The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 248 แผนการที่ล้มเหลว

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 248 แผนการที่ล้มเหลว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฝนตกอย่างต่อเนื่องจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ทว่าหลินมู่อวี่และฉินอินก็ออกเดินทางทันทีหลังรับประทานอาหารเสร็จ พวกเขาใช้เงินที่ได้รับจากการแสดงเมื่อคืนซื้อเสื้อคลุมใหม่สองตัวที่สามารถกันฝนได้ ซึ่งจำเป็นต่อการเดินทางของทั้งคู่

“น้องหลิน เหตุใดจึงตาแดงเยี่ยงนี้?” ตู้ยี่หมิงเอ่ยถามขณะที่จูงม้า

หลินมู่อวี่ไม่สามารถพูดอย่างตรงไปตรงมาได้ว่า เขานอนไม่หลับเนื่องจากเสี่ยวอินในอ้อมแขนพลิกตัวไปมาทั้งคืน…มีหวังนางได้ฆ่าเขาแน่ จึงตอบไปว่า “ข้าไม่ชินกับการนอนฟูก จึงนอนมิค่อยหลับ”

“โอ้ เป็นเช่นนั้นเองหรือ ข้ามีโอสถสงบจิต หากสหายหนุ่มต้องการมัน”

“มิเป็นไร ขอบคุณมาก”

หลินมู่อวี่ไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณคนมากเกินไป ดังนั้นจึงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เขาเดินมาด้านข้างฉินอินและช่วยนางขึ้นหลังม้า “ไปกันเถิด ออกเดินทางกันได้แล้ว”

“อืม”

ฉินอินพยักรับหน้าด้วยรอยยิ้มและใบหน้างามสีแดงระเรื่อ  แสงแดดเรืองรองยามเช้าทำให้ฉินอินงดงามราวกับเจ้าสาวที่เพิ่งแต่งงานใหม่ขณะที่มองหลินมู่อวี่อย่างงุนงง ตามดังคาด…สาวงามเช่นนี้ ช่างเป็นอาวุธร้ายแรงสำหรับชายหนุ่ม หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่ฉินอินเอ่ยถามเมื่อคืน

“อาอวี่ เจ้าชอบข้าหรือเสี่ยวซี?”

“ทั้งคู่”

“แล้วเจ้าชอบคนไหนมากกว่า?”

“ทั้งคู่…”

“ฮึ่ม! คนบ้า! เจ้ายังตัดสินใจไม่ได้อีกหรือ?!” องค์หญิงผู้เลอโฉมเริ่มโกรธ “เจ้าได้รับอนุญาตให้ชอบข้าคนเดียวเท่านั้นในภายภาคหน้า…โอ้ ไม่สิ เจ้าได้รับอนุญาตให้ชอบข้าได้มากกว่าเล็กน้อย มิเช่นนั้นข้าจะให้เสด็จพ่อตัดเบี้ยเลี้ยงของเจ้า!”

“ไม่เป็นไร ข้ามีเงิน…”

“ฮึ่ม! ข้าจะโกรธจนวันตายเลย…”

ผู้หญิงมักขี้อิจฉา ส่วนผู้ชาย…ควรเป็นสิ่งมีชีวิตที่ควบคุมได้ง่ายที่สุด ทว่าความใจแคบนั้นเลวร้ายกว่าผู้หญิงมาก!

ทั้งสามขี่ม้าบนถนนอวิ้นจงอย่างเชื่องช้า หลินมู่อวี่ถือร่มและที่หลับตาโคจรหลอมกระดูกมังกรพร้อมฝึกฝนพลังยุทธ์ ขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ทว่าไม่พบรัศมีที่แข็งแกร่งแต่อย่างใด ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่มีผู้ใดติดตามพวกเขามา ตู้ยี่หมิงด้านข้างพยายามประจบฉินอิน ส่วนมังกรนภาติดตามพวกเขาอยู่ด้านหลังห่างไปไม่ไกลในผืนป่า

“อาจารย์ตู้ ท่านกล่าวจะสอนทักษะสยบสัตว์ร้ายแก่เสี่ยวอินมิใช่หรือ?” จู่ๆ หลินมู่อวี่ก็ถามขึ้น

ตู้ยี่หมิงพลันนึกขึ้นได้ “โอ้ ข้าเกือบลืมไปเลย…เอาล่ะ ข้าจะเริ่มสอนคาถาใช้ทักษะสยบสัตว์ร้ายให้แก่แม่นางเสี่ยวอิน กล่าวตามข้า…วิญญาณสัตว์อสูรนับหมื่นล้วนมีอาจารย์ สวรรค์สรรค์สร้างการใช้งานอย่างไม่มีสิ้นสุด…”

หลินมู่อวี่หลับตาและไม่ได้เรียนรู้ กระนั้นฉินอินคงสอนเขาเมื่อนางเรียนรู้ทักษะแล้ว

