[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 146 กินไม่ได้

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 146 กินไม่ได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        ถึงแม้ว่าการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลง จะเป็นข้อตกลงระดับสูงร่วมกันทั้งโลก แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีความสัมพันธ์ทางการแข่งขันของความร่วมมือระหว่างประเทศและระหว่างกองกำลัง ไม่ว่ากองกำลังใดก็ตามต่างกำลังเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเกาะปีศาจนิวซีแลนด์ บริเวณน่านฟ้าของนิวซีแลนด์มีดาวเทียมโคจรอยู่หลายสิบดวง หากเกิดการต่อสู้ขึ้นบนหมู่เกาะนิวซีแลนด์ก็ อาจจะถ่ายได้ไม่ชัดนักเนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่ารกทึบ ต่างจากการต่อสู้ที่เกิดขึ้นบริเวณน่านน้ำทะเล

        ทุกกองกำลังที่ได้พบการต่อสู้ดังกล่าวต่างตื่นตระหนกขึ้นมาทันที พวกเขารีบส่งภาพไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ และเริ่มวิเคราะห์ข้อมูลทุกอย่าง ไม่เพียงแค่มนุษย์วิวัฒนาการอย่างพวกไป๋อี้เท่านั้น ยังรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายกับอนาคอนด้าทะเลนั่นอีกด้วย

        “เจ้าหมอนี่แข็งแรงจริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่พบมันเลยหรือเปล่า?” ในห้องสังเกตการณ์ประเทศจีน ชายหนุ่มในชุดทหารคนหนึ่งมองไปยังอนาคอนด้าทะเลในวีดิโอพลางพูดอย่างติดตลก

        “ใช่ครับ ผู้พัน!”

        “โชคดีที่มันไม่ได้ปรากฏตัวในพื้นที่ชายฝั่งของประเทศข้างเคียง ไม่อย่างนั้นคงได้ปวดหัวกันแน่นอน ว่าแต่เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นดูดีมีสไตล์ทีเดียว ดูดีกว่าฉลามในทะเลจีนตะวันออกเสียอีก” ผู้พันกล่าวเอิกเกริก

        “เรื่องนั้น ……!” ทหารอีกนายไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร

        ฉลามที่ผู้พันคนนี้กล่าวถึงนั้นถูกขนานนามว่าฉลามยักษ์อสนีบาตอันดุร้ายอย่างหาใดเปรียบ ฉลามตัวนี้ไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่เท่านั้น แต่มันยังสามารถบินอยู่บนผิวน้ำได้และสามารถปล่อยไฟฟ้าแรงสูงจำนวนมากได้อีกด้วย มันได้ทำลายเรืออัปปางไปหลายสิบลำแล้ว การขนส่งทางทะเลของจีนตะวันออกในตอนนี้จึงหยุดชะงักไปเพราะเจ้าสิ่งนี้ แน่นอนว่าฉลามยักษ์อสนีบาตนี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการวิวัฒนาการเพียงตัวเดียวในมหาสมุทร เพียงแต่ว่ามหาสมุทรนั้นกว้างใหญ่มากจึงไม่ง่ายที่จะพบเจอ

        นอกจากนี้ ในหลาย ๆ พื้นที่ที่เป็นทะเลลึก ทะเลตื้น และชายฝั่งของประเทศอื่น ๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการขนาดใหญ่และน่ากลัวปรากฏออกมาเช่นกัน แต่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่สามารถออกห่างจากมหาสมุทรได้ ดังนั้นจึงยังไม่ได้เห็นถึงความน่าเกรงขามของพวกมัน

        “ไม่เป็นไร ฉันก็แค่พูดไปอย่างนั้น ครั้งนี้ดูเหมือนว่าไป๋อี้คนนั้นคงต้องตายแน่ ๆ น่าเสียดายจริง ๆ เพราะส่วนใหญ่คนนิวซีแลนด์ล้วนเป็นคนขาว หายากมากที่จะมีคนจีนซักคนที่สามารถกลมกลืนได้ขนาดนี้ ถ้าหลังจากที่เขาตายไป หากต้องเผชิญหน้ากับประเทศอื่น ๆ ฉันก็คงไม่มีความมั่นใจมากนัก” ผู้พันบอกปัดไปอย่างลวก ๆ

        ไม่มีความมั่นใจอะไร ไม่มีความมั่นใจในการโอ้อวดอย่างนั้นหรือ?

        แน่นอนว่าทหารคนนี้ไม่กล้าพูดประโยคนี้ออกไป เขาเพียงแต่รู้สึกเสียใจกับกลุ่มมนุษย์วิวัฒนาการในเกาะปีศาจนี้อยู่ในใจ การต่อสู้ดิ้นรนบนเกาะปีศาจแห่งนี้ต้องกลับกลายเป็นเครื่องมือพนันของคนบางกลุ่ม แต่ในโลกความเป็นจริงเพื่ออนาคตของตนเองแล้ว ทหารตัวเล็ก ๆ อย่างเขาอย่างมากก็ทำได้เพียงแค่คิดอยู่ในใจเพราะเขาไม่ใช่คนมีอำนาจอะไรขนาดนั้น

