[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 155 การต้อนรับ

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 155 การต้อนรับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ทุกคนต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่จะตรวจสอบดูข้อมูลที่ไนท์กู้คืนมา แต่เมื่อทุกคนได้เห็นข้อมูลในแวบแรก พวกเขาก็งงงวยโดยทันที จากนั้นก็หันหน้าไปทางอื่นด้วยความเก้ ๆ กัง ๆ บนใบหน้า จะพูดอย่างไรดี ข้อมูลที่กู้คืนมาเกินความคาดหมายของทุกคนมาก มันน่าตื่นตะลึงทีเดียว ใช่ มันน่าตื่นตะลึงมาก ชายผิวดำคนหนึ่งกำลังจับผู้หญิงผิวขาวกำลังขย่มอย่างบ้าคลั่ง ~ ราวกับขี่ม้า

  บ้าเอ๊ย นั่นมันไม่มีการเซ็นเซอร์ใด ๆ เลย!

  เอาเถอะ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าสิ่งแรกที่ไนท์จะเรียกคืนคือ ‘ข้อมูล’ ประเภทนี้ มันแตกต่างโดยสิ้นเชิงระหว่างความเป็นจริงกับความคาดหวังที่ตั้งไว้ ทั้งยังมีฉากที่ค่อนข้างน่าตกใจนั่นอีก

  “ไนท์ เธอคงไม่ได้ตั้งใจหรอกใช่ไหม?” ไป๋อี้ถาม

  “ตั้งใจอะไร ฉันไม่มีความสนใจเริื่องแบบนั้นหรอก ยังไงก็ตามฉันไม่สามารถเข้าใจพฤติกรรมแปลก ๆ ของมนุษย์อย่างพวกคุณได้เลย นี่คือสิ่งที่เรียกว่าการผสมพันธุ์หรือเปล่า?” ไนท์มีสีหน้าครุ่นคิด เป็นเรื่องปกติหรือไม่ที่เด็กผู้หญิงที่น่ารักแบบนี้จะคิดเกี่ยวกับคำถามนี้อย่างเคร่งขรึม?

  “เธอพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก จริง ๆ แล้วสิ่งที่เรียกว่าการผสมพันธุ์มักใช้เพื่ออธิบายถึงพฤติกรรมของสัตว์และโดยทั่วไปแล้วมนุษย์เรียกว่าการร่วม~เพศ” จีฮั่วชิงกล่าวเตือนอย่างจริงจัง

  “เป็นอย่างนั้นเองหรอกเหรอ ความจริงแล้วพฤติกรรมของมนุษย์และสัตว์ต่างกันอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นชื่อของโฟลเดอร์นี้ยังถูกมนุษย์ตั้งชื่อว่า “ปาร์ตี้ ~ ผสมพันธ์อันบ้าคลั่ง”

  ชายชราและเด็กสาวเริ่มคุยกันถึงประเด็นนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้ไป๋อี้และคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จากนั้นไป๋อี้ก็รีบหยุดการสนทนานี้ไว้ แต่ในเวลานี้จู่ ๆ ไนท์ก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับวูล์ฟและเฮลัวส์

  “เห็นได้ชัดว่านี่คือการผสม~พันธ์ที่ว่า ไม่เชื่อก็ดูนี่สิ” ไนท์พูดและฉายวิดีโอหนึ่งขึ้นมา วิดีโอนี้เป็นวิดีโอความรักของวูล์ฟและเฮลัวส์ที่เกิดขึ้น ณ สถาบันวิจัยอุทยานแห่งชาติตองการิโร่ การกระทำของทั้งสองเป็นไปอย่างบ้าคลั่งและพวกเขาคลอเคลียกันด้วยคำพูดคำจาที่ลา~มกอยู่ไม่น้อย เช่น …… การร่วม~เพศอะไรทำนองนั้น

  สีหน้าของเฮลัวส์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เธอรู้สึกอับอายมาก

  พอได้แล้ว!

  ไป๋อี้ใช้ม่านตาบุษบาผกผันกับจีฮั่วชิงโดยตรง ชายชราหลับไปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทันที จากนั้นไป๋อี้ก็เคาะบนหน้าจออย่างจริงจัง “ไนท์พอแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องนี้และกู้คืนข้อมูลส่วนอื่น ๆ กลับมา ส่วนข้อมูลที่อยู่ข้างในเธอไม่ต้องเปิดมันโดยตรง เราสามารถตรวจสอบได้เอง”

  “ยังไม่ทันข้ามแม่น้ำก็รื้อสะพานซะแล้ว” ไนท์มุ่ยปากพลางมองไปที่ไป๋อี้อย่างโกรธเคือง

  “ผู้หญิงทั่วไปไม่มีใครคุยเรื่องแบบนี้เหมือนเธอ” เวร่าพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

  “อย่างนั้นเหรอ?”

