[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 99 แลกเปลี่ยนข้อมูล

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 99 แลกเปลี่ยนข้อมูล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หน่วยรบพิเศษกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำอาหารหลายอย่างก่อนหน้านี้ ทุกคนมองไปที่กลุ่มของไป๋อี้ด้วยความประหลาดใจ อาหารเหล่านี้มีจำนวนเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือวูล์ฟเป็นคนที่มีขนาดตัวใหญ่มาก แต่กลับไม่ใช่คนที่กินได้มากที่สุด ทว่ากลับเป็นไป๋อี้แทน  ไป๋อี้เคลื่อนไหวกินอาหารตลอดเวลา อาหารทั้งหมดถูกยัดเข้าปากของเขา อาหารที่มีอยู่เยอะแยะมากมายในไม่ช้าก็เข้าไปอยู่ในกระเพาะของทุกคนจนหมด

  อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่เลย แม้แต่โม่โม่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่สูงไม่ถึงหนึ่งเมตรก็กินมากกว่าที่พวกเขากินรวมกันเสียอีก

  อันที่จริงไม่เพียงแต่กลุ่มหน่วยรบพิเศษกลุ่มนี้ที่พบกับไป๋อี้เป็นครั้งแรกที่ประหลาดใจเท่านั้น แม้แต่กับวูล์ฟพวกเขาก็ยังรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

  ความอยากอาหารของไป๋อี้มันมากผิดปกติและเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกินมากขนาดนี้

  อย่างไรก็ตามทุกคนไม่ได้บอกความลับเกี่ยวกับร่างกายของไป๋อี้ พวกเขาไม่ต้องการบอกคนอื่นโดยไม่ได้คิดให้รอบคอบก่อน แน่นอนว่าทุกคนรู้ดีว่าไป๋อี้มีข้อพิจารณาของตัวเองและจะแจ้งให้คนกลุ่มนี้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในภายหลัง

  ในเวลาต่อมา ทุกคนก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง อาหารทั้งหมดถูกกินไปจนเกลี้ยง กลุ่มคนของบอสเตอร์มองไปที่ไป๋อี้ด้วยความประหลาดใจ เขาเป็นคนที่กินอาหารมากที่สุด ว่าแต่อาหารหายไปไหน? หลังจากกินเข้าไปมากขนาดนั้นท้องของไป๋อี้ก็ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยแต่ก็แทบจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง นี่เป็นเรื่องที่ไม่ปกติตามหลักวิทยาศาสตร์ อาหารเหล่านั้นสามารถบรรจุในถังได้หลายถังเลยทีเดียวนะ

  มีแต่ไป๋อี้เท่านั้นที่รู้ มันเร็วเกินไป!

  ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปจริง ๆ ทันทีที่อาหารและน้ำเหล่านั้นเข้าสู่กระเพาะอาหารจะถูกย่อยสลายและเปลี่ยนเป็นพลังงานพิเศษ การเปลี่ยนรูปนี้มีประสิทธิภาพและเร็วกว่าความร้อนทางชีวภาพทั่วไป อาจเป็นเพราะร่างกายต้องการมันอย่างเร่งด่วน ไป๋อี้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเขาอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็กลืนก้อนไขมันเข้าไปอีก

  “พวกคุณกินแบบนี้มาตลอดเลยเหรอ?” ไอน่าถามด้วยความประหลาดใจ

  “ก็ประมาณนั้น แล้วคุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นในนิวซีแลนด์?” ไป๋อี้ถาม

  “ไวรัสลึกลับถูกผลิตขึ้นในนิวซีแลนด์ซึ่งจะทำให้สิ่งมีชีวิตผสานรวมยีนเข้าด้วยกันและกลายเป็นสัตว์ดุร้าย ปัจจุบันสิ่งมีชีวิตปกติในนิวซีแลนด์มีไม่มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่กลายเป็นสัตว์ประหลาดกันหมดแล้ว” ไอน่ากล่าวขณะที่มองไปยังพวกไป๋อี้ เห็นได้ชัดว่าไป๋อี้และคนในทีมเป็นสัตว์ประหลาดอย่างที่ไอน่าพูด

  “คำอธิบายจากโลกภายนอกคือไวรัสลึกลับอย่างนั้นเหรอ?” แม้ว่าจะรู้มานานแล้วว่าประเทศเหล่านั้นคงจะไม่บอกเหตุผลที่แท้จริงกับผู้คน แต่ไป๋อี้ก็ยังหัวเราะเยาะออกมาหลังจากที่พวกเขาได้ยินดังนั้น

  “ใช่ มันคือไวรัสลึกลับ ทำไมเหรอ?”

  เมื่อได้ยินคำถามของไอน่า ไป๋อี้ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแค่โบกมือให้เมย์ริส ทันใดนั้นเมย์ริสก็หยิบสมุดบันทึกหนังเล่มหนาออกมา ข้างต้นได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องและข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงตั้งแต่ระยะแรกเริ่มไปจนถึงระยะกลายพันธุ์อย่างผิดปกติ สิ่งเลวร้ายเหล่านี้เดิมทีไป๋อี้ตั้งใจจะเปิดเผยให้ทุกคนที่เขาพบเจอระหว่างทาง ใช่ ไป๋อี้ไม่เคยคิดที่จะเก็บเรื่องทั้งหมดนี้ไว้เป็นความลับ

  ร่างแม่แบบเคยขอให้ไป๋อี้ทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไป๋อี้เองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร

  แต่อย่างน้อยเขาก็ควรบอกให้ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา!

  ยิ่งไปกว่านั้นไป๋อี้ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวแบบนั้น ในเมื่อเขาเก็บทุกอย่างไว้ในมือ ถ้าคิดว่าทุกอย่างทำเพื่อตัวเองเท่านั้น ทุกอย่างก็คงจบกันและผลลัพธ์คงเหลือเพียงความว่างเปล่า เกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงนั้น สิ่งมีชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการเป็นหัวข้อที่ซับซ้อนมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการทั้งหมดที่จะสรุปเส้นทางวิวัฒนาการที่ปลอดภัยของตนออกมา

  นอกเหนือจากสิ่งอื่น ๆ มาเริ่มพูดถึงเพียงแค่สัตว์และพืชในระยะดุร้าย LV1-2 ที่ต้องทำการสงบจิตใจให้ได้ ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ไม่สามารถลองทำทั้งหมดด้วยตัวเองได้ จะเป็นการดีที่สุดถ้าค่อย ๆ สรุปโดยมนุษย์วิวัฒนาการและสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการแล้วทั้งหมดในแต่ละประเภท

  โดยสรุป แม้ว่าไป๋อี้จะเก่งกว่าคนส่วนใหญ่ แต่เขาก็รู้ข้อจำกัดของตัวเอง ซึ่งเขาไม่ได้ทำราวกับว่าเขารู้ทุกอย่างและทำได้ทุกอย่าง

  บอสเตอร์หยิบสมุดบันทึกอย่างฉงนและจากนั้นก็เปิดดูอย่างระมัดระวัง ยิ่งเขาอ่านดูเท่าไหร่ สีหน้าของบอสเตอร์ก็ยิ่งจริงจังมากขึ้น คนอื่น ๆ ในหน่วยรบพิเศษก็ดูมันเช่นกัน จากนั้นทุกคนก็ต้องประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

  “นี่คือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์เหรอ?”

