[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 148 เหมือนแต่ก่อน

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 148 เหมือนแต่ก่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ภายในครึ่งปีมนุษย์ที่เกิดการวิวัฒนาการทั้งหลายบนเกาะปีศาจในนิวซีแลนด์ได้ค่อย ๆ เปลี่ยนไป แม้ว่าจะยังมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อีกทั้งมีหลายคนที่ยังคงตกอยู่ในสภาวะดุร้ายและไม่มีวิธีใดที่สามารถฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ก็ตาม แต่ทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่และยังมีสติสัมปชัญญะก็เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น

  ผู้คนไม่ได้หวังพึ่งพาโลกภายนอก แต่กลับพึ่งพาพวกเขาด้วยกันเอง เพื่อความอยู่รอดของตน!

  ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา บรรดาทีมที่เดินทางไปทั่วนิวซีแลนด์เพื่อรวบรวมมนุษย์ที่วิวัฒนาการทั้งหลายเข้าด้วยกันล้วนมีชื่อเสียงมากมาย สำหรับไป๋อี้ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงเมื่อหกเดือนก่อนได้หายเงียบไปอย่างสิ้นเชิงภายในเวลาครึ่งปี แม้ว่าไป๋อี้จะหายตัวไป แต่ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาก็มีคนอื่นที่โดดเด่นนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นเพื่อนำพามนุษย์ที่มีวิวัฒนาการจำนวนนับไม่ถ้วนมุ่งสู่อนาคต โลกใบใหญ่ไม่เคยหยุดหมุนเพียงเพราะขาดใครบางคนไป

  อย่างไรก็ตามแม้ว่าไป๋อี้จะหายตัวไป แต่ก็ไม่มีใครลืมเขาได้เพราะดวงตาที่ไป๋อี้เคยแสดงให้เห็น ณ หุบเขาหิมะเป็นที่ประจักษ์ต่อหน้าทุกคน——ม่านตาบุษบาผกผัน!

  ชื่อเสียงเรียงนามของดวงตาคู่นี้พร้อมทั้งทีมที่ออกเดินทางเพื่อรวบรวมมนุษย์วิวัฒนาการถูกแพร่กระจายไปทั่วนิวซีแลนด์ ไม่รู้ว่ามีเพื่อนมนุษย์วิวัฒนาการผู้ร่วมอุดมการณ์มากน้อยกี่คนที่เข้าสู่ระยะดุร้าย พวกเขาต่างตามหาไป๋อี้อย่างเงียบ ๆ โดยหวังว่าไป๋อี้จะสามารถใช้พลังจากดวงตาคู่นั้นช่วยพวกเขาให้ฟื้นคืนสติได้ สภาวะดุร้ายทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนจำนวนมากตกอยู่ในสภาวะดุร้ายและไม่สามารถฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ ยิ่งไป๋อี้หายไปนานเท่าไหร่ความหวังของคนเหล่านี้ที่มีต่อไป๋อี้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

  ……

  ในขณะนี้ ไป๋อี้ไปอยู่ที่ไหนกันแน่?

  หลังจากสังเกตการณ์ขั้นเริ่มต้น ทุกคนพบว่าขนบนร่างของไป๋อี้เติบโตขึ้นอย่างบ้าคลั่งในช่วงเวลาสั้น ๆ จนห่อหุ้มตัวของเขาไว้ ในขณะที่ยังคงพันธนาการกับวัตถุโดยรอบเช่นกัน พวกเขาและไป๋อี้พักอยู่ในถ้ำคืนหนึ่ง เส้นไหมละเอียดเป็นฝอย ๆ เกือบจะพันพวกเขาไว้ในลักษณะเดียวกัน

  “แคว่ก!”

  วูล์ฟดึงเส้นไหมเส้นเล็ก ๆ บนร่างกายของเขาออก มันทั้งเหนียวและแข็งแรง จากนั้นก็เหลือบมองไปยังคนอื่น ๆ พวกเขาพักอยู่ในถ้ำนี้กับไป๋อี้ เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นในทุกเช้าพวกเขาจะพบเส้นไหมที่พันรอบตัวไป๋อี้เริ่มพันรอบตัวพวกเขาด้วย แม้ว่าจะสามารถทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวอย่างผิดปกติ ราวกับว่ามีความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา อีกทั้งยังมีความรู้สึกเมื่อยล้าร่วมด้วย

  นี่มันไม่ถูกต้องนะคุณครู คุณครูไม่เคยบอกมาก่อนว่ารังไหมของผีเสื้อจะเกี่ยวพันไปถึงคนอื่นด้วย