        “ใช่แล้ว เจ้าตัวนั้นยังไม่ได้ตั้งชื่อขนานนามเลย ฉันนึกชื่อที่ดูเท่ออกมาได้ชื่อหนึ่ง ชื่อ ราชามังกรแห่งทะเล ไม่ว่ากลุ่มชาวตะวันตกจะเรียกมันว่าอะไร แต่ในภาษาจีนมันจะได้ชื่อว่าราชามังกรแห่งท้องทะเล ช่างเป็นชื่อที่ยิ่งใหญ่อะไรแบบนี้” ผู้พันพูดกับตัวเอง แล้วยิ้มกริ่มอย่างภาคภูมิใจ

        ……

        พวกไป๋อี้ไม่รู้ว่าพวกเขาได้กลายเป็นเครื่องมือเดิมพันให้คนกลุ่มหนึ่งไปเสียแล้ว ในเวลานี้ ภายในใจของไป๋อี้และกลุ่มเพื่อนมีเพียงแค่ความคิดเดียวเท่านั้น นั่นคือการฆ่าเจ้าสิ่งนี้เพื่อที่จะรักษาชีวิตต่อไป

        เนื่องจากเรือบรรทุกสินค้ากว่าหมื่นตันลำนี้หนักมาก แม้ว่าตอนแรกมันจะเอนเอียงไปบ้างเล็กน้อยจากการก่อกวนของราชามังกรแห่งท้องทะเล แต่ทว่ามันก็สามารถกลับมามั่นคงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นอย่างน้อยพวกไป๋อี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าเรือบรรทุกสินค้าลำนี้จะพลิกคว่ำเพราะเจ้าราชามังกรแห่งท้องทะเล แต่แน่นอนว่าพวกเขายังคงต้องเร่งมือมากขึ้น เพราะหากให้ราชามังกรแห่งทองทะเลขึ้นมาอยู่บนเรือบรรทุกสินค้าต่อไปอีกระยะหนึ่งล่ะก็มันจะยิ่งอันตรายเข้าไปอีกและหากไม่สามารถทำให้เรือเคลื่อนที่ต่อได้  พวกเขาก็คงได้แค่รอความตายอยู่กลางมหาสมุทรแห่งนี้เท่านั้น

        ไป๋อี้ วูล์ฟ เรย์มอนด์ และชาร์ไป่ พุ่งเข้าไปหาราชามังกรแห่งท้องทะเลจากดาดฟ้าเรือที่ลาดเอียงพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร ทางด้านเฮลัวส์ก็บินขึ้นไปบนฟ้าเพื่อคอยโอกาสเช่นกัน

        เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้นสองสามครั้ง ดาบจุมพิตสีแดงของไป๋อี้  ง้าวของวูล์ฟ กรงเล็บของเรย์มอนด์ และเขี้ยวของชาร์ไป่โจมตีเข้าไปที่ร่างของราชามังกรแห่งท้องทะเลพร้อมกัน แต่ทันใดนั้นพวกเขาต่างก็เด้งกลับออกมาทันที เกล็ดของมันแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ ในเวลานั้น ราชามังกรแห่งท้องทะเลได้ว่ายน้ำขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะพุ่งเข้าไปหาวูล์ฟทันที

        หากว่าต้องการกินเหยื่อสักตัว แน่นอนว่ามันก็ต้องเลือกเหยื่อที่ตัวใหญ่ที่สุด หากมีรูปร่างอย่างไป๋อี้คงไม่ได้ลิ้มรสชาติของเนื้อใด ๆ เป็นแน่

        ชาร์ไป่ที่อยู่ด้านข้างรีบพุ่งขึ้นไป สี่เท้าเหยียบย่ำตรงดาดฟ้าเรืออย่างรุนแรง นั่นส่งผลให้ดาดฟ้าที่เป็นโลหะผสมเกิดรอยแตกร้าวจนสามารถรับรู้ถึงพลังของชาร์ไป่ในครั้งนี้ได้เลยว่ารุนแรงขนาดไหน ในขณะที่ราชามังกรแห่งท้องทะเลกำลังจะกัดวูล์ฟ ชาร์ไป่ก็พุ่งมาจากด้านข้างและกระแทกเข้าที่คอของมัน แม้ว่ารูปร่างจะมีความแตกต่างกันมาก แต่แรงที่แข็งแกร่งของชาร์ไป่ก็ทำให้หัวของราชามังกรแห่งท้องทะเลถึงกับเบี่ยงไปอีกข้างได้ในทันที นั่นจึงทำให้วูล์ฟรอดพ้นจากปากขนาดใหญ่นี้ไปได้

        แต่ถึงแม้ว่าแรงกระแทกของชาร์ไป่จะทำให้ราชามังกรแห่งท้องทะเลเบี่ยงไปด้านข้างและสั่นสะท้านไปมาเล็กน้อย แต่มันก็สามารถประคองตัวได้ด้วยร่างกายที่ยืดหยุ่นของมัน เพียงชั่วพริบตาเดียว หนวดของมันก็พันเข้าที่ตัวของชาร์ไป่ ด้วยมันหมายมั่นที่จะลากเข้ามาในปากอันใหญ่โตนั่น ชาร์ไป่ใช้กรงเล็บของมันยึดไว้กับดาดฟ้าอย่างสุดชีวิตพร้อมกับใช้ปากขนาดใหญ่ของมันกัดเข้าที่กลางหนวดของเจ้าสัตว์ประหลาด

        ในตอนนั้น ไป๋อี้ก็รีบพุ่งตัวออกมา และใช้ม่านตาบุษบาผกผันจับการเคลื่อนไหวทั้งหมดของหนวดทุกเส้นเอาไว้ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในช่องว่างระหว่างนั้นทันที ดาบจุมพิตสีแดงกวัดแกว่งเกิดร่องรอยสีแดงขึ้นในอากาศ ในขณะนี้จิตวิญญาณของไป๋อี้ตั้งมั่นอย่างแน่วแน่ หึหึ เขาหัวเราะเย้ยหยันเล็กน้อยก่อนที่หนวดเส้นหนึ่งจะถูกไป๋อี้ตัดจนขาดอย่างแรง