  “ใช่!”

  “พวกนายแน่ใจได้ยังไง?”

  “เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่” ไป๋อี้เลิกคิ้วเล็กน้อยและไม่พูดอะไรมาก

  “เราจะไม่ถามว่าทำไมคุณถึงมาที่นี่  แต่เราขอเข้าใจว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไรได้ไหม ถ้ามันไม่มากเกินไป แล้วฉันจะบอกเคล็ดลับในการใช้ชีวิตคุณในนิวซีแลนด์ในปัจจุบันนี้ให้” ไป๋อี้กล่าวขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนได้อ่านข้อมูลแล้วก็พูดออกไปด้วยจิตใจที่สั่นไหว

  “ถ้าเป็นแค่เกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกล่ะก็ ได้สิ” ก่อนที่บอสเตอร์จะทันตอบอะไร ไอน่าก็ตอบตกลงไปแล้ว

  “แล้วสถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”

  “ตั้งแต่นิวซีแลนด์เปลี่ยนไปเมื่อกว่า 2 เดือนที่แล้ว ชายฝั่งของประเทศต่าง ๆ ก็ตื่นตัวอย่างมาก แต่ขณะนี้ออสเตรเลียตื่นตัวมากที่สุด ชายฝั่งทางตอนใต้ทั้งหมดอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก จากมุมมองในปัจจุบันแม้ว่าเซลล์ดัดแปลงจะมีความสามารถในการติดเชื้อใหม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามศพไม่สามารถขยับได้ ดังนั้นมันจึงค่อนข้างง่ายที่จะแยกแยะ สถานการณ์โดยพื้นฐานยังอยู่ภายใต้การควบคุมได้” บอสเตอร์เห็นว่าไอน่าเองก็เห็นด้วยที่จะบอกพวกเขา อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความลับซะทีเดียว

  “เฉพาะออสเตรเลียเหรอ?”

  “แน่นอนว่าไม่ แต่มีเพียงออสเตรเลียเท่านั้นที่อยู่ใกล้ที่สุดและนิวซีแลนด์อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก แม้ว่าเซลล์ดัดแปลงดูเหมือนจะแพร่กระจายในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นอย่างรวดเร็วในเวลาอันใกล้ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าใครบางคนจะกินสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์ดัดแปลงอยู่และติดเชื้อโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ยังสามารถควบคุมได้อย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดนี่ไม่ใช่ไวรัสซอมบี้มันจะไม่แพร่กระจายไปตามศพและจะไม่สูญเสียความรู้สึกนึกคิดของตน อันที่จริงมันคล้ายกับโรคติดต่อและมันก็ไม่ยากที่จะจัดการ” ไอน่าอธิบายรายละเอียด .

  โรคติดต่อเหรอ?

  เมื่อพูดถึงเรื่องนี้นอกเหนือจากความสามารถในการผสานรวมยีนของเซลล์ดัดแปลงแล้ว การพูดถึงการติดเชื้อดูเหมือนว่ามันจะคล้ายกับโรคติดเชื้อทั่วไปจริง ๆ และดูเหมือนจะไม่ใช่โรคติดต่อที่น่ากลัว

  “กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ นอกจากนิวซีแลนด์ก็ไม่มีประเทศอื่น ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปมากนักสินะ?”

  “อื้ม สำหรับสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในนิวซีแลนด์ คุณต้องรู้ว่าไม่มีข่าวจากนิวซีแลนด์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเลยและทุกคนต่างก็มีข้อสงสัย” ไอน่ากล่าว ไม่ใช่แค่คนส่วนใหญ่แต่เกือบทุกคน แม้กระทั่งพวกเขา เมื่อปฏิบัติภารกิจนี้ พวกเขามีสิทธิ์ที่จะเลือกด้วยตัวเองเช่นกัน แต่พวกเขาก็เลือกที่จะมาที่นี่เพราะความอยากรู้แจ้งเห็นจริง

  “แบบนี้นี่เอง” ไป๋อี้พยักหน้า ดูเหมือนว่าทุกประเทศจะเตรียมพร้อมมาก่อนแล้ว

  “ยังไงซะ คุณรู้ไหม เรื่องที่มีคนออกไปจากนิวซีแลนด์ เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?” ไป๋อี้ถาม เมื่อเขาได้ยินคำถามนี้ ไป๋อี้เห็นว่าทั้งสองที่อยู่ตรงข้ามกันสงบนิ่งลงทันที มีเพียงร่างกายของไอน่าที่แข็งทื่อเล็กน้อย

  “ในเรื่องนี้ เราไม่รู้ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีใครบางคนในนิวซีแลนด์ออกไปจากที่นี่” ไอน่ากล่าวอย่างระมัดระวัง

  “ถ้าอย่างนั้นให้ฉันเปลี่ยนคำถาม ภายนอกแยกแยะการติดเชื้อเซลล์ดัดแปลงอย่างไร?”

