The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 187 การต่อสู้ในท้องงู

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 187 การต่อสู้ในท้องงู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คมวายุหมุนวนรอบดาบสะบั้นวาโย ขณะที่งูมังกรกำลังอ้าปากเตรียมโจมตี เฟิงจี้สิงก็รำดาบปล่อยคลื่นวายุขนาดใหญ่ออกไป นี่เป็นหนึ่งในทักษะอันเลื่องชื่อของเขา…ดาบพายุวินาส!

คลื่นวายุที่ควบแน่นไปด้วยคมมีดสามารถตัดผ่านได้แม้กระทั่งเกราะที่แกร่งที่สุด พายุวินาสโอบล้อมงูมังกรจนเกล็ดของมันสั่นสะเทือน…ทว่ายังทำลายไม่ได้!

“เปรี้ยง!”

งูมังกรกระหน่ำโจมตีกลับทว่าก็โดนเฟิงจี้สิงใช้ดาบปัดป้องได้ เฟิงจี้สิงกระอักเลือดออกมาเมื่อถลาชนเข้ากับมุมกำแพง ถึงกระนั้นเขาก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหลินมู่ได้สำเร็จ…เบี่ยงเบนความสนใจ!

“ฟึบ!”

หลินมู่อวี่รวบรวมปราณยุทธ์และพลังดวงดาราไว้ใต้เท้า เขาใช้ฝีเท้าดาวตกพุ่งขึ้นไปบนหลังงูมังกรและมองหาแผลที่เฟิงจี้สิงเคยบอกไว้ เมื่อหลินมู่อวี่เข้าไปใกล้ งูมังกรก็เงยหน้ามองหลินมู่อวี่ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา

“อาอวี่ข้าจะล่อมันเอง!”

ฉินอินตะโกนมาจากพื้นเบื้องล่างและกำมือซ้ายก้มหน้าตั้งสมาธิ ปราณยุทธ์สั่นไหวเป็นจังหวะพร้อมกับกระบี่ที่เปล่งประกาย “ชิ้ง…” โซ่เทวะเริ่มปรากฏขึ้นรอบตัว กระเพื่อมเป็นจังหวะคล้ายจะเข้…หรือชื่อของนางนั่นเอง! คลื่นเสียงที่เปลี่ยนเป็นพลังงานกระแทกลงกลางหัวของงูมังกร!

“ตู้ม!”

เกราะแกร่งถูกทะลวงด้วยการโจมตีที่มองไม่เห็น!

งูมังกรตกตะลึง มันสะบัดหัวด้วยความเจ็บปวดและพุ่งโจมตีใส่ฉินอิน!

“เปรี้ยง!”

ฉินอินล้มลงกระอักเลือด ดาบหลุดจากมือใบหน้าซีดเผือดจนไม่มีแรงสู้กลับ

ด้วยโอกาสหายากที่ฉินอินสร้างให้ หลินมู่อวี่กระโจนเข้าไปพร้อมกับใช้มือล้วงถุงสรรพสิ่งของตนและควานหาหอกที่เย็นดั่งน้ำแข็ง “ชิ้ง…” ถุงสรรพสิ่งเผยหอกยาวสองเมตรที่อยู่ด้านในออกมา…มันคือทวนหลีฮวา! หลินมู่อวี่จับทวนด้วยสองมือก่อนจะแทงซ้ำลงไปที่แผลลึกของงูมังกร

“ฉึก!”

เลือดสาดกระจายไปทั่ว ทว่าทวนหลีฮวาแทงเข้าไปได้เพียงแค่ส่วนปลายเท่านั้น ไม่สามารถทำลายผิวหนังมันได้ประหนึ่งมีเกราะป้องกันหลายชั้นอยู่ข้างใต้

หลินมู่อวี่กัดฟันกรอดและถอยออกก่อนจะกระโดดขึ้นกลางอากาศพร้อมง้างหมัดทั้งสองข้าง พลังดวงดาราเริ่มควบแน่นรอบหมัด ก่อนจะใช้มันซัดเข้ากับปลายทวนหลีฮวา!

‘สามประทีปทรกรรมชีวี!’

“เปรี้ยง!”

