[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 71 ตัวตนที่เปลี่ยนไป

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 71 ตัวตนที่เปลี่ยนไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        เขาตายแล้วเหรอ?

ไป๋อี้ล้มลงไปกับพื้น สติสัมปชัญญะของเขาเริ่มพร่าเลือน ภาพข้างหน้าเองก็เริ่มมืดลง เขายังไม่อยากตาย ไม่อยากยอมแพ้แบบนี้เลยจริง ๆ …… ภายในใจของไป๋อี้ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ถ้าหากว่าเขาผสานรวมกับยีนที่แข็งแกร่งกว่านี้แทนเจ้าผีเสื้อที่อ่อนแอไร้ประโยชน์ตัวนี้แล้วละก็ …… ช่างน่าแค้นใจจริง ๆ!

ในช่วงที่ในใจของไป๋อี้กรีดร้องอย่างบ้างคลั่งอยู่นั้น ร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นมา มันเหมือนกับสองครั้งก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ไป๋อี้กลับรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายจริง ๆ เลือดในร่างกายของเขาทั้งร้อนและไหลเวียนอย่างรวดเร็ว ขนอ่อนตามรอบดวงตาไปจนถึงทั่วทั้งร่างกายของไป๋อี้สยายสั่นไหวแม้ไม่มีลมพัด

การแปรสภาพตามสภาวะแวดล้อม!

การจำลองธรรมชาติ คือ ปรากฏการณ์ที่สิ่งมีชีวิตเลียนแบบสิ่งมีชีวิตอื่นหรือวัตถุอื่นในสิ่งแวดล้อมนั้นเพื่อเพื่อให้เกิดประโยชน์กับตน

สีสันเตือนภัย สิ่งมีชีวิตในธรรมชาติที่เลียนแบบสีสันลวดลายสดใสเพื่อเป็นสัญญาณเตือนผู้ล่าว่าตนมีกลิ่นเหม็นหรือพิษที่ร้ายแรง 

สีสันพรางตัว สิ่งมีชีวิตมีสีและลักษณะภายนอกคล้ายกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เพื่อที่จะหลบหลีกคู่ต่อสู้

ไป๋อี้ได้รับการรวมยีนกับผีเสื้อไปทั้งหมด รวมถึงลวดลายสีสันและปุยขนที่เกิดขึ้นก็เป็นหนึ่งในการจำลองธรรมชาติ แต่การจำลองธรรมชาติลักษณะนี้จะต่างจากที่เห็นทั่วไปในธรรมชาติเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากเซลล์ดัดแปลง …… ขณะที่กำลังอยู่ในช่วงมึนงงอยู่นั้น ลวดลายที่เกิดขึ้นก็ค่อย ๆ แพร่กระจายจากรอบ ๆ เข้าไปสู่ตาทั้งสองข้างของไป๋อี้

……

ในตอนที่ทุกคนล้วนหมดหวังกันแล้วนั้น หงฉี่ฮว๋าที่ถูกเบลลิก้าทีน่าและหนิงเสวี่ยช่วยพยุงอยู่ก็ผลักพวกเธอออกและตัวพุ่งออกมาอย่างแรง 

ในตอนที่หยูหานและเบ็นสันไม่ได้สังเกต หงฉี่ฮว๋าก็พุ่งเข้าไปกระแทกกับร่างของโนเอล เขารู้สึกถึงแรงมหาศาลจากด้านหลังพุ่งเข้าใส่ ทำให้ร่างของเขากระเด็นลอยขึ้นและตกลงไปที่ทางเดินวงเวียนนั้นอีกครั้งหนึ่ง หงฉี่ฮว๋ารู้ดีว่าตราบใดที่โนเอลยังอยู่ข้างใน คนข้างในก็จะมีโอกาสออกมาได้

แววตาของเฮลัวส์เข้มขึ้น เธอพุ่งเข้าไปหาโนเอลทันที ครั้งนี้เธอจะไม่ปล่อยให้พวกหยูหานมาพาตัวโนเอลออกไปง่าย ๆ อีกแน่

หยูหานมองไปที่หงฉี่ฮว๋าอย่างโกรธเกรี้ยว และก็พบว่าเบ็นสันกำลังจับคอของหงฉี่ฮว๋าไว้แล้วยกขึ้นอยู่ ดวงตาทั้งสองสะท้อนความเยือกเย็นที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้

“พวกเขาออกมาไม่ได้หรอก!” หยูหานพูดอย่างเย็นชา ดาบญี่ปุ่นซามูไรอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ในมือเขาถูกขว้างออกไปอย่างแรง

เฮลัวส์พุ่งไปหาโนเอล เดิมทีเธอคิดจะมาป้องกันไม่ให้หยูหานหรือเบ็นสันเข้ามาเอาตัวโนเอลไป แต่คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้เห็นจะเป็นดาบญี่ปุ่นซามูไรเล่มหนึ่งพุ่งหมุนเข้ามา

โนเอลค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้น โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าดาบกำลังพุ่งตรงมาข้างหลังของเขา 

เฮลัวส์วิ่งเข้าไปพร้อมกับยื่นมือขวาออกไปด้วยความหวาดกลัว ตอนที่คิดจะพูดเตือนโนเอล ดาบซามูไรเล่มนั้นก็เสียบเข้าที่หัวของโนเอลอย่างแรงเสียแล้ว 

ใบหน้าของโนเอลแข็งเกร็งขึ้นมาครู่หนึ่ง เขาค่อย ๆ หันศีรษะไปมองด้วยต้องการจะรู้ว่าใครกันที่อยากจะฆ่าเขา แต่ก็หันไปได้เพียงน้อยนิดเท่านั้นร่างของเขาก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง

“ขอโทษทีนะ หัวหน้า ฉันไม่อยากให้พวกไป๋อี้ออกมาได้” หยูหานพูดกับเบ็นสัน

คราแรกเบ็นสันก็รู้สึกตกใจที่หยูหานฆ่าเพื่อนรวมทีมตัวเอง แต่เมื่อคิดถึงการสู้สุดชีวิตของพวกไป๋อี้แล้ว เขาก็เห็นด้วยกับการกระทำของหยูหาน หากให้คนกลุ่มนั้นออกมาจริง ๆ ล่ะก็แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว จากนั้นทั้งสองก็ยืนมองสีหน้าที่แสดงความสิ้นหวังของกลุ่มคนข้างในอยู่เงียบ ๆ ตรงข้างประตู

ชนะแล้ว!

แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงแหวกอากาศดังแสบหูขึ้นมาพร้อมกับหอกโลหะที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว พลังการทะลุทะทวงของเจ้าหอกโลหะ 1 เมตรนี้น่าตกใจมาก มันแทงเข้าที่ช่วงเอวของเบ็นสันอย่างจัง จากนั้นก็ทะลุไปเสียบแขนขวาของหยูหานที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลัง หลังจากที่หอกโลหะนี้แทงทะลุทั้งสองคนแล้ว ส่วนหัวก็กางตะขอสามง่ามออกมาพร้อมกับเกี่ยวแขนขวาของหยูหานเอาไว้ทันที

ความเจ็บปวดที่ยากเกินจะรับเข้าจู่โจมเขาทั้งสองคนทันที พวกเขาหันไปเห็นวูล์ฟกำลังยืนหัวเราะเยาะพวกเขาอยู่ไกล ๆ แม้ว่าในเวลานี้จะมีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งกำลังกัดไหล่ซ้ายของวูล์ฟอย่างแรง เขาก็ไม่ขยับหนีไปไหน แต่กลับพุ่งความสนใจไปที่ปืนยิงหอกในมือขวาของเขาเพียงอย่างเดียว

สายไทเทเนียมเส้นยาวเชื่อมร่างพวกเขาทั้งสามคนเอาไว้ เบ็นสันรีบใช้มือคว้าสายไว้เพื่อจะทำลายเจ้าสายนี้ แต่คิดเหรอว่าเจ้าของสิ่งนี้จะขาดได้ง่าย ๆ? แม้แต่ดาบคะตะนะของไป๋อี้ก็ยังตัดไม่ขาดเลย

        ขณะนั้นเองวูล์ฟก็ตะโกนเพื่อเค้นพลังออกมา

มาหาฉันนี่!

