[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 166 ชินชิล่า

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 166 ชินชิล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ไป๋อี้พาเบ็คกี้เข้าไปในห้องพักฟื้นจากนั้นก็ให้ยาแก่พวกเธอแต่ละคน

 

 

  “นี่คืออะไร?”

  “Fost Soul!” ไป๋อี้กล่าว

  เบ็คกี้ตกตะลึงเมื่อได้ยินชื่อ Fost Soul ชื่อของยานี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นี่คือยาที่ทำจากดอกไม้มรณะ อีกทั้งยังไม่มีการค้นพบยาประเภทนี้เป็นชนิดที่สอง มียาหลายชนิดที่ถูกเรียกว่ายาบำรุงจิตวิญญาณปรากฏในไครสต์เชิร์ช แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่บางคนทำขึ้นเพื่อหลอกลวงผู้อื่นเท่านั้น

  “การนอนหลับลึกคือการปรับตัวเองเพื่อขจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปและเสริมสิ่งที่ต้องการ แต่ถ้าร่างกายของคุณไม่มีส่วนประกอบเหล่านั้นการนอนหลับลึกก็จะไม่มีผลมากนัก ลองกินยา Fost Soul ดู มันสามารถทำให้จิตวิญญาณกับร่างกายสอดประสานเข้าด้วยกันได้มากขึ้น” ไป๋อี้พูด

  “ขอบคุณนะ!”

  เบ็คกี้ไม่ปฏิเสธเพราะเธอรู้ว่าสิ่งนี้มีค่าเพียงใด บางคนในไครสต์เชิร์ชไปที่เวลลิงตันเพื่อเก็บดอกไม้มรณะ แต่ไม่มีใครเคยได้กลับออกมาจากที่นั่นเลย ช่องแคบคุกคือจุดที่สกัดคนส่วนใหญ่ไว้ ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าที่ผ่านมามีใครทำสำเร็จบ้าง 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เดินทางทางทะเลเสียชีวิต และเกรงว่าการเดินทางบนท้องฟ้าคงจะอันตรายพอ ๆ กัน นอกจากนี้เฮลิคอปเตอร์และยานพาหนะอื่น ๆ ยังเป็นสิ่งที่หายากมาก ซึ่งในไครสต์เชิร์ชตอนนี้ก็หาไม่ได้เช่นกัน

  ในความเป็นจริง ไป๋อี้ยังบอกกับผู้คนในไครสต์เชิร์ชว่าเขาได้พบกับอนาคอนด้าทะเลสีทองขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 100 เมตรในช่องแคบคุก แต่คนส่วนใหญ่คิดว่าสิ่งที่ไป๋อี้พูดเป็นเรื่องตลก อนาคอนด้าทะเลตัวใหญ่ขนาดนั้นจะมีอยู่ได้อย่างไร แม้ว่ามันจะมีอยู่จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกไป๋อี้จะเผชิญหน้าและรอดชีวิตมาได้ นั่นเป็นเรื่องที่คุยโม้มากกว่า และแม้ว่าจะมีจริงพวกเขาอาจจะไม่โชคร้ายขนาดนั้นที่จะได้พบกับมันเข้า พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่หลังจากที่ไม่มีใครรอดชีวิตกลับมา คนที่เหลืออยู่ก็เริ่มเชื่อเรื่องนี้มากขึ้น

  “มาเริ่มกันเลย!” ไป๋อี้พูดหลังจากที่ทั้งสองกินยาไปแล้ว

  หลังจากที่ไป๋อี้พูดจบ เขาก็ทำการสะกดจิตทั้งสองคน ตอนนี้เบ็คกี้ไม่มีความหวาดระแวงอีกต่อไป เธอมาถึงจุดที่เธอไม่สามารถเสียใจในภายหลังได้แล้ว เมื่อทั้งคู่ผ่อนคลายลงไป๋อี้ก็สะกดจิตพวกเธอได้อย่างง่ายดาย นี่ไม่ใช่การสะกดจิตเหมือนนักสะกดจิตคนอื่น ๆ ในศูนย์ฟื้นฟู ภายใต้การสะกดจิตของไป๋อี้ทั้งสองก็เข้าสู่ห้วงนิทราโดยปราศจากความฝันในชั่วขณะนั้น ในสภาวะนี้สิ่งมีชีวิตจะปรับทรัพยากรในร่างกาย องค์ประกอบต่าง ๆ และจิตวิญญาณที่สิงอยู่ในร่างกายโดยอัตโนมัติ

  ……

  หลังจากที่ไป๋อี้สะกดจิตคนทั้งสองแล้ว เขาก็บอกให้คนข้างนอกดูแลทั้งคู่ ก่อนไป๋อี้จะออกจากห้องฟื้นฟูไป

  “เตรียมของพร้อมหรือยัง?” หลังจากไป๋อี้กลับมา เขาก็พบว่าเวร่ากลับมาที่ศูนย์ฟื้นฟูแล้ว