ด้วยการโจมตีอันทรงพลังของพลังสามประทีป ทำให้ด้ามทวนทะลวงเข้าร่างงูมังกรทันที “สวบ!” ปลายทวนหลีฮวาเจาะทะลุจนถึงพื้น

หลินมู่อวี่ไม่เหลือพลังใดๆ อีก การใช้พลังฌานเจ็ดประทีปติดต่อกันสองครั้งนั้นถึงขีดจำกัดแล้ว ทว่าเมื่อเงยหน้ามองก็พบว่าครึ่งบนของงูมังกรยังคงเข้าจู่โจมฉินอินอย่างดุเดือด มันอ้าปากเตรียมเขมือบองค์หญิงทั้งตัว…

หลินมู่อวี่ไม่มีเวลาให้คิดมาก เขารีบกระโจนเข้าไปคว้ามือของฉินอินไว้ได้ ทว่าก็สายไปเสียแล้ว…เพียงพริบตากลิ่นสาบคาวก็คละคลุ้ง ทั่วบริเวณมืดลงทันตาประหนึ่งเขากับฉินอินเข้าไปยังสถานที่อันมืดมิดสักแห่ง ทั้งคู่ถูกงูกิน!

ฉินอินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสค่อยๆ ลืมตาขึ้น แม้จะมองไม่เห็นสิ่งใดทว่าก็รู้สึกได้ถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นของหลินมู่อวี่ที่โอบตนไว้ “อาอวี่…”

หลินมู่อวี่กระชับอ้อมกอด “อย่าเพิ่งลืมตา ในร่างงูมังกรมีพิษ ข้าเกรงว่าตาท่านจะบอดหากโดนมันเข้า ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว…เราแค่ถูกงูกินเท่านั้น…”

พูดง่ายแต่ในใจหลินมู่อวี่นั้นอยากตายเสียจริง

ฉินอินหลับตาซบหน้าลงกับอกหลินมู่อวี่ หลังจากทั้งสองเข้าไปในท้องของงูมังกรก็พบว่าตามทางเดินอาหารนั้นมีหนวดยาวเต็มไปหมด หลินมู่อวี่และฉินอินรู้ว่าส่วนที่ต่อกับทางเดินอาหารคือกระเพาะย่อย หากลื่นลงไปมีหวังได้กลายเป็นอาหารงูแน่นอน

“อึก…”

ไม่นานฉินอินก็ปล่อยมือจากหลินมู่อวี่และหมดสติไปเนื่องจากขาดอากาศหายใจ

หลินมู่อวี่กระวนกระวายใจ เขาจะปล่อยให้ฉินอินตายไม่ได้ มิเช่นนั้นทุกอย่างที่ทำมาจะสูญเปล่า

หลินมู่อวี่ปล่อยปราณยุทธ์สร้างเถาวัลย์น้ำเต้าแทงทะลุเกล็ดงูมังกรออกไปเป็นใบน้ำเต้า ช่วยอากาศภายนอกนอกไหลเข้ามาข้างใน และด้วยการผสมผสานระหว่างจิตวิญญาณและร่างกายทำให้หลินมู่อวี่ดูดอากาศบริสุทธิ์ไว้ ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยของเหลวในกระเพาะและน้ำย่อยของงูมังกร หลินมู่อวี่ยกใบหน้าของฉินอินและประกบริมฝีปากสีแดงของนางพร้อมปล่อยอากาศเข้าไป

ร่างบางของฉินอินสั่นสะท้านก่อนที่จะเข้าใจในที่สุดว่าเกิดอะไรขึ้น หลินมู่อวี่กำลังช่วยชีวิตเธออยู่ ทว่านี่เป็นจูบแรก…

แม้จะเป็นชายที่ตนชอบพออยู่แล้ว ทว่าสถานที่ช่างไม่อำนวยเหลือเกิน…ช่องท้องที่เต็มไปด้วยน้ำย่อย เศษกระดูกและซากศพ แม้กระทั่งร่างของทหารองครักษ์อวี้หลินเองก็อยู่ที่นี่ด้วย เช่นนี้คงเรียกว่าโรแมนติกไม่ได้สินะ…

หญิงสาวที่น่าสงสารต้องมาเสียจูบแรกที่หวงแหนมายี่สิบปีในสถานที่แห่งนี้!