  “ถูกต้อง ฉันเป็นครูสอนมารยาทของชนชั้นสูง” เวร่าพยักหน้าช้า ๆ เวร่าสามารถสัมผัสได้ว่าปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่าไนท์ดูเหมือนจะใส่ใจเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตัวเธอเอง ตามรูปลักษณ์ของเธอ ในแง่ของการตั้งค่าเธอควรจะมีอุปนิสัยประจำตัวแบบเด็กผู้หญิง ดังนั้นเวร่าจึงตั้งใจที่จะชี้แนะในเรื่องนี้

  “มารยาทของชนชั้นสูง ฉันมีข้อมูลนี้ไม่ครบถ้วน มันเป็นอย่างไรกัน?” ดูเหมือนว่าไนท์เริ่มให้ความใจกับเรื่องนี้

  หลังจากเรื่องไร้สาระเหล่านั้น ไนท์ก็ยังคงกู้คืนข้อมูลกลับมา ในขณะที่ไป๋อี้เดินออกไปดูว่าวูล์ฟและคนอื่น ๆ กำลังทำอะไรอยู่ข้างนอก เมื่อไป๋อี้ออกมาข้างนอกก็เขาพบว่าทั้งสองฝึกฝนทักษะการต่อสู้ของตนเองอย่างหมดอาลัยตายอยาก

  “ไป๋อี้ เป็นยังไงบ้าง?”

  “ข้อมูลส่วนหนึ่งถูกกู้คืนมาแล้ว แต่มันก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังคงดำเนินต่อไป” ไป๋อี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องน่าอายที่อยู่ข้างใน

  คงเป็นเรื่องยากที่จะกู้คืนข้อมูลที่ถูกลบไป โดยเฉพาะข้อมูลในสถาบันวิจัยนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงไฟล์ขยะอีกมากมาย เช่น “ปาร์ตี้ ~ ผสมพันธ์อันบ้าคลั่ง” ในข้อมูลจำนวนมหาศาลนี้ หลังจากใช้เวลาอยู่นาน ไนท์ก็กู้คืนข้อมูลมาได้ทั้งหมด และในเวลานี้ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ก็ได้มีโอกาสได้ดูไฟล์เหล่านี้

  ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ไป๋อี้สามารถเข้าใจคำศัพท์ที่ใช้กันทั่วไปได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ในส่วนของคำศัพท์เฉพาะทางนั้นไป๋อี้ไม่เข้าใจ หากเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกันไป๋อี้ก็ยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่ อย่างไรก็ตามเพียงแค่มองไปยังท่าทางเคร่งขรึมของจีฮั่วชิงเมื่อเขาได้เห็นข้อมูลบางอย่าง ไป๋อี้ก็รับรู้ถึงความสำคัญของข้อมูลนี้ได้ทันที

  “ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม ข้อมูลเหล่านี้หมายความว่าอะไร?”

  “เอ่อ เอ่อ” จีฮั่วชิงตอบไป๋อี้อย่างอ้ำ ๆ อึ้งราวกับขอไปที หลังจากท่าทีตอบสนองเช่นนั้น จีฮั่วชิงก็เริ่มอธิบายกับไป๋อี้ แต่ก็ยังสลับกับคำศัพท์ต่าง ๆ มากมายที่ไป๋อี้ก็ยังสับสนอยู่บ้าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไป๋อี้เห็นว่าชายชราจีฮั่วชิงยังมีการเก็บงำข้อมูลไว้อยู่

  ไป๋อี้ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์

  จะว่าอย่างไรดีล่ะ การวิจัยในอนาคตเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงและการวิจัยเกี่ยวกับการฟื้นฟูคืนสภาพของมนุษย์จะถูกส่งมอบให้กับนักวิจัยเหล่านี้ หากไม่มีใครเข้าใจสิ่งนี้ พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้กำลังศึกษาอะไรอยู่? บางทีหากเขาถูกคนกลุ่มนี้หักหลัง สุดท้ายก็คงเป็นไปได้ที่พวกเขาจะกลายเป็นเพียงหนูตะเภา

  ไป๋อี้ไม่ได้ซักถามเนื้อหาที่แท้จริงจากจีฮั่วชิง แต่หยิบตำราเกี่ยวกับชีววิทยาหลายเล่มที่พบในสถาบันวิจัยออกมา

