[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 94 ดวงตาที่เปลี่ยนแปลง

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 94 ดวงตาที่เปลี่ยนแปลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        กลุ่มคนพากันวิ่งออกไปนอกเมือง ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ขอบเมืองนั้นเอง ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากทางกลุ่มสัตว์ประหลาดหนู สิ้นเสียงนั้นพวกสัตว์ประหลาดหนูก็ค่อย ๆ แตกกระจาย และแยกย้ายกันกลับเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว ไป๋อี้มองหนูตัวที่เหลือแบกเพื่อน ๆ ที่ตายแล้วกลับไปก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ว่าสุดท้ายแล้วอาหารที่ได้ไปจะเป็นพวกไป๋อี้หรือเพื่อนของตัวมันเองแต่การหาอาหารครั้งนี้ก็ได้จบลงแล้ว หนูที่ตายไปพวกนั้นก็นับเป็นเนื้อปริมาณมากโขทีเดียว

        ตอนนี้ไป๋อี้ยังมีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำอีก นั้นคือการหยุดวูล์ฟและคนอื่น ๆ

        วูล์ฟและชาร์ไป่ยังไล่ตามพวกสัตว์ประหลาดหนูไป ดูท่าทางแล้วเจ้าพวกนั้นยังอยากจะกลับมาอีกแน่ แต่ร่างกายของวูล์ฟและชาร์ไป่ตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย แม้ว่าพวกไป๋อี้จะมั่นใจในฝีมือตัวเอง แต่ถ้ายังสู้ต่อ ทั้งสองจะต้องถูกกลุ่มหนูลากไปฆ่าแน่

        “โม่โม่ หยุดก่อน!” ไป๋อี้ตะโกนบอกโม่โม่

        โม่โม่ค่อย ๆ หยุดแล้วหันกลับมามองไป๋อี้ ไป๋อี้มาอยู่ด้านหน้าโม่โม่และจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ ลวดลายบนตาของไป๋อี้เปลี่ยนไปทันที โม่โม่ไม่ได้สูญเสียสติสัมปชัญญะไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้นภายใต้การปลอบโยนของไป๋อี้ตอนนี้เธอจึงสงบลงได้อย่างรวดเร็ว

        แต่วูล์ฟ ชาร์ไป่ และเวอร์เนอร์นั้นเรียกว่าค่อนอาการข้างหนักเลยทีเดียว ตอนที่พวกหนูล่าถอยไป ทั้งสามดูเหมือนกับยังไม่พอใจ จึงตามไล่ล่าเข้าไปข้างในอีกครั้ง เฮลัวส์  เมย์ริสและพูพูจึงได้เข้าไปขวางเอาไว้ แต่ในสายตาของพวกวูล์ฟตอนนี้ไม่รู้จักคำว่าพวกพ้องแล้ว หลังจากเห็นทั้งสามขวางทางอยู่พวกเขาก็กระโจนเข้าไปโจมตีทันที

        พลังของวูล์ฟ ชาร์ไป่ เวอร์เนอร์รวมกันยิ่งกว่าพวกสัตว์ประหลาดหนูก่อนหน้านี้เสียอีก

        หลังเผชิญหน้าได้เพียงครู่เดียว เฮลัวส์ก็จำต้องล่าถอยออกมาอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอสามารถบินได้ล่ะก็ …… ไป๋อี้ไม่อยากจะคิดเลย วูล์ฟปาง้าวออกไปทันที ส่งผลให้ง้าวพุ่งเข้าไปหาเฮลัวส์ที่บินอยู่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เฮลัวส์จึงยื่นมือออกมากันไว้ตามสัญชาตญาณ ทำให้มีดนั้นฟันไปที่แขนของเฮลัวส์อย่างแรง มีดรูปร่างคล้ายเคียวกับมีดสั้นกระทบกันจนเกิดเสียงหักดังขึ้น

        ถ้าไม่ใช่เพราะมีดสั้นหยุดไว้ เกรงว่าเฮลัวส์คงจะถูกง้าวของวูล์ฟผ่าเป็นสองท่อนแล้ว

        เดิมทีเฮลัวส์ก็บินยังไม่คล่องมากนัก และตอนนี้เธอยังบาดเจ็บสาหัสดอีก นั่นจึงทำให้เธอร่วงตกลงมาจากข้างบน วูล์ฟที่นั่งยองอยู่ที่พื้นก็กระโจนเข้าไปหาทันทีราวกับจระเข้ดุร้ายที่กำลังล่าเหยื่ออยู่ เฮลัวส์เหวี่ยงมีดในมือพุ่งใส่วูล์ฟทันที เพื่อทีจะซื้อเวลาให้ตัวเองชั่วคราว

        ในตอนนี้ ทางด้านเมย์ริสก็ลำบากเหมือนกัน ปกติตอนได้ดูชาร์ไป่ต่อสู้ก็รู้สึกว่ามันดุดันเป็นอย่างมาก แต่ในตอนนี้เธอได้สัมผัสความเก่งกาจนี้อย่างแท้จริงแล้ว

        เดิมทีเมย์ริสแค่อยากจะมาขวางไม่ให้ชาร์ไป่ไล่ตามพวกหนูเข้าไปในเมือง ในช่วงแรกชาร์ไป่หยุดไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อสบโอกาสตอนที่เมย์ริสวางใจ มันก็กระโจนเข้ามาทันที เมย์ริสไม่สามารถอธิบายความเร็วในตอนนั้นออกมาเป็นคำพูดได้ ขณะกำลังมึนงงอยู่นั้น ปากกว้างที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวของชาร์ไป่ก็มาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว

        เมย์ริสหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว เธอไม่อยากทำร้ายชาร์ไป่ในตอนนี้ เธอเพียงต้องการให้ชาร์ไป่กลับมาที่นี่เท่านั้น

          แต่ในขณะที่เมย์ริสคิดว่าตัวเองหลบพ้นแล้วนั้น กระดูกที่งอกออกมาจากสะบักของชาร์ไป่ก็ดูเหมือนกับว่าจะบานออกมาเล็กน้อย แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ก็ถึงกับทำให้ร่างของเมย์ริสถูกกระดูกแหลมนั้นแทงเข้าใส่อย่างจัง สร้างบาดแผลยาวกว่า 20 เซนติเมตรถึงสองที่ และไม่ทันรอให้เมย์ริสได้โต้ตอบอะไรกลับ หางของชาร์ไป่ก็ตวัดไปทั่วร่างของเธอ