  “เตรียมพร้อมแล้ว สามารถไปที่นั่นได้ทุกเมื่อ” เวร่าพยักหน้า

  “ถ้าอย่างนั้นรอสัก 1 สัปดาห์แล้วเราจะออกจากที่นี่กัน” ไป๋อี้พยักหน้า ในตอนนี้วูล์ฟ เฮลัวส์ ชาร์ไป่ และคนอื่น ๆ ไม่ได้อยู่ในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ เนื่องจากไป๋อี้ได้ส่งพวกเขาออกไปนานแล้วเพื่อมองหาสถานที่ที่ปลอดภัยที่เหมาะสมกับการเข้าสู่การนอนหลับ ไม่ว่าในกรณีใดพวกไป๋อี้จะเป็นที่สะดุดตาอยู่เสมอ หากทั้งทีมออกจากที่นี่ในเวลาเดียวกัน ก็อาจจะถูกผู้คนเหล่านั้นคาดเดาสถานการณ์ได้

  “จริง ๆ แล้วคุณสามารถออกเดินทางได้เลยไม่ใช่เหรอ” เวร่าพูดอย่างสงสัย

  “ฉันยังไปไม่ได้ ตอนนี้ฉันเพิ่งทำข้อตกลงกับใครบางคนไป ก่อนอื่นฉันต้องช่วยพวกเขาบำรุงฟื้นฟูเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์” ไป๋อี้กล่าว

  “ข้อตกลง?”

  “อันที่จริงวันนี้ฉันออกไปข้างนอกและบังเอิญได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่มาก” ไป๋อี้พูดถึงข้อตกลงของเขากับเบ็คกี้ นี่เป็นข้อตกลงที่ทั้งสองต่างได้ประโยชน์ ไป๋อี้ได้สูตรอาหาร ในขณะที่เบ็คกี้และเบมีล่าได้ฝึกฝนร่างกายและจิตวิญญาณของพวกเธอทำให้ตัวเองมีเสถียรภาพมากขึ้น ไป๋อี้คิดว่าตนเองมีสูตรอาหารที่ดีและถ้าเขามีเวลาเขาก็จะสามารถทำอาหารจากวัตถุดิบพิเศษได้ แต่ไป๋อี้และเบ็คกี้ไม่รู้ว่าวัตถุดิบพิเศษเหล่านี้แสดงถึงอะไร

  วันรุ่งขึ้น ชินชิล่าตื่นขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มมองหาอาหาร ตอนแรกโม่โม่ให้อาหารชินชิล่าเพียงเล็กน้อย แต่ชินชิล่าไม่ยอม มันเข้าไปพัวพันโม่โม่เพื่อขอของกิน ไม่นานโม่โม่ก็ค้นพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมชินชิล่าถึงกินอาหารมากขนาดนี้ ซึ่งโม่โม่ยังจำสถานการ์ดังกล่าวได้ดี

  ช่วงระยะหิวโหย!

  หลังจากนั้นโม่โม่ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เธอไปหาไป๋อี้ทันทีพลางอุ้มชินชิล่าไปด้วย ตอนนี้ไป๋อี้กำลังออกลีลามวยไทเก็กอยู่ที่ลานบ้าน ตอนนี้ลวดลายท่ามวยไทเก็กของไป๋อี้นั้นมีเสน่ห์และงดงามเป็นพิเศษ แต่โม่โม่ยังไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนั้นในตอนนี้

  “พ่อ พ่อ!” โม่โม่เรียกให้ไป๋อี้หยุด

  “เป็นอะไรไป ทำไมถึงได้ร้อนใจขนาดนี้”

  “ชินชิล่าเข้าสู่ระยะหิวโหยแล้วค่ะ!” โม่โม่กล่าวอย่างกระสับกระส่าย

  “อะไรนะ?” ไป๋อี้รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น จากนั้นเขาก็หยุดการเคลื่อนไหวทันทีและรีบเดินเข้าไปหา

  ชินชิล่าติดตามพวกไป๋อี้มากว่าหนึ่งปีแล้ว ตอนนั้นชินชิล่ายังเป็นเพียงลูกแมวแรกเกิด นับตั้งแต่ที่รับเลี้ยงชินชิล่า มันก็ดูเหมือนแมวบ้านทั่วไป ไป๋อี้และสมาชิกในทีมให้ความสนใจเป็นพิเศษ ไม่ให้ชินชิล่าผสานรวมเข้ากับของเหลวในร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดการหลอมรวมกับเซลล์ดัดแปลงขึ้น ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าลูกหลานของสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการจะไม่มีเซลล์ดัดแปลงอยู่ในยีน

        ทำไมจู่ ๆ ก็เข้าสู่ระยะหิวโหยได้ล่ะ!

