[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 107 ยุงปีศาจ

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 107 ยุงปีศาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        ไป๋อี้ส่ายหัว!

  สรุปว่าไป๋อี้ยังไม่พร้อมที่จะปล่อยให้โม่โม่เผชิญความเสี่ยงนี้ แม้ว่าสายตาของโม่โม่จะดูแปลกไปเล็กน้อย แต่ทว่าหลังจากเข้ามาในเวลลิงตันไป๋อี้ก็ไม่กล้าที่จะใช้การเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์นี้เป็นเดิมพัน

  “ช่างมันเถอะ!”

  “พ่อ หนูทำได้” โม่โม่คิดว่าไป๋อี้เป็นห่วงเธอ ยิ่งถูกคิดว่าเป็นเด็กน้อย เธอยิ่งต้องการที่จะพิสูจน์ตนเอง

  “ไม่จำเป็น ไม่ต้องฝืนก็ได้ ถึงหนูจะมีการเปลี่ยนแปลงในแววตาของหนู แต่พ่อกลัวว่าหนูจะยังไม่รู้จักตัวเองชัดเจนนัก เราไม่จำเป็นต้องตั้งความหวังกับการเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์แบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเราไม่ได้มีความต้องการพิเศษที่จะเอาดอกไม้มรณะนี้มา ก็นะ อย่างน้อยตอนนี้เราก็ยังไม่ต้องการมัน ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องลองเสี่ยงกับพืชลักษณะนี้เลย” ไป๋อี้อธิบาย เขาต้องการที่จะปกป้องโม่โม่ แต่เขาก็ไม่ได้ปกป้องแบบสุ่มสี่สุ่มห้า

  ในช่วงเวลานี้ชาวนิวซีแลนด์ทั้งประเทศได้พัฒนาและทำการสำรวจอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่คุณสมบัติและลักษณะทางยาขั้นพื้นฐานของพืชแต่ละชนิดไปจนถึงความสามารถของสัตว์แต่ละประเภทหลังจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น การสำรวจทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเอง การฟื้นคืนสู่ร่างมนุษย์ รวมทั้งวิธีใช้พลังต่างๆ ……. เป็นต้น

  ไม่ใช่แค่มนุษย์กลายพันธุ์เท่านั้น แม้แต่นักวิจัยของทุกประเทศภายนอกกำลังศึกษาสิ่งเหล่านี้เช่นกัน เป็นไปตามการคาดเดาของด็อกเตอร์หวัง ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกไม่ได้ควบคุมนิวซีแลนด์ แต่ปล่อยให้ประเทศนี้พัฒนาและกลายเป็นระบบนิเวศที่แท้จริงของเซลล์ดัดแปลง

  แต่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่สำรวจสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองหรือการทดลองกับสิ่งเหล่านี้โดยมนุษย์จากภายนอกประเทศ มันก็ยังเป็นเรื่องที่อันตรายมาก นี่คือระบบนิเวศที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ทุกสิ่งที่อยู่ภายในนี้ไม่ใช่ความคุ้นเคยสำหรับทุกคน

  ลักษณะคุณสมบัติทางยาและวิธีการโจมตีของพืชและสัตว์แต่ละชนิดล้วนสรุปได้จากเลือกของมนุษย์กลายพันธุ์และสัตว์ทั้งหลาย

  ตัวอย่างเช่นดอกไม้มรณะ ไป๋อี้ไม่คิดว่าพวกเขาเป็นคนแรกที่ค้นพบพืชชนิดนี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แพร่หลายเกี่ยวกับดอกไม้มรณะ เช่น ข้อมูลในการการเก็บ วิธีการเก็บรักษา วิธีการแปรรูป วิธีการใช้งาน เป็นต้น แสดงว่ามันเป็นพืชที่อันตรายอีกชนิดหนึ่งอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ภายนอกหรือมนุษย์กลายพันธุ์ก็ตาม หากต้องการสำรวจสิ่งนี้ให้ชัดเจนและใช้งานได้จริงจำเป็นต้องจ่ายราคาความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นอย่างมากมาย

  ……

  “อาจจะดูเห็นแก่ตัวเล็กน้อย แต่รอให้คนอื่นสรุปข้อมูลการใช้งานของดอกไม้มรณะก่อนจะดีกว่า เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้มันขนาดนั้น” ไป๋อี้ลูบศีรษะของโม่โม่

  โม่โม่ดูเหมือนจะเข้าใจได้เพียงเล็กน้อย แต่ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

  หากดอกไม้มรณะมีความสามารถตามที่ร่ำลือมาในการทำให้จิตวิญญาณสงบ มันจะเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับทุกคน สาเหตุของระยะดุร้ายคือความไม่ประสานกันระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณ ตราบใดที่ความแตกต่างระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณได้รับการประสานเข้าด้วยกัน ผลกระทบและระยะเวลาของระยะดุร้ายจะสั้นลง

  อย่างไรก็ตามหากมันมีเพียงความสามารถนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับไป๋อี้และเพื่อน ๆ

  สำหรับตอนนี้การสอดประสานกันระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณของไป๋อี้ค่อนข้างคงที่ หลังจากเข้าสู่ห้วงนิทราที่ดิ่งลึกแล้วการสอดประสานกันของร่างกายและจิตวิญญาณจะกลมกลืนกันได้ดีกว่ายาคลายเครียดและยากล่อมประสาทชนิดอื่น ๆ และหากออกกำลังกายการฝึกเทคนิคมวยไทเก็กร่วมด้วยจะดียิ่งขึ้นเข้าไปอีก

  ซึ่งหลังจากที่ไป๋อี้และคนในกลุ่มได้ลองยากล่อมประสาทตัวใหม่พวกเขา ก็ยังต้องยอมแพ้

  เช่นเดียวกับคนทั่วไป บางคนทานยาบำรุงทุกวันแต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะมีสุขภาพที่ดี บางคนเพียงทานอาหารธรรมดาวันละ 3 มื้อก็ยังมีสุขภาพดีไม่แพ้กัน สิ่งมีชีวิตนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์และสัมพันธ์กลมกลืนกัน ซึ่งมีหน้าที่ในการปรับตัวเอง แม้แต่ความแตกต่างอย่างมากระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณก็ยังถูกปรับเข้าหากันได้โดยอัตโนมัติเช่นกัน ความช่วยเหลือจากภายนอกเป็นเพียงเงื่อนไขเท่านั้น แต่ไม่จำเป็น ตรงกันข้ามมีคำกล่าวเก่า ๆ ว่ามันคือยาอาบพิษ ตราบใดที่ร่างกายของเขาปรับตัวได้แล้วไป๋อี้ก็รู้สึกว่าจะดีกว่าที่จะไม่กินพืชชนิดใหม่ที่ยังไม่เข้าใจสรรพคุณทางยาของมัน

