[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 132 หมียักษ์แกรี่

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 132 หมียักษ์แกรี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หนึ่งปีเราต้องจัดหาวัตถุดิบอาหารและยาให้เพียงพอ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่สงบมั่นคง หากเป็นในสภาวะที่โลกสงบสุขบางทีนี่อาจไม่ใช่ข้อกำหนดที่ยากเกินไป แต่ในนิวซีแลนด์ตอนนี้นั้น

  ดาบเขี้ยวของไป๋อี้มีช่างหลอมอาวุธในช่วงแรกสรรค์สร้างให้เขา เท่าที่ไป๋อี้รู้ผู้ชายคนนั้นใช้กรดในถุงเนื้อสัตว์ที่เน่าเปื่อยที่ตนหามาได้เพื่อกัดกร่อนดาบเขี้ยวของเขา และเริ่มเจียรขัดถูดาบเขี้ยวหลังจากที่พวกมันเริ่มถูกหลอม ดาบเขี้ยวที่ถูกแปรรูปตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการขึ้นรูปด้วยวิธีนี้ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ แม้ว่าดาบเขี้ยวจะถูกแปรรูปจนเป็นรูปร่างของมีดดาบได้สำเร็จ แต่วัสดุส่วนใหญ่ก็สูญไปโดยเปล่าประโยชน์และวัสดุดั้งเดิมของดาบเขี้ยวก็ถูกทำลายไปบางส่วน ซึ่งลดความแข็งของดาบเขี้ยวของไป๋อี้ได้

  ส่วนอาวุธเหล่าที่ถูกแปรรูปโดยมัลวีย์ เขาไม่เพียงแต่ไม่ทำให้วัสดุสูญไปอย่างเปล่าประโยชน์เท่านั้น แต่ความแข็งแรงและความหนาแน่นของพวกมันยังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นไป๋อี้จึงเชิญชวนมัลวีย์เข้าร่วมทีมด้วย

  “ 1 ปี ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เข้าร่วมทีมของเราซะเลยล่ะ?”

  ไป๋อี้รู้ดีว่าพฤติกรรมการเชิญชวนแบบนี้ออกจะดูมุทะลุไปเสียบ้าง แต่นี่เป็นกลวิธีของเขา ตอนนี้ไม่มีเวลาให้ตรวจสอบบุคคลอย่างละเอียดรอบคอบแล้วค่อยจัดตั้งทีมอะไรแบบนั้น นี่เป็นวิสัยทัศน์ของเขาเองที่ต้องการการค้ำจุนไม่ว่าจะเป็นการเลือกทีมหรือเลือกบุคคลเข้าทีม

  “ฉันไม่ต้องการเข้าร่วมทีม ขอโทษนะ แต่ก้นับว่ามันเป็นเรื่องสนุกดี” มัลวีย์ยังคงส่ายหัวปฏิเสธ

  “อย่างนั้นเหรอ น่าเสียดายจริง” ไป๋อี้ไม่ได้บังคับเขา

  ในเวลานี้มีคน4-5คนวิ่งมาจากด้านหลังของถนน ชายที่เป็นผู้นำสวมชุดเกราะหนังสัตว์ เขาสูงมากกว่า 4 เมตรและแข็งแรงกว่าวูล์ฟมาก ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยขนหนาและเขาดูเหมือนหมีตัวใหญ่ที่เดินสองขาตัวตรง และข้างๆผู้ชายคนนี้มีชายที่ชื่อโซล่าที่พบหน้าทางเข้าก่อนหน้านี้

  “หัวหน้า นี่คือพวกเขา”

  “อืม”หัวหน้าหมียักษ์ตอบสั้น ๆ ขณะที่มองไปที่ไป๋อี้และเพื่อนๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปหา

  หมียักษ์แกรี่ ชายร่างสูงที่ดูเหมือนหมียักษ์ตรงหน้านี้คือผู้ปกครองหุบเขาหิมะแห่งนี้

 ไม่ว่าแกรี่จะดูหยาบกร้านแค่ไหนก็ตาม แต่เนื่องจากแกรี่เป็นหัวหน้าชั่วคราวของหุบเขาหิมะแห่งนี้จึงหมายความได้ว่าแกรี่ไม่ใช่คนโง่เบาปัญญาอย่างรูปลักษณ์ของเขา มัลวีย์อาศัยอยู่ในหุบเขาหิมะมาเป็นเวลาหลายเดือนและเป็นที่รู้ดีว่าแกรี่เป็นคนอย่างไร เมื่อเห็นแกรี่เดินตรงมา พวกไป๋อี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมาคนเหล่านี้จะก่ออาชญากรรมขึ้นที่นี่หรือไม่?

  “ฉันชื่อแกรี่ หมียักษ์แกรี่ ฉันเป็นผู้พิทักษ์หุบเขาหิมะในตอนนี้ ฉันดีใจที่คุณสามารถมาที่หุบเขาหิมะแห่งนี้ได้คุณไป๋อี้” เมื่อแกรี่เดินเข้ามา เขาก็มองไปที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ และเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้รู้มาเพื่อความถูกต้อง ผลที่ตามมาหลังจากการเปรียบเทียบตรึกตรองอยู่ในใจแล้ว แกรี่ก็ยืนยันว่าคนเหล่านี้น่าจะเป็นกลุ่มไป๋อี้ตัวจริง

  “ผมคือไป๋อี้ ผมไม่ได้มีจุดประสงค์พิเศษที่นี่ แค่เดินผ่านมาเท่านั้น!” ไป๋อี้กล่าว

  “ฮ่าฮ่าฮ่า เข้าใจแล้ว เพียงแค่ผ่านทางมา แน่นอนว่าคุณมีชื่อเสียงเลื่องลือในกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์แล้วทำไมเราไม่ให้การต้อนรับที่ดีกว่านี้ล่ะ ฉันได้ขอให้คนเหล่านี้เริ่มเตรียมการให้แล้ว ไป๋อี้คุณต้องการที่จะไปที่ของเรากับทีมของเราหรือไม่?” แกรี่แสยะยิ้มอย่างมีหยาบกร้านพร้อมกับถามออกไป

  “ได้ ดีเลย”ไป๋อี้พยักหน้าโดยไม่ปฏิเสธ

  ไป๋อี้รู้มานานแล้วว่าตราบใดที่พวกเขาแสดงตัวตนออกมา ผู้นำของกองกำลังระดับภูมิภาคเล็ก ๆ เหล่านี้จะต้องติดต่อกับไป๋อี้และทีมอย่างแน่นอนเพราะคาดว่าจะได้รับบางสิ่งจากทีมไป๋อี้ มันเป็นเพียงธรรมชาติของมนุษย์ ตราบใดที่พวกเขาแน่ชัดแล้วว่าพวกเขาไม่สามารถได้รับสิ่งที่ต้องการจากพวกไป๋อี้ได้ พวกเขาก็จะหยุดทำเช่นนี้ แน่นอนว่าคนโง่หัวดื้อรวมทั้งคนที่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น

  แกรี่……คือคนโง่เขลาเหรอ?