หลินมู่อวี่ไม่รู้ว่าฉินอินคิดสิ่งใดอยู่ กระทั่งถูกลำไส้งูมังกรบีบลงไป…ทั้งคู่กำลังจะถูกย่อย!

หลินมู่อวี่จับมือฉินอินไว้แน่นด้วยมือข้างเดียว ขณะที่อีกข้างพยายามควานหาที่ยึด ทันใดนั้น “กึก” เขาคว้าของบางอย่างคล้ายเหล็กได้…มันคือด้ามทวนหลีฮวา เขารอดแล้ว!

หลินมู่อวี่ใช้พลังปราณยุทธ์ส่งผ่านมือไปก่อนจะใช้จิตสั่งการวิญญาณอสูรที่ถูกหลอมให้ออกมาโจมตี!

“จงออกมากิเลนน้ำแข็ง!”

กิเลนน้ำแข็งอายุหนึ่งหมื่นหนึ่งพันปีออกมาจากทวนหลีฮวาด้วยเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดและข่วนกรงเล็บไปทั่วลำไส้ของงูมังกร แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ช่วยทำลายระบบย่อยอาหารของงูมังกรจนสิ้น ทุกสิ่งรอบตัวถูกแช่แข็ง ช่วยให้หลินมู่อวี่กับฉินอินหยุดไถลตกลงไปในกระเพาะ

หลินมู่อวี่ใช้พลังเกินขีดจำกัดจนแทบหายใจไม่ออก การต่อสู้อันหนักหน่วงนี้ใช้พละกำลังของเขาไปจนสิ้น ทว่าก็ยังมีเรื่องดีที่บริเวณโดยรอบถูกแช่แข็งทำให้มีที่ยึด ฉินอินนอนอยู่ในอ้อมแขนไม่ไหวติง…นางหมดสติไปแล้ว หลินมู่อวี่เผลอหัวเราะกับตัวเองก่อนจะเป็นลมไปพร้อมกับฉินอิน

“เกิดอะไรขึ้น?!”

องครักษ์และทหารยืนถือคบเพลิงกันเป็นกลุ่ม ฉินจิ้นเดินฝ่าฝูงชนเข้าไป เขาประหลาดใจเมื่อเห็นศพของงูมังกรยักษ์และวิญญาณสัตว์อสูรลอยอยู่กลางอากาศ ฉินจิ้นกระวนกระวายพร้อมตะโกนเสียงดัง “เสียวอิน! เสี่ยวอินอยู่ไหน?!”

สาวใช้ต่างก้มหน้าลงและไม่กล้าพูดสิ่งใดออกมา

เฟิงจี้สิงที่เจ็บหนักพูดพึมพำ “องค์หญิงฉินอินกับหลินมู่อวี่ถูกงูมังกรกลืนลงท้องไป หากผ่าท้องมันออกตอนนี้คงยังช่วยพวกเขาทัน เร่งมือเข้า…”

ฉินเหลยร่างโฉกเลือกกระโจนเข้าไปพร้อมดาบอัสนีทลาย เขาพยายามเฉือนเนื้องูมังกรอยู่หลายครา ทว่ากลับถูกสะท้อนกลับด้วยเกล็ดของมัน

ฉินจิ้นกัดฟันแล้วโยนกระบี่ของตนให้ฉินเหลย “อาเหลย ใช้กระบี่ไร้วิญญาณ์!”

กระบี่ไร้วิญญาณ์…อาวุธปราชญ์ระดับหกซึ่งเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหลันเยี่ยน

“ฟึบ!”

ฉินเหลยคว้ากระบี่ไร้วิญญาณ์ไว้และระเบิดเสียงคำรามขณะที่โซ่เทวะปรากฏขึ้นรอบกระบี่จนอาวุธปราชญ์เปล่งแสงเจิดจ้า ด้วยการตวัดดาบของฉินเหลย ต่อหน้าทุกคนเกล็ดงูมังกรถูกตัดออกกลายเป็นหลุมเลือดในทันที

พลังน้ำแข็งด้านในทะลักออกมาแม้กระทั่งเลือดโดยรอบก็ถูกแช่แข็ง เมื่อเฉือนเนื้องูออกก็พบหลินมู่อวี่ที่โอบกอดฉินอินไว้แน่นไถลตลกลงมาบนพื้น ชุดศึกสีขาวกลายเป็นเป็นสีแดงเลือดทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็ง ฉินอินซบหน้าแนบกับอกหลินมู่อวี่ ทั้งคู่ยังคงไม่ได้สติ

“เสี่ยวอิน…” ฉินจิ้นน้ำตาคลอกล่าวด้วยร่างกายสั่นเทิ้ม

“อาอวี่…” ฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนกำหมัดแน่นมองหลินมู่อวี่อย่างเจ็บปวด

ฉินเหลยขมวดคิ้ว “องค์หญิงทรงหายใจอยู่หรือไม่ขอรับฝ่าบาท?”

