[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 22 การต่อสู้ข้างถนน

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 22 การต่อสู้ข้างถนน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

  ตั้งแต่แรกเริ่ม ไป๋อี้รู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ไป๋อี้ไม่ได้รู้สึกเสียใจภายหลังหรือลังเลใด ๆ เพราะถ้ายอมประนีประนอมจริง ๆ ผลที่ตามมาอาจจะยิ่งน่าเศร้า

 

  ความเปลี่ยนแปลงที่โหดร้ายของโลกใบนี้!

 

  ผู้ที่ไม่อยากยอมแพ้และตั้งหน้าตั้งตารอคอยบทสรุปที่สมบูรณ์แบบจะต้องสูญเสียและไม่มีอะไรเหลือ!

 

  ……

 

  แม้ว่าเขาจะรู้ตัว แต่ไป๋อี้ก็ยังคงหวังว่าจะมีคนอีกจำนวนมากที่สามารถเอาชีวิตรอดได้และเป็นการรอดชีวิตอย่างแท้จริง

 

  ในจำนวนหกคนที่มีอาวุธปืน สามคนถูกสังหารโดยไป๋อี้ในตอนแรก แต่ยังเหลืออีกสามคน ไป๋อี้และหงฉี่ฮว๋าได้พุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้อีกครั้งโดยไม่ลังเล

 

  ในขณะนี้การเคลื่อนไหวของหยูหานเร็วกว่าไป๋อี้และหงฉี่ฮว๋า เมื่อความรับผิดชอบในเรื่องนี้ตกไปอยู่ที่ไป๋อี้ ดังนั้นเป้าหมายต่อไปเของเขาคือการแสดงความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงและช่วยชีวิตคนจากการต่อสู้ครั้งนี้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ขยายอิทธิพลในทีมจนนำไปสู่การกลายเป็นผู้นำทีมที่แท้จริง

 

  หยูหานฟันมีดดาบไปข้างหน้า จนโดนท้องของคู่ต่อสู้ จากนั้นร่างกายของเขาก็โค้งงอเล็กน้อยและพุ่งตัวออกไปทันที ดูเหมือนว่าการผสานรวมยีนของเขาไม่ได้มีแค่งูและมดเท่านั้น

 

  ขณะที่ฉินข่ายรุ่ยกำลังจะตายด้วยมีดดาบของโจร ทว่าหยูหานก็ปรากฏตัวมาจากด้านข้างและใช้ดาบญี่ปุ่นฟันไขว้ในแนวทแยงมุม

 

  มีดดาบสองเล่มพุ่งมาในอากาศ สีหน้าของฉินข่ายรุ่ยแสดงความหวาดกลัวและสิ้นหวังอย่างมาก ในเวลานี้หยูหานมีสีหน้าที่เย็นชาและมุ่งมั่นจากการพลาดโอกาสไปก่อนหน้านี้ ซึ่งดาบญี่ปุ่นก็ได้เฉือนลงมาในแนวทแยงมุมจนเกือบจะถูกแก้มของฉินข่ายรุ่ยเพื่อขวางหน้ามีดดาบของอีกฝ่ายไว้ 

 

  เสียงกระทบกันดังเคร้งอย่างรุนแรง!

 

  สีหน้าที่สิ้นหวังของฉินข่ายรุ่ยดูราวกับว่าถูกเสียงกระทบดังลั่นนั้นจนทำให้ช็อค จากนั้นเขาก็เห็นหยูหานเคลื่อนไหวต่อสู้อย่างฉับพลัน สิ้นเสียงดังเคร้ง เพียงแค่ฉับเดียว มีดญี่ปุ่นก็ได้ฟันเข้าที่ศรีษะของโจรโดยตรง

 

  การแสดงออกที่สงบและมุ่งมั่นของหยูหานตราตรึงอยู่ในหัวของฉินข่ายรุ่ย

 

  ฮึ่ม ขณะนี้เจียงหลินหลินแฟนสาวของฉินข่ายรุ่ยอยู่ในอาณัติของปืน หลังจากที่ฉินข่ายรุ่ยมองว่าไป๋อี้เป็นตัวการเรื่องนี้  เขาจะแสดงท่าทีออกมาอย่างไร?