       อันที่จริงหลังจากที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ตามพวกแกรี่ไปที่ใจกลางหุบเขาหิมะ คนของแกรี่ก็รายงานทุกอย่างทันทีหลังจากที่ไป๋อี้และพวกเดินเข้าไปในหุบเขาหิมะ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีข้อมูลเกี่ยวกับมัลวีย์ที่พวกเขาสนใจอย่างละเอียดอีกมาก ขณะนี้แกรี่ใช้โอกาสผละออกมาจากไป๋อี้และคนอื่น ๆ แกรี่ได้อ่านข้อมูลทั้งหมดนี้

  มัลวีย์: มนุษย์วิวัฒนาการที่เข้ามาในหมู่บ้านหุบเขาหิมะเมื่อ 4 เดือนก่อน เดิมทีเขาเป็นสมาชิกของทีมเล็กๆทีมหนึ่ง แต่เมื่อทีมนี้พบกับสัตว์ประหลาดที่มีวิวัฒนาการอันทรงพลัง ขณะที่พวกเขาออกไปล่าสัตว์พวกมันก็ถูกกำจัดไปสิ้น มีเพียงมัลวีย์และผู้หญิงอีกคนเท่านั้นที่รอดชีวิต

  หลังจากนั้นมัลวีย์ก็ดูหวาดกลัวกับประสบการณ์นั้นและวางแผนที่จะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นช่างหลอมอาวุธหรือไม่ก็หมอปรุงยา ทั้งสองอาชีพนี้ไม่ต้องต่อสู้และยังเป็นที่เคารพของผู้อื่นอีกด้วย

  มันเป็นเพียงอาชีพรูปแบบใหม่ ไม่มีใครสามารถให้คำแนะนำได้เลย เป็นไปไม่ได้จริงๆที่คนที่ไม่มีพรสวรรค์จะบรรลุผลเหล่านี้ได้ แต่ถึงอย่างไรมัลวีย์คนนี้ก็ยังสร้างอาวุธและชุดเกราะบางอย่างในช่วงเวลานี้ แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างจากที่คนธรรมดาทำมากนักอันที่จริงเขาไม่มีพรสวรรค์จริงๆ

  พวกเขาก็แค่บังเอิญหยุดแวะที่แผงลอยเล็ก ๆ ของมีลวีย์ใช่ไหม?

  แกรี่ยังไม่เห็นอะไรแปลก ๆ ในช่วงสั้น ๆ นี้ เขาให้คนใต้บัญชาจับตามัลวีย์ไว้

  “ขอโทษนะ ขอโทษมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ นี่คือหน่วยพิทักษ์หุบเขาหิมะ อาคารนี้เรียบง่ายมาก” หลังจากที่แกรี่จากไปชั่วครู่หนึ่ง เขาก็เดินกลับมาทันทีและกล่าวขอโทษที่ดูเหมือนจริงใจ แม้ว่าเขาจะดูเหมือนหมีร้าย แต่ในขณะเดียวกันก็ไร้เดียงสาเหมือนหมีเช่นกัน อย่างไรก็ตามลักษณะของแกรี่ไม่ได้ดูเป็นมิตรในครั้งแรกที่เห็น

  “ไม่เป็นไร ที่นี่ไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับหลาย ๆ คนที่ต้องนอนกลางดินกินกลางทราย” ไป๋อี้ไม่ได้ชมเชย แต่รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

  “อย่างนั้นเหรอ ฮ่าๆๆ”แกรี่หัวเราะออกมา

  “ไม่ทราบว่า ไป๋อี้ คุณมาที่หมูบ้านหุบเขาหิมะทำไม?”แกรี่ถามอย่างจริงจังหลังจากกระซิบกระซาบกันอยู่พักหนึ่ง

  ไป๋อี้วางถ้วยน้ำชาในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมอง: “แกรี่คุณคิดว่าพวกเรามนุษย์กลายพันธุ์จะอยู่รอดในนิวซีแลนด์ได้นานแค่ไหน?”

  แกรี่ไม่คาดคิดว่านี่จะเป็นปัญหา เมื่อไป๋อี้กล่าวประเด็นนี้ออกมาเขาก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเป็นมีท่าทีทางการที่จริงจังมากขึ้น วางอุ้งเท้าหมีคู่หนึ่งลง

  “นี่เป็นข้อสอบในโรงเรียนเหรอ?”

  “เปล่า ผมก็แค่ถามความคิดเห็นของคุณอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามคุณก็ยังดีกว่าหลาย ๆ คนตอนนี้คุณยังพอมีอิทธิพล” ไป๋อี้ส่ายหัวและพูดอย่างจริงจัง

  แกรี่มองไปที่ไป๋อี้แล้วมองกลับไปที่คนอื่น ๆ รอบตัวก่อนที่เขาจะผ่อนคลายลง “ขออภัย ฉันไม่เห็นอนาคตของมนุษยชาติที่กลายพันธุ์ของเราอยู่ตรงไหน แม้ว่าหุบเขาหิมะจะปลอดภัยในขณะนี้ แต่ก็เป็นเพียงเพราะว่ามันอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาอันที่จริงจำนวนผู้คนในหมู่บ้านหุบเขาหิมะก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง อันตรายหลากหลายชนิดประทังเข้ามาและนับแต่นี้ยังไม่มีทารกเกิดใหม่เลย ในระยะยาวคาดว่าจะมีเสียชีวิตยิ่งขึ้นไปอีก”

  ในที่สุดแกรี่ก็ตัดสินใจที่จะไม่คาดเดาเหตุผลที่ไป๋อี้ถามแบบนี้ แต่ได้แสดงความคิดเห็นของตัวเองออกทา

  “คุณเป็นคนซื่อตรงมาก อันที่จริงนี่คือสภาพที่เป็นอยู่ในนิวซีแลนด์ตอนนี้” ไป๋อี้พยักหน้า

  “ผมรู้ว่าคุณต้องการอะไรจากผม อย่างเช่นข้อมูลบางอย่างที่ผมยังไม่เปิดเผย” ไป๋อี้พูดอีกครั้งพลางมองไปที่แกรี่ด้วยรอยยิ้ม

  จู่ๆแกรี่ก็หัวเราะออกมารเมื่อได้ยินคำพูดนี้ สบประมาทเขาไม่ได้จริงๆ ใครกันที่ไม่อยากรู้ข้อมูลบางอย่างมากกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าไป๋อี้ในอีกด้านหนึ่งจะเหมือนกับในข่าวลือ แต่ในเวลานี้เองไป๋อี้หายใจเข้าลึก ๆ

  “น่าเสียดาย ที่ผมเองไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้ นี่คือข้อมูลบางส่วนที่าอาจจะละเอียดกว่าที่คุณรู้ แต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษมากนัก” ไป๋อี้พูดพร้อมกับยื่นข้อมูลชิ้นหนึ่ง