        เสียงฟาดดังผลั่ก ทันใดนั้นเมย์ริสก็ลอยออกไปทันที

        ต้องบอกก่อนว่า ที่นี่นอกจากไป๋อี้กับโม่โม่แล้ว คนอื่น ๆ ล้วนแต่ผสานรวมยีนกับมดทั้งหมด ดังนั้นทุกคนจึงมีน้ำหนักไม่ถึง 100 กิโลกรัม จึงไม่มีปัญหาในการบินขั้นพื้นฐาน

        แต่ในทางกลับกันทางด้านพูพูนั้นค่อนข้างจะสบาย การขัดขวางเวอร์เนอร์น่ะหรอ เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว แค่ชนนิดหน่อยก็เป็นผลแล้ว ผิวหนังของพูพูหนามากโดยไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร และยังแข็งจนไม่มีอะไรมาอธิบายได้ ตราบใดที่เวอร์เนอร์ไม่ได้ฟันโดนจุดสำคัญของมัน ไม่ว่าส่วนไหนก็จะไม่สามารถฟันเข้าผิวหนังของมันได้ ในเวลาไม่กี่นาที เวอร์เนอร์กับพูพูก็ปะทะกันจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเวอร์เนอร์ถูกชนจนเริ่มเวียนหัวแล้ว ส่วนพูพูดูเหมือนกำลังสนุกสนานเป็นอย่างมาก เพราะนี่เป็นโอกาสหายากที่จะโจมตีเพื่อนร่วมทีมได้โดยไม่ผิด

        เวอร์เนอร์ถูกพูพูกระแทกตัวลอย ซึ่งขณะที่เขายังไม่ทันได้ตกลงมาพูพูก็พุ่งไปกระแทกอีกครั้ง และต่อด้วยกระแทกใส่ท้องของเวอร์เนอร์ต่ออีกหลายครั้ง

        หลังจากพุ่งชนเวอร์เนอร์แล้ว มันก็ร้องฮึมฮัมออกมาอย่างมีความสุขพร้อมกับส่ายก้นดุ๊กดิ๊กไปมา

        สถานการณ์ของทุกคนล้วนตกอยู่ในสายตาของไป๋อี้  เขารีบพุ่งตัวออกไปกระโดดข้ามรถที่ถูกจอดทิ้งไว้แล้วพุ่งชนวูล์ฟที่อยู่กลางอากาศทันที วูล์ฟในตอนนี้ไล่กัดเฮลัวส์ราวกับเป็นจระเข้ที่หิวโหย แม้ว่าเมย์ริสจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก แต่ก็ยังไม่ร้ายแรงเท่ากับเฮลัวส์ จากพลังของวูล์ฟในตอนนี้ ถ้าเฮลัวส์ถูกวูล์ฟกัดเข้าจริง ๆ ล่ะก็เธอคงจะขาดเป็นสองท่อนแน่

        ไป๋อี้พุ่งออกมาจากด้านข้าง และใช้ขาขวาแตะใส่ขากรรไกรวูล์ฟอย่างแรง

        เสียงกระแทกดังขึ้นพร้อมกับเสียงมีดสั้นกระแทกเข้าที่หัวของวูล์ฟ แล้วทั้งสามคนต่างก็โจมตีเข้าหากันอย่างหนักหน่วงทันที ในที่สุดวูล์ฟก็โผเข้าไปถึงตัวเฮลัวส์ได้ แต่เพราะการเตะของไป๋อี้นั้นทำให้ปากของเขาหุบลงและไปกระแทกเข้าที่เอวของเฮลัวส์อย่างแรงแทน

        แม้ว่าจะถูกกระแทกอย่างแรง แต่เฮลัวส์ก็ไม่ได้สนใจบาดแผลที่เอวของเธอเลย เธอจับปากจระเข้ของวูล์ฟ แล้วใช้แรงทั้งหมดพลิกตัว ร่างขนาดใหญ่ของวูล์ฟถูกจับพลิกคว่ำลงมา ทั้งสองจึงตกลงสู่พื้นพร้อมกันอย่างรุนแรง            

        เฮลัวส์ได้รับบาดเจ็บจากง้าวที่วูล์ฟขว้างมาตอนไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้พลังของแต่ละคนในกลุ่มของไป๋อี้แข็งแกร่งมาก ไม่สามารถมองข้ามไปได้แม้แต่คนเดียว

        ไป๋อี้เข้ามาจับแขนขวาของวูล์ฟไว้ เมื่อเขาตกลงมาถึงพื้น ไป๋อี้กับเฮลัวส์ก็ช่วยกันกดร่างวูล์ฟไว้ เมื่อเห็นว่าวูล์ฟมองมาอย่างโกรธเกรี้ยว ไป๋อี้ก็รีบลืมตาทั้งสองข้างทันที ในตอนนี้ไป๋อี้ได้แต่หวังว่าพลังของเขาจะยังใช้ได้ผลกับวูล์ฟ

        “วูล์ฟ คุมสติหน่อย!”

        ม่านตาของไป๋อี้เต็มไปด้วยลวดลาย แต่วูล์ฟก็ยังคงต่อสู้ดิ้นรนอย่างคลุ้มคลั่ง ไป๋อี้และเฮลัวส์รั้งไว้จะไม่อยู่แล้ว ไป๋อี้กระวนกระวายใจ แย่ละสิ ก่อนหน้านี้วูล์ฟยังอยู่ในระดับที่สามารถคืนสติได้ แต่ทุกครั้งที่เข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง ก็จะทำให้เขาคืนสติได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ

        ทันใดนั้นปากขนาดใหญ่ของวูล์ฟก็อ้าออกอีกครั้ง และกัดไป๋อี้ที่อยู่ตรงหน้าของเขาอย่างแรง ไป๋อี้หลบไม่ทันจึงทำให้ถูกกัดเข้าที่ไหล่ เฮลัวส์เหมือนจะได้ยินเสียงกระดูกของไป๋อี้แตก เลือดหลั่งไหลออกมาจากบาดแผลของไป๋อี้ทันที วูล์ฟเตรียมที่จะสะบัดคอเพื่อใช้แรงกระชากฉีกเหยื่อเป็นชิ้น ๆ

        เฮลัวส์รู้สึกใจเต้นไม่เป็นร่ำเป็นสัน

        ไป๋อี้จะมาตายด้วยน้ำมือของวูล์ฟจริงเหรอ?