  ยิ่งการนอนหลับดีขึ้นเท่าไหร่ การปรับสมดุลร่างกายของสิ่งมีชีวิตเองก็จะยิ่งราบรื่นขึ้นเท่านั้น

  ในปัจจุบันทุกคนรู้เรื่องนี้ดี แต่ผู้คนจำนวนมากยังพึ่งพายาใหม่ ๆ ในการนอนหลับ คนที่สามารถสะกดจิตได้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ไป๋อี้และเพื่อน ๆ ยังไม่พบบุคคลที่สองที่มีความสามารถในการสะกดจิตแบบนี้

         “หยูหานและพวกมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด มันต้องมาเพื่อดอกไม้มรณะแน่ ๆ” เฮลัวส์กล่าว

  ไป๋อี้พยักหน้า ตลอดทางนอกเหนือจากการกระจายข่าวเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงเพื่อหวังจะช่วยมนุษย์กลายพันธุ์แล้ว พวกเขายังไล่ตามเส้นทางของหยูหานด้วย เมื่อไม่นานมานี้ในที่สุดก็รู้โดยบังเอิญว่าหยูหานกำลังจะมาที่เวลลิงตัน ไป๋อี้และพวกจึงไล่ตามมาถึงที่นี่

  ดวงตาของไป๋อี้นั้นสงบมาก แต่เจตนาฆ่าที่แฝงลึกเข้าไปในดวงตาของเขานั้นช่างหนาวเหน็บ!

  ……

  แน่นอนว่าหยูหานรู้ว่าไป๋อี้กำลังตามหาเขา และไม่จำเป็นต้องถามว่าทำไม แต่ตอนนี้หยูหานไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้เพราะกลุ่มของพวกเขากำลังถูกไล่ล่าโดยยุงปีศาจ สุดท้ายชายร่างอ้วนที่วิ่งช้าที่สุดถูกทิ้งไว้และในไม่ช้าเขาก็กรีดร้องโหยหวนออกมา

  หยูหานหยุดชะงัก แต่ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ คว้าหยูหานไว้ทันที

  “อย่าไป นายไปตอนนี้ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้แล้วล่ะ” ชายคนนั้นกล่าว

  “บัดซบ……!” ร่างกายของหยูหานสั่นสะท้าน เขาบีบหมัดซ้ายของเขาอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าเขาจะเสียใจที่เขาไม่สามารถช่วยเพื่อนร่วมทีมของเขาได้ เขาต้องเจ็บปวดใจอย่างแน่นอน ชายอ้วนคนนั้นเป็นลูกทีมที่มีฝีมือร้ายกาจ  แต่เขาก็ไม่ได้เจ็บปวดใจราวกับสูญเสียพี่น้องไปอะไรอย่างนั้น

  ในเวลานี้ชายอ้วนที่ถูกรายล้อมไปด้วยยุงปีศาจยังคงโบกแขนขาของเขาไปมาและส่งเสียงตะโกนดังลั่น อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งที่ทรงพลัง ผิวที่เหนียว และกระดองที่แข็งนั้นช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ ในเวลานี้ แม้ว่ายุงปีศาจจะไม่สามารถเจาะกระดองเหล่านี้ได้ แต่พวกมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกัดในบริเวณที่แข็ง ๆ เหล่านี้ ภายในไม่กี่วินาทีชายร่างอ้วนก็รู้สึกเสียวซ่าบริเวณเปลือกตา เห็นได้ชัดว่ายุงตัวน้อยสอดปากแหลมของมันเข้าไปในร่างกายของเขาแล้ว

  แม้ว่าชายร่างอ้วนจะตบที่หน้าและตบยุงตัวเล็กๆหลายสิบตัวจนตาย แต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่บินมาจากด้านหลัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพิษที่สามารถละลายในเลือดได้ได้เข้าสู่ร่างกายของเขาแล้ว

  เร็วมาก เร็วจนน่าเหลือเชื่อ!

  พิษที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในร่างกายของเขาทำให้ชายอ้วนคนนี้เป็นอัมพาต เขาสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวภายในไม่กี่วินาที ยิ่งไปกว่านั้นสารละลายในเลือดทำให้เนื้อและเลือดของเขาหลอมละลายอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นน้ำผลไม้ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ร่างกายของชายอ้วนกระตุกอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากเขาเป็นอัมพาตเขาจึงไม่สามารถแม้แต่จะกรีดร้องได้ จากความสิ้นหวังที่ฉายออกมาผ่านสายตาของชายอ้วน ทำให้เขารู้ว่าการตายแบบนี้ทรมานแค่ไหนสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย

  ยิ่งไปกว่านั้นไม่เพียงแต่เนื้อและเลือดเท่านั้น แม้แต่กระดูกก็ยังถูกกัดกร่อนจนสลายตัวอย่างรวดเร็ว โชคดีที่การสลายตัวนี้เร็วมากและไม่ได้ทำให้ชายร่างอ้วนทรมานมากไปกว่านี้

  ยุงปีศาจตัวอื่น ๆ รวมตัวกันอยู่รอบ ๆ ตัวเขา ภายในไม่กี่นาทีร่างของชายอ้วนที่สูงและแข็งแรงกว่าวูล์ฟซึ่งสูงมากกว่าสี่เมตรก็สลายตัวทลายลงมา มีเพียงกระดองแข็งและกรงเล็บบางส่วนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ ทั้งยังมีหนังมนุษย์ติดอยู่กับกระดูกที่ยังไม่ละลายอยู่ด้วย

  หยูหานและกลุ่มของเขายังคงมองย้อนกลับไปดูขณะที่พวกเขากำลังหลบหนี พวกเขารู้สึกหนาวสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อได้เห็นฉากดังกล่าว

  ยุงปีศาจ!

