The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 356 ร้านค้าจื่อยิน

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 356 ร้านค้าจื่อยิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

EP.356 ร้านค้าจื่อยิน

หลังจากช่วงบ่าย จินเสี่ยวถังได้สวมชุดใหม่ที่ดูอ่อนช้อยและงดงามอีกครั้ง เป็นตามดังที่กล่าวขาน ‘ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง’ จากนั้นหลินมู่อวี่นำผู้ดูแลวิหารสามคนพร้อมพาจินเสี่ยวถังไปหาซื้อสถานที่ที่ใช้ในการจัดตั้งร้านค้า ซึ่งพื้นที่นี้เดิมทีเคยเป็นของจักรวรรดิ กระทั่งจินซ่านปังและเถ้าแก่คนอื่นๆ ถูกคนของจักรวรรดิอี้เหอสังหาร มันจึงกลายเป็นดินแดนไร้เจ้าของ และถูกปิดผนึกโดยคนของเฟิงจี้สิง

ผนึกถูกยกขึ้นในเวลาเที่ยง และมีผู้คนมารวมตัวกันมากมาย หลินมู่อวี่มอบตั๋วทองสามแสนเหรียญทองและขอให้เว่ยโฉวจัดทหารจากกองทัพมังกรผงาดห้านายเพื่อคุ้มกันจินเสี่ยวถัง หลังจากการปฏิวัติของจักรวรรดิอี้เหอ ทำให้เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิไม่ปลอดภัยนัก

หลินมู่อวี่มาถึงวิหารศักดิ์สิทธิ์ในเวลาพลบค่ำ

ฉินอินกำลังฝึกฝนโซ่เทวะ เมื่อเห็นหลินมู่อวี่…นางรีบลุกขึ้นและทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข “พี่อาอวี่มิได้กลับวิหารสามวันแล้ว”

“เจ้ายุ่งอยู่หรือไม่?”

หลินมู่อวี่ยิ้ม “เสี่ยวอิน ข้ามีข่าวดีมาให้เจ้า”

“โอ้ ข่าวดีเรื่องใดหรือเจ้าคะ?”

“ดูนี่สิ…”

หลินมู่อวี่หยิบสัญญาการค้าออกจากแขน การค้าเปิดใหม่จะต้องขึ้นทะเบียนกับสมาคมการค้าแห่งเมืองหลวง และหนังสือสัญญาเป็นสิ่งจำเป็นในการพิสูจน์ มิเช่นนั้นจะเป็นการดำเนินงานโดยผิดกฎหมาย หลินมู่อวี่ต้องจ่ายหนึ่งหมื่นเหรียญทองสำหรับหนังสือสัญญานี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเปิดร้านค้าเป็นเรื่องที่ยากพอควร

“สัญญาการค้า” ฉินอินอ้าปากกว้างด้วยความประหลาดใจ

“ดูชื่อเจ้าของร้านค้าสิ”

“โอ้…”

ฉินอินมองหนังสือสัญญา ‘ร้านค้าจื่อยิน’ และชื่อเจ้าของคือฉินอิน นางหันมองหลินมู่อวี่ด้วยความตกใจ “พี่อาอวี่ นี่…”

หลินมู่อวี่กล่าวว่า “ข้าพบร้านค้าแห่งจักรวรรดิเดิมแล้ว ข้าขอให้จินเสี่ยวถังออกจากภูเขามาสร้างร้านค้าขึ้นใหม่เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับกองทัพแห่งจักรวรรดิและกองทัพมังกรผงาด ทว่าหากข้าเป็นผู้ลงมือเอง คงเป็นการขัดผลประโยชน์กับหลานกงและหยุนกง ดังนั้น…ข้าจึงตัดสินใจให้จักรพรรดินีอย่างเสี่ยวอินเป็นเจ้าของ ผู้คนจะได้ไม่คัดค้าน เสี่ยวอิน…สิ่งที่เจ้าต้องทำคือประทับชื่อและตราแห่งจักรพรรดินีเท่านั้น”

“อื้ม”

ฉินอินยิ้ม “พี่อาอวี่รอบคอบเสมอที่สามารถคิดวิธีนี้ได้ จริงสิ…สถานการณ์ของกองกำลังศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างไร?”