          ฉันจะมาตายด้วยน้ำมือของพวกตัวเองได้ยังไง! ไป๋อี้ตะโกนกู่ร้องอยู่ในใจ แล้วเขาก็หลับตาลงพร้อมกับลืมตาขึ้นใหม่อีกครั้ง ไป๋อี้รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างแตกในหัว ดวงตาของเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้ไป๋อี้รู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองถูกอะไรบางอย่างกระตุ้นมากกว่าครั้งอื่น ๆ ดวงตาทั้งสองข้างเปลี่ยนแปลงไป

        นี่มัน ……. พลังงานพิเศษ! 

        ต้องย้อนกลับไปนึกถึงข้อมูลที่รวบรวมมา ความจริงหลังจากที่ทุกคนผสานรวมเซลล์แล้วพลังงานพิเศษก็จะอยู่ภายในร่างกายของทุกคน เพียงแต่ว่าก่อนจะถึง LV2 จะไม่สามารถรวบรวมพลังออกมาใช้ได้อย่างอิสระ แต่ถ้าหากร่างกายระดมพลังออกมาใช้โดยสัญชาตญาณล่ะ

        รูปแบบม่านตาของไป๋อี้ในตอนนี้คือพลังงานพิเศษที่ถูกปลุกระดมออกมาจากสัญชาตญาณของตัวมันเอง เพราะรับรู้ได้ว่าดวงตาทั้งสองข้างกำลังต้องการแรงสนับสนุน จึงสามารถระดมพลังงานพิเศษมาที่ดวงตาได้

        ปากใหญ่ของวูล์ฟกัดลงไปบนไหล่ของไป๋อี้ แต่มันก็หยุดอยู่เพียงแค่เขี้ยวสองสามซีกที่แทงลึกเข้าไปในร่างกายของเขาเท่านั้น ความบ้าคลั่งของวูล์ฟค่อย ๆ ลดลงและสงบลงในที่สุด

        “อีกเดี๋ยว ฉันจะคิดบัญชีกับนายแน่” ไป๋อี้ดันปากของวูล์ฟออก แล้วพูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว

        “แหะแหะ”

        วูล์ฟได้ยินคำขู่ของไป๋อี้ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร เพียงแค่หัวเราะอย่างรู้สึกผิดออกมาเท่านั้น ในตอนนี้เขากำลังคิดย้อนถึงสถานการณ์อันตรายที่เพิ่งเกิดขึ้น ไป๋อี้กับเฮลัวส์เกือบตายด้วยน้ำมือของเขา ช่วงคลุ้มคลั่งนั้นอันตรายเกินไปแล้ว นอกจากตัวเองแล้วก็ไม่นับญาติกับใครทั้งนั้น เขารู้เพียงแค่ต้องฆ่าและทำลายเท่านั้น

        ไป๋อี้วิ่งไปทางด้านชาร์ไป่ต่อ ตอนนี้ เขารู้สึกว่าดวงตาของเขาต่างไปจากเดิมคล้ายกับว่ามีบางอย่างออกมาจากร่างกายไหลเข้าไปสนับสนุนการใช้พลังจากดวงตาของเขา แม้ว่าครั้งนี้เลือดของเขาจะไหลออกมาจากดวงตาอีก แต่ไป๋อี้ก็รู้สึกผ่อนคลายกว่าครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งนั่นทำให้การบาดเจ็บของเขาก่อนหน้านี้หายไปด้วย

        สิ่งที่กำลังไหลเวียนอยู่นี้ จะใช่พลังงานพิเศษไหมนะ?

        ไป๋อี้สัมผัสได้ถึงพลังงานพิเศษที่อยู่ในร่างอย่างเลือนราง แม้ว่าจะยังไม่มีวิธีที่จะรวบรวมพลังออกมาใช้แบบในนิยาย แต่พลังพวกนี้ก็ไปรวมอยู่ที่ดวงตาของเขาด้วยตัวเอง

        แมลงหลายชนิดมีดวงตาเป็นแบบตารวม (compound eye) แต่ดวงตาของไป๋อี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนรูปนูนออกมาเหมือนตาของผีเสื้อ แต่ในขณะที่ไป๋อี้กำลังวิ่งอยู่นี้ก็รู้สึกคล้ายกับว่าองศาการมองของตาเขาทำได้ถึง 180 องศา ไม่ว่าจะมุมไหนดวงตาสองข้างของเขาก็สามารถมองเห็นรอบด้านได้อย่างชัดเจน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 94 ดวงตาที่เปลี่ยนแปลง

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 94 ดวงตาที่เปลี่ยนแปลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        กลุ่มคนพากันวิ่งออกไปนอกเมือง ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ขอบเมืองนั้นเอง ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากทางกลุ่มสัตว์ประหลาดหนู สิ้นเสียงนั้นพวกสัตว์ประหลาดหนูก็ค่อย ๆ แตกกระจาย และแยกย้ายกันกลับเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว ไป๋อี้มองหนูตัวที่เหลือแบกเพื่อน ๆ ที่ตายแล้วกลับไปก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ว่าสุดท้ายแล้วอาหารที่ได้ไปจะเป็นพวกไป๋อี้หรือเพื่อนของตัวมันเองแต่การหาอาหารครั้งนี้ก็ได้จบลงแล้ว หนูที่ตายไปพวกนั้นก็นับเป็นเนื้อปริมาณมากโขทีเดียว

        ตอนนี้ไป๋อี้ยังมีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำอีก นั้นคือการหยุดวูล์ฟและคนอื่น ๆ

        วูล์ฟและชาร์ไป่ยังไล่ตามพวกสัตว์ประหลาดหนูไป ดูท่าทางแล้วเจ้าพวกนั้นยังอยากจะกลับมาอีกแน่ แต่ร่างกายของวูล์ฟและชาร์ไป่ตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย แม้ว่าพวกไป๋อี้จะมั่นใจในฝีมือตัวเอง แต่ถ้ายังสู้ต่อ ทั้งสองจะต้องถูกกลุ่มหนูลากไปฆ่าแน่

        “โม่โม่ หยุดก่อน!” ไป๋อี้ตะโกนบอกโม่โม่

        โม่โม่ค่อย ๆ หยุดแล้วหันกลับมามองไป๋อี้ ไป๋อี้มาอยู่ด้านหน้าโม่โม่และจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ ลวดลายบนตาของไป๋อี้เปลี่ยนไปทันที โม่โม่ไม่ได้สูญเสียสติสัมปชัญญะไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้นภายใต้การปลอบโยนของไป๋อี้ตอนนี้เธอจึงสงบลงได้อย่างรวดเร็ว