        ชาร์ไป่จึงได้ฉวยเอาโอกาสนี้ ออกแรงดิ้นสุดกำลังจนหลุดออกจากพันธนาการของหนวดอีกเส้นหนึ่งได้ และดีดตัวไปด้านหลังทันที แต่เนื่องจากร่างกายของไป๋อี้ใช้แรงต้านอยู่เป็นเวลานานทำให้หลบหนีไม่ทันและถูกหนวดอีกเส้นกระแทกใส่จนลอยไปทางปากของราชามังกรแห่งท้องทะเล

        ม่านตาของไป๋อี้หดตัวลงทันที เขาไม่เคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้และไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปากใหญ่อันน่ากลัวนั่น

        ความแตกต่างของพลังระหว่างทั้งสองนั้นมากเกินไป เพียงได้เผชิญหน้ากันแค่ครั้งเดียว พวกเขาก็เป็นอันต้องตกอยู่ในอันตรายถึงหลายครั้งหลายครา ชีวิตของไป๋อี้ในตอนนี้ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย เมื่อมองไปที่ปากใหญ่อันน่าสยดสยองนั้น ในหัวของไป๋อี้ต้องใช้ความคิดอย่างหนัก ในเวลาเพียงสั้น ๆ แต่ก็คล้ายกับผ่านไปอย่างยาวนาน ร่างของไป๋อี้ลอยไปด้วยความเร็วทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลันกลางอากาศได้ แน่นอนว่าเขาไม่สามารถหลบได้อีกแล้ว อีกทั้งม่านตาบุษบาผกผันก็ไม่แสดงผลแล้วในตอนนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ ….!

        ขณะที่ร่างของไป๋อี้กำลังจะลอยเข้าไปในปากใหญ่ของราชามังกรแห่งท้องทะเล ปากใหญ่ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวยาวนั้นก็ปิดลงอย่างรุนแรง

        “ไป๋อี้!” ทุกคนตะโกนออกมาด้วยความตื่นตกใจ

        “พ่อ!” โม่โม่และคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงข้างโกดังก็ตะโกนออกมาเสียงดังเช่นกัน เมื่อได้เห็นภาพนั้น

        อย่างไรก็ตามในเวลานี้ ใจของไป๋อี้สงบนิ่งราวกับไร้คลื่นความรู้สึกใด ๆ ในตอนที่ลอยเคว้งอยู่ในอากาศเขาได้ปรับร่างกายให้ลอยเข้ามาในปากใหญ่นี้ในแนวระนาบ และในตอนนี้ไป๋อี้ก็นำดาบจุมพิตสีแดงที่บริเวณเอวของเขาแนบไว้ข้างลำตัวในแนวตั้ง

        แกร่ก เสียงฟันกระทบกันดังขึ้น แต่จู่ ๆ ราชามังกรแห่งท้องทะเลก็อ้าปากของมันอีกครั้งด้วยความรวดเร็วยิ่งกว่าตอนปิดปากเสียอีก พร้อมทั้งส่ายหัวไปมาทันที

        คิดดูสิว่าถ้าลองกินอะไรบางอย่างแล้วโดนเข็มแทงอยู่ข้างในปากจะรู้สึกอย่างไร?

        ดาบจุมพิตสีแดงมีความยาว 1.2 เมตร แม้เทียบไม่ได้กับขนาดของราชามังกรแห่งท้องทะเล แต่มันก็เทียบได้กับเข็มของมนุษย์ ถ้าคุณกัดมันในแนวตั้ง ก็คงจะรู้สึกเจ็บจนต้องอ้าปากคายออกมาในทันที

        ไป๋อี้พยายามอย่างเต็มที่ในการพยุงร่างกายของเขาให้มั่นคงท่ามกลางดาบจุมพิตสีแดง แต่ฟันซี่ใหญ่ที่ปิดอยู่ก็ยังบดเข้าที่ร่างกายเขาอย่างแรง  โชคดีที่จู่ ๆ ปากของราชามังกรแห่งท้องทะเลอ้าออกอีกครั้ง  ไม่เช่นนั้นไป๋อี้คงถูกบดเคี้ยวจนกลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว เกิดเสียงดังโครมขึ้นมา  เมื่อไป๋อี้ลอยออกมาเขาได้ดึงดาบจุมพิตสีแดงออกมาด้วยแล้วกลิ้งไปข้างในช่องปาก

        ราชามังกรแห่งท้องทะเลม้วนลิ้นขึ้นในทันที แต่ในตอนนั้นไป๋อี้ก็คว้าดาบจุมพิตสีแดงไว้ได้แล้ว

        ในบางครั้ง ขนาดที่ใหญ่เกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี!