  สมกับชื่อของปีศาจ น่ากลัวยิ่งกว่าผีสางนางไม้หรือสิ่งอื่นใดเสียอีก สุดท้ายแล้วความสยองขวัญนี้ก็แจ่มแจ้งชัดเจนและโหดร้ายยิ่งกว่าผีที่ไม่มีตัวตนพวกนั้น

  “หยูหาน ที่นี่ ทะเลสาบที่นำไปสู่ห้องโถงแห่งความลับที่ปิดสนิท” เสียงคำรามแหบดังมาจากเพื่อนร่วมทีมตรงหน้า หัวของผู้ชายคนนี้เหมือนหัวปลาหมึกและมีเหงือกอยู่ข้าง ๆ คอ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ผสานรวมกับยีนของปลา

  “เข้าไป!” เมื่อกลุ่มของหยูหานเห็นยุงปีศาจไล่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาจึงไม่ได้ไตร่ตรองอะไรให้มากมาย

  กลุ่มคนทั้งหมดกระโดดลงไปในทะเลสาบแล้วว่ายน้ำจากทางน้ำที่ทรุดตัวและลาดเอียง หลังจากว่ายน้ำนานกว่าครึ่งนาทีทุกคนก็คลานออกมาจากทางที่ทรุดตัวและมองไปที่ห้องโถงตรงทางออกของทางน้ำ เห็นได้ชัดว่าห้องโถงนี้เป็นอาคารที่จมอยู่ใต้น้ำในทะเลสาบหากดูจากภายนอก เวลลิงตันเป็นเมืองท่าเรือใกล้กับมหาสมุทร ทะเลสาบชั้นในแห่งนี้คือทะเลสาบโอเรียนท์เบย์ที่มีชื่อเสียงมาก

  หลังจากที่ทุกคนเข้ามาในห้องโถงพวกเขาก็ยังคงหอบหายใจเหนื่อยอยู่ การหนีอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อครู่นี้ไม่ใช่แค่ความเหนื่อยล้าในร่างกายเท่านั้น แต่แรงกดดันต่อหัวใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้

  ทุกคนเปียกและน้ำในทะเลสาบก็หยดไหลลงตามร่างกายของพวกเขา ทุกคนไม่พูดไม่จาและยังอยู่ในอารมณ์ที่ค่อนข้างหดหู่ ฉากที่โดสถูกยุงปีศาจดูดไปเมื่อกี้ยังคงทำให้หัวใจของทุกคนอยู่ในความตื่นตระหนก

  “ความผิดของฉันเอง ถ้าไม่ใช่เพราะฉันที่จะให้ทุกคนมาที่นี่ล่ะก็” หยูหานเงยหน้าขึ้นและกล่าวตำหนิตัวเอง

         “ไม่ ไม่มีใครโทษนาย นายบอกทุกคนตั้งแต่แรกแล้วว่าการมาที่นี่มันอันตรายจริง ๆ อีกอย่างตอนนี้นิวซีแลนด์ยังมีที่ปลอดภัยอยู่อีกเหรอ แม้แต่เราก็ยังต้องเผชิญกับภัยคุกคามความตายทุกรูปแบบตลอดเวลา โดสแค่นำหน้าทุกคนไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น”  ซินแคลร์ตบไหล่หยูหานอย่างปลอบประโลม

  “นั่นน่ะสิ ทุกคนที่นี่มีสติมากพอ เราไม่มาที่นี่เพียงเพราะนายบอกให้ทุกคนมาหรอก แต่เรามาเพราะเราอยากมาที่นี่ด้วย ในระยะดุร้ายรุนแรง ถ้าเราหาทางออกไม่ได้เราจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ไร้สติสัมปชัญญะไม่ช้าก็เร็ว พูดตรง ๆ ฉันไม่อยากเป็นสัตว์ประหลาด ดังนั้นถึงฉันจะรู้ว่าการตามหาดอกไม้มรณะนั้นจะอันตรายก็ตาม ……” ชายอีกคนกล่าว

  “เดี๋ยวนะ …… นั่นคืออะไร?” ทันใดนั้นผู้หญิงอีกคนก็เข้ามาขัดจังหวะพวกเขาแล้วชี้ไปที่ดอกไม้สีขาวกลางห้องโถง

  ทุกคนมองไปที่ตรงนั้นทันทีและพบว่าตรงกลางห้องโถงเป็นกองซากศพและมีกระดูกมนุษย์กระจัดกระจายอยู่ใต้เท้าของพวกเขาจำนวนนับไม่ถ้วน หลังจากเห็นฉากในห้องโถงอย่างชัดเจนหัวใจของทุกคนก็เต้นระรัว ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลลิงตัน และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เซลล์ดัดแปลงเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากล้มตายในเวลลิงตันเช่นกัน

  อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการตรวจสอบหาเหตุผลเหล่านั้น ทุกคนมองไปที่ดอกไม้สีขาวที่งอกจากเบ้าตาของกะโหลกศีรษะนั่นคือ ดอกไม้มรณะ!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 107 ยุงปีศาจ

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 107 ยุงปีศาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        ไป๋อี้ส่ายหัว!

  สรุปว่าไป๋อี้ยังไม่พร้อมที่จะปล่อยให้โม่โม่เผชิญความเสี่ยงนี้ แม้ว่าสายตาของโม่โม่จะดูแปลกไปเล็กน้อย แต่ทว่าหลังจากเข้ามาในเวลลิงตันไป๋อี้ก็ไม่กล้าที่จะใช้การเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์นี้เป็นเดิมพัน

  “ช่างมันเถอะ!”

  “พ่อ หนูทำได้” โม่โม่คิดว่าไป๋อี้เป็นห่วงเธอ ยิ่งถูกคิดว่าเป็นเด็กน้อย เธอยิ่งต้องการที่จะพิสูจน์ตนเอง

  “ไม่จำเป็น ไม่ต้องฝืนก็ได้ ถึงหนูจะมีการเปลี่ยนแปลงในแววตาของหนู แต่พ่อกลัวว่าหนูจะยังไม่รู้จักตัวเองชัดเจนนัก เราไม่จำเป็นต้องตั้งความหวังกับการเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์แบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเราไม่ได้มีความต้องการพิเศษที่จะเอาดอกไม้มรณะนี้มา ก็นะ อย่างน้อยตอนนี้เราก็ยังไม่ต้องการมัน ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องลองเสี่ยงกับพืชลักษณะนี้เลย” ไป๋อี้อธิบาย เขาต้องการที่จะปกป้องโม่โม่ แต่เขาก็ไม่ได้ปกป้องแบบสุ่มสี่สุ่มห้า

  ในช่วงเวลานี้ชาวนิวซีแลนด์ทั้งประเทศได้พัฒนาและทำการสำรวจอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่คุณสมบัติและลักษณะทางยาขั้นพื้นฐานของพืชแต่ละชนิดไปจนถึงความสามารถของสัตว์แต่ละประเภทหลังจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น การสำรวจทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเอง การฟื้นคืนสู่ร่างมนุษย์ รวมทั้งวิธีใช้พลังต่างๆ ……. เป็นต้น