        ไป๋อี้นึกย้อนถึงเหตุการณ์ในสองวันนี้ทันที หากมีอะไรพิเศษก็เห็นจะมีเพียงวัตถุดิบพิเศษที่ใช้ทำอาหารจากเมื่อบ่ายวานนี้ นอกจากนี้ไป๋อี้ยังนึกถึงข้อมูลที่ทราบเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงทวนอยู่ในใจของเขา และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาในจิตใจ

        LV0——ระยะแรกเริ่ม เป็นระยะที่มนุษย์ สัตว์ หรือพืชธรรมดาทั่วไปที่ปรสิตสามารถเข้าไปกระตุ้นทำปฏิกิริยากับเซลล์ได้สำเร็จ 

        การกระตุ้นเซลล์——เซลล์ดัดแปลงที่อยู่ในสภาวะหลับสนิท พวกไป๋อี้นั้นสามารถถูกกระตุ้นเซลล์ได้ง่ายมาก ตราบใดที่ร่างต้นแบบยังแข็งแรงและมีสารอาหารเพียงพอที่จะเกิดการกระตุ้นในเซลล์ดัดแปลงได้ อย่างไรก็ตามในระยะต่อมาการกระตุ้นเซลล์ดัดแปลงจะยากขึ้นเรื่อย ๆ และความต้องการอาหารก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน 

  แม้ว่าไป๋อี้จะไม่ได้คิดอย่างละเอียด แต่เขาก็เดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

  ชินชิล่าได้รับการถ่ายทอดเซลล์ดัดแปลงมาจากแม่แมว แต่มันแอบแฝงถูกซ่อนไว้มาโดยตลอดและยังไม่ได้ถูกกระตุ้น แต่หลังจากที่ได้กินอาหารที่ปรุงโดยวัตถุดิบสายพันธุ์พิเศษจากนิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ มันก็ได้ดูดซึมสารอาหารพิเศษเหล่านี้เข้าไป ทำให้เซลล์ดัดแปลงในร่างกายเผยสภาวะการกระตุ้นออกมา

  ในเมืองไครสต์เชิร์ชมีทารก 3 คนเกิดในปีนี้และการเกิดแต่ละครั้งก็ดูเหมือนทารกมนุษย์ปกติ พวกไป๋อี้ถึงกับไปเฉลิมฉลองกัน ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามกฎพวกเขาก็จะปกป้องลูกหลานไว้ได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นมนุษย์ได้ อย่างน้อยลูกหลานของพวกเขาก็สามารถกลับไปยังโลกมนุษย์ปกติได้ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นชินชิล่าเป็นตัวอย่างแบบนี้ ไป๋อี้ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย ทารกเหล่านั้นไม่ได้ไม่มีเซลล์ดัดแปลงอยู่ในร่างกาย แต่มันยังไม่ถูกกระตุ้นเท่านั้น

  อันที่จริงหลังจากที่ได้ค้นพบในเรื่องนี้ ไป๋อี้ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดทุกสิ่งในใจ

  ตอนนี้พวกไป๋อี้กำลังจะเข้าสู่ระยะหลับใหล ในขณะที่ชินชิล่ากำลังจะเข้าสู่ระยะหิวโหย ซึ่งไม่เหมาะที่จะพามันไปด้วยอย่างแน่นอน คงถึงเวลาที่ต้องหาคนมาดูแลแล้วล่ะ?

  ไป๋อี้ส่ายหัว ทุกคนรู้ดีว่าพวกไป๋อี้ให้ความสำคัญกับชินชิล่าไม่ใช่แค่ในฐานะสัตว์เลี้ยงธรรมดาเท่านั้น หากต้องฝากฝังให้คนอื่นดูแล อีกฝ่ายจะต้องถามคำถามมากมายอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นชินชิล่าก็ไม่ได้มีความสนิทสนมกับคนอื่นเลย ทั้งยังกลัวคนแปลกหน้ามาก แม้ว่าชินชิล่าจะเป็นแค่แมว แต่จริง ๆ แล้วเธอก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมไป๋อี้ และเขาไม่ต้องการให้คนอื่นเมินเฉยทำไม่ดีกับชินชิล่า

  ทันใดนั้นไป๋อี้ก็นึกถึงคนสองคนขึ้นมา……เบ็คกี้และเบมีล่า ทั้งสองคนเป็นแมวสาวที่มียีนของแมว แต่ถึงชินชิล่าจะไว้ใจพวกเธอ เขาก็ไม่รู้ว่าพวกเธอจะยอมรับเรื่องนี้ได้ไหม ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเพิ่งพบกันและแทนที่จะทำความรู้จักถามไถ่กันมากกว่านี้ กลับมามอบหมายให้พวกเธอดูแลแมวเสียนี่ อีกทั้งยังต้องคิดถึงเรื่องที่พวกเขากำลังจะเข้าสู่ระยะหลับใหลอีก

  นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเลือกยีนที่จะผสานรวมกับชินชิล่าอีก ไป๋อี้ต้องครุ่นคิดเรื่องมากมาย 

  “พ่อคะ!”