“มีผู้คนกว่าหนึ่งหมื่นสามพันคนมารวมตัวกันและฝึกฝน เจ้ามิต้องเป็นกังวล”

หลินมู่อวี่กล่าวอย่างมั่นใจ “กองกำลังศักดิ์สิทธิ์จะเป็นกองกำลังในมือเจ้า จริงสิเสี่ยวอิน…เจ้าเขียนจดหมายถึงเสี่ยวซีขอให้นางออกคำสั่งแก่เผ่าพันธุ์อสูรทำให้ม้าเชื่องมากขึ้น จากนั้นกองกำลังศักดิ์สิทธิ์จะได้ซื้อม้าในราคาที่ถูกลง”

“อื้ม ข้าจะทำ”

ฉินอินหยิบปากกาเหล็กและหมึกออกมา ก่อนจะลงนามในหนังสือสัญญาอย่างรวดเร็วและประทับตราของจักรพรรดินี หลินมู่อวี่รับสัญญาที่ล้ำค่ามาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ต่อจากนี้เพียงรอดูความรุ่งเรืองของร้านค้าจื่อยินเท่านั้น หากเจ้าสามารถเป็นผู้ควบคุมเศรษฐกิจในเมืองหลันเยี่ยน…เรามิจำเป็นต้องเกรงกลัวว่าหลานกงและหยุนกงจะเข้ามาวุ่นวายได้”

“อื้ม”

“เช่นนั้นข้าขอลา หากทุกอย่างเสร็จสิ้นข้าจะกลับมาหาเจ้า”

“เจ้าค่ะพี่อาอวี่”

ฉินอินออกมาส่งหลินมู่อวี่ที่ประตู เมื่อมองแผ่นหลังของหลินมู่อวี่ควบม้าออกไป นางรู้สึกมีความสุขและเศร้าใจ มีความสุขที่หลินมู่อวี่กลับมามีชีวิต และโศกเศร้าที่เขารีบจากไป สาวใช้ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ฝ่าบาท ใต้เท้าหลินจะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ทรงอย่ากังวลพระทัยเลย”

“สาวน้อย เจ้ากล้าล้อข้ารึ?” ฉินอินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “รีบจัดเตรียมอาหารค่ำเถิด คืนนี้ข้าต้องการซุปร้อนๆ”

“กระหม่อมจะจัดเตรียมให้ในห้องอาหารส่วนพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อหลินมู่อวี่มาถึงประตูร้านค้าแห่งใหม่ในตอนเย็น พบว่าจินเสี่ยวถังจ้างคนงานจัดโครงสร้างอาคารใหม่แล้ว แม้จะมีพื้นที่น้อยลงกว่าร้านค้าแห่งจักรวรรดิดั้งเดิมยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ทว่าพวกเขาไม่รีบเร่งขยายมากนัก ตราบใดที่ร้านค้าเจริญรุ่งเรือง ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเช่นเดิมอีกครั้ง

จินเสี่ยวถังเดินออกจากพื้นที่ชุมชนด้วยใบหน้าสดใส อารมณ์ของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อมองเห็นหลินมู่อวี่ เสี่ยวถังรีบเดินเข้ามาทันที “พี่อาอวี่ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วันรุ่งขึ้นสามารถจดทะเบียนได้เจ้าค่ะ”

“ดี”

หลินมู่อวี่เอ่ยถาม “แล้วช่องทางการจัดหาล่ะ?”

จินเสี่ยวถังพยักหน้า “เกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าติดต่อผู้ค้าบางรายที่รู้จัก และสั่งซื้อศิลาวิญญาณ ชุดเกราะ ศาสตราวุธ และอีกมากมายในราคาสูงกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ที่ร้านค้าล่ามังกรจ่าย ข้าวางแผนจะเปิดร้านขายศิลาวิญญาณ ชุดเกราะ ศาสตราวุธ โอสถ และเปิดการประมูลในร้านค้าจื่อยิน จากนั้นจะเพิ่มรายการขายข้าวสาร เสื้อผ้า ของเล่น และอื่นๆ พี่อาอวี่คิดว่าอย่างไรเจ้าคะ?”

“ค่อยๆ ทำไป” หลินมู่อวี่ยิ้ม “เราจำเป็นต้องดึงดูดความสนใจจากร้านค้าอื่นด้วยการประโคมข่าวถึงเพียงนี้เลยหรือ?”

