[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 29 จระเข้ก้ามปูยักษ์

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 29 จระเข้ก้ามปูยักษ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

  ทุกคนออกเดินทางและมุ่งหน้าไปยังโอโทโรฮังกา พวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในใจ โดยเฉพาะกับไป๋อี้ เขาเป็นคนขอให้ซาร่ารอที่โอโทโรฮังกา และเขาไม่ได้คาดไว้ว่าจะมีสัตว์ประหลาดปรากฏตัวที่นั่น หวังว่าซาร่าจะไม่เป็นอะไรนะ มิฉะนั้นไป๋อี้จะไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้เลย

 

  “สำหรับจุดประสงค์แรกในการผ่านเมืองเราต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดและพยายามอย่าต่อสู้ หากมีสัตว์ประหลาดมากเกินไปอย่าดันทุรังเข้าปะทะ เรายังสามารถกลับมาเพื่อเลือกอ้อมไปทางเส้นทางที่ไกลออกไปได้” ไป๋อี้สื่อสารผ่านเครื่องวิทยุสื่อสาร

 

  นี่คือสิ่งที่หยูหานและคนอื่น ๆ ค้นพบจากบ้านหลังเมื่อคืนนี้ มันมีความทันสมัยกว่าเครื่องส่งรับวิทยุแบบเดิมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากนัก ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องใช้สัญญาณดาวเทียมและสะดวกกว่าในการใช้โทรศัพท์มือถือภายในขอบเขตพื้นที่ขนาดเล็ก หลังจากนี้อาจตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เครือข่ายมือถือถูกขัดจังหวะ เห็นได้ชัดว่าคุณค่าของสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก

 

  “รู้แล้ว”หยูหานพูดอย่างไม่ยินดียินร้าย

 

  ……

 

  ไป๋อี้และวูล์ฟขับรถมาเป็นคันแรก เพราะกับเรื่องแบบนี้คนอื่น ๆ ไม่ยินดีที่จะขับมาเป็นคันแรกเท่าไรนัก

 

  ระหว่างทางมีอุบัติเหตุทางรถยนต์เกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน วูล์ฟขับรถด้วยความระมัดระวัง ขับหลีกเลี่ยงรถที่ชนกัน ท้องฟ้าก็ยังไม่สว่างเต็มที่ หมอกในตอนเช้าทำให้อากาศเย็น ทั้งเมืองดูเงียบและมืดมาก ไฟที่วุ่นวายเมื่อคืนค่อย ๆ ดับลงและเมืองที่ทรุดโทรมก็เหมือนสัตว์ร้ายที่จำศีลอยู่ เผยให้เห็นบรรยากาศที่ดูอันตราย

 

  พวกเขาไม่พบสัตว์ประหลาดใด ๆ แต่อารมณ์ความรู้สึกของทุกคนก็อยู่ในความตึงเครียดมาก เสียงกรีดร้องที่ดูแข็งกร้าวและอ่อนระทวยดังขึ้นเป็นครั้งคราว นั่นทำให้ทุกคนอกสั่นขวัญแขวนใจกระดอนขึ้นมาถึงลำคอ

 

  “ไป๋อี้ ไปยังไง?” วูล์ฟถาม

 

  “เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกถัดไป จากนั้นตรงไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตไวเอท (Wyeth Supermarket ) ซาร่าบอกว่าเธออยู่บ้านเพื่อนใกล้ ๆ แถวนั้น” ในตอนนี้ไป๋อี้หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไป๋อี้ได้ดาวน์โหลดแผนที่อิเล็กทรอนิกส์โฮโลแกรมของนิวซีแลนด์ไว้แล้ว ขณะนี้โทรศัพท์มือถือไม่สามารถโทรออกได้อีกต่อไป แต่ยังสามารถใช้งานฟังก์ชันอย่างอื่นได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าคงใช้ได้อีกไม่นานเพราะแบตเตอรี่เองก็เหลือน้อยเต็มทน

 

  คนที่ตามมาข้างหลังเห็นรถของไป๋อี้เปลี่ยนทิศทาง นั่นทำให้หยูหานขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

  ไป๋อี้ต้องการตามหาซาร่าคนนั้น แม้ว่าหยูหานจะไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ได้คัดค้านใด ๆ ในเวลานี้ตราบเท่าที่เขาสามารถผ่านโอโทโรฮังกาไปได้ก็พอแล้ว เขามองออกไปข้างนอกอย่างระมัดระวังและถือดาบญี่ปุ่นไว้ในมืออย่างเงียบ ๆ ประตูรถของหยูหานเปิดอยู่ตลอดเวลาเพราะหยูหานกลัวว่าถ้าเขาเจอสัตว์ประหลาดจริง ๆเขาอาจจะไม่มีโอกาสหนีด้วยซ้ำ

 