  “ถูกจับไว้ และกักกันแยกไว้คนเดียว” เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอะไร

  การกักกัน รู้สึกว่ามันจะไม่ต่างอะไรกับร่างทดลองเลยนะ ไป๋อี้และคนอื่น ๆ รู้ดี ในกรณีนี้พวกเขาไม่สามารถออกจากนิวซีแลนด์ได้อย่างแน่นอนหลังจากออกไปคงจะไม่ส่งผลลัพธ์ดีแน่

  หลังจากนั้นทุกคนก็แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ไป๋อี้และเพื่อน ๆ รู้ข้อมูลเกี่ยวกับโลกภายนอกในขณะที่บอสเตอร์และคนในทีมถามข้อมูลเกี่ยวกับนิวซีแลนด์ มีการเปิดเผยและปกปิดระหว่างกันในบางเรื่อง แต่โดยทั่วไปการสื่อสารของทุกคนเป็นที่น่าพอใจพอสมควร อีกทั้งช่องว่างระหว่างพวกเขาก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายจากความตึงเครียดจากในตอนแรก ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามเรื่องน่าแปลกนั้นไม่น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการไม่สามารถสื่อสารกันได้อย่างมีเหตุผล

  ในความเป็นจริงมีภาพยนตร์สัตว์ประหลาดมากมายในโลกมนุษย์ พวกมันสามารถพูดได้อีกทั้งมีแฟนคลับติดตามเรื่องราวของสัตว์ประหลาดอีกมากมายไม่ใช่เหรอ

  ตั้งแต่ต้นจนจบไป๋อี้ไม่ได้ถามว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงมาที่นิวซีแลนด์

  บอสเตอร์ดูเหมือนจะพอใจกับการเอาใจใส่ของไป๋อี้ ถ้าไป๋อี้ถามขึ้นมาจริง ๆ ทั้งสองฝ่ายคงจะไม่สามารถเข้ากันได้อย่างกลมกลืนเหมือนตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นไป๋อี้และเพื่อน ๆ ยังได้เปิดเผยหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งพวกเขาไม่แน่ใจในความถูกต้องของสิ่งเหล่านี้ หากทั้งหมดเป็นความจริง เรื่องนี้คงเป็นบุญคุณจากน้ำใจเพื่อนมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญมากและพวกเขาเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีกว่าคนทั่วไป

  อย่างไรก็ตาม เขารู้ความคิดของไป๋อี้ได้อย่างไร ตอนแรกสิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อบอกมนุษย์ที่มีวิวัฒนาการทั้งหมดและปล่อยให้มนุษย์ที่มีวิวัฒนาการทุกคนหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไป บางทีไป๋อี้และเพื่อน ๆ อาจต้องการข้อมูลที่สรุปโดยคนอื่นในอนาคตเพิ่มเติม

  ในวันรุ่งขึ้นทีมหน่วยรบพิเศษนี้จะลาไป๋อี้และพวกไปและเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจของพวกเขา

  ……

  “ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ คนกลุ่มนั้นสมองตายแล้วหรือไงพวกเขาจะทำอะไรในเวลานี้พวกเขาไม่กลัวความตายบ้างเหรอ?” วูล์ฟอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างโกรธเคืองเมื่อเห็นกลุ่มพวกเขาเดินจากไป

  “พวกเขาเป็นทหารและพวกเราก็เป็นแค่คนธรรมดา” ไป๋อี้กล่าว

  แน่นอนว่าหน่วยรบพิเศษเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนโดยรัฐ พวกเขาจะไม่ล้มเลิกภารกิจเพียงเพราะว่าเฮลิคอปเตอร์ถูกทำลาย อย่างน้อยห้าคนในทีมก็รอดชีวิต บางทีในสายตาของคนเหล่านี้ คนห้าคนสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมากมาย

  “เอาล่ะ พวกเขาไปแล้ว ให้ฉันบอกทุกคนว่าเมื่อวานฉันรู้สึกยังไงบ้าง” ไป๋อี้ชี้ไปที่ดวงตาของเขาและบอกทุกคนเรื่องความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับพลังงานพิเศษเมื่อวานนี้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถระดมพลังได้อย่างแข็งขัน แต่หากใช้ความสามารถบางอย่างกระตุ้นจนสามารถระดมพลังได้ สำหรับทุกคนแล้วนั่นมันไม่ใช่การพัฒนาเพียงเล็กน้อยเลย

        หลังจากไป๋อี้บอกวูล์ฟ เขาก็คว้าง้าวขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะกลั้นแรงไว้

        ท่าทางนั่งยอง ๆ นี้ทำให้ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที

  แต่ทว่าวูล์ฟกลั้นไว้ได้ชั่วขณะหนึ่งและเขาก็ไม่รู้สึกถึงอะไรทั้งนั้น รวมถึงเมย์ริสและคนอื่น ๆ ก็กำลังค่อย ๆ คิดว่าจะระดมพลังงานพิเศษได้อย่างไร? เฮลัวส์มองเข้าไปในดวงตาของไป๋อี้จากนั้นก็นึกถึงเบ็นสันในสถาบันวิจัยดูเหมือนว่า …… เขาจะไม่ได้ใช้กำลังเลย!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 99 แลกเปลี่ยนข้อมูล

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 99 แลกเปลี่ยนข้อมูล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หน่วยรบพิเศษกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำอาหารหลายอย่างก่อนหน้านี้ ทุกคนมองไปที่กลุ่มของไป๋อี้ด้วยความประหลาดใจ อาหารเหล่านี้มีจำนวนเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือวูล์ฟเป็นคนที่มีขนาดตัวใหญ่มาก แต่กลับไม่ใช่คนที่กินได้มากที่สุด ทว่ากลับเป็นไป๋อี้แทน  ไป๋อี้เคลื่อนไหวกินอาหารตลอดเวลา อาหารทั้งหมดถูกยัดเข้าปากของเขา อาหารที่มีอยู่เยอะแยะมากมายในไม่ช้าก็เข้าไปอยู่ในกระเพาะของทุกคนจนหมด

  อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่เลย แม้แต่โม่โม่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่สูงไม่ถึงหนึ่งเมตรก็กินมากกว่าที่พวกเขากินรวมกันเสียอีก

  อันที่จริงไม่เพียงแต่กลุ่มหน่วยรบพิเศษกลุ่มนี้ที่พบกับไป๋อี้เป็นครั้งแรกที่ประหลาดใจเท่านั้น แม้แต่กับวูล์ฟพวกเขาก็ยังรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

  ความอยากอาหารของไป๋อี้มันมากผิดปกติและเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกินมากขนาดนี้

  อย่างไรก็ตามทุกคนไม่ได้บอกความลับเกี่ยวกับร่างกายของไป๋อี้ พวกเขาไม่ต้องการบอกคนอื่นโดยไม่ได้คิดให้รอบคอบก่อน แน่นอนว่าทุกคนรู้ดีว่าไป๋อี้มีข้อพิจารณาของตัวเองและจะแจ้งให้คนกลุ่มนี้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในภายหลัง

  ในเวลาต่อมา ทุกคนก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง อาหารทั้งหมดถูกกินไปจนเกลี้ยง กลุ่มคนของบอสเตอร์มองไปที่ไป๋อี้ด้วยความประหลาดใจ เขาเป็นคนที่กินอาหารมากที่สุด ว่าแต่อาหารหายไปไหน? หลังจากกินเข้าไปมากขนาดนั้นท้องของไป๋อี้ก็ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยแต่ก็แทบจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง นี่เป็นเรื่องที่ไม่ปกติตามหลักวิทยาศาสตร์ อาหารเหล่านั้นสามารถบรรจุในถังได้หลายถังเลยทีเดียวนะ

  มีแต่ไป๋อี้เท่านั้นที่รู้ มันเร็วเกินไป!

  ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปจริง ๆ ทันทีที่อาหารและน้ำเหล่านั้นเข้าสู่กระเพาะอาหารจะถูกย่อยสลายและเปลี่ยนเป็นพลังงานพิเศษ การเปลี่ยนรูปนี้มีประสิทธิภาพและเร็วกว่าความร้อนทางชีวภาพทั่วไป อาจเป็นเพราะร่างกายต้องการมันอย่างเร่งด่วน ไป๋อี้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเขาอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็กลืนก้อนไขมันเข้าไปอีก

  “พวกคุณกินแบบนี้มาตลอดเลยเหรอ?” ไอน่าถามด้วยความประหลาดใจ

  “ก็ประมาณนั้น แล้วคุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นในนิวซีแลนด์?” ไป๋อี้ถาม

  “ไวรัสลึกลับถูกผลิตขึ้นในนิวซีแลนด์ซึ่งจะทำให้สิ่งมีชีวิตผสานรวมยีนเข้าด้วยกันและกลายเป็นสัตว์ดุร้าย ปัจจุบันสิ่งมีชีวิตปกติในนิวซีแลนด์มีไม่มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่กลายเป็นสัตว์ประหลาดกันหมดแล้ว” ไอน่ากล่าวขณะที่มองไปยังพวกไป๋อี้ เห็นได้ชัดว่าไป๋อี้และคนในทีมเป็นสัตว์ประหลาดอย่างที่ไอน่าพูด

  “คำอธิบายจากโลกภายนอกคือไวรัสลึกลับอย่างนั้นเหรอ?” แม้ว่าจะรู้มานานแล้วว่าประเทศเหล่านั้นคงจะไม่บอกเหตุผลที่แท้จริงกับผู้คน แต่ไป๋อี้ก็ยังหัวเราะเยาะออกมาหลังจากที่พวกเขาได้ยินดังนั้น

  “ใช่ มันคือไวรัสลึกลับ ทำไมเหรอ?”

  เมื่อได้ยินคำถามของไอน่า ไป๋อี้ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแค่โบกมือให้เมย์ริส ทันใดนั้นเมย์ริสก็หยิบสมุดบันทึกหนังเล่มหนาออกมา ข้างต้นได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องและข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงตั้งแต่ระยะแรกเริ่มไปจนถึงระยะกลายพันธุ์อย่างผิดปกติ สิ่งเลวร้ายเหล่านี้เดิมทีไป๋อี้ตั้งใจจะเปิดเผยให้ทุกคนที่เขาพบเจอระหว่างทาง ใช่ ไป๋อี้ไม่เคยคิดที่จะเก็บเรื่องทั้งหมดนี้ไว้เป็นความลับ

  ร่างแม่แบบเคยขอให้ไป๋อี้ทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไป๋อี้เองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร

  แต่อย่างน้อยเขาก็ควรบอกให้ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา!

  ยิ่งไปกว่านั้นไป๋อี้ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวแบบนั้น ในเมื่อเขาเก็บทุกอย่างไว้ในมือ ถ้าคิดว่าทุกอย่างทำเพื่อตัวเองเท่านั้น ทุกอย่างก็คงจบกันและผลลัพธ์คงเหลือเพียงความว่างเปล่า เกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงนั้น สิ่งมีชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการเป็นหัวข้อที่ซับซ้อนมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการทั้งหมดที่จะสรุปเส้นทางวิวัฒนาการที่ปลอดภัยของตนออกมา

  นอกเหนือจากสิ่งอื่น ๆ มาเริ่มพูดถึงเพียงแค่สัตว์และพืชในระยะดุร้าย LV1-2 ที่ต้องทำการสงบจิตใจให้ได้ ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ไม่สามารถลองทำทั้งหมดด้วยตัวเองได้ จะเป็นการดีที่สุดถ้าค่อย ๆ สรุปโดยมนุษย์วิวัฒนาการและสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการแล้วทั้งหมดในแต่ละประเภท

  โดยสรุป แม้ว่าไป๋อี้จะเก่งกว่าคนส่วนใหญ่ แต่เขาก็รู้ข้อจำกัดของตัวเอง ซึ่งเขาไม่ได้ทำราวกับว่าเขารู้ทุกอย่างและทำได้ทุกอย่าง

  บอสเตอร์หยิบสมุดบันทึกอย่างฉงนและจากนั้นก็เปิดดูอย่างระมัดระวัง ยิ่งเขาอ่านดูเท่าไหร่ สีหน้าของบอสเตอร์ก็ยิ่งจริงจังมากขึ้น คนอื่น ๆ ในหน่วยรบพิเศษก็ดูมันเช่นกัน จากนั้นทุกคนก็ต้องประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

  “นี่คือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์เหรอ?”

  “ใช่!”

  “พวกนายแน่ใจได้ยังไง?”

  “เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่” ไป๋อี้เลิกคิ้วเล็กน้อยและไม่พูดอะไรมาก

  “เราจะไม่ถามว่าทำไมคุณถึงมาที่นี่  แต่เราขอเข้าใจว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไรได้ไหม ถ้ามันไม่มากเกินไป แล้วฉันจะบอกเคล็ดลับในการใช้ชีวิตคุณในนิวซีแลนด์ในปัจจุบันนี้ให้” ไป๋อี้กล่าวขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนได้อ่านข้อมูลแล้วก็พูดออกไปด้วยจิตใจที่สั่นไหว

  “ถ้าเป็นแค่เกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกล่ะก็ ได้สิ” ก่อนที่บอสเตอร์จะทันตอบอะไร ไอน่าก็ตอบตกลงไปแล้ว

  “แล้วสถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”

  “ตั้งแต่นิวซีแลนด์เปลี่ยนไปเมื่อกว่า 2 เดือนที่แล้ว ชายฝั่งของประเทศต่าง ๆ ก็ตื่นตัวอย่างมาก แต่ขณะนี้ออสเตรเลียตื่นตัวมากที่สุด ชายฝั่งทางตอนใต้ทั้งหมดอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก จากมุมมองในปัจจุบันแม้ว่าเซลล์ดัดแปลงจะมีความสามารถในการติดเชื้อใหม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามศพไม่สามารถขยับได้ ดังนั้นมันจึงค่อนข้างง่ายที่จะแยกแยะ สถานการณ์โดยพื้นฐานยังอยู่ภายใต้การควบคุมได้” บอสเตอร์เห็นว่าไอน่าเองก็เห็นด้วยที่จะบอกพวกเขา อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความลับซะทีเดียว

  “เฉพาะออสเตรเลียเหรอ?”

