[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 66 ตัวเอก

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 66 ตัวเอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 โชคดีที่สัตว์ประหลาดบางตัวไม่ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มของไป๋อี้และคนในทีม กลุ่มสัตว์ประหลาดเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพียงแต่พวกมันมีความหิวกระหายเป็นอย่างมากจนทำให้ต้องฆ่ากันเองหรือไม่ก็ถูกกินเป็นเหยื่อ อย่างไรก็ตามขณะที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ฆ่าสัตว์ประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นคาวเลือดที่นี่ก็ยิ่งทวีความรุนแรงและก็ค่อย ๆ ดึงดูดสัตว์ประหลาดจากทุกสารทิศเข้ามา

  “ให้ตายเถอะ!” โนเอลมองไปที่หน้าประตูอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ก่นด่าออกมา

  “เป็นยังไงบ้าง?” เบ็นสันถาม

  “ไม่มีสายเชื่อมต่อข้อมูลภายในประตู”

  “อะไร?”

  “สายเชื่อมต่อข้อมูลไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ฉันไม่สามารถเข้าถึงเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยได้และนั่นหมายถึงการเปิดประตู” โนเอลทุบประตูด้วยความรำคาญใจ

  “นายต้องเปิดประตูให้ได้!” หยูหานมองโนเอลอย่างดุดัน เขาไม่อยากที่จะต้องมาตายที่นี่แบบนี้

  “แม่แกเถอะ นึกว่าฉันอยากตายที่นี่รึไง” โนเอลตอบอย่างไม่พอใจ

  “ไปที่แท่นควบคุมจะมีสายสำหรับเข้าถึงเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยอยู่” จู่ ๆ ไป๋อี้ก็พูดขึ้นมาแล้วชี้ไปที่แท่นควบคุมที่ระเบิดเมื่อครู่นี้ซึ่งยังมีควันโขมงอยู่ ทุกคนมองไปที่นั่นในทันที ทำให้ในใจของพวกเขามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าแท่นควบคุมจะยังคงลุกไหม้อยู่ แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันถูกใช้เป็นแท่นควบคุม ดังนั้นก็ต้องมีสายเชื่อมต่ออย่างแน่นอน และตอนนี้พนันได้เลยว่าทักษะทางด้านเทคโนโลยีของโนเอลนั้นมีความสามารถมากพอ

  โนเอลไม่ลังเลใด ๆ เขารีบวิ่งไปที่แท่นควบคุมทันทีและเข้าดับเปลวไฟอย่างไม่ไยดี เขาถอดชิ้นส่วนภายนอกออกอย่างรวดเร็วและค่อย ๆ ค้นหาสายเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัย

  เมื่อคนอื่น ๆ เห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้พวกเขาก็ทำหน้าที่ปกป้องโนเอลทันที

  หลังจากนั้นไม่กี่นาทีโนเอลก็ดูมีความสุขเป็นอย่างมาก ในที่สุดเขาก็สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามสิบนาทีต่อมากลับมีสัตว์ประหลาดเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้ทุกคนแสดงออกถึงความกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

  “ยังไม่ได้อีกเหรอ!” เบ็นสันถาม

  “เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน …… โปรแกรมมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง รหัสผ่านจำเป็นต้องได้รับการตีความใหม่และวิธีการเข้ารหัสก็แตกต่างจากก่อนหน้านี้ด้วย” โนเอลสบถ หลังจากคนอื่น ๆ ได้ยินก็สบถก่นด่าทันทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันไนท์ที่อยู่ในห้องของเธอก็มองไปยังทุกคนที่มีท่าทีตื่นตระหนกด้วยความพออกพอใจ …… ฮิฮิฮิฮิ พวกมนุษย์โง่

  ……

  “โม่โม่ หนูไปที่ห้องกักขังข้าง ๆ ก่อนนะ เราอาจไม่มีเวลาปกป้องหนูมากนักในการต่อสู้ครั้งต่อไป” ไป๋อี้ก้าวไปยืนด้านข้างของโม่โม่ในระหว่างการต่อสู้พร้อมทั้งบอกกับเธอ

  “ค่ะ!” โม่โม่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

  “ชาร์ไป่ปกป้องโม่โม่ด้วยนะ พอได้ยินเสียงฉัน ก็รีบพาโม่โม่ออกไป เข้าใจไหม” ไป๋อี้พูดกับชาร์ไป่ ในเวลานี้ชาร์ไป่เองก็เต็มไปด้วยเลือดและมันก็ดูดุร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ

  “โฮ่ง โฮ่ง!”

  “ซาร่า …… เธอก็ไปด้วยเถอะ ช่วยดูแลโม่โม่ให้ฉันที ขอบคุณมาก” ไป๋อี้เหลือบมองไปรอบ ๆ และสุดท้ายก็จับจ้องไปที่ซาร่า

  ในใจของซาร่าสั่นสะท้าน เธอมองไปที่ไป๋อี้ด้วยความตกใจเล็กน้อย เธอไม่ได้โง่และเธอก็คาดเดาความตั้งใจของไป๋อี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือไป๋อี้ต้องการที่จะปกป้องเธอ ในทีมของไป๋อี้ คนที่มีทักษะการต่อสู้น้อยที่สุดยกเว้นโม่โม่ที่ยังเป็นเด็กก็น่าจะเป็นซาร่า ทุกคนสามารถจินตนาการได้เลยว่าการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นบริเวณประตูต้องดุเดือดมากแน่ ๆ  ซึ่งไป๋อี้คิดว่าซาร่าไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองจากการต่อสู้ดังกล่าว

  “ได้ …… ตกลง” แม้ว่าซาร่าจะเข้าใจความหมายของไป๋อี้ แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธและพยักหน้าด้วยความลังเลเล็กน้อย ในเวลานี้ซาราโกรธมาก เธอค่อนข้างไม่พอใจเพราะเธอต้องการจะต่อสู้ แต่กลับทำได้เพียงแค่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง สัตว์ประหลาดทั้งหมดในห้องกักขังออกมาแล้ว ตราบใดที่ชาร์ไป่ปิดประตูไว้ก็จะไม่เป็นอันตรายใด ๆ ไม่ว่าที่ไหนมันก็จะตามปกป้องโม่โม่อยู่เสมอ

  ทันใดนั้นไป๋อี้ก็แยกกรงเล็บของสัตว์ประหลาดออก ส่วนวูล์ฟที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็สับหัวของสัตว์ประหลาดออกอย่างรุนแรง ไป๋อี้ถือโอกาสนี้พิงหลังของวูล์ฟ

  “นี่คือปืนยิงฉมวก โดยปกติแล้วไม่ใช่ว่านายชอบใช้มันมาตลอดหรอกเหรอ อีกเดี๋ยวถ้าพวกเราไม่สามารถฉวยโอกาสออกไปได้ นายยิงหยูหานให้ฉันหน่อย อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อไม่ให้เจ้านั่นหวนกลับมาอีก นายมีพละกำลังมากที่สุด ดังนั้นฉันฝากให้นายรับผิดชอบเรื่องนี้” ไป๋อี้แขวนปืนยิงฉมวกไว้ข้างหลังของวูล์ฟ ก่อนที่วูล์ฟจะทันได้ตอบกลับ เขาก็ถลาตัวออกไปพุ่งใส่สัตว์ประหลาดตัวอื่น ๆ ทันที

  “อีกครู่หนึ่งถ้าหากเป็นไปได้ให้รั้งตัวโนเอลไว้ในตอนท้าย อันที่จริงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราทุกคนจะฉวยโอกาสออกไปได้ แต่ตราบใดที่โนเอลยังอยู่ที่นี่ เราก็จะสามารถเปิดประตูได้อีกครั้ง จำเอาไว้ให้ดี” ไป๋อี้พูดกับเฮลัวส์ ในเวลาเดียวกันเขาก็ใช้ดาบคะตะนะอ้อมไปข้างหลังเพื่อช่วยเฮลัวส์ต่อสู้

  “อื้ม!” บนใบหน้าของเฮลัวส์เต็มไปด้วยเลือดซึ่งดูน่าเวทนาเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ตอบกลับมาอย่างจริงจัง

  “คนอื่น ๆ ปล่อยให้ปฏิบัติการตามอัธยาศัย” ไป๋อี้พูดทิ้งท้ายไว้

  ไม่ว่าจะเป็นหงฉี่ฮว๋าหรือเมย์ริส ไป๋อี้เชื่อว่าพวกเธอได้พิจารณาไตร่ตรองการปฏิบัติการของตนไว้แล้ว ส่วนมาร์ตินและหนูน้อยเวอร์เนอร์ ไป๋อี้ไม่ได้มีคำสั่งพิเศษใด ๆ อ้อ จริงสิ มีอีกอย่าง ตอนนี้หมูแคระมีความยาวมากกว่า 1 เมตร หมูตัวนี้อ้วนจนเกือบจะเป็นลูกบอลอยู่แล้ว ซึ่งโดยปกติมันจะคอยกินอาหารเหลือจากทุกคนด้วย  ถ้ามันไปอยู่ในทีมอื่น พูพูคงจะถูกเชือดและถูกนำเนื้อมากินไปนานแล้ว แต่ในทางกลับกันการที่มันติดตามมากับทีมของไป๋อี้และเพื่อน ๆ ทำให้มันอ้วนขึ้นมากจริง ๆ