  “คุณก็ได้รู้แล้วว่าคนในทีมของฉันมีคนหายไป 2 คน แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปัญหาแปลกใหม่ เราต้องเผชิญกับอันตรายเหมือนกับคนอื่น ๆ ตอนนี้นิวซีแลนด์ไม่มีประเด็นที่จะต่อสู้เพื่ออำนาจเพียงเล็กน้อย

 มันไม่สมเหตุสมผลเลย ตราบใดที่ปัญหาพื้นฐานไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่ช้าก็เร็วพวกเราก็จะตายอย่างสมบูรณ์แบบในนิวซีแลนด์ที่ตอนนี้ได้ชื่อว่าเกาะปีศาจ “ไป๋อี้พูดช้าๆ อารมณ์ของทุกคนรอบข้างเริ่มลดลงด้วยน้ำเสียงของไป๋อี้เพราะสิ่งที่ไป๋อี้พูดนั้นคือความจริงที่หนักอึ้ง

  “ผมมาที่นี่เพื่อต้องการแจ้งให้ทุกคนที่มีความสามารถทราบ มีผู้ที่เป็นนักวิจัยก่อนหน้านี้อยู่ภายใต้การดูแลของคุณหรือไม่ พวกเราออกค้นหาเพื่อปกป้องพวกเขาเพราะมีเพียงคนเหล่านี้เท่านั้นที่จะสามารถค้นคว้าวิจัยยาที่ช่วยให้เราฟื้นคืนร่างมนุษย์ได้ ให้เราได้กำจัดรูปแบบชีวิตที่เป็นอยู่นี้นี้ให้สิ้นซากเถอะ แน่นอนว่าคุณเองก็คงคาดหวังให้มีใครศึกษาวิจัยเรื่องนี้ก่อนเช่นกัน”

  คาดหวังกับคนอื่น คาดหวังกับใครกัน?

  ไป๋อี้และแกรี่ได้พูดคุยกันมากมาย กล่าวได้ว่ามีผู้ชายมองการณ์เพียงในระยะสั้นจำนวนไม่น้อยที่เป็นหัวหน้ากลุ่มในตอนนี้ หลังจากที่ไป่อี้ระบุประเด็นสำคัญแล้วแกรี่ก็สัญญาว่าจะรวบรวมคนที่มีความสามารถประเภทนี้ไว้ภายใต้การดูแลของเขา แม้ว่าจะไม่สามารถจัดหาสถานที่วิจัยให้กับคนเหล่านี้ได้ในขณะนี้ แต่ก่อนอื่นก็ต้องปกป้องพวกเขาไว้ก่อน

  ส่วนอนาคตต่อจากนี้จะสร้างสถานที่วิจัยขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองหรือจะเสี่ยงหาสถาบันวิจัยที่มีอยู่แล้วนั่นเป็นคำถามต่อไป

  ……

  หลังจากไป๋อี้จากไป แกรี่ก็ยังคงงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง กระทั่งมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลัง

  “ สิ่งที่เขาพูดมันจริงแค่ไหนกัน?” แกรี่กลับมามีสติอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลัง

  “90เปอร์เซ็น!”หญิงสาวตอบ

  “90เปอร์เซ็น สูงอะไรขนาดนี้?”

  “ ใช่ อาจจะมีการปกปิดข้อมูลเล็กน้อย แต่นั่นคือแก่นแท้ของประเด็นเราไม่ควรสอดรู้ ถ้าไป๋อี้ไม่อยากพูดก็ไม่มีใครรู้ได้ ถ้าเราถามขึ้นมาทะลุกลางปล้องเราจะทำให้เขาขุ่นเคือง ข้อเสนอของเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อสถานะของคุณตอนนี้ เรื่องนี้อยู่ภายใต้การนำของคุณโดยสมบูรณ์คุณไม่ต้องกังวลว่าไป๋อี้ จะได้คุณความดีของคุณ ท้ายที่สุดแล้วคนในทีมของไป๋อี้มีคนน้อยเกินไป ถ้านี่เป็นเรื่องจริง ถ้าคุณแก้ปัญหาทั้งหมดเรื่องการกลายพันธุ์ของมนุษย์ที่เกิดขึ้นได้ ชื่อเสียงของคุณจะยิ่งทวีขึ้นอย่างมาก “หญิงสาววิเคราะห์อย่างรอบคอบ

  “เป็นอย่างนี้เองเหรอ!”แกรี่พยักหน้าขณะฟัง

  ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เบื้องหลังผู้ชายที่ประสบความสำเร็จคือผู้หญิงที่มีกระบวนการขบคิดที่่ยอดเยี่ยมผู้นี้อยู่!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 132 หมียักษ์แกรี่

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 132 หมียักษ์แกรี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หนึ่งปีเราต้องจัดหาวัตถุดิบอาหารและยาให้เพียงพอ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่สงบมั่นคง หากเป็นในสภาวะที่โลกสงบสุขบางทีนี่อาจไม่ใช่ข้อกำหนดที่ยากเกินไป แต่ในนิวซีแลนด์ตอนนี้นั้น

  ดาบเขี้ยวของไป๋อี้มีช่างหลอมอาวุธในช่วงแรกสรรค์สร้างให้เขา เท่าที่ไป๋อี้รู้ผู้ชายคนนั้นใช้กรดในถุงเนื้อสัตว์ที่เน่าเปื่อยที่ตนหามาได้เพื่อกัดกร่อนดาบเขี้ยวของเขา และเริ่มเจียรขัดถูดาบเขี้ยวหลังจากที่พวกมันเริ่มถูกหลอม ดาบเขี้ยวที่ถูกแปรรูปตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการขึ้นรูปด้วยวิธีนี้ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ แม้ว่าดาบเขี้ยวจะถูกแปรรูปจนเป็นรูปร่างของมีดดาบได้สำเร็จ แต่วัสดุส่วนใหญ่ก็สูญไปโดยเปล่าประโยชน์และวัสดุดั้งเดิมของดาบเขี้ยวก็ถูกทำลายไปบางส่วน ซึ่งลดความแข็งของดาบเขี้ยวของไป๋อี้ได้

  ส่วนอาวุธเหล่าที่ถูกแปรรูปโดยมัลวีย์ เขาไม่เพียงแต่ไม่ทำให้วัสดุสูญไปอย่างเปล่าประโยชน์เท่านั้น แต่ความแข็งแรงและความหนาแน่นของพวกมันยังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นไป๋อี้จึงเชิญชวนมัลวีย์เข้าร่วมทีมด้วย

  “ 1 ปี ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เข้าร่วมทีมของเราซะเลยล่ะ?”