  “ซุปเปอร์มาร์เก็ตไวเอทอยู่ข้างหน้า” วูล์ฟกล่าว

 

  “อืม” ไป๋อี้พยักหน้าและมองออกไปข้างหน้าด้วยหวังว่าจะพบซาร่า

 

  ในตรอกทางแยกที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ กำลังขับรถผ่าน ไป๋อี้และวูล์ฟรีบหันหน้าไปทางขวาทันที หัวใจของพวกเขากระดอนขึ้นมาถึงลำคอ ในซอยทางด้านขวาของถนนมีสัตว์ประหลาดคล้ายจระเข้ตัวใหญ่นอนอยู่ ข้างในปากของมันกำลังกัดร่างกายมนุษย์ไปครึ่งหนึ่ง เมื่อเห็นรถขับตามมา สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็หันหัวเดินตามรถมาทันที

 

  หนี!

 

  วูล์ฟหักพวงมาลัยเกือบจะในทันที และเร่งความเร็วอย่างกะทันหัน แน่นอนว่าทันใดที่สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็พุ่งตัวออกมา มันก็กัดเข้าอย่างแรง เสียงฟันยักษ์ของมันที่กัดประกบเข้าหากันคล้ายเสียงเหล็กที่กระทบกัน ยังไม่ทันที่ไป๋อี้และวูล์ฟจะโชคดีหลบหนีออกมาได้ ทันใดนั้นตอนที่แม้แต่การบังคับรถให้เลี้ยวอย่างรวดเร็วยังไม่มั่นคง จู่ ๆ ก็มีก้ามขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าสองเมตรปรากฏขึ้นและมันก็คีบเข้าตรงกลางรถอย่างรุนแรง

 

  รถคันเล็กส่ายไปมาอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ถูกยกขึ้นโดยก้ามหนีบขนาดใหญ่จากส่วนตรงกลางจนเริ่มมีรอยบุบยุบเข้ามาบริเวณข้างในรถ

 

  รถหลายคันที่ตามมาถึงกับผงะจากการเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหันนี้และพวกเขาก็เหยียบเบรกทันที เห็นได้ชัดว่าตอนแรกนั้นสถานการณ์ดูสงบมาก ใครจะรู้ว่าจู่ ๆ สัตว์ประหลาดจะโผล่ออกมา และในพริบตาเดียวรถคันเล็กของไป๋อี้ก็ถูกสัตว์ประหลาดใช้ก้ามหนีบจับไป

 

  “กระโดด!” ไป๋อี้พูดและกระโดดออกมาทันทีโดยที่อุ้มโม่โม่เอาไว้ด้วย วูล์ฟรีบขยับอย่างเร็ว เขาเตะประตูรถออก จากนั้นร่างของเขาก็กลิ้งลงไปกับพื้น ทันทีที่ทั้งสามคนกระโดดออกจากรถ ก้ามหนีบขนาดใหญ่ก็บีบตัวลงและหนีบรถคันเล็กหักออกเป็นสองท่อน

 

        “ชาร์ไป่!” ไป๋อี้ตะโกนด้วยความตื่นตกใจ

 

  อาการบาดเจ็บของชาร์ไป่ยังไม่หายสนิทและมันก็นอนอยู่บนเบาะหลังของรถคันนั้น ตอนที่ไป๋อี้กระโดดลงมากับโม่โม่ แต่เจ้าชาร์ไป่นั้นก้าวช้ากว่า ด้วยการหนีบของที่หนีบขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนก้ามปูนั้น มันทำให้รถคันเล็กถูกหนีบหักเป็นสองชิ้น

 

  ไป๋อี้และโม่โม่มีท่าทางเซื่องซึมไปเล็กน้อย แต่การตอบสนองของไป๋อี้ก็ยังคงรวดเร็ว เขารีบอุ้มโม่โม่วิ่งเข้าไปในบ้านข้าง ๆ จากพละกำลังที่ไป๋อี้มีในตอนนี้นั้นการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย

 

  ในขณะนี้ร่างของสัตว์ประหลาดกำลังแกว่งไปมา ไปกระแทกเข้ากับกำแพงจนพังไปครึ่งหนึ่ง จากนั้นมันก็รีบออกมาจากซอย จนในที่สุดทุกคนก็ได้เห็นลักษณะของเจ้าสิ่งนี้อย่างชัดเจน

 

  ลำตัวของมันคล้ายจระเข้ มีความยาวประมาณเจ็ดหรือแปดเมตร ทั้งตัวปกคลุมด้วยกระดองแข็งเป็นชั้น ๆ ที่ขอบมีเดือยกระดูกสีดำที่แหลมคม ทั้งสองข้างของลำตัวมีก้ามเป็นก้ามหนีบขนาดใหญ่สองอันและด้านหลังมีปีกแข็งสีดำที่เงาวับสองคู่คล้ายกับแมลงปีกแข็ง

 

  จระเข้ก้ามปูยักษ์!