ฉินจิ้นก้าวไปหมายจะปลุกฉินอินทว่าไม่สามารถทำได้ “ละลายน้ำแข็งแล้วช่วยองค์หญิงเดี๋ยวนี้!”

“ขอรับ!”

ฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนก้าวออกไปทั้งร่างตามไปด้วยบาดแผล ใช้ฝ่ามือรวบรวมปราณยุทธ์อันอบอุ่นแล้วส่งไปยังร่างของหลินมู่อวี่กับฉินอินโดยเร็ว เนื่องจากฉินเหลยและเฟิงจี้สิงนั้นมีพลังแข็งแกร่งเกินไป จึงมีเพียงเขาเท่านั้นที่มีพลังพอดีจนไม่ทำร้ายทั้งคู่

น้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว ฉินอินหลุดจากอ้อมกอดของหลินมู่อวี่ ร่างกายของเธอเริ่มกระตุกก่อนจะลืมตาตื่นก่อนหลินมู่อวี่

สิ่งแรกที่เห็นเมื่อลืมตาคือใบหน้าอันซีดเซียวไร้ชีวิตของหลินมู่อวี่ ฉินอินคิดว่าเขาตายเสียแล้วจึงเริ่มร้องไห้อยากโศกเศร้า “อาอวี่…เจ้าจะตายไม่ได้นะอาอวี่…”

ฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนพยายามดึงฉินอิน “องค์หญิง…”

ฉินอินผลักฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนออกอย่างโมโห “อย่ามาแตะต้องตัวข้า!”

ฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนลูบจมูก “อาอวี่ยังมีชีวิตอยู่ขอรับองค์หญิง…เขายังหายใจอยู่”

“อะไรนะ?”

ใบหน้าเศร้ามองของฉินอินเปลี่ยนเป็นสดใสทันที นางจับใบหน้าของหลินมู่อวี่ “อาอวี่…หากเจ้ายังไม่ตายช่วยตอบข้าสักนิดได้หรือไม่?”

“แค่กๆ…”

ทันใดนั้นหลินมู่อวี่ก็ไอออกมาสองสามครั้งและกระอักเลือด เขาขมวดคิ้ว “เสี่ยวอิน…ท่านกดหน้าอกข้าจนเจ็บไปหมดแล้ว”

ฉินอินก้มมองตัวเองก่อนจะพบว่าร่างกายสกปรกจนดูไม่ได้จากการอยู่ในท้องงูมังกร เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนจนดูไม่เหมือนองค์หญิง ผ้าบริเวณหน้าอกหลุดลุ่ยเปื้อนเลือดก็กำลังแนบชิดอยู่กับหลินมู่อวี่ นางค่อนข้างภูมิใจในรูปร่างของตน ขนาดหน้าอกก็ไม่ใช่น้อยไม่แปลกหากหลินมู่อวี่จะอึดอัด ใบหน้าของเจ้าหญิงผู้เย่อหยิ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยพลัน นางลุกยืนใช้มือปิดหน้าอกตัวเองไว้ก่อนจะรีบสวมสวมเสื้อคลุมแล้วจึงเอ่ยขึ้น “รีบช่วยอาอวี่ แล้วตรวจดูให้ดีว่าบาดเจ็บหรือไม่…”

ณ มุมหนึ่งเฟิงจี้สิงนอนมองทั้งคู่ ดวงตาเต็มไปด้วยความขมขื่นก่อนพูดขึ้น “ยังมีใครบาดเจ็บกว่าข้าอีกรึ? ถึงได้เมินข้าเยี่ยงนี้…”

ฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนเดินเข้าไปหา “ข้าจะดูแลเจ้าเอง…”

“จะไปไหนก็ไป…”

“…”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 187 การต่อสู้ในท้องงู

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 187 การต่อสู้ในท้องงู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คมวายุหมุนวนรอบดาบสะบั้นวาโย ขณะที่งูมังกรกำลังอ้าปากเตรียมโจมตี เฟิงจี้สิงก็รำดาบปล่อยคลื่นวายุขนาดใหญ่ออกไป นี่เป็นหนึ่งในทักษะอันเลื่องชื่อของเขา…ดาบพายุวินาส!