วูล์ฟใช้สายนี้พันรอบแขนขวาตัวเองไว้ แล้วออกแรงจนสุดพลังจนสายไทเทเนียมเท่านิ้วโป้งรัดเข้ากับกล้ามเนื้อของวูล์ฟจนแน่น และมันก็ส่งผลให้เบ็นสันกับหยูหานถูกความเจ็บปวดถาโถมใส่อีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งยังถูกดึงเข้าไปหาตามแรงดึงอีกด้วย พละกำลังของวูล์ฟนั้นแข็งแกร่งมาก

เบ็นสันโยนหงฉี่ฮว๋าทิ้งทันที สามมือของเขาเกาะประตูไว้ช่วยต้านทานพลังที่แข็งแกร่งนี้ หยูหานก็เช่นกัน

        ทั้งสามคนล้วนออกแรงกันอย่างสุดพลัง เบ็นสันกับหยูหานต่างก็ได้รับความเจ็บปวดอย่างหนักหน่วง เพราะหอกโลหะผสมได้ปักเข้าไปในร่างของพวกเขาแล้ว ดังนั้นการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สามารถเรียกความเจ็บปวดรวดร้าวได้ถึงกระดูกเลยทีเดียว แต่ทางด้านวูล์ฟในตอนนี้ก็มีสภาพที่แย่มากเช่นกัน แขนซ้ายทั้งแขนของเขาถูกสัตว์ประหลาดกัดกระชากไปด้านหลัง แต่วูล์ฟไม่สนใจเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้เลย เขากลับใช้แรงดึงนี้มาเสริมกำลังของตัวเอง

ไอ้พวกสารเลว  เข้ามาตายด้วยกันกับฉันซะเถอะ!

วูล์ฟกางเล็บเท้าทั้งสองข้างออกมาจิกเข้าไปในพื้นที่เป็นโลหะจนเกิดเสียงดังครืดคราดขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็ออกแรงทั้งหมดอีกครั้ง สายไทเทเนียมในร่างของฝั่งตรงข้ามจึงกระตุกอีกครั้งซึ่งสร้างความเจ็บปวดที่ยากจะทนได้ให้กับพวกเขา หยูหานยังเห็นอีกว่าแขนของเขากำลังถูกหักด้วยเจ้าตะขอสามทางนี้ ไม่สิ ….. มันกำลังจะแตกเลยต่างหาก

“อ๊าก….!” หยูหานร้องตะโกนออกมาทันที ร่างของเขาถูกบิดไปตามทิศทางแรงพร้อมกับมีเสียงบางสิ่งแตกดังมาจากแขนขวาที่ถูกตะขอสามทางเกี่ยวไว้ หลังจากนั้นเจ้าตะขอสามทางนี้ก็ตกลงไปห้อยอยู่บนตัวของเบ็นสัน 

ร่างของเบ็นสันสั่นสะท้าน สองมือของเขาเริ่มหลุดออกจากประตูแล้ว แต่ในตอนนั้นประตูก็ได้ปิดลงมาพอดี โชคดีที่เบ็นสันมีร่างกายใหญ่โต ขอเพียงแค่เขายืนหยัดอยู่แบบนี้ วูล์ฟก็ไม่สามารถที่จะลากเขาออกไปได้ 

แต่หลังจากนั้น หยูหานก็ได้ทำเรื่องที่เขาคาดไม่ถึงแม้แต่น้อย คนสนิทมือขวาที่เขาไว้ใจคนนี้พุ่งเข้ามาชนเขาพร้อมกับใช้ขอบโล่กระดองเต่าที่มีความคมตัดมือที่เหลือเพียงข้างเดียวที่เขาใช้จับประตูไว้ ซึ่งแต่เดิมเขาก็ถูกไป๋อี้ตัดมือไปแล้วข้างหนึ่ง แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับครั้งนี้ทำให้เขาเผลอคลายมือที่เหลืออีกสองข้าง และขอบคมของโล่กระดองเต่าของหยูหานก็สับลงมาอีกครั้งหนึ่ง ………. เบ็นสันสูญเสียพลังทั้งหมดในทันที ครู่ต่อมาถึงถูกวูล์ฟดึงเข้าไปหาอย่างแรง

ขณะที่เบ็นสันลอยเคว้งอยู่ในอากาศ เขาก็ได้มองไปที่หยูหานผู้ที่แขนข้างขวาขาดผ่านรอยแยกประตู

เพราะอะไร?

นั่นสิ เพราะอะไรกันนะ? หลังจากพ่ายแพ้ไปครั้งก่อน เขาก็ได้คิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง เมื่อก่อนเขายังใจร้อนเกินไป หากเขาไม่เป็นแบบนั้นคงจะไม่ต้องลำบากขนาดนี้ แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไป๋อี้จะอยู่หรือตายและเบ็นสันชายผู้อยู่เหนือเขามาตลอดก็ออกมาไม่ได้แล้ว

ในขณะที่จิตใจของหยูหานกำลังผ่อนคลายอยู่นั้น มีดสั้นเล่มหนึ่งก็แทงเข้ามาจากด้านข้างอย่างแรง เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นหน้าคุ้นตาของหงฉี่ฮว๋า 

หงฉี่ฮว๋าในตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก การจะขยับแต่ละครั้งต้องฝืนร่างกายอย่างหนักหน่วงเช่นกัน แต่ทางฝั่งของหยูหานเองก็แทบจะไม่ไหว แขนขวาของเขาหลุดออกไปตั้งแต่ช่วงไหล่เหลือเพียงแขนซ้ายเท่านั้นที่ยังใช้การได้

การโจมตีของหงฉี่ฮว๋าดุดันอย่างมาก การจู่โจมของเธอหมายจะเอาชีวิตหยูหาน เพียงแต่เกือบทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหวก็มักจะมีเลือดไหลออกมาทางจมูกของตัวเอง

หนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่าอึ้งตกใจไปพักหนึ่ง จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปเพื่อที่จะหยุดทั้งสองคนเอาไว้

“ออกไป!” มีดสั้นของหงฉี่ฮว๋าโจมตีเข้าใส่โล่กระดองเต่าจากนั้นก็พุ่งไปด้านข้าง หงฉี่ฮว๋าตะโกนใส่ทั้งสองที่กำลังเข้ามา

“หงฉี่ฮว๋า!” เบลลิก้าทีน่าตะโกนเรียก

“ฉันบอกให้หุบปาก อยากหยุดฉันงั้นเหรอ? ก็เหมือนกับที่เธอคิดจะหยุดลุงไป๋นั้นแหละ” หงฉี่ฮว๋าพูดอย่างเย็นชาทั้งยังไม่แม้แต่จะหันไปมองพวกเธอเลยด้วยซ้ำ ขณะที่พูดเลือดก็ยังคงไหลออกจากปากและจมูกของเธอไม่หยุด บางส่วนหยดลงถึงพื้น น้ำเสียงที่ไร้เยื่อไยนี้ทำให้หนิงเฉวี่ยและเบลลิก้าทีน่านิ่งไปทันที ภายในใจของพวกเธอเกิดความรู้สึกทุกข์ใจและสับสนเพิ่มขึ้นอีก

ใช่สินะ ยังต้องห้ามอยู่อีกเหรอ?

“หงฉี่ฮว๋า ความจริงแล้วฉันชอบเธอมากนะ อยากจะมาติดตามฉันไหม” หยูหานโพล่งขึ้นมา นั่นทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“ชอบเหมือนแบบผู้ชายที่เจอผู้หญิงสวยแล้วอยากจะที่จะครอบครองน่ะเหรอ?” หงฉี่ฮว๋าถามด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

“ฉันยอมรับ ตอนที่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอฉันรู้สึกตกตะลึงนิดหน่อย แต่ว่าตอนนี้ทุกคนแทบจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดกันหมดแล้วใช่ไหมล่ะ ความจริงแล้วฉันชอบนิสัยในตัวของเธอต่างหาก ไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่อ่อนแอ ทะนงตนและอิสระ แล้วเธอล่ะ ยินดีที่จะตามฉันไปไหม” หยูหานมองไปที่หงฉี่ฮว๋าอย่างจริงจัง

“นายต้องโง่เง่าขนาดไหนนะถึงมาชวนฉันในเวลานี้”

“ยังไงพวกไป๋อี้ก็ออกมาไม่ได้อีกแล้ว ฉันมาชวนเธอตอนนี้แล้วมันผิดตรงไหน หนิงเสวี่ยและเบลลิก้าทีน่าก็เป็นเพื่อนของเธอ”

หยูหานเดินไปทาหงฉี่ฮว๋าช้า ๆ ส่วนหนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่ายังคงยืนสับสนงุนงงอยู่ที่เดิม

“หึ….!” หงฉี่ฮว๋าเผยรอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของเธอ

“พวกเขาจะรอด ฉันเชื่อในตัวพวกไป๋อี้”

“เธอชอบเขา”

“ไม่ผิดหรอก ใช่ ฉันชอบไป๋อี้ ชอบโม่โม่!” หงฉี่ฮว๋ายอมรับเรื่องนี้อย่างไม่ทุกข์ร้อน แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาหยูหาน “และสิ่งสำคัญที่สุด คือ ฉันเกลียดแก” หงฉี่ฮว๋าเพิ่มความเร็วแล้วพุ่งเข้าไปหาหยูหาน ส่วนหยูหานก็เผยสายตาเย็นเฉียบพร้อมการตัดสินใจที่สิ้นสุดลง

ในเมื่อร่วมมือกันไม่ได้ งั้นฉันก็จะส่งเธอไปเจอไป๋อี้เอง!