        ในตำนานจีนโบราณ หลายครั้งที่ซุนหงอคงแปลงกายเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ วิ่งไปในท้องของสัตว์ประหลาดตัวอื่นเพื่อก่อกวน บางที ครั้งนี้ไป๋อี้ก็อาจสามารถเรียนรู้จากเรื่องในตำนานได้บ้างเช่นกัน แน่นอนว่าการกระทำของไป๋อี้นั้นน่าหวาดเสียวกว่าซุนหงอคงเป็นอย่างมาก หากเมื่อครู่นี้เขามีความลังเลหรือประมาทแม้แต่น้อย ในเวลานี้เขาคงได้กลายเป็นอาหารของราชามังกรแห่งท้องทะเลไปแล้วจริง ๆ

        เสียงปะทะกันดังขึ้น แม้ว่ารางกายของเขาจะยังยืนได้ไม่มั่นคงนัก แต่ดาบจุมพิตสีแดงของไป๋อี้ก็ยังทิ่มแทงฟาดฟันต่อไป ลิ้นขนาดใหญ่ถูกไป๋อี้ตัดออกเป็นสองท่อนทันที

        ขณะนั้นเดิมทีราชามังกรแห่งท้องทะเลกำลังจะพุ่งเข้าไปกัดวูล์ฟที่กำลังอยู่ในความงุนงง แต่ทว่ามันก็ต้องหยุดชะงักแล้วลงไปเกลือกกลิ้งอย่างทุรนทุรายด้วยความทรมานแทน

        ในตอนนั้นวูล์ฟและคนอื่น ๆ ยังไม่ได้โจมตีราชามังกรแห่งท้องทะเลแม้แต่น้อย แค่พวกเขายังสามารถยืนอย่างมั่นคงได้อยู่ก็นับว่าดีแล้ว แม้กระทั่งชาร์ไป่ก็ถูกร่างของราชามังกรแห่งท้องทะเลกระแทกจนลอยตกลงไปในทะเล เฮลัวส์รีบเข้าไปคว้าตัวมันเอาไว้แล้วพาว่ายกลับมาที่เรือบรรทุกสินค้าอีกครั้งหนึ่ง

        จากนั้นไม่นาน ราชามังกรแห่งท้องทะเลก็ถอยห่างออกจากเรือไป โดยที่มันยังคงดิ้นรนอย่างเจ็บปวดอยู่ในท้องทะเลพร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา ทั้งยังมีเลือดไหลทะลักออกมาจากปากอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้ทุกคนตกตะลึงไปตาม ๆ กัน

        ในเวลานี้ ไป๋อี้ยังคงเดินหน้าฟันแทงต่อไปไม่หยุด ลิ้น เนื้อเยื่อ เมือก เนื้อ …… ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าไป๋อี้ล้วนตกเป็นเป้าหมายในการฟาดฟันอย่างบ้าคลั่งของเขา  ในตอนนี้ราชามังกรแห่งท้องทะเลกำลังดิ้นรนอย่างหนัก เลือดและชิ้นเนื้อจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดมันก็ปิดปากลงอย่างแรงและบีบกล้ามเนื้อเข้าหากันเพื่อที่จะกักตัวไป๋อี้เอาไว้ในปาก

        แต่ถึงแม้ว่าจะปิดปากของมันไปแล้ว แต่ราชามังกรแห่งท้องทะเลก็ยังรู้สึกเจ็บปวดราวกันมีเข็มทิ่มแทงอยู่ในปากของมันอยู่ดี อีกทั้งเข็มนั้นยังมีแนวโน้มที่จะแทงทะลุไปถึงขากรรไกรด้านบนและแทงเข้าไปในหัวของมันอีกด้วย

        สุดท้ายราชามังกรก็ล้มเลิกแผนการที่จะกินไป๋อี้ไป ส่วนท้องของมันก็ยังปั่นป่วนไม่หยุด ก่อนที่ไป๋อี้จะได้ตอบโต้อะไรต่อเขาก็ถูกแรงมหาศาลพ่นออกมาจนกระแทกกับผิวน้ำหลายต่อหลายครั้ง

        ไป๋อี้ลอยไปไกลกว่าหลายร้อยเมตรเหนือน้ำทะเล เมื่อความเร็วเริ่มลดลงเขาก็คว้าชิ้นส่วนที่หักออกมาจากเรือที่ลอยอยู่บนน้ำเอาไว้ ซึ่งไป๋อี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือส่วนไหน หลังจากคว้าไว้ได้ ไป๋อี้ก็กระอักเลือดออกมาแล้วก็ค่อย ๆ ประคองตัวอยู่บนผิวน้ำที่มีคลื่นกระเพื่อมไม่หยุด

        ในอีกด้านหนึ่ง สภาพราชามังกรแห่งท้องทะเลนั้นดูน่าสังเวชเป็นอย่างมาก ขณะนี้หัวของมันที่ลอยอยู่เหนือผืนน้ำยังคงดูดุร้าย ทว่ากลับมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

        ดวงตาทั้งเล็กใหญ่ทั้ง 6 ดวงของมันจ้องเขม็งไปที่ไป๋อี้ แต่ ณ เวลานี้ไป๋อี้ก็จ้องกลับไปอย่างไม่ลดละเช่นกัน และดวงตาของมันก็ค่อย ๆ หมุนวนไปมา ม่านตาบุษบาผกผัน!

