[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 136 ยืนยันสมาชิก

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 136 ยืนยันสมาชิก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หลังจากที่เด็กสาวแกะน้อยพันผ้าพันแผลให้เรย์มอนด์แล้วไป๋อี้ก็โบกมือให้กับวูล์ฟ จากนั้นวูล์ฟและเฮลัวส์ก็พาเรย์มอนด์ไปยังทีมของพวกเขา ไป๋อี้เดินนำหน้าไปคนเดียวท่ามกลางดวงตาที่กระตือรือร้นและสอดส่องรอบตัวเขา

  ไม่มีทาง ตอนนี้ระดับขั้นที่มนุษย์กลายพันธุ์เกรงกลัวมากที่สุดคืออะไร?

  ระยะดุร้าย!

  ใคร ๆ ต่างก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อครู่นี้ตอนที่เรย์มอนด์เข้าสู่ระยะดุร้ายอย่างสมบูรณ์ ทุกคนต่างนึกว่าคงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการปราบเขา ถ้าหากมีใครทำผิดอาจทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นได้ อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนคิดว่ามันจะต้องเกิดความโกลาหลเป็นแน่ ทันใดนั้นเรย์มอนด์ที่วิ่งปรี่ไปหาไป๋อี้ก็กลับหลับไปซะอย่างนั้น เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่ตรงข้ามต่อหน้าไป๋อี้ ความสงสัยในใจของพวกเขายิ่งทวีมากขึ้น อย่างไรก็ตามพวกเขาอยู่ห่างออกมาดังนั้นพวกเขาจึงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในสายตาของไป๋อี้ได้อย่างชัดเจน

  “หลีกทางหน่อยครับ ขอบคุณนะ” ไป๋อี้พูดกับคนตรงหน้า

  รอยยิ้มและการแสดงออกที่สงบทำให้ผู้คนตรงหน้าไป๋อี้ก้าวถอยออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตามกลุ่มคนยังคงล้อมรอบเขาอยู่ จนในที่สุดด้วยความสงสัยที่มีทำให้อดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “ขอโทษนะ เมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นคุณสยบเรย์มอนด์ที่อยู่ในสภาวะดุร้ายได้อย่างไร”

  “ผมจะตอบคำถามนี้กับทุกคนในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้” ไป๋อี้ยิ้ม

  “ไม่กี่วันหลังจากนี้?”

  “ใช่!” ไป๋อี้ได้เจรจากับแกรี่แล้ว อีกไม่กี่วันเขาจะมาเพื่อกระตุ้นให้มนุษย์กลายพันธุ์ทุกคนฝึกฝนอย่างหนักด้วยตัวเองและค้นหาวิธีที่จะกลับสู่โลกปกติที่สุดแสนจะเลวร้ายนี้ พวกเขาต้องได้รับชีวิตที่มั่นคงในนิวซีแลนด์แห่งนี้ โดยที่ไม่มีความสุ่มเสี่ยงเหมือนเช่นปัจจุบันที่คุณอาจจะตายได้ทุกเมื่อ

  “อ๋า …… คุณคือไป๋อี้!”

  ทันใดนั้นก็มีคนจากฝูงชนร้องเรียกขึ้นมา เสียงนี้ทำให้ผู้คนรอบข้างตกตะลึงทันที ทันใดนั้นพวกเขาก็คึกคักเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันใหญ่ ไป๋อี้ นี่คือคนที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลง มีหรือที่ทุกคนจะไม่ฉงนสนเท่ห์ในตัวเขา ในเวลานี้ผู้คนเพิ่งตระหนักรู้ว่าชื่อของไป๋อี้นั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว แต่เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นไป๋อี้ตัวจริงมาก่อน พวกเขาจึงจำไป๋อี้ไม่ได้

  “ใช่ ผมชื่อไป๋อี้” ไป๋อี้พยักหน้า ไม่น่าแปลกใจที่ใครหลายคนจะรู้จักเขา มิฉะนั้นชื่อเสียงของไป๋อี้จะมาจากไหนล่ะ หลังจากที่ไป๋อี้ยอมรับ เขาก็แยกจากฝูงชนและเดินไปยังตำแหน่งพื้นที่ของทีมที่เขาเคยนั่งเฝ้ามาก่อนหน้านี้

  ผู้คนรอบข้างติดตามพวกไป๋อี้ก่อนจะพบกับป้ายที่แขวนอยู่บนเสาด้านนอกสุด ทีมของไป๋อี้กำลังสรรหาสมาชิกในทีมจริง ๆ ดังนั้นการต่อสู้กับเรย์มอนด์ครั้งก่อนนี้จึงเป็นการทดสอบประสิทธิภาพการต่อสู้ของเรย์มอนด์ ฝูงชนที่คิดเรื่องนี้ได้ต่างก็เข้ามารวมตัวกันทันทีและต้องการถามไป๋อี้ว่าเขาต้องการรับสมัครคนอีกหรือไม่ ไม่ว่าในกรณีใดการต่อสู้ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสมกับเป็นทีมของไป๋อี้จริงๆ ซึ่งนั่นจึงเป็นที่น่าดึงดูดกว่าทีมอื่น ๆ

  “หัวหน้าไป๋อี้ คุณยังรับสมัครคนอยู่หรือเปล่า?”

  “ไม่แล้วล่ะ เรามีสมาชิกเพียงพอแล้ว เรย์มอนด์และสองคนนี้” กลุ่มของไป๋อี้กลับไปที่ทีมเพียงเพื่อมาพบกับผู้หญิงสองคนที่รออยู่ที่นี่ แน่นอนว่าถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงก็ตาม แต่ตอนนี้เพียงแค่สามารถแยกแยะเพศได้โดยตรงก็นับว่าเป็นเรื่องดีแล้ว อย่าคาดหวังว่าพวกเธอจะสะสวยถึงเพียงนั้นเลย

  ไป๋อี้ชี้ไปที่สองคนนี้และพูดกับฝูงชนด้านนอก ในตอนนี้ผู้หญิงคนหนึ่งในสองคนนั้นยังคงหยอกล้อเล่นกับพูพูอยู่ หลังจากได้ยินสิ่งที่ไป๋อี้พูด เธอก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะ ดูเหมือนว่าเธอยังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

  “พูพู ลุกขึ้นมาได้แล้ว ไปกันเถอะ กลับที่พักกัน”

  ไป๋อี้พยักหน้าให้ทั้งสองคน จากนั้นเขาก็เตะก้นเจ้าพูพู คราวนี้ถึงแม้ว่ามันจะขี้เกียจเพียงใด แต่มันก็รู้ว่ามันไม่สามารถหลับตรงนี้ต่อไปได้อีกแล้ว มันจึงตื่นขึ้นอย่างเฉื่อยชา ในความเป็นจริงไป๋อี้ไม่รู้ว่าผู้หญิงสองคนนี้เป็นใคร แต่ตัวเขาได้รับการยอมรับจากฝูงชนแล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถคัดเลือกผู้สมัครอย่างเงียบ ๆ ได้อีก อย่างไรก็ตามทั้งสองคนนี้คงจะเข้ามาสอบถามในช่วงเวลาที่เขาเดินออกไปแล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดจากโชคชะตาทั้งสิ้น

  เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงทั้งสองคนนี้ยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่พวกเธอก็รู้จากฝูงชนรอบข้างว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอคือไป๋อี้ และพวกเธอก็กลายเป็นเพื่อนร่วมทีมของไป๋อี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  สิ่งนี้แตกต่างจากที่พวกเธอคิดมาก่อน?