  “หืม ชินชิล่าเข้าสู่ระยะหิวโหยแล้ว มันเกิดขึ้นได้ยังไง พ่อเดาว่ามีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ” ไป๋อี้แตะศีรษะของโม่โม่แล้วเหลือบมองไปที่ชินชิล่า

  “ท้ายที่สุดยังไงก็ต้องให้ชินชิล่ากินอิ่มก่อน” ไป๋อี้พาโม่โม่และชินชิล่าไปที่ห้องครัว

  สำหรับเรื่องนี้ เราจำเป็นต้องแจ้งให้คณะปกครองต่าง ๆ ในไครสต์เชิร์ชทราบ ว่าหากลูกหลานของเรามีเซลล์ดัดแปลงแฝงอยู่ วิธีการรับมือของพวกเขาจะต้องเปลี่ยนใหม่ สาเหตุที่ยังไม่ถูกค้นพบมาก่อนเป็นเพราะลูกหลานของมนุษย์ที่เกิดบนเกาะปีศาจในปัจจุบันนั้นหายากมาก แม้ว่าจำนวนสัตว์ในโลกภายนอกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม พวกไป๋อี้คิดว่าทั้งหมดล้วนเกิดมาพร้อมเซลล์ดัดแปลงโดยเซลล์ดัดแปลงดังกล่าวจะผสานรวมกับของเหลวในร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่นในภายหลัง

  ไป๋อี้บอกเรื่องนี้กับกระทรวงแพทยศาสตร์และกระทรวงศึกษาวิจัยก่อน พวกเขาเป็นคนที่ต้องรู้ข่าวนี้เป็นอันดับแรก หลังจากนั้นไป๋อี้ก็บอกกับกระทรวงอื่น ๆ อีก 3 กระทรวงว่าอย่าลำเอียงเล่นพรรคเล่นพวกกับเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะคิดเห็นอย่างไรก็ตาม

  ในอีกไม่กี่วันต่อมา ไป๋อี้ก็กำลังทำการบำรุงฟื้นฟูให้กับเบ็คกี้และเบมีล่า ในเวลาเดียวกันก็ดูว่าชินชิล่าจะเข้ากับพวกเธอได้หรือไม่ หากต้องขอให้ใครสักคนช่วยดูแลมัน แน่นอนว่าไป๋อี้สามารถหาได้ แต่ถ้าชินชิล่าไม่ชอบเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน ชินชิล่ามีชีวิตชีวาอย่างมาก ในขณะที่กลัวคนแปลกหน้ามากเช่นกัน และสำหรับตอนนี้มันก็ยังไม่สนิทสนมกับใครอื่น

  บางทีนี่อาจเป็นผลดีที่มียีนแมวเหมือนกัน ถึงไม่จำเป็นต้องสนิทชิดเชื้อมากนัก แต่ชินชิล่าก็มีความประทับใจที่ดีกับเบ็คกี้และเบมีล่าซึ่งเป็น “สายพันธุ์เดียวกัน” ที่มีขนาดใหญ่กว่ามันหลายสิบเท่า

  เป็นการดีที่เกิดความประทับใจอันดีต่อกัน หลังจากไป๋อี้เห็นสิ่งนี้เขาก็โล่งใจในที่สุด มิฉะนั้นพวกเขาคงต้องนำชินชิล่าที่อยู่ในช่วงระยะหิวโหยไปกับพวกเขาด้วย และเนื่องด้วยพฤติกรรมอันคึกคะนองของชินชิล่า พวกเขาที่เข้าสู่ระยะหลับใหลคงจะไม่สามารถดูแลมันได้ 

  เมื่อเห็นเบมีล่าหยอกล้อกับชินชิล่า ไป๋อี้จึงถือโอกาสขอร้องให้พวกเบ็คกี้ดูแลชินชิล่าสักพัก

  “ช่วยดูแลชินชิล่าให้ผมหน่อยได้ไหม?”

  “คืออย่างนี้ พวกเรามีเรื่องที่จะต้องออกไปข้างนอก คาดการณ์ว่าใช้เวลาเพียงไม่นาน ยิ่งไปกว่านั้นชินชิล่ากลัวคนแปลกหน้าเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ยกเว้นคนที่คุ้นเคยเพียงไม่กี่คน มันก็ไม่เป็นมิตรกับคนอื่น ๆ  เหตุผลที่พวกคุณดูสนิทสนมกับมัน คาดว่าน่าจะเป็นเพราะมีสายพันธุ์เดียวกัน ถ้าหากพวกคุณสะดวกล่ะก็ช่วยรับเลี้ยงมันสักพักได้ไหม” ไป๋อี้อธิบาย

  “ได้สิ ไม่มีปัญหา”ตามที่คาดไว้เบ็คกี้ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านี้ ในความคิดของเธอนี่ก็เป็นแค่การดูแลลูกแมวน้อยก็เท่านั้น

  “อีกอย่างชินชิล่าเพิ่งเข้าสู่ระยะหิวโหยเมื่อวานนี้” ไป๋อี้พูดกับเบ็คกี้อีกครั้ง เมื่อเห็นสายตาที่ประหลาดใจของเบ็คกี้ ไป๋อี้ก็บอกการคาดการณ์ของตนเองออกมา โชคดีที่นิวซีแลนด์ในตอนนี้ไม่เหมือนยุคแรก ๆ เป็นช่วงที่ไม่ได้ขาดแคลนอาหารและสำหรับยีนที่จะนำมาผสานรวมกับชินชิล่านั้นไป๋อี้ได้ตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วภายในไม่กี่วันนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 166 ชินชิล่า

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 166 ชินชิล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ไป๋อี้พาเบ็คกี้เข้าไปในห้องพักฟื้นจากนั้นก็ให้ยาแก่พวกเธอแต่ละคน

 

 

  “นี่คืออะไร?”