  ไป๋อี้รู้ดีว่าพฤติกรรมการเชิญชวนแบบนี้ออกจะดูมุทะลุไปเสียบ้าง แต่นี่เป็นกลวิธีของเขา ตอนนี้ไม่มีเวลาให้ตรวจสอบบุคคลอย่างละเอียดรอบคอบแล้วค่อยจัดตั้งทีมอะไรแบบนั้น นี่เป็นวิสัยทัศน์ของเขาเองที่ต้องการการค้ำจุนไม่ว่าจะเป็นการเลือกทีมหรือเลือกบุคคลเข้าทีม

  “ฉันไม่ต้องการเข้าร่วมทีม ขอโทษนะ แต่ก้นับว่ามันเป็นเรื่องสนุกดี” มัลวีย์ยังคงส่ายหัวปฏิเสธ

  “อย่างนั้นเหรอ น่าเสียดายจริง” ไป๋อี้ไม่ได้บังคับเขา

  ในเวลานี้มีคน4-5คนวิ่งมาจากด้านหลังของถนน ชายที่เป็นผู้นำสวมชุดเกราะหนังสัตว์ เขาสูงมากกว่า 4 เมตรและแข็งแรงกว่าวูล์ฟมาก ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยขนหนาและเขาดูเหมือนหมีตัวใหญ่ที่เดินสองขาตัวตรง และข้างๆผู้ชายคนนี้มีชายที่ชื่อโซล่าที่พบหน้าทางเข้าก่อนหน้านี้

  “หัวหน้า นี่คือพวกเขา”

  “อืม”หัวหน้าหมียักษ์ตอบสั้น ๆ ขณะที่มองไปที่ไป๋อี้และเพื่อนๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปหา

  หมียักษ์แกรี่ ชายร่างสูงที่ดูเหมือนหมียักษ์ตรงหน้านี้คือผู้ปกครองหุบเขาหิมะแห่งนี้

 ไม่ว่าแกรี่จะดูหยาบกร้านแค่ไหนก็ตาม แต่เนื่องจากแกรี่เป็นหัวหน้าชั่วคราวของหุบเขาหิมะแห่งนี้จึงหมายความได้ว่าแกรี่ไม่ใช่คนโง่เบาปัญญาอย่างรูปลักษณ์ของเขา มัลวีย์อาศัยอยู่ในหุบเขาหิมะมาเป็นเวลาหลายเดือนและเป็นที่รู้ดีว่าแกรี่เป็นคนอย่างไร เมื่อเห็นแกรี่เดินตรงมา พวกไป๋อี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมาคนเหล่านี้จะก่ออาชญากรรมขึ้นที่นี่หรือไม่?

  “ฉันชื่อแกรี่ หมียักษ์แกรี่ ฉันเป็นผู้พิทักษ์หุบเขาหิมะในตอนนี้ ฉันดีใจที่คุณสามารถมาที่หุบเขาหิมะแห่งนี้ได้คุณไป๋อี้” เมื่อแกรี่เดินเข้ามา เขาก็มองไปที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ และเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้รู้มาเพื่อความถูกต้อง ผลที่ตามมาหลังจากการเปรียบเทียบตรึกตรองอยู่ในใจแล้ว แกรี่ก็ยืนยันว่าคนเหล่านี้น่าจะเป็นกลุ่มไป๋อี้ตัวจริง

  “ผมคือไป๋อี้ ผมไม่ได้มีจุดประสงค์พิเศษที่นี่ แค่เดินผ่านมาเท่านั้น!” ไป๋อี้กล่าว

  “ฮ่าฮ่าฮ่า เข้าใจแล้ว เพียงแค่ผ่านทางมา แน่นอนว่าคุณมีชื่อเสียงเลื่องลือในกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์แล้วทำไมเราไม่ให้การต้อนรับที่ดีกว่านี้ล่ะ ฉันได้ขอให้คนเหล่านี้เริ่มเตรียมการให้แล้ว ไป๋อี้คุณต้องการที่จะไปที่ของเรากับทีมของเราหรือไม่?” แกรี่แสยะยิ้มอย่างมีหยาบกร้านพร้อมกับถามออกไป

  “ได้ ดีเลย”ไป๋อี้พยักหน้าโดยไม่ปฏิเสธ

  ไป๋อี้รู้มานานแล้วว่าตราบใดที่พวกเขาแสดงตัวตนออกมา ผู้นำของกองกำลังระดับภูมิภาคเล็ก ๆ เหล่านี้จะต้องติดต่อกับไป๋อี้และทีมอย่างแน่นอนเพราะคาดว่าจะได้รับบางสิ่งจากทีมไป๋อี้ มันเป็นเพียงธรรมชาติของมนุษย์ ตราบใดที่พวกเขาแน่ชัดแล้วว่าพวกเขาไม่สามารถได้รับสิ่งที่ต้องการจากพวกไป๋อี้ได้ พวกเขาก็จะหยุดทำเช่นนี้ แน่นอนว่าคนโง่หัวดื้อรวมทั้งคนที่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น

  แกรี่……คือคนโง่เขลาเหรอ?

       อันที่จริงหลังจากที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ตามพวกแกรี่ไปที่ใจกลางหุบเขาหิมะ คนของแกรี่ก็รายงานทุกอย่างทันทีหลังจากที่ไป๋อี้และพวกเดินเข้าไปในหุบเขาหิมะ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีข้อมูลเกี่ยวกับมัลวีย์ที่พวกเขาสนใจอย่างละเอียดอีกมาก ขณะนี้แกรี่ใช้โอกาสผละออกมาจากไป๋อี้และคนอื่น ๆ แกรี่ได้อ่านข้อมูลทั้งหมดนี้

  มัลวีย์: มนุษย์วิวัฒนาการที่เข้ามาในหมู่บ้านหุบเขาหิมะเมื่อ 4 เดือนก่อน เดิมทีเขาเป็นสมาชิกของทีมเล็กๆทีมหนึ่ง แต่เมื่อทีมนี้พบกับสัตว์ประหลาดที่มีวิวัฒนาการอันทรงพลัง ขณะที่พวกเขาออกไปล่าสัตว์พวกมันก็ถูกกำจัดไปสิ้น มีเพียงมัลวีย์และผู้หญิงอีกคนเท่านั้นที่รอดชีวิต

  หลังจากนั้นมัลวีย์ก็ดูหวาดกลัวกับประสบการณ์นั้นและวางแผนที่จะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นช่างหลอมอาวุธหรือไม่ก็หมอปรุงยา ทั้งสองอาชีพนี้ไม่ต้องต่อสู้และยังเป็นที่เคารพของผู้อื่นอีกด้วย

  มันเป็นเพียงอาชีพรูปแบบใหม่ ไม่มีใครสามารถให้คำแนะนำได้เลย เป็นไปไม่ได้จริงๆที่คนที่ไม่มีพรสวรรค์จะบรรลุผลเหล่านี้ได้ แต่ถึงอย่างไรมัลวีย์คนนี้ก็ยังสร้างอาวุธและชุดเกราะบางอย่างในช่วงเวลานี้ แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างจากที่คนธรรมดาทำมากนักอันที่จริงเขาไม่มีพรสวรรค์จริงๆ

  พวกเขาก็แค่บังเอิญหยุดแวะที่แผงลอยเล็ก ๆ ของมีลวีย์ใช่ไหม?