  ทุกคนอดไม่ได้ที่จะพร่ำบ่นว่าความรู้ทางชีววิทยาของพวกเขาไม่ค่อยแม่นยำนัก หลังจากที่ไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ ทุกคนก็ตัดสินใจที่จะยกรังไหมที่ถูกสร้างโดยไป๋อี้เข้าไปไว้ในป่าด้านนอก ผลที่ตามมาหลังจากนั้นเพียงสามวัน พวกเขาพบว่าเส้นไหมที่แผ่ออกมาจากรังไหมขนาดใหญ่ของไป๋อี้ค่อย ๆ เติบโตขึ้นบนยอดไม้ต่าง ๆ แล้วห่อหุ้มต้นไม้ใหญ่เหล่านั้นเอาไว้ด้วย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่รังไหมขนาดใหญ่นี้ถูกแขวนอยู่กลางอากาศด้วยตาข่ายขนาดใหญ่ของเส้นไหมเหล่านี้

  ทุกคนคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจึงได้แต่อยู่ข้าง ๆ และรออยู่ ณ ที่แห่งนั้น

  จนกระทั่ง วูล์ฟตื่นขึ้นมาในตอนเช้าโดยบังเอิญและพบว่าเหยื่อตัวหนึ่งที่เขาผูกไว้กับป่าหายไป วูล์ฟรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเหยื่อถูกห่อด้วยเส้นไหมของไป๋อี้และตายไปแล้ว

  “ไม่นึกเลยว่าจะถูกนายขโมยไปกิน” วูล์ฟบ่นพลางมองไปที่เส้นไหมสีขาวขนาดใหญ่ที่พื้น

  แน่นอนว่าวูล์ฟแค่ล้อเล่นเท่านั้น เขาไม่ได้ขี้เหนียวถึงขนาดนั้น อย่างไรก็ตามเวร่าซึ่งบันทึกการเปลี่ยนแปลงของไป๋อี้อยู่ก็เงยหน้าขึ้นและมองไปยังเหยื่อที่ติดอยู่ คืนหนึ่งรังไหมของไป๋อี้ห่อหุ้มเหยื่อไม่สนิท เมื่อมองผ่านช่องว่างเล็ก ๆ เหล่านั้นก็จะสามารถมองเห็นรังไหมสีขาวที่เติบโตออกมาจากร่างเหยื่อ  ไม่ ไม่ใช่สิ!

  มันไม่ได้เจริญออกมาจากร่างกาย แต่มีเส้นไหมงอกเข้าไปในร่างกายของเหยื่อตัวนี้ต่างหาก

  เวร่าเริ่มตื่นตัวขึ้นมาทันที จากนั้นเธอก็สังเกตอย่างระมัดระวังอยู่ในป่าที่ไป๋อี้อาศัยอยู่ ซึ่งเธอไม่เคยสังเกตเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เธอตระหนักแล้วว่าการเติบโตของต้นไม้ในพื้นที่โดยรอบที่ถูกปกคลุมด้วยเส้นไหมนั้นมีการเจริญเติบโตที่ไม่ค่อยดีนักคล้ายกับการขาดสารอาหาร เนื่องจากการค้นพบก่อนหน้านี้ ประกอบกับการที่ได้ค้นพบสิ่งนี้เพิ่มเติม เวร่าก็เกิดความคิดแวบเข้ามาในใจ …… เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ!

  ในไม่ช้า เวร่าก็เรียกทุกคนมารวมกันแล้วเล่าสิ่งที่เธอค้นพบ

  “วันนี้วูล์ฟบอกว่าไป๋อี้ขโมยเหยื่อที่เขาจับได้ไป” เวร่าไม่ได้พูดอ้อมค้อมแต่อย่างใด

  “ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ ล้อเล่น” วูล์ฟโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะข้ามเรื่องนี้ไป

  “ไม่ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น นายพูดถูกแล้ว อันที่จริงไป๋อี้แอบขโมยเหยื่อของนายไปกิน” เวร่าส่ายหัวและกล่าวอย่างจริงจัง “เหยื่อตัวนี้ถูกไป๋อี้จับเข้าไปในรังไหมเมื่อคืนนี้ มันเป็นเวลาสั้น ๆ เพียงวันเดียว แต่ดูเหมือนว่าเหยื่อตัวนั้นจะเหี่ยวแห้งเพราะขาดน้ำและซูบผอมไป” เวร่าพาทุกคนไปยังที่ที่วูล์ฟมัดเหยื่อเอาไว้

  “ถ้าอย่างนั้น ทุกคนลองสังเกตป่าโดยรอบที่ไป๋อี้อาศัยอยู่และไปเปรียบเทียบกับต้นไม้อื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง ทุกคนค้นพบอะไรบ้างหรือไม่” เวร่าพูดกับทุกคน

  “ค้นพบอะไรกัน?” ทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำของเวร่าทันทีและมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน

  “มองออกหรือยัง ทุกคนเห็นไหมว่าต้นไม้ในป่าที่ไป๋อี้อาศัยอยู่นั้นค่อนข้างเตี้ยและเหี่ยวแห้ง นี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากสำหรับพืชที่ได้ผสานรวมกับเซลล์ดัดแปลง นอกจากนี้อย่างที่ทุกคนเคยพูดไปแล้วว่าหลังจากที่ถูกปุยขนของไป๋อี้ห่อหุ้มต่างก็รู้สึกคันตามร่างกายและรู้สึกอึดอัด จากกรณีนี้เราจึงได้ข้อสรุปบางอย่าง” เวร่ายกนิ้วขึ้น

  “การดูดซับ!” เฮลัวส์เบิกตากว้างทันที

  “ถูกต้อง ไป๋อี้กำลังดูดซับสารอาหารของพืชเหล่านี้ผ่านเส้นไหมที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมและไม่เพียงแต่พืชเท่านั้น แต่ยังดูดซับสารอาหารจากสัตว์ด้วยความเร็วที่มากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามรังไหมเหล่านี้ดูเหมือนมันจะไม่มีความสามารถในการจับเหยื่อ เราจึงไม่พบข้อสังเกตจุดนี้ จนกระทั่งวูล์ฟผูกเหยื่อไว้ที่นี่เมื่อคืน” เวร่าอธิบาย

  ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ มันเป็นแบบนี้นี่เอง ดังนั้น?

  คนส่วนใหญ่ในทีมมองไปที่เวร่า ในเดือนที่ผ่านมาแผนการที่ครอบคลุมของเวร่าทำให้ทุกคนรู้สึกชื่นชมเธอจริง ๆ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเวร่าแทบจะต่ำที่สุดในทีม แต่เธอก็กลายเป็นผู้บัญชาการของทุกคนไปเสียแล้ว เวร่าเห็นสายตาของทุกคนที่จับจ้องมา แต่เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะยั่วยุให้ทุกคนเกิดความสนใจจริง ๆ

  “จับเหยื่อทั้งหลาย แล้วมัดไว้ที่นี่ ฉันคิดว่าไป๋อี้จะได้ดูดซับมันมากเท่าที่เขาต้องการ” เวร่ากล่าว

  “เข้าใจแล้ว” ทุกคนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

  ต่อไปสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่รอบ ๆ บริเวณจะต้องพบกับโชคร้ายเข้าให้แล้ว

วูล์ฟและคนในกลุ่มถูกส่งออกไปล่า ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่จับพวกมันทั้งหมดมามัดไว้ข้างรังไหมของไป๋อี้ พวกมันไม่สามารถหลบหนีได้ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ค่อย ๆ ถูกพันด้วยขนปุยเส้นละเอียดและพันเข้าไปในรังไหมขนาดใหญ่

  เนื่องจากได้รับสารอาหารที่เพียงพอ รังไหมของไป๋อี้ก็ขยายตัวมากยิ่งขึ้น หากคุณมองจากท้องฟ้าลงมาคุณจะพบกับป่าแปลก ๆ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางหลายร้อยเมตรในป่านี้ โดยมีเส้นไหมสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนอัดแน่นเป็นรังไหม มีรังไหมขนาดใหญ่ที่อยู่บนพื้น บ้างก็แขวนอยู่กลางอากาศ บ้างก็มีรังไหมขนาดใหญ่ที่แตกออกโดยไม่ได้ตั้งใจ และรังไหมที่ตกลงมาซึ่งภายในเป็นเศษกระดูกที่แตกหัก

  ใจกลางป่ามีรังไหมขนาดใหญ่สูงมากกว่า 3 เมตร รังไหมเหล่านี้อาจจะดูไม่พิเศษมากนัก อย่างไรก็ตามหากมองใกล้ ๆ จะพบว่าเส้นไหมเกือบทั้งหมดแผ่ออกมาจากรังไหมขนาดใหญ่นี้

  “ทุกคนว่าไป๋อี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อเขาออกมาเขาจะขยายสองปีกแล้วกลายเป็นผีเสื้อหรือเปล่า” ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้ว วูล์ฟก็ได้ถามขึ้นทันที

  “ใครจะไปรู้ รอให้ไป๋อี้ออกมาก่อน หลังจากนั้นเราก็จะได้รู้เอง คาดว่าคงอีกไม่นานหรอก” เฮลัวส์ตอบกลับ

  “อืม ไม่น่าจะนานหรอก ในช่วงเวลานี้อัตราการดูดซึมสารอาหารของไป๋อี้ดูลดลงอย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าเราจะผูกสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการไว้ข้างตาข่ายไหมชิ้นนี้ แต่พวกมันก็ยังไม่ถูกดูดซึมเข้าไป อาจเป็นไปได้ว่าสารอาหารที่ไป๋อี้ดูดซึมเข้าไปเพียงพอแล้วและคาดว่าไป๋อี้คงจะออกมาได้ในเร็ว ๆ นี้” เวร่ากล่าวเพื่อเป็นคำอธิบายเพิ่มเติม