  “Fost Soul!” ไป๋อี้กล่าว

  เบ็คกี้ตกตะลึงเมื่อได้ยินชื่อ Fost Soul ชื่อของยานี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นี่คือยาที่ทำจากดอกไม้มรณะ อีกทั้งยังไม่มีการค้นพบยาประเภทนี้เป็นชนิดที่สอง มียาหลายชนิดที่ถูกเรียกว่ายาบำรุงจิตวิญญาณปรากฏในไครสต์เชิร์ช แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่บางคนทำขึ้นเพื่อหลอกลวงผู้อื่นเท่านั้น

  “การนอนหลับลึกคือการปรับตัวเองเพื่อขจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปและเสริมสิ่งที่ต้องการ แต่ถ้าร่างกายของคุณไม่มีส่วนประกอบเหล่านั้นการนอนหลับลึกก็จะไม่มีผลมากนัก ลองกินยา Fost Soul ดู มันสามารถทำให้จิตวิญญาณกับร่างกายสอดประสานเข้าด้วยกันได้มากขึ้น” ไป๋อี้พูด

  “ขอบคุณนะ!”

  เบ็คกี้ไม่ปฏิเสธเพราะเธอรู้ว่าสิ่งนี้มีค่าเพียงใด บางคนในไครสต์เชิร์ชไปที่เวลลิงตันเพื่อเก็บดอกไม้มรณะ แต่ไม่มีใครเคยได้กลับออกมาจากที่นั่นเลย ช่องแคบคุกคือจุดที่สกัดคนส่วนใหญ่ไว้ ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าที่ผ่านมามีใครทำสำเร็จบ้าง 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เดินทางทางทะเลเสียชีวิต และเกรงว่าการเดินทางบนท้องฟ้าคงจะอันตรายพอ ๆ กัน นอกจากนี้เฮลิคอปเตอร์และยานพาหนะอื่น ๆ ยังเป็นสิ่งที่หายากมาก ซึ่งในไครสต์เชิร์ชตอนนี้ก็หาไม่ได้เช่นกัน

  ในความเป็นจริง ไป๋อี้ยังบอกกับผู้คนในไครสต์เชิร์ชว่าเขาได้พบกับอนาคอนด้าทะเลสีทองขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 100 เมตรในช่องแคบคุก แต่คนส่วนใหญ่คิดว่าสิ่งที่ไป๋อี้พูดเป็นเรื่องตลก อนาคอนด้าทะเลตัวใหญ่ขนาดนั้นจะมีอยู่ได้อย่างไร แม้ว่ามันจะมีอยู่จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกไป๋อี้จะเผชิญหน้าและรอดชีวิตมาได้ นั่นเป็นเรื่องที่คุยโม้มากกว่า และแม้ว่าจะมีจริงพวกเขาอาจจะไม่โชคร้ายขนาดนั้นที่จะได้พบกับมันเข้า พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่หลังจากที่ไม่มีใครรอดชีวิตกลับมา คนที่เหลืออยู่ก็เริ่มเชื่อเรื่องนี้มากขึ้น

  “มาเริ่มกันเลย!” ไป๋อี้พูดหลังจากที่ทั้งสองกินยาไปแล้ว

  หลังจากที่ไป๋อี้พูดจบ เขาก็ทำการสะกดจิตทั้งสองคน ตอนนี้เบ็คกี้ไม่มีความหวาดระแวงอีกต่อไป เธอมาถึงจุดที่เธอไม่สามารถเสียใจในภายหลังได้แล้ว เมื่อทั้งคู่ผ่อนคลายลงไป๋อี้ก็สะกดจิตพวกเธอได้อย่างง่ายดาย นี่ไม่ใช่การสะกดจิตเหมือนนักสะกดจิตคนอื่น ๆ ในศูนย์ฟื้นฟู ภายใต้การสะกดจิตของไป๋อี้ทั้งสองก็เข้าสู่ห้วงนิทราโดยปราศจากความฝันในชั่วขณะนั้น ในสภาวะนี้สิ่งมีชีวิตจะปรับทรัพยากรในร่างกาย องค์ประกอบต่าง ๆ และจิตวิญญาณที่สิงอยู่ในร่างกายโดยอัตโนมัติ

  ……

  หลังจากที่ไป๋อี้สะกดจิตคนทั้งสองแล้ว เขาก็บอกให้คนข้างนอกดูแลทั้งคู่ ก่อนไป๋อี้จะออกจากห้องฟื้นฟูไป

  “เตรียมของพร้อมหรือยัง?” หลังจากไป๋อี้กลับมา เขาก็พบว่าเวร่ากลับมาที่ศูนย์ฟื้นฟูแล้ว