  “แน่นอนว่าไม่ แต่มีเพียงออสเตรเลียเท่านั้นที่อยู่ใกล้ที่สุดและนิวซีแลนด์อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก แม้ว่าเซลล์ดัดแปลงดูเหมือนจะแพร่กระจายในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นอย่างรวดเร็วในเวลาอันใกล้ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าใครบางคนจะกินสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์ดัดแปลงอยู่และติดเชื้อโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ยังสามารถควบคุมได้อย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดนี่ไม่ใช่ไวรัสซอมบี้มันจะไม่แพร่กระจายไปตามศพและจะไม่สูญเสียความรู้สึกนึกคิดของตน อันที่จริงมันคล้ายกับโรคติดต่อและมันก็ไม่ยากที่จะจัดการ” ไอน่าอธิบายรายละเอียด .

  โรคติดต่อเหรอ?

  เมื่อพูดถึงเรื่องนี้นอกเหนือจากความสามารถในการผสานรวมยีนของเซลล์ดัดแปลงแล้ว การพูดถึงการติดเชื้อดูเหมือนว่ามันจะคล้ายกับโรคติดเชื้อทั่วไปจริง ๆ และดูเหมือนจะไม่ใช่โรคติดต่อที่น่ากลัว

  “กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ นอกจากนิวซีแลนด์ก็ไม่มีประเทศอื่น ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปมากนักสินะ?”

  “อื้ม สำหรับสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในนิวซีแลนด์ คุณต้องรู้ว่าไม่มีข่าวจากนิวซีแลนด์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเลยและทุกคนต่างก็มีข้อสงสัย” ไอน่ากล่าว ไม่ใช่แค่คนส่วนใหญ่แต่เกือบทุกคน แม้กระทั่งพวกเขา เมื่อปฏิบัติภารกิจนี้ พวกเขามีสิทธิ์ที่จะเลือกด้วยตัวเองเช่นกัน แต่พวกเขาก็เลือกที่จะมาที่นี่เพราะความอยากรู้แจ้งเห็นจริง

  “แบบนี้นี่เอง” ไป๋อี้พยักหน้า ดูเหมือนว่าทุกประเทศจะเตรียมพร้อมมาก่อนแล้ว

  “ยังไงซะ คุณรู้ไหม เรื่องที่มีคนออกไปจากนิวซีแลนด์ เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?” ไป๋อี้ถาม เมื่อเขาได้ยินคำถามนี้ ไป๋อี้เห็นว่าทั้งสองที่อยู่ตรงข้ามกันสงบนิ่งลงทันที มีเพียงร่างกายของไอน่าที่แข็งทื่อเล็กน้อย

  “ในเรื่องนี้ เราไม่รู้ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีใครบางคนในนิวซีแลนด์ออกไปจากที่นี่” ไอน่ากล่าวอย่างระมัดระวัง

  “ถ้าอย่างนั้นให้ฉันเปลี่ยนคำถาม ภายนอกแยกแยะการติดเชื้อเซลล์ดัดแปลงอย่างไร?”

  “ถูกจับไว้ และกักกันแยกไว้คนเดียว” เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอะไร

  การกักกัน รู้สึกว่ามันจะไม่ต่างอะไรกับร่างทดลองเลยนะ ไป๋อี้และคนอื่น ๆ รู้ดี ในกรณีนี้พวกเขาไม่สามารถออกจากนิวซีแลนด์ได้อย่างแน่นอนหลังจากออกไปคงจะไม่ส่งผลลัพธ์ดีแน่

  หลังจากนั้นทุกคนก็แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ไป๋อี้และเพื่อน ๆ รู้ข้อมูลเกี่ยวกับโลกภายนอกในขณะที่บอสเตอร์และคนในทีมถามข้อมูลเกี่ยวกับนิวซีแลนด์ มีการเปิดเผยและปกปิดระหว่างกันในบางเรื่อง แต่โดยทั่วไปการสื่อสารของทุกคนเป็นที่น่าพอใจพอสมควร อีกทั้งช่องว่างระหว่างพวกเขาก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายจากความตึงเครียดจากในตอนแรก ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามเรื่องน่าแปลกนั้นไม่น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการไม่สามารถสื่อสารกันได้อย่างมีเหตุผล

  ในความเป็นจริงมีภาพยนตร์สัตว์ประหลาดมากมายในโลกมนุษย์ พวกมันสามารถพูดได้อีกทั้งมีแฟนคลับติดตามเรื่องราวของสัตว์ประหลาดอีกมากมายไม่ใช่เหรอ

  ตั้งแต่ต้นจนจบไป๋อี้ไม่ได้ถามว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงมาที่นิวซีแลนด์

  บอสเตอร์ดูเหมือนจะพอใจกับการเอาใจใส่ของไป๋อี้ ถ้าไป๋อี้ถามขึ้นมาจริง ๆ ทั้งสองฝ่ายคงจะไม่สามารถเข้ากันได้อย่างกลมกลืนเหมือนตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นไป๋อี้และเพื่อน ๆ ยังได้เปิดเผยหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งพวกเขาไม่แน่ใจในความถูกต้องของสิ่งเหล่านี้ หากทั้งหมดเป็นความจริง เรื่องนี้คงเป็นบุญคุณจากน้ำใจเพื่อนมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญมากและพวกเขาเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีกว่าคนทั่วไป

  อย่างไรก็ตาม เขารู้ความคิดของไป๋อี้ได้อย่างไร ตอนแรกสิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อบอกมนุษย์ที่มีวิวัฒนาการทั้งหมดและปล่อยให้มนุษย์ที่มีวิวัฒนาการทุกคนหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไป บางทีไป๋อี้และเพื่อน ๆ อาจต้องการข้อมูลที่สรุปโดยคนอื่นในอนาคตเพิ่มเติม

  ในวันรุ่งขึ้นทีมหน่วยรบพิเศษนี้จะลาไป๋อี้และพวกไปและเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจของพวกเขา

  ……

  “ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ คนกลุ่มนั้นสมองตายแล้วหรือไงพวกเขาจะทำอะไรในเวลานี้พวกเขาไม่กลัวความตายบ้างเหรอ?” วูล์ฟอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างโกรธเคืองเมื่อเห็นกลุ่มพวกเขาเดินจากไป

  “พวกเขาเป็นทหารและพวกเราก็เป็นแค่คนธรรมดา” ไป๋อี้กล่าว

  แน่นอนว่าหน่วยรบพิเศษเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนโดยรัฐ พวกเขาจะไม่ล้มเลิกภารกิจเพียงเพราะว่าเฮลิคอปเตอร์ถูกทำลาย อย่างน้อยห้าคนในทีมก็รอดชีวิต บางทีในสายตาของคนเหล่านี้ คนห้าคนสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมากมาย

  “เอาล่ะ พวกเขาไปแล้ว ให้ฉันบอกทุกคนว่าเมื่อวานฉันรู้สึกยังไงบ้าง” ไป๋อี้ชี้ไปที่ดวงตาของเขาและบอกทุกคนเรื่องความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับพลังงานพิเศษเมื่อวานนี้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถระดมพลังได้อย่างแข็งขัน แต่หากใช้ความสามารถบางอย่างกระตุ้นจนสามารถระดมพลังได้ สำหรับทุกคนแล้วนั่นมันไม่ใช่การพัฒนาเพียงเล็กน้อยเลย

        หลังจากไป๋อี้บอกวูล์ฟ เขาก็คว้าง้าวขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะกลั้นแรงไว้

        ท่าทางนั่งยอง ๆ นี้ทำให้ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที

  แต่ทว่าวูล์ฟกลั้นไว้ได้ชั่วขณะหนึ่งและเขาก็ไม่รู้สึกถึงอะไรทั้งนั้น รวมถึงเมย์ริสและคนอื่น ๆ ก็กำลังค่อย ๆ คิดว่าจะระดมพลังงานพิเศษได้อย่างไร? เฮลัวส์มองเข้าไปในดวงตาของไป๋อี้จากนั้นก็นึกถึงเบ็นสันในสถาบันวิจัยดูเหมือนว่า …… เขาจะไม่ได้ใช้กำลังเลย!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 99 แลกเปลี่ยนข้อมูล

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 99 แลกเปลี่ยนข้อมูล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หน่วยรบพิเศษกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำอาหารหลายอย่างก่อนหน้านี้ ทุกคนมองไปที่กลุ่มของไป๋อี้ด้วยความประหลาดใจ อาหารเหล่านี้มีจำนวนเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือวูล์ฟเป็นคนที่มีขนาดตัวใหญ่มาก แต่กลับไม่ใช่คนที่กินได้มากที่สุด ทว่ากลับเป็นไป๋อี้แทน  ไป๋อี้เคลื่อนไหวกินอาหารตลอดเวลา อาหารทั้งหมดถูกยัดเข้าปากของเขา อาหารที่มีอยู่เยอะแยะมากมายในไม่ช้าก็เข้าไปอยู่ในกระเพาะของทุกคนจนหมด

  อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่เลย แม้แต่โม่โม่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่สูงไม่ถึงหนึ่งเมตรก็กินมากกว่าที่พวกเขากินรวมกันเสียอีก

  อันที่จริงไม่เพียงแต่กลุ่มหน่วยรบพิเศษกลุ่มนี้ที่พบกับไป๋อี้เป็นครั้งแรกที่ประหลาดใจเท่านั้น แม้แต่กับวูล์ฟพวกเขาก็ยังรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

  ความอยากอาหารของไป๋อี้มันมากผิดปกติและเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกินมากขนาดนี้

  อย่างไรก็ตามทุกคนไม่ได้บอกความลับเกี่ยวกับร่างกายของไป๋อี้ พวกเขาไม่ต้องการบอกคนอื่นโดยไม่ได้คิดให้รอบคอบก่อน แน่นอนว่าทุกคนรู้ดีว่าไป๋อี้มีข้อพิจารณาของตัวเองและจะแจ้งให้คนกลุ่มนี้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในภายหลัง

  ในเวลาต่อมา ทุกคนก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง อาหารทั้งหมดถูกกินไปจนเกลี้ยง กลุ่มคนของบอสเตอร์มองไปที่ไป๋อี้ด้วยความประหลาดใจ เขาเป็นคนที่กินอาหารมากที่สุด ว่าแต่อาหารหายไปไหน? หลังจากกินเข้าไปมากขนาดนั้นท้องของไป๋อี้ก็ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยแต่ก็แทบจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง นี่เป็นเรื่องที่ไม่ปกติตามหลักวิทยาศาสตร์ อาหารเหล่านั้นสามารถบรรจุในถังได้หลายถังเลยทีเดียวนะ

  มีแต่ไป๋อี้เท่านั้นที่รู้ มันเร็วเกินไป!

  ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปจริง ๆ ทันทีที่อาหารและน้ำเหล่านั้นเข้าสู่กระเพาะอาหารจะถูกย่อยสลายและเปลี่ยนเป็นพลังงานพิเศษ การเปลี่ยนรูปนี้มีประสิทธิภาพและเร็วกว่าความร้อนทางชีวภาพทั่วไป อาจเป็นเพราะร่างกายต้องการมันอย่างเร่งด่วน ไป๋อี้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเขาอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็กลืนก้อนไขมันเข้าไปอีก

  “พวกคุณกินแบบนี้มาตลอดเลยเหรอ?” ไอน่าถามด้วยความประหลาดใจ

  “ก็ประมาณนั้น แล้วคุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นในนิวซีแลนด์?” ไป๋อี้ถาม

  “ไวรัสลึกลับถูกผลิตขึ้นในนิวซีแลนด์ซึ่งจะทำให้สิ่งมีชีวิตผสานรวมยีนเข้าด้วยกันและกลายเป็นสัตว์ดุร้าย ปัจจุบันสิ่งมีชีวิตปกติในนิวซีแลนด์มีไม่มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่กลายเป็นสัตว์ประหลาดกันหมดแล้ว” ไอน่ากล่าวขณะที่มองไปยังพวกไป๋อี้ เห็นได้ชัดว่าไป๋อี้และคนในทีมเป็นสัตว์ประหลาดอย่างที่ไอน่าพูด

  “คำอธิบายจากโลกภายนอกคือไวรัสลึกลับอย่างนั้นเหรอ?” แม้ว่าจะรู้มานานแล้วว่าประเทศเหล่านั้นคงจะไม่บอกเหตุผลที่แท้จริงกับผู้คน แต่ไป๋อี้ก็ยังหัวเราะเยาะออกมาหลังจากที่พวกเขาได้ยินดังนั้น

  “ใช่ มันคือไวรัสลึกลับ ทำไมเหรอ?”