  “อย่างนั้นเหรอ” คนที่ยังไม่เข้าใจก่อนหน้านี้ต่างพยักหน้า จากนั้นก็เหลือบมองไปที่ตรงกลางป่า

  โม่โม่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชาร์ไป่ เธอมองไปที่ป่าตรงกลางอย่างเงียบ ๆ ด้วยสายตาของความรู้สึกที่อยากปกป้องและรอคอย เธออายุได้ 7 ขวบ โม่โม่มีความสูง 1.2 เมตร หลังจากการสั่งสอนของเวร่าในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา นิสัยใจร้อนหุนหันพลันแล่นและความเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะค่อย ๆ จางหายไป หนูน้อยมีอารมณ์ที่สงบนิ่งและดูสูงส่ง เวร่าเป็นครูพิเศษสอนมารยาทให้แก่ชนชั้นสูง มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะสอนให้โม่โม่มีกิริยามารยาทเป็นแบบนี้ได้

  กล่าวคือคนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมพิเศษ พวกเขาจะมีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วขึ้น เป็นเวลากว่าครึ่งปีที่ไป๋อี้ไม่ได้อยู่เคียงข้างหนูน้อย แม้ว่าจะมีคนอื่น ๆ คอยห่วงใย แต่โม่โม่ก็รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างที่พ่อของเธอไม่อยู่ เธอไม่ได้ทำตัวเหมือนเด็กทารก โม่โม่เติบโตขึ้นมากจริง ๆ

  โม่โม่เหยียดนิ้วออก จากนั้นผีเสื้อกลืนกินวิญญาณสองตัวก็บินออกมา มันบินไปยังรังไหมขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางจากนั้นก็ร่อนตัวเกาะลงบนรังไหม พร้อมทั้งกระพือปีกเบา ๆ

  พ่อ!

  ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงเรียกของโม่โม่ ไป๋อี้ที่อยู่ตรงกลางรังไหมดูเงียบสงบ ทว่าคล้ายกับมีหยดน้ำใส ๆ หยดลงบนผิวน้ำของทะเลสาบที่ไร้คลื่น ติ๋ง เดิมทีไป๋อี้กำลังดำดิ่งอยู่ในความรู้สึกที่เงียบสงบ จากนั้นก็ค่อย ๆ ตื่นขึ้นพร้อมเสียงหยดน้ำดังติ๋งเบา ๆ ไป๋อี้ในรังไหมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและรูม่านตาบุษบาผกผันของเขาก็หมุนวนไปเองตามธรรมชาติ ทุกคนที่อยู่ภายนอกป่าเกิดความตกใจขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้นก็มองไปที่กลางป่าด้วยความประหลาดใจ

  เมื่อครู่นี้คือ?

  ไป๋อี้เหยียดนิ้วออก เล็บของเขางอกออกมา 1 เซนติเมตรโดยอัตโนมัติ แม้ว่าจะไม่ยาว แต่ก็ดูแหลมคมมากทีเดียว เขาส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ รังไหมขนาดใหญ่ที่เหนียวแน่นถูกตัดออกด้วยเล็บของไป๋อี้ จากนั้นก็มีช่องว่างที่เกิดจากการถูกตัดขาดออกจากกัน ในตอนแรกหนูน้อยเพียงขอให้ผีเสื้อกลืนกินวิญญาณลองคอยพ่อของเธอ แต่ในขณะนี้โม่โม่ถึงกับมองไปทางนั้นด้วยความประหลาดใจ และทันใดนั้นเธอก็วิ่งและกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ทันทีก่อนจะกระโดดออกไปอีกครั้ง

  ในขณะนี้ บุคลิกภาพที่สงบนิ่งของโม่โม่ได้หายไปแล้ว

  ไป๋อี้ที่เพิ่งกรีดรังไหมยักษ์และคลานออกมา ทันใดนั้นเขาก็เห็นร่างเล็ก ๆ กระทัดรัดวิ่งมาจากด้านหน้า แม้ว่าจะไม่ได้เห็นมานานกว่าครึ่งปีไป๋อี้ก็ยังจำโม่โม่ได้ในพริบตาแรกที่เห็นเธอ

  “โม่โม่ หนูอ้วนขึ้นอีกแล้วนะ” ไป๋อี้กอดโม่โม่ที่กำลังวิ่งเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนแต่ก่อน

  “ตอนนี้หนูไม่เห็นอ้วนเลยสักนิด” โม่โม่เงยหน้ามองไป๋อี้

  “อย่างนั้นเหรอ ใช่ หนูสูงขึ้นตั้งเยอะ!” ไป๋อี้มองไปที่ใบหน้าอันบอบบางของโม่โม่และทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าโม่โม่ไม่ได้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่เธอกลับสูงขึ้นต่างหาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 148 เหมือนแต่ก่อน