  “เตรียมพร้อมแล้ว สามารถไปที่นั่นได้ทุกเมื่อ” เวร่าพยักหน้า

  “ถ้าอย่างนั้นรอสัก 1 สัปดาห์แล้วเราจะออกจากที่นี่กัน” ไป๋อี้พยักหน้า ในตอนนี้วูล์ฟ เฮลัวส์ ชาร์ไป่ และคนอื่น ๆ ไม่ได้อยู่ในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ เนื่องจากไป๋อี้ได้ส่งพวกเขาออกไปนานแล้วเพื่อมองหาสถานที่ที่ปลอดภัยที่เหมาะสมกับการเข้าสู่การนอนหลับ ไม่ว่าในกรณีใดพวกไป๋อี้จะเป็นที่สะดุดตาอยู่เสมอ หากทั้งทีมออกจากที่นี่ในเวลาเดียวกัน ก็อาจจะถูกผู้คนเหล่านั้นคาดเดาสถานการณ์ได้

  “จริง ๆ แล้วคุณสามารถออกเดินทางได้เลยไม่ใช่เหรอ” เวร่าพูดอย่างสงสัย

  “ฉันยังไปไม่ได้ ตอนนี้ฉันเพิ่งทำข้อตกลงกับใครบางคนไป ก่อนอื่นฉันต้องช่วยพวกเขาบำรุงฟื้นฟูเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์” ไป๋อี้กล่าว

  “ข้อตกลง?”

  “อันที่จริงวันนี้ฉันออกไปข้างนอกและบังเอิญได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่มาก” ไป๋อี้พูดถึงข้อตกลงของเขากับเบ็คกี้ นี่เป็นข้อตกลงที่ทั้งสองต่างได้ประโยชน์ ไป๋อี้ได้สูตรอาหาร ในขณะที่เบ็คกี้และเบมีล่าได้ฝึกฝนร่างกายและจิตวิญญาณของพวกเธอทำให้ตัวเองมีเสถียรภาพมากขึ้น ไป๋อี้คิดว่าตนเองมีสูตรอาหารที่ดีและถ้าเขามีเวลาเขาก็จะสามารถทำอาหารจากวัตถุดิบพิเศษได้ แต่ไป๋อี้และเบ็คกี้ไม่รู้ว่าวัตถุดิบพิเศษเหล่านี้แสดงถึงอะไร

  วันรุ่งขึ้น ชินชิล่าตื่นขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มมองหาอาหาร ตอนแรกโม่โม่ให้อาหารชินชิล่าเพียงเล็กน้อย แต่ชินชิล่าไม่ยอม มันเข้าไปพัวพันโม่โม่เพื่อขอของกิน ไม่นานโม่โม่ก็ค้นพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมชินชิล่าถึงกินอาหารมากขนาดนี้ ซึ่งโม่โม่ยังจำสถานการ์ดังกล่าวได้ดี

  ช่วงระยะหิวโหย!

  หลังจากนั้นโม่โม่ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เธอไปหาไป๋อี้ทันทีพลางอุ้มชินชิล่าไปด้วย ตอนนี้ไป๋อี้กำลังออกลีลามวยไทเก็กอยู่ที่ลานบ้าน ตอนนี้ลวดลายท่ามวยไทเก็กของไป๋อี้นั้นมีเสน่ห์และงดงามเป็นพิเศษ แต่โม่โม่ยังไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนั้นในตอนนี้

  “พ่อ พ่อ!” โม่โม่เรียกให้ไป๋อี้หยุด

  “เป็นอะไรไป ทำไมถึงได้ร้อนใจขนาดนี้”

  “ชินชิล่าเข้าสู่ระยะหิวโหยแล้วค่ะ!” โม่โม่กล่าวอย่างกระสับกระส่าย

  “อะไรนะ?” ไป๋อี้รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น จากนั้นเขาก็หยุดการเคลื่อนไหวทันทีและรีบเดินเข้าไปหา

  ชินชิล่าติดตามพวกไป๋อี้มากว่าหนึ่งปีแล้ว ตอนนั้นชินชิล่ายังเป็นเพียงลูกแมวแรกเกิด นับตั้งแต่ที่รับเลี้ยงชินชิล่า มันก็ดูเหมือนแมวบ้านทั่วไป ไป๋อี้และสมาชิกในทีมให้ความสนใจเป็นพิเศษ ไม่ให้ชินชิล่าผสานรวมเข้ากับของเหลวในร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดการหลอมรวมกับเซลล์ดัดแปลงขึ้น ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าลูกหลานของสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการจะไม่มีเซลล์ดัดแปลงอยู่ในยีน

        ทำไมจู่ ๆ ก็เข้าสู่ระยะหิวโหยได้ล่ะ!