โล่กระดองเต่ากับมีดสั้นปะทะกันอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างมองเห็นแววตาสังหารของอีกคน มีเพียงแค่หนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่าเท่านั้นที่ยังคงเพ้อฝันหาสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพที่ไม่มีอยู่จริง ……… หยูหานพูดว่าชอบหงฉี่ฮว๋า เพราะงั้นคงจะไม่……

พวกเธอยังไม่รู้ว่านิสัยใจคอของหยูหานเปลี่ยนเป็นคนโหดเหี้ยมไปแล้ว ….. ทั้งเสแสร้ง ทะเยอทะยาน เด็ดเดี่ยว และไร้ความปราณี!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 71 ตัวตนที่เปลี่ยนไป

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 71 ตัวตนที่เปลี่ยนไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        เขาตายแล้วเหรอ?

ไป๋อี้ล้มลงไปกับพื้น สติสัมปชัญญะของเขาเริ่มพร่าเลือน ภาพข้างหน้าเองก็เริ่มมืดลง เขายังไม่อยากตาย ไม่อยากยอมแพ้แบบนี้เลยจริง ๆ …… ภายในใจของไป๋อี้ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ถ้าหากว่าเขาผสานรวมกับยีนที่แข็งแกร่งกว่านี้แทนเจ้าผีเสื้อที่อ่อนแอไร้ประโยชน์ตัวนี้แล้วละก็ …… ช่างน่าแค้นใจจริง ๆ!

ในช่วงที่ในใจของไป๋อี้กรีดร้องอย่างบ้างคลั่งอยู่นั้น ร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นมา มันเหมือนกับสองครั้งก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ไป๋อี้กลับรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายจริง ๆ เลือดในร่างกายของเขาทั้งร้อนและไหลเวียนอย่างรวดเร็ว ขนอ่อนตามรอบดวงตาไปจนถึงทั่วทั้งร่างกายของไป๋อี้สยายสั่นไหวแม้ไม่มีลมพัด

การแปรสภาพตามสภาวะแวดล้อม!

การจำลองธรรมชาติ คือ ปรากฏการณ์ที่สิ่งมีชีวิตเลียนแบบสิ่งมีชีวิตอื่นหรือวัตถุอื่นในสิ่งแวดล้อมนั้นเพื่อเพื่อให้เกิดประโยชน์กับตน

สีสันเตือนภัย สิ่งมีชีวิตในธรรมชาติที่เลียนแบบสีสันลวดลายสดใสเพื่อเป็นสัญญาณเตือนผู้ล่าว่าตนมีกลิ่นเหม็นหรือพิษที่ร้ายแรง 

สีสันพรางตัว สิ่งมีชีวิตมีสีและลักษณะภายนอกคล้ายกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เพื่อที่จะหลบหลีกคู่ต่อสู้

ไป๋อี้ได้รับการรวมยีนกับผีเสื้อไปทั้งหมด รวมถึงลวดลายสีสันและปุยขนที่เกิดขึ้นก็เป็นหนึ่งในการจำลองธรรมชาติ แต่การจำลองธรรมชาติลักษณะนี้จะต่างจากที่เห็นทั่วไปในธรรมชาติเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากเซลล์ดัดแปลง …… ขณะที่กำลังอยู่ในช่วงมึนงงอยู่นั้น ลวดลายที่เกิดขึ้นก็ค่อย ๆ แพร่กระจายจากรอบ ๆ เข้าไปสู่ตาทั้งสองข้างของไป๋อี้

……

ในตอนที่ทุกคนล้วนหมดหวังกันแล้วนั้น หงฉี่ฮว๋าที่ถูกเบลลิก้าทีน่าและหนิงเสวี่ยช่วยพยุงอยู่ก็ผลักพวกเธอออกและตัวพุ่งออกมาอย่างแรง 

ในตอนที่หยูหานและเบ็นสันไม่ได้สังเกต หงฉี่ฮว๋าก็พุ่งเข้าไปกระแทกกับร่างของโนเอล เขารู้สึกถึงแรงมหาศาลจากด้านหลังพุ่งเข้าใส่ ทำให้ร่างของเขากระเด็นลอยขึ้นและตกลงไปที่ทางเดินวงเวียนนั้นอีกครั้งหนึ่ง หงฉี่ฮว๋ารู้ดีว่าตราบใดที่โนเอลยังอยู่ข้างใน คนข้างในก็จะมีโอกาสออกมาได้

แววตาของเฮลัวส์เข้มขึ้น เธอพุ่งเข้าไปหาโนเอลทันที ครั้งนี้เธอจะไม่ปล่อยให้พวกหยูหานมาพาตัวโนเอลออกไปง่าย ๆ อีกแน่

หยูหานมองไปที่หงฉี่ฮว๋าอย่างโกรธเกรี้ยว และก็พบว่าเบ็นสันกำลังจับคอของหงฉี่ฮว๋าไว้แล้วยกขึ้นอยู่ ดวงตาทั้งสองสะท้อนความเยือกเย็นที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้

“พวกเขาออกมาไม่ได้หรอก!” หยูหานพูดอย่างเย็นชา ดาบญี่ปุ่นซามูไรอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ในมือเขาถูกขว้างออกไปอย่างแรง

เฮลัวส์พุ่งไปหาโนเอล เดิมทีเธอคิดจะมาป้องกันไม่ให้หยูหานหรือเบ็นสันเข้ามาเอาตัวโนเอลไป แต่คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้เห็นจะเป็นดาบญี่ปุ่นซามูไรเล่มหนึ่งพุ่งหมุนเข้ามา

โนเอลค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้น โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าดาบกำลังพุ่งตรงมาข้างหลังของเขา 

เฮลัวส์วิ่งเข้าไปพร้อมกับยื่นมือขวาออกไปด้วยความหวาดกลัว ตอนที่คิดจะพูดเตือนโนเอล ดาบซามูไรเล่มนั้นก็เสียบเข้าที่หัวของโนเอลอย่างแรงเสียแล้ว 

ใบหน้าของโนเอลแข็งเกร็งขึ้นมาครู่หนึ่ง เขาค่อย ๆ หันศีรษะไปมองด้วยต้องการจะรู้ว่าใครกันที่อยากจะฆ่าเขา แต่ก็หันไปได้เพียงน้อยนิดเท่านั้นร่างของเขาก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง

“ขอโทษทีนะ หัวหน้า ฉันไม่อยากให้พวกไป๋อี้ออกมาได้” หยูหานพูดกับเบ็นสัน

คราแรกเบ็นสันก็รู้สึกตกใจที่หยูหานฆ่าเพื่อนรวมทีมตัวเอง แต่เมื่อคิดถึงการสู้สุดชีวิตของพวกไป๋อี้แล้ว เขาก็เห็นด้วยกับการกระทำของหยูหาน หากให้คนกลุ่มนั้นออกมาจริง ๆ ล่ะก็แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว จากนั้นทั้งสองก็ยืนมองสีหน้าที่แสดงความสิ้นหวังของกลุ่มคนข้างในอยู่เงียบ ๆ ตรงข้างประตู

ชนะแล้ว!

แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงแหวกอากาศดังแสบหูขึ้นมาพร้อมกับหอกโลหะที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว พลังการทะลุทะทวงของเจ้าหอกโลหะ 1 เมตรนี้น่าตกใจมาก มันแทงเข้าที่ช่วงเอวของเบ็นสันอย่างจัง จากนั้นก็ทะลุไปเสียบแขนขวาของหยูหานที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลัง หลังจากที่หอกโลหะนี้แทงทะลุทั้งสองคนแล้ว ส่วนหัวก็กางตะขอสามง่ามออกมาพร้อมกับเกี่ยวแขนขวาของหยูหานเอาไว้ทันที

ความเจ็บปวดที่ยากเกินจะรับเข้าจู่โจมเขาทั้งสองคนทันที พวกเขาหันไปเห็นวูล์ฟกำลังยืนหัวเราะเยาะพวกเขาอยู่ไกล ๆ แม้ว่าในเวลานี้จะมีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งกำลังกัดไหล่ซ้ายของวูล์ฟอย่างแรง เขาก็ไม่ขยับหนีไปไหน แต่กลับพุ่งความสนใจไปที่ปืนยิงหอกในมือขวาของเขาเพียงอย่างเดียว

สายไทเทเนียมเส้นยาวเชื่อมร่างพวกเขาทั้งสามคนเอาไว้ เบ็นสันรีบใช้มือคว้าสายไว้เพื่อจะทำลายเจ้าสายนี้ แต่คิดเหรอว่าเจ้าของสิ่งนี้จะขาดได้ง่าย ๆ? แม้แต่ดาบคะตะนะของไป๋อี้ก็ยังตัดไม่ขาดเลย

        ขณะนั้นเองวูล์ฟก็ตะโกนเพื่อเค้นพลังออกมา

มาหาฉันนี่!