        แต่วูล์ฟ ชาร์ไป่ และเวอร์เนอร์นั้นเรียกว่าค่อนอาการข้างหนักเลยทีเดียว ตอนที่พวกหนูล่าถอยไป ทั้งสามดูเหมือนกับยังไม่พอใจ จึงตามไล่ล่าเข้าไปข้างในอีกครั้ง เฮลัวส์  เมย์ริสและพูพูจึงได้เข้าไปขวางเอาไว้ แต่ในสายตาของพวกวูล์ฟตอนนี้ไม่รู้จักคำว่าพวกพ้องแล้ว หลังจากเห็นทั้งสามขวางทางอยู่พวกเขาก็กระโจนเข้าไปโจมตีทันที

        พลังของวูล์ฟ ชาร์ไป่ เวอร์เนอร์รวมกันยิ่งกว่าพวกสัตว์ประหลาดหนูก่อนหน้านี้เสียอีก

        หลังเผชิญหน้าได้เพียงครู่เดียว เฮลัวส์ก็จำต้องล่าถอยออกมาอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอสามารถบินได้ล่ะก็ …… ไป๋อี้ไม่อยากจะคิดเลย วูล์ฟปาง้าวออกไปทันที ส่งผลให้ง้าวพุ่งเข้าไปหาเฮลัวส์ที่บินอยู่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เฮลัวส์จึงยื่นมือออกมากันไว้ตามสัญชาตญาณ ทำให้มีดนั้นฟันไปที่แขนของเฮลัวส์อย่างแรง มีดรูปร่างคล้ายเคียวกับมีดสั้นกระทบกันจนเกิดเสียงหักดังขึ้น

        ถ้าไม่ใช่เพราะมีดสั้นหยุดไว้ เกรงว่าเฮลัวส์คงจะถูกง้าวของวูล์ฟผ่าเป็นสองท่อนแล้ว

        เดิมทีเฮลัวส์ก็บินยังไม่คล่องมากนัก และตอนนี้เธอยังบาดเจ็บสาหัสดอีก นั่นจึงทำให้เธอร่วงตกลงมาจากข้างบน วูล์ฟที่นั่งยองอยู่ที่พื้นก็กระโจนเข้าไปหาทันทีราวกับจระเข้ดุร้ายที่กำลังล่าเหยื่ออยู่ เฮลัวส์เหวี่ยงมีดในมือพุ่งใส่วูล์ฟทันที เพื่อทีจะซื้อเวลาให้ตัวเองชั่วคราว

        ในตอนนี้ ทางด้านเมย์ริสก็ลำบากเหมือนกัน ปกติตอนได้ดูชาร์ไป่ต่อสู้ก็รู้สึกว่ามันดุดันเป็นอย่างมาก แต่ในตอนนี้เธอได้สัมผัสความเก่งกาจนี้อย่างแท้จริงแล้ว

        เดิมทีเมย์ริสแค่อยากจะมาขวางไม่ให้ชาร์ไป่ไล่ตามพวกหนูเข้าไปในเมือง ในช่วงแรกชาร์ไป่หยุดไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อสบโอกาสตอนที่เมย์ริสวางใจ มันก็กระโจนเข้ามาทันที เมย์ริสไม่สามารถอธิบายความเร็วในตอนนั้นออกมาเป็นคำพูดได้ ขณะกำลังมึนงงอยู่นั้น ปากกว้างที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวของชาร์ไป่ก็มาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว

        เมย์ริสหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว เธอไม่อยากทำร้ายชาร์ไป่ในตอนนี้ เธอเพียงต้องการให้ชาร์ไป่กลับมาที่นี่เท่านั้น

          แต่ในขณะที่เมย์ริสคิดว่าตัวเองหลบพ้นแล้วนั้น กระดูกที่งอกออกมาจากสะบักของชาร์ไป่ก็ดูเหมือนกับว่าจะบานออกมาเล็กน้อย แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ก็ถึงกับทำให้ร่างของเมย์ริสถูกกระดูกแหลมนั้นแทงเข้าใส่อย่างจัง สร้างบาดแผลยาวกว่า 20 เซนติเมตรถึงสองที่ และไม่ทันรอให้เมย์ริสได้โต้ตอบอะไรกลับ หางของชาร์ไป่ก็ตวัดไปทั่วร่างของเธอ

        เสียงฟาดดังผลั่ก ทันใดนั้นเมย์ริสก็ลอยออกไปทันที

        ต้องบอกก่อนว่า ที่นี่นอกจากไป๋อี้กับโม่โม่แล้ว คนอื่น ๆ ล้วนแต่ผสานรวมยีนกับมดทั้งหมด ดังนั้นทุกคนจึงมีน้ำหนักไม่ถึง 100 กิโลกรัม จึงไม่มีปัญหาในการบินขั้นพื้นฐาน

        แต่ในทางกลับกันทางด้านพูพูนั้นค่อนข้างจะสบาย การขัดขวางเวอร์เนอร์น่ะหรอ เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว แค่ชนนิดหน่อยก็เป็นผลแล้ว ผิวหนังของพูพูหนามากโดยไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร และยังแข็งจนไม่มีอะไรมาอธิบายได้ ตราบใดที่เวอร์เนอร์ไม่ได้ฟันโดนจุดสำคัญของมัน ไม่ว่าส่วนไหนก็จะไม่สามารถฟันเข้าผิวหนังของมันได้ ในเวลาไม่กี่นาที เวอร์เนอร์กับพูพูก็ปะทะกันจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเวอร์เนอร์ถูกชนจนเริ่มเวียนหัวแล้ว ส่วนพูพูดูเหมือนกำลังสนุกสนานเป็นอย่างมาก เพราะนี่เป็นโอกาสหายากที่จะโจมตีเพื่อนร่วมทีมได้โดยไม่ผิด

        เวอร์เนอร์ถูกพูพูกระแทกตัวลอย ซึ่งขณะที่เขายังไม่ทันได้ตกลงมาพูพูก็พุ่งไปกระแทกอีกครั้ง และต่อด้วยกระแทกใส่ท้องของเวอร์เนอร์ต่ออีกหลายครั้ง

        หลังจากพุ่งชนเวอร์เนอร์แล้ว มันก็ร้องฮึมฮัมออกมาอย่างมีความสุขพร้อมกับส่ายก้นดุ๊กดิ๊กไปมา