  แกรี่ยังไม่เห็นอะไรแปลก ๆ ในช่วงสั้น ๆ นี้ เขาให้คนใต้บัญชาจับตามัลวีย์ไว้

  “ขอโทษนะ ขอโทษมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ นี่คือหน่วยพิทักษ์หุบเขาหิมะ อาคารนี้เรียบง่ายมาก” หลังจากที่แกรี่จากไปชั่วครู่หนึ่ง เขาก็เดินกลับมาทันทีและกล่าวขอโทษที่ดูเหมือนจริงใจ แม้ว่าเขาจะดูเหมือนหมีร้าย แต่ในขณะเดียวกันก็ไร้เดียงสาเหมือนหมีเช่นกัน อย่างไรก็ตามลักษณะของแกรี่ไม่ได้ดูเป็นมิตรในครั้งแรกที่เห็น

  “ไม่เป็นไร ที่นี่ไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับหลาย ๆ คนที่ต้องนอนกลางดินกินกลางทราย” ไป๋อี้ไม่ได้ชมเชย แต่รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

  “อย่างนั้นเหรอ ฮ่าๆๆ”แกรี่หัวเราะออกมา

  “ไม่ทราบว่า ไป๋อี้ คุณมาที่หมูบ้านหุบเขาหิมะทำไม?”แกรี่ถามอย่างจริงจังหลังจากกระซิบกระซาบกันอยู่พักหนึ่ง

  ไป๋อี้วางถ้วยน้ำชาในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมอง: “แกรี่คุณคิดว่าพวกเรามนุษย์กลายพันธุ์จะอยู่รอดในนิวซีแลนด์ได้นานแค่ไหน?”

  แกรี่ไม่คาดคิดว่านี่จะเป็นปัญหา เมื่อไป๋อี้กล่าวประเด็นนี้ออกมาเขาก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเป็นมีท่าทีทางการที่จริงจังมากขึ้น วางอุ้งเท้าหมีคู่หนึ่งลง

  “นี่เป็นข้อสอบในโรงเรียนเหรอ?”

  “เปล่า ผมก็แค่ถามความคิดเห็นของคุณอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามคุณก็ยังดีกว่าหลาย ๆ คนตอนนี้คุณยังพอมีอิทธิพล” ไป๋อี้ส่ายหัวและพูดอย่างจริงจัง

  แกรี่มองไปที่ไป๋อี้แล้วมองกลับไปที่คนอื่น ๆ รอบตัวก่อนที่เขาจะผ่อนคลายลง “ขออภัย ฉันไม่เห็นอนาคตของมนุษยชาติที่กลายพันธุ์ของเราอยู่ตรงไหน แม้ว่าหุบเขาหิมะจะปลอดภัยในขณะนี้ แต่ก็เป็นเพียงเพราะว่ามันอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาอันที่จริงจำนวนผู้คนในหมู่บ้านหุบเขาหิมะก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง อันตรายหลากหลายชนิดประทังเข้ามาและนับแต่นี้ยังไม่มีทารกเกิดใหม่เลย ในระยะยาวคาดว่าจะมีเสียชีวิตยิ่งขึ้นไปอีก”

  ในที่สุดแกรี่ก็ตัดสินใจที่จะไม่คาดเดาเหตุผลที่ไป๋อี้ถามแบบนี้ แต่ได้แสดงความคิดเห็นของตัวเองออกทา

  “คุณเป็นคนซื่อตรงมาก อันที่จริงนี่คือสภาพที่เป็นอยู่ในนิวซีแลนด์ตอนนี้” ไป๋อี้พยักหน้า

  “ผมรู้ว่าคุณต้องการอะไรจากผม อย่างเช่นข้อมูลบางอย่างที่ผมยังไม่เปิดเผย” ไป๋อี้พูดอีกครั้งพลางมองไปที่แกรี่ด้วยรอยยิ้ม

  จู่ๆแกรี่ก็หัวเราะออกมารเมื่อได้ยินคำพูดนี้ สบประมาทเขาไม่ได้จริงๆ ใครกันที่ไม่อยากรู้ข้อมูลบางอย่างมากกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าไป๋อี้ในอีกด้านหนึ่งจะเหมือนกับในข่าวลือ แต่ในเวลานี้เองไป๋อี้หายใจเข้าลึก ๆ

  “น่าเสียดาย ที่ผมเองไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้ นี่คือข้อมูลบางส่วนที่าอาจจะละเอียดกว่าที่คุณรู้ แต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษมากนัก” ไป๋อี้พูดพร้อมกับยื่นข้อมูลชิ้นหนึ่ง

  “คุณก็ได้รู้แล้วว่าคนในทีมของฉันมีคนหายไป 2 คน แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปัญหาแปลกใหม่ เราต้องเผชิญกับอันตรายเหมือนกับคนอื่น ๆ ตอนนี้นิวซีแลนด์ไม่มีประเด็นที่จะต่อสู้เพื่ออำนาจเพียงเล็กน้อย

 มันไม่สมเหตุสมผลเลย ตราบใดที่ปัญหาพื้นฐานไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่ช้าก็เร็วพวกเราก็จะตายอย่างสมบูรณ์แบบในนิวซีแลนด์ที่ตอนนี้ได้ชื่อว่าเกาะปีศาจ “ไป๋อี้พูดช้าๆ อารมณ์ของทุกคนรอบข้างเริ่มลดลงด้วยน้ำเสียงของไป๋อี้เพราะสิ่งที่ไป๋อี้พูดนั้นคือความจริงที่หนักอึ้ง

  “ผมมาที่นี่เพื่อต้องการแจ้งให้ทุกคนที่มีความสามารถทราบ มีผู้ที่เป็นนักวิจัยก่อนหน้านี้อยู่ภายใต้การดูแลของคุณหรือไม่ พวกเราออกค้นหาเพื่อปกป้องพวกเขาเพราะมีเพียงคนเหล่านี้เท่านั้นที่จะสามารถค้นคว้าวิจัยยาที่ช่วยให้เราฟื้นคืนร่างมนุษย์ได้ ให้เราได้กำจัดรูปแบบชีวิตที่เป็นอยู่นี้นี้ให้สิ้นซากเถอะ แน่นอนว่าคุณเองก็คงคาดหวังให้มีใครศึกษาวิจัยเรื่องนี้ก่อนเช่นกัน”

  คาดหวังกับคนอื่น คาดหวังกับใครกัน?