วูล์ฟใช้สายนี้พันรอบแขนขวาตัวเองไว้ แล้วออกแรงจนสุดพลังจนสายไทเทเนียมเท่านิ้วโป้งรัดเข้ากับกล้ามเนื้อของวูล์ฟจนแน่น และมันก็ส่งผลให้เบ็นสันกับหยูหานถูกความเจ็บปวดถาโถมใส่อีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งยังถูกดึงเข้าไปหาตามแรงดึงอีกด้วย พละกำลังของวูล์ฟนั้นแข็งแกร่งมาก

เบ็นสันโยนหงฉี่ฮว๋าทิ้งทันที สามมือของเขาเกาะประตูไว้ช่วยต้านทานพลังที่แข็งแกร่งนี้ หยูหานก็เช่นกัน

        ทั้งสามคนล้วนออกแรงกันอย่างสุดพลัง เบ็นสันกับหยูหานต่างก็ได้รับความเจ็บปวดอย่างหนักหน่วง เพราะหอกโลหะผสมได้ปักเข้าไปในร่างของพวกเขาแล้ว ดังนั้นการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สามารถเรียกความเจ็บปวดรวดร้าวได้ถึงกระดูกเลยทีเดียว แต่ทางด้านวูล์ฟในตอนนี้ก็มีสภาพที่แย่มากเช่นกัน แขนซ้ายทั้งแขนของเขาถูกสัตว์ประหลาดกัดกระชากไปด้านหลัง แต่วูล์ฟไม่สนใจเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้เลย เขากลับใช้แรงดึงนี้มาเสริมกำลังของตัวเอง

ไอ้พวกสารเลว  เข้ามาตายด้วยกันกับฉันซะเถอะ!

วูล์ฟกางเล็บเท้าทั้งสองข้างออกมาจิกเข้าไปในพื้นที่เป็นโลหะจนเกิดเสียงดังครืดคราดขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็ออกแรงทั้งหมดอีกครั้ง สายไทเทเนียมในร่างของฝั่งตรงข้ามจึงกระตุกอีกครั้งซึ่งสร้างความเจ็บปวดที่ยากจะทนได้ให้กับพวกเขา หยูหานยังเห็นอีกว่าแขนของเขากำลังถูกหักด้วยเจ้าตะขอสามทางนี้ ไม่สิ ….. มันกำลังจะแตกเลยต่างหาก

“อ๊าก….!” หยูหานร้องตะโกนออกมาทันที ร่างของเขาถูกบิดไปตามทิศทางแรงพร้อมกับมีเสียงบางสิ่งแตกดังมาจากแขนขวาที่ถูกตะขอสามทางเกี่ยวไว้ หลังจากนั้นเจ้าตะขอสามทางนี้ก็ตกลงไปห้อยอยู่บนตัวของเบ็นสัน 

ร่างของเบ็นสันสั่นสะท้าน สองมือของเขาเริ่มหลุดออกจากประตูแล้ว แต่ในตอนนั้นประตูก็ได้ปิดลงมาพอดี โชคดีที่เบ็นสันมีร่างกายใหญ่โต ขอเพียงแค่เขายืนหยัดอยู่แบบนี้ วูล์ฟก็ไม่สามารถที่จะลากเขาออกไปได้ 

แต่หลังจากนั้น หยูหานก็ได้ทำเรื่องที่เขาคาดไม่ถึงแม้แต่น้อย คนสนิทมือขวาที่เขาไว้ใจคนนี้พุ่งเข้ามาชนเขาพร้อมกับใช้ขอบโล่กระดองเต่าที่มีความคมตัดมือที่เหลือเพียงข้างเดียวที่เขาใช้จับประตูไว้ ซึ่งแต่เดิมเขาก็ถูกไป๋อี้ตัดมือไปแล้วข้างหนึ่ง แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับครั้งนี้ทำให้เขาเผลอคลายมือที่เหลืออีกสองข้าง และขอบคมของโล่กระดองเต่าของหยูหานก็สับลงมาอีกครั้งหนึ่ง ………. เบ็นสันสูญเสียพลังทั้งหมดในทันที ครู่ต่อมาถึงถูกวูล์ฟดึงเข้าไปหาอย่างแรง

ขณะที่เบ็นสันลอยเคว้งอยู่ในอากาศ เขาก็ได้มองไปที่หยูหานผู้ที่แขนข้างขวาขาดผ่านรอยแยกประตู

เพราะอะไร?

นั่นสิ เพราะอะไรกันนะ? หลังจากพ่ายแพ้ไปครั้งก่อน เขาก็ได้คิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง เมื่อก่อนเขายังใจร้อนเกินไป หากเขาไม่เป็นแบบนั้นคงจะไม่ต้องลำบากขนาดนี้ แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไป๋อี้จะอยู่หรือตายและเบ็นสันชายผู้อยู่เหนือเขามาตลอดก็ออกมาไม่ได้แล้ว

ในขณะที่จิตใจของหยูหานกำลังผ่อนคลายอยู่นั้น มีดสั้นเล่มหนึ่งก็แทงเข้ามาจากด้านข้างอย่างแรง เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นหน้าคุ้นตาของหงฉี่ฮว๋า 

หงฉี่ฮว๋าในตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก การจะขยับแต่ละครั้งต้องฝืนร่างกายอย่างหนักหน่วงเช่นกัน แต่ทางฝั่งของหยูหานเองก็แทบจะไม่ไหว แขนขวาของเขาหลุดออกไปตั้งแต่ช่วงไหล่เหลือเพียงแขนซ้ายเท่านั้นที่ยังใช้การได้

การโจมตีของหงฉี่ฮว๋าดุดันอย่างมาก การจู่โจมของเธอหมายจะเอาชีวิตหยูหาน เพียงแต่เกือบทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหวก็มักจะมีเลือดไหลออกมาทางจมูกของตัวเอง

หนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่าอึ้งตกใจไปพักหนึ่ง จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปเพื่อที่จะหยุดทั้งสองคนเอาไว้

“ออกไป!” มีดสั้นของหงฉี่ฮว๋าโจมตีเข้าใส่โล่กระดองเต่าจากนั้นก็พุ่งไปด้านข้าง หงฉี่ฮว๋าตะโกนใส่ทั้งสองที่กำลังเข้ามา

“หงฉี่ฮว๋า!” เบลลิก้าทีน่าตะโกนเรียก

“ฉันบอกให้หุบปาก อยากหยุดฉันงั้นเหรอ? ก็เหมือนกับที่เธอคิดจะหยุดลุงไป๋นั้นแหละ” หงฉี่ฮว๋าพูดอย่างเย็นชาทั้งยังไม่แม้แต่จะหันไปมองพวกเธอเลยด้วยซ้ำ ขณะที่พูดเลือดก็ยังคงไหลออกจากปากและจมูกของเธอไม่หยุด บางส่วนหยดลงถึงพื้น น้ำเสียงที่ไร้เยื่อไยนี้ทำให้หนิงเฉวี่ยและเบลลิก้าทีน่านิ่งไปทันที ภายในใจของพวกเธอเกิดความรู้สึกทุกข์ใจและสับสนเพิ่มขึ้นอีก

ใช่สินะ ยังต้องห้ามอยู่อีกเหรอ?

“หงฉี่ฮว๋า ความจริงแล้วฉันชอบเธอมากนะ อยากจะมาติดตามฉันไหม” หยูหานโพล่งขึ้นมา นั่นทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“ชอบเหมือนแบบผู้ชายที่เจอผู้หญิงสวยแล้วอยากจะที่จะครอบครองน่ะเหรอ?” หงฉี่ฮว๋าถามด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

“ฉันยอมรับ ตอนที่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอฉันรู้สึกตกตะลึงนิดหน่อย แต่ว่าตอนนี้ทุกคนแทบจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดกันหมดแล้วใช่ไหมล่ะ ความจริงแล้วฉันชอบนิสัยในตัวของเธอต่างหาก ไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่อ่อนแอ ทะนงตนและอิสระ แล้วเธอล่ะ ยินดีที่จะตามฉันไปไหม” หยูหานมองไปที่หงฉี่ฮว๋าอย่างจริงจัง

“นายต้องโง่เง่าขนาดไหนนะถึงมาชวนฉันในเวลานี้”

“ยังไงพวกไป๋อี้ก็ออกมาไม่ได้อีกแล้ว ฉันมาชวนเธอตอนนี้แล้วมันผิดตรงไหน หนิงเสวี่ยและเบลลิก้าทีน่าก็เป็นเพื่อนของเธอ”

หยูหานเดินไปทาหงฉี่ฮว๋าช้า ๆ ส่วนหนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่ายังคงยืนสับสนงุนงงอยู่ที่เดิม

“หึ….!” หงฉี่ฮว๋าเผยรอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของเธอ

“พวกเขาจะรอด ฉันเชื่อในตัวพวกไป๋อี้”

“เธอชอบเขา”

“ไม่ผิดหรอก ใช่ ฉันชอบไป๋อี้ ชอบโม่โม่!” หงฉี่ฮว๋ายอมรับเรื่องนี้อย่างไม่ทุกข์ร้อน แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาหยูหาน “และสิ่งสำคัญที่สุด คือ ฉันเกลียดแก” หงฉี่ฮว๋าเพิ่มความเร็วแล้วพุ่งเข้าไปหาหยูหาน ส่วนหยูหานก็เผยสายตาเย็นเฉียบพร้อมการตัดสินใจที่สิ้นสุดลง

ในเมื่อร่วมมือกันไม่ได้ งั้นฉันก็จะส่งเธอไปเจอไป๋อี้เอง!