ไม่นานหลังจากนั้นตู้ยี่หมิงก็เริ่มสอนฉินอินถึงวิธีเชื่อมต่อจิตวิญญาณ ทว่า…ฉินอินทำไม่สำเร็จ หลังจากลองอยู่หลายครั้งก็ไม่สามารถเชื่อมจิตกับม้าของนางได้เลย ตู้ยี่หมิงพลันตีไปที่หัวม้าของเขาและพูดว่า “เจ้าม้า ส่งเสียงร้องให้ข้าสามครั้ง”

ทันใดนั้นม้าก็โงหัวขึ้นและส่งเสียงร้องสามครั้งอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าตู้ยี่หมิงมีทักษะพิเศษ

‘ฮี้…’

ฉินอินหลับตาลง แต่ก็ยังไม่สามารถเชื่อมจิตกับม้าได้ นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนรน

หลินมู่อวี่กล่าวอย่างอ่อนโยน “อย่ากังวลไป ค่อยๆ ลอง”

ด้วยคำพูดหลินมู่อวี่ ฉินอินรู้สึกสงบลงทันใด นางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “อืม…”

สิ่งนี้ทำให้ตู้ยี่หมิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยขณะที่มีท่าทางหึงหวง

เมื่อพระอาทิตย์ตกดินฝนก็หยุดตกทันที

ฉินอินเปิดเสื้อคลุมที่หน้าอกออกและดึงหมวกลงปล่อยผมยาวปลิวไสวตามสายลม เธอลูบใบหน้าที่เปียกและเผลอโดน ‘กระ’ เมื่อหลินมู่อวี่บังเอิญเห็นมันติดมือฉินอินจึงรีบพูดเตือน “เสี่ยวอิน นั่น…ของเจ้า?”

“หืม?”

ฉินอินไม่รู้ว่าหลินมู่อวี่หมายถึงสิ่งใด ขณะที่มองเขาด้วยตากลมโต “อะไรหรือ?”

ตู้ยี่หมิงหันมาเห็นใบหน้าขาวราวกับหิมะของฉินอิน ความงดงามอันไร้ที่ติปรากฏขึ้นตรงหน้าจนทำให้ตกตะลึงและแข็งเป็นหิน “มีสาวงามเช่นนี้อยู่บนโลกด้วย…”

ฉินอินสังเกตเห็นทันทีว่ากระของเธอหลุดออกมา ทว่าไม่มีประโยชน์ที่จะตื่นตูม พวกเขาไม่มีทางซ่อนมันจากตู้ยี่หมิงได้…

หลินมู่อวี่ผู้สงบนิ่งยิ่งกว่าจึงพูดขึ้น “ใส่มันกลับไป…”

“อืม”

ฉินอินติดกระกลับไปบนหน้าซึ่งทำให้ความงามลดลงไปกว่าครึ่ง

หลินมู่อวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ตู้ น้องสาวตัวน้อยของข้ามีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ทว่าโลกนี้โหดร้ายเกินไป เพื่อความปลอดภัยของนาง เราจึงต้องซ่อนมันไว้ ข้าหวังว่าท่านจะช่วยพวกเราเก็บมันไว้เป็นความลับ”

“แน่นอน…แน่นอนอยู่แล้ว…”

ตู้ยี่หมิงพยักหน้าขณะที่พูดว่า “นี่ก็เริ่มดึกแล้ว เราเดินทางต่ออีกหน่อยเถิด เพื่อดูว่ามีโรงเตี๊ยมหรือไม่?”

“อืม ได้สิ”

ไม่นานพวกเขาก็เจอโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ตู้ยี่หมิงเดินนำเข้าไปและพูดขึ้น “ข้ารู้จักกับเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ซึ่งเป็นสหายเก่านามว่า หลิวจุน เขาจะเตรียมห้องที่ดีที่สุดให้กับเรา”

“อืม ขอบคุณท่านมาก”

เมื่อเข้ามาด้านในก็พบชายหน้าตาหยาบกร้านอายุราวสามสิบปีเดินออกมา เขากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม “พี่ตู้ ไม่ได้เจอกันนานเลย การท่องยุทธภพเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ดี ดี!”

ตู้ยี่หมิงตบหัวมังกรนภาเบาๆ “น้องหลิว ข้าและสหายทั้งสองต้องการที่พักคืนนี้ รบกวนช่วยจัดหาที่พักให้เราสองห้องได้หรือไม่?”

“ได้สิ ไม่มีปัญหา”

หลิวจุนหัวเราะขณะที่จ้องมองเรือนร่างฉินอินไม่วางตา

หลินมู่อวี่รู้สึกโกรธเล็กน้อย หลิวจุนผู้นี้ช่างไม่มีมารยาทและต่ำทรามยิ่งนัก ทว่าที่นี่เป็นอาณาเขตของหลิวจุน ดังนั้นหลินมู่อวี่จึงทำได้เพียงอดทนต่อไป!