 

  อันที่จริงยังมีทางออกอื่นผุดขึ้นมาในความคิดของไป๋อี้ แต่นั่นมันก็อันตรายเกินไป กล่าวได้ว่าอันตรายกว่าสถานการณ์ตอนนี้หลายสิบเท่าเลยทีเดียว

  เมื่อต้องรับมือกับสัตว์ประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนก็แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปที่แท่นควบคุมและประตูตราบเท่าที่โนเอลยังพยายามเปิดประตูอยู่

  จิตใจของทุกคนค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ไป๋อี้ไม่ได้สังเกตเลยว่านอกจากความกังวลใจแล้วอารมณ์ของทุกคนที่นี่ยังมีบางอย่างที่ดูแตกต่างออกไป …… ทั้งกระสับกระส่ายและดุร้าย! โดยเฉพาะอย่างยิ่งวูล์ฟที่ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด นัยน์ตาของเขามีความฮึกเหิมและบ้าคลั่งฉายออกมา แต่ก็ยังไม่ชัดเจนมากนัก

  LV1-2 ระยะดุร้าย หมายความว่าอย่างไรกันแน่?

  ทันใดนั้นก็มีร่องรอยแห่งความปีติยินดีเผยขึ้นบนใบหน้าที่วิตกกังวลของโนเอล เมื่อเห็นสีหน้าเช่นนั้น หงฉี่ฮว๋าก็รีบควงมีดสั้นสองเล่มของเธอขึ้นมาเพื่อจัดการกับฝ่ายตรงข้ามโดยเร็ว แน่นอนว่าเมื่อโนเอลกดปุ่ม Enter ประตูบานใหญ่ที่ปิดอยู่ก็เริ่มเปิดออก โดยมันค่อย ๆ เปิดออกทั้งสองด้าน

  ไป๋อี้และหยูหานก็มีท่าทีเหมือนกับหงฉี่ฮว๋า แม้ว่าคนอื่น ๆ จะช้ากว่าเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

  ไป๋อี้และหยูหานรีบวิ่งพุ่งไปที่ประตูบานใหญ่จากสองทิศทางทางทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา แม้ข้างหลังของพวกเขาสองคนยังมีสัตว์ประหลาดที่ยังไม่ได้จัดการไล่ตามหลังมาติด ๆ ขณะที่ยังวิ่งอยู่หยูหานก็ดึงปืนพกออกมา ในขณะที่ไป๋อี้ก็ดึงดาบจากฝักทางด้านหลังของเขาออกมาเช่นกัน เกือบจะในเวลาเดียวกันกระสุนและดาบก็ทะยานพุ่งใส่คู่ต่อสู้ของพวกเขาทันที

  เคร้ง เสียงกระสุนปืนกระทบกับดาบอย่างรุนแรง จากนั้นทั้งสองคนก็หมุนตัวและพุ่งเข้าใส่กัน ไม่กี่วินาทีต่อมาทั้งสองก็กระแทกเข้าใส่กันอย่างดุเดือด

  เคร้ง ดาบของทั้งสองคนกระทบกันจนเกิดเสียงดังขึ้น จากนั้นทั้งสองก็ใช้แรงกดต้านดาบของซึ่งกันและกันไว้ 

  “น่าเสียดายมากใช่ไหม!” หยูหานกล่าวพร้อมกับหันใบหน้าของเขาเข้ามาเล็กน้อย มีดของทั้งสองบีบเข้าหากันเสียงดังเอี๊ยดจากแรงเสียดสีมหาศาล

  “เสียดายงั้นเหรอ …… ไม่เลย ครั้งแรกฉันเอาชนะนายได้ ครั้งที่สองก็เช่นกัน” ปุยขนอ่อน ๆ บนใบหน้าของไป๋อี้ค่อย ๆ แผ่ออกมา

  “หึ~!” หยูหานยิ้มอย่างดุดันและเริ่มออกแรงที่แขนของเขา เขามีพลังมากกว่าไป๋อี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเขามียีนของมดผสานรวมอยู่ด้วย ทันใดนั้นสีหน้าของหยูหานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นที่บนดาบญี่ปุ่นของเขา หยูหานรีบถอนกำลังของเขาออกทันทีก่อนจะเด้งตัวกลับมา แน่นอนว่าทันใดนั้นดาบญี่ปุ่นของเขาก็หักออกจากตรงกลาง โดยครึ่งหนึ่งของใบมีดลอยขึ้นสูงจากนั้นก็ตกลงสู่พื้นเสียงดังเคร้งคร้างกระทบพื้น

  “อาวุธของนายดีกว่าของฉันงั้นเหรอ!” หยูหานแตะไปที่ใบหน้าของเขา หนวดของเขาถูกเฉือนออกบางส่วนและมีบาดแผลเล็กน้อยบนใบหน้าจากปลายมีดของไป๋อี้

  “จะว่าไปแล้วฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่านายดูไม่มีลักษณะของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ผสมอยู่ด้วยเลย ถ้าให้ฉันเดาคงมีเพียงยีนของผีเสื้อเท่านั้นที่ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันสินะ ฮ่า ๆๆ ……. เซลล์ดัดแปลงระดับ LV1 อย่างนั้นสินะ? ช่างมันเถอะ ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็มีโชคกว่าคุณ” หยูหานพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเย่อหยิ่ง และในที่สุดก็เผยให้เห็นสิ่งที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าเทอะทะที่มือซ้ายของเขา

  โล่?

  ไม่สิ มันเป็นกระดองเต่า แต่มันเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์บนแขนของหยูหานทำให้มันดูเหมือนโล่ โล่กระดองเต่านี้มีรอยลวดลายที่ชัดเจน มันมีความมันวาวสีดำอมน้ำเงินเล็กน้อย มองปราดเดียวก็รู้ว่ามันต้องแข็งแกร่งมาก โล่กระดองเต่าไม่ได้ครอบคลุมถึงส่วนต้นแขน แต่มีงูสีทองพันโอบรอบโล่กระดองเต่าเอาไว้ด้วย ส่วนหัวของมันเงยขึ้นมาเล็กน้อย

  เต่าและงู …… นี่มันสัตว์เทพกลุ่มดาวเต่าดำในตำนาน (เสวียนอู่)!

  “สัตว์เทพเสวียนอู่เหรอ!” ไป๋อี้เอ่ยออกมาเบา ๆ

  หนึ่งในตำนานสัตว์เทพทั้งสี่ของจีน แม้ว่าลักษณะที่ปรากฏบนแขนซ้ายของหยูหานจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสัตว์เทพเสวียนอู่แม้แต่น้อย แต่ก็สามารถทำให้เขาทะนงตนได้ เห็นได้ชัดว่าหยูหานภูมิใจในเรื่องนี้มาก แม้ว่ามันจะไม่ใช่สัตว์เทพเสวียนอู่ซะทีเดียว แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีอย่างแน่นอน หยูหานโบกมือซ้ายของเขาไปมา ทันใดนั้นหัวงูก็โผล่ใกล้เข้ามาและจ้องไปที่ไป๋อี้

  “ฉันไม่ปฏิเสธว่าโชคดีของนายจริง ๆ ในช่วงแรก ๆ ของการเปลี่ยนแปลงนายก็นำหน้าทุกคนไปหนึ่งก้าวแล้ว แม้แต่ยีนที่ได้รับการผสานรวมก็มีความหมายที่เป็นมงคลเช่นนี้ …… นายคงไม่ได้คิดว่านายเป็นตัวเอกของโลกนี้ใช่ไหม?”