โล่กระดองเต่ากับมีดสั้นปะทะกันอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างมองเห็นแววตาสังหารของอีกคน มีเพียงแค่หนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่าเท่านั้นที่ยังคงเพ้อฝันหาสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพที่ไม่มีอยู่จริง ……… หยูหานพูดว่าชอบหงฉี่ฮว๋า เพราะงั้นคงจะไม่……

พวกเธอยังไม่รู้ว่านิสัยใจคอของหยูหานเปลี่ยนเป็นคนโหดเหี้ยมไปแล้ว ….. ทั้งเสแสร้ง ทะเยอทะยาน เด็ดเดี่ยว และไร้ความปราณี!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 71 ตัวตนที่เปลี่ยนไป

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 71 ตัวตนที่เปลี่ยนไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        เขาตายแล้วเหรอ?

ไป๋อี้ล้มลงไปกับพื้น สติสัมปชัญญะของเขาเริ่มพร่าเลือน ภาพข้างหน้าเองก็เริ่มมืดลง เขายังไม่อยากตาย ไม่อยากยอมแพ้แบบนี้เลยจริง ๆ …… ภายในใจของไป๋อี้ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ถ้าหากว่าเขาผสานรวมกับยีนที่แข็งแกร่งกว่านี้แทนเจ้าผีเสื้อที่อ่อนแอไร้ประโยชน์ตัวนี้แล้วละก็ …… ช่างน่าแค้นใจจริง ๆ!

ในช่วงที่ในใจของไป๋อี้กรีดร้องอย่างบ้างคลั่งอยู่นั้น ร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นมา มันเหมือนกับสองครั้งก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ไป๋อี้กลับรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายจริง ๆ เลือดในร่างกายของเขาทั้งร้อนและไหลเวียนอย่างรวดเร็ว ขนอ่อนตามรอบดวงตาไปจนถึงทั่วทั้งร่างกายของไป๋อี้สยายสั่นไหวแม้ไม่มีลมพัด

การแปรสภาพตามสภาวะแวดล้อม!

การจำลองธรรมชาติ คือ ปรากฏการณ์ที่สิ่งมีชีวิตเลียนแบบสิ่งมีชีวิตอื่นหรือวัตถุอื่นในสิ่งแวดล้อมนั้นเพื่อเพื่อให้เกิดประโยชน์กับตน

สีสันเตือนภัย สิ่งมีชีวิตในธรรมชาติที่เลียนแบบสีสันลวดลายสดใสเพื่อเป็นสัญญาณเตือนผู้ล่าว่าตนมีกลิ่นเหม็นหรือพิษที่ร้ายแรง 

สีสันพรางตัว สิ่งมีชีวิตมีสีและลักษณะภายนอกคล้ายกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เพื่อที่จะหลบหลีกคู่ต่อสู้

ไป๋อี้ได้รับการรวมยีนกับผีเสื้อไปทั้งหมด รวมถึงลวดลายสีสันและปุยขนที่เกิดขึ้นก็เป็นหนึ่งในการจำลองธรรมชาติ แต่การจำลองธรรมชาติลักษณะนี้จะต่างจากที่เห็นทั่วไปในธรรมชาติเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากเซลล์ดัดแปลง …… ขณะที่กำลังอยู่ในช่วงมึนงงอยู่นั้น ลวดลายที่เกิดขึ้นก็ค่อย ๆ แพร่กระจายจากรอบ ๆ เข้าไปสู่ตาทั้งสองข้างของไป๋อี้

……

ในตอนที่ทุกคนล้วนหมดหวังกันแล้วนั้น หงฉี่ฮว๋าที่ถูกเบลลิก้าทีน่าและหนิงเสวี่ยช่วยพยุงอยู่ก็ผลักพวกเธอออกและตัวพุ่งออกมาอย่างแรง 

ในตอนที่หยูหานและเบ็นสันไม่ได้สังเกต หงฉี่ฮว๋าก็พุ่งเข้าไปกระแทกกับร่างของโนเอล เขารู้สึกถึงแรงมหาศาลจากด้านหลังพุ่งเข้าใส่ ทำให้ร่างของเขากระเด็นลอยขึ้นและตกลงไปที่ทางเดินวงเวียนนั้นอีกครั้งหนึ่ง หงฉี่ฮว๋ารู้ดีว่าตราบใดที่โนเอลยังอยู่ข้างใน คนข้างในก็จะมีโอกาสออกมาได้

แววตาของเฮลัวส์เข้มขึ้น เธอพุ่งเข้าไปหาโนเอลทันที ครั้งนี้เธอจะไม่ปล่อยให้พวกหยูหานมาพาตัวโนเอลออกไปง่าย ๆ อีกแน่

หยูหานมองไปที่หงฉี่ฮว๋าอย่างโกรธเกรี้ยว และก็พบว่าเบ็นสันกำลังจับคอของหงฉี่ฮว๋าไว้แล้วยกขึ้นอยู่ ดวงตาทั้งสองสะท้อนความเยือกเย็นที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้

“พวกเขาออกมาไม่ได้หรอก!” หยูหานพูดอย่างเย็นชา ดาบญี่ปุ่นซามูไรอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ในมือเขาถูกขว้างออกไปอย่างแรง

เฮลัวส์พุ่งไปหาโนเอล เดิมทีเธอคิดจะมาป้องกันไม่ให้หยูหานหรือเบ็นสันเข้ามาเอาตัวโนเอลไป แต่คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้เห็นจะเป็นดาบญี่ปุ่นซามูไรเล่มหนึ่งพุ่งหมุนเข้ามา

โนเอลค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้น โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าดาบกำลังพุ่งตรงมาข้างหลังของเขา 

เฮลัวส์วิ่งเข้าไปพร้อมกับยื่นมือขวาออกไปด้วยความหวาดกลัว ตอนที่คิดจะพูดเตือนโนเอล ดาบซามูไรเล่มนั้นก็เสียบเข้าที่หัวของโนเอลอย่างแรงเสียแล้ว 

ใบหน้าของโนเอลแข็งเกร็งขึ้นมาครู่หนึ่ง เขาค่อย ๆ หันศีรษะไปมองด้วยต้องการจะรู้ว่าใครกันที่อยากจะฆ่าเขา แต่ก็หันไปได้เพียงน้อยนิดเท่านั้นร่างของเขาก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง

“ขอโทษทีนะ หัวหน้า ฉันไม่อยากให้พวกไป๋อี้ออกมาได้” หยูหานพูดกับเบ็นสัน

คราแรกเบ็นสันก็รู้สึกตกใจที่หยูหานฆ่าเพื่อนรวมทีมตัวเอง แต่เมื่อคิดถึงการสู้สุดชีวิตของพวกไป๋อี้แล้ว เขาก็เห็นด้วยกับการกระทำของหยูหาน หากให้คนกลุ่มนั้นออกมาจริง ๆ ล่ะก็แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว จากนั้นทั้งสองก็ยืนมองสีหน้าที่แสดงความสิ้นหวังของกลุ่มคนข้างในอยู่เงียบ ๆ ตรงข้างประตู

ชนะแล้ว!

แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงแหวกอากาศดังแสบหูขึ้นมาพร้อมกับหอกโลหะที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว พลังการทะลุทะทวงของเจ้าหอกโลหะ 1 เมตรนี้น่าตกใจมาก มันแทงเข้าที่ช่วงเอวของเบ็นสันอย่างจัง จากนั้นก็ทะลุไปเสียบแขนขวาของหยูหานที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลัง หลังจากที่หอกโลหะนี้แทงทะลุทั้งสองคนแล้ว ส่วนหัวก็กางตะขอสามง่ามออกมาพร้อมกับเกี่ยวแขนขวาของหยูหานเอาไว้ทันที

ความเจ็บปวดที่ยากเกินจะรับเข้าจู่โจมเขาทั้งสองคนทันที พวกเขาหันไปเห็นวูล์ฟกำลังยืนหัวเราะเยาะพวกเขาอยู่ไกล ๆ แม้ว่าในเวลานี้จะมีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งกำลังกัดไหล่ซ้ายของวูล์ฟอย่างแรง เขาก็ไม่ขยับหนีไปไหน แต่กลับพุ่งความสนใจไปที่ปืนยิงหอกในมือขวาของเขาเพียงอย่างเดียว

สายไทเทเนียมเส้นยาวเชื่อมร่างพวกเขาทั้งสามคนเอาไว้ เบ็นสันรีบใช้มือคว้าสายไว้เพื่อจะทำลายเจ้าสายนี้ แต่คิดเหรอว่าเจ้าของสิ่งนี้จะขาดได้ง่าย ๆ? แม้แต่ดาบคะตะนะของไป๋อี้ก็ยังตัดไม่ขาดเลย

        ขณะนั้นเองวูล์ฟก็ตะโกนเพื่อเค้นพลังออกมา

มาหาฉันนี่!