“แน่นอนเจ้าค่ะ”

จินเสี่ยวถังหัวเราะ “ตอนเที่ยงมีคนจากร้านค้าอื่นมาคอยสอดส่อง ปัจจุบันมีร้านค้าขนาดใหญ่สามแห่งในเมืองหลันเยี่ยน ร้านค้าล่ามังกรของพานติงเถียนมีขนาดใหญ่ที่สุด ทุนทั้งหมดเกือบสองร้อยล้านเหรียญทอง ร้านศาสตราวุธว่านเซิ่งของหลิวซินมีทุนประมาณแปดสิบล้านเหรียญทอง ธนาคารเถิงหลงของจ้าวซื่อมีทุนประมาณห้าสิบสองล้านเหรียญทอง ข้าได้ไตร่ตรองแล้วว่า…ร้านค้าจื่อยินของเราจำเป็นต้องท้าทายอำนาจร้านค้าทั้งสามนี้หากต้องการดึงดูดความสนใจจากลูกค้า”

“เช่นนั้นเจ้ามั่นใจหรือไม่?” หลินมู่อวี่ถาม

จินเสี่ยวถังยิ้มและเดินไปด้านหน้าจับแขนหลินมู่อวี่ “มันขึ้นอยู่กับทักษะของพี่ชาย หากท่านแสดงทักษะพิเศษที่มี คนพวกนั้น…เหอะ! ไม่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึงด้วยซ้ำ!”

“เรื่องนั้น…ต้องการโอสถฝันคืนสู่สูงสุดใช่หรือไม่?”

“อืม…ฝันคืนสู่สูงสุดเป็นโอสถระดับเจ็ดเท่านั้น ทว่าตำราได้หายสาบสูญไปนาน ทำให้ไม่มีผู้ใดปรุงได้นอกจากพี่อาอวี่ นี่จึงเป็นโอกาสดี ข้าจะส่งคนไปค้นหาดอกบัวเจ็ดสีและต้นกะโหลก เนื่องจากได้วางแผนไว้ว่าจะเปิดการประมูลโอสถฝันคืนสู่สูงสุดห้าสิบขวดในวันเปิดตัวร้านค้าจื่อยินอีกสามวัน และขายเพิ่มอีกวันละห้าสิบขวดติดต่อกันสี่วัน ดังนั้นพี่อาอวี่จำเป็นต้องปรุงโอสถฝันคืนสู่สูงสุดจำนวนสองร้อยห้าสิบขวดเจ้าค่ะ”

“ตกลง…” หลินมู่อวี่ถอนหายใจ “ชีวิตข้าช่างโหดร้าย และข้าต้องทำงานหนักเสมอ”

จินเสี่ยวถังยิ้ม “อย่าแสดงท่าทางเช่นนั้นสิเจ้าคะ ร้านค้าจื่อยินทั้งหมดเป็นของท่าน เสี่ยวถังเพียงทำงานเพื่อพี่ชายเท่านั้น โปรดเข้าใจด้วยเจ้าค่ะ…”

“อืม ข้าเข้าใจแล้ว” หลินมู่อวี่ยื่นมือไปลูบศีรษะของจินเสี่ยวถังและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทำดีมาก ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี”

ดวงตาจินเสี่ยวถังเป็นสีแดงระเรื่อ “เสี่ยวถังไม่ขอสิ่งใดมาก ขอแค่…หากเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง พี่อาอวี่ต้องปกป้องข้าและไม่ปล่อยให้เสี่ยวถังตายอย่างทรมาน”

“แน่นอน ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าตาย…” หลินมู่อวี่ถอนหายใจ จินเสี่ยวถังรอดชีวิตมาได้จากความตาย มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนาง ในเวลานั้นกองกำลังกว่าสามแสนนายของจักรวรรดิอี้เหอได้ทำการสังหารหมู่ทุกคน ด้วยเหตุการณ์เช่นนั้น…ผู้ใดกันที่จะควบคุมโชคชะตาของตนได้?

จินเสี่ยวถังยิ้ม “เป็นความผิดของเสี่ยวถังเอง…อย่าพูดเรื่องแย่ๆ เหล่านี้อีกเลย จริงสิพี่อาอวี่ ข้าซื้อศิลาวิญญาณอายุหนึ่งพันถึงสองพันปีจำนวนมากซึ่งได้มาในราคาถูก ท่านสามารถใช้นิลพิศวงเหล่านี้หลอมศาสตราวุธชั้นดี”

หลินมู่อวี่คร่ำครวญ “หลอมอาวุธระดับนิลค่อนข้างอันตราย…ทว่าอย่างน้อยคงต้องหลอมระดับภูต”