  เมื่อได้ยินคำถามของไอน่า ไป๋อี้ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแค่โบกมือให้เมย์ริส ทันใดนั้นเมย์ริสก็หยิบสมุดบันทึกหนังเล่มหนาออกมา ข้างต้นได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องและข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงตั้งแต่ระยะแรกเริ่มไปจนถึงระยะกลายพันธุ์อย่างผิดปกติ สิ่งเลวร้ายเหล่านี้เดิมทีไป๋อี้ตั้งใจจะเปิดเผยให้ทุกคนที่เขาพบเจอระหว่างทาง ใช่ ไป๋อี้ไม่เคยคิดที่จะเก็บเรื่องทั้งหมดนี้ไว้เป็นความลับ

  ร่างแม่แบบเคยขอให้ไป๋อี้ทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไป๋อี้เองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร

  แต่อย่างน้อยเขาก็ควรบอกให้ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา!

  ยิ่งไปกว่านั้นไป๋อี้ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวแบบนั้น ในเมื่อเขาเก็บทุกอย่างไว้ในมือ ถ้าคิดว่าทุกอย่างทำเพื่อตัวเองเท่านั้น ทุกอย่างก็คงจบกันและผลลัพธ์คงเหลือเพียงความว่างเปล่า เกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงนั้น สิ่งมีชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการเป็นหัวข้อที่ซับซ้อนมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการทั้งหมดที่จะสรุปเส้นทางวิวัฒนาการที่ปลอดภัยของตนออกมา

  นอกเหนือจากสิ่งอื่น ๆ มาเริ่มพูดถึงเพียงแค่สัตว์และพืชในระยะดุร้าย LV1-2 ที่ต้องทำการสงบจิตใจให้ได้ ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ไม่สามารถลองทำทั้งหมดด้วยตัวเองได้ จะเป็นการดีที่สุดถ้าค่อย ๆ สรุปโดยมนุษย์วิวัฒนาการและสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการแล้วทั้งหมดในแต่ละประเภท

  โดยสรุป แม้ว่าไป๋อี้จะเก่งกว่าคนส่วนใหญ่ แต่เขาก็รู้ข้อจำกัดของตัวเอง ซึ่งเขาไม่ได้ทำราวกับว่าเขารู้ทุกอย่างและทำได้ทุกอย่าง

  บอสเตอร์หยิบสมุดบันทึกอย่างฉงนและจากนั้นก็เปิดดูอย่างระมัดระวัง ยิ่งเขาอ่านดูเท่าไหร่ สีหน้าของบอสเตอร์ก็ยิ่งจริงจังมากขึ้น คนอื่น ๆ ในหน่วยรบพิเศษก็ดูมันเช่นกัน จากนั้นทุกคนก็ต้องประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

  “นี่คือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์เหรอ?”

  “ใช่!”

  “พวกนายแน่ใจได้ยังไง?”

  “เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่” ไป๋อี้เลิกคิ้วเล็กน้อยและไม่พูดอะไรมาก

  “เราจะไม่ถามว่าทำไมคุณถึงมาที่นี่  แต่เราขอเข้าใจว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไรได้ไหม ถ้ามันไม่มากเกินไป แล้วฉันจะบอกเคล็ดลับในการใช้ชีวิตคุณในนิวซีแลนด์ในปัจจุบันนี้ให้” ไป๋อี้กล่าวขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนได้อ่านข้อมูลแล้วก็พูดออกไปด้วยจิตใจที่สั่นไหว

  “ถ้าเป็นแค่เกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกล่ะก็ ได้สิ” ก่อนที่บอสเตอร์จะทันตอบอะไร ไอน่าก็ตอบตกลงไปแล้ว

  “แล้วสถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”

  “ตั้งแต่นิวซีแลนด์เปลี่ยนไปเมื่อกว่า 2 เดือนที่แล้ว ชายฝั่งของประเทศต่าง ๆ ก็ตื่นตัวอย่างมาก แต่ขณะนี้ออสเตรเลียตื่นตัวมากที่สุด ชายฝั่งทางตอนใต้ทั้งหมดอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก จากมุมมองในปัจจุบันแม้ว่าเซลล์ดัดแปลงจะมีความสามารถในการติดเชื้อใหม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามศพไม่สามารถขยับได้ ดังนั้นมันจึงค่อนข้างง่ายที่จะแยกแยะ สถานการณ์โดยพื้นฐานยังอยู่ภายใต้การควบคุมได้” บอสเตอร์เห็นว่าไอน่าเองก็เห็นด้วยที่จะบอกพวกเขา อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความลับซะทีเดียว

  “เฉพาะออสเตรเลียเหรอ?”

  “แน่นอนว่าไม่ แต่มีเพียงออสเตรเลียเท่านั้นที่อยู่ใกล้ที่สุดและนิวซีแลนด์อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก แม้ว่าเซลล์ดัดแปลงดูเหมือนจะแพร่กระจายในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นอย่างรวดเร็วในเวลาอันใกล้ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าใครบางคนจะกินสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์ดัดแปลงอยู่และติดเชื้อโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ยังสามารถควบคุมได้อย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดนี่ไม่ใช่ไวรัสซอมบี้มันจะไม่แพร่กระจายไปตามศพและจะไม่สูญเสียความรู้สึกนึกคิดของตน อันที่จริงมันคล้ายกับโรคติดต่อและมันก็ไม่ยากที่จะจัดการ” ไอน่าอธิบายรายละเอียด .

  โรคติดต่อเหรอ?

  เมื่อพูดถึงเรื่องนี้นอกเหนือจากความสามารถในการผสานรวมยีนของเซลล์ดัดแปลงแล้ว การพูดถึงการติดเชื้อดูเหมือนว่ามันจะคล้ายกับโรคติดเชื้อทั่วไปจริง ๆ และดูเหมือนจะไม่ใช่โรคติดต่อที่น่ากลัว

  “กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ นอกจากนิวซีแลนด์ก็ไม่มีประเทศอื่น ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปมากนักสินะ?”