  ไม่ใช่แค่มนุษย์กลายพันธุ์เท่านั้น แม้แต่นักวิจัยของทุกประเทศภายนอกกำลังศึกษาสิ่งเหล่านี้เช่นกัน เป็นไปตามการคาดเดาของด็อกเตอร์หวัง ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกไม่ได้ควบคุมนิวซีแลนด์ แต่ปล่อยให้ประเทศนี้พัฒนาและกลายเป็นระบบนิเวศที่แท้จริงของเซลล์ดัดแปลง

  แต่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่สำรวจสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองหรือการทดลองกับสิ่งเหล่านี้โดยมนุษย์จากภายนอกประเทศ มันก็ยังเป็นเรื่องที่อันตรายมาก นี่คือระบบนิเวศที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ทุกสิ่งที่อยู่ภายในนี้ไม่ใช่ความคุ้นเคยสำหรับทุกคน

  ลักษณะคุณสมบัติทางยาและวิธีการโจมตีของพืชและสัตว์แต่ละชนิดล้วนสรุปได้จากเลือกของมนุษย์กลายพันธุ์และสัตว์ทั้งหลาย

  ตัวอย่างเช่นดอกไม้มรณะ ไป๋อี้ไม่คิดว่าพวกเขาเป็นคนแรกที่ค้นพบพืชชนิดนี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แพร่หลายเกี่ยวกับดอกไม้มรณะ เช่น ข้อมูลในการการเก็บ วิธีการเก็บรักษา วิธีการแปรรูป วิธีการใช้งาน เป็นต้น แสดงว่ามันเป็นพืชที่อันตรายอีกชนิดหนึ่งอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ภายนอกหรือมนุษย์กลายพันธุ์ก็ตาม หากต้องการสำรวจสิ่งนี้ให้ชัดเจนและใช้งานได้จริงจำเป็นต้องจ่ายราคาความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นอย่างมากมาย

  ……

  “อาจจะดูเห็นแก่ตัวเล็กน้อย แต่รอให้คนอื่นสรุปข้อมูลการใช้งานของดอกไม้มรณะก่อนจะดีกว่า เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้มันขนาดนั้น” ไป๋อี้ลูบศีรษะของโม่โม่

  โม่โม่ดูเหมือนจะเข้าใจได้เพียงเล็กน้อย แต่ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

  หากดอกไม้มรณะมีความสามารถตามที่ร่ำลือมาในการทำให้จิตวิญญาณสงบ มันจะเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับทุกคน สาเหตุของระยะดุร้ายคือความไม่ประสานกันระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณ ตราบใดที่ความแตกต่างระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณได้รับการประสานเข้าด้วยกัน ผลกระทบและระยะเวลาของระยะดุร้ายจะสั้นลง

  อย่างไรก็ตามหากมันมีเพียงความสามารถนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับไป๋อี้และเพื่อน ๆ

  สำหรับตอนนี้การสอดประสานกันระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณของไป๋อี้ค่อนข้างคงที่ หลังจากเข้าสู่ห้วงนิทราที่ดิ่งลึกแล้วการสอดประสานกันของร่างกายและจิตวิญญาณจะกลมกลืนกันได้ดีกว่ายาคลายเครียดและยากล่อมประสาทชนิดอื่น ๆ และหากออกกำลังกายการฝึกเทคนิคมวยไทเก็กร่วมด้วยจะดียิ่งขึ้นเข้าไปอีก

  ซึ่งหลังจากที่ไป๋อี้และคนในกลุ่มได้ลองยากล่อมประสาทตัวใหม่พวกเขา ก็ยังต้องยอมแพ้

  เช่นเดียวกับคนทั่วไป บางคนทานยาบำรุงทุกวันแต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะมีสุขภาพที่ดี บางคนเพียงทานอาหารธรรมดาวันละ 3 มื้อก็ยังมีสุขภาพดีไม่แพ้กัน สิ่งมีชีวิตนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์และสัมพันธ์กลมกลืนกัน ซึ่งมีหน้าที่ในการปรับตัวเอง แม้แต่ความแตกต่างอย่างมากระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณก็ยังถูกปรับเข้าหากันได้โดยอัตโนมัติเช่นกัน ความช่วยเหลือจากภายนอกเป็นเพียงเงื่อนไขเท่านั้น แต่ไม่จำเป็น ตรงกันข้ามมีคำกล่าวเก่า ๆ ว่ามันคือยาอาบพิษ ตราบใดที่ร่างกายของเขาปรับตัวได้แล้วไป๋อี้ก็รู้สึกว่าจะดีกว่าที่จะไม่กินพืชชนิดใหม่ที่ยังไม่เข้าใจสรรพคุณทางยาของมัน

  ยิ่งการนอนหลับดีขึ้นเท่าไหร่ การปรับสมดุลร่างกายของสิ่งมีชีวิตเองก็จะยิ่งราบรื่นขึ้นเท่านั้น

  ในปัจจุบันทุกคนรู้เรื่องนี้ดี แต่ผู้คนจำนวนมากยังพึ่งพายาใหม่ ๆ ในการนอนหลับ คนที่สามารถสะกดจิตได้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ไป๋อี้และเพื่อน ๆ ยังไม่พบบุคคลที่สองที่มีความสามารถในการสะกดจิตแบบนี้

         “หยูหานและพวกมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด มันต้องมาเพื่อดอกไม้มรณะแน่ ๆ” เฮลัวส์กล่าว

  ไป๋อี้พยักหน้า ตลอดทางนอกเหนือจากการกระจายข่าวเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงเพื่อหวังจะช่วยมนุษย์กลายพันธุ์แล้ว พวกเขายังไล่ตามเส้นทางของหยูหานด้วย เมื่อไม่นานมานี้ในที่สุดก็รู้โดยบังเอิญว่าหยูหานกำลังจะมาที่เวลลิงตัน ไป๋อี้และพวกจึงไล่ตามมาถึงที่นี่

  ดวงตาของไป๋อี้นั้นสงบมาก แต่เจตนาฆ่าที่แฝงลึกเข้าไปในดวงตาของเขานั้นช่างหนาวเหน็บ!