“มิเป็นไรเจ้าค่ะ อาจลำบากพี่อาอวี่เล็กน้อย ครานี้เราต้องการศาสตราวุธมากกว่าหนึ่งพันชิ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ร้านค้าจื่อยิน พี่ชาย…คงต้องทรมานจากการทำงานหนัก…”

“แม่ง…”

หลินมู่อวี่มองไปที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เจ้าดูไม่เหมือนคนที่กำลังเห็นใจข้า…”

“ใครว่าล่ะ…ข้าทุกข์ใจมากเจ้าค่ะ”

จินเสี่ยวถังเดินมาด้านหลังและนวดไหล่หลินมู่อวี่เบาๆ “หากพี่อาอวี่ทำเสร็จ เสี่ยวถังจะนวดไหล่ให้เป็นการชดเชย”

“ไม่เป็นไร…”

หลินมู่อวี่ตบมือนางแผ่วเบาและหัวเราะ “ข้าสวมเกราะไหล่อยู่ จึงไม่รู้สึกถึงแรงบีบ”

จินเสี่ยวถังเอ่ยถามหน้ามุ่ย “พี่อาอวี่ เหตุใดท่านจึงต้องใส่มัน ที่นี่เปรียบเสมือนบ้าน…”

“เมืองหลวงยังไม่สงบสุขนัก”

หลินมู่อวี่กระซิบ “ทุกคนต่างต้องสวมชุดเกราะตลอดเวลา แทบไม่ต้องพูดถึงการที่ข้าเป็นถึงผู้นำวิหารศักดิ์สิทธิ์และทหารแห่งจักรวรรดิ นี่คือความเป็นมืออาชีพ เช่นเดียวกับเจ้าในฐานะผู้ค้า เจ้าต้องเรียนรู้การยิ้มและเผชิญหน้ากับผู้คน แม้จะเกลียดพวกเขาก็ตาม”

จินเสี่ยวถังพยักหน้า “อืม ข้าเข้าใจแล้ว จริงสิ…จะให้ข้าส่งวัตถุดิบโอสถ ศิลาวิญญาณ และนิลพิศวงไปยังที่แห่งใด?”

“ให้เว่ยโฉวนำคนจากกองทัพมังกรผงาดลำเลียงไปยังวิหารโดยตรง”

“เจ้าค่ะพี่อาอวี่”

“เช่นนั้นข้าจะกลับวิหารเพื่อฝึกฝนและรอวัตถุดิบจากเจ้า”

“เจ้าค่ะ”

จินเสี่ยวถังมีประสิทธิภาพในการทำงานดีมาก ก่อนเวลาเที่ยงคืนเกวียนลำเลียงดอกบัวเจ็ดสีมาส่งยังสำนักงานผู้ดูแลของหลินมู่อวี่ รวมทั้งนิลพิศวง ศิลาวิญญาณ และวัตถุดิบอื่นจำนวนมาก โชคดีที่สำนักงานมีขนาดใหญ่จึงสามารถรองรับวัตถุดิบทั้งหมดได้ ขณะที่ทหารรักษาการณ์ด้านนอกวิหารถูกเปลี่ยนเป็นทหารจากกองทัพมังกรผงาด ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความภักดี

หลินมู่อวี่ต้องการให้ความสำคัญกับการปรุงโอสถฝันคืนสู่สูงสุดก่อนเป็นอันดับแรก

เขาใช้เวลาเจ็ดชั่วโมงในการปรุงโอสถฝันคืนสู่สูงสุดสองร้อยห้าสิบขวด มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลินมู่อวี่ประหลาดใจคือ…หลังจากวิญญาณยุทธ์เลื่อนระดับเป็นน้ำเต้าทองม่วง ความสามารถในการฟื้นฟูปราณนั้นเพิ่มขึ้นมาก จึงทำให้หลินมู่อวี่ยังคงเหลือปราณในการหลอมอาวุธต่อเมื่อเสร็จสิ้นการปรุงโอสถ

ไม่ว่าจะเป็นเวลารุ่งสางหรือพลบค่ำ ทหารรักษาการณ์จะนำอาหารมาให้เสมอ หลินมู่อวี่กินอย่างเร่งรีบและกลับไปหลอมต่อ

ร้านค้าจื่อยินจะเปิดตัวในอีกสามวัน จึงจำเป็นต้องเตรียมสินค้ามีคุณภาพไว้จำนวนหนึ่ง มิเช่นนั้นจะสามารถแข่งขันกับร้านค้าล่ามังกรและร้านศาสตราวุธว่านเซิ่งได้อย่างไร?”