  “อื้ม สำหรับสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในนิวซีแลนด์ คุณต้องรู้ว่าไม่มีข่าวจากนิวซีแลนด์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเลยและทุกคนต่างก็มีข้อสงสัย” ไอน่ากล่าว ไม่ใช่แค่คนส่วนใหญ่แต่เกือบทุกคน แม้กระทั่งพวกเขา เมื่อปฏิบัติภารกิจนี้ พวกเขามีสิทธิ์ที่จะเลือกด้วยตัวเองเช่นกัน แต่พวกเขาก็เลือกที่จะมาที่นี่เพราะความอยากรู้แจ้งเห็นจริง

  “แบบนี้นี่เอง” ไป๋อี้พยักหน้า ดูเหมือนว่าทุกประเทศจะเตรียมพร้อมมาก่อนแล้ว

  “ยังไงซะ คุณรู้ไหม เรื่องที่มีคนออกไปจากนิวซีแลนด์ เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?” ไป๋อี้ถาม เมื่อเขาได้ยินคำถามนี้ ไป๋อี้เห็นว่าทั้งสองที่อยู่ตรงข้ามกันสงบนิ่งลงทันที มีเพียงร่างกายของไอน่าที่แข็งทื่อเล็กน้อย

  “ในเรื่องนี้ เราไม่รู้ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีใครบางคนในนิวซีแลนด์ออกไปจากที่นี่” ไอน่ากล่าวอย่างระมัดระวัง

  “ถ้าอย่างนั้นให้ฉันเปลี่ยนคำถาม ภายนอกแยกแยะการติดเชื้อเซลล์ดัดแปลงอย่างไร?”

  “ถูกจับไว้ และกักกันแยกไว้คนเดียว” เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอะไร

  การกักกัน รู้สึกว่ามันจะไม่ต่างอะไรกับร่างทดลองเลยนะ ไป๋อี้และคนอื่น ๆ รู้ดี ในกรณีนี้พวกเขาไม่สามารถออกจากนิวซีแลนด์ได้อย่างแน่นอนหลังจากออกไปคงจะไม่ส่งผลลัพธ์ดีแน่

  หลังจากนั้นทุกคนก็แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ไป๋อี้และเพื่อน ๆ รู้ข้อมูลเกี่ยวกับโลกภายนอกในขณะที่บอสเตอร์และคนในทีมถามข้อมูลเกี่ยวกับนิวซีแลนด์ มีการเปิดเผยและปกปิดระหว่างกันในบางเรื่อง แต่โดยทั่วไปการสื่อสารของทุกคนเป็นที่น่าพอใจพอสมควร อีกทั้งช่องว่างระหว่างพวกเขาก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายจากความตึงเครียดจากในตอนแรก ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามเรื่องน่าแปลกนั้นไม่น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการไม่สามารถสื่อสารกันได้อย่างมีเหตุผล

  ในความเป็นจริงมีภาพยนตร์สัตว์ประหลาดมากมายในโลกมนุษย์ พวกมันสามารถพูดได้อีกทั้งมีแฟนคลับติดตามเรื่องราวของสัตว์ประหลาดอีกมากมายไม่ใช่เหรอ

  ตั้งแต่ต้นจนจบไป๋อี้ไม่ได้ถามว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงมาที่นิวซีแลนด์

  บอสเตอร์ดูเหมือนจะพอใจกับการเอาใจใส่ของไป๋อี้ ถ้าไป๋อี้ถามขึ้นมาจริง ๆ ทั้งสองฝ่ายคงจะไม่สามารถเข้ากันได้อย่างกลมกลืนเหมือนตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นไป๋อี้และเพื่อน ๆ ยังได้เปิดเผยหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งพวกเขาไม่แน่ใจในความถูกต้องของสิ่งเหล่านี้ หากทั้งหมดเป็นความจริง เรื่องนี้คงเป็นบุญคุณจากน้ำใจเพื่อนมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญมากและพวกเขาเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีกว่าคนทั่วไป

  อย่างไรก็ตาม เขารู้ความคิดของไป๋อี้ได้อย่างไร ตอนแรกสิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อบอกมนุษย์ที่มีวิวัฒนาการทั้งหมดและปล่อยให้มนุษย์ที่มีวิวัฒนาการทุกคนหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไป บางทีไป๋อี้และเพื่อน ๆ อาจต้องการข้อมูลที่สรุปโดยคนอื่นในอนาคตเพิ่มเติม

  ในวันรุ่งขึ้นทีมหน่วยรบพิเศษนี้จะลาไป๋อี้และพวกไปและเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจของพวกเขา

  ……

  “ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ คนกลุ่มนั้นสมองตายแล้วหรือไงพวกเขาจะทำอะไรในเวลานี้พวกเขาไม่กลัวความตายบ้างเหรอ?” วูล์ฟอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างโกรธเคืองเมื่อเห็นกลุ่มพวกเขาเดินจากไป

  “พวกเขาเป็นทหารและพวกเราก็เป็นแค่คนธรรมดา” ไป๋อี้กล่าว

  แน่นอนว่าหน่วยรบพิเศษเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนโดยรัฐ พวกเขาจะไม่ล้มเลิกภารกิจเพียงเพราะว่าเฮลิคอปเตอร์ถูกทำลาย อย่างน้อยห้าคนในทีมก็รอดชีวิต บางทีในสายตาของคนเหล่านี้ คนห้าคนสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมากมาย

  “เอาล่ะ พวกเขาไปแล้ว ให้ฉันบอกทุกคนว่าเมื่อวานฉันรู้สึกยังไงบ้าง” ไป๋อี้ชี้ไปที่ดวงตาของเขาและบอกทุกคนเรื่องความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับพลังงานพิเศษเมื่อวานนี้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถระดมพลังได้อย่างแข็งขัน แต่หากใช้ความสามารถบางอย่างกระตุ้นจนสามารถระดมพลังได้ สำหรับทุกคนแล้วนั่นมันไม่ใช่การพัฒนาเพียงเล็กน้อยเลย

        หลังจากไป๋อี้บอกวูล์ฟ เขาก็คว้าง้าวขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะกลั้นแรงไว้

        ท่าทางนั่งยอง ๆ นี้ทำให้ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที

  แต่ทว่าวูล์ฟกลั้นไว้ได้ชั่วขณะหนึ่งและเขาก็ไม่รู้สึกถึงอะไรทั้งนั้น รวมถึงเมย์ริสและคนอื่น ๆ ก็กำลังค่อย ๆ คิดว่าจะระดมพลังงานพิเศษได้อย่างไร? เฮลัวส์มองเข้าไปในดวงตาของไป๋อี้จากนั้นก็นึกถึงเบ็นสันในสถาบันวิจัยดูเหมือนว่า …… เขาจะไม่ได้ใช้กำลังเลย!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+