  อย่างไรก็ตามทั้งสองก็ไม่ปฏิเสธ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรไป๋อี้ก็มีชื่อเสียงที่ดีมากในหมู่มนุษย์กลายพันธุ์ พวกเธอโชคดีจริง ๆ ที่ถูกไป๋อี้รับเข้าทีมมาโดยบังเอิญ ดังนั้นช่วงนี้ก็คงต้องขอติดตามไป๋อี้และเพื่อน ๆ ไปก่อน หญิงสาวผู้มีวุฒิภาวะมากกว่าหยุดหญิงสาวอีกคนไม่ให้พยายามพูดอะไรบางอย่างออกมาและเดินตามทีมไป๋อี้ไปที่ลานเล็ก ๆ อย่างเงียบ ๆ

  ในเวลานี้แกรี่ก็ได้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ จากนั้นเขาก็เงียบขรึมลงเล็กน้อยพลางมองไปยังผู้หญิงที่ทำความเคารพต่อหน้าเขาอย่างสงบนิ่ง

  “เธอออกไปเถอะ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอที่นี่” ฉันควรคิดให้ได้เร็วกว่านี้ ไป๋อี้และพวกมาที่นี่เพื่อเลือกเพื่อนร่วมทีม แต่น่าเสียดายจริง ๆ ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้อีกนิดล่ะก็ บางทีอาจจะจัดหาคนให้เข้าทีมของไป๋อี้ได้ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดอย่างยิ่งว่าไป๋อี้จะรีบร้อนในการเลือกผู้สมัครเข้าทีมถึงเพียงนี้ เรย์มอนด์และผู้หญิงสองคนนั้นกลับถูกยอมรับเข้ากลุ่มโดยบังเอิญ

  ในขณะนี้ไป๋อี้เห็นมัลวีย์ยืนอยู่ที่ข้างถนน

  “มัลวีย์ไปกันเถอะ จะไม่ไปกับพวกเราเหรอ” ไป๋อี้พูดกับมัลวีย์

  เมื่อมัลวีย์ได้ยินเสียงของไป๋อี้ เขาก็มองไปที่ไป๋อี้และลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินไปหาไป๋อี้และทีมอย่างแน่วแน่ ในที่สุดไป๋อี้ก็เผยรอยยิ้มออกมา แม้ว่าการมีชื่อเสียงในหมู่มนุษย์กลายพันธุ์มักจะมีเรื่องยุ่งยากอยู่บ้าง แต่บางครั้งมันก็มีประโยชน์ ตัวอย่างเช่นตอนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขานั้นคือไป๋อี้ มัลวีย์อาจจะไม่อยากติดตามเขามาก็ได้

  ระหว่างทางคนอื่น ๆ ยังคงสงสัยเกี่ยวกับไป๋อี้และทีมอยู่ ผู้คนรุมล้อมเบียดเสียดกันไปมาจนกระทั่งไป๋อี้และพรรคพวกเข้าไปในบ้านของทีมที่แยกออกมา พวกเขาถึงได้แยกย้ายกันออกไป อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาจะแยกย้ายกันไปแล้ว แต่การพูดคุยเกี่ยวกับไป๋อี้ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะสงบลงแต่อย่างใด ไม่ว่าจะพูดอย่างไรนี่คือไป๋อี้ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลของเซลล์ดัดแปลง นอกจากนี้ยังมีคำถามที่ไป๋อี้พูดว่าจะตอบภายในไม่กี่วันนี้อีก เรื่องที่ว่าทำให้เรย์มอนด์สงบลงได้อย่างไร นั่นหมายความว่าไป๋อี้กำลังจะประกาศอะไรบางอย่างอย่างนั้นหรือ?

  เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่พวกไป๋อี้เป็นกังวลใจ

  กลุ่มคนรวมตัวกันที่เต็นท์หลังใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง มัลวีย์และผู้หญิงทั้งสองไม่ได้พูดอะไรและดูเหมือนจะมีความกังวลเล็กน้อย ในเวลานี้ไป๋อี้จึงกล่าวทักทายทุกคนที่นั่งลงตามอัธยาศัย จากนั้นจึงเริ่มพูดขึ้น

  “ผมคือไป๋อี้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญไปหน่อย แต่บางครั้งการพบกันก็เป็นเรื่องของโชคชะตาตอนนี้ผมต้องการเชิญคุณเข้าร่วมทีม หากมีคำถามใด ๆ ก็ถามได้เลย” ไป๋อี้พูดกับทั้งสาม สำหรับเรย์มอนด์ผู้ชายคนนี้ยังคงหลับสนิทอยู่ แน่นอนว่ามันไม่สำคัญสำหรับเขา แต่เนื่องจากเขาพ่ายแพ้ให้ไป๋อี้เกรงว่าเขาคงวิ่งหนีไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ

  “คุณคือไป๋อี้?”

  “ใช่ ผมเคยพูดไปแล้วครั้งหนึ่ง”

  “คุณยังไม่ถามเลยว่าเราเป็นใคร คุณก็เชิญพวกเราเข้าร่วมทีมแล้วเหรอ?” ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าถามขึ้น

  “ผมรู้ว่านี่เป็นความประมาท แต่ตอนนี้ทุกทีมก็เลือกเพื่อนร่วมทีมแบบนี้ มันขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์โดยสิ้นเชิง ท้ายที่สุดมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเวลาให้ทุกคนทำความรู้จักกันก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเชิญมาเป็นเพื่อนร่วมทีมหรือไม่ และผมก็เชื่อในสิ่งนั้นว่าพวกเราสามารถเป็นเพื่อนร่วมทีมกันได้” ไป๋อี้พยักหน้า

  “ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ ฉันไม่เชื่อในสิ่งนั้น”

  “ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ผมคิดว่าสามารถเป็นเพื่อนร่วมทีมกับพวกคุณได้ มันไม่ใช่วิสัยทัศน์ของผม แต่เป็นพูพู” ไป๋อี้ชี้ไปที่เจ้าหมูอ้วนฉุ “ตอนที่คุณรออยู่ที่นั่น ตอนนั้นคุณกำลังหยอกเล่นอยู่กับพูพู อย่าดูแต่ท่าทางขี้เกียจเฉื่อยชาของมันนะ ไหวพริบของมันดีที่สุดในทีม ถ้ามันไม่คิดว่าพวกคุณดูไม่เลวทีเดียว พวกคุณก็คงจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับมันหรอก” ไป๋อี้อธิบายอย่างช้าๆ

  ทุกคนมองไปที่พูพูด้วยความประหลาดใจ มันยากที่จะเชื่อ หมูอ้วนตัวนี้น่ะหรือ?