        ไป๋อี้นึกย้อนถึงเหตุการณ์ในสองวันนี้ทันที หากมีอะไรพิเศษก็เห็นจะมีเพียงวัตถุดิบพิเศษที่ใช้ทำอาหารจากเมื่อบ่ายวานนี้ นอกจากนี้ไป๋อี้ยังนึกถึงข้อมูลที่ทราบเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงทวนอยู่ในใจของเขา และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาในจิตใจ

        LV0——ระยะแรกเริ่ม เป็นระยะที่มนุษย์ สัตว์ หรือพืชธรรมดาทั่วไปที่ปรสิตสามารถเข้าไปกระตุ้นทำปฏิกิริยากับเซลล์ได้สำเร็จ 

        การกระตุ้นเซลล์——เซลล์ดัดแปลงที่อยู่ในสภาวะหลับสนิท พวกไป๋อี้นั้นสามารถถูกกระตุ้นเซลล์ได้ง่ายมาก ตราบใดที่ร่างต้นแบบยังแข็งแรงและมีสารอาหารเพียงพอที่จะเกิดการกระตุ้นในเซลล์ดัดแปลงได้ อย่างไรก็ตามในระยะต่อมาการกระตุ้นเซลล์ดัดแปลงจะยากขึ้นเรื่อย ๆ และความต้องการอาหารก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน 

  แม้ว่าไป๋อี้จะไม่ได้คิดอย่างละเอียด แต่เขาก็เดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

  ชินชิล่าได้รับการถ่ายทอดเซลล์ดัดแปลงมาจากแม่แมว แต่มันแอบแฝงถูกซ่อนไว้มาโดยตลอดและยังไม่ได้ถูกกระตุ้น แต่หลังจากที่ได้กินอาหารที่ปรุงโดยวัตถุดิบสายพันธุ์พิเศษจากนิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ มันก็ได้ดูดซึมสารอาหารพิเศษเหล่านี้เข้าไป ทำให้เซลล์ดัดแปลงในร่างกายเผยสภาวะการกระตุ้นออกมา

  ในเมืองไครสต์เชิร์ชมีทารก 3 คนเกิดในปีนี้และการเกิดแต่ละครั้งก็ดูเหมือนทารกมนุษย์ปกติ พวกไป๋อี้ถึงกับไปเฉลิมฉลองกัน ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามกฎพวกเขาก็จะปกป้องลูกหลานไว้ได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นมนุษย์ได้ อย่างน้อยลูกหลานของพวกเขาก็สามารถกลับไปยังโลกมนุษย์ปกติได้ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นชินชิล่าเป็นตัวอย่างแบบนี้ ไป๋อี้ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย ทารกเหล่านั้นไม่ได้ไม่มีเซลล์ดัดแปลงอยู่ในร่างกาย แต่มันยังไม่ถูกกระตุ้นเท่านั้น

  อันที่จริงหลังจากที่ได้ค้นพบในเรื่องนี้ ไป๋อี้ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดทุกสิ่งในใจ

  ตอนนี้พวกไป๋อี้กำลังจะเข้าสู่ระยะหลับใหล ในขณะที่ชินชิล่ากำลังจะเข้าสู่ระยะหิวโหย ซึ่งไม่เหมาะที่จะพามันไปด้วยอย่างแน่นอน คงถึงเวลาที่ต้องหาคนมาดูแลแล้วล่ะ?

  ไป๋อี้ส่ายหัว ทุกคนรู้ดีว่าพวกไป๋อี้ให้ความสำคัญกับชินชิล่าไม่ใช่แค่ในฐานะสัตว์เลี้ยงธรรมดาเท่านั้น หากต้องฝากฝังให้คนอื่นดูแล อีกฝ่ายจะต้องถามคำถามมากมายอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นชินชิล่าก็ไม่ได้มีความสนิทสนมกับคนอื่นเลย ทั้งยังกลัวคนแปลกหน้ามาก แม้ว่าชินชิล่าจะเป็นแค่แมว แต่จริง ๆ แล้วเธอก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมไป๋อี้ และเขาไม่ต้องการให้คนอื่นเมินเฉยทำไม่ดีกับชินชิล่า

  ทันใดนั้นไป๋อี้ก็นึกถึงคนสองคนขึ้นมา……เบ็คกี้และเบมีล่า ทั้งสองคนเป็นแมวสาวที่มียีนของแมว แต่ถึงชินชิล่าจะไว้ใจพวกเธอ เขาก็ไม่รู้ว่าพวกเธอจะยอมรับเรื่องนี้ได้ไหม ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเพิ่งพบกันและแทนที่จะทำความรู้จักถามไถ่กันมากกว่านี้ กลับมามอบหมายให้พวกเธอดูแลแมวเสียนี่ อีกทั้งยังต้องคิดถึงเรื่องที่พวกเขากำลังจะเข้าสู่ระยะหลับใหลอีก

  นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเลือกยีนที่จะผสานรวมกับชินชิล่าอีก ไป๋อี้ต้องครุ่นคิดเรื่องมากมาย 

  “พ่อคะ!”