  “แต่ว่านะ …… นี่มันไม่เหมือนโลกในเทพนิยายที่ทั้งโลกหมุนรอบคน ๆ เดียวหรอกนะ มันไม่มีอยู่จริง” น้ำเสียงของไป๋อี้แผ่วเบา ราวกับมันเป็นเรื่องไร้สาระ ในเวลาเดียวกันไป๋อี้ก็กระชับดาบของเขายิ่งขึ้นและค่อย ๆ เดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาหยูหานอีกครั้ง

  ในเวลานี้คนอื่น ๆ ก็ร่วมด้วยช่วยกันต่อสู้โดยเลี่ยงพวกเขาทั้งสองคนไว้ แม้แต่เบ็นสันเองก็ด้วย แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาสมควรที่จะเป็นอันดับหนึ่งในหมู่ทุกคนที่นี่ แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงออร่าเปล่งประกายที่น่าตกใจระหว่างหยูหานและไป๋อี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 66 ตัวเอก

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 66 ตัวเอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 โชคดีที่สัตว์ประหลาดบางตัวไม่ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มของไป๋อี้และคนในทีม กลุ่มสัตว์ประหลาดเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพียงแต่พวกมันมีความหิวกระหายเป็นอย่างมากจนทำให้ต้องฆ่ากันเองหรือไม่ก็ถูกกินเป็นเหยื่อ อย่างไรก็ตามขณะที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ฆ่าสัตว์ประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นคาวเลือดที่นี่ก็ยิ่งทวีความรุนแรงและก็ค่อย ๆ ดึงดูดสัตว์ประหลาดจากทุกสารทิศเข้ามา

  “ให้ตายเถอะ!” โนเอลมองไปที่หน้าประตูอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ก่นด่าออกมา

  “เป็นยังไงบ้าง?” เบ็นสันถาม

  “ไม่มีสายเชื่อมต่อข้อมูลภายในประตู”

  “อะไร?”

  “สายเชื่อมต่อข้อมูลไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ฉันไม่สามารถเข้าถึงเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยได้และนั่นหมายถึงการเปิดประตู” โนเอลทุบประตูด้วยความรำคาญใจ

  “นายต้องเปิดประตูให้ได้!” หยูหานมองโนเอลอย่างดุดัน เขาไม่อยากที่จะต้องมาตายที่นี่แบบนี้

  “แม่แกเถอะ นึกว่าฉันอยากตายที่นี่รึไง” โนเอลตอบอย่างไม่พอใจ

  “ไปที่แท่นควบคุมจะมีสายสำหรับเข้าถึงเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยอยู่” จู่ ๆ ไป๋อี้ก็พูดขึ้นมาแล้วชี้ไปที่แท่นควบคุมที่ระเบิดเมื่อครู่นี้ซึ่งยังมีควันโขมงอยู่ ทุกคนมองไปที่นั่นในทันที ทำให้ในใจของพวกเขามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าแท่นควบคุมจะยังคงลุกไหม้อยู่ แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันถูกใช้เป็นแท่นควบคุม ดังนั้นก็ต้องมีสายเชื่อมต่ออย่างแน่นอน และตอนนี้พนันได้เลยว่าทักษะทางด้านเทคโนโลยีของโนเอลนั้นมีความสามารถมากพอ

  โนเอลไม่ลังเลใด ๆ เขารีบวิ่งไปที่แท่นควบคุมทันทีและเข้าดับเปลวไฟอย่างไม่ไยดี เขาถอดชิ้นส่วนภายนอกออกอย่างรวดเร็วและค่อย ๆ ค้นหาสายเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัย

  เมื่อคนอื่น ๆ เห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้พวกเขาก็ทำหน้าที่ปกป้องโนเอลทันที

  หลังจากนั้นไม่กี่นาทีโนเอลก็ดูมีความสุขเป็นอย่างมาก ในที่สุดเขาก็สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามสิบนาทีต่อมากลับมีสัตว์ประหลาดเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้ทุกคนแสดงออกถึงความกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

  “ยังไม่ได้อีกเหรอ!” เบ็นสันถาม

  “เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน …… โปรแกรมมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง รหัสผ่านจำเป็นต้องได้รับการตีความใหม่และวิธีการเข้ารหัสก็แตกต่างจากก่อนหน้านี้ด้วย” โนเอลสบถ หลังจากคนอื่น ๆ ได้ยินก็สบถก่นด่าทันทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันไนท์ที่อยู่ในห้องของเธอก็มองไปยังทุกคนที่มีท่าทีตื่นตระหนกด้วยความพออกพอใจ …… ฮิฮิฮิฮิ พวกมนุษย์โง่

  ……

  “โม่โม่ หนูไปที่ห้องกักขังข้าง ๆ ก่อนนะ เราอาจไม่มีเวลาปกป้องหนูมากนักในการต่อสู้ครั้งต่อไป” ไป๋อี้ก้าวไปยืนด้านข้างของโม่โม่ในระหว่างการต่อสู้พร้อมทั้งบอกกับเธอ

  “ค่ะ!” โม่โม่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

  “ชาร์ไป่ปกป้องโม่โม่ด้วยนะ พอได้ยินเสียงฉัน ก็รีบพาโม่โม่ออกไป เข้าใจไหม” ไป๋อี้พูดกับชาร์ไป่ ในเวลานี้ชาร์ไป่เองก็เต็มไปด้วยเลือดและมันก็ดูดุร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ

  “โฮ่ง โฮ่ง!”

  “ซาร่า …… เธอก็ไปด้วยเถอะ ช่วยดูแลโม่โม่ให้ฉันที ขอบคุณมาก” ไป๋อี้เหลือบมองไปรอบ ๆ และสุดท้ายก็จับจ้องไปที่ซาร่า

  ในใจของซาร่าสั่นสะท้าน เธอมองไปที่ไป๋อี้ด้วยความตกใจเล็กน้อย เธอไม่ได้โง่และเธอก็คาดเดาความตั้งใจของไป๋อี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือไป๋อี้ต้องการที่จะปกป้องเธอ ในทีมของไป๋อี้ คนที่มีทักษะการต่อสู้น้อยที่สุดยกเว้นโม่โม่ที่ยังเป็นเด็กก็น่าจะเป็นซาร่า ทุกคนสามารถจินตนาการได้เลยว่าการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นบริเวณประตูต้องดุเดือดมากแน่ ๆ  ซึ่งไป๋อี้คิดว่าซาร่าไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองจากการต่อสู้ดังกล่าว

  “ได้ …… ตกลง” แม้ว่าซาร่าจะเข้าใจความหมายของไป๋อี้ แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธและพยักหน้าด้วยความลังเลเล็กน้อย ในเวลานี้ซาราโกรธมาก เธอค่อนข้างไม่พอใจเพราะเธอต้องการจะต่อสู้ แต่กลับทำได้เพียงแค่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง สัตว์ประหลาดทั้งหมดในห้องกักขังออกมาแล้ว ตราบใดที่ชาร์ไป่ปิดประตูไว้ก็จะไม่เป็นอันตรายใด ๆ ไม่ว่าที่ไหนมันก็จะตามปกป้องโม่โม่อยู่เสมอ

  ทันใดนั้นไป๋อี้ก็แยกกรงเล็บของสัตว์ประหลาดออก ส่วนวูล์ฟที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็สับหัวของสัตว์ประหลาดออกอย่างรุนแรง ไป๋อี้ถือโอกาสนี้พิงหลังของวูล์ฟ

  “นี่คือปืนยิงฉมวก โดยปกติแล้วไม่ใช่ว่านายชอบใช้มันมาตลอดหรอกเหรอ อีกเดี๋ยวถ้าพวกเราไม่สามารถฉวยโอกาสออกไปได้ นายยิงหยูหานให้ฉันหน่อย อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อไม่ให้เจ้านั่นหวนกลับมาอีก นายมีพละกำลังมากที่สุด ดังนั้นฉันฝากให้นายรับผิดชอบเรื่องนี้” ไป๋อี้แขวนปืนยิงฉมวกไว้ข้างหลังของวูล์ฟ ก่อนที่วูล์ฟจะทันได้ตอบกลับ เขาก็ถลาตัวออกไปพุ่งใส่สัตว์ประหลาดตัวอื่น ๆ ทันที

  “อีกครู่หนึ่งถ้าหากเป็นไปได้ให้รั้งตัวโนเอลไว้ในตอนท้าย อันที่จริงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราทุกคนจะฉวยโอกาสออกไปได้ แต่ตราบใดที่โนเอลยังอยู่ที่นี่ เราก็จะสามารถเปิดประตูได้อีกครั้ง จำเอาไว้ให้ดี” ไป๋อี้พูดกับเฮลัวส์ ในเวลาเดียวกันเขาก็ใช้ดาบคะตะนะอ้อมไปข้างหลังเพื่อช่วยเฮลัวส์ต่อสู้

  “อื้ม!” บนใบหน้าของเฮลัวส์เต็มไปด้วยเลือดซึ่งดูน่าเวทนาเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ตอบกลับมาอย่างจริงจัง

  “คนอื่น ๆ ปล่อยให้ปฏิบัติการตามอัธยาศัย” ไป๋อี้พูดทิ้งท้ายไว้

  ไม่ว่าจะเป็นหงฉี่ฮว๋าหรือเมย์ริส ไป๋อี้เชื่อว่าพวกเธอได้พิจารณาไตร่ตรองการปฏิบัติการของตนไว้แล้ว ส่วนมาร์ตินและหนูน้อยเวอร์เนอร์ ไป๋อี้ไม่ได้มีคำสั่งพิเศษใด ๆ อ้อ จริงสิ มีอีกอย่าง ตอนนี้หมูแคระมีความยาวมากกว่า 1 เมตร หมูตัวนี้อ้วนจนเกือบจะเป็นลูกบอลอยู่แล้ว ซึ่งโดยปกติมันจะคอยกินอาหารเหลือจากทุกคนด้วย  ถ้ามันไปอยู่ในทีมอื่น พูพูคงจะถูกเชือดและถูกนำเนื้อมากินไปนานแล้ว แต่ในทางกลับกันการที่มันติดตามมากับทีมของไป๋อี้และเพื่อน ๆ ทำให้มันอ้วนขึ้นมากจริง ๆ