 

  

        หลังจากจัดการคู่ต่อสู้คนนี้ได้แล้ว หยูหานก็รีบวิ่งไปอีกด้านหนึ่งซึ่งหนิงเสวี่ยก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกันและเขาต้องช่วยเธอไว้ให้ได้ ในความเป็นจริงโจรเหล่านี้ไม่ได้จะทำร้ายสาวสวยในทีม แต่หยูหานรู้ดีว่าฮีโร่ที่กอบกู้สาวงามเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเอาชนะใจสาวสวยมาโดยตลอด

  

        ……

 

  ไป๋อี้และหงฉี่ฮว๋าใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายตกตะลึงพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ที่ถือปืนอยู่ แต่ยังมีอีกหนึ่งคนที่ยังหลงเหลือ ซึ่งอันที่จริงผู้ชายคนนี้ควรจะเป็นคู่ต่อสู้ของหยูหาน แต่ตอนนี้เขาไม่มีคู่ต่อสู้

 

  วูล์ฟรู้สึกเป็นกังวลเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาอยากขับรถชนมัน อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่รถจะคล่องแคล่วว่องไวได้เหมือนมนุษย์ แม้ว่าวูล์ฟจะเปลี่ยนทิศทางของรถไปเรื่อย ๆ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่ทันการแล้ว ชายชุดดำถือปืนพกกำลังเล็งไปที่ไป๋อี้

 

  “ชาร์ไป่!”

 

  โม่โม่เห็นผู้ชายที่ถือปืนเล็งไปที่พ่อของเธอ หนูน้อยพูดอย่างตื่นตระหนกและชี้นิ้วออกไป

 

  ชาร์ไป่เห่าสองครั้งและรีบพุ่งตัวออกจากรถด้วยความเร็วสูง มันกลิ้งไปตามพื้นสองตลบ จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาผู้ชายที่เล็งปืนไปที่ไป๋อี้ ทว่าไป๋อี้วิ่งไปอย่างรวดเร็ว ชายที่ถือปืนกลัวว่าไป๋อี้จะวิ่งไปทำร้ายคนของตัวเอง แต่ก่อนที่เขาจะตัดสินใจยิง ชาร์ไป่ก็รีบวิ่งมาจากด้านข้างอย่างเดือดดาล และมันก็ถลาเข้าไปกัดคอคนตรงหน้า ทันใดนั้นชายคนนั้นก็กรีดร้องออกมาอย่างสิ้นหวังและเลือดจากคอก็ไหลกระเซ็นออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

  ผู้ชายคนนั้นตกใจอยู่พักหนึ่งถึงเพิ่งนึกได้ว่าเขาถือปืนอยู่และไม่สนใจว่าใครจะอยู่ตรงนั้น เขาจึงยิงไปที่ชาร์ไป่อย่างจัง

 

  ปัง ทันใดนั้นร่างอ้วนของเจ้าชาร์ไป่ก็แข็งทื่อ จากนั้นดวงตาของมันแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายและโหดร้ายมากขึ้น มันต่อสู้ด้วยแรงกัดที่รุนแรง ปากใหญ่ของชาร์ไป่งับลงทันที คอของชายคนนั้นถูกกัดขาดเป็นสองท่อนและล้มลงบนพื้นที่ชาร์ไป่ยืนอยู่ เห็นได้ชัดว่ามันดุร้ายขึ้นมากทว่าร่างกายของมันกลับสั่นเทาและกำลังจะล้มลงกับพื้น

 

  “ชาร์ไป่!” เมื่อโม่โม่เห็นชาร์ไป่ถูกทำร้ายจากในรถ หนูน้อยก็ตะโกนเรียกด้วยความตื่นตระหนก

 

  ในตอนนี้สถานการณ์นั้นวุ่นวายไปหมด หลังจากที่วูล์ฟเห็นว่าไม่มีโจรสักคนเดียวที่เขาจะสามารถขับรถไปชนได้ เขาก็หยุดรถทันทีและรีบลงไปพร้อมกับมีดของเขา เมื่อวูล์ฟลงจากรถโม่โม่ก็กระโดดลงจากรถด้วยและรีบวิ่งไปหาชาร์ไป่

 

  ในขณะนี้กลุ่มคนที่ขาดสติไม่ได้สนใจว่าโม่โม่เป็นเด็กผู้หญิงอายุสี่ขวบหรือไม่ จู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งยกมีดขึ้นมา

 

  ไป๋อี้ให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของโม่โม่มาโดยตลอดและไม่มีใครสามารถยึดครองพื้นที่ในหัวใจของไป๋อี้ได้มากกว่าโม่โม่ ในขณะที่ไป๋อี้เห็นว่าโม่โม่กำลังตกอยู่ในอันตราย ทันใดนั้นเขาก็เผยท่าทางที่ร้ายกาจพร้อมกับถือมีดสับกระดูกขึ้นมา

 