 

  เจ้าตัวนี้ … แม้ว่าจะรู้กันมานานแล้วว่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้มีการผสมผสานกันทางพันธุกรรม แต่ทุกคนก็ยังรู้สึกตื่นตกใจเมื่อเห็นมันอยู่ดี

 

  หงฉี่ฮว๋ากระโดดลงจากรถและยิงสัตว์ประหลาดด้วยปืนลูกซองของเธอ

 

  ปัง! เสียงของปืนลูกซองดังมาแต่ไกล แต่อาวุธที่ว่าร้ายแรงต่อมนุษย์นี้กลับไม่มีผลอะไรกับเจ้าตัวนี้และสามารถกล่าวได้ว่าไม่มีร่องรอยอะไรปรากฏให้เห็นเลย อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของหงฉี่ฮว๋าไม่ได้ไร้ประโยชน์ขนาดนั้น อย่างน้อยมันก็ดึงดูดความสนใจของจระเข้ก้ามปูตัวนี้ได้ ในขณะเดียวกันเฮลัวส์ซึ่งนั่งอยู่ในรถคันนี้ก็กระโดดออกจากรถและหลบหลีกอย่างตื่นตระหนก

 

  แม้ร่างกายมันจะใหญ่โตแต่ความเร็วของมันนั้นน่าทึ่งมาก เมื่อหงฉี่ฮว๋าเห็นร่างของสัตว์ประหลาดเธอก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นก็พุ่งตัวไปด้านหน้า

 

        หงฉี่ฮว๋ารีบออกไปทางด้านข้างทันที เสียงแกร๊กดังขึ้นเมื่อปากอันใหญ่โตของมันงับเข้าที่รถโดยตรง จนเกิดเป็นเสียงดังกร๊อบแกร๊บขึ้นตามมา ส่วนหัวของรถแทบทั้งหมดถูกกัดทึ้ง แต่แล้วจู่ ๆ มันก็ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนขึ้นมา

 

  เกิดอะไรขึ้น?

 

  หงฉี่ฮว๋าปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็วถึงได้พบว่ามีบางส่วนของรถแทงเข้าไปในปากของมัน มีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นแม้มันจะมีพละกำลังมาก แต่มันก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับปีศาจอสรพิษยักษ์ และแม้ว่ามันจะกัดรถได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

  ในขณะที่หงฉี่ฮว๋าและหยูหานหยุดรถทั้งคู่ แต่ฉินข่ายรุ่ยกลับกลัวมากจนไม่สนใจเสียงเรียกของหยูหาน เขากลับหัวรถและขับออกไปอีกด้านทันที

 

  “ล้อเล่นใช่ไหม คนบ้า กลุ่มคนบ้า ก็บอกแล้วว่าให้อ้อมอีกทางที่ไกลหน่อย แต่ไม่มีใครเต็มใจที่จะฟังแล้วยังจะมั่นอกมั่นใจมาทางนี้อีก” ฉินข่ายรุ่ยหายใจเข้าลึก ๆ รูม่านตาของเขาขยายออก เห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก และเหม่ยหลินซึ่งนั่งอยู่ในรถคันนี้ก็ยังคงตบหน้าอกของเธอด้วยสีหน้าหวาดกลัวอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดโดยตรง แต่ความกดดันในใจของพวกเขานั้นมีมากกว่าไป๋อี้และคนอื่น ๆ เสียอีก

 

  ……

 

  ดูเหมือนว่ามันจะคิดว่ารถคนนี้ทำร้ายมัน ทันใดนั้นจระเข้ก้ามปูยักษ์ตัวนี้ก็ดุร้ายมากขึ้น ก้ามหนีบขนาดใหญ่สองข้างหนีบลงไปและดึงทึ้งรถคันนั้นอย่างต่อเนื่องจนรถคนนั้นถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ในเวลาไม่ถึงสิบวินาที

 

  “พ่อ ชาร์ไป่!” โม่โม่ร้องออกมาพร้อมเสียงร้องไห้

 

  ไป๋อี้เห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้มุ่งความสนใจไปที่รถจึงรีบดึงโม่โม่ให้หลบ อย่างไรก็ตามโม่โม่จับมือขวาของไป๋อี้ไว้แน่นและพยายามวิ่งไปที่รถ สำหรับโม่โม่แล้วชาร์ไป่เป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง ไป๋อี้กำลังจะบอกกับโม่โม่ว่าชาร์ไป่ไม่รอดแน่ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่าสองครั้ง

 

  ไป๋อี้มองตามเสียงไปและพบว่ากรงเล็บของชาร์ไป่ยื่นออกมาจากช่องว่างในรถดูเหมือนมันอยากจะออกมาจากตรงนั้น แต่ถูกรถที่ปิดขวางเอาไว้

 

  ชาร์ไป่ไม่เป็นอะไร!