  “ดร. จี จากนี้ไปคุณสอนความรู้พื้นฐานด้านการวิจัยทางชีววิทยาให้ผมเถอะ” ไป๋อี้กล่าว

  “เอ๋ อะไรนะ?” จีฮั่วชิงรู้สึกตกใจอย่างเห็นได้ชัดกับคำขออย่างกะทันหันของไป๋อี้

  “สอนความรู้พื้นฐานด้านการวิจัยทางชีววิทยาให้กับผม” ไป๋อี้พูดอย่างไม่กังขา

  “ถ้าคุณยืนยันอย่างนั้น ก็ได้ แต่อย่าคิดว่านี่เป็นสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ในเวลาอันสั้นนะ นักวิจัยตัวจริงไม่ได้สั่งสมจากประสบการณ์มากมายเท่านั้น” จีฮั่วชิงรู้ตำแหน่งของเขาในทีมดีและไม่มีที่ว่างสำหรับการปฏิเสธ

  ไป๋อี้พยักหน้า จุดประสงค์ของเขาไม่ใช่เพื่อเข้าร่วมการวิจัยหรืออะไรทำนองนั้น เขาไม่มีเวลาว่างมากนักถึงขนาดนั้น ไป๋อี้แค่อยากเข้าใจเอกสารการวิจัย อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าคนเหล่านี้วิจัยเรื่องอะไรเพื่อที่จะได้ไม่ถูกหลอก

  ไป๋อี้และทีมอยู่ในสถาบันวิจัยแห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งวัน หลังจากคัดลอกสิ่งที่เป็นประโยชน์ในนั้น พวกเขาก็ออกจากที่นี่ และในครั้งนี้ไป๋อี้ยังขอให้ไนท์ลบข้อมูลอีกครั้งโดยลบทิ้งอย่างสมบูรณ์ไม่ให้เหลือร่องรอย เพื่อที่ว่าต่อให้มีคนอื่นมาที่นี่จะได้ไม่พบข้อมูลใด ๆ ที่เป็นประโยชน์อีก ไม่รู้ว่าทำไมไป๋อี้ถึงรู้สึกอยู่เสมอว่ากลุ่มคนที่มาก่อนหน้าพวกเขาเข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้จริง ๆ ทั้งยังได้รู้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่แน่ในภายภาคหน้า ……

  สรุปได้ว่าพวกเขาจะออกเดินทางไปที่เมืองไครสต์เชิร์ชก่อน

  ……

  ไป๋อี้และทีมเดินเท้าเป็นเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงเมืองไครสต์เชิร์ช จากด้านนอกสามารถมองเห็นเมืองที่ซ่อนอยู่ในป่าได้ซึ่งเป็นเมืองที่แตกต่างออกไป มันเต็มไปด้วยมนต์ขลัง เมืองนี้เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด จำนวนผู้คนในเมืองไครสต์เชิร์ชมีไม่มาก ในขณะนี้มีเพียง 100,000 กว่าคนเท่านั้น แต่จำนวนกว่า 100,000 คนก็เป็นจำนวนที่หาได้ยากมากในนิวซีแลนด์ตอนนี้

  แม้ว่าจำนวนผู้คนในเมืองใหม่แห่งนี้จะน้อย แต่สถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่นี่ก็มีขนาดใหญ่มาก ตอนนี้ร่างกายของมนุษย์ที่เกิดการวิวัฒนาการมากกว่า 90% ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

หากเมืองนี้ถูกสร้างขึ้นตามเค้าโครงสร้างเดิม คนเหล่านี้จะไม่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้

  ไป๋อี้และคนอื่น ๆ เห็นว่าการก่อตั้งเมืองใหม่นี้ยังอยู่ในขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้น หลังจากผ่านเวลามาเพียงครึ่งปี ยังต้องใช้เวลาอีกมากในการบูรณาการ วางแผน ค้นหาคนที่มีพรสวรรค์ สร้างโครงสร้างแบบจำลองสิ่งก่อสร้างใหม่และป้องกันสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาจากอันตรายการภายนอก นอกจากนี้มนุษย์วิวัฒนาการทั้งหลายจะถูกรวมตัวกันใหม่ วิธีการกำกับดูแลรวมทั้งใครจะเป็นผู้นำ เหล่านี้ล้วนเป็นคำถามที่สำคัญมาก

  กลุ่มคนของไป๋อี้เดินเข้ามาในเมืองโดยที่ไม่โดดเด่นอะไร แต่ในไม่ช้าใครบางคนก็ยังสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ

  ผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังสร้างบ้านของตัวเองโดยมีร่างกายท่อนล่างคล้ายแมงป่องคลานอยู่บนพื้นด้วยขาทั้งหกถึงกับผงะแล้วมองไปยังทางที่พวกเขามา หลังจากได้เห็นรูปลักษณ์ของคนกลุ่มนี้ก็ทำเอาหนุ่มคนนั้นตะลึงงัน นั่นเหมือนกับทีมที่เป็นที่เลื่องลือกัน หลังจากนั้นไม่นานผู้ชายคนนั้นก็โยนต้นไม้ลงกับพื้นทันทีจากนั้นก็พุ่งเข้าหาไป๋อี้และคนอื่น ๆ อย่างกะทันหัน

  เห็นได้ชัดว่า เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ชายคนนี้ก็คุ้นเคยกับขาทั้งหกขาของเขาเป็นอย่างดีและสามารถคลานได้รวดเร็วมาก

  “เดี๋ยวก่อน ทีมข้างหน้านั่น รอก่อน”

  “เอ๋ มีเรื่องอะไรเหรอ?” ไป๋อี้และคนอื่น ๆ หันกลับมามองผู้ชายที่เหมือนแมงป่องคนนี้

  “ขอโทษนะคุณคือหัวหน้าไป๋อี้ใช่ไหม” ผู้ชายที่เหมือนแมงป่องถาม

  “ใช่ ฉันคือไป๋อี้” ไป๋อี้พยักหน้า

  ว่าอย่างไรดี แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะคาดเดาว่าได้ว่านี่อาจจะเป็นไป๋อี้ แต่เมื่อไป๋อี้ตอบกลับมาอย่างนั้นจริง ๆ ผู้ชายคนนี้ก็กลับมีท่าทางอึ้งทึ่งแทน ไป๋อี้ตัวจริง ไป๋อี้ตัวจริง! ต้องรู้ไว้ว่า แม้ว่าจะมีคนแอบอ้างเป็นไป๋อี้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถแอบอ้างเป็นเขาได้ เพราะดวงตาคู่นั้นไม่สามารถเลียนแบบได้

  “คุณคือหัวหน้าไป๋อี้จริง ๆ เยี่ยมจริง ๆ สุดยอดไปเลย” ทันใดนั้นเสียงของมนุษย์แมงป่องก็ไม่สัมพันธ์กัน เสียงของเขาผสมกับเสียงร้องของแมงป่องจนไม่สามารถจับใจความได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาตื่นเต้นมากเกินไป

  “ใจเย็น ๆ ใจเย็น ๆ มีเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ?” ไป๋อี้ทำให้ผู้ชายคนนี้ใจเย็นลงทันที

  “ช่วยเพื่อนของผมด้วย หัวหน้าของผมและสมาชิกในทีมอีกสองคน พวกเขาต่างก็เข้าสู่ระยะดุร้าย หัวหน้าไป๋อี้ช่วยพวกเขาด้วย” ชายแมงป่องคุกเข่าลงกับพื้นด้วยขาทั้งหก ด้วยท่าทีที่พิลึกพิลั่นดั่งสุภาษิตหัวมังกุท้ายมังกร อย่างไรก็ตามไป๋อี้ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินมาก

  “ลุกขึ้นมาก่อน ลุกขึ้นแล้วค่อยพูดคุยกัน” ไป๋อี้รีบเข้าไปช่วยพยุงผู้ชายคนนี้ทันที

  ในเวลานี้ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตรงนี้มีมนุษย์วิวัฒนาการหลายคนที่อยู่ข้างเคียงเห็นเหตุการณ์เข้าเช่นกัน มันกลายเป็นความสับสนหลังจากความรู้สึกประหลาดใจ ที่แท้คน ๆ นี้ก็คือไป๋อี้ เขาคือไป๋อี้ ไป๋อี้ที่หายตัวไปนานกว่าครึ่งปีได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและมาที่เมืองไครสต์เชิร์ช จนถึงตอนนี้เพื่อน ๆ ที่เข้าสู่สภาวะดุร้ายคงจะรอดแล้ว ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ก็พากันมารุมล้อมไป๋อี้และทีมของเขาทันที

  เป็นวงกว้างออกไปทุกที!