   ผู้ชายที่จะทำร้ายโม่โม่ถูกมีดสับกระดูกสับเข้าที่หัวของเขาอย่างจังและล้มลงกับพื้น ด้านไป๋อี้ที่สูญเสียแรงต้านของมีดสับกระดูก ก็ถูกโจรอีกคนที่สบโอกาสนี้พุ่งเข้ามาฟันไปที่ตัวของไป๋อี้ด้วยมีดปังตอ แม้ว่าไป๋อี้จะเบี่ยงหัวหลบได้ทันเวลา แต่มันก็เฉียดหน้าเขาไปฟันโดนบริเวณหัวไหล่แทน

 

  ไป๋อี้ปากแตก เขาแทบจะกรีดร้อง โชคดีที่มันไม่ฟันโดนหัวเขา มิฉะนั้นเขาคงไม่รอดแน่ ไป๋อี้ยกเท้าขวาขึ้นถีบเข้าที่ชายตรงข้ามอย่างรุนแรง ในขณะที่อีกฝ่ายก็จับร่างกายส่วนล่างของเขาและก้มลงไปที่พื้น ในเวลานี้ไป๋อี้ไม่ได้สนใจมีดบนหัวไหล่ของเขา เขากระโจนตัวไปข้างหน้าแล้วกระแทกเข่าด้วยแรงทั้งหมดที่มีไปที่หน้าของชายคนนั้น

 

  ปึง  ไป๋อี้รู้สึกเจ็บที่เข่าและชายคนนั้นก็ล้มลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่ระทม

 

  ไป๋อี้เดินโซซัดโซเซ แล้วเขาก็หยุดนิ่งทันที จากนั้นก็คว้ามีดที่หัวไหล่แล้วออกแรงดึง ชึ๊บ มีดปังตอถูกไป๋อี้ดึงออกมา เขาแสยะยิ้มที่มุมปาก อย่างไรก็ตามตอนนี้ไป๋อี้ไม่มีพลังพิเศษที่จะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตัวเองได้และนำมีดปังตอที่เขาดึงออกมาแนบไว้ข้างกาย

 

  ฉับ มีดปังต่อของโจรอีกคนขวางหน้าไป๋อี้ไว้

 

  โหดร้าย เด็ดเดี่ยว อำมหิต!

 

  ฝั่งตรงข้ามเป็นอันธพาลที่การศึกษาต่ำจ้องตากับไป๋อี้ แต่จู่ ๆ ก็มีคำสองสามคำปรากฏขึ้นในใจ ดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับคำเหล่านี้ แต่เขาได้เห็นสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจนจากสายตาของไป๋อี้ ในเวลานี้ดวงตาของไป๋อี้เผยให้เห็นบางสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนช่วงที่อยู่ในยุคอันสงบสุข ราวกับคนป่าเถื่อนโหดร้ายในยุคดึกดำบรรพ์

 

  ไป๋อี้ในเวลานี้ดูดุร้ายมาก ในสายตาของไป๋อี้คนเหล่านี้กลายเป็นเหมือนวัตถุดิบสำหรับเขาในการฝึกทำอาหาร

 

  เส้นเลือดในมือขวาของไป๋อี้ปูดโปน เลือดที่ไหล่ซ้ายของเขายังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ไป๋อี้แยกมีดปังตออีกอันออกมาอย่างเหี้ยมโหดจากนั้นก็ใช้มือขวากวัดแกว่งไปมา

 

  คมมีดเปล่งประกายวิบวับจากท่าทางลีลาการใช้มีดของไป๋อี้ ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านขึ้นมาตามร่างกายของเขา จากนั้นก็รู้สึกถึงพลังชีวิตที่เริ่มถดถอยลงอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นไป๋อี้ก็ค่อย ๆ ดึงมีดกลับมา เจ้าบ้านั่นมันทำอะไร? นั่นเป็นคำถามสุดท้ายของเขา จากนั้นก็ล้มลงกับพื้นพร้อมกับเลือดที่ค่อย ๆ ไหลออกมาจากร่างกายของเขา

 

  เชฟ …… เกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญที่สุดของเชฟคือทักษะการใช้มีด!