 

  ไป๋อี้ดีใจมาก เจ้าชาร์ไป่นอนอยู่ตรงเบาะหลังตลอดมา ถึงจระเข้ก้ามปูยักษ์จะหนีบรถออกเป็นสองท่อน แต่มันก็ไม่ได้ทำร้ายเจ้าชาร์ไป่

 

  เดิมทีเขาวางแผนที่จะหลบหนี แต่เนื่องจากชาร์ไป่ยังมีชีวิตอยู่ เขาจึงต้องวางแผนใหม่ ไป๋อี้ยิงปืนออกไปสองนัดทันทีด้วยปืนพกที่คว้ามาจากมือของโจรในเตอวามูตู กระสุนของปืนพกติดอยู่บนกระดองสีดำ แต่กระสุนกลับไม่ทิ้งร่องรอยบาดแผลอะไรไว้เลย อย่างไรก็ตามเสียงปืนสองนัดนั้นสามารถดึงดูดความสนใจของจระเข้ก้ามปูยักษ์ตัวนี้ได้สำเร็จ เมื่อจระเข้ก้ามปูยักษ์หันกลับมาและกำลังจะพุ่งเข้าหา

 

  ไป๋อี้ผลักโม่โม่ออกอย่างแรง ส่งผลให้โม่โม่กลิ้งเข้าหากำแพงข้าง ๆ ตอนนี้ไป๋อี้ไม่ได้คิดว่านั่นจะเป็นการทำให้โม่โม่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หากยังพาโม่โม่มาด้วย การเคลื่อนไหวของไป๋อี้จะทำให้เขาทั้งสองถูกลากลงไปทั้งคู่และจะไม่สามารถหลบหนีได้ ซึ่งทั้งสองอาจจะต้องกลายเป็นอาหารของจระเข้ก้ามปูยักษ์อย่างแน่นอน

 

  เมื่อผลักโม่โม่ออกไปเรียบร้อย ไป๋อี้ก็กำปืนแน่น ตอนนี้ใจของเขามั่นคงมาก

 

  ปังปังปังปัง!

 

  เสียงปืนสี่นัดดังขึ้นเกือบพร้อมกัน ไป๋อี้ยกแขนขึ้นเล็กน้อยแล้วกระโดดออกไปอย่างกะทันหัน จระเข้ก้ามปูยักษ์กระพือปีกบิน แต่ร่างของมันก็ตกลงมา มันส่งเสียงกรีดร้องอย่างทุรนทุราย สี่นัดของไป๋อี้เล็งไปที่ดวงตาของมัน ดวงตาทั้งสองข้างขนาดเท่าลูกบาสแตกกระจายและเต็มไปด้วยเลือด

 

  ร่างของไป๋อี้ทิ้งตัวลงบนพื้น จากนั้นเขาก็โยนปืนพกที่ไม่มีกระสุนออกไปพลางคว้าตัวโม่โม่แล้ววิ่งไปด้านข้าง

 

  เสียงตู้มดังขึ้น ในขณะที่ไป๋อี้กำลังวิ่งออกไปจากบริเวณนั้น หางของจระเข้ตัวนี้ก็กวาดแกว่งไปทั่ว มันส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน กำแพงทั้งหมดถูกกวาดเรียบด้วยหางที่ปกคลุมด้วยกระดองขนาดใหญ่ กำแพงที่แข็งและใหญ่โตกระเด็นกระดอนไปทุกที่ ไป๋อี้กอดโม่โม่ไว้แน่น ทันใดนั้นก้อนหินก็กระแทกเข้าที่หลังของไป๋อี้

 

        ไป๋อี้รู้สึกว่าร่างกายของเขาสั่นสะท้านจากแรงกระแทก จากนั้นเขาก็กลิ้งออกไป 

 

  “ไป๋อี้!” วูล์ฟตะโกนเรียก เขาอยากจะบุกเข้าไปจัดการเจ้าจระเข้ก้ามปูยักษ์ในทันที

 

  “อย่าไป” ไป๋อี้อุ้มโม่โม่ปีนขึ้นมา มีรอยเลือดอยู่ที่ปากเขา

 

  “อ๊าก……อ๊าก……!” จระเข้ก้ามปูยักษ์ตาบอดส่งเสียงขู่อย่างบ้าคลั่ง มันหมุนตัวไปมา ก้ามหนีบและหางของมันกวัดแกว่งไปรอบ ๆ อย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่จากการพังทลายของกำแพง

 

  ทุกคนเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเขามองไปที่จระเข้ก้ามปูยักษ์ สองสามนัดที่ไป๋อี้เพิ่งยิงไปทำให้มันตาบอด

 

                                                              ————————

                                อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                                  https://www.kawebook.com/story/6809