คลื่นวายุที่ควบแน่นไปด้วยคมมีดสามารถตัดผ่านได้แม้กระทั่งเกราะที่แกร่งที่สุด พายุวินาสโอบล้อมงูมังกรจนเกล็ดของมันสั่นสะเทือน…ทว่ายังทำลายไม่ได้!

“เปรี้ยง!”

งูมังกรกระหน่ำโจมตีกลับทว่าก็โดนเฟิงจี้สิงใช้ดาบปัดป้องได้ เฟิงจี้สิงกระอักเลือดออกมาเมื่อถลาชนเข้ากับมุมกำแพง ถึงกระนั้นเขาก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหลินมู่ได้สำเร็จ…เบี่ยงเบนความสนใจ!

“ฟึบ!”

หลินมู่อวี่รวบรวมปราณยุทธ์และพลังดวงดาราไว้ใต้เท้า เขาใช้ฝีเท้าดาวตกพุ่งขึ้นไปบนหลังงูมังกรและมองหาแผลที่เฟิงจี้สิงเคยบอกไว้ เมื่อหลินมู่อวี่เข้าไปใกล้ งูมังกรก็เงยหน้ามองหลินมู่อวี่ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา

“อาอวี่ข้าจะล่อมันเอง!”

ฉินอินตะโกนมาจากพื้นเบื้องล่างและกำมือซ้ายก้มหน้าตั้งสมาธิ ปราณยุทธ์สั่นไหวเป็นจังหวะพร้อมกับกระบี่ที่เปล่งประกาย “ชิ้ง…” โซ่เทวะเริ่มปรากฏขึ้นรอบตัว กระเพื่อมเป็นจังหวะคล้ายจะเข้…หรือชื่อของนางนั่นเอง! คลื่นเสียงที่เปลี่ยนเป็นพลังงานกระแทกลงกลางหัวของงูมังกร!

“ตู้ม!”

เกราะแกร่งถูกทะลวงด้วยการโจมตีที่มองไม่เห็น!

งูมังกรตกตะลึง มันสะบัดหัวด้วยความเจ็บปวดและพุ่งโจมตีใส่ฉินอิน!

“เปรี้ยง!”

ฉินอินล้มลงกระอักเลือด ดาบหลุดจากมือใบหน้าซีดเผือดจนไม่มีแรงสู้กลับ

ด้วยโอกาสหายากที่ฉินอินสร้างให้ หลินมู่อวี่กระโจนเข้าไปพร้อมกับใช้มือล้วงถุงสรรพสิ่งของตนและควานหาหอกที่เย็นดั่งน้ำแข็ง “ชิ้ง…” ถุงสรรพสิ่งเผยหอกยาวสองเมตรที่อยู่ด้านในออกมา…มันคือทวนหลีฮวา! หลินมู่อวี่จับทวนด้วยสองมือก่อนจะแทงซ้ำลงไปที่แผลลึกของงูมังกร

“ฉึก!”

เลือดสาดกระจายไปทั่ว ทว่าทวนหลีฮวาแทงเข้าไปได้เพียงแค่ส่วนปลายเท่านั้น ไม่สามารถทำลายผิวหนังมันได้ประหนึ่งมีเกราะป้องกันหลายชั้นอยู่ข้างใต้

หลินมู่อวี่กัดฟันกรอดและถอยออกก่อนจะกระโดดขึ้นกลางอากาศพร้อมง้างหมัดทั้งสองข้าง พลังดวงดาราเริ่มควบแน่นรอบหมัด ก่อนจะใช้มันซัดเข้ากับปลายทวนหลีฮวา!

‘สามประทีปทรกรรมชีวี!’

“เปรี้ยง!”