 

  เมื่อเชฟถือว่าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นวัตถุดิบที่รอการปรุง แม้ฝ่ายตรงข้ามของเขาจะชื่นชมทักษะการใช้มีดที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่คู่ต่อสู้คาดหวังอย่างแน่นอน

 

  “วูล์ฟ ดูแลโม่โม่ให้ฉันด้วย” ทันใดนั้นไป๋อี้ก็พูดออกมาด้วยเสียงดัง

 

  

       วูล์ฟอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาเห็นไป๋อี้คว้ามีดและเดินไปที่สนามรบฝั่งตรงข้าม ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วูล์ฟไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเขามักจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากร่างกายของไป๋อี้ ลมหายใจแบบนี้ทำให้วูล์ฟเชื่อฟังคำสั่งของไป๋อี้โดยไม่รู้ตัว

 

  ด้านหยูหาน เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ไป๋อี้ ในใจของหยูหานมีเพียงไป๋อี้เท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกถึงอำนาจคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ใช่ภัยคุกคามถึงชีวิตหรือความตาย แต่เป็นอำนาจคุกคามที่จะกลายในการเป็นผู้นำของทีมนี้ เมื่อไป๋อี้เผชิญกับอันตราย ทัศนคติที่สงบและมีเหตุผลรวมทั้งความแข็งแกร่งอันทรงพลังของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก

 

  คนที่ถือปืนเสียชีวิต ส่วนคนที่เหลือต่อสู้กันด้วยอาวุธเช่นมีดพร้าและไม้เบสบอล

 

  หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ไป๋อี้ก็เร่งฝีเท้าและวิ่งเข้าไปในสนามรบ

 

  เห็นได้ชัดว่าอันธพาลเหล่านี้คิดว่าไป๋อี้เป็นหัวหน้าทีม ดังนั้นหลังจากที่เห็นไป๋อี้วิ่งเข้ามา พวกเขาสองคนจึงทิ้งมาร์ตินและเด็กผู้หญิงสองสามคนไว้ข้าง ๆ และเตรียมประจันหน้ากับไป๋อี้ ไป๋อี้เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ทั้งสองคนโดยไม่หลบหรือหลีกเลี่ยง เขาประจันหน้าเข้าไปโดยตรงพลางยกมีดปังตอในมือขวาขึ้น

 

  “ลุงไป๋ … !” หงฉี่ฮว๋าเห็นพฤติกรรมของไป๋อี้และแค่อยากให้ไป๋อี้ระวังตัว เธอเห็นไป๋อี้หมุนตัวและถือมีดปังตอในมือ มือขวาของเขากวัดแกว่งไปมาสองสามตลบในอากาศ ในขณะที่พวกเขาทั้งสองคนตั้งท่าจะกระโจนเข้าใส่ไป๋อี้แต่กลับไม่ทันได้ระวังการเคลื่อนไหวของเขา อันธพาลทั้งสองจึงล้มคะมำลงกับพื้น

 

  “บ้าเอ๊ย เชฟอะไรฝีมือร้ายกาจขนาดนี้!” วูล์ฟกล่าวอย่างงุนงง เชฟคงไม่มีฝีไม้ลายมือร้ายกาจขนาดนี้ได้ แต่ไป๋อี้นั้นเพียงแค่ชำนาญในเรื่องทักษะการใช้มีดเท่านั้นเอง

 

  ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง หยูหานที่มีพละกำลังแข็งแกร่งเปรียบเสมือนเสือที่บุกเข้าไปในกลุ่มโจร เขาเคลื่อนไหวอย่างอิสระท่ามกลางกลุ่มนั้น โจรทุกคนที่เข้ามาสู้กับหยูหานล้วนถูกโจมตีอย่างรุนแรงและกระเด็นลอยออกไปทันที บางคนก็ถูกดาบญี่ปุ่นของหยูหานฟันเป็นสองท่อน ในขณะนี้หยูหานได้ตระหนักถึงพลังอันทรงพลังในปัจจุบันของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

 

  คนหนึ่งมีทักษะการใช้มีดที่ยอดเยี่ยม อีกคนหนึ่งใช้พลังอย่างไม่ปรานี!

 

  เวลาต่อมา แม้แต่กลุ่มโจรใต้ดินที่เลียเลือดมาเป็นเวลานานก็ยังตกตะลึง คนกลุ่มนี้ช่างร้ายกาจเหลือเกิน ชายที่แขนหักและชายที่ถือดาบญี่ปุ่นนั่นไม่ใช่มนุษย์แน่ ๆ แม้แต่แก๊งใต้ดินก็ไม่มีใครที่ต่อสู้อย่างร้ายกาจเช่นนี้

 

  มีเพียงหนึ่งถึงสองคนที่เป็นผู้นำโจรที่ยังคงอยู่ ส่วนคนที่เหลือหนีไปทันที หลังจากนั้นไม่นานการต่อสู้ที่ชายขอบเมืองก็สิ้นสุดลงเหลือเพียงศพมากกว่าหนึ่งโหลที่ยังแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น

 

                                                               ————————

                            อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^

                                                https://www.kawebook.com/story/6809

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 22 การต่อสู้ข้างถนน

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 22 การต่อสู้ข้างถนน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

  ตั้งแต่แรกเริ่ม ไป๋อี้รู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ไป๋อี้ไม่ได้รู้สึกเสียใจภายหลังหรือลังเลใด ๆ เพราะถ้ายอมประนีประนอมจริง ๆ ผลที่ตามมาอาจจะยิ่งน่าเศร้า

 

  ความเปลี่ยนแปลงที่โหดร้ายของโลกใบนี้!