คราวนี้พวกเขาได้ห้องที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง มีฟูกสองฟูกและนุ่มมาก อย่างน้อยหลินมู่อวี่คงได้พักผ่อนอย่างมีความสุขในคืนนี้ หากต้องนอนฟูกเดียวกับฉินอินอีกครั้ง คงเป็นการยากที่หลินมู่อวี่จะหลับตาลง

หลังจากทานอาหารเย็น พวกเขาก็เข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ

แต่เพื่อความปลอดภัย หลินมู่อวี่จึงปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณ เขาไม่ต้องการนอนหลับลึกเกินไปขณะที่ตื่นตัวตลอดเวลา ฉินอินนอนหลับอย่างมีความสุขอยู่ด้านข้างพร้อมใบหน้างามหันมาทางหลินมู่อวี่

หลังเที่ยงคืนหลินมู่อวี่ก็ลืมตาขึ้นพร้อมถอนหายใจ

ทักษะชีพจรวิญญาณของเขาแผ่ออกไปยังรัศมีโดยรอบ พบจอมยุทธ์ขอบเขตมนุษย์ระดับสามที่ชั้นล่างสองคน พวกเขาถือว่าเป็นจอมยุทธ์มีฝีมือ ทว่าก็อ่อนแอเกินกว่าที่หลินมู่อวี่จะสนใจ

ไม่นานทักษะชีพจรวิญญาณก็มาถึงห้องของตู้ยี่หมิง ทว่ากลับพบสองคนในนั้น! ช่างน่าสงสัยยิ่งนัก!

หลินมู่อวี่เพิ่มพลังปราณยุทธ์ทันทีและเพิ่มพลังให้แก่ทักษะชีพจรวิญญาณเพื่อฟังบทสนทนาของตู้ยี่หมิงและหลิวจุน

“พี่ตู้ คนพวกนั้น…เจ้าพบพวกเขาได้อย่างไร? อีกทั้งเด็กสาวนั่นงดงามยิ่งนัก!”

“น้องหลิวตาดีจริงๆ รู้หรือไม่กระบนใบหน้าหลินอินนั้นเป็นของปลอม! เมื่อนางดึงมันออกจะกลายเป็นเด็กสาวที่งดงามเกินพรรณนา! แม้แต่ข้าก็หยุดตกหลุมรักนางไม่ได้!”

“เป็นจริงอย่างที่พี่ตู้ว่าหรือ?”

“แน่นอนว่าเรื่องจริง! หากไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาติดตามข้ามาเพื่อเรียนรู้ทักษะสยบสัตว์ร้ายละก็…เจ้าเด็กเหลือขอชื่อว่าหลินอวี่นั่นคงไม่มีทางมากับข้า ฮ่า…ใครจะไปรู้ว่าข้าแอบเปลี่ยนคาถาที่สอนพวกเขาไปเล็กน้อย หลินอินไม่มีทางเรียนรู้ทักษะสยบสัตว์ร้ายได้อย่างแน่นอน ไม่ว่านางจะฉลาดเพียงใด”

“พี่ตู้ เราควรเริ่มลงมือเมื่อไหร่ดี? เจ้าเด็กหลินอวี่นั่นดูเหมือนจะมีดาบสองเล่ม คงแข็งแกร่งไม่น้อย”

“อืม อย่างดีที่สุดคงไม่เกินขอบเขตปฐพีระดับที่หนึ่ง…หลังเที่ยงคืนเมื่อกำยานคงออกฤทธิ์ จากนั้น…ฮ่าๆ เราก็จะเล่นสนุกกับหลินอินและฆ่าเจ้าเด็กหลินอวี่ ก่อนจะขายหลินอินให้แก่โรงเตี๊ยมชื่อดังในเมืองหลันเยี่ยนเพื่อเป็นนางบำเรอ ฮ่า! ด้วยรูปลักษณ์ของหลินอิน เราคงขายนางได้อย่างน้อยหมื่นเหรียญทอง!”

“เอาล่ะ ข้าจะไปเตรียมกำยาน!”

“ดี!”

หลินมู่อวี่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นและถอนหายใจ คนพวกนั้นชั่วร้ายอย่างแท้จริง! เขาพลันแตะไหล่เสี่ยวอินและเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เสี่ยวอิน ตื่นเถิด”

ไม่รู้ว่าฉินอินกำลังฝันถึงสิ่งใด นางพลันอ้าแขนคว้าตัวหลินมู่อวี่และพึมพำ “พี่อาอวี่…”

เสียงเรียกของฉินอินทำให้หลินมู่อวี่ใจกระตุกวูบ ก่อนที่หลินมู่อวี่จะเปิดฝ่ามือปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณเข้าสู่จิตใต้สำนึกหญิงสาวตรงหน้า ฉินอินลืมตาขึ้นมาทันทีก่อนใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “พี่อาอวี่ กำลังทำอะไรหรือเจ้าคะ?”