 

  อันที่จริงยังมีทางออกอื่นผุดขึ้นมาในความคิดของไป๋อี้ แต่นั่นมันก็อันตรายเกินไป กล่าวได้ว่าอันตรายกว่าสถานการณ์ตอนนี้หลายสิบเท่าเลยทีเดียว

  เมื่อต้องรับมือกับสัตว์ประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนก็แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปที่แท่นควบคุมและประตูตราบเท่าที่โนเอลยังพยายามเปิดประตูอยู่

  จิตใจของทุกคนค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ไป๋อี้ไม่ได้สังเกตเลยว่านอกจากความกังวลใจแล้วอารมณ์ของทุกคนที่นี่ยังมีบางอย่างที่ดูแตกต่างออกไป …… ทั้งกระสับกระส่ายและดุร้าย! โดยเฉพาะอย่างยิ่งวูล์ฟที่ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด นัยน์ตาของเขามีความฮึกเหิมและบ้าคลั่งฉายออกมา แต่ก็ยังไม่ชัดเจนมากนัก

  LV1-2 ระยะดุร้าย หมายความว่าอย่างไรกันแน่?

  ทันใดนั้นก็มีร่องรอยแห่งความปีติยินดีเผยขึ้นบนใบหน้าที่วิตกกังวลของโนเอล เมื่อเห็นสีหน้าเช่นนั้น หงฉี่ฮว๋าก็รีบควงมีดสั้นสองเล่มของเธอขึ้นมาเพื่อจัดการกับฝ่ายตรงข้ามโดยเร็ว แน่นอนว่าเมื่อโนเอลกดปุ่ม Enter ประตูบานใหญ่ที่ปิดอยู่ก็เริ่มเปิดออก โดยมันค่อย ๆ เปิดออกทั้งสองด้าน

  ไป๋อี้และหยูหานก็มีท่าทีเหมือนกับหงฉี่ฮว๋า แม้ว่าคนอื่น ๆ จะช้ากว่าเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

  ไป๋อี้และหยูหานรีบวิ่งพุ่งไปที่ประตูบานใหญ่จากสองทิศทางทางทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา แม้ข้างหลังของพวกเขาสองคนยังมีสัตว์ประหลาดที่ยังไม่ได้จัดการไล่ตามหลังมาติด ๆ ขณะที่ยังวิ่งอยู่หยูหานก็ดึงปืนพกออกมา ในขณะที่ไป๋อี้ก็ดึงดาบจากฝักทางด้านหลังของเขาออกมาเช่นกัน เกือบจะในเวลาเดียวกันกระสุนและดาบก็ทะยานพุ่งใส่คู่ต่อสู้ของพวกเขาทันที

  เคร้ง เสียงกระสุนปืนกระทบกับดาบอย่างรุนแรง จากนั้นทั้งสองคนก็หมุนตัวและพุ่งเข้าใส่กัน ไม่กี่วินาทีต่อมาทั้งสองก็กระแทกเข้าใส่กันอย่างดุเดือด

  เคร้ง ดาบของทั้งสองคนกระทบกันจนเกิดเสียงดังขึ้น จากนั้นทั้งสองก็ใช้แรงกดต้านดาบของซึ่งกันและกันไว้ 

  “น่าเสียดายมากใช่ไหม!” หยูหานกล่าวพร้อมกับหันใบหน้าของเขาเข้ามาเล็กน้อย มีดของทั้งสองบีบเข้าหากันเสียงดังเอี๊ยดจากแรงเสียดสีมหาศาล

  “เสียดายงั้นเหรอ …… ไม่เลย ครั้งแรกฉันเอาชนะนายได้ ครั้งที่สองก็เช่นกัน” ปุยขนอ่อน ๆ บนใบหน้าของไป๋อี้ค่อย ๆ แผ่ออกมา

  “หึ~!” หยูหานยิ้มอย่างดุดันและเริ่มออกแรงที่แขนของเขา เขามีพลังมากกว่าไป๋อี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเขามียีนของมดผสานรวมอยู่ด้วย ทันใดนั้นสีหน้าของหยูหานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นที่บนดาบญี่ปุ่นของเขา หยูหานรีบถอนกำลังของเขาออกทันทีก่อนจะเด้งตัวกลับมา แน่นอนว่าทันใดนั้นดาบญี่ปุ่นของเขาก็หักออกจากตรงกลาง โดยครึ่งหนึ่งของใบมีดลอยขึ้นสูงจากนั้นก็ตกลงสู่พื้นเสียงดังเคร้งคร้างกระทบพื้น

  “อาวุธของนายดีกว่าของฉันงั้นเหรอ!” หยูหานแตะไปที่ใบหน้าของเขา หนวดของเขาถูกเฉือนออกบางส่วนและมีบาดแผลเล็กน้อยบนใบหน้าจากปลายมีดของไป๋อี้

  “จะว่าไปแล้วฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่านายดูไม่มีลักษณะของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ผสมอยู่ด้วยเลย ถ้าให้ฉันเดาคงมีเพียงยีนของผีเสื้อเท่านั้นที่ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันสินะ ฮ่า ๆๆ ……. เซลล์ดัดแปลงระดับ LV1 อย่างนั้นสินะ? ช่างมันเถอะ ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็มีโชคกว่าคุณ” หยูหานพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเย่อหยิ่ง และในที่สุดก็เผยให้เห็นสิ่งที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าเทอะทะที่มือซ้ายของเขา

  โล่?

  ไม่สิ มันเป็นกระดองเต่า แต่มันเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์บนแขนของหยูหานทำให้มันดูเหมือนโล่ โล่กระดองเต่านี้มีรอยลวดลายที่ชัดเจน มันมีความมันวาวสีดำอมน้ำเงินเล็กน้อย มองปราดเดียวก็รู้ว่ามันต้องแข็งแกร่งมาก โล่กระดองเต่าไม่ได้ครอบคลุมถึงส่วนต้นแขน แต่มีงูสีทองพันโอบรอบโล่กระดองเต่าเอาไว้ด้วย ส่วนหัวของมันเงยขึ้นมาเล็กน้อย

  เต่าและงู …… นี่มันสัตว์เทพกลุ่มดาวเต่าดำในตำนาน (เสวียนอู่)!

  “สัตว์เทพเสวียนอู่เหรอ!” ไป๋อี้เอ่ยออกมาเบา ๆ

  หนึ่งในตำนานสัตว์เทพทั้งสี่ของจีน แม้ว่าลักษณะที่ปรากฏบนแขนซ้ายของหยูหานจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสัตว์เทพเสวียนอู่แม้แต่น้อย แต่ก็สามารถทำให้เขาทะนงตนได้ เห็นได้ชัดว่าหยูหานภูมิใจในเรื่องนี้มาก แม้ว่ามันจะไม่ใช่สัตว์เทพเสวียนอู่ซะทีเดียว แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีอย่างแน่นอน หยูหานโบกมือซ้ายของเขาไปมา ทันใดนั้นหัวงูก็โผล่ใกล้เข้ามาและจ้องไปที่ไป๋อี้

  “ฉันไม่ปฏิเสธว่าโชคดีของนายจริง ๆ ในช่วงแรก ๆ ของการเปลี่ยนแปลงนายก็นำหน้าทุกคนไปหนึ่งก้าวแล้ว แม้แต่ยีนที่ได้รับการผสานรวมก็มีความหมายที่เป็นมงคลเช่นนี้ …… นายคงไม่ได้คิดว่านายเป็นตัวเอกของโลกนี้ใช่ไหม?”

  “แต่ว่านะ …… นี่มันไม่เหมือนโลกในเทพนิยายที่ทั้งโลกหมุนรอบคน ๆ เดียวหรอกนะ มันไม่มีอยู่จริง” น้ำเสียงของไป๋อี้แผ่วเบา ราวกับมันเป็นเรื่องไร้สาระ ในเวลาเดียวกันไป๋อี้ก็กระชับดาบของเขายิ่งขึ้นและค่อย ๆ เดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาหยูหานอีกครั้ง

  ในเวลานี้คนอื่น ๆ ก็ร่วมด้วยช่วยกันต่อสู้โดยเลี่ยงพวกเขาทั้งสองคนไว้ แม้แต่เบ็นสันเองก็ด้วย แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาสมควรที่จะเป็นอันดับหนึ่งในหมู่ทุกคนที่นี่ แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงออร่าเปล่งประกายที่น่าตกใจระหว่างหยูหานและไป๋อี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 66 ตัวเอก

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 66 ตัวเอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 โชคดีที่สัตว์ประหลาดบางตัวไม่ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มของไป๋อี้และคนในทีม กลุ่มสัตว์ประหลาดเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพียงแต่พวกมันมีความหิวกระหายเป็นอย่างมากจนทำให้ต้องฆ่ากันเองหรือไม่ก็ถูกกินเป็นเหยื่อ อย่างไรก็ตามขณะที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ฆ่าสัตว์ประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นคาวเลือดที่นี่ก็ยิ่งทวีความรุนแรงและก็ค่อย ๆ ดึงดูดสัตว์ประหลาดจากทุกสารทิศเข้ามา

  “ให้ตายเถอะ!” โนเอลมองไปที่หน้าประตูอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ก่นด่าออกมา

  “เป็นยังไงบ้าง?” เบ็นสันถาม

  “ไม่มีสายเชื่อมต่อข้อมูลภายในประตู”

  “อะไร?”