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 29 จระเข้ก้ามปูยักษ์

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 29 จระเข้ก้ามปูยักษ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

  ทุกคนออกเดินทางและมุ่งหน้าไปยังโอโทโรฮังกา พวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในใจ โดยเฉพาะกับไป๋อี้ เขาเป็นคนขอให้ซาร่ารอที่โอโทโรฮังกา และเขาไม่ได้คาดไว้ว่าจะมีสัตว์ประหลาดปรากฏตัวที่นั่น หวังว่าซาร่าจะไม่เป็นอะไรนะ มิฉะนั้นไป๋อี้จะไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้เลย

 

  “สำหรับจุดประสงค์แรกในการผ่านเมืองเราต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดและพยายามอย่าต่อสู้ หากมีสัตว์ประหลาดมากเกินไปอย่าดันทุรังเข้าปะทะ เรายังสามารถกลับมาเพื่อเลือกอ้อมไปทางเส้นทางที่ไกลออกไปได้” ไป๋อี้สื่อสารผ่านเครื่องวิทยุสื่อสาร

 

  นี่คือสิ่งที่หยูหานและคนอื่น ๆ ค้นพบจากบ้านหลังเมื่อคืนนี้ มันมีความทันสมัยกว่าเครื่องส่งรับวิทยุแบบเดิมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากนัก ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องใช้สัญญาณดาวเทียมและสะดวกกว่าในการใช้โทรศัพท์มือถือภายในขอบเขตพื้นที่ขนาดเล็ก หลังจากนี้อาจตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เครือข่ายมือถือถูกขัดจังหวะ เห็นได้ชัดว่าคุณค่าของสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก

 

  “รู้แล้ว”หยูหานพูดอย่างไม่ยินดียินร้าย

 

  ……

 

  ไป๋อี้และวูล์ฟขับรถมาเป็นคันแรก เพราะกับเรื่องแบบนี้คนอื่น ๆ ไม่ยินดีที่จะขับมาเป็นคันแรกเท่าไรนัก

 

  ระหว่างทางมีอุบัติเหตุทางรถยนต์เกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน วูล์ฟขับรถด้วยความระมัดระวัง ขับหลีกเลี่ยงรถที่ชนกัน ท้องฟ้าก็ยังไม่สว่างเต็มที่ หมอกในตอนเช้าทำให้อากาศเย็น ทั้งเมืองดูเงียบและมืดมาก ไฟที่วุ่นวายเมื่อคืนค่อย ๆ ดับลงและเมืองที่ทรุดโทรมก็เหมือนสัตว์ร้ายที่จำศีลอยู่ เผยให้เห็นบรรยากาศที่ดูอันตราย

 

  พวกเขาไม่พบสัตว์ประหลาดใด ๆ แต่อารมณ์ความรู้สึกของทุกคนก็อยู่ในความตึงเครียดมาก เสียงกรีดร้องที่ดูแข็งกร้าวและอ่อนระทวยดังขึ้นเป็นครั้งคราว นั่นทำให้ทุกคนอกสั่นขวัญแขวนใจกระดอนขึ้นมาถึงลำคอ

 

  “ไป๋อี้ ไปยังไง?” วูล์ฟถาม

 

  “เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกถัดไป จากนั้นตรงไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตไวเอท (Wyeth Supermarket ) ซาร่าบอกว่าเธออยู่บ้านเพื่อนใกล้ ๆ แถวนั้น” ในตอนนี้ไป๋อี้หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไป๋อี้ได้ดาวน์โหลดแผนที่อิเล็กทรอนิกส์โฮโลแกรมของนิวซีแลนด์ไว้แล้ว ขณะนี้โทรศัพท์มือถือไม่สามารถโทรออกได้อีกต่อไป แต่ยังสามารถใช้งานฟังก์ชันอย่างอื่นได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าคงใช้ได้อีกไม่นานเพราะแบตเตอรี่เองก็เหลือน้อยเต็มทน

 

  คนที่ตามมาข้างหลังเห็นรถของไป๋อี้เปลี่ยนทิศทาง นั่นทำให้หยูหานขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

  ไป๋อี้ต้องการตามหาซาร่าคนนั้น แม้ว่าหยูหานจะไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ได้คัดค้านใด ๆ ในเวลานี้ตราบเท่าที่เขาสามารถผ่านโอโทโรฮังกาไปได้ก็พอแล้ว เขามองออกไปข้างนอกอย่างระมัดระวังและถือดาบญี่ปุ่นไว้ในมืออย่างเงียบ ๆ ประตูรถของหยูหานเปิดอยู่ตลอดเวลาเพราะหยูหานกลัวว่าถ้าเขาเจอสัตว์ประหลาดจริง ๆเขาอาจจะไม่มีโอกาสหนีด้วยซ้ำ

 