“ข้ามิได้ทำอะไร…”

หลินมู่อวี่ส่ายหัวก่อนหยิบโอสถเทพประสานออกมาสองขวด “ตู้ยี่หมิงและหลิวจุนต้องการใช้กำยานเพื่อทำร้ายเรา นี่คือโอสถเทพประสานที่สามารถต้านทานพิษได้ เสี่ยวอิน ดื่มมันสิ”

“อืม”

ฉินอินดื่มโอสถเทพประสานอย่างเชื่อฟัง และหลินมู่อวี่เองก็ดื่มอีกขวด เขาเอนตัวลงบนฟูกและพูดว่า “แกล้งทำเป็นหลับซะ ค่อยสังหารหลังจากพวกมันลงมือก็ไม่สายเกินไป”

“อืม…”

หลังจากรอมานาน ในที่สุดก็มีเสียงดังมาจากนอกห้อง หน้าต่างกระดาษถูกเจาะพร้อมควันหอมลอยเข้ามา หลินมู่อวี่และฉินอินยังคงแกล้งหลับต่อไป

ผ่านไปสิบนาทีประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมหลิวจุนและตู้ยี่หมิงเดินเข้ามา หลิวจุนถามขึ้น “พวกเขาสลบไปหรือยัง?”

“แน่นอน กำยานวิญญาณร้อยพิษของข้ามีชื่อเสียงโด่งดัง”

หลิวจุนเดินไปด้านหน้าและเขย่าไหล่หลินมู่อวี่ “เจ้าเด็กหลิน ตื่น!”

หลินมู่อวี่ทำเป็นไม่ได้ยินราวกับหลับสนิท

“ฮ่าๆ เขาสลบจริงด้วย!”

หลิวจุนหัวเราะก่อนจะเดินเข้ามาที่ฟูกของฉินอิน “หากแม่นางผู้นี้เช็ดเครื่องสำอางออก ก็คงกลายเป็นเทพธิดาตกสวรรค์เป็นแน่ ฮ่า! ถึงเวลาให้ข้าจูบแล้ว”

ขณะเดียวกันตี้ยี่หมิงก็ชักดาบออกมา “ให้ข้าส่งหลินอวี่ไปสวรรค์ก่อนเถิด!”

ทันใดนั้น! ก็มีแสงสีทองสว่างวาบขึ้นมาขณะที่น้ำเต้าทองแทงทะลุพื้นพันธนาการตู้ยี่หมิงอย่างรวดเร็ว! ก่อนจะชักดาบเหล็กตวัดออกไปพร้อมปราณยุทธ์ควบแน่นบนใบดาบ!

“ข…ขอบเขตนภา…”

ดวงตาตู้ยี่หมิงเบิกโพลงขณะที่ดาบยาวแทงทะลุหัวใจอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะพูดจบ

ฉินอินเบิกตากว้างพร้อมกรีดร้องอย่างหวาดกลัวเมื่อหลิวจุนเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ขณะเดียวกันมังกรนภาก็พุ่งตะปปกรงเล็บไปที่ฉินอิน

‘วิ้ง…’

ประกายแสงโซ่เทวะกระจายออกทะลวงช่องท้องของมังกรนภาและปลิดชีพมันทันที!

‘พรึ่บ…’

หลิวจุนกระโดดออกหน้าต่างหลบหนีไป

หลินมุ่อวี่พลันกระโดดออกมาพร้อมดาบและมองไปในความมืดรอบบริเวณ ทว่ากลับไม่พบร่องรอยของหลิวจุนเลย เนื่องจากเขาไม่ใช่จอมยุทธ์ หลินมู่อวี่จึงใช้ทักษะชีพจรวิญญาณค้นหาไม่ได้

“ฝากไว้ก่อนเถิด…”

หลินมู่อวี่พ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชาก่อนจะกระโดดกลับไปที่ชั้นสอง “เสี่ยวอิน เราจะออกเดินทางกันคืนนี้ คงอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว”

“อืม!”

หลินมู่อวี่ก้มลงสำรวจศพตู้ยี่หมิง ก่อนจะหยิบม้วนคัมภีร์ลับออกจากอกเสื้อซึ่งมีตัวหนังสือเขียนว่า ‘ทักษะเชื่อมจิต’

เขามอบตำรานี้ให้ฉินอิน ก่อนจะลงไปชั้นล่างเพื่อเตรียมม้า

ที่มุมหนึ่งของคอก มีม้ากำลังฉี่ใส่หัวชายผู้หนึ่ง เขานั่งยองๆ ร่างกายสั่นเทิ้มและพูดพึมพำ “พระเจ้า…นั่นเขาเป็นใครกัน น่ากลัวเหลือเกิน…พี่ตู้ เจ้าเป็นสหายที่ตายระหว่างทำตามแผนการ หลับให้สบายเถิด เราจะจดจำตู้ยี่หมิงตลอดไป!”