  “สายเชื่อมต่อข้อมูลไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ฉันไม่สามารถเข้าถึงเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยได้และนั่นหมายถึงการเปิดประตู” โนเอลทุบประตูด้วยความรำคาญใจ

  “นายต้องเปิดประตูให้ได้!” หยูหานมองโนเอลอย่างดุดัน เขาไม่อยากที่จะต้องมาตายที่นี่แบบนี้

  “แม่แกเถอะ นึกว่าฉันอยากตายที่นี่รึไง” โนเอลตอบอย่างไม่พอใจ

  “ไปที่แท่นควบคุมจะมีสายสำหรับเข้าถึงเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยอยู่” จู่ ๆ ไป๋อี้ก็พูดขึ้นมาแล้วชี้ไปที่แท่นควบคุมที่ระเบิดเมื่อครู่นี้ซึ่งยังมีควันโขมงอยู่ ทุกคนมองไปที่นั่นในทันที ทำให้ในใจของพวกเขามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าแท่นควบคุมจะยังคงลุกไหม้อยู่ แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันถูกใช้เป็นแท่นควบคุม ดังนั้นก็ต้องมีสายเชื่อมต่ออย่างแน่นอน และตอนนี้พนันได้เลยว่าทักษะทางด้านเทคโนโลยีของโนเอลนั้นมีความสามารถมากพอ

  โนเอลไม่ลังเลใด ๆ เขารีบวิ่งไปที่แท่นควบคุมทันทีและเข้าดับเปลวไฟอย่างไม่ไยดี เขาถอดชิ้นส่วนภายนอกออกอย่างรวดเร็วและค่อย ๆ ค้นหาสายเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัย

  เมื่อคนอื่น ๆ เห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้พวกเขาก็ทำหน้าที่ปกป้องโนเอลทันที

  หลังจากนั้นไม่กี่นาทีโนเอลก็ดูมีความสุขเป็นอย่างมาก ในที่สุดเขาก็สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามสิบนาทีต่อมากลับมีสัตว์ประหลาดเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้ทุกคนแสดงออกถึงความกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

  “ยังไม่ได้อีกเหรอ!” เบ็นสันถาม

  “เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน …… โปรแกรมมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง รหัสผ่านจำเป็นต้องได้รับการตีความใหม่และวิธีการเข้ารหัสก็แตกต่างจากก่อนหน้านี้ด้วย” โนเอลสบถ หลังจากคนอื่น ๆ ได้ยินก็สบถก่นด่าทันทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันไนท์ที่อยู่ในห้องของเธอก็มองไปยังทุกคนที่มีท่าทีตื่นตระหนกด้วยความพออกพอใจ …… ฮิฮิฮิฮิ พวกมนุษย์โง่

  ……

  “โม่โม่ หนูไปที่ห้องกักขังข้าง ๆ ก่อนนะ เราอาจไม่มีเวลาปกป้องหนูมากนักในการต่อสู้ครั้งต่อไป” ไป๋อี้ก้าวไปยืนด้านข้างของโม่โม่ในระหว่างการต่อสู้พร้อมทั้งบอกกับเธอ

  “ค่ะ!” โม่โม่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

  “ชาร์ไป่ปกป้องโม่โม่ด้วยนะ พอได้ยินเสียงฉัน ก็รีบพาโม่โม่ออกไป เข้าใจไหม” ไป๋อี้พูดกับชาร์ไป่ ในเวลานี้ชาร์ไป่เองก็เต็มไปด้วยเลือดและมันก็ดูดุร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ

  “โฮ่ง โฮ่ง!”

  “ซาร่า …… เธอก็ไปด้วยเถอะ ช่วยดูแลโม่โม่ให้ฉันที ขอบคุณมาก” ไป๋อี้เหลือบมองไปรอบ ๆ และสุดท้ายก็จับจ้องไปที่ซาร่า

  ในใจของซาร่าสั่นสะท้าน เธอมองไปที่ไป๋อี้ด้วยความตกใจเล็กน้อย เธอไม่ได้โง่และเธอก็คาดเดาความตั้งใจของไป๋อี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือไป๋อี้ต้องการที่จะปกป้องเธอ ในทีมของไป๋อี้ คนที่มีทักษะการต่อสู้น้อยที่สุดยกเว้นโม่โม่ที่ยังเป็นเด็กก็น่าจะเป็นซาร่า ทุกคนสามารถจินตนาการได้เลยว่าการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นบริเวณประตูต้องดุเดือดมากแน่ ๆ  ซึ่งไป๋อี้คิดว่าซาร่าไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองจากการต่อสู้ดังกล่าว

  “ได้ …… ตกลง” แม้ว่าซาร่าจะเข้าใจความหมายของไป๋อี้ แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธและพยักหน้าด้วยความลังเลเล็กน้อย ในเวลานี้ซาราโกรธมาก เธอค่อนข้างไม่พอใจเพราะเธอต้องการจะต่อสู้ แต่กลับทำได้เพียงแค่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง สัตว์ประหลาดทั้งหมดในห้องกักขังออกมาแล้ว ตราบใดที่ชาร์ไป่ปิดประตูไว้ก็จะไม่เป็นอันตรายใด ๆ ไม่ว่าที่ไหนมันก็จะตามปกป้องโม่โม่อยู่เสมอ

  ทันใดนั้นไป๋อี้ก็แยกกรงเล็บของสัตว์ประหลาดออก ส่วนวูล์ฟที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็สับหัวของสัตว์ประหลาดออกอย่างรุนแรง ไป๋อี้ถือโอกาสนี้พิงหลังของวูล์ฟ

  “นี่คือปืนยิงฉมวก โดยปกติแล้วไม่ใช่ว่านายชอบใช้มันมาตลอดหรอกเหรอ อีกเดี๋ยวถ้าพวกเราไม่สามารถฉวยโอกาสออกไปได้ นายยิงหยูหานให้ฉันหน่อย อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อไม่ให้เจ้านั่นหวนกลับมาอีก นายมีพละกำลังมากที่สุด ดังนั้นฉันฝากให้นายรับผิดชอบเรื่องนี้” ไป๋อี้แขวนปืนยิงฉมวกไว้ข้างหลังของวูล์ฟ ก่อนที่วูล์ฟจะทันได้ตอบกลับ เขาก็ถลาตัวออกไปพุ่งใส่สัตว์ประหลาดตัวอื่น ๆ ทันที

  “อีกครู่หนึ่งถ้าหากเป็นไปได้ให้รั้งตัวโนเอลไว้ในตอนท้าย อันที่จริงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราทุกคนจะฉวยโอกาสออกไปได้ แต่ตราบใดที่โนเอลยังอยู่ที่นี่ เราก็จะสามารถเปิดประตูได้อีกครั้ง จำเอาไว้ให้ดี” ไป๋อี้พูดกับเฮลัวส์ ในเวลาเดียวกันเขาก็ใช้ดาบคะตะนะอ้อมไปข้างหลังเพื่อช่วยเฮลัวส์ต่อสู้

  “อื้ม!” บนใบหน้าของเฮลัวส์เต็มไปด้วยเลือดซึ่งดูน่าเวทนาเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ตอบกลับมาอย่างจริงจัง

  “คนอื่น ๆ ปล่อยให้ปฏิบัติการตามอัธยาศัย” ไป๋อี้พูดทิ้งท้ายไว้

  ไม่ว่าจะเป็นหงฉี่ฮว๋าหรือเมย์ริส ไป๋อี้เชื่อว่าพวกเธอได้พิจารณาไตร่ตรองการปฏิบัติการของตนไว้แล้ว ส่วนมาร์ตินและหนูน้อยเวอร์เนอร์ ไป๋อี้ไม่ได้มีคำสั่งพิเศษใด ๆ อ้อ จริงสิ มีอีกอย่าง ตอนนี้หมูแคระมีความยาวมากกว่า 1 เมตร หมูตัวนี้อ้วนจนเกือบจะเป็นลูกบอลอยู่แล้ว ซึ่งโดยปกติมันจะคอยกินอาหารเหลือจากทุกคนด้วย  ถ้ามันไปอยู่ในทีมอื่น พูพูคงจะถูกเชือดและถูกนำเนื้อมากินไปนานแล้ว แต่ในทางกลับกันการที่มันติดตามมากับทีมของไป๋อี้และเพื่อน ๆ ทำให้มันอ้วนขึ้นมากจริง ๆ