วูล์ฟใช้สายนี้พันรอบแขนขวาตัวเองไว้ แล้วออกแรงจนสุดพลังจนสายไทเทเนียมเท่านิ้วโป้งรัดเข้ากับกล้ามเนื้อของวูล์ฟจนแน่น และมันก็ส่งผลให้เบ็นสันกับหยูหานถูกความเจ็บปวดถาโถมใส่อีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งยังถูกดึงเข้าไปหาตามแรงดึงอีกด้วย พละกำลังของวูล์ฟนั้นแข็งแกร่งมาก

เบ็นสันโยนหงฉี่ฮว๋าทิ้งทันที สามมือของเขาเกาะประตูไว้ช่วยต้านทานพลังที่แข็งแกร่งนี้ หยูหานก็เช่นกัน

        ทั้งสามคนล้วนออกแรงกันอย่างสุดพลัง เบ็นสันกับหยูหานต่างก็ได้รับความเจ็บปวดอย่างหนักหน่วง เพราะหอกโลหะผสมได้ปักเข้าไปในร่างของพวกเขาแล้ว ดังนั้นการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สามารถเรียกความเจ็บปวดรวดร้าวได้ถึงกระดูกเลยทีเดียว แต่ทางด้านวูล์ฟในตอนนี้ก็มีสภาพที่แย่มากเช่นกัน แขนซ้ายทั้งแขนของเขาถูกสัตว์ประหลาดกัดกระชากไปด้านหลัง แต่วูล์ฟไม่สนใจเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้เลย เขากลับใช้แรงดึงนี้มาเสริมกำลังของตัวเอง

ไอ้พวกสารเลว  เข้ามาตายด้วยกันกับฉันซะเถอะ!

วูล์ฟกางเล็บเท้าทั้งสองข้างออกมาจิกเข้าไปในพื้นที่เป็นโลหะจนเกิดเสียงดังครืดคราดขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็ออกแรงทั้งหมดอีกครั้ง สายไทเทเนียมในร่างของฝั่งตรงข้ามจึงกระตุกอีกครั้งซึ่งสร้างความเจ็บปวดที่ยากจะทนได้ให้กับพวกเขา หยูหานยังเห็นอีกว่าแขนของเขากำลังถูกหักด้วยเจ้าตะขอสามทางนี้ ไม่สิ ….. มันกำลังจะแตกเลยต่างหาก

“อ๊าก….!” หยูหานร้องตะโกนออกมาทันที ร่างของเขาถูกบิดไปตามทิศทางแรงพร้อมกับมีเสียงบางสิ่งแตกดังมาจากแขนขวาที่ถูกตะขอสามทางเกี่ยวไว้ หลังจากนั้นเจ้าตะขอสามทางนี้ก็ตกลงไปห้อยอยู่บนตัวของเบ็นสัน 

ร่างของเบ็นสันสั่นสะท้าน สองมือของเขาเริ่มหลุดออกจากประตูแล้ว แต่ในตอนนั้นประตูก็ได้ปิดลงมาพอดี โชคดีที่เบ็นสันมีร่างกายใหญ่โต ขอเพียงแค่เขายืนหยัดอยู่แบบนี้ วูล์ฟก็ไม่สามารถที่จะลากเขาออกไปได้ 

แต่หลังจากนั้น หยูหานก็ได้ทำเรื่องที่เขาคาดไม่ถึงแม้แต่น้อย คนสนิทมือขวาที่เขาไว้ใจคนนี้พุ่งเข้ามาชนเขาพร้อมกับใช้ขอบโล่กระดองเต่าที่มีความคมตัดมือที่เหลือเพียงข้างเดียวที่เขาใช้จับประตูไว้ ซึ่งแต่เดิมเขาก็ถูกไป๋อี้ตัดมือไปแล้วข้างหนึ่ง แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับครั้งนี้ทำให้เขาเผลอคลายมือที่เหลืออีกสองข้าง และขอบคมของโล่กระดองเต่าของหยูหานก็สับลงมาอีกครั้งหนึ่ง ………. เบ็นสันสูญเสียพลังทั้งหมดในทันที ครู่ต่อมาถึงถูกวูล์ฟดึงเข้าไปหาอย่างแรง

ขณะที่เบ็นสันลอยเคว้งอยู่ในอากาศ เขาก็ได้มองไปที่หยูหานผู้ที่แขนข้างขวาขาดผ่านรอยแยกประตู

เพราะอะไร?

นั่นสิ เพราะอะไรกันนะ? หลังจากพ่ายแพ้ไปครั้งก่อน เขาก็ได้คิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง เมื่อก่อนเขายังใจร้อนเกินไป หากเขาไม่เป็นแบบนั้นคงจะไม่ต้องลำบากขนาดนี้ แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไป๋อี้จะอยู่หรือตายและเบ็นสันชายผู้อยู่เหนือเขามาตลอดก็ออกมาไม่ได้แล้ว

ในขณะที่จิตใจของหยูหานกำลังผ่อนคลายอยู่นั้น มีดสั้นเล่มหนึ่งก็แทงเข้ามาจากด้านข้างอย่างแรง เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นหน้าคุ้นตาของหงฉี่ฮว๋า 

หงฉี่ฮว๋าในตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก การจะขยับแต่ละครั้งต้องฝืนร่างกายอย่างหนักหน่วงเช่นกัน แต่ทางฝั่งของหยูหานเองก็แทบจะไม่ไหว แขนขวาของเขาหลุดออกไปตั้งแต่ช่วงไหล่เหลือเพียงแขนซ้ายเท่านั้นที่ยังใช้การได้

การโจมตีของหงฉี่ฮว๋าดุดันอย่างมาก การจู่โจมของเธอหมายจะเอาชีวิตหยูหาน เพียงแต่เกือบทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหวก็มักจะมีเลือดไหลออกมาทางจมูกของตัวเอง

หนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่าอึ้งตกใจไปพักหนึ่ง จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปเพื่อที่จะหยุดทั้งสองคนเอาไว้

“ออกไป!” มีดสั้นของหงฉี่ฮว๋าโจมตีเข้าใส่โล่กระดองเต่าจากนั้นก็พุ่งไปด้านข้าง หงฉี่ฮว๋าตะโกนใส่ทั้งสองที่กำลังเข้ามา

“หงฉี่ฮว๋า!” เบลลิก้าทีน่าตะโกนเรียก

“ฉันบอกให้หุบปาก อยากหยุดฉันงั้นเหรอ? ก็เหมือนกับที่เธอคิดจะหยุดลุงไป๋นั้นแหละ” หงฉี่ฮว๋าพูดอย่างเย็นชาทั้งยังไม่แม้แต่จะหันไปมองพวกเธอเลยด้วยซ้ำ ขณะที่พูดเลือดก็ยังคงไหลออกจากปากและจมูกของเธอไม่หยุด บางส่วนหยดลงถึงพื้น น้ำเสียงที่ไร้เยื่อไยนี้ทำให้หนิงเฉวี่ยและเบลลิก้าทีน่านิ่งไปทันที ภายในใจของพวกเธอเกิดความรู้สึกทุกข์ใจและสับสนเพิ่มขึ้นอีก

ใช่สินะ ยังต้องห้ามอยู่อีกเหรอ?

“หงฉี่ฮว๋า ความจริงแล้วฉันชอบเธอมากนะ อยากจะมาติดตามฉันไหม” หยูหานโพล่งขึ้นมา นั่นทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“ชอบเหมือนแบบผู้ชายที่เจอผู้หญิงสวยแล้วอยากจะที่จะครอบครองน่ะเหรอ?” หงฉี่ฮว๋าถามด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

“ฉันยอมรับ ตอนที่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอฉันรู้สึกตกตะลึงนิดหน่อย แต่ว่าตอนนี้ทุกคนแทบจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดกันหมดแล้วใช่ไหมล่ะ ความจริงแล้วฉันชอบนิสัยในตัวของเธอต่างหาก ไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่อ่อนแอ ทะนงตนและอิสระ แล้วเธอล่ะ ยินดีที่จะตามฉันไปไหม” หยูหานมองไปที่หงฉี่ฮว๋าอย่างจริงจัง

“นายต้องโง่เง่าขนาดไหนนะถึงมาชวนฉันในเวลานี้”

“ยังไงพวกไป๋อี้ก็ออกมาไม่ได้อีกแล้ว ฉันมาชวนเธอตอนนี้แล้วมันผิดตรงไหน หนิงเสวี่ยและเบลลิก้าทีน่าก็เป็นเพื่อนของเธอ”

หยูหานเดินไปทาหงฉี่ฮว๋าช้า ๆ ส่วนหนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่ายังคงยืนสับสนงุนงงอยู่ที่เดิม

“หึ….!” หงฉี่ฮว๋าเผยรอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของเธอ

“พวกเขาจะรอด ฉันเชื่อในตัวพวกไป๋อี้”

“เธอชอบเขา”

“ไม่ผิดหรอก ใช่ ฉันชอบไป๋อี้ ชอบโม่โม่!” หงฉี่ฮว๋ายอมรับเรื่องนี้อย่างไม่ทุกข์ร้อน แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาหยูหาน “และสิ่งสำคัญที่สุด คือ ฉันเกลียดแก” หงฉี่ฮว๋าเพิ่มความเร็วแล้วพุ่งเข้าไปหาหยูหาน ส่วนหยูหานก็เผยสายตาเย็นเฉียบพร้อมการตัดสินใจที่สิ้นสุดลง

ในเมื่อร่วมมือกันไม่ได้ งั้นฉันก็จะส่งเธอไปเจอไป๋อี้เอง!