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 248 แผนการที่ล้มเหลว

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 248 แผนการที่ล้มเหลว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฝนตกอย่างต่อเนื่องจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ทว่าหลินมู่อวี่และฉินอินก็ออกเดินทางทันทีหลังรับประทานอาหารเสร็จ พวกเขาใช้เงินที่ได้รับจากการแสดงเมื่อคืนซื้อเสื้อคลุมใหม่สองตัวที่สามารถกันฝนได้ ซึ่งจำเป็นต่อการเดินทางของทั้งคู่

“น้องหลิน เหตุใดจึงตาแดงเยี่ยงนี้?” ตู้ยี่หมิงเอ่ยถามขณะที่จูงม้า

หลินมู่อวี่ไม่สามารถพูดอย่างตรงไปตรงมาได้ว่า เขานอนไม่หลับเนื่องจากเสี่ยวอินในอ้อมแขนพลิกตัวไปมาทั้งคืน…มีหวังนางได้ฆ่าเขาแน่ จึงตอบไปว่า “ข้าไม่ชินกับการนอนฟูก จึงนอนมิค่อยหลับ”

“โอ้ เป็นเช่นนั้นเองหรือ ข้ามีโอสถสงบจิต หากสหายหนุ่มต้องการมัน”

“มิเป็นไร ขอบคุณมาก”

หลินมู่อวี่ไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณคนมากเกินไป ดังนั้นจึงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เขาเดินมาด้านข้างฉินอินและช่วยนางขึ้นหลังม้า “ไปกันเถิด ออกเดินทางกันได้แล้ว”

“อืม”

ฉินอินพยักรับหน้าด้วยรอยยิ้มและใบหน้างามสีแดงระเรื่อ  แสงแดดเรืองรองยามเช้าทำให้ฉินอินงดงามราวกับเจ้าสาวที่เพิ่งแต่งงานใหม่ขณะที่มองหลินมู่อวี่อย่างงุนงง ตามดังคาด…สาวงามเช่นนี้ ช่างเป็นอาวุธร้ายแรงสำหรับชายหนุ่ม หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่ฉินอินเอ่ยถามเมื่อคืน

“อาอวี่ เจ้าชอบข้าหรือเสี่ยวซี?”

“ทั้งคู่”

“แล้วเจ้าชอบคนไหนมากกว่า?”

“ทั้งคู่…”

“ฮึ่ม! คนบ้า! เจ้ายังตัดสินใจไม่ได้อีกหรือ?!” องค์หญิงผู้เลอโฉมเริ่มโกรธ “เจ้าได้รับอนุญาตให้ชอบข้าคนเดียวเท่านั้นในภายภาคหน้า…โอ้ ไม่สิ เจ้าได้รับอนุญาตให้ชอบข้าได้มากกว่าเล็กน้อย มิเช่นนั้นข้าจะให้เสด็จพ่อตัดเบี้ยเลี้ยงของเจ้า!”

“ไม่เป็นไร ข้ามีเงิน…”

“ฮึ่ม! ข้าจะโกรธจนวันตายเลย…”

ผู้หญิงมักขี้อิจฉา ส่วนผู้ชาย…ควรเป็นสิ่งมีชีวิตที่ควบคุมได้ง่ายที่สุด ทว่าความใจแคบนั้นเลวร้ายกว่าผู้หญิงมาก!

ทั้งสามขี่ม้าบนถนนอวิ้นจงอย่างเชื่องช้า หลินมู่อวี่ถือร่มและที่หลับตาโคจรหลอมกระดูกมังกรพร้อมฝึกฝนพลังยุทธ์ ขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ทว่าไม่พบรัศมีที่แข็งแกร่งแต่อย่างใด ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่มีผู้ใดติดตามพวกเขามา ตู้ยี่หมิงด้านข้างพยายามประจบฉินอิน ส่วนมังกรนภาติดตามพวกเขาอยู่ด้านหลังห่างไปไม่ไกลในผืนป่า

“อาจารย์ตู้ ท่านกล่าวจะสอนทักษะสยบสัตว์ร้ายแก่เสี่ยวอินมิใช่หรือ?” จู่ๆ หลินมู่อวี่ก็ถามขึ้น

ตู้ยี่หมิงพลันนึกขึ้นได้ “โอ้ ข้าเกือบลืมไปเลย…เอาล่ะ ข้าจะเริ่มสอนคาถาใช้ทักษะสยบสัตว์ร้ายให้แก่แม่นางเสี่ยวอิน กล่าวตามข้า…วิญญาณสัตว์อสูรนับหมื่นล้วนมีอาจารย์ สวรรค์สรรค์สร้างการใช้งานอย่างไม่มีสิ้นสุด…”

หลินมู่อวี่หลับตาและไม่ได้เรียนรู้ กระนั้นฉินอินคงสอนเขาเมื่อนางเรียนรู้ทักษะแล้ว