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 356 ร้านค้าจื่อยิน

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 356 ร้านค้าจื่อยิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

EP.356 ร้านค้าจื่อยิน

หลังจากช่วงบ่าย จินเสี่ยวถังได้สวมชุดใหม่ที่ดูอ่อนช้อยและงดงามอีกครั้ง เป็นตามดังที่กล่าวขาน ‘ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง’ จากนั้นหลินมู่อวี่นำผู้ดูแลวิหารสามคนพร้อมพาจินเสี่ยวถังไปหาซื้อสถานที่ที่ใช้ในการจัดตั้งร้านค้า ซึ่งพื้นที่นี้เดิมทีเคยเป็นของจักรวรรดิ กระทั่งจินซ่านปังและเถ้าแก่คนอื่นๆ ถูกคนของจักรวรรดิอี้เหอสังหาร มันจึงกลายเป็นดินแดนไร้เจ้าของ และถูกปิดผนึกโดยคนของเฟิงจี้สิง

ผนึกถูกยกขึ้นในเวลาเที่ยง และมีผู้คนมารวมตัวกันมากมาย หลินมู่อวี่มอบตั๋วทองสามแสนเหรียญทองและขอให้เว่ยโฉวจัดทหารจากกองทัพมังกรผงาดห้านายเพื่อคุ้มกันจินเสี่ยวถัง หลังจากการปฏิวัติของจักรวรรดิอี้เหอ ทำให้เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิไม่ปลอดภัยนัก

หลินมู่อวี่มาถึงวิหารศักดิ์สิทธิ์ในเวลาพลบค่ำ

ฉินอินกำลังฝึกฝนโซ่เทวะ เมื่อเห็นหลินมู่อวี่…นางรีบลุกขึ้นและทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข “พี่อาอวี่มิได้กลับวิหารสามวันแล้ว”

“เจ้ายุ่งอยู่หรือไม่?”

หลินมู่อวี่ยิ้ม “เสี่ยวอิน ข้ามีข่าวดีมาให้เจ้า”

“โอ้ ข่าวดีเรื่องใดหรือเจ้าคะ?”

“ดูนี่สิ…”

หลินมู่อวี่หยิบสัญญาการค้าออกจากแขน การค้าเปิดใหม่จะต้องขึ้นทะเบียนกับสมาคมการค้าแห่งเมืองหลวง และหนังสือสัญญาเป็นสิ่งจำเป็นในการพิสูจน์ มิเช่นนั้นจะเป็นการดำเนินงานโดยผิดกฎหมาย หลินมู่อวี่ต้องจ่ายหนึ่งหมื่นเหรียญทองสำหรับหนังสือสัญญานี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเปิดร้านค้าเป็นเรื่องที่ยากพอควร

“สัญญาการค้า” ฉินอินอ้าปากกว้างด้วยความประหลาดใจ

“ดูชื่อเจ้าของร้านค้าสิ”

“โอ้…”

ฉินอินมองหนังสือสัญญา ‘ร้านค้าจื่อยิน’ และชื่อเจ้าของคือฉินอิน นางหันมองหลินมู่อวี่ด้วยความตกใจ “พี่อาอวี่ นี่…”

หลินมู่อวี่กล่าวว่า “ข้าพบร้านค้าแห่งจักรวรรดิเดิมแล้ว ข้าขอให้จินเสี่ยวถังออกจากภูเขามาสร้างร้านค้าขึ้นใหม่เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับกองทัพแห่งจักรวรรดิและกองทัพมังกรผงาด ทว่าหากข้าเป็นผู้ลงมือเอง คงเป็นการขัดผลประโยชน์กับหลานกงและหยุนกง ดังนั้น…ข้าจึงตัดสินใจให้จักรพรรดินีอย่างเสี่ยวอินเป็นเจ้าของ ผู้คนจะได้ไม่คัดค้าน เสี่ยวอิน…สิ่งที่เจ้าต้องทำคือประทับชื่อและตราแห่งจักรพรรดินีเท่านั้น”

“อื้ม”

ฉินอินยิ้ม “พี่อาอวี่รอบคอบเสมอที่สามารถคิดวิธีนี้ได้ จริงสิ…สถานการณ์ของกองกำลังศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างไร?”

