ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 4936 ใครกล้า ? ! 3

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter บทที่ 4936 ใครกล้า ? ! 3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.


บทที่ 4935 ใครกล้า ? ! 2

บทที่ 4937 โอกาสแก้แค้น !

เห็นอาการที่เขาได้ถูกพิษแล้ว เย่เฉินเอ่ยเหน็บแนมอย่างเหยียดหยาม : “แสดงความจงรักภักดีให้ผู้มีพระคุณของแกให้เต็มที่เถอะ ถึงทางนั้นก็ไม่ต้องรีบกลับชาติมาเกิด ไม่แน่ว่าใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นัก ฉันก็จะส่งเขาลงไปพบแกเอง ถึงตอนนั้นแกยังสามารถคอยปรนนิบัติให้เขาต่อได้”

ว่าแล้ว จู่ ๆ เย่เฉินตระหนักถึงอะไรได้ เลยเอ่ยอุทาน : “อัยหยา ขอโทษด้วย ฉันลืมไปว่าแกไม่เคยเห็นผู้มีพระคุณคนนั้น ต่อให้ส่งเขาลงไป ก็ไม่แน่ว่าแกจะจำได้”

เย่เฉินในตอนนี้ พูดด้วยใบหน้าจนปัญญา : “เอาแบบนี้แล้วกัน ถึงตอนนั้นฉันจะให้คนแกะสลักคำว่าผู้มีพระคุณเอาไว้บนหน้าผากเขา จะได้สะดวกแกในการจำเขาได้ !”

คนนั้นที่เป็นผู้นำถลึงตาโต จ้องเย่เฉินตาเขม็ง ต่อให้ฝัน ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมเย่เฉินถึงมีความมั่นใจที่จะสามารถกำจัดผู้มีพระคุณได้มากถึงขนาดนี้ !

รู้สึกว่าพิษได้ถึงอวัยวะภายในทั้งหมดของตัวเองแล้ว เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พังทลายมาก ๆ : “แก……แก……เมื่อกี้แก……ทำ……ทำไมไม่……ไม่ถาม……ไม่ถามฉันอีกครั้ง……แก……แกถามฉัน……อีกครั้ง……ฉันก็จะ……ฉันก็จะบอกแกแล้ว……”

เย่เฉินพูดด้วยความเหยียดหยาม : “ฉันขี้เกียจจะพูดจาเหลวไหลกับแก แกไม่เคยเห็นแม้กระทั่งหน้าของผู้มีพระคุณนั่น และออกมาปฏิบัติภารกิจ ยังสวมฟันปลอมที่ใส่ยาพิษไว้เต็มในปากอีกด้วย สามารถมองออกจากสองข้อนี้ได้ แกเป็นเพียงแค่หัวโจ๊กเล็ก ๆ ของขยะในองค์กรนี้ก็เท่านั้น ฉันคิดว่าเจ็ดคนนี้ที่อยู่ข้างแก ก็ไม่แน่ว่าจะรู้น้อยไปกว่าแก หลังจากแกตายไป ฉันยังถามพวกเขาเอาได้ ! ”

คำพูดของเย่เฉินที่เปี่ยมไปด้วยการหยอกล้อและเหน็บแนม ทำให้ผู้บัญชาการคนนั้นเต็มไปด้วยความแค้นใจ

เขาฝืนใช้แรงเฮือกสุดท้าย กัดฟันพูด : “ผู้มีพระคุณ……ผู้มีพระคุณจะต้องแก้แค้นให้ฉันแน่ !”

เย่เฉินหัวเราะหึ พูดด้วยความเหยียดหยาม : “ฉันมองออก แกเองก็มีกำหนดเวลาที่จะทำให้ยาที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตกำเริบในร่าง เหมือนกับทหารหน่วยกล้าตายกลุ่มนั้น ไม่ได้ยาถอนพิษภายในหนึ่งสัปดาห์ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลยใช่ไหม ?”

ผู้บัญชาการคนนั้นได้ยิน ก็มีความตกตะลึงฉายในแววตา

เขาไม่รู้ว่า เย่เฉินมองออกว่ามีสารพิษซ่อนอยู่ในร่างกายของตัวเองได้ยังไง

เย่เฉินไม่ได้สนใจความหวาดผวาของเขา เพียงแต่เอ่ยเหน็บแนมต่อ : “อันที่จริง พวกแกกับทหารหน่วยกล้าตายไม่มีความแตกต่างข้างในอะไรหรอก ต่างเป็นลาที่ดึงโม่ให้ผู้มีพระคุณ ส่วนพวกแกแค่แกร่งกว่าทหารหน่วยกล้าตาย พวกแกไม่ต้องถูกผ้าดำคลุมไว้ที่ตาเหมือนอย่างทหารหน่วยกล้าตายแบบนั้นก็เท่านั้นเอง”

พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินนึกอะไรขึ้นได้กะทันหัน เลยยิ้มเอ่ย : “หากว่าฉันเดาไม่ผิดละก็ พวกแกไม่ก็รุ่นพ่อพวกแก น่าจะปืนขึ้นมาจากทหารหน่วยกล้าตาย ใช่ไหม ?”

“เพราะว่าพวกแกแสดงออกว่าทุ่มเทชีวิตในการทำงานยิ่งกว่า ผู้มีพระคุณเลยเลื่อนขั้นให้พวกแก ให้ตำแหน่งองครักษ์ทหารม้ากล้าที่เรียกกันให้พวกแก ทำให้พวกแกสามารถถอดผ้าดำที่คลุมตาไว้ได้ พวกแกไม่ก็รุ่นพ่อของพวกแกรู้สึกซาบซึ้ง ฮึกเหิมเนื่องจากสิ่งนี้ คิดว่าตัวเองบรรลุผลการก้าวข้ามชนชั้นแล้ว แต่ในความเป็นจริง พวกแกยังคงถูกองค์กรนี้ควบคุมอย่างเข้มงวด นอกจากปฏิบัติภารกิจที่พวกเขามอบให้พวกแก พวกแกไม่มีอิสรภาพใด ๆ เลย ขอเพียงสามารถสู้สุดชีวิตต่อไปได้ ช่วงชิงการก้าวข้ามชนชั้นครั้งต่อไปให้เป็นจริง ถูกไหม ?”

“ให้ฉันเดานะ องครักษ์ทหารม้ากล้าพวกนี้อย่างแกขึ้นไปอีก อาจจะเป็นผู้นำทางอะไรนั่นที่เรียกกัน ถึงตอนนั้น บางทีพวกแกอาจมีโอกาสได้สถานะในสังคมตามสภาพความเป็นจริง จากนั้นถูกจัดไปใช้ชีวิตในสังคมตามสภาพความเป็นจริง วางหมากในระดับลึกของแต่ละเขตแดน แต่ละพื้นที่ให้สำเร็จลุล่วงแทนองค์กรนี้ ถูกไหม ?”

หลังจากคบค้ากับหลี่ญ่าหลินช่วงเวลาหนึ่ง ความสามารถในการวิเคราะห์ตรรกะของเย่เฉินก็พัฒนาขึ้นไม่น้อยเลยเช่นกัน

ก่อนหน้าคืนวันนี้ เขารู้เพียงรูปแบบการปฏิบัติการทหารหน่วยกล้าตายพวกนั้นของห้าสี่เจ็ด

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *