[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 135 ทักษะการใช้มีดดาบที่สมบูรณ์

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 135 ทักษะการใช้มีดดาบที่สมบูรณ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ถึงมือข้างซ้ายจะมีเลือดไหลออกมา นอกจากจะไม่ได้ทำให้เรย์มอนด์รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใดแล้ว เขายังเผยรอยยิ้มที่บ้าคลั่งออกมาอย่างมีเลศนัยอีกด้วย นี่คือชายผู้มีประสบการณ์การต่อสู้บนเส้นทางของชีวิตและความตายอย่างแท้จริง ความต้องการฆ่าที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจปะทุมาจากสัญชาตญาณของร่างกายอย่างสมบูรณ์ เมื่อเขาได้เข้าสู่การต่อสู้มันจึงได้เปล่งประกายออกมาเองตามธรรมชาติ

  ฮ่า ฮ่า ฮ่า~!

  เรย์มอนด์เลียเลือดที่มือซ้ายของเขา ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เคร่งตึงขึ้นอย่างกะทันหัน กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเขาดูเหมือนจะขยายตัวใหญ่ขึ้นมาในทันที มือของเขาทั้งสองข้างมีกรงเล็บที่แหลมคมยาวกว่า 10 เซนติเมตรโผล่ออกมา ในขณะที่ดวงตาของเขาก็ฉายแววดุดันมากขึ้นเรื่อย ๆ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้คนทั่วบริเวณนั้นต่างก็รู้สึกตกใจ การต่อสู้ของเรย์มอนด์ก่อนหน้านี้แม้ว่าเขาจะดูบ้าระห่ำ แต่เขาก็ไม่เคยเผยศักยภาพแบบนี้ออกมา ทุกคนรู้ดีว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ในตอนนี้ของเรย์มอนด์แข็งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่า

  เรย์มอนด์นอนหมอบอยู่บนพื้นราวกับหมาป่ายักษ์ก่อนที่จะกระโดดอย่างแรงด้วยขาของเขาและกระโจนออกไปทันที

  ทันใดนั้นเสียงปะทะก็ดังอึกทึกขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกคนเห็นเพียงร่างของทั้งสองต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง เรย์มอนด์ละทิ้งท่อนกระดูกของเขาไปและใช้กรงเล็บของตัวเองเพื่อต่อสู้กับไป๋อี้ เห็นได้ชัดว่ากรงเล็บที่โผล่ออกมานั้นแข็งแรงมาก ซึ่งดาบเขี้ยวของไป๋อี้ก็แข็งแรงไม่แพ้กัน ในขณะเดียวกันเมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะเข้าหากันก็เกิดเป็นประกายไฟขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  ผู้คนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่รอบ ๆ ต่างตกตะลึงกับการต่อสู้ครั้งนี้ นี่เป็นเพียงการทดสอบประลองการต่อสู้จริง ๆ เหรอ?

  ก่อนหน้านี้ไป๋อี้นึกว่าตัวเองได้เลือกเพื่อนร่วมทีมที่ดีแล้ว แต่คราวนี้เขาชักเริ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการต่อสู้บนเวทีครั้งก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งก่อนหน้าดูเป็นเรื่องตลกไปเลย แต่ในเวลานี้ผู้ชมที่สังเกตการณ์อยู่ก็ไม่ได้สนใจพวกคนที่ขึ้นต่อสู้ก่อนหน้าพวกไป๋อี้เลย ทว่ากลับเฝ้าดูการต่อสู้บนเวทีกันอย่างใจจดใจจ่อ

  นี่คือทักษะฝีมือการต่อสู้ที่แท้จริงหรือนี่!

  ฝีเท้าของไป๋อี้เป็นจังหวะแม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะรวดเร็ว แต่ก็มีการจัดระเบียบร่างกายที่ดีเห็นได้ชัดว่าเขามีทักษะการใช้มีดดาบที่ดีมานานแล้วไม่เหมือนกับคนธรรมดาที่เพียงถือมีดดาบกวัดแกว่งไปมาเท่านั้น แม้ว่าพฤติกรรมของเรย์มอนด์จะดูบ้าคลั่งและหยาบกร้าน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขามีกฎเกณฑ์ของตัวเองและเขาควรจะต้องสำรวจสืบเสาะมันด้วยตัวเอง

  หลังจากการปะทะกันแบบตัวต่อตัวกับเรย์มอนด์หลายสิบครั้งไป๋อี้ก็ต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้น่าทึ่งจริง ๆ

  ด้วยช่องว่างจากการปะทะกันช่วยให้ไป๋อี้มีโอกาสเด้งตัวกลับมา จึงทำให้ท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็กลับมาทรงตัวได้อีกครั้ง

  เลือดในร่างกายของไป๋อี้กำลังพุ่งพล่านโหมลุกไหม้ขึ้นมา เมื่อครู่นี้ที่ไป๋อี้สามารถต่อกรกับเรย์มอนด์แบบตัวต่อตัวได้นั้นเป็นเพราะการระเบิดจากเลือดที่พุ่งพล่านในตัวเขา ไป๋อี้นั้นแตกต่างจากวูล์ฟ เขาไม่ได้มีพลังจากการผสานรวมยีน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับพละกำลังอันทรงพลังเช่นนี้ แต่ไป๋อี้ก็พึงพอใจกับความสามารถในปัจจุบันของเขา และไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้ทุกสิ่งทุกอย่าง

  “ว่ายังไง ไม่อยากสู้แล้วเหรอ ฉันไม่ยอมหรอก!” เรย์มอนด์อดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นไป๋อี้หยุดชะงัก

  “นายแน่ใจหรือว่าต้องการสู้ต่อ ฉันไม่รับประกันนะว่านายจะรอด” ไป๋อี้พูดอย่างใจเย็น

  “จะเป็นอะไรไป สถานการณ์ตอนนี้ในนิวซีแลนด์ยิ่งกลัวความตายก็ยิ่งได้ตายเร็ว!” เรย์มอนด์พูดพร้อมกับคว้าท่อนกระดูกที่ตกอยู่ที่พื้นแล้วรีบปรี่ตรงไปที่ไป๋อี้อีกครั้ง ทางด้านของไป๋อี้ก็ได้คว้าดาบเขี้ยวกำไว้ในมืออย่างแน่นหนา

  ชิ้ง ~~!

  มีเสียงลากยาวจากการฟันดาบดังขึ้นขณะเดียวกันกับที่ม่านตาบุษบาผกผันปรากฏขึ้นชัดเจน ไป๋อี้จับทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์และร่างของเขาก็สไลด์ตัวเคลื่อนผ่านเรย์มอนด์ไปโดยไม่ปล่อยให้เขาโจมตีได้ ขณะนั้นภาพเบื้องหลังของไป๋อี้ก็เผยให้เห็นท่อนกระดูกที่อยู่ในมือของเรย์มอนด์ที่แตกออกเป็นเสี่ยงและส่วนบนก็ลอยขึ้นเป็นวงโคจรวงกลมขึ้นไปข้างบน ในขณะที่บริเวณเอวของเรย์มอนด์ก็เกิดบาดแผลขนาดใหญ่จนเขากระอักเลือดอย่างบ้าคลั่ง

  ทักษะดาบ …… การสไลด์ตัวฟันดาบ!

  ทักษะการใช้มีดดาบของไป๋อี้นั้นดีมาโดยตลอด หลังจากการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์เขาได้สรุปวิธีการต่อสู้เชิงปฏิบัติต่าง ๆ ไว้โดยละเอียด ในสถาบันวิจัยตอนที่ต่อสู้กับเบ็นสันครั้งนั้นถือเป็นความก้าวหน้าอย่างแท้จริง ทำให้ทักษะมีดที่ใช้ในการปรุงอาหารเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง หลังจากประสบการณ์การเดินทางอันยาวนานทักษะการใช้มีดดาบขั้นพื้นฐานในทีมของไป๋อี้ก็ได้รับการสรุปเป็นระบบแบบแผน แน่นอนว่านี่อาจจะเป็นข้อมูลอย่างหยาบ แต่เมื่อเทียบกับหลาย ๆ คนที่ยังขาดทักษะ ก็นับได้ว่าพวกเขาพัฒนาไปไกลมาก

  ผู้คนรอบข้างล่างต่างมึนงง!

  ทักษะการใช้ดาบนั่น?

  นิวซีแลนด์ไม่ใช่ประเทศเมืองเล็ก ๆ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของที่นี่มีการพัฒนาอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็ยังได้ซึมซับทักษะการใช้มีดดาบมากมายในภาพยนตร์และนวนิยายต่าง ๆ อย่างไรก็ตามแม้ว่านิวซีแลนด์จะกลายเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่มีใครศึกษาสิ่งเหล่านี้อย่างจริงจัง แต่ตอนนี้หลังจากได้เห็นทักษะการใช้ดาบของไป๋อี้ ก็เหมือนกับเกิดเสียงฟ้าร้องระเบิดดังขึ้นในใจของทุกคน ที่แท้การต่อสู้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้พวกเขากลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์แล้ว

  เห็นได้ชัดว่าเรย์มอนด์นั้นมีท่าทีที่สับสนมึนงง ก่อนที่ร่างของเขาจะร่วงลงสู่พื้นทันที

  ท่อนกระดูกที่หักถูกเสียบลงกับพื้น เรย์มอนด์ยังคงระงับอารมณ์รุนแรงดุร้ายและเจตนาโหยหาการฆ่าในใจของเขา แย่แล้ว ในเวลานี้แม้แต่ตัวเรย์มอนด์ก็รู้สึกแย่ในใจ คราวนี้เขาไม่ได้ตั้งใจคลุ้มคลั่ง แต่เขาเริ่มสูญเสียการควบคุมจริง ๆ รูม่านตาของเรย์มอนด์ค่อย ๆ ขยายออก จากนั้นก็ค่อย ๆ หดตัวลงเรื่อย ๆ และเริ่มคลุ้มคลั่งอย่างบ้าระห่ำในที่สุด

  หลังจากที่ไป๋อี้ใช้ทักษะมีดดาบของเขาไปเช่นนั้นแล้ว เขาก็หยุดลง และก่อนที่จะวางแผนรอเรย์มอนด์ ไป๋อี้ก็ได้คำนวณพลังของเขา ด้วยดาบเพียงเล่มเดียวอันที่จริงไป๋อี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายเรย์มอนด์ แต่ตอนนี้ความสามารถของไป๋อี้ยังไม่ถึงระดับที่จะควบคุมพลังของเขาได้อย่างอิสระ ดังนั้นพลังที่เขาใช้ในการฟันท่อนกระดูกจึงฟันไปโดนเรย์มอนด์จนเกิดบาดแผลขนาดใหญ่

  ความรู้สึกแบบนี้!

  ไป๋อี้มองร่างที่สั่นเทาเล็กน้อยของเรย์มอนด์และออร่าคลุ้มคลั่งที่แผ่กระจายออกมาจากตัวเขา ทันใดนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ เรย์มอนด์ในตอนนี้เข้าสู่สภาวะดุร้ายไปกว่า 80% แล้ว

  แน่นอนว่าในชั่วพริบตาต่อมาเรย์มอนด์ก็คำรามขึ้นมาอย่างกะทันหันจากนั้นเขาก็คว้าท่อนกระดูกที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งขึ้นมาจากพื้นแล้วเขวี้ยงไปที่ไป๋อี้ ด้วยแรงเขวี้ยงทำให้กระดูกท่อนนั้นพุ่งตรงมาที่ใบหน้าของไป๋อี้ ถัดจากเบื้องหลังแท่งกระดูกคือปากและกรงเล็บขนาดใหญ่ของเรย์มอนด์ที่กำลังเขมือบกัดเข้าใส่ราวกับหมาป่าด้วยความเดือดดาล

  ไป๋อี้หลีกเลี่ยงจากท่อนกระดูกในทันที จากนั้นก็ใช้มือซ้ายดึงดาบที่ด้านหลังออกมาขวางกั้นรับแรงปะทะจากกรงเล็บของเรย์มอนด์

  ปัง เสียงดังก้องไป๋อี้ถูกพลังอันมหาศาลของเรย์มอนด์ปะทะใส่จนกระเด็นออกไป

  แม้ว่าคนอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบตัวเขาจะเริ่มเอื่อยเฉื่อยในเวลานี้ แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็สามารถเห็นได้ชัดเจนว่าเรย์มอนด์เข้าสู่ระยะดุร้ายอย่างสมบูรณ์แล้ว และในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ อย่างสิ้นเชิง ท่อนกระดูกที่เขวี้ยงออกไปได้เสียบเข้าที่ต้นขาของสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่ไม่ทันได้หลบเลี่ยงและได้ยินเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดตามมา เสียงนี้ทำให้คนรอบข้างรู้สึกประหม่าในทันที พวกเขาส่วนใหญ่ถึงกับหยิบอาวุธของตัวเองขึ้นมาเตรียมพร้อมที่จะปราบเรย์มอนด์ หรือไม่ก็ฆ่าเขาซะ

  ไป๋อี้ถูกพละกำลังนี้โผขึ้นกลางอากาศและลอยกลับหัวเป็นระยะทางหนึ่ง ก่อนจะกระดอนลงสู่พื้น เท้าของไป๋อี้เสียดทานกับพื้นด้วยพลังอันทรงพลังทำให้เกิดรอยขีดข่วนลึกสองรอยบนพื้นดิน

  ช่างมีพลังแข็งแกร่งอะไรอย่างนี้!

  ไป๋อี้ฟันดาบของเขาอย่างสุดแรงเกิดเพื่อต้านทานกับกรงเล็บของเรย์มอนด์ ในเวลานี้การฟาดฟันระหว่างทั้งสองฝ่ายสั่นสะท้านอยู่ตลอดเวลา พวกเขาต่างก็ส่งเสียงคำรามดังสนั่น เมื่อเห็นสภาพของไป๋อี้คนอื่น ๆ ก็อยากจะขึ้นไปร่วมจัดการกับเรย์มอนด์ แต่ในเวลานี้วูล์ฟได้ห้ามปรามและหยุดทุกคนเอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าไป๋อี้กำลังวางแผนอะไรอยู่ แต่พวกเขาก็รู้ว่าไม่ควรปล่อยให้คนเหล่านี้เข้าไปรบกวน

  ม่านตาบุษบาผกผัน!

  ทันใดนั้นดวงตาของไป๋อี้ก็เปลี่ยนไปอีกครั้งเหมือนดอกไม้ที่เติบโตผกผันได้ดูดกลืนความคิดของเรย์มอนด์ทันที รวมถึงทุกคนที่อยู่บริเวณตรงหน้าไป๋อี้ด้วย ขณะนี้พวกเขาต่างก็มีอาการสับสนมึนงงเล็กน้อย แม้ว่าไป๋อี้ไม่ได้เพ่งเล็งไปที่พวกเขา แต่พวกเขาต่างก็เห็นดวงตาของไป๋อี้เช่นกัน

  พฤติกรรมของเรย์มอนด์ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง ก่อนที่ความแข็งแกร่งของเขาจะค่อย ๆ จางหายไป และจากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นในที่สุด

  ดวงตาของไป๋อี้กลับมาเป็นปกติหลังจากที่เรย์มอนด์ล้มลง ในตอนนี้คนที่ตกอยู่ในภวังค์เมื่อครู่นี้ต่างก็รู้สึกถึงความประหลาดในจิตใจของพวกเขา สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้มันอะไรกัน

  “ที่นี่มีใครเป็นหมอที่พอจะช่วยรักษาเรย์มอนด์ได้บ้าง” ไป๋อี้เอ่ยกับฝูงชนด้านล่าง

  “มีหมอไหม?” ไป๋อี้อดไม่ได้ที่จะถามย้ำอีกครั้งเมื่อไม่มีใครตอบกลับมาจากกลุ่มฝูงชนด้านล่าง

  “เขาในตอนนี้จะไม่เป็นปัญหาเหรอ เมื่อครู่นี้เขาเข้าสู่สภาวะดุร้ายนี่นา” ในที่สุดใครบางคนก็ถามขึ้นมา

  “ไม่มีปัญหา เขาหลับไปแล้วล่ะ หลังจากเขาตื่นขึ้นมาสติเขาก็จะฟื้นคืนเช่นกัน” ไป๋อี้ตอบด้วยรอยยิ้ม

  หลังจากได้ยินคำพูดของไป๋อี้ ในที่สุดก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีความสูงเพียง 1.5-1.6 เมตรที่ดูเหมือนแกะน้อยยกมือขึ้น  “เป็นฉันได้ไหม ฉันเป็นหมอค่ะ”

  “แน่นอน รบกวนเธอด้วยล่ะ” ไป๋อี้พูดกับหญิงสาว

  “ไม่เป็นไรค่ะ” เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาและขอให้ไป๋อี้ช่วยพลิกตัวเรย์มอนด์อย่างชำนาญ เธอหยิบมีดอันแหลมคมออกมาโกนขนที่บริเวณขอบแผลของเรย์มอนด์แล้วล้างออกด้วยน้ำ จากนั้นก็เทผงชนิดหนึ่งที่บดแล้วลงไปเล็กน้อยก่อนจะห่อไว้ด้วยความระมัดระวัง

  “น้ำเหล่านี้เป็นน้ำกลั่นบริสุทธิ์ทั้งหมด เนื่องจากบางครั้งอาจไม่สะดวกที่จะใช้ในตอนที่ต้องการใช้อย่างเร่งด่วน ดังนั้นฉันมักจะเตรียมการไว้บางส่วน ผงเหล่านี้เป็นสูตรของฉันเองและมันก็ได้ผลดีมาก” เด็กหญิงที่ราวกับแกะตัวน้อยกำลังพันผ้าพันแผลและอธิบายให้ไป๋อี้เห็นอย่างชัดด้วยเธอเกรงว่าไป๋อี้อาจจะเข้าใจผิด

  “ขอบคุณนะ” ไป๋อี้พยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นหมอน้อยที่มีการเตรียมพร้อมดีมาก นี่ดูจะเป็นการทำความสะอาดบาดแผลที่ดีกว่ากาใช้น้ำยาแอลกอฮอล์ล้างแผลเสียอีก อย่างไรก็ตามการหาแหล่งวัตถุดิบต่าง ๆ ของนิวซีแลนด์ในปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

  “เสร็จแล้ว ตราบใดที่เขานอนพักเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์เขาก็จะสามารถแกะผ้าพันแผลออกได้ค่ะ” เด็กสาวแกะน้อยพูดแล้วพยักหน้าให้ไป๋อี้ ก่อนจะวิ่งออกไปพร้อมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ของเธอ ไป๋อี้มองตามและเห็นว่าอีกด้านหนึ่งมีคนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังรอเธออยู่ เมื่อพวกเขาเห็นไป๋อี้มองมายังกลุ่มตนเอง ชายคนนั้นก็พยักหน้าให้ไป๋อี้ทันที

  ขณะเดียวกันไป๋อี้เองก็พยักหน้าแสดงความขอบคุณกลับไป

  สาวน้อยคนนั้นมีทีมอยู่แล้วอย่างแน่นอน ในนิวซีแลนด์ขณะนี้อาชีพหมอมีความสำคัญเป็นอย่างมาก แม้แต่หมออ่อนหัด ก็ประมาณการณ์ได้ว่าจะต้องมีทีมวิ่งเข้ามามาถามไถ่ชักชวนเข้าทีมอย่างแน่นอน นับประสาอะไรกับสาวน้อยราวกับแกะน้อยน่ารัก น่าเสียดายจริง ๆ ไม่เช่นนั้นไป๋อี้ก็อยากจะเชิญสาวน้อยเข้าร่วมทีมของเขาด้วย

  อย่างไรก็ตามแบบนี้ก็ไม่เลว ดูเหมือนว่าเรย์มอนด์คงยังวิ่งไม่ไหว แล้วยังมีมัลวีย์ช่างหลอมอาวุธที่เขาพบก่อนหน้านี้อีก เพียงแค่พบทั้งสองคนนี้ ก็เป็นการดีแล้ว  มีฝูงชนมากมายที่นี่และนั่นมันก็ลำบากเอาการทีเดียว ไป๋อี้ยังไม่รู้ว่ามีคนสองคนมายังสถานที่ที่เขารับสมัครคนเข้าทีมแล้ว อย่างไรก็ตามทั้งสองคนพูดไม่ออกเล็กน้อยเมื่อเห็นพูพูนอนเอามือกุมท้องอยู่หลังโต๊ะ

  เจ้าหมู?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 135 ทักษะการใช้มีดดาบที่สมบูรณ์

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 135 ทักษะการใช้มีดดาบที่สมบูรณ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ถึงมือข้างซ้ายจะมีเลือดไหลออกมา นอกจากจะไม่ได้ทำให้เรย์มอนด์รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใดแล้ว เขายังเผยรอยยิ้มที่บ้าคลั่งออกมาอย่างมีเลศนัยอีกด้วย นี่คือชายผู้มีประสบการณ์การต่อสู้บนเส้นทางของชีวิตและความตายอย่างแท้จริง ความต้องการฆ่าที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจปะทุมาจากสัญชาตญาณของร่างกายอย่างสมบูรณ์ เมื่อเขาได้เข้าสู่การต่อสู้มันจึงได้เปล่งประกายออกมาเองตามธรรมชาติ

  ฮ่า ฮ่า ฮ่า~!

  เรย์มอนด์เลียเลือดที่มือซ้ายของเขา ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เคร่งตึงขึ้นอย่างกะทันหัน กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเขาดูเหมือนจะขยายตัวใหญ่ขึ้นมาในทันที มือของเขาทั้งสองข้างมีกรงเล็บที่แหลมคมยาวกว่า 10 เซนติเมตรโผล่ออกมา ในขณะที่ดวงตาของเขาก็ฉายแววดุดันมากขึ้นเรื่อย ๆ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้คนทั่วบริเวณนั้นต่างก็รู้สึกตกใจ การต่อสู้ของเรย์มอนด์ก่อนหน้านี้แม้ว่าเขาจะดูบ้าระห่ำ แต่เขาก็ไม่เคยเผยศักยภาพแบบนี้ออกมา ทุกคนรู้ดีว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ในตอนนี้ของเรย์มอนด์แข็งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่า

  เรย์มอนด์นอนหมอบอยู่บนพื้นราวกับหมาป่ายักษ์ก่อนที่จะกระโดดอย่างแรงด้วยขาของเขาและกระโจนออกไปทันที

  ทันใดนั้นเสียงปะทะก็ดังอึกทึกขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกคนเห็นเพียงร่างของทั้งสองต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง เรย์มอนด์ละทิ้งท่อนกระดูกของเขาไปและใช้กรงเล็บของตัวเองเพื่อต่อสู้กับไป๋อี้ เห็นได้ชัดว่ากรงเล็บที่โผล่ออกมานั้นแข็งแรงมาก ซึ่งดาบเขี้ยวของไป๋อี้ก็แข็งแรงไม่แพ้กัน ในขณะเดียวกันเมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะเข้าหากันก็เกิดเป็นประกายไฟขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  ผู้คนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่รอบ ๆ ต่างตกตะลึงกับการต่อสู้ครั้งนี้ นี่เป็นเพียงการทดสอบประลองการต่อสู้จริง ๆ เหรอ?

  ก่อนหน้านี้ไป๋อี้นึกว่าตัวเองได้เลือกเพื่อนร่วมทีมที่ดีแล้ว แต่คราวนี้เขาชักเริ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการต่อสู้บนเวทีครั้งก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งก่อนหน้าดูเป็นเรื่องตลกไปเลย แต่ในเวลานี้ผู้ชมที่สังเกตการณ์อยู่ก็ไม่ได้สนใจพวกคนที่ขึ้นต่อสู้ก่อนหน้าพวกไป๋อี้เลย ทว่ากลับเฝ้าดูการต่อสู้บนเวทีกันอย่างใจจดใจจ่อ

  นี่คือทักษะฝีมือการต่อสู้ที่แท้จริงหรือนี่!

  ฝีเท้าของไป๋อี้เป็นจังหวะแม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะรวดเร็ว แต่ก็มีการจัดระเบียบร่างกายที่ดีเห็นได้ชัดว่าเขามีทักษะการใช้มีดดาบที่ดีมานานแล้วไม่เหมือนกับคนธรรมดาที่เพียงถือมีดดาบกวัดแกว่งไปมาเท่านั้น แม้ว่าพฤติกรรมของเรย์มอนด์จะดูบ้าคลั่งและหยาบกร้าน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขามีกฎเกณฑ์ของตัวเองและเขาควรจะต้องสำรวจสืบเสาะมันด้วยตัวเอง

  หลังจากการปะทะกันแบบตัวต่อตัวกับเรย์มอนด์หลายสิบครั้งไป๋อี้ก็ต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้น่าทึ่งจริง ๆ

  ด้วยช่องว่างจากการปะทะกันช่วยให้ไป๋อี้มีโอกาสเด้งตัวกลับมา จึงทำให้ท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็กลับมาทรงตัวได้อีกครั้ง

  เลือดในร่างกายของไป๋อี้กำลังพุ่งพล่านโหมลุกไหม้ขึ้นมา เมื่อครู่นี้ที่ไป๋อี้สามารถต่อกรกับเรย์มอนด์แบบตัวต่อตัวได้นั้นเป็นเพราะการระเบิดจากเลือดที่พุ่งพล่านในตัวเขา ไป๋อี้นั้นแตกต่างจากวูล์ฟ เขาไม่ได้มีพลังจากการผสานรวมยีน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับพละกำลังอันทรงพลังเช่นนี้ แต่ไป๋อี้ก็พึงพอใจกับความสามารถในปัจจุบันของเขา และไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้ทุกสิ่งทุกอย่าง

  “ว่ายังไง ไม่อยากสู้แล้วเหรอ ฉันไม่ยอมหรอก!” เรย์มอนด์อดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นไป๋อี้หยุดชะงัก

  “นายแน่ใจหรือว่าต้องการสู้ต่อ ฉันไม่รับประกันนะว่านายจะรอด” ไป๋อี้พูดอย่างใจเย็น

  “จะเป็นอะไรไป สถานการณ์ตอนนี้ในนิวซีแลนด์ยิ่งกลัวความตายก็ยิ่งได้ตายเร็ว!” เรย์มอนด์พูดพร้อมกับคว้าท่อนกระดูกที่ตกอยู่ที่พื้นแล้วรีบปรี่ตรงไปที่ไป๋อี้อีกครั้ง ทางด้านของไป๋อี้ก็ได้คว้าดาบเขี้ยวกำไว้ในมืออย่างแน่นหนา

  ชิ้ง ~~!

  มีเสียงลากยาวจากการฟันดาบดังขึ้นขณะเดียวกันกับที่ม่านตาบุษบาผกผันปรากฏขึ้นชัดเจน ไป๋อี้จับทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์และร่างของเขาก็สไลด์ตัวเคลื่อนผ่านเรย์มอนด์ไปโดยไม่ปล่อยให้เขาโจมตีได้ ขณะนั้นภาพเบื้องหลังของไป๋อี้ก็เผยให้เห็นท่อนกระดูกที่อยู่ในมือของเรย์มอนด์ที่แตกออกเป็นเสี่ยงและส่วนบนก็ลอยขึ้นเป็นวงโคจรวงกลมขึ้นไปข้างบน ในขณะที่บริเวณเอวของเรย์มอนด์ก็เกิดบาดแผลขนาดใหญ่จนเขากระอักเลือดอย่างบ้าคลั่ง

  ทักษะดาบ …… การสไลด์ตัวฟันดาบ!

  ทักษะการใช้มีดดาบของไป๋อี้นั้นดีมาโดยตลอด หลังจากการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์เขาได้สรุปวิธีการต่อสู้เชิงปฏิบัติต่าง ๆ ไว้โดยละเอียด ในสถาบันวิจัยตอนที่ต่อสู้กับเบ็นสันครั้งนั้นถือเป็นความก้าวหน้าอย่างแท้จริง ทำให้ทักษะมีดที่ใช้ในการปรุงอาหารเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง หลังจากประสบการณ์การเดินทางอันยาวนานทักษะการใช้มีดดาบขั้นพื้นฐานในทีมของไป๋อี้ก็ได้รับการสรุปเป็นระบบแบบแผน แน่นอนว่านี่อาจจะเป็นข้อมูลอย่างหยาบ แต่เมื่อเทียบกับหลาย ๆ คนที่ยังขาดทักษะ ก็นับได้ว่าพวกเขาพัฒนาไปไกลมาก

  ผู้คนรอบข้างล่างต่างมึนงง!

  ทักษะการใช้ดาบนั่น?

  นิวซีแลนด์ไม่ใช่ประเทศเมืองเล็ก ๆ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของที่นี่มีการพัฒนาอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็ยังได้ซึมซับทักษะการใช้มีดดาบมากมายในภาพยนตร์และนวนิยายต่าง ๆ อย่างไรก็ตามแม้ว่านิวซีแลนด์จะกลายเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่มีใครศึกษาสิ่งเหล่านี้อย่างจริงจัง แต่ตอนนี้หลังจากได้เห็นทักษะการใช้ดาบของไป๋อี้ ก็เหมือนกับเกิดเสียงฟ้าร้องระเบิดดังขึ้นในใจของทุกคน ที่แท้การต่อสู้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้พวกเขากลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์แล้ว

  เห็นได้ชัดว่าเรย์มอนด์นั้นมีท่าทีที่สับสนมึนงง ก่อนที่ร่างของเขาจะร่วงลงสู่พื้นทันที

  ท่อนกระดูกที่หักถูกเสียบลงกับพื้น เรย์มอนด์ยังคงระงับอารมณ์รุนแรงดุร้ายและเจตนาโหยหาการฆ่าในใจของเขา แย่แล้ว ในเวลานี้แม้แต่ตัวเรย์มอนด์ก็รู้สึกแย่ในใจ คราวนี้เขาไม่ได้ตั้งใจคลุ้มคลั่ง แต่เขาเริ่มสูญเสียการควบคุมจริง ๆ รูม่านตาของเรย์มอนด์ค่อย ๆ ขยายออก จากนั้นก็ค่อย ๆ หดตัวลงเรื่อย ๆ และเริ่มคลุ้มคลั่งอย่างบ้าระห่ำในที่สุด

  หลังจากที่ไป๋อี้ใช้ทักษะมีดดาบของเขาไปเช่นนั้นแล้ว เขาก็หยุดลง และก่อนที่จะวางแผนรอเรย์มอนด์ ไป๋อี้ก็ได้คำนวณพลังของเขา ด้วยดาบเพียงเล่มเดียวอันที่จริงไป๋อี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายเรย์มอนด์ แต่ตอนนี้ความสามารถของไป๋อี้ยังไม่ถึงระดับที่จะควบคุมพลังของเขาได้อย่างอิสระ ดังนั้นพลังที่เขาใช้ในการฟันท่อนกระดูกจึงฟันไปโดนเรย์มอนด์จนเกิดบาดแผลขนาดใหญ่

  ความรู้สึกแบบนี้!

  ไป๋อี้มองร่างที่สั่นเทาเล็กน้อยของเรย์มอนด์และออร่าคลุ้มคลั่งที่แผ่กระจายออกมาจากตัวเขา ทันใดนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ เรย์มอนด์ในตอนนี้เข้าสู่สภาวะดุร้ายไปกว่า 80% แล้ว

  แน่นอนว่าในชั่วพริบตาต่อมาเรย์มอนด์ก็คำรามขึ้นมาอย่างกะทันหันจากนั้นเขาก็คว้าท่อนกระดูกที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งขึ้นมาจากพื้นแล้วเขวี้ยงไปที่ไป๋อี้ ด้วยแรงเขวี้ยงทำให้กระดูกท่อนนั้นพุ่งตรงมาที่ใบหน้าของไป๋อี้ ถัดจากเบื้องหลังแท่งกระดูกคือปากและกรงเล็บขนาดใหญ่ของเรย์มอนด์ที่กำลังเขมือบกัดเข้าใส่ราวกับหมาป่าด้วยความเดือดดาล

  ไป๋อี้หลีกเลี่ยงจากท่อนกระดูกในทันที จากนั้นก็ใช้มือซ้ายดึงดาบที่ด้านหลังออกมาขวางกั้นรับแรงปะทะจากกรงเล็บของเรย์มอนด์

  ปัง เสียงดังก้องไป๋อี้ถูกพลังอันมหาศาลของเรย์มอนด์ปะทะใส่จนกระเด็นออกไป

  แม้ว่าคนอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบตัวเขาจะเริ่มเอื่อยเฉื่อยในเวลานี้ แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็สามารถเห็นได้ชัดเจนว่าเรย์มอนด์เข้าสู่ระยะดุร้ายอย่างสมบูรณ์แล้ว และในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ อย่างสิ้นเชิง ท่อนกระดูกที่เขวี้ยงออกไปได้เสียบเข้าที่ต้นขาของสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่ไม่ทันได้หลบเลี่ยงและได้ยินเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดตามมา เสียงนี้ทำให้คนรอบข้างรู้สึกประหม่าในทันที พวกเขาส่วนใหญ่ถึงกับหยิบอาวุธของตัวเองขึ้นมาเตรียมพร้อมที่จะปราบเรย์มอนด์ หรือไม่ก็ฆ่าเขาซะ

  ไป๋อี้ถูกพละกำลังนี้โผขึ้นกลางอากาศและลอยกลับหัวเป็นระยะทางหนึ่ง ก่อนจะกระดอนลงสู่พื้น เท้าของไป๋อี้เสียดทานกับพื้นด้วยพลังอันทรงพลังทำให้เกิดรอยขีดข่วนลึกสองรอยบนพื้นดิน

  ช่างมีพลังแข็งแกร่งอะไรอย่างนี้!

  ไป๋อี้ฟันดาบของเขาอย่างสุดแรงเกิดเพื่อต้านทานกับกรงเล็บของเรย์มอนด์ ในเวลานี้การฟาดฟันระหว่างทั้งสองฝ่ายสั่นสะท้านอยู่ตลอดเวลา พวกเขาต่างก็ส่งเสียงคำรามดังสนั่น เมื่อเห็นสภาพของไป๋อี้คนอื่น ๆ ก็อยากจะขึ้นไปร่วมจัดการกับเรย์มอนด์ แต่ในเวลานี้วูล์ฟได้ห้ามปรามและหยุดทุกคนเอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าไป๋อี้กำลังวางแผนอะไรอยู่ แต่พวกเขาก็รู้ว่าไม่ควรปล่อยให้คนเหล่านี้เข้าไปรบกวน

  ม่านตาบุษบาผกผัน!

  ทันใดนั้นดวงตาของไป๋อี้ก็เปลี่ยนไปอีกครั้งเหมือนดอกไม้ที่เติบโตผกผันได้ดูดกลืนความคิดของเรย์มอนด์ทันที รวมถึงทุกคนที่อยู่บริเวณตรงหน้าไป๋อี้ด้วย ขณะนี้พวกเขาต่างก็มีอาการสับสนมึนงงเล็กน้อย แม้ว่าไป๋อี้ไม่ได้เพ่งเล็งไปที่พวกเขา แต่พวกเขาต่างก็เห็นดวงตาของไป๋อี้เช่นกัน

  พฤติกรรมของเรย์มอนด์ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง ก่อนที่ความแข็งแกร่งของเขาจะค่อย ๆ จางหายไป และจากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นในที่สุด

  ดวงตาของไป๋อี้กลับมาเป็นปกติหลังจากที่เรย์มอนด์ล้มลง ในตอนนี้คนที่ตกอยู่ในภวังค์เมื่อครู่นี้ต่างก็รู้สึกถึงความประหลาดในจิตใจของพวกเขา สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้มันอะไรกัน

  “ที่นี่มีใครเป็นหมอที่พอจะช่วยรักษาเรย์มอนด์ได้บ้าง” ไป๋อี้เอ่ยกับฝูงชนด้านล่าง

  “มีหมอไหม?” ไป๋อี้อดไม่ได้ที่จะถามย้ำอีกครั้งเมื่อไม่มีใครตอบกลับมาจากกลุ่มฝูงชนด้านล่าง

  “เขาในตอนนี้จะไม่เป็นปัญหาเหรอ เมื่อครู่นี้เขาเข้าสู่สภาวะดุร้ายนี่นา” ในที่สุดใครบางคนก็ถามขึ้นมา

  “ไม่มีปัญหา เขาหลับไปแล้วล่ะ หลังจากเขาตื่นขึ้นมาสติเขาก็จะฟื้นคืนเช่นกัน” ไป๋อี้ตอบด้วยรอยยิ้ม

  หลังจากได้ยินคำพูดของไป๋อี้ ในที่สุดก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีความสูงเพียง 1.5-1.6 เมตรที่ดูเหมือนแกะน้อยยกมือขึ้น  “เป็นฉันได้ไหม ฉันเป็นหมอค่ะ”

  “แน่นอน รบกวนเธอด้วยล่ะ” ไป๋อี้พูดกับหญิงสาว

  “ไม่เป็นไรค่ะ” เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาและขอให้ไป๋อี้ช่วยพลิกตัวเรย์มอนด์อย่างชำนาญ เธอหยิบมีดอันแหลมคมออกมาโกนขนที่บริเวณขอบแผลของเรย์มอนด์แล้วล้างออกด้วยน้ำ จากนั้นก็เทผงชนิดหนึ่งที่บดแล้วลงไปเล็กน้อยก่อนจะห่อไว้ด้วยความระมัดระวัง

  “น้ำเหล่านี้เป็นน้ำกลั่นบริสุทธิ์ทั้งหมด เนื่องจากบางครั้งอาจไม่สะดวกที่จะใช้ในตอนที่ต้องการใช้อย่างเร่งด่วน ดังนั้นฉันมักจะเตรียมการไว้บางส่วน ผงเหล่านี้เป็นสูตรของฉันเองและมันก็ได้ผลดีมาก” เด็กหญิงที่ราวกับแกะตัวน้อยกำลังพันผ้าพันแผลและอธิบายให้ไป๋อี้เห็นอย่างชัดด้วยเธอเกรงว่าไป๋อี้อาจจะเข้าใจผิด

  “ขอบคุณนะ” ไป๋อี้พยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นหมอน้อยที่มีการเตรียมพร้อมดีมาก นี่ดูจะเป็นการทำความสะอาดบาดแผลที่ดีกว่ากาใช้น้ำยาแอลกอฮอล์ล้างแผลเสียอีก อย่างไรก็ตามการหาแหล่งวัตถุดิบต่าง ๆ ของนิวซีแลนด์ในปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

  “เสร็จแล้ว ตราบใดที่เขานอนพักเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์เขาก็จะสามารถแกะผ้าพันแผลออกได้ค่ะ” เด็กสาวแกะน้อยพูดแล้วพยักหน้าให้ไป๋อี้ ก่อนจะวิ่งออกไปพร้อมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ของเธอ ไป๋อี้มองตามและเห็นว่าอีกด้านหนึ่งมีคนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังรอเธออยู่ เมื่อพวกเขาเห็นไป๋อี้มองมายังกลุ่มตนเอง ชายคนนั้นก็พยักหน้าให้ไป๋อี้ทันที

  ขณะเดียวกันไป๋อี้เองก็พยักหน้าแสดงความขอบคุณกลับไป

  สาวน้อยคนนั้นมีทีมอยู่แล้วอย่างแน่นอน ในนิวซีแลนด์ขณะนี้อาชีพหมอมีความสำคัญเป็นอย่างมาก แม้แต่หมออ่อนหัด ก็ประมาณการณ์ได้ว่าจะต้องมีทีมวิ่งเข้ามามาถามไถ่ชักชวนเข้าทีมอย่างแน่นอน นับประสาอะไรกับสาวน้อยราวกับแกะน้อยน่ารัก น่าเสียดายจริง ๆ ไม่เช่นนั้นไป๋อี้ก็อยากจะเชิญสาวน้อยเข้าร่วมทีมของเขาด้วย

  อย่างไรก็ตามแบบนี้ก็ไม่เลว ดูเหมือนว่าเรย์มอนด์คงยังวิ่งไม่ไหว แล้วยังมีมัลวีย์ช่างหลอมอาวุธที่เขาพบก่อนหน้านี้อีก เพียงแค่พบทั้งสองคนนี้ ก็เป็นการดีแล้ว  มีฝูงชนมากมายที่นี่และนั่นมันก็ลำบากเอาการทีเดียว ไป๋อี้ยังไม่รู้ว่ามีคนสองคนมายังสถานที่ที่เขารับสมัครคนเข้าทีมแล้ว อย่างไรก็ตามทั้งสองคนพูดไม่ออกเล็กน้อยเมื่อเห็นพูพูนอนเอามือกุมท้องอยู่หลังโต๊ะ

  เจ้าหมู?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 135 ทักษะการใช้มีดดาบที่สมบูรณ์

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 135 ทักษะการใช้มีดดาบที่สมบูรณ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ถึงมือข้างซ้ายจะมีเลือดไหลออกมา นอกจากจะไม่ได้ทำให้เรย์มอนด์รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใดแล้ว เขายังเผยรอยยิ้มที่บ้าคลั่งออกมาอย่างมีเลศนัยอีกด้วย นี่คือชายผู้มีประสบการณ์การต่อสู้บนเส้นทางของชีวิตและความตายอย่างแท้จริง ความต้องการฆ่าที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจปะทุมาจากสัญชาตญาณของร่างกายอย่างสมบูรณ์ เมื่อเขาได้เข้าสู่การต่อสู้มันจึงได้เปล่งประกายออกมาเองตามธรรมชาติ

  ฮ่า ฮ่า ฮ่า~!

  เรย์มอนด์เลียเลือดที่มือซ้ายของเขา ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เคร่งตึงขึ้นอย่างกะทันหัน กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเขาดูเหมือนจะขยายตัวใหญ่ขึ้นมาในทันที มือของเขาทั้งสองข้างมีกรงเล็บที่แหลมคมยาวกว่า 10 เซนติเมตรโผล่ออกมา ในขณะที่ดวงตาของเขาก็ฉายแววดุดันมากขึ้นเรื่อย ๆ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้คนทั่วบริเวณนั้นต่างก็รู้สึกตกใจ การต่อสู้ของเรย์มอนด์ก่อนหน้านี้แม้ว่าเขาจะดูบ้าระห่ำ แต่เขาก็ไม่เคยเผยศักยภาพแบบนี้ออกมา ทุกคนรู้ดีว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ในตอนนี้ของเรย์มอนด์แข็งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่า

  เรย์มอนด์นอนหมอบอยู่บนพื้นราวกับหมาป่ายักษ์ก่อนที่จะกระโดดอย่างแรงด้วยขาของเขาและกระโจนออกไปทันที

  ทันใดนั้นเสียงปะทะก็ดังอึกทึกขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกคนเห็นเพียงร่างของทั้งสองต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง เรย์มอนด์ละทิ้งท่อนกระดูกของเขาไปและใช้กรงเล็บของตัวเองเพื่อต่อสู้กับไป๋อี้ เห็นได้ชัดว่ากรงเล็บที่โผล่ออกมานั้นแข็งแรงมาก ซึ่งดาบเขี้ยวของไป๋อี้ก็แข็งแรงไม่แพ้กัน ในขณะเดียวกันเมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะเข้าหากันก็เกิดเป็นประกายไฟขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  ผู้คนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่รอบ ๆ ต่างตกตะลึงกับการต่อสู้ครั้งนี้ นี่เป็นเพียงการทดสอบประลองการต่อสู้จริง ๆ เหรอ?

  ก่อนหน้านี้ไป๋อี้นึกว่าตัวเองได้เลือกเพื่อนร่วมทีมที่ดีแล้ว แต่คราวนี้เขาชักเริ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการต่อสู้บนเวทีครั้งก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งก่อนหน้าดูเป็นเรื่องตลกไปเลย แต่ในเวลานี้ผู้ชมที่สังเกตการณ์อยู่ก็ไม่ได้สนใจพวกคนที่ขึ้นต่อสู้ก่อนหน้าพวกไป๋อี้เลย ทว่ากลับเฝ้าดูการต่อสู้บนเวทีกันอย่างใจจดใจจ่อ

  นี่คือทักษะฝีมือการต่อสู้ที่แท้จริงหรือนี่!

  ฝีเท้าของไป๋อี้เป็นจังหวะแม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะรวดเร็ว แต่ก็มีการจัดระเบียบร่างกายที่ดีเห็นได้ชัดว่าเขามีทักษะการใช้มีดดาบที่ดีมานานแล้วไม่เหมือนกับคนธรรมดาที่เพียงถือมีดดาบกวัดแกว่งไปมาเท่านั้น แม้ว่าพฤติกรรมของเรย์มอนด์จะดูบ้าคลั่งและหยาบกร้าน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขามีกฎเกณฑ์ของตัวเองและเขาควรจะต้องสำรวจสืบเสาะมันด้วยตัวเอง

  หลังจากการปะทะกันแบบตัวต่อตัวกับเรย์มอนด์หลายสิบครั้งไป๋อี้ก็ต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้น่าทึ่งจริง ๆ

  ด้วยช่องว่างจากการปะทะกันช่วยให้ไป๋อี้มีโอกาสเด้งตัวกลับมา จึงทำให้ท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็กลับมาทรงตัวได้อีกครั้ง

  เลือดในร่างกายของไป๋อี้กำลังพุ่งพล่านโหมลุกไหม้ขึ้นมา เมื่อครู่นี้ที่ไป๋อี้สามารถต่อกรกับเรย์มอนด์แบบตัวต่อตัวได้นั้นเป็นเพราะการระเบิดจากเลือดที่พุ่งพล่านในตัวเขา ไป๋อี้นั้นแตกต่างจากวูล์ฟ เขาไม่ได้มีพลังจากการผสานรวมยีน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับพละกำลังอันทรงพลังเช่นนี้ แต่ไป๋อี้ก็พึงพอใจกับความสามารถในปัจจุบันของเขา และไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้ทุกสิ่งทุกอย่าง

  “ว่ายังไง ไม่อยากสู้แล้วเหรอ ฉันไม่ยอมหรอก!” เรย์มอนด์อดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นไป๋อี้หยุดชะงัก

  “นายแน่ใจหรือว่าต้องการสู้ต่อ ฉันไม่รับประกันนะว่านายจะรอด” ไป๋อี้พูดอย่างใจเย็น

  “จะเป็นอะไรไป สถานการณ์ตอนนี้ในนิวซีแลนด์ยิ่งกลัวความตายก็ยิ่งได้ตายเร็ว!” เรย์มอนด์พูดพร้อมกับคว้าท่อนกระดูกที่ตกอยู่ที่พื้นแล้วรีบปรี่ตรงไปที่ไป๋อี้อีกครั้ง ทางด้านของไป๋อี้ก็ได้คว้าดาบเขี้ยวกำไว้ในมืออย่างแน่นหนา

  ชิ้ง ~~!

  มีเสียงลากยาวจากการฟันดาบดังขึ้นขณะเดียวกันกับที่ม่านตาบุษบาผกผันปรากฏขึ้นชัดเจน ไป๋อี้จับทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์และร่างของเขาก็สไลด์ตัวเคลื่อนผ่านเรย์มอนด์ไปโดยไม่ปล่อยให้เขาโจมตีได้ ขณะนั้นภาพเบื้องหลังของไป๋อี้ก็เผยให้เห็นท่อนกระดูกที่อยู่ในมือของเรย์มอนด์ที่แตกออกเป็นเสี่ยงและส่วนบนก็ลอยขึ้นเป็นวงโคจรวงกลมขึ้นไปข้างบน ในขณะที่บริเวณเอวของเรย์มอนด์ก็เกิดบาดแผลขนาดใหญ่จนเขากระอักเลือดอย่างบ้าคลั่ง

  ทักษะดาบ …… การสไลด์ตัวฟันดาบ!

  ทักษะการใช้มีดดาบของไป๋อี้นั้นดีมาโดยตลอด หลังจากการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์เขาได้สรุปวิธีการต่อสู้เชิงปฏิบัติต่าง ๆ ไว้โดยละเอียด ในสถาบันวิจัยตอนที่ต่อสู้กับเบ็นสันครั้งนั้นถือเป็นความก้าวหน้าอย่างแท้จริง ทำให้ทักษะมีดที่ใช้ในการปรุงอาหารเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง หลังจากประสบการณ์การเดินทางอันยาวนานทักษะการใช้มีดดาบขั้นพื้นฐานในทีมของไป๋อี้ก็ได้รับการสรุปเป็นระบบแบบแผน แน่นอนว่านี่อาจจะเป็นข้อมูลอย่างหยาบ แต่เมื่อเทียบกับหลาย ๆ คนที่ยังขาดทักษะ ก็นับได้ว่าพวกเขาพัฒนาไปไกลมาก

  ผู้คนรอบข้างล่างต่างมึนงง!

  ทักษะการใช้ดาบนั่น?

  นิวซีแลนด์ไม่ใช่ประเทศเมืองเล็ก ๆ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของที่นี่มีการพัฒนาอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็ยังได้ซึมซับทักษะการใช้มีดดาบมากมายในภาพยนตร์และนวนิยายต่าง ๆ อย่างไรก็ตามแม้ว่านิวซีแลนด์จะกลายเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่มีใครศึกษาสิ่งเหล่านี้อย่างจริงจัง แต่ตอนนี้หลังจากได้เห็นทักษะการใช้ดาบของไป๋อี้ ก็เหมือนกับเกิดเสียงฟ้าร้องระเบิดดังขึ้นในใจของทุกคน ที่แท้การต่อสู้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้พวกเขากลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์แล้ว

  เห็นได้ชัดว่าเรย์มอนด์นั้นมีท่าทีที่สับสนมึนงง ก่อนที่ร่างของเขาจะร่วงลงสู่พื้นทันที

  ท่อนกระดูกที่หักถูกเสียบลงกับพื้น เรย์มอนด์ยังคงระงับอารมณ์รุนแรงดุร้ายและเจตนาโหยหาการฆ่าในใจของเขา แย่แล้ว ในเวลานี้แม้แต่ตัวเรย์มอนด์ก็รู้สึกแย่ในใจ คราวนี้เขาไม่ได้ตั้งใจคลุ้มคลั่ง แต่เขาเริ่มสูญเสียการควบคุมจริง ๆ รูม่านตาของเรย์มอนด์ค่อย ๆ ขยายออก จากนั้นก็ค่อย ๆ หดตัวลงเรื่อย ๆ และเริ่มคลุ้มคลั่งอย่างบ้าระห่ำในที่สุด

  หลังจากที่ไป๋อี้ใช้ทักษะมีดดาบของเขาไปเช่นนั้นแล้ว เขาก็หยุดลง และก่อนที่จะวางแผนรอเรย์มอนด์ ไป๋อี้ก็ได้คำนวณพลังของเขา ด้วยดาบเพียงเล่มเดียวอันที่จริงไป๋อี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายเรย์มอนด์ แต่ตอนนี้ความสามารถของไป๋อี้ยังไม่ถึงระดับที่จะควบคุมพลังของเขาได้อย่างอิสระ ดังนั้นพลังที่เขาใช้ในการฟันท่อนกระดูกจึงฟันไปโดนเรย์มอนด์จนเกิดบาดแผลขนาดใหญ่

  ความรู้สึกแบบนี้!

  ไป๋อี้มองร่างที่สั่นเทาเล็กน้อยของเรย์มอนด์และออร่าคลุ้มคลั่งที่แผ่กระจายออกมาจากตัวเขา ทันใดนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ เรย์มอนด์ในตอนนี้เข้าสู่สภาวะดุร้ายไปกว่า 80% แล้ว

  แน่นอนว่าในชั่วพริบตาต่อมาเรย์มอนด์ก็คำรามขึ้นมาอย่างกะทันหันจากนั้นเขาก็คว้าท่อนกระดูกที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งขึ้นมาจากพื้นแล้วเขวี้ยงไปที่ไป๋อี้ ด้วยแรงเขวี้ยงทำให้กระดูกท่อนนั้นพุ่งตรงมาที่ใบหน้าของไป๋อี้ ถัดจากเบื้องหลังแท่งกระดูกคือปากและกรงเล็บขนาดใหญ่ของเรย์มอนด์ที่กำลังเขมือบกัดเข้าใส่ราวกับหมาป่าด้วยความเดือดดาล

  ไป๋อี้หลีกเลี่ยงจากท่อนกระดูกในทันที จากนั้นก็ใช้มือซ้ายดึงดาบที่ด้านหลังออกมาขวางกั้นรับแรงปะทะจากกรงเล็บของเรย์มอนด์

  ปัง เสียงดังก้องไป๋อี้ถูกพลังอันมหาศาลของเรย์มอนด์ปะทะใส่จนกระเด็นออกไป

  แม้ว่าคนอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบตัวเขาจะเริ่มเอื่อยเฉื่อยในเวลานี้ แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็สามารถเห็นได้ชัดเจนว่าเรย์มอนด์เข้าสู่ระยะดุร้ายอย่างสมบูรณ์แล้ว และในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ อย่างสิ้นเชิง ท่อนกระดูกที่เขวี้ยงออกไปได้เสียบเข้าที่ต้นขาของสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่ไม่ทันได้หลบเลี่ยงและได้ยินเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดตามมา เสียงนี้ทำให้คนรอบข้างรู้สึกประหม่าในทันที พวกเขาส่วนใหญ่ถึงกับหยิบอาวุธของตัวเองขึ้นมาเตรียมพร้อมที่จะปราบเรย์มอนด์ หรือไม่ก็ฆ่าเขาซะ

  ไป๋อี้ถูกพละกำลังนี้โผขึ้นกลางอากาศและลอยกลับหัวเป็นระยะทางหนึ่ง ก่อนจะกระดอนลงสู่พื้น เท้าของไป๋อี้เสียดทานกับพื้นด้วยพลังอันทรงพลังทำให้เกิดรอยขีดข่วนลึกสองรอยบนพื้นดิน

  ช่างมีพลังแข็งแกร่งอะไรอย่างนี้!

  ไป๋อี้ฟันดาบของเขาอย่างสุดแรงเกิดเพื่อต้านทานกับกรงเล็บของเรย์มอนด์ ในเวลานี้การฟาดฟันระหว่างทั้งสองฝ่ายสั่นสะท้านอยู่ตลอดเวลา พวกเขาต่างก็ส่งเสียงคำรามดังสนั่น เมื่อเห็นสภาพของไป๋อี้คนอื่น ๆ ก็อยากจะขึ้นไปร่วมจัดการกับเรย์มอนด์ แต่ในเวลานี้วูล์ฟได้ห้ามปรามและหยุดทุกคนเอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าไป๋อี้กำลังวางแผนอะไรอยู่ แต่พวกเขาก็รู้ว่าไม่ควรปล่อยให้คนเหล่านี้เข้าไปรบกวน

  ม่านตาบุษบาผกผัน!

  ทันใดนั้นดวงตาของไป๋อี้ก็เปลี่ยนไปอีกครั้งเหมือนดอกไม้ที่เติบโตผกผันได้ดูดกลืนความคิดของเรย์มอนด์ทันที รวมถึงทุกคนที่อยู่บริเวณตรงหน้าไป๋อี้ด้วย ขณะนี้พวกเขาต่างก็มีอาการสับสนมึนงงเล็กน้อย แม้ว่าไป๋อี้ไม่ได้เพ่งเล็งไปที่พวกเขา แต่พวกเขาต่างก็เห็นดวงตาของไป๋อี้เช่นกัน

  พฤติกรรมของเรย์มอนด์ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง ก่อนที่ความแข็งแกร่งของเขาจะค่อย ๆ จางหายไป และจากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นในที่สุด

  ดวงตาของไป๋อี้กลับมาเป็นปกติหลังจากที่เรย์มอนด์ล้มลง ในตอนนี้คนที่ตกอยู่ในภวังค์เมื่อครู่นี้ต่างก็รู้สึกถึงความประหลาดในจิตใจของพวกเขา สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้มันอะไรกัน

  “ที่นี่มีใครเป็นหมอที่พอจะช่วยรักษาเรย์มอนด์ได้บ้าง” ไป๋อี้เอ่ยกับฝูงชนด้านล่าง

  “มีหมอไหม?” ไป๋อี้อดไม่ได้ที่จะถามย้ำอีกครั้งเมื่อไม่มีใครตอบกลับมาจากกลุ่มฝูงชนด้านล่าง

  “เขาในตอนนี้จะไม่เป็นปัญหาเหรอ เมื่อครู่นี้เขาเข้าสู่สภาวะดุร้ายนี่นา” ในที่สุดใครบางคนก็ถามขึ้นมา

  “ไม่มีปัญหา เขาหลับไปแล้วล่ะ หลังจากเขาตื่นขึ้นมาสติเขาก็จะฟื้นคืนเช่นกัน” ไป๋อี้ตอบด้วยรอยยิ้ม

  หลังจากได้ยินคำพูดของไป๋อี้ ในที่สุดก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีความสูงเพียง 1.5-1.6 เมตรที่ดูเหมือนแกะน้อยยกมือขึ้น  “เป็นฉันได้ไหม ฉันเป็นหมอค่ะ”

  “แน่นอน รบกวนเธอด้วยล่ะ” ไป๋อี้พูดกับหญิงสาว

  “ไม่เป็นไรค่ะ” เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาและขอให้ไป๋อี้ช่วยพลิกตัวเรย์มอนด์อย่างชำนาญ เธอหยิบมีดอันแหลมคมออกมาโกนขนที่บริเวณขอบแผลของเรย์มอนด์แล้วล้างออกด้วยน้ำ จากนั้นก็เทผงชนิดหนึ่งที่บดแล้วลงไปเล็กน้อยก่อนจะห่อไว้ด้วยความระมัดระวัง

  “น้ำเหล่านี้เป็นน้ำกลั่นบริสุทธิ์ทั้งหมด เนื่องจากบางครั้งอาจไม่สะดวกที่จะใช้ในตอนที่ต้องการใช้อย่างเร่งด่วน ดังนั้นฉันมักจะเตรียมการไว้บางส่วน ผงเหล่านี้เป็นสูตรของฉันเองและมันก็ได้ผลดีมาก” เด็กหญิงที่ราวกับแกะตัวน้อยกำลังพันผ้าพันแผลและอธิบายให้ไป๋อี้เห็นอย่างชัดด้วยเธอเกรงว่าไป๋อี้อาจจะเข้าใจผิด

  “ขอบคุณนะ” ไป๋อี้พยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นหมอน้อยที่มีการเตรียมพร้อมดีมาก นี่ดูจะเป็นการทำความสะอาดบาดแผลที่ดีกว่ากาใช้น้ำยาแอลกอฮอล์ล้างแผลเสียอีก อย่างไรก็ตามการหาแหล่งวัตถุดิบต่าง ๆ ของนิวซีแลนด์ในปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

  “เสร็จแล้ว ตราบใดที่เขานอนพักเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์เขาก็จะสามารถแกะผ้าพันแผลออกได้ค่ะ” เด็กสาวแกะน้อยพูดแล้วพยักหน้าให้ไป๋อี้ ก่อนจะวิ่งออกไปพร้อมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ของเธอ ไป๋อี้มองตามและเห็นว่าอีกด้านหนึ่งมีคนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังรอเธออยู่ เมื่อพวกเขาเห็นไป๋อี้มองมายังกลุ่มตนเอง ชายคนนั้นก็พยักหน้าให้ไป๋อี้ทันที

  ขณะเดียวกันไป๋อี้เองก็พยักหน้าแสดงความขอบคุณกลับไป

  สาวน้อยคนนั้นมีทีมอยู่แล้วอย่างแน่นอน ในนิวซีแลนด์ขณะนี้อาชีพหมอมีความสำคัญเป็นอย่างมาก แม้แต่หมออ่อนหัด ก็ประมาณการณ์ได้ว่าจะต้องมีทีมวิ่งเข้ามามาถามไถ่ชักชวนเข้าทีมอย่างแน่นอน นับประสาอะไรกับสาวน้อยราวกับแกะน้อยน่ารัก น่าเสียดายจริง ๆ ไม่เช่นนั้นไป๋อี้ก็อยากจะเชิญสาวน้อยเข้าร่วมทีมของเขาด้วย

  อย่างไรก็ตามแบบนี้ก็ไม่เลว ดูเหมือนว่าเรย์มอนด์คงยังวิ่งไม่ไหว แล้วยังมีมัลวีย์ช่างหลอมอาวุธที่เขาพบก่อนหน้านี้อีก เพียงแค่พบทั้งสองคนนี้ ก็เป็นการดีแล้ว  มีฝูงชนมากมายที่นี่และนั่นมันก็ลำบากเอาการทีเดียว ไป๋อี้ยังไม่รู้ว่ามีคนสองคนมายังสถานที่ที่เขารับสมัครคนเข้าทีมแล้ว อย่างไรก็ตามทั้งสองคนพูดไม่ออกเล็กน้อยเมื่อเห็นพูพูนอนเอามือกุมท้องอยู่หลังโต๊ะ

  เจ้าหมู?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+