่าวจบ เขาขยิบตาเป็นสัญญาลักษณ์ให้เฉินจื๋อข่ายและกล่าวว่า “เหล่าเฉิน ไปเชิญคนมาเถอะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2661

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2661 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“โอเค”

เย่เฉินและเฉินจื๋อข่ายมาที่สำนักงานของเขาด้วยกัน เฉินจื๋อข่ายเป็นคนที่เปิดประตู ขณะนี้หญิงวัยกลางคนอายุสี่ห้าสิบปี ที่มีแขนข้างเดียวนั่งอยู่บนโซฟาในสำนักงาน

ผู้หญิงคนนี้คือเหออิงซิ่วซึ่งเป็นแม่ของซูรั่วหลี

เหออิงซิ่วเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมจากตระกูลใหญ่ที่มีฐานะในสมัยนั้น หน้าตาของเธอสวยเป็นอันดับต้น ๆ ประกอบกับการที่เธอฝึกศิลปะการต่อสู้มาหลายปี ทำให้เธอมีรูปร่างสัดส่วนดี เพียงแต่เธอแขนขาดไปข้างหนึ่งซึ่งดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยสมดุลเล็กน้อย

เมื่อเหออิงซิ่วเห็นเย่เฉินและเฉินจื๋อข่ายเดินเข้ามา เธอก็รีบลุกขึ้นยืน และแสดงท่าทางที่ค่อนข้างระมัดระวัง

ตามความคิดของเธอ เพราะอย่างไรเสียอีกฝ่ายคือคุณชายของตระกูลเย่ ซึ่งมีสถานะสูงส่ง แต่ตนเองเป็นเพียงสมาชิกของตระกูลศิลปะการต่อสู้ และยังเป็นคนพิการอีกด้วย ดังนั้นเธอจึงมีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเล็กน้อย

ทันทีที่เย่เฉินเดินเข้ามาในห้อง เขายิ้มแล้วเดินไปหาเธอ และกล่าวว่า “สวัสดีครับ คุณน่าจะเป็นคุณผู้หญิงเหอ เหออิงซิ่วใช่ไหม?”

เมื่อเหออิงซิ่วเห็นเย่เฉิน และจากรายละเอียดการที่เฉินจื๋อข่ายเป็นคนที่เปิดประตูให้เขา เธอเดาว่าบุคคลนี้น่าเป็นคุณชายตระกูลเย่

ดังนั้นเธอจึงกล่าวอย่างถ่อมตนว่า “คุณชายเย่ ฉันเป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่โดดเด่นของตระกูลเหอ มิอาจรับความเกรงใจเช่นนี้ของคุณชายเย่ได้……”

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย “คุณผู้หญิงเหออย่ากล่าวเช่นนั้น ในแง่ของอายุแล้ว คุณเป็นผู้อาวุโส และการที่ผมให้เกียรติคุณเป็นเรื่องปกติ”

เหออิงซิ่วไม่คิดว่าเย่เฉินจะไม่ถือมาดของคุณชายใหญ่ ทำให้เธอรู้สึกมีความประทับใจแรกพบเป็นอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น เธอรู้สึกว่าคุณชายใหญ่อายุน้อยที่อยู่ตรงหน้าตนเอง แม้ว่าตนเองจะดูไม่ออกผลการฝึกฝนและทักษะศิลปะการต่อสู้ใด ๆ ของเขาได้ แต่กลับมีความรู้สึกลึก ๆ ที่ไม่อาจคาดเดาได้ และคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนธรรมดาทั่วไป

ดังนั้น เธอจึงถามด้วยความนอบน้อมว่า “คุณชายเย่ ไม่รู้ว่าคุณต้องการพบฉันด้วยธุระอะไร?”

เย่เฉินยิ้มและกล่าวว่า “คุณผู้หญิงเหอเชิญนั่งลงก่อน นั่งคุยกันเถอะ”

“โอเค……” เหออิงซิ่วพยักหน้าและนั่งบนโซฟา

เย่เฉินนั่งตรงข้ามเธอและกล่าวว่า “ได้ยินว่าตระกูลของคุณนั้นเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน?”

เหออิงซิ่วรีบกล่าวว่า “คุณชายเย่ พวกเราตระกูลเหอฝึกศิลปะการต่อสู้มาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่ถือว่ามีชื่อเสียงมากนัก อย่างไรก็ตาม ในประเทศจีนมีหลายตระกูลที่เก่งแต่ไม่เปิดเผยตัว และมีความสามารถมากกว่าพวกเราตระกูลเหอไม่น้อย”

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณผู้หญิงเหอไม่ต้องถ่อมตนขนาดนั้น เท่าที่ผมรู้ ตระกูลเหอเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลศิลปะการต่อสู้ที่สำคัญของประเทศจีน การที่สามารถอยู่ในสี่อันดับแรก ก็สามารถพิสูจน์แล้วว่าชื่อเสียงดังกล่าวไม่จอมปลอมแน่นอน”

เหออิงซิ่วยิ้มจาง ๆ และกล่าวว่า “เดิมทีตระกูลศิลปะการต่อสู้นั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษ พูดตามตรงก็ยังต้องอาศัยตระกูลชั้นสูง มิฉะนั้น หากตระกูลอย่างพวกเราไม่มีเงินสนับสนุนจากตระกูลชั้นสูง เกรงว่าลูกหลานของตระกูลอาจจะไม่มีเงื่อนไขในการฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยซ้ำ”

หลังจากนั้น เธอมองไปที่เย่เฉินและถามด้วยความสงสัยว่า “คุณชายเย่ คุณเจาะจงต้องการพบฉัน ไม่รู้ว่ามีธุระอะไร? หรือว่าตระกูลเย่สนใจที่จะร่วมงานกับตระกูลเหอ?”

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าผมอยากร่วมงานกับคุณผู้หญิงเหอและตระกูลเหอ แต่ผมไม่ได้เป็นตัวแทนของตระกูลเย่ แต่ผมเป็นตัวแทนของตนเอง”

เหออิงซิ่วมึนงงเล็กน้อย คุณชายแห่งตระกูลเย่กล่าวว่าเขาไม่ได้เป็นตัวแทนของตระกูลเย่ หรือว่าเขาสร้างธุรกิจของตนเองขึ้นมา?

ขณะนี้ เย่เฉินกล่าวอีกครั้งว่า “อย่างไรก็ตาม คุณผู้หญิงเหอ ที่ผมเชิญคุณมาคราวนี้ เหตุผลหลักคือเพราะผมต้องการให้คุณมาพบเพื่อนเก่าคนหนึ่ง สำหรับเรื่องการร่วมงานกันนั้น พวกเราสามารถปรึกษาวางแผนในระยะยาวได้”

“เพื่อนเก่า?!” เหออิงซิ่วถามด้วยความประหลาดใจ “คุณชายเย่ ไม่รู้ว่าเพื่อนเก่าที่คุณกำลังพูดถึงคือใคร?”

เย่เฉินยิ้มและกล่าวว่า “คุณผู้หญิงเหอไม่ต้องใจร้อน อีกสักครู่เมื่อเธอมาถึง คุณก็จะรู้เองว่าเป็นใคร?”

หลังจากกล่าวจบ เขาขยิบตาเป็นสัญญาลักษณ์ให้เฉินจื๋อข่ายและกล่าวว่า “เหล่าเฉิน ไปเชิญคนมาเถอะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+