  ไป๋อี้และแกรี่ได้พูดคุยกันมากมาย กล่าวได้ว่ามีผู้ชายมองการณ์เพียงในระยะสั้นจำนวนไม่น้อยที่เป็นหัวหน้ากลุ่มในตอนนี้ หลังจากที่ไป่อี้ระบุประเด็นสำคัญแล้วแกรี่ก็สัญญาว่าจะรวบรวมคนที่มีความสามารถประเภทนี้ไว้ภายใต้การดูแลของเขา แม้ว่าจะไม่สามารถจัดหาสถานที่วิจัยให้กับคนเหล่านี้ได้ในขณะนี้ แต่ก่อนอื่นก็ต้องปกป้องพวกเขาไว้ก่อน

  ส่วนอนาคตต่อจากนี้จะสร้างสถานที่วิจัยขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองหรือจะเสี่ยงหาสถาบันวิจัยที่มีอยู่แล้วนั่นเป็นคำถามต่อไป

  ……

  หลังจากไป๋อี้จากไป แกรี่ก็ยังคงงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง กระทั่งมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลัง

  “ สิ่งที่เขาพูดมันจริงแค่ไหนกัน?” แกรี่กลับมามีสติอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลัง

  “90เปอร์เซ็น!”หญิงสาวตอบ

  “90เปอร์เซ็น สูงอะไรขนาดนี้?”

  “ ใช่ อาจจะมีการปกปิดข้อมูลเล็กน้อย แต่นั่นคือแก่นแท้ของประเด็นเราไม่ควรสอดรู้ ถ้าไป๋อี้ไม่อยากพูดก็ไม่มีใครรู้ได้ ถ้าเราถามขึ้นมาทะลุกลางปล้องเราจะทำให้เขาขุ่นเคือง ข้อเสนอของเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อสถานะของคุณตอนนี้ เรื่องนี้อยู่ภายใต้การนำของคุณโดยสมบูรณ์คุณไม่ต้องกังวลว่าไป๋อี้ จะได้คุณความดีของคุณ ท้ายที่สุดแล้วคนในทีมของไป๋อี้มีคนน้อยเกินไป ถ้านี่เป็นเรื่องจริง ถ้าคุณแก้ปัญหาทั้งหมดเรื่องการกลายพันธุ์ของมนุษย์ที่เกิดขึ้นได้ ชื่อเสียงของคุณจะยิ่งทวีขึ้นอย่างมาก “หญิงสาววิเคราะห์อย่างรอบคอบ

  “เป็นอย่างนี้เองเหรอ!”แกรี่พยักหน้าขณะฟัง

  ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เบื้องหลังผู้ชายที่ประสบความสำเร็จคือผู้หญิงที่มีกระบวนการขบคิดที่่ยอดเยี่ยมผู้นี้อยู่!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 132 หมียักษ์แกรี่

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 132 หมียักษ์แกรี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หนึ่งปีเราต้องจัดหาวัตถุดิบอาหารและยาให้เพียงพอ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่สงบมั่นคง หากเป็นในสภาวะที่โลกสงบสุขบางทีนี่อาจไม่ใช่ข้อกำหนดที่ยากเกินไป แต่ในนิวซีแลนด์ตอนนี้นั้น

  ดาบเขี้ยวของไป๋อี้มีช่างหลอมอาวุธในช่วงแรกสรรค์สร้างให้เขา เท่าที่ไป๋อี้รู้ผู้ชายคนนั้นใช้กรดในถุงเนื้อสัตว์ที่เน่าเปื่อยที่ตนหามาได้เพื่อกัดกร่อนดาบเขี้ยวของเขา และเริ่มเจียรขัดถูดาบเขี้ยวหลังจากที่พวกมันเริ่มถูกหลอม ดาบเขี้ยวที่ถูกแปรรูปตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการขึ้นรูปด้วยวิธีนี้ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ แม้ว่าดาบเขี้ยวจะถูกแปรรูปจนเป็นรูปร่างของมีดดาบได้สำเร็จ แต่วัสดุส่วนใหญ่ก็สูญไปโดยเปล่าประโยชน์และวัสดุดั้งเดิมของดาบเขี้ยวก็ถูกทำลายไปบางส่วน ซึ่งลดความแข็งของดาบเขี้ยวของไป๋อี้ได้

  ส่วนอาวุธเหล่าที่ถูกแปรรูปโดยมัลวีย์ เขาไม่เพียงแต่ไม่ทำให้วัสดุสูญไปอย่างเปล่าประโยชน์เท่านั้น แต่ความแข็งแรงและความหนาแน่นของพวกมันยังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นไป๋อี้จึงเชิญชวนมัลวีย์เข้าร่วมทีมด้วย

  “ 1 ปี ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เข้าร่วมทีมของเราซะเลยล่ะ?”

  ไป๋อี้รู้ดีว่าพฤติกรรมการเชิญชวนแบบนี้ออกจะดูมุทะลุไปเสียบ้าง แต่นี่เป็นกลวิธีของเขา ตอนนี้ไม่มีเวลาให้ตรวจสอบบุคคลอย่างละเอียดรอบคอบแล้วค่อยจัดตั้งทีมอะไรแบบนั้น นี่เป็นวิสัยทัศน์ของเขาเองที่ต้องการการค้ำจุนไม่ว่าจะเป็นการเลือกทีมหรือเลือกบุคคลเข้าทีม

  “ฉันไม่ต้องการเข้าร่วมทีม ขอโทษนะ แต่ก้นับว่ามันเป็นเรื่องสนุกดี” มัลวีย์ยังคงส่ายหัวปฏิเสธ

  “อย่างนั้นเหรอ น่าเสียดายจริง” ไป๋อี้ไม่ได้บังคับเขา

  ในเวลานี้มีคน4-5คนวิ่งมาจากด้านหลังของถนน ชายที่เป็นผู้นำสวมชุดเกราะหนังสัตว์ เขาสูงมากกว่า 4 เมตรและแข็งแรงกว่าวูล์ฟมาก ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยขนหนาและเขาดูเหมือนหมีตัวใหญ่ที่เดินสองขาตัวตรง และข้างๆผู้ชายคนนี้มีชายที่ชื่อโซล่าที่พบหน้าทางเข้าก่อนหน้านี้

  “หัวหน้า นี่คือพวกเขา”

  “อืม”หัวหน้าหมียักษ์ตอบสั้น ๆ ขณะที่มองไปที่ไป๋อี้และเพื่อนๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปหา

  หมียักษ์แกรี่ ชายร่างสูงที่ดูเหมือนหมียักษ์ตรงหน้านี้คือผู้ปกครองหุบเขาหิมะแห่งนี้

 ไม่ว่าแกรี่จะดูหยาบกร้านแค่ไหนก็ตาม แต่เนื่องจากแกรี่เป็นหัวหน้าชั่วคราวของหุบเขาหิมะแห่งนี้จึงหมายความได้ว่าแกรี่ไม่ใช่คนโง่เบาปัญญาอย่างรูปลักษณ์ของเขา มัลวีย์อาศัยอยู่ในหุบเขาหิมะมาเป็นเวลาหลายเดือนและเป็นที่รู้ดีว่าแกรี่เป็นคนอย่างไร เมื่อเห็นแกรี่เดินตรงมา พวกไป๋อี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมาคนเหล่านี้จะก่ออาชญากรรมขึ้นที่นี่หรือไม่?