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 148 เหมือนแต่ก่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ภายในครึ่งปีมนุษย์ที่เกิดการวิวัฒนาการทั้งหลายบนเกาะปีศาจในนิวซีแลนด์ได้ค่อย ๆ เปลี่ยนไป แม้ว่าจะยังมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อีกทั้งมีหลายคนที่ยังคงตกอยู่ในสภาวะดุร้ายและไม่มีวิธีใดที่สามารถฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ก็ตาม แต่ทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่และยังมีสติสัมปชัญญะก็เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น

  ผู้คนไม่ได้หวังพึ่งพาโลกภายนอก แต่กลับพึ่งพาพวกเขาด้วยกันเอง เพื่อความอยู่รอดของตน!

  ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา บรรดาทีมที่เดินทางไปทั่วนิวซีแลนด์เพื่อรวบรวมมนุษย์ที่วิวัฒนาการทั้งหลายเข้าด้วยกันล้วนมีชื่อเสียงมากมาย สำหรับไป๋อี้ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงเมื่อหกเดือนก่อนได้หายเงียบไปอย่างสิ้นเชิงภายในเวลาครึ่งปี แม้ว่าไป๋อี้จะหายตัวไป แต่ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาก็มีคนอื่นที่โดดเด่นนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นเพื่อนำพามนุษย์ที่มีวิวัฒนาการจำนวนนับไม่ถ้วนมุ่งสู่อนาคต โลกใบใหญ่ไม่เคยหยุดหมุนเพียงเพราะขาดใครบางคนไป

  อย่างไรก็ตามแม้ว่าไป๋อี้จะหายตัวไป แต่ก็ไม่มีใครลืมเขาได้เพราะดวงตาที่ไป๋อี้เคยแสดงให้เห็น ณ หุบเขาหิมะเป็นที่ประจักษ์ต่อหน้าทุกคน——ม่านตาบุษบาผกผัน!

  ชื่อเสียงเรียงนามของดวงตาคู่นี้พร้อมทั้งทีมที่ออกเดินทางเพื่อรวบรวมมนุษย์วิวัฒนาการถูกแพร่กระจายไปทั่วนิวซีแลนด์ ไม่รู้ว่ามีเพื่อนมนุษย์วิวัฒนาการผู้ร่วมอุดมการณ์มากน้อยกี่คนที่เข้าสู่ระยะดุร้าย พวกเขาต่างตามหาไป๋อี้อย่างเงียบ ๆ โดยหวังว่าไป๋อี้จะสามารถใช้พลังจากดวงตาคู่นั้นช่วยพวกเขาให้ฟื้นคืนสติได้ สภาวะดุร้ายทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนจำนวนมากตกอยู่ในสภาวะดุร้ายและไม่สามารถฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ ยิ่งไป๋อี้หายไปนานเท่าไหร่ความหวังของคนเหล่านี้ที่มีต่อไป๋อี้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

  ……

  ในขณะนี้ ไป๋อี้ไปอยู่ที่ไหนกันแน่?

  หลังจากสังเกตการณ์ขั้นเริ่มต้น ทุกคนพบว่าขนบนร่างของไป๋อี้เติบโตขึ้นอย่างบ้าคลั่งในช่วงเวลาสั้น ๆ จนห่อหุ้มตัวของเขาไว้ ในขณะที่ยังคงพันธนาการกับวัตถุโดยรอบเช่นกัน พวกเขาและไป๋อี้พักอยู่ในถ้ำคืนหนึ่ง เส้นไหมละเอียดเป็นฝอย ๆ เกือบจะพันพวกเขาไว้ในลักษณะเดียวกัน

  “แคว่ก!”

  วูล์ฟดึงเส้นไหมเส้นเล็ก ๆ บนร่างกายของเขาออก มันทั้งเหนียวและแข็งแรง จากนั้นก็เหลือบมองไปยังคนอื่น ๆ พวกเขาพักอยู่ในถ้ำนี้กับไป๋อี้ เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นในทุกเช้าพวกเขาจะพบเส้นไหมที่พันรอบตัวไป๋อี้เริ่มพันรอบตัวพวกเขาด้วย แม้ว่าจะสามารถทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวอย่างผิดปกติ ราวกับว่ามีความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา อีกทั้งยังมีความรู้สึกเมื่อยล้าร่วมด้วย

  นี่มันไม่ถูกต้องนะคุณครู คุณครูไม่เคยบอกมาก่อนว่ารังไหมของผีเสื้อจะเกี่ยวพันไปถึงคนอื่นด้วย