  แต่นี่คือความจริง เดิมที่มันอาจจะดูเป็นหมูงี่เง่าโง่เขลาที่สุด แต่แท้จริงแล้วมันเป็นหมูที่มีไหวพริบดีที่สุดในทีม ซึ่งนั่นราวกับว่ามันเป็นคนแรกที่ตอบสนองต่อสิ่งใด ๆ เสมอ

  “แล้วพวกคุณหมายความว่าอย่างไร พวกคุณต้องการเข้าร่วมทีมของเราหรือไม่” ไป๋อี้ถาม

  “ฉันชื่อเวร่า ฉันเคยเป็นครูส่วนตัวของตระกูลผู้ดีผู้สูงศักดิ์ ฉันมีหน้าที่รับผิดชอบสอนเรื่องมารยาทให้กับลูกของตระกูลนั้น แต่ที่จริงฉันยังเก่งในเรื่องอื่น ๆ ด้วย เช่น การดูแลงานบ้านครอบครัวระดับสูง, การเตรียมงานเลี้ยงในครอบครัวขนาดใหญ่, ผู้ช่วยส่วนตัว, การศึกษาปฐมวัย, การพยาบาลและติวเตอร์สอนหนังสือ หรือแม้กระทั่งความรู้ที่ซับซ้อนกว่านั้น ฉันได้รับปริญญาเอกสอง แล้วก็ ……. ” เวร่าลังเลสักพักก่อนจะเริ่มแนะนำตัว

  ไป๋อี้สังเกตเห็นแล้วว่า แม้ว่ารูปลักษณ์ของผู้หญิงทั้งสองจะแตกต่างจากความเป็นมนุษย์มากเนื่องจากการผสมผสานของยีนทางชีววิทยาอื่น ๆ แต่พวกเธอก็นั่งด้วยท่าทางที่สงบเสงี่ยม ในเวลานี้หลังจากได้ยินคำแนะนำตัวของเวร่าแล้ว ทุกคนก็ต้องตกใจมากขึ้น บุคคลผู้นี้ในตอนที่นิวซีแลนด์ยังสงบสุขเธอเป็นแม่แบบในสังคมชนชั้นสูงที่สมบูรณ์แบบ

  “ก่อนหน้านี้พวกเรารออยู่ในลานกว้างที่ทีมของคุณตั้งอยู่ อันที่จริงเราเห็นป้ายประกาศ ดูเหมือนว่าคุณกำลังมองหาครูอยู่ ฉันคิดว่าฉันน่ามีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับตำแหน่งนี้ อย่างไรก็ตามฉันต้องบอกก่อนว่าฉันต้องการอยู่กับนักเรียนของฉันด้วย ลอเทียร์ และเราไม่มีความสามารถในการต่อสู้มากนัก” เวร่าชี้ไปที่เด็กผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า

  “หนูเป็นนักเรียนของครูเวร่า ลอเทียร์” หญิงสาวยืนขึ้นอย่างมีสง่าราศี

  นักเรียนของเวร่า เมื่อทุกคนนึกย้อนถึงการแนะนำตัวของเวร่า พวกเขาก็สันนิษฐานได้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้น่าจะเคยเป็นลูกของตระกูลสูงศักดิ์มาก่อน เวร่าแนะนำตัวเองด้วยวิธีนี้และเห็นได้ชัดว่าตกลงรับคำเชิญของไป๋อี้ เธอเลือกที่จะเข้าร่วมทีม ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเธอที่จะร่วมกันกับนักเรียนของเธอต่อสู้มาจนถึงตอนนี้ หากสามารถเลือกทีมที่ดีได้เธอก็ควรเข้าร่วมกับทีมนั้น ซึ่งทีมไหนจะเหมาะสมไปกว่าทีมของไป๋อี้อีกล่ะ

  แม้ว่าจะน่าเสียดายที่เธอไม่มีความสามารถในการต่อสู้ แต่ไป๋อี้ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นนัก ทุกอย่างสามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ ไป๋อี้ให้ความสำคัญกับการแนะนำตัวครั้งก่อนของเวร่ามากกว่า การศึกษาปฐมวัย การพยาบาล และติวเตอร์ ซึ่งความสามารถเหล่านี้ช่วยเขาได้มากทีเดียว

  โม่โม่ถึงกับหน้าถอดสี มันจบแล้ว เธอไม่มีทางขี้เกียจได้อีกแล้ว!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 136 ยืนยันสมาชิก

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 136 ยืนยันสมาชิก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หลังจากที่เด็กสาวแกะน้อยพันผ้าพันแผลให้เรย์มอนด์แล้วไป๋อี้ก็โบกมือให้กับวูล์ฟ จากนั้นวูล์ฟและเฮลัวส์ก็พาเรย์มอนด์ไปยังทีมของพวกเขา ไป๋อี้เดินนำหน้าไปคนเดียวท่ามกลางดวงตาที่กระตือรือร้นและสอดส่องรอบตัวเขา

  ไม่มีทาง ตอนนี้ระดับขั้นที่มนุษย์กลายพันธุ์เกรงกลัวมากที่สุดคืออะไร?

  ระยะดุร้าย!

  ใคร ๆ ต่างก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อครู่นี้ตอนที่เรย์มอนด์เข้าสู่ระยะดุร้ายอย่างสมบูรณ์ ทุกคนต่างนึกว่าคงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการปราบเขา ถ้าหากมีใครทำผิดอาจทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นได้ อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนคิดว่ามันจะต้องเกิดความโกลาหลเป็นแน่ ทันใดนั้นเรย์มอนด์ที่วิ่งปรี่ไปหาไป๋อี้ก็กลับหลับไปซะอย่างนั้น เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่ตรงข้ามต่อหน้าไป๋อี้ ความสงสัยในใจของพวกเขายิ่งทวีมากขึ้น อย่างไรก็ตามพวกเขาอยู่ห่างออกมาดังนั้นพวกเขาจึงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในสายตาของไป๋อี้ได้อย่างชัดเจน

  “หลีกทางหน่อยครับ ขอบคุณนะ” ไป๋อี้พูดกับคนตรงหน้า

  รอยยิ้มและการแสดงออกที่สงบทำให้ผู้คนตรงหน้าไป๋อี้ก้าวถอยออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตามกลุ่มคนยังคงล้อมรอบเขาอยู่ จนในที่สุดด้วยความสงสัยที่มีทำให้อดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “ขอโทษนะ เมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นคุณสยบเรย์มอนด์ที่อยู่ในสภาวะดุร้ายได้อย่างไร”

  “ผมจะตอบคำถามนี้กับทุกคนในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้” ไป๋อี้ยิ้ม

  “ไม่กี่วันหลังจากนี้?”