        “กร๊ากกกกกก ~~!” ราชามังกรแห่งท้องทะเลคำรามใส่ไป๋อี้ แต่เสียงร้องนั้นกลับแหบแห้งอย่างน่าแปลกประหลาด เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ปากนั้นเป็นต้นเหตุ หลังจากที่มันคำราม ราชามังกรแห่งท้องทะเลก็จ้องเขม็งไปที่ไป๋อี้อีกครั้ง จากนั้นมันก็สะบัดหางพุ่งลงไปใต้ท้องทะเลและหายวับไปอย่างรวดเร็ว

                

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 146 กินไม่ได้

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 146 กินไม่ได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        ถึงแม้ว่าการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลง จะเป็นข้อตกลงระดับสูงร่วมกันทั้งโลก แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีความสัมพันธ์ทางการแข่งขันของความร่วมมือระหว่างประเทศและระหว่างกองกำลัง ไม่ว่ากองกำลังใดก็ตามต่างกำลังเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเกาะปีศาจนิวซีแลนด์ บริเวณน่านฟ้าของนิวซีแลนด์มีดาวเทียมโคจรอยู่หลายสิบดวง หากเกิดการต่อสู้ขึ้นบนหมู่เกาะนิวซีแลนด์ก็ อาจจะถ่ายได้ไม่ชัดนักเนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่ารกทึบ ต่างจากการต่อสู้ที่เกิดขึ้นบริเวณน่านน้ำทะเล

        ทุกกองกำลังที่ได้พบการต่อสู้ดังกล่าวต่างตื่นตระหนกขึ้นมาทันที พวกเขารีบส่งภาพไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ และเริ่มวิเคราะห์ข้อมูลทุกอย่าง ไม่เพียงแค่มนุษย์วิวัฒนาการอย่างพวกไป๋อี้เท่านั้น ยังรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายกับอนาคอนด้าทะเลนั่นอีกด้วย

        “เจ้าหมอนี่แข็งแรงจริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่พบมันเลยหรือเปล่า?” ในห้องสังเกตการณ์ประเทศจีน ชายหนุ่มในชุดทหารคนหนึ่งมองไปยังอนาคอนด้าทะเลในวีดิโอพลางพูดอย่างติดตลก

        “ใช่ครับ ผู้พัน!”

        “โชคดีที่มันไม่ได้ปรากฏตัวในพื้นที่ชายฝั่งของประเทศข้างเคียง ไม่อย่างนั้นคงได้ปวดหัวกันแน่นอน ว่าแต่เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นดูดีมีสไตล์ทีเดียว ดูดีกว่าฉลามในทะเลจีนตะวันออกเสียอีก” ผู้พันกล่าวเอิกเกริก

        “เรื่องนั้น ……!” ทหารอีกนายไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร

        ฉลามที่ผู้พันคนนี้กล่าวถึงนั้นถูกขนานนามว่าฉลามยักษ์อสนีบาตอันดุร้ายอย่างหาใดเปรียบ ฉลามตัวนี้ไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่เท่านั้น แต่มันยังสามารถบินอยู่บนผิวน้ำได้และสามารถปล่อยไฟฟ้าแรงสูงจำนวนมากได้อีกด้วย มันได้ทำลายเรืออัปปางไปหลายสิบลำแล้ว การขนส่งทางทะเลของจีนตะวันออกในตอนนี้จึงหยุดชะงักไปเพราะเจ้าสิ่งนี้ แน่นอนว่าฉลามยักษ์อสนีบาตนี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการวิวัฒนาการเพียงตัวเดียวในมหาสมุทร เพียงแต่ว่ามหาสมุทรนั้นกว้างใหญ่มากจึงไม่ง่ายที่จะพบเจอ

        นอกจากนี้ ในหลาย ๆ พื้นที่ที่เป็นทะเลลึก ทะเลตื้น และชายฝั่งของประเทศอื่น ๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการขนาดใหญ่และน่ากลัวปรากฏออกมาเช่นกัน แต่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่สามารถออกห่างจากมหาสมุทรได้ ดังนั้นจึงยังไม่ได้เห็นถึงความน่าเกรงขามของพวกมัน

        “ไม่เป็นไร ฉันก็แค่พูดไปอย่างนั้น ครั้งนี้ดูเหมือนว่าไป๋อี้คนนั้นคงต้องตายแน่ ๆ น่าเสียดายจริง ๆ เพราะส่วนใหญ่คนนิวซีแลนด์ล้วนเป็นคนขาว หายากมากที่จะมีคนจีนซักคนที่สามารถกลมกลืนได้ขนาดนี้ ถ้าหลังจากที่เขาตายไป หากต้องเผชิญหน้ากับประเทศอื่น ๆ ฉันก็คงไม่มีความมั่นใจมากนัก” ผู้พันบอกปัดไปอย่างลวก ๆ

        ไม่มีความมั่นใจอะไร ไม่มีความมั่นใจในการโอ้อวดอย่างนั้นหรือ?

        แน่นอนว่าทหารคนนี้ไม่กล้าพูดประโยคนี้ออกไป เขาเพียงแต่รู้สึกเสียใจกับกลุ่มมนุษย์วิวัฒนาการในเกาะปีศาจนี้อยู่ในใจ การต่อสู้ดิ้นรนบนเกาะปีศาจแห่งนี้ต้องกลับกลายเป็นเครื่องมือพนันของคนบางกลุ่ม แต่ในโลกความเป็นจริงเพื่ออนาคตของตนเองแล้ว ทหารตัวเล็ก ๆ อย่างเขาอย่างมากก็ทำได้เพียงแค่คิดอยู่ในใจเพราะเขาไม่ใช่คนมีอำนาจอะไรขนาดนั้น

        “ใช่แล้ว เจ้าตัวนั้นยังไม่ได้ตั้งชื่อขนานนามเลย ฉันนึกชื่อที่ดูเท่ออกมาได้ชื่อหนึ่ง ชื่อ ราชามังกรแห่งทะเล ไม่ว่ากลุ่มชาวตะวันตกจะเรียกมันว่าอะไร แต่ในภาษาจีนมันจะได้ชื่อว่าราชามังกรแห่งท้องทะเล ช่างเป็นชื่อที่ยิ่งใหญ่อะไรแบบนี้” ผู้พันพูดกับตัวเอง แล้วยิ้มกริ่มอย่างภาคภูมิใจ