 

  ผู้ที่ไม่อยากยอมแพ้และตั้งหน้าตั้งตารอคอยบทสรุปที่สมบูรณ์แบบจะต้องสูญเสียและไม่มีอะไรเหลือ!

 

  ……

 

  แม้ว่าเขาจะรู้ตัว แต่ไป๋อี้ก็ยังคงหวังว่าจะมีคนอีกจำนวนมากที่สามารถเอาชีวิตรอดได้และเป็นการรอดชีวิตอย่างแท้จริง

 

  ในจำนวนหกคนที่มีอาวุธปืน สามคนถูกสังหารโดยไป๋อี้ในตอนแรก แต่ยังเหลืออีกสามคน ไป๋อี้และหงฉี่ฮว๋าได้พุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้อีกครั้งโดยไม่ลังเล

 

  ในขณะนี้การเคลื่อนไหวของหยูหานเร็วกว่าไป๋อี้และหงฉี่ฮว๋า เมื่อความรับผิดชอบในเรื่องนี้ตกไปอยู่ที่ไป๋อี้ ดังนั้นเป้าหมายต่อไปเของเขาคือการแสดงความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงและช่วยชีวิตคนจากการต่อสู้ครั้งนี้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ขยายอิทธิพลในทีมจนนำไปสู่การกลายเป็นผู้นำทีมที่แท้จริง

 

  หยูหานฟันมีดดาบไปข้างหน้า จนโดนท้องของคู่ต่อสู้ จากนั้นร่างกายของเขาก็โค้งงอเล็กน้อยและพุ่งตัวออกไปทันที ดูเหมือนว่าการผสานรวมยีนของเขาไม่ได้มีแค่งูและมดเท่านั้น

 

  ขณะที่ฉินข่ายรุ่ยกำลังจะตายด้วยมีดดาบของโจร ทว่าหยูหานก็ปรากฏตัวมาจากด้านข้างและใช้ดาบญี่ปุ่นฟันไขว้ในแนวทแยงมุม

 

  มีดดาบสองเล่มพุ่งมาในอากาศ สีหน้าของฉินข่ายรุ่ยแสดงความหวาดกลัวและสิ้นหวังอย่างมาก ในเวลานี้หยูหานมีสีหน้าที่เย็นชาและมุ่งมั่นจากการพลาดโอกาสไปก่อนหน้านี้ ซึ่งดาบญี่ปุ่นก็ได้เฉือนลงมาในแนวทแยงมุมจนเกือบจะถูกแก้มของฉินข่ายรุ่ยเพื่อขวางหน้ามีดดาบของอีกฝ่ายไว้ 

 

  เสียงกระทบกันดังเคร้งอย่างรุนแรง!

 

  สีหน้าที่สิ้นหวังของฉินข่ายรุ่ยดูราวกับว่าถูกเสียงกระทบดังลั่นนั้นจนทำให้ช็อค จากนั้นเขาก็เห็นหยูหานเคลื่อนไหวต่อสู้อย่างฉับพลัน สิ้นเสียงดังเคร้ง เพียงแค่ฉับเดียว มีดญี่ปุ่นก็ได้ฟันเข้าที่ศรีษะของโจรโดยตรง

 

  การแสดงออกที่สงบและมุ่งมั่นของหยูหานตราตรึงอยู่ในหัวของฉินข่ายรุ่ย

 

  ฮึ่ม ขณะนี้เจียงหลินหลินแฟนสาวของฉินข่ายรุ่ยอยู่ในอาณัติของปืน หลังจากที่ฉินข่ายรุ่ยมองว่าไป๋อี้เป็นตัวการเรื่องนี้  เขาจะแสดงท่าทีออกมาอย่างไร?