        สถานการณ์ของทุกคนล้วนตกอยู่ในสายตาของไป๋อี้  เขารีบพุ่งตัวออกไปกระโดดข้ามรถที่ถูกจอดทิ้งไว้แล้วพุ่งชนวูล์ฟที่อยู่กลางอากาศทันที วูล์ฟในตอนนี้ไล่กัดเฮลัวส์ราวกับเป็นจระเข้ที่หิวโหย แม้ว่าเมย์ริสจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก แต่ก็ยังไม่ร้ายแรงเท่ากับเฮลัวส์ จากพลังของวูล์ฟในตอนนี้ ถ้าเฮลัวส์ถูกวูล์ฟกัดเข้าจริง ๆ ล่ะก็เธอคงจะขาดเป็นสองท่อนแน่

        ไป๋อี้พุ่งออกมาจากด้านข้าง และใช้ขาขวาแตะใส่ขากรรไกรวูล์ฟอย่างแรง

        เสียงกระแทกดังขึ้นพร้อมกับเสียงมีดสั้นกระแทกเข้าที่หัวของวูล์ฟ แล้วทั้งสามคนต่างก็โจมตีเข้าหากันอย่างหนักหน่วงทันที ในที่สุดวูล์ฟก็โผเข้าไปถึงตัวเฮลัวส์ได้ แต่เพราะการเตะของไป๋อี้นั้นทำให้ปากของเขาหุบลงและไปกระแทกเข้าที่เอวของเฮลัวส์อย่างแรงแทน

        แม้ว่าจะถูกกระแทกอย่างแรง แต่เฮลัวส์ก็ไม่ได้สนใจบาดแผลที่เอวของเธอเลย เธอจับปากจระเข้ของวูล์ฟ แล้วใช้แรงทั้งหมดพลิกตัว ร่างขนาดใหญ่ของวูล์ฟถูกจับพลิกคว่ำลงมา ทั้งสองจึงตกลงสู่พื้นพร้อมกันอย่างรุนแรง            

        เฮลัวส์ได้รับบาดเจ็บจากง้าวที่วูล์ฟขว้างมาตอนไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้พลังของแต่ละคนในกลุ่มของไป๋อี้แข็งแกร่งมาก ไม่สามารถมองข้ามไปได้แม้แต่คนเดียว

        ไป๋อี้เข้ามาจับแขนขวาของวูล์ฟไว้ เมื่อเขาตกลงมาถึงพื้น ไป๋อี้กับเฮลัวส์ก็ช่วยกันกดร่างวูล์ฟไว้ เมื่อเห็นว่าวูล์ฟมองมาอย่างโกรธเกรี้ยว ไป๋อี้ก็รีบลืมตาทั้งสองข้างทันที ในตอนนี้ไป๋อี้ได้แต่หวังว่าพลังของเขาจะยังใช้ได้ผลกับวูล์ฟ

        “วูล์ฟ คุมสติหน่อย!”

        ม่านตาของไป๋อี้เต็มไปด้วยลวดลาย แต่วูล์ฟก็ยังคงต่อสู้ดิ้นรนอย่างคลุ้มคลั่ง ไป๋อี้และเฮลัวส์รั้งไว้จะไม่อยู่แล้ว ไป๋อี้กระวนกระวายใจ แย่ละสิ ก่อนหน้านี้วูล์ฟยังอยู่ในระดับที่สามารถคืนสติได้ แต่ทุกครั้งที่เข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง ก็จะทำให้เขาคืนสติได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ

        ทันใดนั้นปากขนาดใหญ่ของวูล์ฟก็อ้าออกอีกครั้ง และกัดไป๋อี้ที่อยู่ตรงหน้าของเขาอย่างแรง ไป๋อี้หลบไม่ทันจึงทำให้ถูกกัดเข้าที่ไหล่ เฮลัวส์เหมือนจะได้ยินเสียงกระดูกของไป๋อี้แตก เลือดหลั่งไหลออกมาจากบาดแผลของไป๋อี้ทันที วูล์ฟเตรียมที่จะสะบัดคอเพื่อใช้แรงกระชากฉีกเหยื่อเป็นชิ้น ๆ

        เฮลัวส์รู้สึกใจเต้นไม่เป็นร่ำเป็นสัน

        ไป๋อี้จะมาตายด้วยน้ำมือของวูล์ฟจริงเหรอ?

          ฉันจะมาตายด้วยน้ำมือของพวกตัวเองได้ยังไง! ไป๋อี้ตะโกนกู่ร้องอยู่ในใจ แล้วเขาก็หลับตาลงพร้อมกับลืมตาขึ้นใหม่อีกครั้ง ไป๋อี้รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างแตกในหัว ดวงตาของเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้ไป๋อี้รู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองถูกอะไรบางอย่างกระตุ้นมากกว่าครั้งอื่น ๆ ดวงตาทั้งสองข้างเปลี่ยนแปลงไป

        นี่มัน ……. พลังงานพิเศษ! 

        ต้องย้อนกลับไปนึกถึงข้อมูลที่รวบรวมมา ความจริงหลังจากที่ทุกคนผสานรวมเซลล์แล้วพลังงานพิเศษก็จะอยู่ภายในร่างกายของทุกคน เพียงแต่ว่าก่อนจะถึง LV2 จะไม่สามารถรวบรวมพลังออกมาใช้ได้อย่างอิสระ แต่ถ้าหากร่างกายระดมพลังออกมาใช้โดยสัญชาตญาณล่ะ

        รูปแบบม่านตาของไป๋อี้ในตอนนี้คือพลังงานพิเศษที่ถูกปลุกระดมออกมาจากสัญชาตญาณของตัวมันเอง เพราะรับรู้ได้ว่าดวงตาทั้งสองข้างกำลังต้องการแรงสนับสนุน จึงสามารถระดมพลังงานพิเศษมาที่ดวงตาได้

        ปากใหญ่ของวูล์ฟกัดลงไปบนไหล่ของไป๋อี้ แต่มันก็หยุดอยู่เพียงแค่เขี้ยวสองสามซีกที่แทงลึกเข้าไปในร่างกายของเขาเท่านั้น ความบ้าคลั่งของวูล์ฟค่อย ๆ ลดลงและสงบลงในที่สุด

        “อีกเดี๋ยว ฉันจะคิดบัญชีกับนายแน่” ไป๋อี้ดันปากของวูล์ฟออก แล้วพูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว

        “แหะแหะ”