ด้วยการโจมตีอันทรงพลังของพลังสามประทีป ทำให้ด้ามทวนทะลวงเข้าร่างงูมังกรทันที “สวบ!” ปลายทวนหลีฮวาเจาะทะลุจนถึงพื้น

หลินมู่อวี่ไม่เหลือพลังใดๆ อีก การใช้พลังฌานเจ็ดประทีปติดต่อกันสองครั้งนั้นถึงขีดจำกัดแล้ว ทว่าเมื่อเงยหน้ามองก็พบว่าครึ่งบนของงูมังกรยังคงเข้าจู่โจมฉินอินอย่างดุเดือด มันอ้าปากเตรียมเขมือบองค์หญิงทั้งตัว…

หลินมู่อวี่ไม่มีเวลาให้คิดมาก เขารีบกระโจนเข้าไปคว้ามือของฉินอินไว้ได้ ทว่าก็สายไปเสียแล้ว…เพียงพริบตากลิ่นสาบคาวก็คละคลุ้ง ทั่วบริเวณมืดลงทันตาประหนึ่งเขากับฉินอินเข้าไปยังสถานที่อันมืดมิดสักแห่ง ทั้งคู่ถูกงูกิน!

ฉินอินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสค่อยๆ ลืมตาขึ้น แม้จะมองไม่เห็นสิ่งใดทว่าก็รู้สึกได้ถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นของหลินมู่อวี่ที่โอบตนไว้ “อาอวี่…”

หลินมู่อวี่กระชับอ้อมกอด “อย่าเพิ่งลืมตา ในร่างงูมังกรมีพิษ ข้าเกรงว่าตาท่านจะบอดหากโดนมันเข้า ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว…เราแค่ถูกงูกินเท่านั้น…”

พูดง่ายแต่ในใจหลินมู่อวี่นั้นอยากตายเสียจริง

ฉินอินหลับตาซบหน้าลงกับอกหลินมู่อวี่ หลังจากทั้งสองเข้าไปในท้องของงูมังกรก็พบว่าตามทางเดินอาหารนั้นมีหนวดยาวเต็มไปหมด หลินมู่อวี่และฉินอินรู้ว่าส่วนที่ต่อกับทางเดินอาหารคือกระเพาะย่อย หากลื่นลงไปมีหวังได้กลายเป็นอาหารงูแน่นอน

“อึก…”

ไม่นานฉินอินก็ปล่อยมือจากหลินมู่อวี่และหมดสติไปเนื่องจากขาดอากาศหายใจ

หลินมู่อวี่กระวนกระวายใจ เขาจะปล่อยให้ฉินอินตายไม่ได้ มิเช่นนั้นทุกอย่างที่ทำมาจะสูญเปล่า

หลินมู่อวี่ปล่อยปราณยุทธ์สร้างเถาวัลย์น้ำเต้าแทงทะลุเกล็ดงูมังกรออกไปเป็นใบน้ำเต้า ช่วยอากาศภายนอกนอกไหลเข้ามาข้างใน และด้วยการผสมผสานระหว่างจิตวิญญาณและร่างกายทำให้หลินมู่อวี่ดูดอากาศบริสุทธิ์ไว้ ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยของเหลวในกระเพาะและน้ำย่อยของงูมังกร หลินมู่อวี่ยกใบหน้าของฉินอินและประกบริมฝีปากสีแดงของนางพร้อมปล่อยอากาศเข้าไป

ร่างบางของฉินอินสั่นสะท้านก่อนที่จะเข้าใจในที่สุดว่าเกิดอะไรขึ้น หลินมู่อวี่กำลังช่วยชีวิตเธออยู่ ทว่านี่เป็นจูบแรก…

แม้จะเป็นชายที่ตนชอบพออยู่แล้ว ทว่าสถานที่ช่างไม่อำนวยเหลือเกิน…ช่องท้องที่เต็มไปด้วยน้ำย่อย เศษกระดูกและซากศพ แม้กระทั่งร่างของทหารองครักษ์อวี้หลินเองก็อยู่ที่นี่ด้วย เช่นนี้คงเรียกว่าโรแมนติกไม่ได้สินะ…

หญิงสาวที่น่าสงสารต้องมาเสียจูบแรกที่หวงแหนมายี่สิบปีในสถานที่แห่งนี้!

หลินมู่อวี่ไม่รู้ว่าฉินอินคิดสิ่งใดอยู่ กระทั่งถูกลำไส้งูมังกรบีบลงไป…ทั้งคู่กำลังจะถูกย่อย!