  ทุกคนอดไม่ได้ที่จะพร่ำบ่นว่าความรู้ทางชีววิทยาของพวกเขาไม่ค่อยแม่นยำนัก หลังจากที่ไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ ทุกคนก็ตัดสินใจที่จะยกรังไหมที่ถูกสร้างโดยไป๋อี้เข้าไปไว้ในป่าด้านนอก ผลที่ตามมาหลังจากนั้นเพียงสามวัน พวกเขาพบว่าเส้นไหมที่แผ่ออกมาจากรังไหมขนาดใหญ่ของไป๋อี้ค่อย ๆ เติบโตขึ้นบนยอดไม้ต่าง ๆ แล้วห่อหุ้มต้นไม้ใหญ่เหล่านั้นเอาไว้ด้วย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่รังไหมขนาดใหญ่นี้ถูกแขวนอยู่กลางอากาศด้วยตาข่ายขนาดใหญ่ของเส้นไหมเหล่านี้

  ทุกคนคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจึงได้แต่อยู่ข้าง ๆ และรออยู่ ณ ที่แห่งนั้น

  จนกระทั่ง วูล์ฟตื่นขึ้นมาในตอนเช้าโดยบังเอิญและพบว่าเหยื่อตัวหนึ่งที่เขาผูกไว้กับป่าหายไป วูล์ฟรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเหยื่อถูกห่อด้วยเส้นไหมของไป๋อี้และตายไปแล้ว

  “ไม่นึกเลยว่าจะถูกนายขโมยไปกิน” วูล์ฟบ่นพลางมองไปที่เส้นไหมสีขาวขนาดใหญ่ที่พื้น

  แน่นอนว่าวูล์ฟแค่ล้อเล่นเท่านั้น เขาไม่ได้ขี้เหนียวถึงขนาดนั้น อย่างไรก็ตามเวร่าซึ่งบันทึกการเปลี่ยนแปลงของไป๋อี้อยู่ก็เงยหน้าขึ้นและมองไปยังเหยื่อที่ติดอยู่ คืนหนึ่งรังไหมของไป๋อี้ห่อหุ้มเหยื่อไม่สนิท เมื่อมองผ่านช่องว่างเล็ก ๆ เหล่านั้นก็จะสามารถมองเห็นรังไหมสีขาวที่เติบโตออกมาจากร่างเหยื่อ  ไม่ ไม่ใช่สิ!

  มันไม่ได้เจริญออกมาจากร่างกาย แต่มีเส้นไหมงอกเข้าไปในร่างกายของเหยื่อตัวนี้ต่างหาก

  เวร่าเริ่มตื่นตัวขึ้นมาทันที จากนั้นเธอก็สังเกตอย่างระมัดระวังอยู่ในป่าที่ไป๋อี้อาศัยอยู่ ซึ่งเธอไม่เคยสังเกตเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เธอตระหนักแล้วว่าการเติบโตของต้นไม้ในพื้นที่โดยรอบที่ถูกปกคลุมด้วยเส้นไหมนั้นมีการเจริญเติบโตที่ไม่ค่อยดีนักคล้ายกับการขาดสารอาหาร เนื่องจากการค้นพบก่อนหน้านี้ ประกอบกับการที่ได้ค้นพบสิ่งนี้เพิ่มเติม เวร่าก็เกิดความคิดแวบเข้ามาในใจ …… เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ!

  ในไม่ช้า เวร่าก็เรียกทุกคนมารวมกันแล้วเล่าสิ่งที่เธอค้นพบ

  “วันนี้วูล์ฟบอกว่าไป๋อี้ขโมยเหยื่อที่เขาจับได้ไป” เวร่าไม่ได้พูดอ้อมค้อมแต่อย่างใด

  “ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ ล้อเล่น” วูล์ฟโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะข้ามเรื่องนี้ไป

  “ไม่ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น นายพูดถูกแล้ว อันที่จริงไป๋อี้แอบขโมยเหยื่อของนายไปกิน” เวร่าส่ายหัวและกล่าวอย่างจริงจัง “เหยื่อตัวนี้ถูกไป๋อี้จับเข้าไปในรังไหมเมื่อคืนนี้ มันเป็นเวลาสั้น ๆ เพียงวันเดียว แต่ดูเหมือนว่าเหยื่อตัวนั้นจะเหี่ยวแห้งเพราะขาดน้ำและซูบผอมไป” เวร่าพาทุกคนไปยังที่ที่วูล์ฟมัดเหยื่อเอาไว้

  “ถ้าอย่างนั้น ทุกคนลองสังเกตป่าโดยรอบที่ไป๋อี้อาศัยอยู่และไปเปรียบเทียบกับต้นไม้อื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง ทุกคนค้นพบอะไรบ้างหรือไม่” เวร่าพูดกับทุกคน

  “ค้นพบอะไรกัน?” ทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำของเวร่าทันทีและมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน

  “มองออกหรือยัง ทุกคนเห็นไหมว่าต้นไม้ในป่าที่ไป๋อี้อาศัยอยู่นั้นค่อนข้างเตี้ยและเหี่ยวแห้ง นี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากสำหรับพืชที่ได้ผสานรวมกับเซลล์ดัดแปลง นอกจากนี้อย่างที่ทุกคนเคยพูดไปแล้วว่าหลังจากที่ถูกปุยขนของไป๋อี้ห่อหุ้มต่างก็รู้สึกคันตามร่างกายและรู้สึกอึดอัด จากกรณีนี้เราจึงได้ข้อสรุปบางอย่าง” เวร่ายกนิ้วขึ้น

  “การดูดซับ!” เฮลัวส์เบิกตากว้างทันที

  “ถูกต้อง ไป๋อี้กำลังดูดซับสารอาหารของพืชเหล่านี้ผ่านเส้นไหมที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมและไม่เพียงแต่พืชเท่านั้น แต่ยังดูดซับสารอาหารจากสัตว์ด้วยความเร็วที่มากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามรังไหมเหล่านี้ดูเหมือนมันจะไม่มีความสามารถในการจับเหยื่อ เราจึงไม่พบข้อสังเกตจุดนี้ จนกระทั่งวูล์ฟผูกเหยื่อไว้ที่นี่เมื่อคืน” เวร่าอธิบาย

  ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ มันเป็นแบบนี้นี่เอง ดังนั้น?

  คนส่วนใหญ่ในทีมมองไปที่เวร่า ในเดือนที่ผ่านมาแผนการที่ครอบคลุมของเวร่าทำให้ทุกคนรู้สึกชื่นชมเธอจริง ๆ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเวร่าแทบจะต่ำที่สุดในทีม แต่เธอก็กลายเป็นผู้บัญชาการของทุกคนไปเสียแล้ว เวร่าเห็นสายตาของทุกคนที่จับจ้องมา แต่เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะยั่วยุให้ทุกคนเกิดความสนใจจริง ๆ

  “จับเหยื่อทั้งหลาย แล้วมัดไว้ที่นี่ ฉันคิดว่าไป๋อี้จะได้ดูดซับมันมากเท่าที่เขาต้องการ” เวร่ากล่าว

  “เข้าใจแล้ว” ทุกคนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

  ต่อไปสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่รอบ ๆ บริเวณจะต้องพบกับโชคร้ายเข้าให้แล้ว

วูล์ฟและคนในกลุ่มถูกส่งออกไปล่า ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่จับพวกมันทั้งหมดมามัดไว้ข้างรังไหมของไป๋อี้ พวกมันไม่สามารถหลบหนีได้ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ค่อย ๆ ถูกพันด้วยขนปุยเส้นละเอียดและพันเข้าไปในรังไหมขนาดใหญ่

  เนื่องจากได้รับสารอาหารที่เพียงพอ รังไหมของไป๋อี้ก็ขยายตัวมากยิ่งขึ้น หากคุณมองจากท้องฟ้าลงมาคุณจะพบกับป่าแปลก ๆ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางหลายร้อยเมตรในป่านี้ โดยมีเส้นไหมสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนอัดแน่นเป็นรังไหม มีรังไหมขนาดใหญ่ที่อยู่บนพื้น บ้างก็แขวนอยู่กลางอากาศ บ้างก็มีรังไหมขนาดใหญ่ที่แตกออกโดยไม่ได้ตั้งใจ และรังไหมที่ตกลงมาซึ่งภายในเป็นเศษกระดูกที่แตกหัก

  ใจกลางป่ามีรังไหมขนาดใหญ่สูงมากกว่า 3 เมตร รังไหมเหล่านี้อาจจะดูไม่พิเศษมากนัก อย่างไรก็ตามหากมองใกล้ ๆ จะพบว่าเส้นไหมเกือบทั้งหมดแผ่ออกมาจากรังไหมขนาดใหญ่นี้

  “ทุกคนว่าไป๋อี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อเขาออกมาเขาจะขยายสองปีกแล้วกลายเป็นผีเสื้อหรือเปล่า” ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้ว วูล์ฟก็ได้ถามขึ้นทันที

  “ใครจะไปรู้ รอให้ไป๋อี้ออกมาก่อน หลังจากนั้นเราก็จะได้รู้เอง คาดว่าคงอีกไม่นานหรอก” เฮลัวส์ตอบกลับ

  “อืม ไม่น่าจะนานหรอก ในช่วงเวลานี้อัตราการดูดซึมสารอาหารของไป๋อี้ดูลดลงอย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าเราจะผูกสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการไว้ข้างตาข่ายไหมชิ้นนี้ แต่พวกมันก็ยังไม่ถูกดูดซึมเข้าไป อาจเป็นไปได้ว่าสารอาหารที่ไป๋อี้ดูดซึมเข้าไปเพียงพอแล้วและคาดว่าไป๋อี้คงจะออกมาได้ในเร็ว ๆ นี้” เวร่ากล่าวเพื่อเป็นคำอธิบายเพิ่มเติม