  ……

  แน่นอนว่าหยูหานรู้ว่าไป๋อี้กำลังตามหาเขา และไม่จำเป็นต้องถามว่าทำไม แต่ตอนนี้หยูหานไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้เพราะกลุ่มของพวกเขากำลังถูกไล่ล่าโดยยุงปีศาจ สุดท้ายชายร่างอ้วนที่วิ่งช้าที่สุดถูกทิ้งไว้และในไม่ช้าเขาก็กรีดร้องโหยหวนออกมา

  หยูหานหยุดชะงัก แต่ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ คว้าหยูหานไว้ทันที

  “อย่าไป นายไปตอนนี้ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้แล้วล่ะ” ชายคนนั้นกล่าว

  “บัดซบ……!” ร่างกายของหยูหานสั่นสะท้าน เขาบีบหมัดซ้ายของเขาอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าเขาจะเสียใจที่เขาไม่สามารถช่วยเพื่อนร่วมทีมของเขาได้ เขาต้องเจ็บปวดใจอย่างแน่นอน ชายอ้วนคนนั้นเป็นลูกทีมที่มีฝีมือร้ายกาจ  แต่เขาก็ไม่ได้เจ็บปวดใจราวกับสูญเสียพี่น้องไปอะไรอย่างนั้น

  ในเวลานี้ชายอ้วนที่ถูกรายล้อมไปด้วยยุงปีศาจยังคงโบกแขนขาของเขาไปมาและส่งเสียงตะโกนดังลั่น อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งที่ทรงพลัง ผิวที่เหนียว และกระดองที่แข็งนั้นช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ ในเวลานี้ แม้ว่ายุงปีศาจจะไม่สามารถเจาะกระดองเหล่านี้ได้ แต่พวกมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกัดในบริเวณที่แข็ง ๆ เหล่านี้ ภายในไม่กี่วินาทีชายร่างอ้วนก็รู้สึกเสียวซ่าบริเวณเปลือกตา เห็นได้ชัดว่ายุงตัวน้อยสอดปากแหลมของมันเข้าไปในร่างกายของเขาแล้ว

  แม้ว่าชายร่างอ้วนจะตบที่หน้าและตบยุงตัวเล็กๆหลายสิบตัวจนตาย แต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่บินมาจากด้านหลัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพิษที่สามารถละลายในเลือดได้ได้เข้าสู่ร่างกายของเขาแล้ว

  เร็วมาก เร็วจนน่าเหลือเชื่อ!

  พิษที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในร่างกายของเขาทำให้ชายอ้วนคนนี้เป็นอัมพาต เขาสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวภายในไม่กี่วินาที ยิ่งไปกว่านั้นสารละลายในเลือดทำให้เนื้อและเลือดของเขาหลอมละลายอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นน้ำผลไม้ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ร่างกายของชายอ้วนกระตุกอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากเขาเป็นอัมพาตเขาจึงไม่สามารถแม้แต่จะกรีดร้องได้ จากความสิ้นหวังที่ฉายออกมาผ่านสายตาของชายอ้วน ทำให้เขารู้ว่าการตายแบบนี้ทรมานแค่ไหนสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย

  ยิ่งไปกว่านั้นไม่เพียงแต่เนื้อและเลือดเท่านั้น แม้แต่กระดูกก็ยังถูกกัดกร่อนจนสลายตัวอย่างรวดเร็ว โชคดีที่การสลายตัวนี้เร็วมากและไม่ได้ทำให้ชายร่างอ้วนทรมานมากไปกว่านี้

  ยุงปีศาจตัวอื่น ๆ รวมตัวกันอยู่รอบ ๆ ตัวเขา ภายในไม่กี่นาทีร่างของชายอ้วนที่สูงและแข็งแรงกว่าวูล์ฟซึ่งสูงมากกว่าสี่เมตรก็สลายตัวทลายลงมา มีเพียงกระดองแข็งและกรงเล็บบางส่วนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ ทั้งยังมีหนังมนุษย์ติดอยู่กับกระดูกที่ยังไม่ละลายอยู่ด้วย

  หยูหานและกลุ่มของเขายังคงมองย้อนกลับไปดูขณะที่พวกเขากำลังหลบหนี พวกเขารู้สึกหนาวสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อได้เห็นฉากดังกล่าว

  ยุงปีศาจ!

  สมกับชื่อของปีศาจ น่ากลัวยิ่งกว่าผีสางนางไม้หรือสิ่งอื่นใดเสียอีก สุดท้ายแล้วความสยองขวัญนี้ก็แจ่มแจ้งชัดเจนและโหดร้ายยิ่งกว่าผีที่ไม่มีตัวตนพวกนั้น

  “หยูหาน ที่นี่ ทะเลสาบที่นำไปสู่ห้องโถงแห่งความลับที่ปิดสนิท” เสียงคำรามแหบดังมาจากเพื่อนร่วมทีมตรงหน้า หัวของผู้ชายคนนี้เหมือนหัวปลาหมึกและมีเหงือกอยู่ข้าง ๆ คอ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ผสานรวมกับยีนของปลา

  “เข้าไป!” เมื่อกลุ่มของหยูหานเห็นยุงปีศาจไล่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาจึงไม่ได้ไตร่ตรองอะไรให้มากมาย

  กลุ่มคนทั้งหมดกระโดดลงไปในทะเลสาบแล้วว่ายน้ำจากทางน้ำที่ทรุดตัวและลาดเอียง หลังจากว่ายน้ำนานกว่าครึ่งนาทีทุกคนก็คลานออกมาจากทางที่ทรุดตัวและมองไปที่ห้องโถงตรงทางออกของทางน้ำ เห็นได้ชัดว่าห้องโถงนี้เป็นอาคารที่จมอยู่ใต้น้ำในทะเลสาบหากดูจากภายนอก เวลลิงตันเป็นเมืองท่าเรือใกล้กับมหาสมุทร ทะเลสาบชั้นในแห่งนี้คือทะเลสาบโอเรียนท์เบย์ที่มีชื่อเสียงมาก

  หลังจากที่ทุกคนเข้ามาในห้องโถงพวกเขาก็ยังคงหอบหายใจเหนื่อยอยู่ การหนีอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อครู่นี้ไม่ใช่แค่ความเหนื่อยล้าในร่างกายเท่านั้น แต่แรงกดดันต่อหัวใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้

  ทุกคนเปียกและน้ำในทะเลสาบก็หยดไหลลงตามร่างกายของพวกเขา ทุกคนไม่พูดไม่จาและยังอยู่ในอารมณ์ที่ค่อนข้างหดหู่ ฉากที่โดสถูกยุงปีศาจดูดไปเมื่อกี้ยังคงทำให้หัวใจของทุกคนอยู่ในความตื่นตระหนก

  “ความผิดของฉันเอง ถ้าไม่ใช่เพราะฉันที่จะให้ทุกคนมาที่นี่ล่ะก็” หยูหานเงยหน้าขึ้นและกล่าวตำหนิตัวเอง