  “ซุปเปอร์มาร์เก็ตไวเอทอยู่ข้างหน้า” วูล์ฟกล่าว

 

  “อืม” ไป๋อี้พยักหน้าและมองออกไปข้างหน้าด้วยหวังว่าจะพบซาร่า

 

  ในตรอกทางแยกที่ไป๋อี้และคนอื่น ๆ กำลังขับรถผ่าน ไป๋อี้และวูล์ฟรีบหันหน้าไปทางขวาทันที หัวใจของพวกเขากระดอนขึ้นมาถึงลำคอ ในซอยทางด้านขวาของถนนมีสัตว์ประหลาดคล้ายจระเข้ตัวใหญ่นอนอยู่ ข้างในปากของมันกำลังกัดร่างกายมนุษย์ไปครึ่งหนึ่ง เมื่อเห็นรถขับตามมา สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็หันหัวเดินตามรถมาทันที

 

  หนี!

 

  วูล์ฟหักพวงมาลัยเกือบจะในทันที และเร่งความเร็วอย่างกะทันหัน แน่นอนว่าทันใดที่สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็พุ่งตัวออกมา มันก็กัดเข้าอย่างแรง เสียงฟันยักษ์ของมันที่กัดประกบเข้าหากันคล้ายเสียงเหล็กที่กระทบกัน ยังไม่ทันที่ไป๋อี้และวูล์ฟจะโชคดีหลบหนีออกมาได้ ทันใดนั้นตอนที่แม้แต่การบังคับรถให้เลี้ยวอย่างรวดเร็วยังไม่มั่นคง จู่ ๆ ก็มีก้ามขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าสองเมตรปรากฏขึ้นและมันก็คีบเข้าตรงกลางรถอย่างรุนแรง

 

  รถคันเล็กส่ายไปมาอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ถูกยกขึ้นโดยก้ามหนีบขนาดใหญ่จากส่วนตรงกลางจนเริ่มมีรอยบุบยุบเข้ามาบริเวณข้างในรถ

 

  รถหลายคันที่ตามมาถึงกับผงะจากการเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหันนี้และพวกเขาก็เหยียบเบรกทันที เห็นได้ชัดว่าตอนแรกนั้นสถานการณ์ดูสงบมาก ใครจะรู้ว่าจู่ ๆ สัตว์ประหลาดจะโผล่ออกมา และในพริบตาเดียวรถคันเล็กของไป๋อี้ก็ถูกสัตว์ประหลาดใช้ก้ามหนีบจับไป

 

  “กระโดด!” ไป๋อี้พูดและกระโดดออกมาทันทีโดยที่อุ้มโม่โม่เอาไว้ด้วย วูล์ฟรีบขยับอย่างเร็ว เขาเตะประตูรถออก จากนั้นร่างของเขาก็กลิ้งลงไปกับพื้น ทันทีที่ทั้งสามคนกระโดดออกจากรถ ก้ามหนีบขนาดใหญ่ก็บีบตัวลงและหนีบรถคันเล็กหักออกเป็นสองท่อน

 

        “ชาร์ไป่!” ไป๋อี้ตะโกนด้วยความตื่นตกใจ

 

  อาการบาดเจ็บของชาร์ไป่ยังไม่หายสนิทและมันก็นอนอยู่บนเบาะหลังของรถคันนั้น ตอนที่ไป๋อี้กระโดดลงมากับโม่โม่ แต่เจ้าชาร์ไป่นั้นก้าวช้ากว่า ด้วยการหนีบของที่หนีบขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนก้ามปูนั้น มันทำให้รถคันเล็กถูกหนีบหักเป็นสองชิ้น

 

  ไป๋อี้และโม่โม่มีท่าทางเซื่องซึมไปเล็กน้อย แต่การตอบสนองของไป๋อี้ก็ยังคงรวดเร็ว เขารีบอุ้มโม่โม่วิ่งเข้าไปในบ้านข้าง ๆ จากพละกำลังที่ไป๋อี้มีในตอนนี้นั้นการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย

 

  ในขณะนี้ร่างของสัตว์ประหลาดกำลังแกว่งไปมา ไปกระแทกเข้ากับกำแพงจนพังไปครึ่งหนึ่ง จากนั้นมันก็รีบออกมาจากซอย จนในที่สุดทุกคนก็ได้เห็นลักษณะของเจ้าสิ่งนี้อย่างชัดเจน

 

  ลำตัวของมันคล้ายจระเข้ มีความยาวประมาณเจ็ดหรือแปดเมตร ทั้งตัวปกคลุมด้วยกระดองแข็งเป็นชั้น ๆ ที่ขอบมีเดือยกระดูกสีดำที่แหลมคม ทั้งสองข้างของลำตัวมีก้ามเป็นก้ามหนีบขนาดใหญ่สองอันและด้านหลังมีปีกแข็งสีดำที่เงาวับสองคู่คล้ายกับแมลงปีกแข็ง

 

  จระเข้ก้ามปูยักษ์!