        ……

        พวกไป๋อี้ไม่รู้ว่าพวกเขาได้กลายเป็นเครื่องมือเดิมพันให้คนกลุ่มหนึ่งไปเสียแล้ว ในเวลานี้ ภายในใจของไป๋อี้และกลุ่มเพื่อนมีเพียงแค่ความคิดเดียวเท่านั้น นั่นคือการฆ่าเจ้าสิ่งนี้เพื่อที่จะรักษาชีวิตต่อไป

        เนื่องจากเรือบรรทุกสินค้ากว่าหมื่นตันลำนี้หนักมาก แม้ว่าตอนแรกมันจะเอนเอียงไปบ้างเล็กน้อยจากการก่อกวนของราชามังกรแห่งท้องทะเล แต่ทว่ามันก็สามารถกลับมามั่นคงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นอย่างน้อยพวกไป๋อี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าเรือบรรทุกสินค้าลำนี้จะพลิกคว่ำเพราะเจ้าราชามังกรแห่งท้องทะเล แต่แน่นอนว่าพวกเขายังคงต้องเร่งมือมากขึ้น เพราะหากให้ราชามังกรแห่งทองทะเลขึ้นมาอยู่บนเรือบรรทุกสินค้าต่อไปอีกระยะหนึ่งล่ะก็มันจะยิ่งอันตรายเข้าไปอีกและหากไม่สามารถทำให้เรือเคลื่อนที่ต่อได้  พวกเขาก็คงได้แค่รอความตายอยู่กลางมหาสมุทรแห่งนี้เท่านั้น

        ไป๋อี้ วูล์ฟ เรย์มอนด์ และชาร์ไป่ พุ่งเข้าไปหาราชามังกรแห่งท้องทะเลจากดาดฟ้าเรือที่ลาดเอียงพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร ทางด้านเฮลัวส์ก็บินขึ้นไปบนฟ้าเพื่อคอยโอกาสเช่นกัน

        เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้นสองสามครั้ง ดาบจุมพิตสีแดงของไป๋อี้  ง้าวของวูล์ฟ กรงเล็บของเรย์มอนด์ และเขี้ยวของชาร์ไป่โจมตีเข้าไปที่ร่างของราชามังกรแห่งท้องทะเลพร้อมกัน แต่ทันใดนั้นพวกเขาต่างก็เด้งกลับออกมาทันที เกล็ดของมันแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ ในเวลานั้น ราชามังกรแห่งท้องทะเลได้ว่ายน้ำขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะพุ่งเข้าไปหาวูล์ฟทันที

        หากว่าต้องการกินเหยื่อสักตัว แน่นอนว่ามันก็ต้องเลือกเหยื่อที่ตัวใหญ่ที่สุด หากมีรูปร่างอย่างไป๋อี้คงไม่ได้ลิ้มรสชาติของเนื้อใด ๆ เป็นแน่

        ชาร์ไป่ที่อยู่ด้านข้างรีบพุ่งขึ้นไป สี่เท้าเหยียบย่ำตรงดาดฟ้าเรืออย่างรุนแรง นั่นส่งผลให้ดาดฟ้าที่เป็นโลหะผสมเกิดรอยแตกร้าวจนสามารถรับรู้ถึงพลังของชาร์ไป่ในครั้งนี้ได้เลยว่ารุนแรงขนาดไหน ในขณะที่ราชามังกรแห่งท้องทะเลกำลังจะกัดวูล์ฟ ชาร์ไป่ก็พุ่งมาจากด้านข้างและกระแทกเข้าที่คอของมัน แม้ว่ารูปร่างจะมีความแตกต่างกันมาก แต่แรงที่แข็งแกร่งของชาร์ไป่ก็ทำให้หัวของราชามังกรแห่งท้องทะเลถึงกับเบี่ยงไปอีกข้างได้ในทันที นั่นจึงทำให้วูล์ฟรอดพ้นจากปากขนาดใหญ่นี้ไปได้

        แต่ถึงแม้ว่าแรงกระแทกของชาร์ไป่จะทำให้ราชามังกรแห่งท้องทะเลเบี่ยงไปด้านข้างและสั่นสะท้านไปมาเล็กน้อย แต่มันก็สามารถประคองตัวได้ด้วยร่างกายที่ยืดหยุ่นของมัน เพียงชั่วพริบตาเดียว หนวดของมันก็พันเข้าที่ตัวของชาร์ไป่ ด้วยมันหมายมั่นที่จะลากเข้ามาในปากอันใหญ่โตนั่น ชาร์ไป่ใช้กรงเล็บของมันยึดไว้กับดาดฟ้าอย่างสุดชีวิตพร้อมกับใช้ปากขนาดใหญ่ของมันกัดเข้าที่กลางหนวดของเจ้าสัตว์ประหลาด

        ในตอนนั้น ไป๋อี้ก็รีบพุ่งตัวออกมา และใช้ม่านตาบุษบาผกผันจับการเคลื่อนไหวทั้งหมดของหนวดทุกเส้นเอาไว้ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในช่องว่างระหว่างนั้นทันที ดาบจุมพิตสีแดงกวัดแกว่งเกิดร่องรอยสีแดงขึ้นในอากาศ ในขณะนี้จิตวิญญาณของไป๋อี้ตั้งมั่นอย่างแน่วแน่ หึหึ เขาหัวเราะเย้ยหยันเล็กน้อยก่อนที่หนวดเส้นหนึ่งจะถูกไป๋อี้ตัดจนขาดอย่างแรง