  “หืม ชินชิล่าเข้าสู่ระยะหิวโหยแล้ว มันเกิดขึ้นได้ยังไง พ่อเดาว่ามีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ” ไป๋อี้แตะศีรษะของโม่โม่แล้วเหลือบมองไปที่ชินชิล่า

  “ท้ายที่สุดยังไงก็ต้องให้ชินชิล่ากินอิ่มก่อน” ไป๋อี้พาโม่โม่และชินชิล่าไปที่ห้องครัว

  สำหรับเรื่องนี้ เราจำเป็นต้องแจ้งให้คณะปกครองต่าง ๆ ในไครสต์เชิร์ชทราบ ว่าหากลูกหลานของเรามีเซลล์ดัดแปลงแฝงอยู่ วิธีการรับมือของพวกเขาจะต้องเปลี่ยนใหม่ สาเหตุที่ยังไม่ถูกค้นพบมาก่อนเป็นเพราะลูกหลานของมนุษย์ที่เกิดบนเกาะปีศาจในปัจจุบันนั้นหายากมาก แม้ว่าจำนวนสัตว์ในโลกภายนอกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม พวกไป๋อี้คิดว่าทั้งหมดล้วนเกิดมาพร้อมเซลล์ดัดแปลงโดยเซลล์ดัดแปลงดังกล่าวจะผสานรวมกับของเหลวในร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่นในภายหลัง

  ไป๋อี้บอกเรื่องนี้กับกระทรวงแพทยศาสตร์และกระทรวงศึกษาวิจัยก่อน พวกเขาเป็นคนที่ต้องรู้ข่าวนี้เป็นอันดับแรก หลังจากนั้นไป๋อี้ก็บอกกับกระทรวงอื่น ๆ อีก 3 กระทรวงว่าอย่าลำเอียงเล่นพรรคเล่นพวกกับเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะคิดเห็นอย่างไรก็ตาม

  ในอีกไม่กี่วันต่อมา ไป๋อี้ก็กำลังทำการบำรุงฟื้นฟูให้กับเบ็คกี้และเบมีล่า ในเวลาเดียวกันก็ดูว่าชินชิล่าจะเข้ากับพวกเธอได้หรือไม่ หากต้องขอให้ใครสักคนช่วยดูแลมัน แน่นอนว่าไป๋อี้สามารถหาได้ แต่ถ้าชินชิล่าไม่ชอบเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน ชินชิล่ามีชีวิตชีวาอย่างมาก ในขณะที่กลัวคนแปลกหน้ามากเช่นกัน และสำหรับตอนนี้มันก็ยังไม่สนิทสนมกับใครอื่น

  บางทีนี่อาจเป็นผลดีที่มียีนแมวเหมือนกัน ถึงไม่จำเป็นต้องสนิทชิดเชื้อมากนัก แต่ชินชิล่าก็มีความประทับใจที่ดีกับเบ็คกี้และเบมีล่าซึ่งเป็น “สายพันธุ์เดียวกัน” ที่มีขนาดใหญ่กว่ามันหลายสิบเท่า

  เป็นการดีที่เกิดความประทับใจอันดีต่อกัน หลังจากไป๋อี้เห็นสิ่งนี้เขาก็โล่งใจในที่สุด มิฉะนั้นพวกเขาคงต้องนำชินชิล่าที่อยู่ในช่วงระยะหิวโหยไปกับพวกเขาด้วย และเนื่องด้วยพฤติกรรมอันคึกคะนองของชินชิล่า พวกเขาที่เข้าสู่ระยะหลับใหลคงจะไม่สามารถดูแลมันได้ 

  เมื่อเห็นเบมีล่าหยอกล้อกับชินชิล่า ไป๋อี้จึงถือโอกาสขอร้องให้พวกเบ็คกี้ดูแลชินชิล่าสักพัก

  “ช่วยดูแลชินชิล่าให้ผมหน่อยได้ไหม?”

  “คืออย่างนี้ พวกเรามีเรื่องที่จะต้องออกไปข้างนอก คาดการณ์ว่าใช้เวลาเพียงไม่นาน ยิ่งไปกว่านั้นชินชิล่ากลัวคนแปลกหน้าเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ยกเว้นคนที่คุ้นเคยเพียงไม่กี่คน มันก็ไม่เป็นมิตรกับคนอื่น ๆ  เหตุผลที่พวกคุณดูสนิทสนมกับมัน คาดว่าน่าจะเป็นเพราะมีสายพันธุ์เดียวกัน ถ้าหากพวกคุณสะดวกล่ะก็ช่วยรับเลี้ยงมันสักพักได้ไหม” ไป๋อี้อธิบาย

  “ได้สิ ไม่มีปัญหา”ตามที่คาดไว้เบ็คกี้ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านี้ ในความคิดของเธอนี่ก็เป็นแค่การดูแลลูกแมวน้อยก็เท่านั้น

  “อีกอย่างชินชิล่าเพิ่งเข้าสู่ระยะหิวโหยเมื่อวานนี้” ไป๋อี้พูดกับเบ็คกี้อีกครั้ง เมื่อเห็นสายตาที่ประหลาดใจของเบ็คกี้ ไป๋อี้ก็บอกการคาดการณ์ของตนเองออกมา โชคดีที่นิวซีแลนด์ในตอนนี้ไม่เหมือนยุคแรก ๆ เป็นช่วงที่ไม่ได้ขาดแคลนอาหารและสำหรับยีนที่จะนำมาผสานรวมกับชินชิล่านั้นไป๋อี้ได้ตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วภายในไม่กี่วันนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+