 

  

        หลังจากจัดการคู่ต่อสู้คนนี้ได้แล้ว หยูหานก็รีบวิ่งไปอีกด้านหนึ่งซึ่งหนิงเสวี่ยก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกันและเขาต้องช่วยเธอไว้ให้ได้ ในความเป็นจริงโจรเหล่านี้ไม่ได้จะทำร้ายสาวสวยในทีม แต่หยูหานรู้ดีว่าฮีโร่ที่กอบกู้สาวงามเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเอาชนะใจสาวสวยมาโดยตลอด

  

        ……

 

  ไป๋อี้และหงฉี่ฮว๋าใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายตกตะลึงพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ที่ถือปืนอยู่ แต่ยังมีอีกหนึ่งคนที่ยังหลงเหลือ ซึ่งอันที่จริงผู้ชายคนนี้ควรจะเป็นคู่ต่อสู้ของหยูหาน แต่ตอนนี้เขาไม่มีคู่ต่อสู้

 

  วูล์ฟรู้สึกเป็นกังวลเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาอยากขับรถชนมัน อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่รถจะคล่องแคล่วว่องไวได้เหมือนมนุษย์ แม้ว่าวูล์ฟจะเปลี่ยนทิศทางของรถไปเรื่อย ๆ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่ทันการแล้ว ชายชุดดำถือปืนพกกำลังเล็งไปที่ไป๋อี้

 

  “ชาร์ไป่!”

 

  โม่โม่เห็นผู้ชายที่ถือปืนเล็งไปที่พ่อของเธอ หนูน้อยพูดอย่างตื่นตระหนกและชี้นิ้วออกไป

 

  ชาร์ไป่เห่าสองครั้งและรีบพุ่งตัวออกจากรถด้วยความเร็วสูง มันกลิ้งไปตามพื้นสองตลบ จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาผู้ชายที่เล็งปืนไปที่ไป๋อี้ ทว่าไป๋อี้วิ่งไปอย่างรวดเร็ว ชายที่ถือปืนกลัวว่าไป๋อี้จะวิ่งไปทำร้ายคนของตัวเอง แต่ก่อนที่เขาจะตัดสินใจยิง ชาร์ไป่ก็รีบวิ่งมาจากด้านข้างอย่างเดือดดาล และมันก็ถลาเข้าไปกัดคอคนตรงหน้า ทันใดนั้นชายคนนั้นก็กรีดร้องออกมาอย่างสิ้นหวังและเลือดจากคอก็ไหลกระเซ็นออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

  ผู้ชายคนนั้นตกใจอยู่พักหนึ่งถึงเพิ่งนึกได้ว่าเขาถือปืนอยู่และไม่สนใจว่าใครจะอยู่ตรงนั้น เขาจึงยิงไปที่ชาร์ไป่อย่างจัง

 

  ปัง ทันใดนั้นร่างอ้วนของเจ้าชาร์ไป่ก็แข็งทื่อ จากนั้นดวงตาของมันแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายและโหดร้ายมากขึ้น มันต่อสู้ด้วยแรงกัดที่รุนแรง ปากใหญ่ของชาร์ไป่งับลงทันที คอของชายคนนั้นถูกกัดขาดเป็นสองท่อนและล้มลงบนพื้นที่ชาร์ไป่ยืนอยู่ เห็นได้ชัดว่ามันดุร้ายขึ้นมากทว่าร่างกายของมันกลับสั่นเทาและกำลังจะล้มลงกับพื้น

 

  “ชาร์ไป่!” เมื่อโม่โม่เห็นชาร์ไป่ถูกทำร้ายจากในรถ หนูน้อยก็ตะโกนเรียกด้วยความตื่นตระหนก

 

  ในตอนนี้สถานการณ์นั้นวุ่นวายไปหมด หลังจากที่วูล์ฟเห็นว่าไม่มีโจรสักคนเดียวที่เขาจะสามารถขับรถไปชนได้ เขาก็หยุดรถทันทีและรีบลงไปพร้อมกับมีดของเขา เมื่อวูล์ฟลงจากรถโม่โม่ก็กระโดดลงจากรถด้วยและรีบวิ่งไปหาชาร์ไป่

 

  ในขณะนี้กลุ่มคนที่ขาดสติไม่ได้สนใจว่าโม่โม่เป็นเด็กผู้หญิงอายุสี่ขวบหรือไม่ จู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งยกมีดขึ้นมา

 

  ไป๋อี้ให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของโม่โม่มาโดยตลอดและไม่มีใครสามารถยึดครองพื้นที่ในหัวใจของไป๋อี้ได้มากกว่าโม่โม่ ในขณะที่ไป๋อี้เห็นว่าโม่โม่กำลังตกอยู่ในอันตราย ทันใดนั้นเขาก็เผยท่าทางที่ร้ายกาจพร้อมกับถือมีดสับกระดูกขึ้นมา

 