  “อย่างนั้นเหรอ” คนที่ยังไม่เข้าใจก่อนหน้านี้ต่างพยักหน้า จากนั้นก็เหลือบมองไปที่ตรงกลางป่า

  โม่โม่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชาร์ไป่ เธอมองไปที่ป่าตรงกลางอย่างเงียบ ๆ ด้วยสายตาของความรู้สึกที่อยากปกป้องและรอคอย เธออายุได้ 7 ขวบ โม่โม่มีความสูง 1.2 เมตร หลังจากการสั่งสอนของเวร่าในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา นิสัยใจร้อนหุนหันพลันแล่นและความเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะค่อย ๆ จางหายไป หนูน้อยมีอารมณ์ที่สงบนิ่งและดูสูงส่ง เวร่าเป็นครูพิเศษสอนมารยาทให้แก่ชนชั้นสูง มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะสอนให้โม่โม่มีกิริยามารยาทเป็นแบบนี้ได้

  กล่าวคือคนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมพิเศษ พวกเขาจะมีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วขึ้น เป็นเวลากว่าครึ่งปีที่ไป๋อี้ไม่ได้อยู่เคียงข้างหนูน้อย แม้ว่าจะมีคนอื่น ๆ คอยห่วงใย แต่โม่โม่ก็รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างที่พ่อของเธอไม่อยู่ เธอไม่ได้ทำตัวเหมือนเด็กทารก โม่โม่เติบโตขึ้นมากจริง ๆ

  โม่โม่เหยียดนิ้วออก จากนั้นผีเสื้อกลืนกินวิญญาณสองตัวก็บินออกมา มันบินไปยังรังไหมขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางจากนั้นก็ร่อนตัวเกาะลงบนรังไหม พร้อมทั้งกระพือปีกเบา ๆ

  พ่อ!

  ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงเรียกของโม่โม่ ไป๋อี้ที่อยู่ตรงกลางรังไหมดูเงียบสงบ ทว่าคล้ายกับมีหยดน้ำใส ๆ หยดลงบนผิวน้ำของทะเลสาบที่ไร้คลื่น ติ๋ง เดิมทีไป๋อี้กำลังดำดิ่งอยู่ในความรู้สึกที่เงียบสงบ จากนั้นก็ค่อย ๆ ตื่นขึ้นพร้อมเสียงหยดน้ำดังติ๋งเบา ๆ ไป๋อี้ในรังไหมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและรูม่านตาบุษบาผกผันของเขาก็หมุนวนไปเองตามธรรมชาติ ทุกคนที่อยู่ภายนอกป่าเกิดความตกใจขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้นก็มองไปที่กลางป่าด้วยความประหลาดใจ

  เมื่อครู่นี้คือ?

  ไป๋อี้เหยียดนิ้วออก เล็บของเขางอกออกมา 1 เซนติเมตรโดยอัตโนมัติ แม้ว่าจะไม่ยาว แต่ก็ดูแหลมคมมากทีเดียว เขาส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ รังไหมขนาดใหญ่ที่เหนียวแน่นถูกตัดออกด้วยเล็บของไป๋อี้ จากนั้นก็มีช่องว่างที่เกิดจากการถูกตัดขาดออกจากกัน ในตอนแรกหนูน้อยเพียงขอให้ผีเสื้อกลืนกินวิญญาณลองคอยพ่อของเธอ แต่ในขณะนี้โม่โม่ถึงกับมองไปทางนั้นด้วยความประหลาดใจ และทันใดนั้นเธอก็วิ่งและกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ทันทีก่อนจะกระโดดออกไปอีกครั้ง

  ในขณะนี้ บุคลิกภาพที่สงบนิ่งของโม่โม่ได้หายไปแล้ว

  ไป๋อี้ที่เพิ่งกรีดรังไหมยักษ์และคลานออกมา ทันใดนั้นเขาก็เห็นร่างเล็ก ๆ กระทัดรัดวิ่งมาจากด้านหน้า แม้ว่าจะไม่ได้เห็นมานานกว่าครึ่งปีไป๋อี้ก็ยังจำโม่โม่ได้ในพริบตาแรกที่เห็นเธอ

  “โม่โม่ หนูอ้วนขึ้นอีกแล้วนะ” ไป๋อี้กอดโม่โม่ที่กำลังวิ่งเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนแต่ก่อน

  “ตอนนี้หนูไม่เห็นอ้วนเลยสักนิด” โม่โม่เงยหน้ามองไป๋อี้

  “อย่างนั้นเหรอ ใช่ หนูสูงขึ้นตั้งเยอะ!” ไป๋อี้มองไปที่ใบหน้าอันบอบบางของโม่โม่และทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าโม่โม่ไม่ได้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่เธอกลับสูงขึ้นต่างหาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+