 

  เจ้าตัวนี้ … แม้ว่าจะรู้กันมานานแล้วว่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้มีการผสมผสานกันทางพันธุกรรม แต่ทุกคนก็ยังรู้สึกตื่นตกใจเมื่อเห็นมันอยู่ดี

 

  หงฉี่ฮว๋ากระโดดลงจากรถและยิงสัตว์ประหลาดด้วยปืนลูกซองของเธอ

 

  ปัง! เสียงของปืนลูกซองดังมาแต่ไกล แต่อาวุธที่ว่าร้ายแรงต่อมนุษย์นี้กลับไม่มีผลอะไรกับเจ้าตัวนี้และสามารถกล่าวได้ว่าไม่มีร่องรอยอะไรปรากฏให้เห็นเลย อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของหงฉี่ฮว๋าไม่ได้ไร้ประโยชน์ขนาดนั้น อย่างน้อยมันก็ดึงดูดความสนใจของจระเข้ก้ามปูตัวนี้ได้ ในขณะเดียวกันเฮลัวส์ซึ่งนั่งอยู่ในรถคันนี้ก็กระโดดออกจากรถและหลบหลีกอย่างตื่นตระหนก

 

  แม้ร่างกายมันจะใหญ่โตแต่ความเร็วของมันนั้นน่าทึ่งมาก เมื่อหงฉี่ฮว๋าเห็นร่างของสัตว์ประหลาดเธอก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นก็พุ่งตัวไปด้านหน้า

 

        หงฉี่ฮว๋ารีบออกไปทางด้านข้างทันที เสียงแกร๊กดังขึ้นเมื่อปากอันใหญ่โตของมันงับเข้าที่รถโดยตรง จนเกิดเป็นเสียงดังกร๊อบแกร๊บขึ้นตามมา ส่วนหัวของรถแทบทั้งหมดถูกกัดทึ้ง แต่แล้วจู่ ๆ มันก็ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนขึ้นมา

 

  เกิดอะไรขึ้น?

 

  หงฉี่ฮว๋าปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็วถึงได้พบว่ามีบางส่วนของรถแทงเข้าไปในปากของมัน มีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นแม้มันจะมีพละกำลังมาก แต่มันก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับปีศาจอสรพิษยักษ์ และแม้ว่ามันจะกัดรถได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

  ในขณะที่หงฉี่ฮว๋าและหยูหานหยุดรถทั้งคู่ แต่ฉินข่ายรุ่ยกลับกลัวมากจนไม่สนใจเสียงเรียกของหยูหาน เขากลับหัวรถและขับออกไปอีกด้านทันที

 

  “ล้อเล่นใช่ไหม คนบ้า กลุ่มคนบ้า ก็บอกแล้วว่าให้อ้อมอีกทางที่ไกลหน่อย แต่ไม่มีใครเต็มใจที่จะฟังแล้วยังจะมั่นอกมั่นใจมาทางนี้อีก” ฉินข่ายรุ่ยหายใจเข้าลึก ๆ รูม่านตาของเขาขยายออก เห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก และเหม่ยหลินซึ่งนั่งอยู่ในรถคันนี้ก็ยังคงตบหน้าอกของเธอด้วยสีหน้าหวาดกลัวอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดโดยตรง แต่ความกดดันในใจของพวกเขานั้นมีมากกว่าไป๋อี้และคนอื่น ๆ เสียอีก

 

  ……

 

  ดูเหมือนว่ามันจะคิดว่ารถคนนี้ทำร้ายมัน ทันใดนั้นจระเข้ก้ามปูยักษ์ตัวนี้ก็ดุร้ายมากขึ้น ก้ามหนีบขนาดใหญ่สองข้างหนีบลงไปและดึงทึ้งรถคันนั้นอย่างต่อเนื่องจนรถคนนั้นถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ในเวลาไม่ถึงสิบวินาที

 

  “พ่อ ชาร์ไป่!” โม่โม่ร้องออกมาพร้อมเสียงร้องไห้

 

  ไป๋อี้เห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้มุ่งความสนใจไปที่รถจึงรีบดึงโม่โม่ให้หลบ อย่างไรก็ตามโม่โม่จับมือขวาของไป๋อี้ไว้แน่นและพยายามวิ่งไปที่รถ สำหรับโม่โม่แล้วชาร์ไป่เป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง ไป๋อี้กำลังจะบอกกับโม่โม่ว่าชาร์ไป่ไม่รอดแน่ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่าสองครั้ง

 

  ไป๋อี้มองตามเสียงไปและพบว่ากรงเล็บของชาร์ไป่ยื่นออกมาจากช่องว่างในรถดูเหมือนมันอยากจะออกมาจากตรงนั้น แต่ถูกรถที่ปิดขวางเอาไว้

 

  ชาร์ไป่ไม่เป็นอะไร!