  ไป๋อี้พูดในใจขณะที่มองดูฝูงชนที่มากขึ้นเรื่อยๆและยิ่งตื่นเต้นกันมากขึ้นเช่นกัน ไป๋อี้ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะได้รับการต้อนรับมากมายขนาดนี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 155 การต้อนรับ

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 155 การต้อนรับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ทุกคนต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่จะตรวจสอบดูข้อมูลที่ไนท์กู้คืนมา แต่เมื่อทุกคนได้เห็นข้อมูลในแวบแรก พวกเขาก็งงงวยโดยทันที จากนั้นก็หันหน้าไปทางอื่นด้วยความเก้ ๆ กัง ๆ บนใบหน้า จะพูดอย่างไรดี ข้อมูลที่กู้คืนมาเกินความคาดหมายของทุกคนมาก มันน่าตื่นตะลึงทีเดียว ใช่ มันน่าตื่นตะลึงมาก ชายผิวดำคนหนึ่งกำลังจับผู้หญิงผิวขาวกำลังขย่มอย่างบ้าคลั่ง ~ ราวกับขี่ม้า

  บ้าเอ๊ย นั่นมันไม่มีการเซ็นเซอร์ใด ๆ เลย!

  เอาเถอะ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าสิ่งแรกที่ไนท์จะเรียกคืนคือ ‘ข้อมูล’ ประเภทนี้ มันแตกต่างโดยสิ้นเชิงระหว่างความเป็นจริงกับความคาดหวังที่ตั้งไว้ ทั้งยังมีฉากที่ค่อนข้างน่าตกใจนั่นอีก

  “ไนท์ เธอคงไม่ได้ตั้งใจหรอกใช่ไหม?” ไป๋อี้ถาม

  “ตั้งใจอะไร ฉันไม่มีความสนใจเริื่องแบบนั้นหรอก ยังไงก็ตามฉันไม่สามารถเข้าใจพฤติกรรมแปลก ๆ ของมนุษย์อย่างพวกคุณได้เลย นี่คือสิ่งที่เรียกว่าการผสมพันธุ์หรือเปล่า?” ไนท์มีสีหน้าครุ่นคิด เป็นเรื่องปกติหรือไม่ที่เด็กผู้หญิงที่น่ารักแบบนี้จะคิดเกี่ยวกับคำถามนี้อย่างเคร่งขรึม?

  “เธอพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก จริง ๆ แล้วสิ่งที่เรียกว่าการผสมพันธุ์มักใช้เพื่ออธิบายถึงพฤติกรรมของสัตว์และโดยทั่วไปแล้วมนุษย์เรียกว่าการร่วม~เพศ” จีฮั่วชิงกล่าวเตือนอย่างจริงจัง

  “เป็นอย่างนั้นเองหรอกเหรอ ความจริงแล้วพฤติกรรมของมนุษย์และสัตว์ต่างกันอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นชื่อของโฟลเดอร์นี้ยังถูกมนุษย์ตั้งชื่อว่า “ปาร์ตี้ ~ ผสมพันธ์อันบ้าคลั่ง”

  ชายชราและเด็กสาวเริ่มคุยกันถึงประเด็นนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้ไป๋อี้และคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จากนั้นไป๋อี้ก็รีบหยุดการสนทนานี้ไว้ แต่ในเวลานี้จู่ ๆ ไนท์ก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับวูล์ฟและเฮลัวส์

  “เห็นได้ชัดว่านี่คือการผสม~พันธ์ที่ว่า ไม่เชื่อก็ดูนี่สิ” ไนท์พูดและฉายวิดีโอหนึ่งขึ้นมา วิดีโอนี้เป็นวิดีโอความรักของวูล์ฟและเฮลัวส์ที่เกิดขึ้น ณ สถาบันวิจัยอุทยานแห่งชาติตองการิโร่ การกระทำของทั้งสองเป็นไปอย่างบ้าคลั่งและพวกเขาคลอเคลียกันด้วยคำพูดคำจาที่ลา~มกอยู่ไม่น้อย เช่น …… การร่วม~เพศอะไรทำนองนั้น

  สีหน้าของเฮลัวส์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เธอรู้สึกอับอายมาก

  พอได้แล้ว!

  ไป๋อี้ใช้ม่านตาบุษบาผกผันกับจีฮั่วชิงโดยตรง ชายชราหลับไปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทันที จากนั้นไป๋อี้ก็เคาะบนหน้าจออย่างจริงจัง “ไนท์พอแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องนี้และกู้คืนข้อมูลส่วนอื่น ๆ กลับมา ส่วนข้อมูลที่อยู่ข้างในเธอไม่ต้องเปิดมันโดยตรง เราสามารถตรวจสอบได้เอง”

  “ยังไม่ทันข้ามแม่น้ำก็รื้อสะพานซะแล้ว” ไนท์มุ่ยปากพลางมองไปที่ไป๋อี้อย่างโกรธเคือง

  “ผู้หญิงทั่วไปไม่มีใครคุยเรื่องแบบนี้เหมือนเธอ” เวร่าพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

  “อย่างนั้นเหรอ?”