“มีผู้คนกว่าหนึ่งหมื่นสามพันคนมารวมตัวกันและฝึกฝน เจ้ามิต้องเป็นกังวล”

หลินมู่อวี่กล่าวอย่างมั่นใจ “กองกำลังศักดิ์สิทธิ์จะเป็นกองกำลังในมือเจ้า จริงสิเสี่ยวอิน…เจ้าเขียนจดหมายถึงเสี่ยวซีขอให้นางออกคำสั่งแก่เผ่าพันธุ์อสูรทำให้ม้าเชื่องมากขึ้น จากนั้นกองกำลังศักดิ์สิทธิ์จะได้ซื้อม้าในราคาที่ถูกลง”

“อื้ม ข้าจะทำ”

ฉินอินหยิบปากกาเหล็กและหมึกออกมา ก่อนจะลงนามในหนังสือสัญญาอย่างรวดเร็วและประทับตราของจักรพรรดินี หลินมู่อวี่รับสัญญาที่ล้ำค่ามาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ต่อจากนี้เพียงรอดูความรุ่งเรืองของร้านค้าจื่อยินเท่านั้น หากเจ้าสามารถเป็นผู้ควบคุมเศรษฐกิจในเมืองหลันเยี่ยน…เรามิจำเป็นต้องเกรงกลัวว่าหลานกงและหยุนกงจะเข้ามาวุ่นวายได้”

“อื้ม”

“เช่นนั้นข้าขอลา หากทุกอย่างเสร็จสิ้นข้าจะกลับมาหาเจ้า”

“เจ้าค่ะพี่อาอวี่”

ฉินอินออกมาส่งหลินมู่อวี่ที่ประตู เมื่อมองแผ่นหลังของหลินมู่อวี่ควบม้าออกไป นางรู้สึกมีความสุขและเศร้าใจ มีความสุขที่หลินมู่อวี่กลับมามีชีวิต และโศกเศร้าที่เขารีบจากไป สาวใช้ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ฝ่าบาท ใต้เท้าหลินจะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ทรงอย่ากังวลพระทัยเลย”

“สาวน้อย เจ้ากล้าล้อข้ารึ?” ฉินอินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “รีบจัดเตรียมอาหารค่ำเถิด คืนนี้ข้าต้องการซุปร้อนๆ”

“กระหม่อมจะจัดเตรียมให้ในห้องอาหารส่วนพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อหลินมู่อวี่มาถึงประตูร้านค้าแห่งใหม่ในตอนเย็น พบว่าจินเสี่ยวถังจ้างคนงานจัดโครงสร้างอาคารใหม่แล้ว แม้จะมีพื้นที่น้อยลงกว่าร้านค้าแห่งจักรวรรดิดั้งเดิมยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ทว่าพวกเขาไม่รีบเร่งขยายมากนัก ตราบใดที่ร้านค้าเจริญรุ่งเรือง ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเช่นเดิมอีกครั้ง

จินเสี่ยวถังเดินออกจากพื้นที่ชุมชนด้วยใบหน้าสดใส อารมณ์ของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อมองเห็นหลินมู่อวี่ เสี่ยวถังรีบเดินเข้ามาทันที “พี่อาอวี่ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วันรุ่งขึ้นสามารถจดทะเบียนได้เจ้าค่ะ”

“ดี”

หลินมู่อวี่เอ่ยถาม “แล้วช่องทางการจัดหาล่ะ?”

จินเสี่ยวถังพยักหน้า “เกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าติดต่อผู้ค้าบางรายที่รู้จัก และสั่งซื้อศิลาวิญญาณ ชุดเกราะ ศาสตราวุธ และอีกมากมายในราคาสูงกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ที่ร้านค้าล่ามังกรจ่าย ข้าวางแผนจะเปิดร้านขายศิลาวิญญาณ ชุดเกราะ ศาสตราวุธ โอสถ และเปิดการประมูลในร้านค้าจื่อยิน จากนั้นจะเพิ่มรายการขายข้าวสาร เสื้อผ้า ของเล่น และอื่นๆ พี่อาอวี่คิดว่าอย่างไรเจ้าคะ?”

“ค่อยๆ ทำไป” หลินมู่อวี่ยิ้ม “เราจำเป็นต้องดึงดูดความสนใจจากร้านค้าอื่นด้วยการประโคมข่าวถึงเพียงนี้เลยหรือ?”