        วูล์ฟได้ยินคำขู่ของไป๋อี้ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร เพียงแค่หัวเราะอย่างรู้สึกผิดออกมาเท่านั้น ในตอนนี้เขากำลังคิดย้อนถึงสถานการณ์อันตรายที่เพิ่งเกิดขึ้น ไป๋อี้กับเฮลัวส์เกือบตายด้วยน้ำมือของเขา ช่วงคลุ้มคลั่งนั้นอันตรายเกินไปแล้ว นอกจากตัวเองแล้วก็ไม่นับญาติกับใครทั้งนั้น เขารู้เพียงแค่ต้องฆ่าและทำลายเท่านั้น

        ไป๋อี้วิ่งไปทางด้านชาร์ไป่ต่อ ตอนนี้ เขารู้สึกว่าดวงตาของเขาต่างไปจากเดิมคล้ายกับว่ามีบางอย่างออกมาจากร่างกายไหลเข้าไปสนับสนุนการใช้พลังจากดวงตาของเขา แม้ว่าครั้งนี้เลือดของเขาจะไหลออกมาจากดวงตาอีก แต่ไป๋อี้ก็รู้สึกผ่อนคลายกว่าครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งนั่นทำให้การบาดเจ็บของเขาก่อนหน้านี้หายไปด้วย

        สิ่งที่กำลังไหลเวียนอยู่นี้ จะใช่พลังงานพิเศษไหมนะ?

        ไป๋อี้สัมผัสได้ถึงพลังงานพิเศษที่อยู่ในร่างอย่างเลือนราง แม้ว่าจะยังไม่มีวิธีที่จะรวบรวมพลังออกมาใช้แบบในนิยาย แต่พลังพวกนี้ก็ไปรวมอยู่ที่ดวงตาของเขาด้วยตัวเอง

        แมลงหลายชนิดมีดวงตาเป็นแบบตารวม (compound eye) แต่ดวงตาของไป๋อี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนรูปนูนออกมาเหมือนตาของผีเสื้อ แต่ในขณะที่ไป๋อี้กำลังวิ่งอยู่นี้ก็รู้สึกคล้ายกับว่าองศาการมองของตาเขาทำได้ถึง 180 องศา ไม่ว่าจะมุมไหนดวงตาสองข้างของเขาก็สามารถมองเห็นรอบด้านได้อย่างชัดเจน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 94 ดวงตาที่เปลี่ยนแปลง

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 94 ดวงตาที่เปลี่ยนแปลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        กลุ่มคนพากันวิ่งออกไปนอกเมือง ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ขอบเมืองนั้นเอง ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากทางกลุ่มสัตว์ประหลาดหนู สิ้นเสียงนั้นพวกสัตว์ประหลาดหนูก็ค่อย ๆ แตกกระจาย และแยกย้ายกันกลับเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว ไป๋อี้มองหนูตัวที่เหลือแบกเพื่อน ๆ ที่ตายแล้วกลับไปก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ว่าสุดท้ายแล้วอาหารที่ได้ไปจะเป็นพวกไป๋อี้หรือเพื่อนของตัวมันเองแต่การหาอาหารครั้งนี้ก็ได้จบลงแล้ว หนูที่ตายไปพวกนั้นก็นับเป็นเนื้อปริมาณมากโขทีเดียว

        ตอนนี้ไป๋อี้ยังมีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำอีก นั้นคือการหยุดวูล์ฟและคนอื่น ๆ

        วูล์ฟและชาร์ไป่ยังไล่ตามพวกสัตว์ประหลาดหนูไป ดูท่าทางแล้วเจ้าพวกนั้นยังอยากจะกลับมาอีกแน่ แต่ร่างกายของวูล์ฟและชาร์ไป่ตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย แม้ว่าพวกไป๋อี้จะมั่นใจในฝีมือตัวเอง แต่ถ้ายังสู้ต่อ ทั้งสองจะต้องถูกกลุ่มหนูลากไปฆ่าแน่

        “โม่โม่ หยุดก่อน!” ไป๋อี้ตะโกนบอกโม่โม่

        โม่โม่ค่อย ๆ หยุดแล้วหันกลับมามองไป๋อี้ ไป๋อี้มาอยู่ด้านหน้าโม่โม่และจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ ลวดลายบนตาของไป๋อี้เปลี่ยนไปทันที โม่โม่ไม่ได้สูญเสียสติสัมปชัญญะไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้นภายใต้การปลอบโยนของไป๋อี้ตอนนี้เธอจึงสงบลงได้อย่างรวดเร็ว

        แต่วูล์ฟ ชาร์ไป่ และเวอร์เนอร์นั้นเรียกว่าค่อนอาการข้างหนักเลยทีเดียว ตอนที่พวกหนูล่าถอยไป ทั้งสามดูเหมือนกับยังไม่พอใจ จึงตามไล่ล่าเข้าไปข้างในอีกครั้ง เฮลัวส์  เมย์ริสและพูพูจึงได้เข้าไปขวางเอาไว้ แต่ในสายตาของพวกวูล์ฟตอนนี้ไม่รู้จักคำว่าพวกพ้องแล้ว หลังจากเห็นทั้งสามขวางทางอยู่พวกเขาก็กระโจนเข้าไปโจมตีทันที

        พลังของวูล์ฟ ชาร์ไป่ เวอร์เนอร์รวมกันยิ่งกว่าพวกสัตว์ประหลาดหนูก่อนหน้านี้เสียอีก

        หลังเผชิญหน้าได้เพียงครู่เดียว เฮลัวส์ก็จำต้องล่าถอยออกมาอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอสามารถบินได้ล่ะก็ …… ไป๋อี้ไม่อยากจะคิดเลย วูล์ฟปาง้าวออกไปทันที ส่งผลให้ง้าวพุ่งเข้าไปหาเฮลัวส์ที่บินอยู่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เฮลัวส์จึงยื่นมือออกมากันไว้ตามสัญชาตญาณ ทำให้มีดนั้นฟันไปที่แขนของเฮลัวส์อย่างแรง มีดรูปร่างคล้ายเคียวกับมีดสั้นกระทบกันจนเกิดเสียงหักดังขึ้น

        ถ้าไม่ใช่เพราะมีดสั้นหยุดไว้ เกรงว่าเฮลัวส์คงจะถูกง้าวของวูล์ฟผ่าเป็นสองท่อนแล้ว

        เดิมทีเฮลัวส์ก็บินยังไม่คล่องมากนัก และตอนนี้เธอยังบาดเจ็บสาหัสดอีก นั่นจึงทำให้เธอร่วงตกลงมาจากข้างบน วูล์ฟที่นั่งยองอยู่ที่พื้นก็กระโจนเข้าไปหาทันทีราวกับจระเข้ดุร้ายที่กำลังล่าเหยื่ออยู่ เฮลัวส์เหวี่ยงมีดในมือพุ่งใส่วูล์ฟทันที เพื่อทีจะซื้อเวลาให้ตัวเองชั่วคราว