 

  อันที่จริงยังมีทางออกอื่นผุดขึ้นมาในความคิดของไป๋อี้ แต่นั่นมันก็อันตรายเกินไป กล่าวได้ว่าอันตรายกว่าสถานการณ์ตอนนี้หลายสิบเท่าเลยทีเดียว

  เมื่อต้องรับมือกับสัตว์ประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนก็แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปที่แท่นควบคุมและประตูตราบเท่าที่โนเอลยังพยายามเปิดประตูอยู่

  จิตใจของทุกคนค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ไป๋อี้ไม่ได้สังเกตเลยว่านอกจากความกังวลใจแล้วอารมณ์ของทุกคนที่นี่ยังมีบางอย่างที่ดูแตกต่างออกไป …… ทั้งกระสับกระส่ายและดุร้าย! โดยเฉพาะอย่างยิ่งวูล์ฟที่ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด นัยน์ตาของเขามีความฮึกเหิมและบ้าคลั่งฉายออกมา แต่ก็ยังไม่ชัดเจนมากนัก

  LV1-2 ระยะดุร้าย หมายความว่าอย่างไรกันแน่?

  ทันใดนั้นก็มีร่องรอยแห่งความปีติยินดีเผยขึ้นบนใบหน้าที่วิตกกังวลของโนเอล เมื่อเห็นสีหน้าเช่นนั้น หงฉี่ฮว๋าก็รีบควงมีดสั้นสองเล่มของเธอขึ้นมาเพื่อจัดการกับฝ่ายตรงข้ามโดยเร็ว แน่นอนว่าเมื่อโนเอลกดปุ่ม Enter ประตูบานใหญ่ที่ปิดอยู่ก็เริ่มเปิดออก โดยมันค่อย ๆ เปิดออกทั้งสองด้าน

  ไป๋อี้และหยูหานก็มีท่าทีเหมือนกับหงฉี่ฮว๋า แม้ว่าคนอื่น ๆ จะช้ากว่าเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

  ไป๋อี้และหยูหานรีบวิ่งพุ่งไปที่ประตูบานใหญ่จากสองทิศทางทางทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา แม้ข้างหลังของพวกเขาสองคนยังมีสัตว์ประหลาดที่ยังไม่ได้จัดการไล่ตามหลังมาติด ๆ ขณะที่ยังวิ่งอยู่หยูหานก็ดึงปืนพกออกมา ในขณะที่ไป๋อี้ก็ดึงดาบจากฝักทางด้านหลังของเขาออกมาเช่นกัน เกือบจะในเวลาเดียวกันกระสุนและดาบก็ทะยานพุ่งใส่คู่ต่อสู้ของพวกเขาทันที

  เคร้ง เสียงกระสุนปืนกระทบกับดาบอย่างรุนแรง จากนั้นทั้งสองคนก็หมุนตัวและพุ่งเข้าใส่กัน ไม่กี่วินาทีต่อมาทั้งสองก็กระแทกเข้าใส่กันอย่างดุเดือด

  เคร้ง ดาบของทั้งสองคนกระทบกันจนเกิดเสียงดังขึ้น จากนั้นทั้งสองก็ใช้แรงกดต้านดาบของซึ่งกันและกันไว้ 

  “น่าเสียดายมากใช่ไหม!” หยูหานกล่าวพร้อมกับหันใบหน้าของเขาเข้ามาเล็กน้อย มีดของทั้งสองบีบเข้าหากันเสียงดังเอี๊ยดจากแรงเสียดสีมหาศาล

  “เสียดายงั้นเหรอ …… ไม่เลย ครั้งแรกฉันเอาชนะนายได้ ครั้งที่สองก็เช่นกัน” ปุยขนอ่อน ๆ บนใบหน้าของไป๋อี้ค่อย ๆ แผ่ออกมา

  “หึ~!” หยูหานยิ้มอย่างดุดันและเริ่มออกแรงที่แขนของเขา เขามีพลังมากกว่าไป๋อี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเขามียีนของมดผสานรวมอยู่ด้วย ทันใดนั้นสีหน้าของหยูหานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นที่บนดาบญี่ปุ่นของเขา หยูหานรีบถอนกำลังของเขาออกทันทีก่อนจะเด้งตัวกลับมา แน่นอนว่าทันใดนั้นดาบญี่ปุ่นของเขาก็หักออกจากตรงกลาง โดยครึ่งหนึ่งของใบมีดลอยขึ้นสูงจากนั้นก็ตกลงสู่พื้นเสียงดังเคร้งคร้างกระทบพื้น

  “อาวุธของนายดีกว่าของฉันงั้นเหรอ!” หยูหานแตะไปที่ใบหน้าของเขา หนวดของเขาถูกเฉือนออกบางส่วนและมีบาดแผลเล็กน้อยบนใบหน้าจากปลายมีดของไป๋อี้

  “จะว่าไปแล้วฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่านายดูไม่มีลักษณะของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ผสมอยู่ด้วยเลย ถ้าให้ฉันเดาคงมีเพียงยีนของผีเสื้อเท่านั้นที่ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันสินะ ฮ่า ๆๆ ……. เซลล์ดัดแปลงระดับ LV1 อย่างนั้นสินะ? ช่างมันเถอะ ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็มีโชคกว่าคุณ” หยูหานพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเย่อหยิ่ง และในที่สุดก็เผยให้เห็นสิ่งที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าเทอะทะที่มือซ้ายของเขา

  โล่?

  ไม่สิ มันเป็นกระดองเต่า แต่มันเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์บนแขนของหยูหานทำให้มันดูเหมือนโล่ โล่กระดองเต่านี้มีรอยลวดลายที่ชัดเจน มันมีความมันวาวสีดำอมน้ำเงินเล็กน้อย มองปราดเดียวก็รู้ว่ามันต้องแข็งแกร่งมาก โล่กระดองเต่าไม่ได้ครอบคลุมถึงส่วนต้นแขน แต่มีงูสีทองพันโอบรอบโล่กระดองเต่าเอาไว้ด้วย ส่วนหัวของมันเงยขึ้นมาเล็กน้อย

  เต่าและงู …… นี่มันสัตว์เทพกลุ่มดาวเต่าดำในตำนาน (เสวียนอู่)!

  “สัตว์เทพเสวียนอู่เหรอ!” ไป๋อี้เอ่ยออกมาเบา ๆ

  หนึ่งในตำนานสัตว์เทพทั้งสี่ของจีน แม้ว่าลักษณะที่ปรากฏบนแขนซ้ายของหยูหานจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสัตว์เทพเสวียนอู่แม้แต่น้อย แต่ก็สามารถทำให้เขาทะนงตนได้ เห็นได้ชัดว่าหยูหานภูมิใจในเรื่องนี้มาก แม้ว่ามันจะไม่ใช่สัตว์เทพเสวียนอู่ซะทีเดียว แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีอย่างแน่นอน หยูหานโบกมือซ้ายของเขาไปมา ทันใดนั้นหัวงูก็โผล่ใกล้เข้ามาและจ้องไปที่ไป๋อี้

  “ฉันไม่ปฏิเสธว่าโชคดีของนายจริง ๆ ในช่วงแรก ๆ ของการเปลี่ยนแปลงนายก็นำหน้าทุกคนไปหนึ่งก้าวแล้ว แม้แต่ยีนที่ได้รับการผสานรวมก็มีความหมายที่เป็นมงคลเช่นนี้ …… นายคงไม่ได้คิดว่านายเป็นตัวเอกของโลกนี้ใช่ไหม?”

  “แต่ว่านะ …… นี่มันไม่เหมือนโลกในเทพนิยายที่ทั้งโลกหมุนรอบคน ๆ เดียวหรอกนะ มันไม่มีอยู่จริง” น้ำเสียงของไป๋อี้แผ่วเบา ราวกับมันเป็นเรื่องไร้สาระ ในเวลาเดียวกันไป๋อี้ก็กระชับดาบของเขายิ่งขึ้นและค่อย ๆ เดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาหยูหานอีกครั้ง

  ในเวลานี้คนอื่น ๆ ก็ร่วมด้วยช่วยกันต่อสู้โดยเลี่ยงพวกเขาทั้งสองคนไว้ แม้แต่เบ็นสันเองก็ด้วย แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาสมควรที่จะเป็นอันดับหนึ่งในหมู่ทุกคนที่นี่ แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงออร่าเปล่งประกายที่น่าตกใจระหว่างหยูหานและไป๋อี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 66 ตัวเอก

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 66 ตัวเอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 โชคดีที่สัตว์ประหลาดบางตัวไม่ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มของไป๋อี้และคนในทีม กลุ่มสัตว์ประหลาดเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพียงแต่พวกมันมีความหิวกระหายเป็นอย่างมากจนทำให้ต้องฆ่ากันเองหรือไม่ก็ถูกกินเป็นเหยื่อ อย่างไรก็ตามขณะที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ฆ่าสัตว์ประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นคาวเลือดที่นี่ก็ยิ่งทวีความรุนแรงและก็ค่อย ๆ ดึงดูดสัตว์ประหลาดจากทุกสารทิศเข้ามา

  “ให้ตายเถอะ!” โนเอลมองไปที่หน้าประตูอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ก่นด่าออกมา

  “เป็นยังไงบ้าง?” เบ็นสันถาม

  “ไม่มีสายเชื่อมต่อข้อมูลภายในประตู”

  “อะไร?”