         “ไม่ ไม่มีใครโทษนาย นายบอกทุกคนตั้งแต่แรกแล้วว่าการมาที่นี่มันอันตรายจริง ๆ อีกอย่างตอนนี้นิวซีแลนด์ยังมีที่ปลอดภัยอยู่อีกเหรอ แม้แต่เราก็ยังต้องเผชิญกับภัยคุกคามความตายทุกรูปแบบตลอดเวลา โดสแค่นำหน้าทุกคนไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น”  ซินแคลร์ตบไหล่หยูหานอย่างปลอบประโลม

  “นั่นน่ะสิ ทุกคนที่นี่มีสติมากพอ เราไม่มาที่นี่เพียงเพราะนายบอกให้ทุกคนมาหรอก แต่เรามาเพราะเราอยากมาที่นี่ด้วย ในระยะดุร้ายรุนแรง ถ้าเราหาทางออกไม่ได้เราจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ไร้สติสัมปชัญญะไม่ช้าก็เร็ว พูดตรง ๆ ฉันไม่อยากเป็นสัตว์ประหลาด ดังนั้นถึงฉันจะรู้ว่าการตามหาดอกไม้มรณะนั้นจะอันตรายก็ตาม ……” ชายอีกคนกล่าว

  “เดี๋ยวนะ …… นั่นคืออะไร?” ทันใดนั้นผู้หญิงอีกคนก็เข้ามาขัดจังหวะพวกเขาแล้วชี้ไปที่ดอกไม้สีขาวกลางห้องโถง

  ทุกคนมองไปที่ตรงนั้นทันทีและพบว่าตรงกลางห้องโถงเป็นกองซากศพและมีกระดูกมนุษย์กระจัดกระจายอยู่ใต้เท้าของพวกเขาจำนวนนับไม่ถ้วน หลังจากเห็นฉากในห้องโถงอย่างชัดเจนหัวใจของทุกคนก็เต้นระรัว ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลลิงตัน และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เซลล์ดัดแปลงเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากล้มตายในเวลลิงตันเช่นกัน

  อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการตรวจสอบหาเหตุผลเหล่านั้น ทุกคนมองไปที่ดอกไม้สีขาวที่งอกจากเบ้าตาของกะโหลกศีรษะนั่นคือ ดอกไม้มรณะ!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 107 ยุงปีศาจ

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 107 ยุงปีศาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        ไป๋อี้ส่ายหัว!

  สรุปว่าไป๋อี้ยังไม่พร้อมที่จะปล่อยให้โม่โม่เผชิญความเสี่ยงนี้ แม้ว่าสายตาของโม่โม่จะดูแปลกไปเล็กน้อย แต่ทว่าหลังจากเข้ามาในเวลลิงตันไป๋อี้ก็ไม่กล้าที่จะใช้การเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์นี้เป็นเดิมพัน

  “ช่างมันเถอะ!”

  “พ่อ หนูทำได้” โม่โม่คิดว่าไป๋อี้เป็นห่วงเธอ ยิ่งถูกคิดว่าเป็นเด็กน้อย เธอยิ่งต้องการที่จะพิสูจน์ตนเอง

  “ไม่จำเป็น ไม่ต้องฝืนก็ได้ ถึงหนูจะมีการเปลี่ยนแปลงในแววตาของหนู แต่พ่อกลัวว่าหนูจะยังไม่รู้จักตัวเองชัดเจนนัก เราไม่จำเป็นต้องตั้งความหวังกับการเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์แบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเราไม่ได้มีความต้องการพิเศษที่จะเอาดอกไม้มรณะนี้มา ก็นะ อย่างน้อยตอนนี้เราก็ยังไม่ต้องการมัน ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องลองเสี่ยงกับพืชลักษณะนี้เลย” ไป๋อี้อธิบาย เขาต้องการที่จะปกป้องโม่โม่ แต่เขาก็ไม่ได้ปกป้องแบบสุ่มสี่สุ่มห้า

  ในช่วงเวลานี้ชาวนิวซีแลนด์ทั้งประเทศได้พัฒนาและทำการสำรวจอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่คุณสมบัติและลักษณะทางยาขั้นพื้นฐานของพืชแต่ละชนิดไปจนถึงความสามารถของสัตว์แต่ละประเภทหลังจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น การสำรวจทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเอง การฟื้นคืนสู่ร่างมนุษย์ รวมทั้งวิธีใช้พลังต่างๆ ……. เป็นต้น

  ไม่ใช่แค่มนุษย์กลายพันธุ์เท่านั้น แม้แต่นักวิจัยของทุกประเทศภายนอกกำลังศึกษาสิ่งเหล่านี้เช่นกัน เป็นไปตามการคาดเดาของด็อกเตอร์หวัง ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกไม่ได้ควบคุมนิวซีแลนด์ แต่ปล่อยให้ประเทศนี้พัฒนาและกลายเป็นระบบนิเวศที่แท้จริงของเซลล์ดัดแปลง

  แต่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่สำรวจสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองหรือการทดลองกับสิ่งเหล่านี้โดยมนุษย์จากภายนอกประเทศ มันก็ยังเป็นเรื่องที่อันตรายมาก นี่คือระบบนิเวศที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ทุกสิ่งที่อยู่ภายในนี้ไม่ใช่ความคุ้นเคยสำหรับทุกคน

  ลักษณะคุณสมบัติทางยาและวิธีการโจมตีของพืชและสัตว์แต่ละชนิดล้วนสรุปได้จากเลือกของมนุษย์กลายพันธุ์และสัตว์ทั้งหลาย

  ตัวอย่างเช่นดอกไม้มรณะ ไป๋อี้ไม่คิดว่าพวกเขาเป็นคนแรกที่ค้นพบพืชชนิดนี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แพร่หลายเกี่ยวกับดอกไม้มรณะ เช่น ข้อมูลในการการเก็บ วิธีการเก็บรักษา วิธีการแปรรูป วิธีการใช้งาน เป็นต้น แสดงว่ามันเป็นพืชที่อันตรายอีกชนิดหนึ่งอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ภายนอกหรือมนุษย์กลายพันธุ์ก็ตาม หากต้องการสำรวจสิ่งนี้ให้ชัดเจนและใช้งานได้จริงจำเป็นต้องจ่ายราคาความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นอย่างมากมาย

  ……

  “อาจจะดูเห็นแก่ตัวเล็กน้อย แต่รอให้คนอื่นสรุปข้อมูลการใช้งานของดอกไม้มรณะก่อนจะดีกว่า เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้มันขนาดนั้น” ไป๋อี้ลูบศีรษะของโม่โม่

  โม่โม่ดูเหมือนจะเข้าใจได้เพียงเล็กน้อย แต่ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