        ในตอนนี้ ทางด้านเมย์ริสก็ลำบากเหมือนกัน ปกติตอนได้ดูชาร์ไป่ต่อสู้ก็รู้สึกว่ามันดุดันเป็นอย่างมาก แต่ในตอนนี้เธอได้สัมผัสความเก่งกาจนี้อย่างแท้จริงแล้ว

        เดิมทีเมย์ริสแค่อยากจะมาขวางไม่ให้ชาร์ไป่ไล่ตามพวกหนูเข้าไปในเมือง ในช่วงแรกชาร์ไป่หยุดไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อสบโอกาสตอนที่เมย์ริสวางใจ มันก็กระโจนเข้ามาทันที เมย์ริสไม่สามารถอธิบายความเร็วในตอนนั้นออกมาเป็นคำพูดได้ ขณะกำลังมึนงงอยู่นั้น ปากกว้างที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวของชาร์ไป่ก็มาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว

        เมย์ริสหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว เธอไม่อยากทำร้ายชาร์ไป่ในตอนนี้ เธอเพียงต้องการให้ชาร์ไป่กลับมาที่นี่เท่านั้น

          แต่ในขณะที่เมย์ริสคิดว่าตัวเองหลบพ้นแล้วนั้น กระดูกที่งอกออกมาจากสะบักของชาร์ไป่ก็ดูเหมือนกับว่าจะบานออกมาเล็กน้อย แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ก็ถึงกับทำให้ร่างของเมย์ริสถูกกระดูกแหลมนั้นแทงเข้าใส่อย่างจัง สร้างบาดแผลยาวกว่า 20 เซนติเมตรถึงสองที่ และไม่ทันรอให้เมย์ริสได้โต้ตอบอะไรกลับ หางของชาร์ไป่ก็ตวัดไปทั่วร่างของเธอ

        เสียงฟาดดังผลั่ก ทันใดนั้นเมย์ริสก็ลอยออกไปทันที

        ต้องบอกก่อนว่า ที่นี่นอกจากไป๋อี้กับโม่โม่แล้ว คนอื่น ๆ ล้วนแต่ผสานรวมยีนกับมดทั้งหมด ดังนั้นทุกคนจึงมีน้ำหนักไม่ถึง 100 กิโลกรัม จึงไม่มีปัญหาในการบินขั้นพื้นฐาน

        แต่ในทางกลับกันทางด้านพูพูนั้นค่อนข้างจะสบาย การขัดขวางเวอร์เนอร์น่ะหรอ เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว แค่ชนนิดหน่อยก็เป็นผลแล้ว ผิวหนังของพูพูหนามากโดยไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร และยังแข็งจนไม่มีอะไรมาอธิบายได้ ตราบใดที่เวอร์เนอร์ไม่ได้ฟันโดนจุดสำคัญของมัน ไม่ว่าส่วนไหนก็จะไม่สามารถฟันเข้าผิวหนังของมันได้ ในเวลาไม่กี่นาที เวอร์เนอร์กับพูพูก็ปะทะกันจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเวอร์เนอร์ถูกชนจนเริ่มเวียนหัวแล้ว ส่วนพูพูดูเหมือนกำลังสนุกสนานเป็นอย่างมาก เพราะนี่เป็นโอกาสหายากที่จะโจมตีเพื่อนร่วมทีมได้โดยไม่ผิด

        เวอร์เนอร์ถูกพูพูกระแทกตัวลอย ซึ่งขณะที่เขายังไม่ทันได้ตกลงมาพูพูก็พุ่งไปกระแทกอีกครั้ง และต่อด้วยกระแทกใส่ท้องของเวอร์เนอร์ต่ออีกหลายครั้ง

        หลังจากพุ่งชนเวอร์เนอร์แล้ว มันก็ร้องฮึมฮัมออกมาอย่างมีความสุขพร้อมกับส่ายก้นดุ๊กดิ๊กไปมา

        สถานการณ์ของทุกคนล้วนตกอยู่ในสายตาของไป๋อี้  เขารีบพุ่งตัวออกไปกระโดดข้ามรถที่ถูกจอดทิ้งไว้แล้วพุ่งชนวูล์ฟที่อยู่กลางอากาศทันที วูล์ฟในตอนนี้ไล่กัดเฮลัวส์ราวกับเป็นจระเข้ที่หิวโหย แม้ว่าเมย์ริสจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก แต่ก็ยังไม่ร้ายแรงเท่ากับเฮลัวส์ จากพลังของวูล์ฟในตอนนี้ ถ้าเฮลัวส์ถูกวูล์ฟกัดเข้าจริง ๆ ล่ะก็เธอคงจะขาดเป็นสองท่อนแน่

        ไป๋อี้พุ่งออกมาจากด้านข้าง และใช้ขาขวาแตะใส่ขากรรไกรวูล์ฟอย่างแรง

        เสียงกระแทกดังขึ้นพร้อมกับเสียงมีดสั้นกระแทกเข้าที่หัวของวูล์ฟ แล้วทั้งสามคนต่างก็โจมตีเข้าหากันอย่างหนักหน่วงทันที ในที่สุดวูล์ฟก็โผเข้าไปถึงตัวเฮลัวส์ได้ แต่เพราะการเตะของไป๋อี้นั้นทำให้ปากของเขาหุบลงและไปกระแทกเข้าที่เอวของเฮลัวส์อย่างแรงแทน

        แม้ว่าจะถูกกระแทกอย่างแรง แต่เฮลัวส์ก็ไม่ได้สนใจบาดแผลที่เอวของเธอเลย เธอจับปากจระเข้ของวูล์ฟ แล้วใช้แรงทั้งหมดพลิกตัว ร่างขนาดใหญ่ของวูล์ฟถูกจับพลิกคว่ำลงมา ทั้งสองจึงตกลงสู่พื้นพร้อมกันอย่างรุนแรง            

        เฮลัวส์ได้รับบาดเจ็บจากง้าวที่วูล์ฟขว้างมาตอนไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้พลังของแต่ละคนในกลุ่มของไป๋อี้แข็งแกร่งมาก ไม่สามารถมองข้ามไปได้แม้แต่คนเดียว

        ไป๋อี้เข้ามาจับแขนขวาของวูล์ฟไว้ เมื่อเขาตกลงมาถึงพื้น ไป๋อี้กับเฮลัวส์ก็ช่วยกันกดร่างวูล์ฟไว้ เมื่อเห็นว่าวูล์ฟมองมาอย่างโกรธเกรี้ยว ไป๋อี้ก็รีบลืมตาทั้งสองข้างทันที ในตอนนี้ไป๋อี้ได้แต่หวังว่าพลังของเขาจะยังใช้ได้ผลกับวูล์ฟ

        “วูล์ฟ คุมสติหน่อย!”