        ชาร์ไป่จึงได้ฉวยเอาโอกาสนี้ ออกแรงดิ้นสุดกำลังจนหลุดออกจากพันธนาการของหนวดอีกเส้นหนึ่งได้ และดีดตัวไปด้านหลังทันที แต่เนื่องจากร่างกายของไป๋อี้ใช้แรงต้านอยู่เป็นเวลานานทำให้หลบหนีไม่ทันและถูกหนวดอีกเส้นกระแทกใส่จนลอยไปทางปากของราชามังกรแห่งท้องทะเล

        ม่านตาของไป๋อี้หดตัวลงทันที เขาไม่เคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้และไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปากใหญ่อันน่ากลัวนั่น

        ความแตกต่างของพลังระหว่างทั้งสองนั้นมากเกินไป เพียงได้เผชิญหน้ากันแค่ครั้งเดียว พวกเขาก็เป็นอันต้องตกอยู่ในอันตรายถึงหลายครั้งหลายครา ชีวิตของไป๋อี้ในตอนนี้ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย เมื่อมองไปที่ปากใหญ่อันน่าสยดสยองนั้น ในหัวของไป๋อี้ต้องใช้ความคิดอย่างหนัก ในเวลาเพียงสั้น ๆ แต่ก็คล้ายกับผ่านไปอย่างยาวนาน ร่างของไป๋อี้ลอยไปด้วยความเร็วทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลันกลางอากาศได้ แน่นอนว่าเขาไม่สามารถหลบได้อีกแล้ว อีกทั้งม่านตาบุษบาผกผันก็ไม่แสดงผลแล้วในตอนนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ ….!

        ขณะที่ร่างของไป๋อี้กำลังจะลอยเข้าไปในปากใหญ่ของราชามังกรแห่งท้องทะเล ปากใหญ่ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวยาวนั้นก็ปิดลงอย่างรุนแรง

        “ไป๋อี้!” ทุกคนตะโกนออกมาด้วยความตื่นตกใจ

        “พ่อ!” โม่โม่และคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงข้างโกดังก็ตะโกนออกมาเสียงดังเช่นกัน เมื่อได้เห็นภาพนั้น

        อย่างไรก็ตามในเวลานี้ ใจของไป๋อี้สงบนิ่งราวกับไร้คลื่นความรู้สึกใด ๆ ในตอนที่ลอยเคว้งอยู่ในอากาศเขาได้ปรับร่างกายให้ลอยเข้ามาในปากใหญ่นี้ในแนวระนาบ และในตอนนี้ไป๋อี้ก็นำดาบจุมพิตสีแดงที่บริเวณเอวของเขาแนบไว้ข้างลำตัวในแนวตั้ง

        แกร่ก เสียงฟันกระทบกันดังขึ้น แต่จู่ ๆ ราชามังกรแห่งท้องทะเลก็อ้าปากของมันอีกครั้งด้วยความรวดเร็วยิ่งกว่าตอนปิดปากเสียอีก พร้อมทั้งส่ายหัวไปมาทันที

        คิดดูสิว่าถ้าลองกินอะไรบางอย่างแล้วโดนเข็มแทงอยู่ข้างในปากจะรู้สึกอย่างไร?

        ดาบจุมพิตสีแดงมีความยาว 1.2 เมตร แม้เทียบไม่ได้กับขนาดของราชามังกรแห่งท้องทะเล แต่มันก็เทียบได้กับเข็มของมนุษย์ ถ้าคุณกัดมันในแนวตั้ง ก็คงจะรู้สึกเจ็บจนต้องอ้าปากคายออกมาในทันที

        ไป๋อี้พยายามอย่างเต็มที่ในการพยุงร่างกายของเขาให้มั่นคงท่ามกลางดาบจุมพิตสีแดง แต่ฟันซี่ใหญ่ที่ปิดอยู่ก็ยังบดเข้าที่ร่างกายเขาอย่างแรง  โชคดีที่จู่ ๆ ปากของราชามังกรแห่งท้องทะเลอ้าออกอีกครั้ง  ไม่เช่นนั้นไป๋อี้คงถูกบดเคี้ยวจนกลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว เกิดเสียงดังโครมขึ้นมา  เมื่อไป๋อี้ลอยออกมาเขาได้ดึงดาบจุมพิตสีแดงออกมาด้วยแล้วกลิ้งไปข้างในช่องปาก

        ราชามังกรแห่งท้องทะเลม้วนลิ้นขึ้นในทันที แต่ในตอนนั้นไป๋อี้ก็คว้าดาบจุมพิตสีแดงไว้ได้แล้ว

        ในบางครั้ง ขนาดที่ใหญ่เกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี!