  “ใช่!” ไป๋อี้ได้เจรจากับแกรี่แล้ว อีกไม่กี่วันเขาจะมาเพื่อกระตุ้นให้มนุษย์กลายพันธุ์ทุกคนฝึกฝนอย่างหนักด้วยตัวเองและค้นหาวิธีที่จะกลับสู่โลกปกติที่สุดแสนจะเลวร้ายนี้ พวกเขาต้องได้รับชีวิตที่มั่นคงในนิวซีแลนด์แห่งนี้ โดยที่ไม่มีความสุ่มเสี่ยงเหมือนเช่นปัจจุบันที่คุณอาจจะตายได้ทุกเมื่อ

  “อ๋า …… คุณคือไป๋อี้!”

  ทันใดนั้นก็มีคนจากฝูงชนร้องเรียกขึ้นมา เสียงนี้ทำให้ผู้คนรอบข้างตกตะลึงทันที ทันใดนั้นพวกเขาก็คึกคักเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันใหญ่ ไป๋อี้ นี่คือคนที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลง มีหรือที่ทุกคนจะไม่ฉงนสนเท่ห์ในตัวเขา ในเวลานี้ผู้คนเพิ่งตระหนักรู้ว่าชื่อของไป๋อี้นั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว แต่เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นไป๋อี้ตัวจริงมาก่อน พวกเขาจึงจำไป๋อี้ไม่ได้

  “ใช่ ผมชื่อไป๋อี้” ไป๋อี้พยักหน้า ไม่น่าแปลกใจที่ใครหลายคนจะรู้จักเขา มิฉะนั้นชื่อเสียงของไป๋อี้จะมาจากไหนล่ะ หลังจากที่ไป๋อี้ยอมรับ เขาก็แยกจากฝูงชนและเดินไปยังตำแหน่งพื้นที่ของทีมที่เขาเคยนั่งเฝ้ามาก่อนหน้านี้

  ผู้คนรอบข้างติดตามพวกไป๋อี้ก่อนจะพบกับป้ายที่แขวนอยู่บนเสาด้านนอกสุด ทีมของไป๋อี้กำลังสรรหาสมาชิกในทีมจริง ๆ ดังนั้นการต่อสู้กับเรย์มอนด์ครั้งก่อนนี้จึงเป็นการทดสอบประสิทธิภาพการต่อสู้ของเรย์มอนด์ ฝูงชนที่คิดเรื่องนี้ได้ต่างก็เข้ามารวมตัวกันทันทีและต้องการถามไป๋อี้ว่าเขาต้องการรับสมัครคนอีกหรือไม่ ไม่ว่าในกรณีใดการต่อสู้ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสมกับเป็นทีมของไป๋อี้จริงๆ ซึ่งนั่นจึงเป็นที่น่าดึงดูดกว่าทีมอื่น ๆ

  “หัวหน้าไป๋อี้ คุณยังรับสมัครคนอยู่หรือเปล่า?”

  “ไม่แล้วล่ะ เรามีสมาชิกเพียงพอแล้ว เรย์มอนด์และสองคนนี้” กลุ่มของไป๋อี้กลับไปที่ทีมเพียงเพื่อมาพบกับผู้หญิงสองคนที่รออยู่ที่นี่ แน่นอนว่าถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงก็ตาม แต่ตอนนี้เพียงแค่สามารถแยกแยะเพศได้โดยตรงก็นับว่าเป็นเรื่องดีแล้ว อย่าคาดหวังว่าพวกเธอจะสะสวยถึงเพียงนั้นเลย

  ไป๋อี้ชี้ไปที่สองคนนี้และพูดกับฝูงชนด้านนอก ในตอนนี้ผู้หญิงคนหนึ่งในสองคนนั้นยังคงหยอกล้อเล่นกับพูพูอยู่ หลังจากได้ยินสิ่งที่ไป๋อี้พูด เธอก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะ ดูเหมือนว่าเธอยังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

  “พูพู ลุกขึ้นมาได้แล้ว ไปกันเถอะ กลับที่พักกัน”

  ไป๋อี้พยักหน้าให้ทั้งสองคน จากนั้นเขาก็เตะก้นเจ้าพูพู คราวนี้ถึงแม้ว่ามันจะขี้เกียจเพียงใด แต่มันก็รู้ว่ามันไม่สามารถหลับตรงนี้ต่อไปได้อีกแล้ว มันจึงตื่นขึ้นอย่างเฉื่อยชา ในความเป็นจริงไป๋อี้ไม่รู้ว่าผู้หญิงสองคนนี้เป็นใคร แต่ตัวเขาได้รับการยอมรับจากฝูงชนแล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถคัดเลือกผู้สมัครอย่างเงียบ ๆ ได้อีก อย่างไรก็ตามทั้งสองคนนี้คงจะเข้ามาสอบถามในช่วงเวลาที่เขาเดินออกไปแล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดจากโชคชะตาทั้งสิ้น

  เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงทั้งสองคนนี้ยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่พวกเธอก็รู้จากฝูงชนรอบข้างว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอคือไป๋อี้ และพวกเธอก็กลายเป็นเพื่อนร่วมทีมของไป๋อี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  สิ่งนี้แตกต่างจากที่พวกเธอคิดมาก่อน?

  อย่างไรก็ตามทั้งสองก็ไม่ปฏิเสธ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรไป๋อี้ก็มีชื่อเสียงที่ดีมากในหมู่มนุษย์กลายพันธุ์ พวกเธอโชคดีจริง ๆ ที่ถูกไป๋อี้รับเข้าทีมมาโดยบังเอิญ ดังนั้นช่วงนี้ก็คงต้องขอติดตามไป๋อี้และเพื่อน ๆ ไปก่อน หญิงสาวผู้มีวุฒิภาวะมากกว่าหยุดหญิงสาวอีกคนไม่ให้พยายามพูดอะไรบางอย่างออกมาและเดินตามทีมไป๋อี้ไปที่ลานเล็ก ๆ อย่างเงียบ ๆ

  ในเวลานี้แกรี่ก็ได้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ จากนั้นเขาก็เงียบขรึมลงเล็กน้อยพลางมองไปยังผู้หญิงที่ทำความเคารพต่อหน้าเขาอย่างสงบนิ่ง

  “เธอออกไปเถอะ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอที่นี่” ฉันควรคิดให้ได้เร็วกว่านี้ ไป๋อี้และพวกมาที่นี่เพื่อเลือกเพื่อนร่วมทีม แต่น่าเสียดายจริง ๆ ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้อีกนิดล่ะก็ บางทีอาจจะจัดหาคนให้เข้าทีมของไป๋อี้ได้ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดอย่างยิ่งว่าไป๋อี้จะรีบร้อนในการเลือกผู้สมัครเข้าทีมถึงเพียงนี้ เรย์มอนด์และผู้หญิงสองคนนั้นกลับถูกยอมรับเข้ากลุ่มโดยบังเอิญ