  หากดอกไม้มรณะมีความสามารถตามที่ร่ำลือมาในการทำให้จิตวิญญาณสงบ มันจะเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับทุกคน สาเหตุของระยะดุร้ายคือความไม่ประสานกันระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณ ตราบใดที่ความแตกต่างระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณได้รับการประสานเข้าด้วยกัน ผลกระทบและระยะเวลาของระยะดุร้ายจะสั้นลง

  อย่างไรก็ตามหากมันมีเพียงความสามารถนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับไป๋อี้และเพื่อน ๆ

  สำหรับตอนนี้การสอดประสานกันระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณของไป๋อี้ค่อนข้างคงที่ หลังจากเข้าสู่ห้วงนิทราที่ดิ่งลึกแล้วการสอดประสานกันของร่างกายและจิตวิญญาณจะกลมกลืนกันได้ดีกว่ายาคลายเครียดและยากล่อมประสาทชนิดอื่น ๆ และหากออกกำลังกายการฝึกเทคนิคมวยไทเก็กร่วมด้วยจะดียิ่งขึ้นเข้าไปอีก

  ซึ่งหลังจากที่ไป๋อี้และคนในกลุ่มได้ลองยากล่อมประสาทตัวใหม่พวกเขา ก็ยังต้องยอมแพ้

  เช่นเดียวกับคนทั่วไป บางคนทานยาบำรุงทุกวันแต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะมีสุขภาพที่ดี บางคนเพียงทานอาหารธรรมดาวันละ 3 มื้อก็ยังมีสุขภาพดีไม่แพ้กัน สิ่งมีชีวิตนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์และสัมพันธ์กลมกลืนกัน ซึ่งมีหน้าที่ในการปรับตัวเอง แม้แต่ความแตกต่างอย่างมากระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณก็ยังถูกปรับเข้าหากันได้โดยอัตโนมัติเช่นกัน ความช่วยเหลือจากภายนอกเป็นเพียงเงื่อนไขเท่านั้น แต่ไม่จำเป็น ตรงกันข้ามมีคำกล่าวเก่า ๆ ว่ามันคือยาอาบพิษ ตราบใดที่ร่างกายของเขาปรับตัวได้แล้วไป๋อี้ก็รู้สึกว่าจะดีกว่าที่จะไม่กินพืชชนิดใหม่ที่ยังไม่เข้าใจสรรพคุณทางยาของมัน

  ยิ่งการนอนหลับดีขึ้นเท่าไหร่ การปรับสมดุลร่างกายของสิ่งมีชีวิตเองก็จะยิ่งราบรื่นขึ้นเท่านั้น

  ในปัจจุบันทุกคนรู้เรื่องนี้ดี แต่ผู้คนจำนวนมากยังพึ่งพายาใหม่ ๆ ในการนอนหลับ คนที่สามารถสะกดจิตได้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ไป๋อี้และเพื่อน ๆ ยังไม่พบบุคคลที่สองที่มีความสามารถในการสะกดจิตแบบนี้

         “หยูหานและพวกมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด มันต้องมาเพื่อดอกไม้มรณะแน่ ๆ” เฮลัวส์กล่าว

  ไป๋อี้พยักหน้า ตลอดทางนอกเหนือจากการกระจายข่าวเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงเพื่อหวังจะช่วยมนุษย์กลายพันธุ์แล้ว พวกเขายังไล่ตามเส้นทางของหยูหานด้วย เมื่อไม่นานมานี้ในที่สุดก็รู้โดยบังเอิญว่าหยูหานกำลังจะมาที่เวลลิงตัน ไป๋อี้และพวกจึงไล่ตามมาถึงที่นี่

  ดวงตาของไป๋อี้นั้นสงบมาก แต่เจตนาฆ่าที่แฝงลึกเข้าไปในดวงตาของเขานั้นช่างหนาวเหน็บ!

  ……

  แน่นอนว่าหยูหานรู้ว่าไป๋อี้กำลังตามหาเขา และไม่จำเป็นต้องถามว่าทำไม แต่ตอนนี้หยูหานไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้เพราะกลุ่มของพวกเขากำลังถูกไล่ล่าโดยยุงปีศาจ สุดท้ายชายร่างอ้วนที่วิ่งช้าที่สุดถูกทิ้งไว้และในไม่ช้าเขาก็กรีดร้องโหยหวนออกมา

  หยูหานหยุดชะงัก แต่ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ คว้าหยูหานไว้ทันที

  “อย่าไป นายไปตอนนี้ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้แล้วล่ะ” ชายคนนั้นกล่าว

  “บัดซบ……!” ร่างกายของหยูหานสั่นสะท้าน เขาบีบหมัดซ้ายของเขาอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าเขาจะเสียใจที่เขาไม่สามารถช่วยเพื่อนร่วมทีมของเขาได้ เขาต้องเจ็บปวดใจอย่างแน่นอน ชายอ้วนคนนั้นเป็นลูกทีมที่มีฝีมือร้ายกาจ  แต่เขาก็ไม่ได้เจ็บปวดใจราวกับสูญเสียพี่น้องไปอะไรอย่างนั้น

  ในเวลานี้ชายอ้วนที่ถูกรายล้อมไปด้วยยุงปีศาจยังคงโบกแขนขาของเขาไปมาและส่งเสียงตะโกนดังลั่น อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งที่ทรงพลัง ผิวที่เหนียว และกระดองที่แข็งนั้นช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ ในเวลานี้ แม้ว่ายุงปีศาจจะไม่สามารถเจาะกระดองเหล่านี้ได้ แต่พวกมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกัดในบริเวณที่แข็ง ๆ เหล่านี้ ภายในไม่กี่วินาทีชายร่างอ้วนก็รู้สึกเสียวซ่าบริเวณเปลือกตา เห็นได้ชัดว่ายุงตัวน้อยสอดปากแหลมของมันเข้าไปในร่างกายของเขาแล้ว

  แม้ว่าชายร่างอ้วนจะตบที่หน้าและตบยุงตัวเล็กๆหลายสิบตัวจนตาย แต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่บินมาจากด้านหลัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพิษที่สามารถละลายในเลือดได้ได้เข้าสู่ร่างกายของเขาแล้ว

  เร็วมาก เร็วจนน่าเหลือเชื่อ!