  “สายเชื่อมต่อข้อมูลไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ฉันไม่สามารถเข้าถึงเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยได้และนั่นหมายถึงการเปิดประตู” โนเอลทุบประตูด้วยความรำคาญใจ

  “นายต้องเปิดประตูให้ได้!” หยูหานมองโนเอลอย่างดุดัน เขาไม่อยากที่จะต้องมาตายที่นี่แบบนี้

  “แม่แกเถอะ นึกว่าฉันอยากตายที่นี่รึไง” โนเอลตอบอย่างไม่พอใจ

  “ไปที่แท่นควบคุมจะมีสายสำหรับเข้าถึงเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยอยู่” จู่ ๆ ไป๋อี้ก็พูดขึ้นมาแล้วชี้ไปที่แท่นควบคุมที่ระเบิดเมื่อครู่นี้ซึ่งยังมีควันโขมงอยู่ ทุกคนมองไปที่นั่นในทันที ทำให้ในใจของพวกเขามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าแท่นควบคุมจะยังคงลุกไหม้อยู่ แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันถูกใช้เป็นแท่นควบคุม ดังนั้นก็ต้องมีสายเชื่อมต่ออย่างแน่นอน และตอนนี้พนันได้เลยว่าทักษะทางด้านเทคโนโลยีของโนเอลนั้นมีความสามารถมากพอ

  โนเอลไม่ลังเลใด ๆ เขารีบวิ่งไปที่แท่นควบคุมทันทีและเข้าดับเปลวไฟอย่างไม่ไยดี เขาถอดชิ้นส่วนภายนอกออกอย่างรวดเร็วและค่อย ๆ ค้นหาสายเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัย

  เมื่อคนอื่น ๆ เห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้พวกเขาก็ทำหน้าที่ปกป้องโนเอลทันที

  หลังจากนั้นไม่กี่นาทีโนเอลก็ดูมีความสุขเป็นอย่างมาก ในที่สุดเขาก็สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในของสถาบันวิจัยได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามสิบนาทีต่อมากลับมีสัตว์ประหลาดเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้ทุกคนแสดงออกถึงความกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

  “ยังไม่ได้อีกเหรอ!” เบ็นสันถาม

  “เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน …… โปรแกรมมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง รหัสผ่านจำเป็นต้องได้รับการตีความใหม่และวิธีการเข้ารหัสก็แตกต่างจากก่อนหน้านี้ด้วย” โนเอลสบถ หลังจากคนอื่น ๆ ได้ยินก็สบถก่นด่าทันทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันไนท์ที่อยู่ในห้องของเธอก็มองไปยังทุกคนที่มีท่าทีตื่นตระหนกด้วยความพออกพอใจ …… ฮิฮิฮิฮิ พวกมนุษย์โง่

  ……

  “โม่โม่ หนูไปที่ห้องกักขังข้าง ๆ ก่อนนะ เราอาจไม่มีเวลาปกป้องหนูมากนักในการต่อสู้ครั้งต่อไป” ไป๋อี้ก้าวไปยืนด้านข้างของโม่โม่ในระหว่างการต่อสู้พร้อมทั้งบอกกับเธอ

  “ค่ะ!” โม่โม่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

  “ชาร์ไป่ปกป้องโม่โม่ด้วยนะ พอได้ยินเสียงฉัน ก็รีบพาโม่โม่ออกไป เข้าใจไหม” ไป๋อี้พูดกับชาร์ไป่ ในเวลานี้ชาร์ไป่เองก็เต็มไปด้วยเลือดและมันก็ดูดุร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ

  “โฮ่ง โฮ่ง!”

  “ซาร่า …… เธอก็ไปด้วยเถอะ ช่วยดูแลโม่โม่ให้ฉันที ขอบคุณมาก” ไป๋อี้เหลือบมองไปรอบ ๆ และสุดท้ายก็จับจ้องไปที่ซาร่า

  ในใจของซาร่าสั่นสะท้าน เธอมองไปที่ไป๋อี้ด้วยความตกใจเล็กน้อย เธอไม่ได้โง่และเธอก็คาดเดาความตั้งใจของไป๋อี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือไป๋อี้ต้องการที่จะปกป้องเธอ ในทีมของไป๋อี้ คนที่มีทักษะการต่อสู้น้อยที่สุดยกเว้นโม่โม่ที่ยังเป็นเด็กก็น่าจะเป็นซาร่า ทุกคนสามารถจินตนาการได้เลยว่าการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นบริเวณประตูต้องดุเดือดมากแน่ ๆ  ซึ่งไป๋อี้คิดว่าซาร่าไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองจากการต่อสู้ดังกล่าว

  “ได้ …… ตกลง” แม้ว่าซาร่าจะเข้าใจความหมายของไป๋อี้ แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธและพยักหน้าด้วยความลังเลเล็กน้อย ในเวลานี้ซาราโกรธมาก เธอค่อนข้างไม่พอใจเพราะเธอต้องการจะต่อสู้ แต่กลับทำได้เพียงแค่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง สัตว์ประหลาดทั้งหมดในห้องกักขังออกมาแล้ว ตราบใดที่ชาร์ไป่ปิดประตูไว้ก็จะไม่เป็นอันตรายใด ๆ ไม่ว่าที่ไหนมันก็จะตามปกป้องโม่โม่อยู่เสมอ

  ทันใดนั้นไป๋อี้ก็แยกกรงเล็บของสัตว์ประหลาดออก ส่วนวูล์ฟที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็สับหัวของสัตว์ประหลาดออกอย่างรุนแรง ไป๋อี้ถือโอกาสนี้พิงหลังของวูล์ฟ

  “นี่คือปืนยิงฉมวก โดยปกติแล้วไม่ใช่ว่านายชอบใช้มันมาตลอดหรอกเหรอ อีกเดี๋ยวถ้าพวกเราไม่สามารถฉวยโอกาสออกไปได้ นายยิงหยูหานให้ฉันหน่อย อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อไม่ให้เจ้านั่นหวนกลับมาอีก นายมีพละกำลังมากที่สุด ดังนั้นฉันฝากให้นายรับผิดชอบเรื่องนี้” ไป๋อี้แขวนปืนยิงฉมวกไว้ข้างหลังของวูล์ฟ ก่อนที่วูล์ฟจะทันได้ตอบกลับ เขาก็ถลาตัวออกไปพุ่งใส่สัตว์ประหลาดตัวอื่น ๆ ทันที

  “อีกครู่หนึ่งถ้าหากเป็นไปได้ให้รั้งตัวโนเอลไว้ในตอนท้าย อันที่จริงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราทุกคนจะฉวยโอกาสออกไปได้ แต่ตราบใดที่โนเอลยังอยู่ที่นี่ เราก็จะสามารถเปิดประตูได้อีกครั้ง จำเอาไว้ให้ดี” ไป๋อี้พูดกับเฮลัวส์ ในเวลาเดียวกันเขาก็ใช้ดาบคะตะนะอ้อมไปข้างหลังเพื่อช่วยเฮลัวส์ต่อสู้

  “อื้ม!” บนใบหน้าของเฮลัวส์เต็มไปด้วยเลือดซึ่งดูน่าเวทนาเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ตอบกลับมาอย่างจริงจัง

  “คนอื่น ๆ ปล่อยให้ปฏิบัติการตามอัธยาศัย” ไป๋อี้พูดทิ้งท้ายไว้

  ไม่ว่าจะเป็นหงฉี่ฮว๋าหรือเมย์ริส ไป๋อี้เชื่อว่าพวกเธอได้พิจารณาไตร่ตรองการปฏิบัติการของตนไว้แล้ว ส่วนมาร์ตินและหนูน้อยเวอร์เนอร์ ไป๋อี้ไม่ได้มีคำสั่งพิเศษใด ๆ อ้อ จริงสิ มีอีกอย่าง ตอนนี้หมูแคระมีความยาวมากกว่า 1 เมตร หมูตัวนี้อ้วนจนเกือบจะเป็นลูกบอลอยู่แล้ว ซึ่งโดยปกติมันจะคอยกินอาหารเหลือจากทุกคนด้วย  ถ้ามันไปอยู่ในทีมอื่น พูพูคงจะถูกเชือดและถูกนำเนื้อมากินไปนานแล้ว แต่ในทางกลับกันการที่มันติดตามมากับทีมของไป๋อี้และเพื่อน ๆ ทำให้มันอ้วนขึ้นมากจริง ๆ