        ม่านตาของไป๋อี้เต็มไปด้วยลวดลาย แต่วูล์ฟก็ยังคงต่อสู้ดิ้นรนอย่างคลุ้มคลั่ง ไป๋อี้และเฮลัวส์รั้งไว้จะไม่อยู่แล้ว ไป๋อี้กระวนกระวายใจ แย่ละสิ ก่อนหน้านี้วูล์ฟยังอยู่ในระดับที่สามารถคืนสติได้ แต่ทุกครั้งที่เข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง ก็จะทำให้เขาคืนสติได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ

        ทันใดนั้นปากขนาดใหญ่ของวูล์ฟก็อ้าออกอีกครั้ง และกัดไป๋อี้ที่อยู่ตรงหน้าของเขาอย่างแรง ไป๋อี้หลบไม่ทันจึงทำให้ถูกกัดเข้าที่ไหล่ เฮลัวส์เหมือนจะได้ยินเสียงกระดูกของไป๋อี้แตก เลือดหลั่งไหลออกมาจากบาดแผลของไป๋อี้ทันที วูล์ฟเตรียมที่จะสะบัดคอเพื่อใช้แรงกระชากฉีกเหยื่อเป็นชิ้น ๆ

        เฮลัวส์รู้สึกใจเต้นไม่เป็นร่ำเป็นสัน

        ไป๋อี้จะมาตายด้วยน้ำมือของวูล์ฟจริงเหรอ?

          ฉันจะมาตายด้วยน้ำมือของพวกตัวเองได้ยังไง! ไป๋อี้ตะโกนกู่ร้องอยู่ในใจ แล้วเขาก็หลับตาลงพร้อมกับลืมตาขึ้นใหม่อีกครั้ง ไป๋อี้รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างแตกในหัว ดวงตาของเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้ไป๋อี้รู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองถูกอะไรบางอย่างกระตุ้นมากกว่าครั้งอื่น ๆ ดวงตาทั้งสองข้างเปลี่ยนแปลงไป

        นี่มัน ……. พลังงานพิเศษ! 

        ต้องย้อนกลับไปนึกถึงข้อมูลที่รวบรวมมา ความจริงหลังจากที่ทุกคนผสานรวมเซลล์แล้วพลังงานพิเศษก็จะอยู่ภายในร่างกายของทุกคน เพียงแต่ว่าก่อนจะถึง LV2 จะไม่สามารถรวบรวมพลังออกมาใช้ได้อย่างอิสระ แต่ถ้าหากร่างกายระดมพลังออกมาใช้โดยสัญชาตญาณล่ะ

        รูปแบบม่านตาของไป๋อี้ในตอนนี้คือพลังงานพิเศษที่ถูกปลุกระดมออกมาจากสัญชาตญาณของตัวมันเอง เพราะรับรู้ได้ว่าดวงตาทั้งสองข้างกำลังต้องการแรงสนับสนุน จึงสามารถระดมพลังงานพิเศษมาที่ดวงตาได้

        ปากใหญ่ของวูล์ฟกัดลงไปบนไหล่ของไป๋อี้ แต่มันก็หยุดอยู่เพียงแค่เขี้ยวสองสามซีกที่แทงลึกเข้าไปในร่างกายของเขาเท่านั้น ความบ้าคลั่งของวูล์ฟค่อย ๆ ลดลงและสงบลงในที่สุด

        “อีกเดี๋ยว ฉันจะคิดบัญชีกับนายแน่” ไป๋อี้ดันปากของวูล์ฟออก แล้วพูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว

        “แหะแหะ”

        วูล์ฟได้ยินคำขู่ของไป๋อี้ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร เพียงแค่หัวเราะอย่างรู้สึกผิดออกมาเท่านั้น ในตอนนี้เขากำลังคิดย้อนถึงสถานการณ์อันตรายที่เพิ่งเกิดขึ้น ไป๋อี้กับเฮลัวส์เกือบตายด้วยน้ำมือของเขา ช่วงคลุ้มคลั่งนั้นอันตรายเกินไปแล้ว นอกจากตัวเองแล้วก็ไม่นับญาติกับใครทั้งนั้น เขารู้เพียงแค่ต้องฆ่าและทำลายเท่านั้น

        ไป๋อี้วิ่งไปทางด้านชาร์ไป่ต่อ ตอนนี้ เขารู้สึกว่าดวงตาของเขาต่างไปจากเดิมคล้ายกับว่ามีบางอย่างออกมาจากร่างกายไหลเข้าไปสนับสนุนการใช้พลังจากดวงตาของเขา แม้ว่าครั้งนี้เลือดของเขาจะไหลออกมาจากดวงตาอีก แต่ไป๋อี้ก็รู้สึกผ่อนคลายกว่าครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งนั่นทำให้การบาดเจ็บของเขาก่อนหน้านี้หายไปด้วย

        สิ่งที่กำลังไหลเวียนอยู่นี้ จะใช่พลังงานพิเศษไหมนะ?

        ไป๋อี้สัมผัสได้ถึงพลังงานพิเศษที่อยู่ในร่างอย่างเลือนราง แม้ว่าจะยังไม่มีวิธีที่จะรวบรวมพลังออกมาใช้แบบในนิยาย แต่พลังพวกนี้ก็ไปรวมอยู่ที่ดวงตาของเขาด้วยตัวเอง

        แมลงหลายชนิดมีดวงตาเป็นแบบตารวม (compound eye) แต่ดวงตาของไป๋อี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนรูปนูนออกมาเหมือนตาของผีเสื้อ แต่ในขณะที่ไป๋อี้กำลังวิ่งอยู่นี้ก็รู้สึกคล้ายกับว่าองศาการมองของตาเขาทำได้ถึง 180 องศา ไม่ว่าจะมุมไหนดวงตาสองข้างของเขาก็สามารถมองเห็นรอบด้านได้อย่างชัดเจน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+