ไม่นานหลังจากนั้นตู้ยี่หมิงก็เริ่มสอนฉินอินถึงวิธีเชื่อมต่อจิตวิญญาณ ทว่า…ฉินอินทำไม่สำเร็จ หลังจากลองอยู่หลายครั้งก็ไม่สามารถเชื่อมจิตกับม้าของนางได้เลย ตู้ยี่หมิงพลันตีไปที่หัวม้าของเขาและพูดว่า “เจ้าม้า ส่งเสียงร้องให้ข้าสามครั้ง”

ทันใดนั้นม้าก็โงหัวขึ้นและส่งเสียงร้องสามครั้งอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าตู้ยี่หมิงมีทักษะพิเศษ

‘ฮี้…’

ฉินอินหลับตาลง แต่ก็ยังไม่สามารถเชื่อมจิตกับม้าได้ นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนรน

หลินมู่อวี่กล่าวอย่างอ่อนโยน “อย่ากังวลไป ค่อยๆ ลอง”

ด้วยคำพูดหลินมู่อวี่ ฉินอินรู้สึกสงบลงทันใด นางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “อืม…”

สิ่งนี้ทำให้ตู้ยี่หมิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยขณะที่มีท่าทางหึงหวง

เมื่อพระอาทิตย์ตกดินฝนก็หยุดตกทันที

ฉินอินเปิดเสื้อคลุมที่หน้าอกออกและดึงหมวกลงปล่อยผมยาวปลิวไสวตามสายลม เธอลูบใบหน้าที่เปียกและเผลอโดน ‘กระ’ เมื่อหลินมู่อวี่บังเอิญเห็นมันติดมือฉินอินจึงรีบพูดเตือน “เสี่ยวอิน นั่น…ของเจ้า?”

“หืม?”

ฉินอินไม่รู้ว่าหลินมู่อวี่หมายถึงสิ่งใด ขณะที่มองเขาด้วยตากลมโต “อะไรหรือ?”

ตู้ยี่หมิงหันมาเห็นใบหน้าขาวราวกับหิมะของฉินอิน ความงดงามอันไร้ที่ติปรากฏขึ้นตรงหน้าจนทำให้ตกตะลึงและแข็งเป็นหิน “มีสาวงามเช่นนี้อยู่บนโลกด้วย…”

ฉินอินสังเกตเห็นทันทีว่ากระของเธอหลุดออกมา ทว่าไม่มีประโยชน์ที่จะตื่นตูม พวกเขาไม่มีทางซ่อนมันจากตู้ยี่หมิงได้…

หลินมู่อวี่ผู้สงบนิ่งยิ่งกว่าจึงพูดขึ้น “ใส่มันกลับไป…”

“อืม”

ฉินอินติดกระกลับไปบนหน้าซึ่งทำให้ความงามลดลงไปกว่าครึ่ง

หลินมู่อวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ตู้ น้องสาวตัวน้อยของข้ามีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ทว่าโลกนี้โหดร้ายเกินไป เพื่อความปลอดภัยของนาง เราจึงต้องซ่อนมันไว้ ข้าหวังว่าท่านจะช่วยพวกเราเก็บมันไว้เป็นความลับ”

“แน่นอน…แน่นอนอยู่แล้ว…”

ตู้ยี่หมิงพยักหน้าขณะที่พูดว่า “นี่ก็เริ่มดึกแล้ว เราเดินทางต่ออีกหน่อยเถิด เพื่อดูว่ามีโรงเตี๊ยมหรือไม่?”

“อืม ได้สิ”

ไม่นานพวกเขาก็เจอโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ตู้ยี่หมิงเดินนำเข้าไปและพูดขึ้น “ข้ารู้จักกับเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ซึ่งเป็นสหายเก่านามว่า หลิวจุน เขาจะเตรียมห้องที่ดีที่สุดให้กับเรา”

“อืม ขอบคุณท่านมาก”

เมื่อเข้ามาด้านในก็พบชายหน้าตาหยาบกร้านอายุราวสามสิบปีเดินออกมา เขากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม “พี่ตู้ ไม่ได้เจอกันนานเลย การท่องยุทธภพเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ดี ดี!”

ตู้ยี่หมิงตบหัวมังกรนภาเบาๆ “น้องหลิว ข้าและสหายทั้งสองต้องการที่พักคืนนี้ รบกวนช่วยจัดหาที่พักให้เราสองห้องได้หรือไม่?”

“ได้สิ ไม่มีปัญหา”

หลิวจุนหัวเราะขณะที่จ้องมองเรือนร่างฉินอินไม่วางตา

หลินมู่อวี่รู้สึกโกรธเล็กน้อย หลิวจุนผู้นี้ช่างไม่มีมารยาทและต่ำทรามยิ่งนัก ทว่าที่นี่เป็นอาณาเขตของหลิวจุน ดังนั้นหลินมู่อวี่จึงทำได้เพียงอดทนต่อไป!