  “ฉันชื่อแกรี่ หมียักษ์แกรี่ ฉันเป็นผู้พิทักษ์หุบเขาหิมะในตอนนี้ ฉันดีใจที่คุณสามารถมาที่หุบเขาหิมะแห่งนี้ได้คุณไป๋อี้” เมื่อแกรี่เดินเข้ามา เขาก็มองไปที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ และเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้รู้มาเพื่อความถูกต้อง ผลที่ตามมาหลังจากการเปรียบเทียบตรึกตรองอยู่ในใจแล้ว แกรี่ก็ยืนยันว่าคนเหล่านี้น่าจะเป็นกลุ่มไป๋อี้ตัวจริง

  “ผมคือไป๋อี้ ผมไม่ได้มีจุดประสงค์พิเศษที่นี่ แค่เดินผ่านมาเท่านั้น!” ไป๋อี้กล่าว

  “ฮ่าฮ่าฮ่า เข้าใจแล้ว เพียงแค่ผ่านทางมา แน่นอนว่าคุณมีชื่อเสียงเลื่องลือในกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์แล้วทำไมเราไม่ให้การต้อนรับที่ดีกว่านี้ล่ะ ฉันได้ขอให้คนเหล่านี้เริ่มเตรียมการให้แล้ว ไป๋อี้คุณต้องการที่จะไปที่ของเรากับทีมของเราหรือไม่?” แกรี่แสยะยิ้มอย่างมีหยาบกร้านพร้อมกับถามออกไป

  “ได้ ดีเลย”ไป๋อี้พยักหน้าโดยไม่ปฏิเสธ

  ไป๋อี้รู้มานานแล้วว่าตราบใดที่พวกเขาแสดงตัวตนออกมา ผู้นำของกองกำลังระดับภูมิภาคเล็ก ๆ เหล่านี้จะต้องติดต่อกับไป๋อี้และทีมอย่างแน่นอนเพราะคาดว่าจะได้รับบางสิ่งจากทีมไป๋อี้ มันเป็นเพียงธรรมชาติของมนุษย์ ตราบใดที่พวกเขาแน่ชัดแล้วว่าพวกเขาไม่สามารถได้รับสิ่งที่ต้องการจากพวกไป๋อี้ได้ พวกเขาก็จะหยุดทำเช่นนี้ แน่นอนว่าคนโง่หัวดื้อรวมทั้งคนที่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น

  แกรี่……คือคนโง่เขลาเหรอ?

       อันที่จริงหลังจากที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ตามพวกแกรี่ไปที่ใจกลางหุบเขาหิมะ คนของแกรี่ก็รายงานทุกอย่างทันทีหลังจากที่ไป๋อี้และพวกเดินเข้าไปในหุบเขาหิมะ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีข้อมูลเกี่ยวกับมัลวีย์ที่พวกเขาสนใจอย่างละเอียดอีกมาก ขณะนี้แกรี่ใช้โอกาสผละออกมาจากไป๋อี้และคนอื่น ๆ แกรี่ได้อ่านข้อมูลทั้งหมดนี้

  มัลวีย์: มนุษย์วิวัฒนาการที่เข้ามาในหมู่บ้านหุบเขาหิมะเมื่อ 4 เดือนก่อน เดิมทีเขาเป็นสมาชิกของทีมเล็กๆทีมหนึ่ง แต่เมื่อทีมนี้พบกับสัตว์ประหลาดที่มีวิวัฒนาการอันทรงพลัง ขณะที่พวกเขาออกไปล่าสัตว์พวกมันก็ถูกกำจัดไปสิ้น มีเพียงมัลวีย์และผู้หญิงอีกคนเท่านั้นที่รอดชีวิต

  หลังจากนั้นมัลวีย์ก็ดูหวาดกลัวกับประสบการณ์นั้นและวางแผนที่จะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นช่างหลอมอาวุธหรือไม่ก็หมอปรุงยา ทั้งสองอาชีพนี้ไม่ต้องต่อสู้และยังเป็นที่เคารพของผู้อื่นอีกด้วย

  มันเป็นเพียงอาชีพรูปแบบใหม่ ไม่มีใครสามารถให้คำแนะนำได้เลย เป็นไปไม่ได้จริงๆที่คนที่ไม่มีพรสวรรค์จะบรรลุผลเหล่านี้ได้ แต่ถึงอย่างไรมัลวีย์คนนี้ก็ยังสร้างอาวุธและชุดเกราะบางอย่างในช่วงเวลานี้ แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างจากที่คนธรรมดาทำมากนักอันที่จริงเขาไม่มีพรสวรรค์จริงๆ

  พวกเขาก็แค่บังเอิญหยุดแวะที่แผงลอยเล็ก ๆ ของมีลวีย์ใช่ไหม?

  แกรี่ยังไม่เห็นอะไรแปลก ๆ ในช่วงสั้น ๆ นี้ เขาให้คนใต้บัญชาจับตามัลวีย์ไว้

  “ขอโทษนะ ขอโทษมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ นี่คือหน่วยพิทักษ์หุบเขาหิมะ อาคารนี้เรียบง่ายมาก” หลังจากที่แกรี่จากไปชั่วครู่หนึ่ง เขาก็เดินกลับมาทันทีและกล่าวขอโทษที่ดูเหมือนจริงใจ แม้ว่าเขาจะดูเหมือนหมีร้าย แต่ในขณะเดียวกันก็ไร้เดียงสาเหมือนหมีเช่นกัน อย่างไรก็ตามลักษณะของแกรี่ไม่ได้ดูเป็นมิตรในครั้งแรกที่เห็น

  “ไม่เป็นไร ที่นี่ไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับหลาย ๆ คนที่ต้องนอนกลางดินกินกลางทราย” ไป๋อี้ไม่ได้ชมเชย แต่รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

  “อย่างนั้นเหรอ ฮ่าๆๆ”แกรี่หัวเราะออกมา

  “ไม่ทราบว่า ไป๋อี้ คุณมาที่หมูบ้านหุบเขาหิมะทำไม?”แกรี่ถามอย่างจริงจังหลังจากกระซิบกระซาบกันอยู่พักหนึ่ง

  ไป๋อี้วางถ้วยน้ำชาในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมอง: “แกรี่คุณคิดว่าพวกเรามนุษย์กลายพันธุ์จะอยู่รอดในนิวซีแลนด์ได้นานแค่ไหน?”

  แกรี่ไม่คาดคิดว่านี่จะเป็นปัญหา เมื่อไป๋อี้กล่าวประเด็นนี้ออกมาเขาก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเป็นมีท่าทีทางการที่จริงจังมากขึ้น วางอุ้งเท้าหมีคู่หนึ่งลง

  “นี่เป็นข้อสอบในโรงเรียนเหรอ?”