 

  ไป๋อี้ดีใจมาก เจ้าชาร์ไป่นอนอยู่ตรงเบาะหลังตลอดมา ถึงจระเข้ก้ามปูยักษ์จะหนีบรถออกเป็นสองท่อน แต่มันก็ไม่ได้ทำร้ายเจ้าชาร์ไป่

 

  เดิมทีเขาวางแผนที่จะหลบหนี แต่เนื่องจากชาร์ไป่ยังมีชีวิตอยู่ เขาจึงต้องวางแผนใหม่ ไป๋อี้ยิงปืนออกไปสองนัดทันทีด้วยปืนพกที่คว้ามาจากมือของโจรในเตอวามูตู กระสุนของปืนพกติดอยู่บนกระดองสีดำ แต่กระสุนกลับไม่ทิ้งร่องรอยบาดแผลอะไรไว้เลย อย่างไรก็ตามเสียงปืนสองนัดนั้นสามารถดึงดูดความสนใจของจระเข้ก้ามปูยักษ์ตัวนี้ได้สำเร็จ เมื่อจระเข้ก้ามปูยักษ์หันกลับมาและกำลังจะพุ่งเข้าหา

 

  ไป๋อี้ผลักโม่โม่ออกอย่างแรง ส่งผลให้โม่โม่กลิ้งเข้าหากำแพงข้าง ๆ ตอนนี้ไป๋อี้ไม่ได้คิดว่านั่นจะเป็นการทำให้โม่โม่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หากยังพาโม่โม่มาด้วย การเคลื่อนไหวของไป๋อี้จะทำให้เขาทั้งสองถูกลากลงไปทั้งคู่และจะไม่สามารถหลบหนีได้ ซึ่งทั้งสองอาจจะต้องกลายเป็นอาหารของจระเข้ก้ามปูยักษ์อย่างแน่นอน

 

  เมื่อผลักโม่โม่ออกไปเรียบร้อย ไป๋อี้ก็กำปืนแน่น ตอนนี้ใจของเขามั่นคงมาก

 

  ปังปังปังปัง!

 

  เสียงปืนสี่นัดดังขึ้นเกือบพร้อมกัน ไป๋อี้ยกแขนขึ้นเล็กน้อยแล้วกระโดดออกไปอย่างกะทันหัน จระเข้ก้ามปูยักษ์กระพือปีกบิน แต่ร่างของมันก็ตกลงมา มันส่งเสียงกรีดร้องอย่างทุรนทุราย สี่นัดของไป๋อี้เล็งไปที่ดวงตาของมัน ดวงตาทั้งสองข้างขนาดเท่าลูกบาสแตกกระจายและเต็มไปด้วยเลือด

 

  ร่างของไป๋อี้ทิ้งตัวลงบนพื้น จากนั้นเขาก็โยนปืนพกที่ไม่มีกระสุนออกไปพลางคว้าตัวโม่โม่แล้ววิ่งไปด้านข้าง

 

  เสียงตู้มดังขึ้น ในขณะที่ไป๋อี้กำลังวิ่งออกไปจากบริเวณนั้น หางของจระเข้ตัวนี้ก็กวาดแกว่งไปทั่ว มันส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน กำแพงทั้งหมดถูกกวาดเรียบด้วยหางที่ปกคลุมด้วยกระดองขนาดใหญ่ กำแพงที่แข็งและใหญ่โตกระเด็นกระดอนไปทุกที่ ไป๋อี้กอดโม่โม่ไว้แน่น ทันใดนั้นก้อนหินก็กระแทกเข้าที่หลังของไป๋อี้

 

        ไป๋อี้รู้สึกว่าร่างกายของเขาสั่นสะท้านจากแรงกระแทก จากนั้นเขาก็กลิ้งออกไป 

 

  “ไป๋อี้!” วูล์ฟตะโกนเรียก เขาอยากจะบุกเข้าไปจัดการเจ้าจระเข้ก้ามปูยักษ์ในทันที

 

  “อย่าไป” ไป๋อี้อุ้มโม่โม่ปีนขึ้นมา มีรอยเลือดอยู่ที่ปากเขา

 

  “อ๊าก……อ๊าก……!” จระเข้ก้ามปูยักษ์ตาบอดส่งเสียงขู่อย่างบ้าคลั่ง มันหมุนตัวไปมา ก้ามหนีบและหางของมันกวัดแกว่งไปรอบ ๆ อย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่จากการพังทลายของกำแพง

 

  ทุกคนเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเขามองไปที่จระเข้ก้ามปูยักษ์ สองสามนัดที่ไป๋อี้เพิ่งยิงไปทำให้มันตาบอด

 

                                                              ————————

                                อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                                  https://www.kawebook.com/story/6809

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+