คราวนี้พวกเขาได้ห้องที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง มีฟูกสองฟูกและนุ่มมาก อย่างน้อยหลินมู่อวี่คงได้พักผ่อนอย่างมีความสุขในคืนนี้ หากต้องนอนฟูกเดียวกับฉินอินอีกครั้ง คงเป็นการยากที่หลินมู่อวี่จะหลับตาลง

หลังจากทานอาหารเย็น พวกเขาก็เข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ

แต่เพื่อความปลอดภัย หลินมู่อวี่จึงปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณ เขาไม่ต้องการนอนหลับลึกเกินไปขณะที่ตื่นตัวตลอดเวลา ฉินอินนอนหลับอย่างมีความสุขอยู่ด้านข้างพร้อมใบหน้างามหันมาทางหลินมู่อวี่

หลังเที่ยงคืนหลินมู่อวี่ก็ลืมตาขึ้นพร้อมถอนหายใจ

ทักษะชีพจรวิญญาณของเขาแผ่ออกไปยังรัศมีโดยรอบ พบจอมยุทธ์ขอบเขตมนุษย์ระดับสามที่ชั้นล่างสองคน พวกเขาถือว่าเป็นจอมยุทธ์มีฝีมือ ทว่าก็อ่อนแอเกินกว่าที่หลินมู่อวี่จะสนใจ

ไม่นานทักษะชีพจรวิญญาณก็มาถึงห้องของตู้ยี่หมิง ทว่ากลับพบสองคนในนั้น! ช่างน่าสงสัยยิ่งนัก!

หลินมู่อวี่เพิ่มพลังปราณยุทธ์ทันทีและเพิ่มพลังให้แก่ทักษะชีพจรวิญญาณเพื่อฟังบทสนทนาของตู้ยี่หมิงและหลิวจุน

“พี่ตู้ คนพวกนั้น…เจ้าพบพวกเขาได้อย่างไร? อีกทั้งเด็กสาวนั่นงดงามยิ่งนัก!”

“น้องหลิวตาดีจริงๆ รู้หรือไม่กระบนใบหน้าหลินอินนั้นเป็นของปลอม! เมื่อนางดึงมันออกจะกลายเป็นเด็กสาวที่งดงามเกินพรรณนา! แม้แต่ข้าก็หยุดตกหลุมรักนางไม่ได้!”

“เป็นจริงอย่างที่พี่ตู้ว่าหรือ?”

“แน่นอนว่าเรื่องจริง! หากไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาติดตามข้ามาเพื่อเรียนรู้ทักษะสยบสัตว์ร้ายละก็…เจ้าเด็กเหลือขอชื่อว่าหลินอวี่นั่นคงไม่มีทางมากับข้า ฮ่า…ใครจะไปรู้ว่าข้าแอบเปลี่ยนคาถาที่สอนพวกเขาไปเล็กน้อย หลินอินไม่มีทางเรียนรู้ทักษะสยบสัตว์ร้ายได้อย่างแน่นอน ไม่ว่านางจะฉลาดเพียงใด”

“พี่ตู้ เราควรเริ่มลงมือเมื่อไหร่ดี? เจ้าเด็กหลินอวี่นั่นดูเหมือนจะมีดาบสองเล่ม คงแข็งแกร่งไม่น้อย”

“อืม อย่างดีที่สุดคงไม่เกินขอบเขตปฐพีระดับที่หนึ่ง…หลังเที่ยงคืนเมื่อกำยานคงออกฤทธิ์ จากนั้น…ฮ่าๆ เราก็จะเล่นสนุกกับหลินอินและฆ่าเจ้าเด็กหลินอวี่ ก่อนจะขายหลินอินให้แก่โรงเตี๊ยมชื่อดังในเมืองหลันเยี่ยนเพื่อเป็นนางบำเรอ ฮ่า! ด้วยรูปลักษณ์ของหลินอิน เราคงขายนางได้อย่างน้อยหมื่นเหรียญทอง!”

“เอาล่ะ ข้าจะไปเตรียมกำยาน!”

“ดี!”

หลินมู่อวี่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นและถอนหายใจ คนพวกนั้นชั่วร้ายอย่างแท้จริง! เขาพลันแตะไหล่เสี่ยวอินและเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เสี่ยวอิน ตื่นเถิด”

ไม่รู้ว่าฉินอินกำลังฝันถึงสิ่งใด นางพลันอ้าแขนคว้าตัวหลินมู่อวี่และพึมพำ “พี่อาอวี่…”

เสียงเรียกของฉินอินทำให้หลินมู่อวี่ใจกระตุกวูบ ก่อนที่หลินมู่อวี่จะเปิดฝ่ามือปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณเข้าสู่จิตใต้สำนึกหญิงสาวตรงหน้า ฉินอินลืมตาขึ้นมาทันทีก่อนใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “พี่อาอวี่ กำลังทำอะไรหรือเจ้าคะ?”