“แน่นอนเจ้าค่ะ”

จินเสี่ยวถังหัวเราะ “ตอนเที่ยงมีคนจากร้านค้าอื่นมาคอยสอดส่อง ปัจจุบันมีร้านค้าขนาดใหญ่สามแห่งในเมืองหลันเยี่ยน ร้านค้าล่ามังกรของพานติงเถียนมีขนาดใหญ่ที่สุด ทุนทั้งหมดเกือบสองร้อยล้านเหรียญทอง ร้านศาสตราวุธว่านเซิ่งของหลิวซินมีทุนประมาณแปดสิบล้านเหรียญทอง ธนาคารเถิงหลงของจ้าวซื่อมีทุนประมาณห้าสิบสองล้านเหรียญทอง ข้าได้ไตร่ตรองแล้วว่า…ร้านค้าจื่อยินของเราจำเป็นต้องท้าทายอำนาจร้านค้าทั้งสามนี้หากต้องการดึงดูดความสนใจจากลูกค้า”

“เช่นนั้นเจ้ามั่นใจหรือไม่?” หลินมู่อวี่ถาม

จินเสี่ยวถังยิ้มและเดินไปด้านหน้าจับแขนหลินมู่อวี่ “มันขึ้นอยู่กับทักษะของพี่ชาย หากท่านแสดงทักษะพิเศษที่มี คนพวกนั้น…เหอะ! ไม่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึงด้วยซ้ำ!”

“เรื่องนั้น…ต้องการโอสถฝันคืนสู่สูงสุดใช่หรือไม่?”

“อืม…ฝันคืนสู่สูงสุดเป็นโอสถระดับเจ็ดเท่านั้น ทว่าตำราได้หายสาบสูญไปนาน ทำให้ไม่มีผู้ใดปรุงได้นอกจากพี่อาอวี่ นี่จึงเป็นโอกาสดี ข้าจะส่งคนไปค้นหาดอกบัวเจ็ดสีและต้นกะโหลก เนื่องจากได้วางแผนไว้ว่าจะเปิดการประมูลโอสถฝันคืนสู่สูงสุดห้าสิบขวดในวันเปิดตัวร้านค้าจื่อยินอีกสามวัน และขายเพิ่มอีกวันละห้าสิบขวดติดต่อกันสี่วัน ดังนั้นพี่อาอวี่จำเป็นต้องปรุงโอสถฝันคืนสู่สูงสุดจำนวนสองร้อยห้าสิบขวดเจ้าค่ะ”

“ตกลง…” หลินมู่อวี่ถอนหายใจ “ชีวิตข้าช่างโหดร้าย และข้าต้องทำงานหนักเสมอ”

จินเสี่ยวถังยิ้ม “อย่าแสดงท่าทางเช่นนั้นสิเจ้าคะ ร้านค้าจื่อยินทั้งหมดเป็นของท่าน เสี่ยวถังเพียงทำงานเพื่อพี่ชายเท่านั้น โปรดเข้าใจด้วยเจ้าค่ะ…”

“อืม ข้าเข้าใจแล้ว” หลินมู่อวี่ยื่นมือไปลูบศีรษะของจินเสี่ยวถังและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทำดีมาก ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี”

ดวงตาจินเสี่ยวถังเป็นสีแดงระเรื่อ “เสี่ยวถังไม่ขอสิ่งใดมาก ขอแค่…หากเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง พี่อาอวี่ต้องปกป้องข้าและไม่ปล่อยให้เสี่ยวถังตายอย่างทรมาน”

“แน่นอน ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าตาย…” หลินมู่อวี่ถอนหายใจ จินเสี่ยวถังรอดชีวิตมาได้จากความตาย มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนาง ในเวลานั้นกองกำลังกว่าสามแสนนายของจักรวรรดิอี้เหอได้ทำการสังหารหมู่ทุกคน ด้วยเหตุการณ์เช่นนั้น…ผู้ใดกันที่จะควบคุมโชคชะตาของตนได้?

จินเสี่ยวถังยิ้ม “เป็นความผิดของเสี่ยวถังเอง…อย่าพูดเรื่องแย่ๆ เหล่านี้อีกเลย จริงสิพี่อาอวี่ ข้าซื้อศิลาวิญญาณอายุหนึ่งพันถึงสองพันปีจำนวนมากซึ่งได้มาในราคาถูก ท่านสามารถใช้นิลพิศวงเหล่านี้หลอมศาสตราวุธชั้นดี”

หลินมู่อวี่คร่ำครวญ “หลอมอาวุธระดับนิลค่อนข้างอันตราย…ทว่าอย่างน้อยคงต้องหลอมระดับภูต”