หลินมู่อวี่จับมือฉินอินไว้แน่นด้วยมือข้างเดียว ขณะที่อีกข้างพยายามควานหาที่ยึด ทันใดนั้น “กึก” เขาคว้าของบางอย่างคล้ายเหล็กได้…มันคือด้ามทวนหลีฮวา เขารอดแล้ว!

หลินมู่อวี่ใช้พลังปราณยุทธ์ส่งผ่านมือไปก่อนจะใช้จิตสั่งการวิญญาณอสูรที่ถูกหลอมให้ออกมาโจมตี!

“จงออกมากิเลนน้ำแข็ง!”

กิเลนน้ำแข็งอายุหนึ่งหมื่นหนึ่งพันปีออกมาจากทวนหลีฮวาด้วยเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดและข่วนกรงเล็บไปทั่วลำไส้ของงูมังกร แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ช่วยทำลายระบบย่อยอาหารของงูมังกรจนสิ้น ทุกสิ่งรอบตัวถูกแช่แข็ง ช่วยให้หลินมู่อวี่กับฉินอินหยุดไถลตกลงไปในกระเพาะ

หลินมู่อวี่ใช้พลังเกินขีดจำกัดจนแทบหายใจไม่ออก การต่อสู้อันหนักหน่วงนี้ใช้พละกำลังของเขาไปจนสิ้น ทว่าก็ยังมีเรื่องดีที่บริเวณโดยรอบถูกแช่แข็งทำให้มีที่ยึด ฉินอินนอนอยู่ในอ้อมแขนไม่ไหวติง…นางหมดสติไปแล้ว หลินมู่อวี่เผลอหัวเราะกับตัวเองก่อนจะเป็นลมไปพร้อมกับฉินอิน

“เกิดอะไรขึ้น?!”

องครักษ์และทหารยืนถือคบเพลิงกันเป็นกลุ่ม ฉินจิ้นเดินฝ่าฝูงชนเข้าไป เขาประหลาดใจเมื่อเห็นศพของงูมังกรยักษ์และวิญญาณสัตว์อสูรลอยอยู่กลางอากาศ ฉินจิ้นกระวนกระวายพร้อมตะโกนเสียงดัง “เสียวอิน! เสี่ยวอินอยู่ไหน?!”

สาวใช้ต่างก้มหน้าลงและไม่กล้าพูดสิ่งใดออกมา

เฟิงจี้สิงที่เจ็บหนักพูดพึมพำ “องค์หญิงฉินอินกับหลินมู่อวี่ถูกงูมังกรกลืนลงท้องไป หากผ่าท้องมันออกตอนนี้คงยังช่วยพวกเขาทัน เร่งมือเข้า…”

ฉินเหลยร่างโฉกเลือกกระโจนเข้าไปพร้อมดาบอัสนีทลาย เขาพยายามเฉือนเนื้องูมังกรอยู่หลายครา ทว่ากลับถูกสะท้อนกลับด้วยเกล็ดของมัน

ฉินจิ้นกัดฟันแล้วโยนกระบี่ของตนให้ฉินเหลย “อาเหลย ใช้กระบี่ไร้วิญญาณ์!”

กระบี่ไร้วิญญาณ์…อาวุธปราชญ์ระดับหกซึ่งเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหลันเยี่ยน

“ฟึบ!”

ฉินเหลยคว้ากระบี่ไร้วิญญาณ์ไว้และระเบิดเสียงคำรามขณะที่โซ่เทวะปรากฏขึ้นรอบกระบี่จนอาวุธปราชญ์เปล่งแสงเจิดจ้า ด้วยการตวัดดาบของฉินเหลย ต่อหน้าทุกคนเกล็ดงูมังกรถูกตัดออกกลายเป็นหลุมเลือดในทันที

พลังน้ำแข็งด้านในทะลักออกมาแม้กระทั่งเลือดโดยรอบก็ถูกแช่แข็ง เมื่อเฉือนเนื้องูออกก็พบหลินมู่อวี่ที่โอบกอดฉินอินไว้แน่นไถลตลกลงมาบนพื้น ชุดศึกสีขาวกลายเป็นเป็นสีแดงเลือดทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็ง ฉินอินซบหน้าแนบกับอกหลินมู่อวี่ ทั้งคู่ยังคงไม่ได้สติ

“เสี่ยวอิน…” ฉินจิ้นน้ำตาคลอกล่าวด้วยร่างกายสั่นเทิ้ม

“อาอวี่…” ฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนกำหมัดแน่นมองหลินมู่อวี่อย่างเจ็บปวด

ฉินเหลยขมวดคิ้ว “องค์หญิงทรงหายใจอยู่หรือไม่ขอรับฝ่าบาท?”