  “ถูกต้อง ฉันเป็นครูสอนมารยาทของชนชั้นสูง” เวร่าพยักหน้าช้า ๆ เวร่าสามารถสัมผัสได้ว่าปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่าไนท์ดูเหมือนจะใส่ใจเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตัวเธอเอง ตามรูปลักษณ์ของเธอ ในแง่ของการตั้งค่าเธอควรจะมีอุปนิสัยประจำตัวแบบเด็กผู้หญิง ดังนั้นเวร่าจึงตั้งใจที่จะชี้แนะในเรื่องนี้

  “มารยาทของชนชั้นสูง ฉันมีข้อมูลนี้ไม่ครบถ้วน มันเป็นอย่างไรกัน?” ดูเหมือนว่าไนท์เริ่มให้ความใจกับเรื่องนี้

  หลังจากเรื่องไร้สาระเหล่านั้น ไนท์ก็ยังคงกู้คืนข้อมูลกลับมา ในขณะที่ไป๋อี้เดินออกไปดูว่าวูล์ฟและคนอื่น ๆ กำลังทำอะไรอยู่ข้างนอก เมื่อไป๋อี้ออกมาข้างนอกก็เขาพบว่าทั้งสองฝึกฝนทักษะการต่อสู้ของตนเองอย่างหมดอาลัยตายอยาก

  “ไป๋อี้ เป็นยังไงบ้าง?”

  “ข้อมูลส่วนหนึ่งถูกกู้คืนมาแล้ว แต่มันก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังคงดำเนินต่อไป” ไป๋อี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องน่าอายที่อยู่ข้างใน

  คงเป็นเรื่องยากที่จะกู้คืนข้อมูลที่ถูกลบไป โดยเฉพาะข้อมูลในสถาบันวิจัยนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงไฟล์ขยะอีกมากมาย เช่น “ปาร์ตี้ ~ ผสมพันธ์อันบ้าคลั่ง” ในข้อมูลจำนวนมหาศาลนี้ หลังจากใช้เวลาอยู่นาน ไนท์ก็กู้คืนข้อมูลมาได้ทั้งหมด และในเวลานี้ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ก็ได้มีโอกาสได้ดูไฟล์เหล่านี้

  ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ไป๋อี้สามารถเข้าใจคำศัพท์ที่ใช้กันทั่วไปได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ในส่วนของคำศัพท์เฉพาะทางนั้นไป๋อี้ไม่เข้าใจ หากเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกันไป๋อี้ก็ยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่ อย่างไรก็ตามเพียงแค่มองไปยังท่าทางเคร่งขรึมของจีฮั่วชิงเมื่อเขาได้เห็นข้อมูลบางอย่าง ไป๋อี้ก็รับรู้ถึงความสำคัญของข้อมูลนี้ได้ทันที

  “ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม ข้อมูลเหล่านี้หมายความว่าอะไร?”

  “เอ่อ เอ่อ” จีฮั่วชิงตอบไป๋อี้อย่างอ้ำ ๆ อึ้งราวกับขอไปที หลังจากท่าทีตอบสนองเช่นนั้น จีฮั่วชิงก็เริ่มอธิบายกับไป๋อี้ แต่ก็ยังสลับกับคำศัพท์ต่าง ๆ มากมายที่ไป๋อี้ก็ยังสับสนอยู่บ้าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไป๋อี้เห็นว่าชายชราจีฮั่วชิงยังมีการเก็บงำข้อมูลไว้อยู่

  ไป๋อี้ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์

  จะว่าอย่างไรดีล่ะ การวิจัยในอนาคตเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงและการวิจัยเกี่ยวกับการฟื้นฟูคืนสภาพของมนุษย์จะถูกส่งมอบให้กับนักวิจัยเหล่านี้ หากไม่มีใครเข้าใจสิ่งนี้ พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้กำลังศึกษาอะไรอยู่? บางทีหากเขาถูกคนกลุ่มนี้หักหลัง สุดท้ายก็คงเป็นไปได้ที่พวกเขาจะกลายเป็นเพียงหนูตะเภา

  ไป๋อี้ไม่ได้ซักถามเนื้อหาที่แท้จริงจากจีฮั่วชิง แต่หยิบตำราเกี่ยวกับชีววิทยาหลายเล่มที่พบในสถาบันวิจัยออกมา