“มิเป็นไรเจ้าค่ะ อาจลำบากพี่อาอวี่เล็กน้อย ครานี้เราต้องการศาสตราวุธมากกว่าหนึ่งพันชิ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ร้านค้าจื่อยิน พี่ชาย…คงต้องทรมานจากการทำงานหนัก…”

“แม่ง…”

หลินมู่อวี่มองไปที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เจ้าดูไม่เหมือนคนที่กำลังเห็นใจข้า…”

“ใครว่าล่ะ…ข้าทุกข์ใจมากเจ้าค่ะ”

จินเสี่ยวถังเดินมาด้านหลังและนวดไหล่หลินมู่อวี่เบาๆ “หากพี่อาอวี่ทำเสร็จ เสี่ยวถังจะนวดไหล่ให้เป็นการชดเชย”

“ไม่เป็นไร…”

หลินมู่อวี่ตบมือนางแผ่วเบาและหัวเราะ “ข้าสวมเกราะไหล่อยู่ จึงไม่รู้สึกถึงแรงบีบ”

จินเสี่ยวถังเอ่ยถามหน้ามุ่ย “พี่อาอวี่ เหตุใดท่านจึงต้องใส่มัน ที่นี่เปรียบเสมือนบ้าน…”

“เมืองหลวงยังไม่สงบสุขนัก”

หลินมู่อวี่กระซิบ “ทุกคนต่างต้องสวมชุดเกราะตลอดเวลา แทบไม่ต้องพูดถึงการที่ข้าเป็นถึงผู้นำวิหารศักดิ์สิทธิ์และทหารแห่งจักรวรรดิ นี่คือความเป็นมืออาชีพ เช่นเดียวกับเจ้าในฐานะผู้ค้า เจ้าต้องเรียนรู้การยิ้มและเผชิญหน้ากับผู้คน แม้จะเกลียดพวกเขาก็ตาม”

จินเสี่ยวถังพยักหน้า “อืม ข้าเข้าใจแล้ว จริงสิ…จะให้ข้าส่งวัตถุดิบโอสถ ศิลาวิญญาณ และนิลพิศวงไปยังที่แห่งใด?”

“ให้เว่ยโฉวนำคนจากกองทัพมังกรผงาดลำเลียงไปยังวิหารโดยตรง”

“เจ้าค่ะพี่อาอวี่”

“เช่นนั้นข้าจะกลับวิหารเพื่อฝึกฝนและรอวัตถุดิบจากเจ้า”

“เจ้าค่ะ”

จินเสี่ยวถังมีประสิทธิภาพในการทำงานดีมาก ก่อนเวลาเที่ยงคืนเกวียนลำเลียงดอกบัวเจ็ดสีมาส่งยังสำนักงานผู้ดูแลของหลินมู่อวี่ รวมทั้งนิลพิศวง ศิลาวิญญาณ และวัตถุดิบอื่นจำนวนมาก โชคดีที่สำนักงานมีขนาดใหญ่จึงสามารถรองรับวัตถุดิบทั้งหมดได้ ขณะที่ทหารรักษาการณ์ด้านนอกวิหารถูกเปลี่ยนเป็นทหารจากกองทัพมังกรผงาด ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความภักดี

หลินมู่อวี่ต้องการให้ความสำคัญกับการปรุงโอสถฝันคืนสู่สูงสุดก่อนเป็นอันดับแรก

เขาใช้เวลาเจ็ดชั่วโมงในการปรุงโอสถฝันคืนสู่สูงสุดสองร้อยห้าสิบขวด มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลินมู่อวี่ประหลาดใจคือ…หลังจากวิญญาณยุทธ์เลื่อนระดับเป็นน้ำเต้าทองม่วง ความสามารถในการฟื้นฟูปราณนั้นเพิ่มขึ้นมาก จึงทำให้หลินมู่อวี่ยังคงเหลือปราณในการหลอมอาวุธต่อเมื่อเสร็จสิ้นการปรุงโอสถ

ไม่ว่าจะเป็นเวลารุ่งสางหรือพลบค่ำ ทหารรักษาการณ์จะนำอาหารมาให้เสมอ หลินมู่อวี่กินอย่างเร่งรีบและกลับไปหลอมต่อ

ร้านค้าจื่อยินจะเปิดตัวในอีกสามวัน จึงจำเป็นต้องเตรียมสินค้ามีคุณภาพไว้จำนวนหนึ่ง มิเช่นนั้นจะสามารถแข่งขันกับร้านค้าล่ามังกรและร้านศาสตราวุธว่านเซิ่งได้อย่างไร?”

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+