“ข้ามิได้ทำอะไร…”

หลินมู่อวี่ส่ายหัวก่อนหยิบโอสถเทพประสานออกมาสองขวด “ตู้ยี่หมิงและหลิวจุนต้องการใช้กำยานเพื่อทำร้ายเรา นี่คือโอสถเทพประสานที่สามารถต้านทานพิษได้ เสี่ยวอิน ดื่มมันสิ”

“อืม”

ฉินอินดื่มโอสถเทพประสานอย่างเชื่อฟัง และหลินมู่อวี่เองก็ดื่มอีกขวด เขาเอนตัวลงบนฟูกและพูดว่า “แกล้งทำเป็นหลับซะ ค่อยสังหารหลังจากพวกมันลงมือก็ไม่สายเกินไป”

“อืม…”

หลังจากรอมานาน ในที่สุดก็มีเสียงดังมาจากนอกห้อง หน้าต่างกระดาษถูกเจาะพร้อมควันหอมลอยเข้ามา หลินมู่อวี่และฉินอินยังคงแกล้งหลับต่อไป

ผ่านไปสิบนาทีประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมหลิวจุนและตู้ยี่หมิงเดินเข้ามา หลิวจุนถามขึ้น “พวกเขาสลบไปหรือยัง?”

“แน่นอน กำยานวิญญาณร้อยพิษของข้ามีชื่อเสียงโด่งดัง”

หลิวจุนเดินไปด้านหน้าและเขย่าไหล่หลินมู่อวี่ “เจ้าเด็กหลิน ตื่น!”

หลินมู่อวี่ทำเป็นไม่ได้ยินราวกับหลับสนิท

“ฮ่าๆ เขาสลบจริงด้วย!”

หลิวจุนหัวเราะก่อนจะเดินเข้ามาที่ฟูกของฉินอิน “หากแม่นางผู้นี้เช็ดเครื่องสำอางออก ก็คงกลายเป็นเทพธิดาตกสวรรค์เป็นแน่ ฮ่า! ถึงเวลาให้ข้าจูบแล้ว”

ขณะเดียวกันตี้ยี่หมิงก็ชักดาบออกมา “ให้ข้าส่งหลินอวี่ไปสวรรค์ก่อนเถิด!”

ทันใดนั้น! ก็มีแสงสีทองสว่างวาบขึ้นมาขณะที่น้ำเต้าทองแทงทะลุพื้นพันธนาการตู้ยี่หมิงอย่างรวดเร็ว! ก่อนจะชักดาบเหล็กตวัดออกไปพร้อมปราณยุทธ์ควบแน่นบนใบดาบ!

“ข…ขอบเขตนภา…”

ดวงตาตู้ยี่หมิงเบิกโพลงขณะที่ดาบยาวแทงทะลุหัวใจอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะพูดจบ

ฉินอินเบิกตากว้างพร้อมกรีดร้องอย่างหวาดกลัวเมื่อหลิวจุนเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ขณะเดียวกันมังกรนภาก็พุ่งตะปปกรงเล็บไปที่ฉินอิน

‘วิ้ง…’

ประกายแสงโซ่เทวะกระจายออกทะลวงช่องท้องของมังกรนภาและปลิดชีพมันทันที!

‘พรึ่บ…’

หลิวจุนกระโดดออกหน้าต่างหลบหนีไป

หลินมุ่อวี่พลันกระโดดออกมาพร้อมดาบและมองไปในความมืดรอบบริเวณ ทว่ากลับไม่พบร่องรอยของหลิวจุนเลย เนื่องจากเขาไม่ใช่จอมยุทธ์ หลินมู่อวี่จึงใช้ทักษะชีพจรวิญญาณค้นหาไม่ได้

“ฝากไว้ก่อนเถิด…”

หลินมู่อวี่พ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชาก่อนจะกระโดดกลับไปที่ชั้นสอง “เสี่ยวอิน เราจะออกเดินทางกันคืนนี้ คงอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว”

“อืม!”

หลินมู่อวี่ก้มลงสำรวจศพตู้ยี่หมิง ก่อนจะหยิบม้วนคัมภีร์ลับออกจากอกเสื้อซึ่งมีตัวหนังสือเขียนว่า ‘ทักษะเชื่อมจิต’

เขามอบตำรานี้ให้ฉินอิน ก่อนจะลงไปชั้นล่างเพื่อเตรียมม้า

ที่มุมหนึ่งของคอก มีม้ากำลังฉี่ใส่หัวชายผู้หนึ่ง เขานั่งยองๆ ร่างกายสั่นเทิ้มและพูดพึมพำ “พระเจ้า…นั่นเขาเป็นใครกัน น่ากลัวเหลือเกิน…พี่ตู้ เจ้าเป็นสหายที่ตายระหว่างทำตามแผนการ หลับให้สบายเถิด เราจะจดจำตู้ยี่หมิงตลอดไป!”

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+