  ในขณะนี้ไป๋อี้เห็นมัลวีย์ยืนอยู่ที่ข้างถนน

  “มัลวีย์ไปกันเถอะ จะไม่ไปกับพวกเราเหรอ” ไป๋อี้พูดกับมัลวีย์

  เมื่อมัลวีย์ได้ยินเสียงของไป๋อี้ เขาก็มองไปที่ไป๋อี้และลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินไปหาไป๋อี้และทีมอย่างแน่วแน่ ในที่สุดไป๋อี้ก็เผยรอยยิ้มออกมา แม้ว่าการมีชื่อเสียงในหมู่มนุษย์กลายพันธุ์มักจะมีเรื่องยุ่งยากอยู่บ้าง แต่บางครั้งมันก็มีประโยชน์ ตัวอย่างเช่นตอนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขานั้นคือไป๋อี้ มัลวีย์อาจจะไม่อยากติดตามเขามาก็ได้

  ระหว่างทางคนอื่น ๆ ยังคงสงสัยเกี่ยวกับไป๋อี้และทีมอยู่ ผู้คนรุมล้อมเบียดเสียดกันไปมาจนกระทั่งไป๋อี้และพรรคพวกเข้าไปในบ้านของทีมที่แยกออกมา พวกเขาถึงได้แยกย้ายกันออกไป อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาจะแยกย้ายกันไปแล้ว แต่การพูดคุยเกี่ยวกับไป๋อี้ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะสงบลงแต่อย่างใด ไม่ว่าจะพูดอย่างไรนี่คือไป๋อี้ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลของเซลล์ดัดแปลง นอกจากนี้ยังมีคำถามที่ไป๋อี้พูดว่าจะตอบภายในไม่กี่วันนี้อีก เรื่องที่ว่าทำให้เรย์มอนด์สงบลงได้อย่างไร นั่นหมายความว่าไป๋อี้กำลังจะประกาศอะไรบางอย่างอย่างนั้นหรือ?

  เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่พวกไป๋อี้เป็นกังวลใจ

  กลุ่มคนรวมตัวกันที่เต็นท์หลังใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง มัลวีย์และผู้หญิงทั้งสองไม่ได้พูดอะไรและดูเหมือนจะมีความกังวลเล็กน้อย ในเวลานี้ไป๋อี้จึงกล่าวทักทายทุกคนที่นั่งลงตามอัธยาศัย จากนั้นจึงเริ่มพูดขึ้น

  “ผมคือไป๋อี้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญไปหน่อย แต่บางครั้งการพบกันก็เป็นเรื่องของโชคชะตาตอนนี้ผมต้องการเชิญคุณเข้าร่วมทีม หากมีคำถามใด ๆ ก็ถามได้เลย” ไป๋อี้พูดกับทั้งสาม สำหรับเรย์มอนด์ผู้ชายคนนี้ยังคงหลับสนิทอยู่ แน่นอนว่ามันไม่สำคัญสำหรับเขา แต่เนื่องจากเขาพ่ายแพ้ให้ไป๋อี้เกรงว่าเขาคงวิ่งหนีไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ

  “คุณคือไป๋อี้?”

  “ใช่ ผมเคยพูดไปแล้วครั้งหนึ่ง”

  “คุณยังไม่ถามเลยว่าเราเป็นใคร คุณก็เชิญพวกเราเข้าร่วมทีมแล้วเหรอ?” ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าถามขึ้น

  “ผมรู้ว่านี่เป็นความประมาท แต่ตอนนี้ทุกทีมก็เลือกเพื่อนร่วมทีมแบบนี้ มันขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์โดยสิ้นเชิง ท้ายที่สุดมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเวลาให้ทุกคนทำความรู้จักกันก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเชิญมาเป็นเพื่อนร่วมทีมหรือไม่ และผมก็เชื่อในสิ่งนั้นว่าพวกเราสามารถเป็นเพื่อนร่วมทีมกันได้” ไป๋อี้พยักหน้า

  “ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ ฉันไม่เชื่อในสิ่งนั้น”

  “ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ผมคิดว่าสามารถเป็นเพื่อนร่วมทีมกับพวกคุณได้ มันไม่ใช่วิสัยทัศน์ของผม แต่เป็นพูพู” ไป๋อี้ชี้ไปที่เจ้าหมูอ้วนฉุ “ตอนที่คุณรออยู่ที่นั่น ตอนนั้นคุณกำลังหยอกเล่นอยู่กับพูพู อย่าดูแต่ท่าทางขี้เกียจเฉื่อยชาของมันนะ ไหวพริบของมันดีที่สุดในทีม ถ้ามันไม่คิดว่าพวกคุณดูไม่เลวทีเดียว พวกคุณก็คงจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับมันหรอก” ไป๋อี้อธิบายอย่างช้าๆ

  ทุกคนมองไปที่พูพูด้วยความประหลาดใจ มันยากที่จะเชื่อ หมูอ้วนตัวนี้น่ะหรือ?

  แต่นี่คือความจริง เดิมที่มันอาจจะดูเป็นหมูงี่เง่าโง่เขลาที่สุด แต่แท้จริงแล้วมันเป็นหมูที่มีไหวพริบดีที่สุดในทีม ซึ่งนั่นราวกับว่ามันเป็นคนแรกที่ตอบสนองต่อสิ่งใด ๆ เสมอ

  “แล้วพวกคุณหมายความว่าอย่างไร พวกคุณต้องการเข้าร่วมทีมของเราหรือไม่” ไป๋อี้ถาม

  “ฉันชื่อเวร่า ฉันเคยเป็นครูส่วนตัวของตระกูลผู้ดีผู้สูงศักดิ์ ฉันมีหน้าที่รับผิดชอบสอนเรื่องมารยาทให้กับลูกของตระกูลนั้น แต่ที่จริงฉันยังเก่งในเรื่องอื่น ๆ ด้วย เช่น การดูแลงานบ้านครอบครัวระดับสูง, การเตรียมงานเลี้ยงในครอบครัวขนาดใหญ่, ผู้ช่วยส่วนตัว, การศึกษาปฐมวัย, การพยาบาลและติวเตอร์สอนหนังสือ หรือแม้กระทั่งความรู้ที่ซับซ้อนกว่านั้น ฉันได้รับปริญญาเอกสอง แล้วก็ ……. ” เวร่าลังเลสักพักก่อนจะเริ่มแนะนำตัว

  ไป๋อี้สังเกตเห็นแล้วว่า แม้ว่ารูปลักษณ์ของผู้หญิงทั้งสองจะแตกต่างจากความเป็นมนุษย์มากเนื่องจากการผสมผสานของยีนทางชีววิทยาอื่น ๆ แต่พวกเธอก็นั่งด้วยท่าทางที่สงบเสงี่ยม ในเวลานี้หลังจากได้ยินคำแนะนำตัวของเวร่าแล้ว ทุกคนก็ต้องตกใจมากขึ้น บุคคลผู้นี้ในตอนที่นิวซีแลนด์ยังสงบสุขเธอเป็นแม่แบบในสังคมชนชั้นสูงที่สมบูรณ์แบบ