  “เปล่า ผมก็แค่ถามความคิดเห็นของคุณอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามคุณก็ยังดีกว่าหลาย ๆ คนตอนนี้คุณยังพอมีอิทธิพล” ไป๋อี้ส่ายหัวและพูดอย่างจริงจัง

  แกรี่มองไปที่ไป๋อี้แล้วมองกลับไปที่คนอื่น ๆ รอบตัวก่อนที่เขาจะผ่อนคลายลง “ขออภัย ฉันไม่เห็นอนาคตของมนุษยชาติที่กลายพันธุ์ของเราอยู่ตรงไหน แม้ว่าหุบเขาหิมะจะปลอดภัยในขณะนี้ แต่ก็เป็นเพียงเพราะว่ามันอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาอันที่จริงจำนวนผู้คนในหมู่บ้านหุบเขาหิมะก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง อันตรายหลากหลายชนิดประทังเข้ามาและนับแต่นี้ยังไม่มีทารกเกิดใหม่เลย ในระยะยาวคาดว่าจะมีเสียชีวิตยิ่งขึ้นไปอีก”

  ในที่สุดแกรี่ก็ตัดสินใจที่จะไม่คาดเดาเหตุผลที่ไป๋อี้ถามแบบนี้ แต่ได้แสดงความคิดเห็นของตัวเองออกทา

  “คุณเป็นคนซื่อตรงมาก อันที่จริงนี่คือสภาพที่เป็นอยู่ในนิวซีแลนด์ตอนนี้” ไป๋อี้พยักหน้า

  “ผมรู้ว่าคุณต้องการอะไรจากผม อย่างเช่นข้อมูลบางอย่างที่ผมยังไม่เปิดเผย” ไป๋อี้พูดอีกครั้งพลางมองไปที่แกรี่ด้วยรอยยิ้ม

  จู่ๆแกรี่ก็หัวเราะออกมารเมื่อได้ยินคำพูดนี้ สบประมาทเขาไม่ได้จริงๆ ใครกันที่ไม่อยากรู้ข้อมูลบางอย่างมากกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าไป๋อี้ในอีกด้านหนึ่งจะเหมือนกับในข่าวลือ แต่ในเวลานี้เองไป๋อี้หายใจเข้าลึก ๆ

  “น่าเสียดาย ที่ผมเองไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้ นี่คือข้อมูลบางส่วนที่าอาจจะละเอียดกว่าที่คุณรู้ แต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษมากนัก” ไป๋อี้พูดพร้อมกับยื่นข้อมูลชิ้นหนึ่ง

  “คุณก็ได้รู้แล้วว่าคนในทีมของฉันมีคนหายไป 2 คน แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปัญหาแปลกใหม่ เราต้องเผชิญกับอันตรายเหมือนกับคนอื่น ๆ ตอนนี้นิวซีแลนด์ไม่มีประเด็นที่จะต่อสู้เพื่ออำนาจเพียงเล็กน้อย

 มันไม่สมเหตุสมผลเลย ตราบใดที่ปัญหาพื้นฐานไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่ช้าก็เร็วพวกเราก็จะตายอย่างสมบูรณ์แบบในนิวซีแลนด์ที่ตอนนี้ได้ชื่อว่าเกาะปีศาจ “ไป๋อี้พูดช้าๆ อารมณ์ของทุกคนรอบข้างเริ่มลดลงด้วยน้ำเสียงของไป๋อี้เพราะสิ่งที่ไป๋อี้พูดนั้นคือความจริงที่หนักอึ้ง

  “ผมมาที่นี่เพื่อต้องการแจ้งให้ทุกคนที่มีความสามารถทราบ มีผู้ที่เป็นนักวิจัยก่อนหน้านี้อยู่ภายใต้การดูแลของคุณหรือไม่ พวกเราออกค้นหาเพื่อปกป้องพวกเขาเพราะมีเพียงคนเหล่านี้เท่านั้นที่จะสามารถค้นคว้าวิจัยยาที่ช่วยให้เราฟื้นคืนร่างมนุษย์ได้ ให้เราได้กำจัดรูปแบบชีวิตที่เป็นอยู่นี้นี้ให้สิ้นซากเถอะ แน่นอนว่าคุณเองก็คงคาดหวังให้มีใครศึกษาวิจัยเรื่องนี้ก่อนเช่นกัน”

  คาดหวังกับคนอื่น คาดหวังกับใครกัน?

  ไป๋อี้และแกรี่ได้พูดคุยกันมากมาย กล่าวได้ว่ามีผู้ชายมองการณ์เพียงในระยะสั้นจำนวนไม่น้อยที่เป็นหัวหน้ากลุ่มในตอนนี้ หลังจากที่ไป่อี้ระบุประเด็นสำคัญแล้วแกรี่ก็สัญญาว่าจะรวบรวมคนที่มีความสามารถประเภทนี้ไว้ภายใต้การดูแลของเขา แม้ว่าจะไม่สามารถจัดหาสถานที่วิจัยให้กับคนเหล่านี้ได้ในขณะนี้ แต่ก่อนอื่นก็ต้องปกป้องพวกเขาไว้ก่อน

  ส่วนอนาคตต่อจากนี้จะสร้างสถานที่วิจัยขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองหรือจะเสี่ยงหาสถาบันวิจัยที่มีอยู่แล้วนั่นเป็นคำถามต่อไป

  ……

  หลังจากไป๋อี้จากไป แกรี่ก็ยังคงงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง กระทั่งมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลัง

  “ สิ่งที่เขาพูดมันจริงแค่ไหนกัน?” แกรี่กลับมามีสติอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลัง

  “90เปอร์เซ็น!”หญิงสาวตอบ

  “90เปอร์เซ็น สูงอะไรขนาดนี้?”

  “ ใช่ อาจจะมีการปกปิดข้อมูลเล็กน้อย แต่นั่นคือแก่นแท้ของประเด็นเราไม่ควรสอดรู้ ถ้าไป๋อี้ไม่อยากพูดก็ไม่มีใครรู้ได้ ถ้าเราถามขึ้นมาทะลุกลางปล้องเราจะทำให้เขาขุ่นเคือง ข้อเสนอของเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อสถานะของคุณตอนนี้ เรื่องนี้อยู่ภายใต้การนำของคุณโดยสมบูรณ์คุณไม่ต้องกังวลว่าไป๋อี้ จะได้คุณความดีของคุณ ท้ายที่สุดแล้วคนในทีมของไป๋อี้มีคนน้อยเกินไป ถ้านี่เป็นเรื่องจริง ถ้าคุณแก้ปัญหาทั้งหมดเรื่องการกลายพันธุ์ของมนุษย์ที่เกิดขึ้นได้ ชื่อเสียงของคุณจะยิ่งทวีขึ้นอย่างมาก “หญิงสาววิเคราะห์อย่างรอบคอบ

  “เป็นอย่างนี้เองเหรอ!”แกรี่พยักหน้าขณะฟัง

  ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เบื้องหลังผู้ชายที่ประสบความสำเร็จคือผู้หญิงที่มีกระบวนการขบคิดที่่ยอดเยี่ยมผู้นี้อยู่!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+