ฉินจิ้นก้าวไปหมายจะปลุกฉินอินทว่าไม่สามารถทำได้ “ละลายน้ำแข็งแล้วช่วยองค์หญิงเดี๋ยวนี้!”

“ขอรับ!”

ฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนก้าวออกไปทั้งร่างตามไปด้วยบาดแผล ใช้ฝ่ามือรวบรวมปราณยุทธ์อันอบอุ่นแล้วส่งไปยังร่างของหลินมู่อวี่กับฉินอินโดยเร็ว เนื่องจากฉินเหลยและเฟิงจี้สิงนั้นมีพลังแข็งแกร่งเกินไป จึงมีเพียงเขาเท่านั้นที่มีพลังพอดีจนไม่ทำร้ายทั้งคู่

น้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว ฉินอินหลุดจากอ้อมกอดของหลินมู่อวี่ ร่างกายของเธอเริ่มกระตุกก่อนจะลืมตาตื่นก่อนหลินมู่อวี่

สิ่งแรกที่เห็นเมื่อลืมตาคือใบหน้าอันซีดเซียวไร้ชีวิตของหลินมู่อวี่ ฉินอินคิดว่าเขาตายเสียแล้วจึงเริ่มร้องไห้อยากโศกเศร้า “อาอวี่…เจ้าจะตายไม่ได้นะอาอวี่…”

ฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนพยายามดึงฉินอิน “องค์หญิง…”

ฉินอินผลักฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนออกอย่างโมโห “อย่ามาแตะต้องตัวข้า!”

ฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนลูบจมูก “อาอวี่ยังมีชีวิตอยู่ขอรับองค์หญิง…เขายังหายใจอยู่”

“อะไรนะ?”

ใบหน้าเศร้ามองของฉินอินเปลี่ยนเป็นสดใสทันที นางจับใบหน้าของหลินมู่อวี่ “อาอวี่…หากเจ้ายังไม่ตายช่วยตอบข้าสักนิดได้หรือไม่?”

“แค่กๆ…”

ทันใดนั้นหลินมู่อวี่ก็ไอออกมาสองสามครั้งและกระอักเลือด เขาขมวดคิ้ว “เสี่ยวอิน…ท่านกดหน้าอกข้าจนเจ็บไปหมดแล้ว”

ฉินอินก้มมองตัวเองก่อนจะพบว่าร่างกายสกปรกจนดูไม่ได้จากการอยู่ในท้องงูมังกร เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนจนดูไม่เหมือนองค์หญิง ผ้าบริเวณหน้าอกหลุดลุ่ยเปื้อนเลือดก็กำลังแนบชิดอยู่กับหลินมู่อวี่ นางค่อนข้างภูมิใจในรูปร่างของตน ขนาดหน้าอกก็ไม่ใช่น้อยไม่แปลกหากหลินมู่อวี่จะอึดอัด ใบหน้าของเจ้าหญิงผู้เย่อหยิ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยพลัน นางลุกยืนใช้มือปิดหน้าอกตัวเองไว้ก่อนจะรีบสวมสวมเสื้อคลุมแล้วจึงเอ่ยขึ้น “รีบช่วยอาอวี่ แล้วตรวจดูให้ดีว่าบาดเจ็บหรือไม่…”

ณ มุมหนึ่งเฟิงจี้สิงนอนมองทั้งคู่ ดวงตาเต็มไปด้วยความขมขื่นก่อนพูดขึ้น “ยังมีใครบาดเจ็บกว่าข้าอีกรึ? ถึงได้เมินข้าเยี่ยงนี้…”

ฉู๋ฮว๋ายเหมี่ยนเดินเข้าไปหา “ข้าจะดูแลเจ้าเอง…”

“จะไปไหนก็ไป…”

“…”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+