  “ก่อนหน้านี้พวกเรารออยู่ในลานกว้างที่ทีมของคุณตั้งอยู่ อันที่จริงเราเห็นป้ายประกาศ ดูเหมือนว่าคุณกำลังมองหาครูอยู่ ฉันคิดว่าฉันน่ามีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับตำแหน่งนี้ อย่างไรก็ตามฉันต้องบอกก่อนว่าฉันต้องการอยู่กับนักเรียนของฉันด้วย ลอเทียร์ และเราไม่มีความสามารถในการต่อสู้มากนัก” เวร่าชี้ไปที่เด็กผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า

  “หนูเป็นนักเรียนของครูเวร่า ลอเทียร์” หญิงสาวยืนขึ้นอย่างมีสง่าราศี

  นักเรียนของเวร่า เมื่อทุกคนนึกย้อนถึงการแนะนำตัวของเวร่า พวกเขาก็สันนิษฐานได้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้น่าจะเคยเป็นลูกของตระกูลสูงศักดิ์มาก่อน เวร่าแนะนำตัวเองด้วยวิธีนี้และเห็นได้ชัดว่าตกลงรับคำเชิญของไป๋อี้ เธอเลือกที่จะเข้าร่วมทีม ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเธอที่จะร่วมกันกับนักเรียนของเธอต่อสู้มาจนถึงตอนนี้ หากสามารถเลือกทีมที่ดีได้เธอก็ควรเข้าร่วมกับทีมนั้น ซึ่งทีมไหนจะเหมาะสมไปกว่าทีมของไป๋อี้อีกล่ะ

  แม้ว่าจะน่าเสียดายที่เธอไม่มีความสามารถในการต่อสู้ แต่ไป๋อี้ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นนัก ทุกอย่างสามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ ไป๋อี้ให้ความสำคัญกับการแนะนำตัวครั้งก่อนของเวร่ามากกว่า การศึกษาปฐมวัย การพยาบาล และติวเตอร์ ซึ่งความสามารถเหล่านี้ช่วยเขาได้มากทีเดียว

  โม่โม่ถึงกับหน้าถอดสี มันจบแล้ว เธอไม่มีทางขี้เกียจได้อีกแล้ว!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 136 ยืนยันสมาชิก

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 136 ยืนยันสมาชิก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หลังจากที่เด็กสาวแกะน้อยพันผ้าพันแผลให้เรย์มอนด์แล้วไป๋อี้ก็โบกมือให้กับวูล์ฟ จากนั้นวูล์ฟและเฮลัวส์ก็พาเรย์มอนด์ไปยังทีมของพวกเขา ไป๋อี้เดินนำหน้าไปคนเดียวท่ามกลางดวงตาที่กระตือรือร้นและสอดส่องรอบตัวเขา

  ไม่มีทาง ตอนนี้ระดับขั้นที่มนุษย์กลายพันธุ์เกรงกลัวมากที่สุดคืออะไร?

  ระยะดุร้าย!

  ใคร ๆ ต่างก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อครู่นี้ตอนที่เรย์มอนด์เข้าสู่ระยะดุร้ายอย่างสมบูรณ์ ทุกคนต่างนึกว่าคงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการปราบเขา ถ้าหากมีใครทำผิดอาจทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นได้ อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนคิดว่ามันจะต้องเกิดความโกลาหลเป็นแน่ ทันใดนั้นเรย์มอนด์ที่วิ่งปรี่ไปหาไป๋อี้ก็กลับหลับไปซะอย่างนั้น เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่ตรงข้ามต่อหน้าไป๋อี้ ความสงสัยในใจของพวกเขายิ่งทวีมากขึ้น อย่างไรก็ตามพวกเขาอยู่ห่างออกมาดังนั้นพวกเขาจึงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในสายตาของไป๋อี้ได้อย่างชัดเจน

  “หลีกทางหน่อยครับ ขอบคุณนะ” ไป๋อี้พูดกับคนตรงหน้า

  รอยยิ้มและการแสดงออกที่สงบทำให้ผู้คนตรงหน้าไป๋อี้ก้าวถอยออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตามกลุ่มคนยังคงล้อมรอบเขาอยู่ จนในที่สุดด้วยความสงสัยที่มีทำให้อดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “ขอโทษนะ เมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นคุณสยบเรย์มอนด์ที่อยู่ในสภาวะดุร้ายได้อย่างไร”

  “ผมจะตอบคำถามนี้กับทุกคนในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้” ไป๋อี้ยิ้ม

  “ไม่กี่วันหลังจากนี้?”

  “ใช่!” ไป๋อี้ได้เจรจากับแกรี่แล้ว อีกไม่กี่วันเขาจะมาเพื่อกระตุ้นให้มนุษย์กลายพันธุ์ทุกคนฝึกฝนอย่างหนักด้วยตัวเองและค้นหาวิธีที่จะกลับสู่โลกปกติที่สุดแสนจะเลวร้ายนี้ พวกเขาต้องได้รับชีวิตที่มั่นคงในนิวซีแลนด์แห่งนี้ โดยที่ไม่มีความสุ่มเสี่ยงเหมือนเช่นปัจจุบันที่คุณอาจจะตายได้ทุกเมื่อ

  “อ๋า …… คุณคือไป๋อี้!”

  ทันใดนั้นก็มีคนจากฝูงชนร้องเรียกขึ้นมา เสียงนี้ทำให้ผู้คนรอบข้างตกตะลึงทันที ทันใดนั้นพวกเขาก็คึกคักเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันใหญ่ ไป๋อี้ นี่คือคนที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลง มีหรือที่ทุกคนจะไม่ฉงนสนเท่ห์ในตัวเขา ในเวลานี้ผู้คนเพิ่งตระหนักรู้ว่าชื่อของไป๋อี้นั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว แต่เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นไป๋อี้ตัวจริงมาก่อน พวกเขาจึงจำไป๋อี้ไม่ได้

  “ใช่ ผมชื่อไป๋อี้” ไป๋อี้พยักหน้า ไม่น่าแปลกใจที่ใครหลายคนจะรู้จักเขา มิฉะนั้นชื่อเสียงของไป๋อี้จะมาจากไหนล่ะ หลังจากที่ไป๋อี้ยอมรับ เขาก็แยกจากฝูงชนและเดินไปยังตำแหน่งพื้นที่ของทีมที่เขาเคยนั่งเฝ้ามาก่อนหน้านี้

  ผู้คนรอบข้างติดตามพวกไป๋อี้ก่อนจะพบกับป้ายที่แขวนอยู่บนเสาด้านนอกสุด ทีมของไป๋อี้กำลังสรรหาสมาชิกในทีมจริง ๆ ดังนั้นการต่อสู้กับเรย์มอนด์ครั้งก่อนนี้จึงเป็นการทดสอบประสิทธิภาพการต่อสู้ของเรย์มอนด์ ฝูงชนที่คิดเรื่องนี้ได้ต่างก็เข้ามารวมตัวกันทันทีและต้องการถามไป๋อี้ว่าเขาต้องการรับสมัครคนอีกหรือไม่ ไม่ว่าในกรณีใดการต่อสู้ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสมกับเป็นทีมของไป๋อี้จริงๆ ซึ่งนั่นจึงเป็นที่น่าดึงดูดกว่าทีมอื่น ๆ

  “หัวหน้าไป๋อี้ คุณยังรับสมัครคนอยู่หรือเปล่า?”