        ในตำนานจีนโบราณ หลายครั้งที่ซุนหงอคงแปลงกายเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ วิ่งไปในท้องของสัตว์ประหลาดตัวอื่นเพื่อก่อกวน บางที ครั้งนี้ไป๋อี้ก็อาจสามารถเรียนรู้จากเรื่องในตำนานได้บ้างเช่นกัน แน่นอนว่าการกระทำของไป๋อี้นั้นน่าหวาดเสียวกว่าซุนหงอคงเป็นอย่างมาก หากเมื่อครู่นี้เขามีความลังเลหรือประมาทแม้แต่น้อย ในเวลานี้เขาคงได้กลายเป็นอาหารของราชามังกรแห่งท้องทะเลไปแล้วจริง ๆ

        เสียงปะทะกันดังขึ้น แม้ว่ารางกายของเขาจะยังยืนได้ไม่มั่นคงนัก แต่ดาบจุมพิตสีแดงของไป๋อี้ก็ยังทิ่มแทงฟาดฟันต่อไป ลิ้นขนาดใหญ่ถูกไป๋อี้ตัดออกเป็นสองท่อนทันที

        ขณะนั้นเดิมทีราชามังกรแห่งท้องทะเลกำลังจะพุ่งเข้าไปกัดวูล์ฟที่กำลังอยู่ในความงุนงง แต่ทว่ามันก็ต้องหยุดชะงักแล้วลงไปเกลือกกลิ้งอย่างทุรนทุรายด้วยความทรมานแทน

        ในตอนนั้นวูล์ฟและคนอื่น ๆ ยังไม่ได้โจมตีราชามังกรแห่งท้องทะเลแม้แต่น้อย แค่พวกเขายังสามารถยืนอย่างมั่นคงได้อยู่ก็นับว่าดีแล้ว แม้กระทั่งชาร์ไป่ก็ถูกร่างของราชามังกรแห่งท้องทะเลกระแทกจนลอยตกลงไปในทะเล เฮลัวส์รีบเข้าไปคว้าตัวมันเอาไว้แล้วพาว่ายกลับมาที่เรือบรรทุกสินค้าอีกครั้งหนึ่ง

        จากนั้นไม่นาน ราชามังกรแห่งท้องทะเลก็ถอยห่างออกจากเรือไป โดยที่มันยังคงดิ้นรนอย่างเจ็บปวดอยู่ในท้องทะเลพร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา ทั้งยังมีเลือดไหลทะลักออกมาจากปากอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้ทุกคนตกตะลึงไปตาม ๆ กัน

        ในเวลานี้ ไป๋อี้ยังคงเดินหน้าฟันแทงต่อไปไม่หยุด ลิ้น เนื้อเยื่อ เมือก เนื้อ …… ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าไป๋อี้ล้วนตกเป็นเป้าหมายในการฟาดฟันอย่างบ้าคลั่งของเขา  ในตอนนี้ราชามังกรแห่งท้องทะเลกำลังดิ้นรนอย่างหนัก เลือดและชิ้นเนื้อจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดมันก็ปิดปากลงอย่างแรงและบีบกล้ามเนื้อเข้าหากันเพื่อที่จะกักตัวไป๋อี้เอาไว้ในปาก

        แต่ถึงแม้ว่าจะปิดปากของมันไปแล้ว แต่ราชามังกรแห่งท้องทะเลก็ยังรู้สึกเจ็บปวดราวกันมีเข็มทิ่มแทงอยู่ในปากของมันอยู่ดี อีกทั้งเข็มนั้นยังมีแนวโน้มที่จะแทงทะลุไปถึงขากรรไกรด้านบนและแทงเข้าไปในหัวของมันอีกด้วย

        สุดท้ายราชามังกรก็ล้มเลิกแผนการที่จะกินไป๋อี้ไป ส่วนท้องของมันก็ยังปั่นป่วนไม่หยุด ก่อนที่ไป๋อี้จะได้ตอบโต้อะไรต่อเขาก็ถูกแรงมหาศาลพ่นออกมาจนกระแทกกับผิวน้ำหลายต่อหลายครั้ง

        ไป๋อี้ลอยไปไกลกว่าหลายร้อยเมตรเหนือน้ำทะเล เมื่อความเร็วเริ่มลดลงเขาก็คว้าชิ้นส่วนที่หักออกมาจากเรือที่ลอยอยู่บนน้ำเอาไว้ ซึ่งไป๋อี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือส่วนไหน หลังจากคว้าไว้ได้ ไป๋อี้ก็กระอักเลือดออกมาแล้วก็ค่อย ๆ ประคองตัวอยู่บนผิวน้ำที่มีคลื่นกระเพื่อมไม่หยุด

        ในอีกด้านหนึ่ง สภาพราชามังกรแห่งท้องทะเลนั้นดูน่าสังเวชเป็นอย่างมาก ขณะนี้หัวของมันที่ลอยอยู่เหนือผืนน้ำยังคงดูดุร้าย ทว่ากลับมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

        ดวงตาทั้งเล็กใหญ่ทั้ง 6 ดวงของมันจ้องเขม็งไปที่ไป๋อี้ แต่ ณ เวลานี้ไป๋อี้ก็จ้องกลับไปอย่างไม่ลดละเช่นกัน และดวงตาของมันก็ค่อย ๆ หมุนวนไปมา ม่านตาบุษบาผกผัน!

        “กร๊ากกกกกก ~~!” ราชามังกรแห่งท้องทะเลคำรามใส่ไป๋อี้ แต่เสียงร้องนั้นกลับแหบแห้งอย่างน่าแปลกประหลาด เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ปากนั้นเป็นต้นเหตุ หลังจากที่มันคำราม ราชามังกรแห่งท้องทะเลก็จ้องเขม็งไปที่ไป๋อี้อีกครั้ง จากนั้นมันก็สะบัดหางพุ่งลงไปใต้ท้องทะเลและหายวับไปอย่างรวดเร็ว

                

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+