  พิษที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในร่างกายของเขาทำให้ชายอ้วนคนนี้เป็นอัมพาต เขาสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวภายในไม่กี่วินาที ยิ่งไปกว่านั้นสารละลายในเลือดทำให้เนื้อและเลือดของเขาหลอมละลายอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นน้ำผลไม้ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ร่างกายของชายอ้วนกระตุกอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากเขาเป็นอัมพาตเขาจึงไม่สามารถแม้แต่จะกรีดร้องได้ จากความสิ้นหวังที่ฉายออกมาผ่านสายตาของชายอ้วน ทำให้เขารู้ว่าการตายแบบนี้ทรมานแค่ไหนสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย

  ยิ่งไปกว่านั้นไม่เพียงแต่เนื้อและเลือดเท่านั้น แม้แต่กระดูกก็ยังถูกกัดกร่อนจนสลายตัวอย่างรวดเร็ว โชคดีที่การสลายตัวนี้เร็วมากและไม่ได้ทำให้ชายร่างอ้วนทรมานมากไปกว่านี้

  ยุงปีศาจตัวอื่น ๆ รวมตัวกันอยู่รอบ ๆ ตัวเขา ภายในไม่กี่นาทีร่างของชายอ้วนที่สูงและแข็งแรงกว่าวูล์ฟซึ่งสูงมากกว่าสี่เมตรก็สลายตัวทลายลงมา มีเพียงกระดองแข็งและกรงเล็บบางส่วนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ ทั้งยังมีหนังมนุษย์ติดอยู่กับกระดูกที่ยังไม่ละลายอยู่ด้วย

  หยูหานและกลุ่มของเขายังคงมองย้อนกลับไปดูขณะที่พวกเขากำลังหลบหนี พวกเขารู้สึกหนาวสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อได้เห็นฉากดังกล่าว

  ยุงปีศาจ!

  สมกับชื่อของปีศาจ น่ากลัวยิ่งกว่าผีสางนางไม้หรือสิ่งอื่นใดเสียอีก สุดท้ายแล้วความสยองขวัญนี้ก็แจ่มแจ้งชัดเจนและโหดร้ายยิ่งกว่าผีที่ไม่มีตัวตนพวกนั้น

  “หยูหาน ที่นี่ ทะเลสาบที่นำไปสู่ห้องโถงแห่งความลับที่ปิดสนิท” เสียงคำรามแหบดังมาจากเพื่อนร่วมทีมตรงหน้า หัวของผู้ชายคนนี้เหมือนหัวปลาหมึกและมีเหงือกอยู่ข้าง ๆ คอ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ผสานรวมกับยีนของปลา

  “เข้าไป!” เมื่อกลุ่มของหยูหานเห็นยุงปีศาจไล่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาจึงไม่ได้ไตร่ตรองอะไรให้มากมาย

  กลุ่มคนทั้งหมดกระโดดลงไปในทะเลสาบแล้วว่ายน้ำจากทางน้ำที่ทรุดตัวและลาดเอียง หลังจากว่ายน้ำนานกว่าครึ่งนาทีทุกคนก็คลานออกมาจากทางที่ทรุดตัวและมองไปที่ห้องโถงตรงทางออกของทางน้ำ เห็นได้ชัดว่าห้องโถงนี้เป็นอาคารที่จมอยู่ใต้น้ำในทะเลสาบหากดูจากภายนอก เวลลิงตันเป็นเมืองท่าเรือใกล้กับมหาสมุทร ทะเลสาบชั้นในแห่งนี้คือทะเลสาบโอเรียนท์เบย์ที่มีชื่อเสียงมาก

  หลังจากที่ทุกคนเข้ามาในห้องโถงพวกเขาก็ยังคงหอบหายใจเหนื่อยอยู่ การหนีอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อครู่นี้ไม่ใช่แค่ความเหนื่อยล้าในร่างกายเท่านั้น แต่แรงกดดันต่อหัวใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้

  ทุกคนเปียกและน้ำในทะเลสาบก็หยดไหลลงตามร่างกายของพวกเขา ทุกคนไม่พูดไม่จาและยังอยู่ในอารมณ์ที่ค่อนข้างหดหู่ ฉากที่โดสถูกยุงปีศาจดูดไปเมื่อกี้ยังคงทำให้หัวใจของทุกคนอยู่ในความตื่นตระหนก

  “ความผิดของฉันเอง ถ้าไม่ใช่เพราะฉันที่จะให้ทุกคนมาที่นี่ล่ะก็” หยูหานเงยหน้าขึ้นและกล่าวตำหนิตัวเอง

         “ไม่ ไม่มีใครโทษนาย นายบอกทุกคนตั้งแต่แรกแล้วว่าการมาที่นี่มันอันตรายจริง ๆ อีกอย่างตอนนี้นิวซีแลนด์ยังมีที่ปลอดภัยอยู่อีกเหรอ แม้แต่เราก็ยังต้องเผชิญกับภัยคุกคามความตายทุกรูปแบบตลอดเวลา โดสแค่นำหน้าทุกคนไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น”  ซินแคลร์ตบไหล่หยูหานอย่างปลอบประโลม

  “นั่นน่ะสิ ทุกคนที่นี่มีสติมากพอ เราไม่มาที่นี่เพียงเพราะนายบอกให้ทุกคนมาหรอก แต่เรามาเพราะเราอยากมาที่นี่ด้วย ในระยะดุร้ายรุนแรง ถ้าเราหาทางออกไม่ได้เราจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ไร้สติสัมปชัญญะไม่ช้าก็เร็ว พูดตรง ๆ ฉันไม่อยากเป็นสัตว์ประหลาด ดังนั้นถึงฉันจะรู้ว่าการตามหาดอกไม้มรณะนั้นจะอันตรายก็ตาม ……” ชายอีกคนกล่าว

  “เดี๋ยวนะ …… นั่นคืออะไร?” ทันใดนั้นผู้หญิงอีกคนก็เข้ามาขัดจังหวะพวกเขาแล้วชี้ไปที่ดอกไม้สีขาวกลางห้องโถง

  ทุกคนมองไปที่ตรงนั้นทันทีและพบว่าตรงกลางห้องโถงเป็นกองซากศพและมีกระดูกมนุษย์กระจัดกระจายอยู่ใต้เท้าของพวกเขาจำนวนนับไม่ถ้วน หลังจากเห็นฉากในห้องโถงอย่างชัดเจนหัวใจของทุกคนก็เต้นระรัว ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลลิงตัน และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เซลล์ดัดแปลงเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากล้มตายในเวลลิงตันเช่นกัน

  อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการตรวจสอบหาเหตุผลเหล่านั้น ทุกคนมองไปที่ดอกไม้สีขาวที่งอกจากเบ้าตาของกะโหลกศีรษะนั่นคือ ดอกไม้มรณะ!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+