โล่กระดองเต่ากับมีดสั้นปะทะกันอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างมองเห็นแววตาสังหารของอีกคน มีเพียงแค่หนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่าเท่านั้นที่ยังคงเพ้อฝันหาสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพที่ไม่มีอยู่จริง ……… หยูหานพูดว่าชอบหงฉี่ฮว๋า เพราะงั้นคงจะไม่……

พวกเธอยังไม่รู้ว่านิสัยใจคอของหยูหานเปลี่ยนเป็นคนโหดเหี้ยมไปแล้ว ….. ทั้งเสแสร้ง ทะเยอทะยาน เด็ดเดี่ยว และไร้ความปราณี!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 71 ตัวตนที่เปลี่ยนไป

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 71 ตัวตนที่เปลี่ยนไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        เขาตายแล้วเหรอ?

ไป๋อี้ล้มลงไปกับพื้น สติสัมปชัญญะของเขาเริ่มพร่าเลือน ภาพข้างหน้าเองก็เริ่มมืดลง เขายังไม่อยากตาย ไม่อยากยอมแพ้แบบนี้เลยจริง ๆ …… ภายในใจของไป๋อี้ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ถ้าหากว่าเขาผสานรวมกับยีนที่แข็งแกร่งกว่านี้แทนเจ้าผีเสื้อที่อ่อนแอไร้ประโยชน์ตัวนี้แล้วละก็ …… ช่างน่าแค้นใจจริง ๆ!

ในช่วงที่ในใจของไป๋อี้กรีดร้องอย่างบ้างคลั่งอยู่นั้น ร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นมา มันเหมือนกับสองครั้งก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ไป๋อี้กลับรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายจริง ๆ เลือดในร่างกายของเขาทั้งร้อนและไหลเวียนอย่างรวดเร็ว ขนอ่อนตามรอบดวงตาไปจนถึงทั่วทั้งร่างกายของไป๋อี้สยายสั่นไหวแม้ไม่มีลมพัด

การแปรสภาพตามสภาวะแวดล้อม!

การจำลองธรรมชาติ คือ ปรากฏการณ์ที่สิ่งมีชีวิตเลียนแบบสิ่งมีชีวิตอื่นหรือวัตถุอื่นในสิ่งแวดล้อมนั้นเพื่อเพื่อให้เกิดประโยชน์กับตน

สีสันเตือนภัย สิ่งมีชีวิตในธรรมชาติที่เลียนแบบสีสันลวดลายสดใสเพื่อเป็นสัญญาณเตือนผู้ล่าว่าตนมีกลิ่นเหม็นหรือพิษที่ร้ายแรง 

สีสันพรางตัว สิ่งมีชีวิตมีสีและลักษณะภายนอกคล้ายกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เพื่อที่จะหลบหลีกคู่ต่อสู้

ไป๋อี้ได้รับการรวมยีนกับผีเสื้อไปทั้งหมด รวมถึงลวดลายสีสันและปุยขนที่เกิดขึ้นก็เป็นหนึ่งในการจำลองธรรมชาติ แต่การจำลองธรรมชาติลักษณะนี้จะต่างจากที่เห็นทั่วไปในธรรมชาติเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากเซลล์ดัดแปลง …… ขณะที่กำลังอยู่ในช่วงมึนงงอยู่นั้น ลวดลายที่เกิดขึ้นก็ค่อย ๆ แพร่กระจายจากรอบ ๆ เข้าไปสู่ตาทั้งสองข้างของไป๋อี้

……

ในตอนที่ทุกคนล้วนหมดหวังกันแล้วนั้น หงฉี่ฮว๋าที่ถูกเบลลิก้าทีน่าและหนิงเสวี่ยช่วยพยุงอยู่ก็ผลักพวกเธอออกและตัวพุ่งออกมาอย่างแรง 

ในตอนที่หยูหานและเบ็นสันไม่ได้สังเกต หงฉี่ฮว๋าก็พุ่งเข้าไปกระแทกกับร่างของโนเอล เขารู้สึกถึงแรงมหาศาลจากด้านหลังพุ่งเข้าใส่ ทำให้ร่างของเขากระเด็นลอยขึ้นและตกลงไปที่ทางเดินวงเวียนนั้นอีกครั้งหนึ่ง หงฉี่ฮว๋ารู้ดีว่าตราบใดที่โนเอลยังอยู่ข้างใน คนข้างในก็จะมีโอกาสออกมาได้

แววตาของเฮลัวส์เข้มขึ้น เธอพุ่งเข้าไปหาโนเอลทันที ครั้งนี้เธอจะไม่ปล่อยให้พวกหยูหานมาพาตัวโนเอลออกไปง่าย ๆ อีกแน่

หยูหานมองไปที่หงฉี่ฮว๋าอย่างโกรธเกรี้ยว และก็พบว่าเบ็นสันกำลังจับคอของหงฉี่ฮว๋าไว้แล้วยกขึ้นอยู่ ดวงตาทั้งสองสะท้อนความเยือกเย็นที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้

“พวกเขาออกมาไม่ได้หรอก!” หยูหานพูดอย่างเย็นชา ดาบญี่ปุ่นซามูไรอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ในมือเขาถูกขว้างออกไปอย่างแรง

เฮลัวส์พุ่งไปหาโนเอล เดิมทีเธอคิดจะมาป้องกันไม่ให้หยูหานหรือเบ็นสันเข้ามาเอาตัวโนเอลไป แต่คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้เห็นจะเป็นดาบญี่ปุ่นซามูไรเล่มหนึ่งพุ่งหมุนเข้ามา

โนเอลค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้น โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าดาบกำลังพุ่งตรงมาข้างหลังของเขา 

เฮลัวส์วิ่งเข้าไปพร้อมกับยื่นมือขวาออกไปด้วยความหวาดกลัว ตอนที่คิดจะพูดเตือนโนเอล ดาบซามูไรเล่มนั้นก็เสียบเข้าที่หัวของโนเอลอย่างแรงเสียแล้ว 

ใบหน้าของโนเอลแข็งเกร็งขึ้นมาครู่หนึ่ง เขาค่อย ๆ หันศีรษะไปมองด้วยต้องการจะรู้ว่าใครกันที่อยากจะฆ่าเขา แต่ก็หันไปได้เพียงน้อยนิดเท่านั้นร่างของเขาก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง

“ขอโทษทีนะ หัวหน้า ฉันไม่อยากให้พวกไป๋อี้ออกมาได้” หยูหานพูดกับเบ็นสัน

คราแรกเบ็นสันก็รู้สึกตกใจที่หยูหานฆ่าเพื่อนรวมทีมตัวเอง แต่เมื่อคิดถึงการสู้สุดชีวิตของพวกไป๋อี้แล้ว เขาก็เห็นด้วยกับการกระทำของหยูหาน หากให้คนกลุ่มนั้นออกมาจริง ๆ ล่ะก็แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว จากนั้นทั้งสองก็ยืนมองสีหน้าที่แสดงความสิ้นหวังของกลุ่มคนข้างในอยู่เงียบ ๆ ตรงข้างประตู

ชนะแล้ว!

แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงแหวกอากาศดังแสบหูขึ้นมาพร้อมกับหอกโลหะที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว พลังการทะลุทะทวงของเจ้าหอกโลหะ 1 เมตรนี้น่าตกใจมาก มันแทงเข้าที่ช่วงเอวของเบ็นสันอย่างจัง จากนั้นก็ทะลุไปเสียบแขนขวาของหยูหานที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลัง หลังจากที่หอกโลหะนี้แทงทะลุทั้งสองคนแล้ว ส่วนหัวก็กางตะขอสามง่ามออกมาพร้อมกับเกี่ยวแขนขวาของหยูหานเอาไว้ทันที

ความเจ็บปวดที่ยากเกินจะรับเข้าจู่โจมเขาทั้งสองคนทันที พวกเขาหันไปเห็นวูล์ฟกำลังยืนหัวเราะเยาะพวกเขาอยู่ไกล ๆ แม้ว่าในเวลานี้จะมีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งกำลังกัดไหล่ซ้ายของวูล์ฟอย่างแรง เขาก็ไม่ขยับหนีไปไหน แต่กลับพุ่งความสนใจไปที่ปืนยิงหอกในมือขวาของเขาเพียงอย่างเดียว

สายไทเทเนียมเส้นยาวเชื่อมร่างพวกเขาทั้งสามคนเอาไว้ เบ็นสันรีบใช้มือคว้าสายไว้เพื่อจะทำลายเจ้าสายนี้ แต่คิดเหรอว่าเจ้าของสิ่งนี้จะขาดได้ง่าย ๆ? แม้แต่ดาบคะตะนะของไป๋อี้ก็ยังตัดไม่ขาดเลย

        ขณะนั้นเองวูล์ฟก็ตะโกนเพื่อเค้นพลังออกมา

มาหาฉันนี่!