  “ไม่แล้วล่ะ เรามีสมาชิกเพียงพอแล้ว เรย์มอนด์และสองคนนี้” กลุ่มของไป๋อี้กลับไปที่ทีมเพียงเพื่อมาพบกับผู้หญิงสองคนที่รออยู่ที่นี่ แน่นอนว่าถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงก็ตาม แต่ตอนนี้เพียงแค่สามารถแยกแยะเพศได้โดยตรงก็นับว่าเป็นเรื่องดีแล้ว อย่าคาดหวังว่าพวกเธอจะสะสวยถึงเพียงนั้นเลย

  ไป๋อี้ชี้ไปที่สองคนนี้และพูดกับฝูงชนด้านนอก ในตอนนี้ผู้หญิงคนหนึ่งในสองคนนั้นยังคงหยอกล้อเล่นกับพูพูอยู่ หลังจากได้ยินสิ่งที่ไป๋อี้พูด เธอก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะ ดูเหมือนว่าเธอยังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

  “พูพู ลุกขึ้นมาได้แล้ว ไปกันเถอะ กลับที่พักกัน”

  ไป๋อี้พยักหน้าให้ทั้งสองคน จากนั้นเขาก็เตะก้นเจ้าพูพู คราวนี้ถึงแม้ว่ามันจะขี้เกียจเพียงใด แต่มันก็รู้ว่ามันไม่สามารถหลับตรงนี้ต่อไปได้อีกแล้ว มันจึงตื่นขึ้นอย่างเฉื่อยชา ในความเป็นจริงไป๋อี้ไม่รู้ว่าผู้หญิงสองคนนี้เป็นใคร แต่ตัวเขาได้รับการยอมรับจากฝูงชนแล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถคัดเลือกผู้สมัครอย่างเงียบ ๆ ได้อีก อย่างไรก็ตามทั้งสองคนนี้คงจะเข้ามาสอบถามในช่วงเวลาที่เขาเดินออกไปแล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดจากโชคชะตาทั้งสิ้น

  เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงทั้งสองคนนี้ยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่พวกเธอก็รู้จากฝูงชนรอบข้างว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอคือไป๋อี้ และพวกเธอก็กลายเป็นเพื่อนร่วมทีมของไป๋อี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  สิ่งนี้แตกต่างจากที่พวกเธอคิดมาก่อน?

  อย่างไรก็ตามทั้งสองก็ไม่ปฏิเสธ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรไป๋อี้ก็มีชื่อเสียงที่ดีมากในหมู่มนุษย์กลายพันธุ์ พวกเธอโชคดีจริง ๆ ที่ถูกไป๋อี้รับเข้าทีมมาโดยบังเอิญ ดังนั้นช่วงนี้ก็คงต้องขอติดตามไป๋อี้และเพื่อน ๆ ไปก่อน หญิงสาวผู้มีวุฒิภาวะมากกว่าหยุดหญิงสาวอีกคนไม่ให้พยายามพูดอะไรบางอย่างออกมาและเดินตามทีมไป๋อี้ไปที่ลานเล็ก ๆ อย่างเงียบ ๆ

  ในเวลานี้แกรี่ก็ได้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ จากนั้นเขาก็เงียบขรึมลงเล็กน้อยพลางมองไปยังผู้หญิงที่ทำความเคารพต่อหน้าเขาอย่างสงบนิ่ง

  “เธอออกไปเถอะ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอที่นี่” ฉันควรคิดให้ได้เร็วกว่านี้ ไป๋อี้และพวกมาที่นี่เพื่อเลือกเพื่อนร่วมทีม แต่น่าเสียดายจริง ๆ ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้อีกนิดล่ะก็ บางทีอาจจะจัดหาคนให้เข้าทีมของไป๋อี้ได้ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดอย่างยิ่งว่าไป๋อี้จะรีบร้อนในการเลือกผู้สมัครเข้าทีมถึงเพียงนี้ เรย์มอนด์และผู้หญิงสองคนนั้นกลับถูกยอมรับเข้ากลุ่มโดยบังเอิญ

  ในขณะนี้ไป๋อี้เห็นมัลวีย์ยืนอยู่ที่ข้างถนน

  “มัลวีย์ไปกันเถอะ จะไม่ไปกับพวกเราเหรอ” ไป๋อี้พูดกับมัลวีย์

  เมื่อมัลวีย์ได้ยินเสียงของไป๋อี้ เขาก็มองไปที่ไป๋อี้และลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินไปหาไป๋อี้และทีมอย่างแน่วแน่ ในที่สุดไป๋อี้ก็เผยรอยยิ้มออกมา แม้ว่าการมีชื่อเสียงในหมู่มนุษย์กลายพันธุ์มักจะมีเรื่องยุ่งยากอยู่บ้าง แต่บางครั้งมันก็มีประโยชน์ ตัวอย่างเช่นตอนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขานั้นคือไป๋อี้ มัลวีย์อาจจะไม่อยากติดตามเขามาก็ได้

  ระหว่างทางคนอื่น ๆ ยังคงสงสัยเกี่ยวกับไป๋อี้และทีมอยู่ ผู้คนรุมล้อมเบียดเสียดกันไปมาจนกระทั่งไป๋อี้และพรรคพวกเข้าไปในบ้านของทีมที่แยกออกมา พวกเขาถึงได้แยกย้ายกันออกไป อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาจะแยกย้ายกันไปแล้ว แต่การพูดคุยเกี่ยวกับไป๋อี้ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะสงบลงแต่อย่างใด ไม่ว่าจะพูดอย่างไรนี่คือไป๋อี้ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลของเซลล์ดัดแปลง นอกจากนี้ยังมีคำถามที่ไป๋อี้พูดว่าจะตอบภายในไม่กี่วันนี้อีก เรื่องที่ว่าทำให้เรย์มอนด์สงบลงได้อย่างไร นั่นหมายความว่าไป๋อี้กำลังจะประกาศอะไรบางอย่างอย่างนั้นหรือ?

  เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่พวกไป๋อี้เป็นกังวลใจ

  กลุ่มคนรวมตัวกันที่เต็นท์หลังใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง มัลวีย์และผู้หญิงทั้งสองไม่ได้พูดอะไรและดูเหมือนจะมีความกังวลเล็กน้อย ในเวลานี้ไป๋อี้จึงกล่าวทักทายทุกคนที่นั่งลงตามอัธยาศัย จากนั้นจึงเริ่มพูดขึ้น

  “ผมคือไป๋อี้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญไปหน่อย แต่บางครั้งการพบกันก็เป็นเรื่องของโชคชะตาตอนนี้ผมต้องการเชิญคุณเข้าร่วมทีม หากมีคำถามใด ๆ ก็ถามได้เลย” ไป๋อี้พูดกับทั้งสาม สำหรับเรย์มอนด์ผู้ชายคนนี้ยังคงหลับสนิทอยู่ แน่นอนว่ามันไม่สำคัญสำหรับเขา แต่เนื่องจากเขาพ่ายแพ้ให้ไป๋อี้เกรงว่าเขาคงวิ่งหนีไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ

  “คุณคือไป๋อี้?”

  “ใช่ ผมเคยพูดไปแล้วครั้งหนึ่ง”

  “คุณยังไม่ถามเลยว่าเราเป็นใคร คุณก็เชิญพวกเราเข้าร่วมทีมแล้วเหรอ?” ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าถามขึ้น

  “ผมรู้ว่านี่เป็นความประมาท แต่ตอนนี้ทุกทีมก็เลือกเพื่อนร่วมทีมแบบนี้ มันขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์โดยสิ้นเชิง ท้ายที่สุดมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเวลาให้ทุกคนทำความรู้จักกันก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเชิญมาเป็นเพื่อนร่วมทีมหรือไม่ และผมก็เชื่อในสิ่งนั้นว่าพวกเราสามารถเป็นเพื่อนร่วมทีมกันได้” ไป๋อี้พยักหน้า

  “ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ ฉันไม่เชื่อในสิ่งนั้น”

  “ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ผมคิดว่าสามารถเป็นเพื่อนร่วมทีมกับพวกคุณได้ มันไม่ใช่วิสัยทัศน์ของผม แต่เป็นพูพู” ไป๋อี้ชี้ไปที่เจ้าหมูอ้วนฉุ “ตอนที่คุณรออยู่ที่นั่น ตอนนั้นคุณกำลังหยอกเล่นอยู่กับพูพู อย่าดูแต่ท่าทางขี้เกียจเฉื่อยชาของมันนะ ไหวพริบของมันดีที่สุดในทีม ถ้ามันไม่คิดว่าพวกคุณดูไม่เลวทีเดียว พวกคุณก็คงจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับมันหรอก” ไป๋อี้อธิบายอย่างช้าๆ

  ทุกคนมองไปที่พูพูด้วยความประหลาดใจ มันยากที่จะเชื่อ หมูอ้วนตัวนี้น่ะหรือ?

  แต่นี่คือความจริง เดิมที่มันอาจจะดูเป็นหมูงี่เง่าโง่เขลาที่สุด แต่แท้จริงแล้วมันเป็นหมูที่มีไหวพริบดีที่สุดในทีม ซึ่งนั่นราวกับว่ามันเป็นคนแรกที่ตอบสนองต่อสิ่งใด ๆ เสมอ

  “แล้วพวกคุณหมายความว่าอย่างไร พวกคุณต้องการเข้าร่วมทีมของเราหรือไม่” ไป๋อี้ถาม

  “ฉันชื่อเวร่า ฉันเคยเป็นครูส่วนตัวของตระกูลผู้ดีผู้สูงศักดิ์ ฉันมีหน้าที่รับผิดชอบสอนเรื่องมารยาทให้กับลูกของตระกูลนั้น แต่ที่จริงฉันยังเก่งในเรื่องอื่น ๆ ด้วย เช่น การดูแลงานบ้านครอบครัวระดับสูง, การเตรียมงานเลี้ยงในครอบครัวขนาดใหญ่, ผู้ช่วยส่วนตัว, การศึกษาปฐมวัย, การพยาบาลและติวเตอร์สอนหนังสือ หรือแม้กระทั่งความรู้ที่ซับซ้อนกว่านั้น ฉันได้รับปริญญาเอกสอง แล้วก็ ……. ” เวร่าลังเลสักพักก่อนจะเริ่มแนะนำตัว

  ไป๋อี้สังเกตเห็นแล้วว่า แม้ว่ารูปลักษณ์ของผู้หญิงทั้งสองจะแตกต่างจากความเป็นมนุษย์มากเนื่องจากการผสมผสานของยีนทางชีววิทยาอื่น ๆ แต่พวกเธอก็นั่งด้วยท่าทางที่สงบเสงี่ยม ในเวลานี้หลังจากได้ยินคำแนะนำตัวของเวร่าแล้ว ทุกคนก็ต้องตกใจมากขึ้น บุคคลผู้นี้ในตอนที่นิวซีแลนด์ยังสงบสุขเธอเป็นแม่แบบในสังคมชนชั้นสูงที่สมบูรณ์แบบ

  “ก่อนหน้านี้พวกเรารออยู่ในลานกว้างที่ทีมของคุณตั้งอยู่ อันที่จริงเราเห็นป้ายประกาศ ดูเหมือนว่าคุณกำลังมองหาครูอยู่ ฉันคิดว่าฉันน่ามีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับตำแหน่งนี้ อย่างไรก็ตามฉันต้องบอกก่อนว่าฉันต้องการอยู่กับนักเรียนของฉันด้วย ลอเทียร์ และเราไม่มีความสามารถในการต่อสู้มากนัก” เวร่าชี้ไปที่เด็กผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า

  “หนูเป็นนักเรียนของครูเวร่า ลอเทียร์” หญิงสาวยืนขึ้นอย่างมีสง่าราศี

  นักเรียนของเวร่า เมื่อทุกคนนึกย้อนถึงการแนะนำตัวของเวร่า พวกเขาก็สันนิษฐานได้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้น่าจะเคยเป็นลูกของตระกูลสูงศักดิ์มาก่อน เวร่าแนะนำตัวเองด้วยวิธีนี้และเห็นได้ชัดว่าตกลงรับคำเชิญของไป๋อี้ เธอเลือกที่จะเข้าร่วมทีม ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเธอที่จะร่วมกันกับนักเรียนของเธอต่อสู้มาจนถึงตอนนี้ หากสามารถเลือกทีมที่ดีได้เธอก็ควรเข้าร่วมกับทีมนั้น ซึ่งทีมไหนจะเหมาะสมไปกว่าทีมของไป๋อี้อีกล่ะ

  แม้ว่าจะน่าเสียดายที่เธอไม่มีความสามารถในการต่อสู้ แต่ไป๋อี้ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นนัก ทุกอย่างสามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ ไป๋อี้ให้ความสำคัญกับการแนะนำตัวครั้งก่อนของเวร่ามากกว่า การศึกษาปฐมวัย การพยาบาล และติวเตอร์ ซึ่งความสามารถเหล่านี้ช่วยเขาได้มากทีเดียว

  โม่โม่ถึงกับหน้าถอดสี มันจบแล้ว เธอไม่มีทางขี้เกียจได้อีกแล้ว!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+