  “ดร. จี จากนี้ไปคุณสอนความรู้พื้นฐานด้านการวิจัยทางชีววิทยาให้ผมเถอะ” ไป๋อี้กล่าว

  “เอ๋ อะไรนะ?” จีฮั่วชิงรู้สึกตกใจอย่างเห็นได้ชัดกับคำขออย่างกะทันหันของไป๋อี้

  “สอนความรู้พื้นฐานด้านการวิจัยทางชีววิทยาให้กับผม” ไป๋อี้พูดอย่างไม่กังขา

  “ถ้าคุณยืนยันอย่างนั้น ก็ได้ แต่อย่าคิดว่านี่เป็นสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ในเวลาอันสั้นนะ นักวิจัยตัวจริงไม่ได้สั่งสมจากประสบการณ์มากมายเท่านั้น” จีฮั่วชิงรู้ตำแหน่งของเขาในทีมดีและไม่มีที่ว่างสำหรับการปฏิเสธ

  ไป๋อี้พยักหน้า จุดประสงค์ของเขาไม่ใช่เพื่อเข้าร่วมการวิจัยหรืออะไรทำนองนั้น เขาไม่มีเวลาว่างมากนักถึงขนาดนั้น ไป๋อี้แค่อยากเข้าใจเอกสารการวิจัย อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าคนเหล่านี้วิจัยเรื่องอะไรเพื่อที่จะได้ไม่ถูกหลอก

  ไป๋อี้และทีมอยู่ในสถาบันวิจัยแห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งวัน หลังจากคัดลอกสิ่งที่เป็นประโยชน์ในนั้น พวกเขาก็ออกจากที่นี่ และในครั้งนี้ไป๋อี้ยังขอให้ไนท์ลบข้อมูลอีกครั้งโดยลบทิ้งอย่างสมบูรณ์ไม่ให้เหลือร่องรอย เพื่อที่ว่าต่อให้มีคนอื่นมาที่นี่จะได้ไม่พบข้อมูลใด ๆ ที่เป็นประโยชน์อีก ไม่รู้ว่าทำไมไป๋อี้ถึงรู้สึกอยู่เสมอว่ากลุ่มคนที่มาก่อนหน้าพวกเขาเข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้จริง ๆ ทั้งยังได้รู้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่แน่ในภายภาคหน้า ……

  สรุปได้ว่าพวกเขาจะออกเดินทางไปที่เมืองไครสต์เชิร์ชก่อน

  ……

  ไป๋อี้และทีมเดินเท้าเป็นเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงเมืองไครสต์เชิร์ช จากด้านนอกสามารถมองเห็นเมืองที่ซ่อนอยู่ในป่าได้ซึ่งเป็นเมืองที่แตกต่างออกไป มันเต็มไปด้วยมนต์ขลัง เมืองนี้เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด จำนวนผู้คนในเมืองไครสต์เชิร์ชมีไม่มาก ในขณะนี้มีเพียง 100,000 กว่าคนเท่านั้น แต่จำนวนกว่า 100,000 คนก็เป็นจำนวนที่หาได้ยากมากในนิวซีแลนด์ตอนนี้

  แม้ว่าจำนวนผู้คนในเมืองใหม่แห่งนี้จะน้อย แต่สถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่นี่ก็มีขนาดใหญ่มาก ตอนนี้ร่างกายของมนุษย์ที่เกิดการวิวัฒนาการมากกว่า 90% ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

หากเมืองนี้ถูกสร้างขึ้นตามเค้าโครงสร้างเดิม คนเหล่านี้จะไม่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้

  ไป๋อี้และคนอื่น ๆ เห็นว่าการก่อตั้งเมืองใหม่นี้ยังอยู่ในขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้น หลังจากผ่านเวลามาเพียงครึ่งปี ยังต้องใช้เวลาอีกมากในการบูรณาการ วางแผน ค้นหาคนที่มีพรสวรรค์ สร้างโครงสร้างแบบจำลองสิ่งก่อสร้างใหม่และป้องกันสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาจากอันตรายการภายนอก นอกจากนี้มนุษย์วิวัฒนาการทั้งหลายจะถูกรวมตัวกันใหม่ วิธีการกำกับดูแลรวมทั้งใครจะเป็นผู้นำ เหล่านี้ล้วนเป็นคำถามที่สำคัญมาก

  กลุ่มคนของไป๋อี้เดินเข้ามาในเมืองโดยที่ไม่โดดเด่นอะไร แต่ในไม่ช้าใครบางคนก็ยังสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ

  ผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังสร้างบ้านของตัวเองโดยมีร่างกายท่อนล่างคล้ายแมงป่องคลานอยู่บนพื้นด้วยขาทั้งหกถึงกับผงะแล้วมองไปยังทางที่พวกเขามา หลังจากได้เห็นรูปลักษณ์ของคนกลุ่มนี้ก็ทำเอาหนุ่มคนนั้นตะลึงงัน นั่นเหมือนกับทีมที่เป็นที่เลื่องลือกัน หลังจากนั้นไม่นานผู้ชายคนนั้นก็โยนต้นไม้ลงกับพื้นทันทีจากนั้นก็พุ่งเข้าหาไป๋อี้และคนอื่น ๆ อย่างกะทันหัน

  เห็นได้ชัดว่า เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ชายคนนี้ก็คุ้นเคยกับขาทั้งหกขาของเขาเป็นอย่างดีและสามารถคลานได้รวดเร็วมาก

  “เดี๋ยวก่อน ทีมข้างหน้านั่น รอก่อน”

  “เอ๋ มีเรื่องอะไรเหรอ?” ไป๋อี้และคนอื่น ๆ หันกลับมามองผู้ชายที่เหมือนแมงป่องคนนี้

  “ขอโทษนะคุณคือหัวหน้าไป๋อี้ใช่ไหม” ผู้ชายที่เหมือนแมงป่องถาม

  “ใช่ ฉันคือไป๋อี้” ไป๋อี้พยักหน้า

  ว่าอย่างไรดี แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะคาดเดาว่าได้ว่านี่อาจจะเป็นไป๋อี้ แต่เมื่อไป๋อี้ตอบกลับมาอย่างนั้นจริง ๆ ผู้ชายคนนี้ก็กลับมีท่าทางอึ้งทึ่งแทน ไป๋อี้ตัวจริง ไป๋อี้ตัวจริง! ต้องรู้ไว้ว่า แม้ว่าจะมีคนแอบอ้างเป็นไป๋อี้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถแอบอ้างเป็นเขาได้ เพราะดวงตาคู่นั้นไม่สามารถเลียนแบบได้

  “คุณคือหัวหน้าไป๋อี้จริง ๆ เยี่ยมจริง ๆ สุดยอดไปเลย” ทันใดนั้นเสียงของมนุษย์แมงป่องก็ไม่สัมพันธ์กัน เสียงของเขาผสมกับเสียงร้องของแมงป่องจนไม่สามารถจับใจความได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาตื่นเต้นมากเกินไป

  “ใจเย็น ๆ ใจเย็น ๆ มีเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ?” ไป๋อี้ทำให้ผู้ชายคนนี้ใจเย็นลงทันที

  “ช่วยเพื่อนของผมด้วย หัวหน้าของผมและสมาชิกในทีมอีกสองคน พวกเขาต่างก็เข้าสู่ระยะดุร้าย หัวหน้าไป๋อี้ช่วยพวกเขาด้วย” ชายแมงป่องคุกเข่าลงกับพื้นด้วยขาทั้งหก ด้วยท่าทีที่พิลึกพิลั่นดั่งสุภาษิตหัวมังกุท้ายมังกร อย่างไรก็ตามไป๋อี้ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินมาก

  “ลุกขึ้นมาก่อน ลุกขึ้นแล้วค่อยพูดคุยกัน” ไป๋อี้รีบเข้าไปช่วยพยุงผู้ชายคนนี้ทันที

  ในเวลานี้ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตรงนี้มีมนุษย์วิวัฒนาการหลายคนที่อยู่ข้างเคียงเห็นเหตุการณ์เข้าเช่นกัน มันกลายเป็นความสับสนหลังจากความรู้สึกประหลาดใจ ที่แท้คน ๆ นี้ก็คือไป๋อี้ เขาคือไป๋อี้ ไป๋อี้ที่หายตัวไปนานกว่าครึ่งปีได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและมาที่เมืองไครสต์เชิร์ช จนถึงตอนนี้เพื่อน ๆ ที่เข้าสู่สภาวะดุร้ายคงจะรอดแล้ว ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ก็พากันมารุมล้อมไป๋อี้และทีมของเขาทันที

  เป็นวงกว้างออกไปทุกที!

  ไป๋อี้พูดในใจขณะที่มองดูฝูงชนที่มากขึ้นเรื่อยๆและยิ่งตื่นเต้นกันมากขึ้นเช่นกัน ไป๋อี้ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะได้รับการต้อนรับมากมายขนาดนี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+