   ผู้ชายที่จะทำร้ายโม่โม่ถูกมีดสับกระดูกสับเข้าที่หัวของเขาอย่างจังและล้มลงกับพื้น ด้านไป๋อี้ที่สูญเสียแรงต้านของมีดสับกระดูก ก็ถูกโจรอีกคนที่สบโอกาสนี้พุ่งเข้ามาฟันไปที่ตัวของไป๋อี้ด้วยมีดปังตอ แม้ว่าไป๋อี้จะเบี่ยงหัวหลบได้ทันเวลา แต่มันก็เฉียดหน้าเขาไปฟันโดนบริเวณหัวไหล่แทน

 

  ไป๋อี้ปากแตก เขาแทบจะกรีดร้อง โชคดีที่มันไม่ฟันโดนหัวเขา มิฉะนั้นเขาคงไม่รอดแน่ ไป๋อี้ยกเท้าขวาขึ้นถีบเข้าที่ชายตรงข้ามอย่างรุนแรง ในขณะที่อีกฝ่ายก็จับร่างกายส่วนล่างของเขาและก้มลงไปที่พื้น ในเวลานี้ไป๋อี้ไม่ได้สนใจมีดบนหัวไหล่ของเขา เขากระโจนตัวไปข้างหน้าแล้วกระแทกเข่าด้วยแรงทั้งหมดที่มีไปที่หน้าของชายคนนั้น

 

  ปึง  ไป๋อี้รู้สึกเจ็บที่เข่าและชายคนนั้นก็ล้มลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่ระทม

 

  ไป๋อี้เดินโซซัดโซเซ แล้วเขาก็หยุดนิ่งทันที จากนั้นก็คว้ามีดที่หัวไหล่แล้วออกแรงดึง ชึ๊บ มีดปังตอถูกไป๋อี้ดึงออกมา เขาแสยะยิ้มที่มุมปาก อย่างไรก็ตามตอนนี้ไป๋อี้ไม่มีพลังพิเศษที่จะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตัวเองได้และนำมีดปังตอที่เขาดึงออกมาแนบไว้ข้างกาย

 

  ฉับ มีดปังต่อของโจรอีกคนขวางหน้าไป๋อี้ไว้

 

  โหดร้าย เด็ดเดี่ยว อำมหิต!

 

  ฝั่งตรงข้ามเป็นอันธพาลที่การศึกษาต่ำจ้องตากับไป๋อี้ แต่จู่ ๆ ก็มีคำสองสามคำปรากฏขึ้นในใจ ดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับคำเหล่านี้ แต่เขาได้เห็นสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจนจากสายตาของไป๋อี้ ในเวลานี้ดวงตาของไป๋อี้เผยให้เห็นบางสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนช่วงที่อยู่ในยุคอันสงบสุข ราวกับคนป่าเถื่อนโหดร้ายในยุคดึกดำบรรพ์

 

  ไป๋อี้ในเวลานี้ดูดุร้ายมาก ในสายตาของไป๋อี้คนเหล่านี้กลายเป็นเหมือนวัตถุดิบสำหรับเขาในการฝึกทำอาหาร

 

  เส้นเลือดในมือขวาของไป๋อี้ปูดโปน เลือดที่ไหล่ซ้ายของเขายังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ไป๋อี้แยกมีดปังตออีกอันออกมาอย่างเหี้ยมโหดจากนั้นก็ใช้มือขวากวัดแกว่งไปมา

 

  คมมีดเปล่งประกายวิบวับจากท่าทางลีลาการใช้มีดของไป๋อี้ ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านขึ้นมาตามร่างกายของเขา จากนั้นก็รู้สึกถึงพลังชีวิตที่เริ่มถดถอยลงอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นไป๋อี้ก็ค่อย ๆ ดึงมีดกลับมา เจ้าบ้านั่นมันทำอะไร? นั่นเป็นคำถามสุดท้ายของเขา จากนั้นก็ล้มลงกับพื้นพร้อมกับเลือดที่ค่อย ๆ ไหลออกมาจากร่างกายของเขา

 

  เชฟ …… เกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญที่สุดของเชฟคือทักษะการใช้มีด!