 

  อันที่จริงยังมีทางออกอื่นผุดขึ้นมาในความคิดของไป๋อี้ แต่นั่นมันก็อันตรายเกินไป กล่าวได้ว่าอันตรายกว่าสถานการณ์ตอนนี้หลายสิบเท่าเลยทีเดียว

  เมื่อต้องรับมือกับสัตว์ประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนก็แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปที่แท่นควบคุมและประตูตราบเท่าที่โนเอลยังพยายามเปิดประตูอยู่

  จิตใจของทุกคนค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ไป๋อี้ไม่ได้สังเกตเลยว่านอกจากความกังวลใจแล้วอารมณ์ของทุกคนที่นี่ยังมีบางอย่างที่ดูแตกต่างออกไป …… ทั้งกระสับกระส่ายและดุร้าย! โดยเฉพาะอย่างยิ่งวูล์ฟที่ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด นัยน์ตาของเขามีความฮึกเหิมและบ้าคลั่งฉายออกมา แต่ก็ยังไม่ชัดเจนมากนัก

  LV1-2 ระยะดุร้าย หมายความว่าอย่างไรกันแน่?

  ทันใดนั้นก็มีร่องรอยแห่งความปีติยินดีเผยขึ้นบนใบหน้าที่วิตกกังวลของโนเอล เมื่อเห็นสีหน้าเช่นนั้น หงฉี่ฮว๋าก็รีบควงมีดสั้นสองเล่มของเธอขึ้นมาเพื่อจัดการกับฝ่ายตรงข้ามโดยเร็ว แน่นอนว่าเมื่อโนเอลกดปุ่ม Enter ประตูบานใหญ่ที่ปิดอยู่ก็เริ่มเปิดออก โดยมันค่อย ๆ เปิดออกทั้งสองด้าน

  ไป๋อี้และหยูหานก็มีท่าทีเหมือนกับหงฉี่ฮว๋า แม้ว่าคนอื่น ๆ จะช้ากว่าเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

  ไป๋อี้และหยูหานรีบวิ่งพุ่งไปที่ประตูบานใหญ่จากสองทิศทางทางทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา แม้ข้างหลังของพวกเขาสองคนยังมีสัตว์ประหลาดที่ยังไม่ได้จัดการไล่ตามหลังมาติด ๆ ขณะที่ยังวิ่งอยู่หยูหานก็ดึงปืนพกออกมา ในขณะที่ไป๋อี้ก็ดึงดาบจากฝักทางด้านหลังของเขาออกมาเช่นกัน เกือบจะในเวลาเดียวกันกระสุนและดาบก็ทะยานพุ่งใส่คู่ต่อสู้ของพวกเขาทันที

  เคร้ง เสียงกระสุนปืนกระทบกับดาบอย่างรุนแรง จากนั้นทั้งสองคนก็หมุนตัวและพุ่งเข้าใส่กัน ไม่กี่วินาทีต่อมาทั้งสองก็กระแทกเข้าใส่กันอย่างดุเดือด

  เคร้ง ดาบของทั้งสองคนกระทบกันจนเกิดเสียงดังขึ้น จากนั้นทั้งสองก็ใช้แรงกดต้านดาบของซึ่งกันและกันไว้ 

  “น่าเสียดายมากใช่ไหม!” หยูหานกล่าวพร้อมกับหันใบหน้าของเขาเข้ามาเล็กน้อย มีดของทั้งสองบีบเข้าหากันเสียงดังเอี๊ยดจากแรงเสียดสีมหาศาล

  “เสียดายงั้นเหรอ …… ไม่เลย ครั้งแรกฉันเอาชนะนายได้ ครั้งที่สองก็เช่นกัน” ปุยขนอ่อน ๆ บนใบหน้าของไป๋อี้ค่อย ๆ แผ่ออกมา

  “หึ~!” หยูหานยิ้มอย่างดุดันและเริ่มออกแรงที่แขนของเขา เขามีพลังมากกว่าไป๋อี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเขามียีนของมดผสานรวมอยู่ด้วย ทันใดนั้นสีหน้าของหยูหานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นที่บนดาบญี่ปุ่นของเขา หยูหานรีบถอนกำลังของเขาออกทันทีก่อนจะเด้งตัวกลับมา แน่นอนว่าทันใดนั้นดาบญี่ปุ่นของเขาก็หักออกจากตรงกลาง โดยครึ่งหนึ่งของใบมีดลอยขึ้นสูงจากนั้นก็ตกลงสู่พื้นเสียงดังเคร้งคร้างกระทบพื้น

  “อาวุธของนายดีกว่าของฉันงั้นเหรอ!” หยูหานแตะไปที่ใบหน้าของเขา หนวดของเขาถูกเฉือนออกบางส่วนและมีบาดแผลเล็กน้อยบนใบหน้าจากปลายมีดของไป๋อี้

  “จะว่าไปแล้วฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่านายดูไม่มีลักษณะของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ผสมอยู่ด้วยเลย ถ้าให้ฉันเดาคงมีเพียงยีนของผีเสื้อเท่านั้นที่ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันสินะ ฮ่า ๆๆ ……. เซลล์ดัดแปลงระดับ LV1 อย่างนั้นสินะ? ช่างมันเถอะ ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็มีโชคกว่าคุณ” หยูหานพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเย่อหยิ่ง และในที่สุดก็เผยให้เห็นสิ่งที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าเทอะทะที่มือซ้ายของเขา

  โล่?

  ไม่สิ มันเป็นกระดองเต่า แต่มันเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์บนแขนของหยูหานทำให้มันดูเหมือนโล่ โล่กระดองเต่านี้มีรอยลวดลายที่ชัดเจน มันมีความมันวาวสีดำอมน้ำเงินเล็กน้อย มองปราดเดียวก็รู้ว่ามันต้องแข็งแกร่งมาก โล่กระดองเต่าไม่ได้ครอบคลุมถึงส่วนต้นแขน แต่มีงูสีทองพันโอบรอบโล่กระดองเต่าเอาไว้ด้วย ส่วนหัวของมันเงยขึ้นมาเล็กน้อย

  เต่าและงู …… นี่มันสัตว์เทพกลุ่มดาวเต่าดำในตำนาน (เสวียนอู่)!

  “สัตว์เทพเสวียนอู่เหรอ!” ไป๋อี้เอ่ยออกมาเบา ๆ

  หนึ่งในตำนานสัตว์เทพทั้งสี่ของจีน แม้ว่าลักษณะที่ปรากฏบนแขนซ้ายของหยูหานจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสัตว์เทพเสวียนอู่แม้แต่น้อย แต่ก็สามารถทำให้เขาทะนงตนได้ เห็นได้ชัดว่าหยูหานภูมิใจในเรื่องนี้มาก แม้ว่ามันจะไม่ใช่สัตว์เทพเสวียนอู่ซะทีเดียว แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีอย่างแน่นอน หยูหานโบกมือซ้ายของเขาไปมา ทันใดนั้นหัวงูก็โผล่ใกล้เข้ามาและจ้องไปที่ไป๋อี้

  “ฉันไม่ปฏิเสธว่าโชคดีของนายจริง ๆ ในช่วงแรก ๆ ของการเปลี่ยนแปลงนายก็นำหน้าทุกคนไปหนึ่งก้าวแล้ว แม้แต่ยีนที่ได้รับการผสานรวมก็มีความหมายที่เป็นมงคลเช่นนี้ …… นายคงไม่ได้คิดว่านายเป็นตัวเอกของโลกนี้ใช่ไหม?”

  “แต่ว่านะ …… นี่มันไม่เหมือนโลกในเทพนิยายที่ทั้งโลกหมุนรอบคน ๆ เดียวหรอกนะ มันไม่มีอยู่จริง” น้ำเสียงของไป๋อี้แผ่วเบา ราวกับมันเป็นเรื่องไร้สาระ ในเวลาเดียวกันไป๋อี้ก็กระชับดาบของเขายิ่งขึ้นและค่อย ๆ เดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาหยูหานอีกครั้ง

  ในเวลานี้คนอื่น ๆ ก็ร่วมด้วยช่วยกันต่อสู้โดยเลี่ยงพวกเขาทั้งสองคนไว้ แม้แต่เบ็นสันเองก็ด้วย แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาสมควรที่จะเป็นอันดับหนึ่งในหมู่ทุกคนที่นี่ แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงออร่าเปล่งประกายที่น่าตกใจระหว่างหยูหานและไป๋อี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+