 

  เมื่อเชฟถือว่าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นวัตถุดิบที่รอการปรุง แม้ฝ่ายตรงข้ามของเขาจะชื่นชมทักษะการใช้มีดที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่คู่ต่อสู้คาดหวังอย่างแน่นอน

 

  “วูล์ฟ ดูแลโม่โม่ให้ฉันด้วย” ทันใดนั้นไป๋อี้ก็พูดออกมาด้วยเสียงดัง

 

  

       วูล์ฟอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาเห็นไป๋อี้คว้ามีดและเดินไปที่สนามรบฝั่งตรงข้าม ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วูล์ฟไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเขามักจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากร่างกายของไป๋อี้ ลมหายใจแบบนี้ทำให้วูล์ฟเชื่อฟังคำสั่งของไป๋อี้โดยไม่รู้ตัว

 

  ด้านหยูหาน เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ไป๋อี้ ในใจของหยูหานมีเพียงไป๋อี้เท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกถึงอำนาจคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ใช่ภัยคุกคามถึงชีวิตหรือความตาย แต่เป็นอำนาจคุกคามที่จะกลายในการเป็นผู้นำของทีมนี้ เมื่อไป๋อี้เผชิญกับอันตราย ทัศนคติที่สงบและมีเหตุผลรวมทั้งความแข็งแกร่งอันทรงพลังของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก

 

  คนที่ถือปืนเสียชีวิต ส่วนคนที่เหลือต่อสู้กันด้วยอาวุธเช่นมีดพร้าและไม้เบสบอล

 

  หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ไป๋อี้ก็เร่งฝีเท้าและวิ่งเข้าไปในสนามรบ

 

  เห็นได้ชัดว่าอันธพาลเหล่านี้คิดว่าไป๋อี้เป็นหัวหน้าทีม ดังนั้นหลังจากที่เห็นไป๋อี้วิ่งเข้ามา พวกเขาสองคนจึงทิ้งมาร์ตินและเด็กผู้หญิงสองสามคนไว้ข้าง ๆ และเตรียมประจันหน้ากับไป๋อี้ ไป๋อี้เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ทั้งสองคนโดยไม่หลบหรือหลีกเลี่ยง เขาประจันหน้าเข้าไปโดยตรงพลางยกมีดปังตอในมือขวาขึ้น

 

  “ลุงไป๋ … !” หงฉี่ฮว๋าเห็นพฤติกรรมของไป๋อี้และแค่อยากให้ไป๋อี้ระวังตัว เธอเห็นไป๋อี้หมุนตัวและถือมีดปังตอในมือ มือขวาของเขากวัดแกว่งไปมาสองสามตลบในอากาศ ในขณะที่พวกเขาทั้งสองคนตั้งท่าจะกระโจนเข้าใส่ไป๋อี้แต่กลับไม่ทันได้ระวังการเคลื่อนไหวของเขา อันธพาลทั้งสองจึงล้มคะมำลงกับพื้น

 

  “บ้าเอ๊ย เชฟอะไรฝีมือร้ายกาจขนาดนี้!” วูล์ฟกล่าวอย่างงุนงง เชฟคงไม่มีฝีไม้ลายมือร้ายกาจขนาดนี้ได้ แต่ไป๋อี้นั้นเพียงแค่ชำนาญในเรื่องทักษะการใช้มีดเท่านั้นเอง

 

  ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง หยูหานที่มีพละกำลังแข็งแกร่งเปรียบเสมือนเสือที่บุกเข้าไปในกลุ่มโจร เขาเคลื่อนไหวอย่างอิสระท่ามกลางกลุ่มนั้น โจรทุกคนที่เข้ามาสู้กับหยูหานล้วนถูกโจมตีอย่างรุนแรงและกระเด็นลอยออกไปทันที บางคนก็ถูกดาบญี่ปุ่นของหยูหานฟันเป็นสองท่อน ในขณะนี้หยูหานได้ตระหนักถึงพลังอันทรงพลังในปัจจุบันของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

 

  คนหนึ่งมีทักษะการใช้มีดที่ยอดเยี่ยม อีกคนหนึ่งใช้พลังอย่างไม่ปรานี!

 

  เวลาต่อมา แม้แต่กลุ่มโจรใต้ดินที่เลียเลือดมาเป็นเวลานานก็ยังตกตะลึง คนกลุ่มนี้ช่างร้ายกาจเหลือเกิน ชายที่แขนหักและชายที่ถือดาบญี่ปุ่นนั่นไม่ใช่มนุษย์แน่ ๆ แม้แต่แก๊งใต้ดินก็ไม่มีใครที่ต่อสู้อย่างร้ายกาจเช่นนี้

 

  มีเพียงหนึ่งถึงสองคนที่เป็นผู้นำโจรที่ยังคงอยู่ ส่วนคนที่เหลือหนีไปทันที หลังจากนั้นไม่นานการต่อสู้ที่ชายขอบเมืองก็สิ้นสุดลงเหลือเพียงศพมากกว่าหนึ่งโหลที่ยังแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น

 

                                                               ————————

                            อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^

                                                https://www.kawebook.com/story/6809

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+