วูล์ฟใช้สายนี้พันรอบแขนขวาตัวเองไว้ แล้วออกแรงจนสุดพลังจนสายไทเทเนียมเท่านิ้วโป้งรัดเข้ากับกล้ามเนื้อของวูล์ฟจนแน่น และมันก็ส่งผลให้เบ็นสันกับหยูหานถูกความเจ็บปวดถาโถมใส่อีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งยังถูกดึงเข้าไปหาตามแรงดึงอีกด้วย พละกำลังของวูล์ฟนั้นแข็งแกร่งมาก

เบ็นสันโยนหงฉี่ฮว๋าทิ้งทันที สามมือของเขาเกาะประตูไว้ช่วยต้านทานพลังที่แข็งแกร่งนี้ หยูหานก็เช่นกัน

        ทั้งสามคนล้วนออกแรงกันอย่างสุดพลัง เบ็นสันกับหยูหานต่างก็ได้รับความเจ็บปวดอย่างหนักหน่วง เพราะหอกโลหะผสมได้ปักเข้าไปในร่างของพวกเขาแล้ว ดังนั้นการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สามารถเรียกความเจ็บปวดรวดร้าวได้ถึงกระดูกเลยทีเดียว แต่ทางด้านวูล์ฟในตอนนี้ก็มีสภาพที่แย่มากเช่นกัน แขนซ้ายทั้งแขนของเขาถูกสัตว์ประหลาดกัดกระชากไปด้านหลัง แต่วูล์ฟไม่สนใจเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้เลย เขากลับใช้แรงดึงนี้มาเสริมกำลังของตัวเอง

ไอ้พวกสารเลว  เข้ามาตายด้วยกันกับฉันซะเถอะ!

วูล์ฟกางเล็บเท้าทั้งสองข้างออกมาจิกเข้าไปในพื้นที่เป็นโลหะจนเกิดเสียงดังครืดคราดขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็ออกแรงทั้งหมดอีกครั้ง สายไทเทเนียมในร่างของฝั่งตรงข้ามจึงกระตุกอีกครั้งซึ่งสร้างความเจ็บปวดที่ยากจะทนได้ให้กับพวกเขา หยูหานยังเห็นอีกว่าแขนของเขากำลังถูกหักด้วยเจ้าตะขอสามทางนี้ ไม่สิ ….. มันกำลังจะแตกเลยต่างหาก

“อ๊าก….!” หยูหานร้องตะโกนออกมาทันที ร่างของเขาถูกบิดไปตามทิศทางแรงพร้อมกับมีเสียงบางสิ่งแตกดังมาจากแขนขวาที่ถูกตะขอสามทางเกี่ยวไว้ หลังจากนั้นเจ้าตะขอสามทางนี้ก็ตกลงไปห้อยอยู่บนตัวของเบ็นสัน 

ร่างของเบ็นสันสั่นสะท้าน สองมือของเขาเริ่มหลุดออกจากประตูแล้ว แต่ในตอนนั้นประตูก็ได้ปิดลงมาพอดี โชคดีที่เบ็นสันมีร่างกายใหญ่โต ขอเพียงแค่เขายืนหยัดอยู่แบบนี้ วูล์ฟก็ไม่สามารถที่จะลากเขาออกไปได้ 

แต่หลังจากนั้น หยูหานก็ได้ทำเรื่องที่เขาคาดไม่ถึงแม้แต่น้อย คนสนิทมือขวาที่เขาไว้ใจคนนี้พุ่งเข้ามาชนเขาพร้อมกับใช้ขอบโล่กระดองเต่าที่มีความคมตัดมือที่เหลือเพียงข้างเดียวที่เขาใช้จับประตูไว้ ซึ่งแต่เดิมเขาก็ถูกไป๋อี้ตัดมือไปแล้วข้างหนึ่ง แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับครั้งนี้ทำให้เขาเผลอคลายมือที่เหลืออีกสองข้าง และขอบคมของโล่กระดองเต่าของหยูหานก็สับลงมาอีกครั้งหนึ่ง ………. เบ็นสันสูญเสียพลังทั้งหมดในทันที ครู่ต่อมาถึงถูกวูล์ฟดึงเข้าไปหาอย่างแรง

ขณะที่เบ็นสันลอยเคว้งอยู่ในอากาศ เขาก็ได้มองไปที่หยูหานผู้ที่แขนข้างขวาขาดผ่านรอยแยกประตู

เพราะอะไร?

นั่นสิ เพราะอะไรกันนะ? หลังจากพ่ายแพ้ไปครั้งก่อน เขาก็ได้คิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง เมื่อก่อนเขายังใจร้อนเกินไป หากเขาไม่เป็นแบบนั้นคงจะไม่ต้องลำบากขนาดนี้ แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไป๋อี้จะอยู่หรือตายและเบ็นสันชายผู้อยู่เหนือเขามาตลอดก็ออกมาไม่ได้แล้ว

ในขณะที่จิตใจของหยูหานกำลังผ่อนคลายอยู่นั้น มีดสั้นเล่มหนึ่งก็แทงเข้ามาจากด้านข้างอย่างแรง เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นหน้าคุ้นตาของหงฉี่ฮว๋า 

หงฉี่ฮว๋าในตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก การจะขยับแต่ละครั้งต้องฝืนร่างกายอย่างหนักหน่วงเช่นกัน แต่ทางฝั่งของหยูหานเองก็แทบจะไม่ไหว แขนขวาของเขาหลุดออกไปตั้งแต่ช่วงไหล่เหลือเพียงแขนซ้ายเท่านั้นที่ยังใช้การได้

การโจมตีของหงฉี่ฮว๋าดุดันอย่างมาก การจู่โจมของเธอหมายจะเอาชีวิตหยูหาน เพียงแต่เกือบทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหวก็มักจะมีเลือดไหลออกมาทางจมูกของตัวเอง

หนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่าอึ้งตกใจไปพักหนึ่ง จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปเพื่อที่จะหยุดทั้งสองคนเอาไว้

“ออกไป!” มีดสั้นของหงฉี่ฮว๋าโจมตีเข้าใส่โล่กระดองเต่าจากนั้นก็พุ่งไปด้านข้าง หงฉี่ฮว๋าตะโกนใส่ทั้งสองที่กำลังเข้ามา

“หงฉี่ฮว๋า!” เบลลิก้าทีน่าตะโกนเรียก

“ฉันบอกให้หุบปาก อยากหยุดฉันงั้นเหรอ? ก็เหมือนกับที่เธอคิดจะหยุดลุงไป๋นั้นแหละ” หงฉี่ฮว๋าพูดอย่างเย็นชาทั้งยังไม่แม้แต่จะหันไปมองพวกเธอเลยด้วยซ้ำ ขณะที่พูดเลือดก็ยังคงไหลออกจากปากและจมูกของเธอไม่หยุด บางส่วนหยดลงถึงพื้น น้ำเสียงที่ไร้เยื่อไยนี้ทำให้หนิงเฉวี่ยและเบลลิก้าทีน่านิ่งไปทันที ภายในใจของพวกเธอเกิดความรู้สึกทุกข์ใจและสับสนเพิ่มขึ้นอีก

ใช่สินะ ยังต้องห้ามอยู่อีกเหรอ?

“หงฉี่ฮว๋า ความจริงแล้วฉันชอบเธอมากนะ อยากจะมาติดตามฉันไหม” หยูหานโพล่งขึ้นมา นั่นทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“ชอบเหมือนแบบผู้ชายที่เจอผู้หญิงสวยแล้วอยากจะที่จะครอบครองน่ะเหรอ?” หงฉี่ฮว๋าถามด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

“ฉันยอมรับ ตอนที่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอฉันรู้สึกตกตะลึงนิดหน่อย แต่ว่าตอนนี้ทุกคนแทบจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดกันหมดแล้วใช่ไหมล่ะ ความจริงแล้วฉันชอบนิสัยในตัวของเธอต่างหาก ไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่อ่อนแอ ทะนงตนและอิสระ แล้วเธอล่ะ ยินดีที่จะตามฉันไปไหม” หยูหานมองไปที่หงฉี่ฮว๋าอย่างจริงจัง

“นายต้องโง่เง่าขนาดไหนนะถึงมาชวนฉันในเวลานี้”

“ยังไงพวกไป๋อี้ก็ออกมาไม่ได้อีกแล้ว ฉันมาชวนเธอตอนนี้แล้วมันผิดตรงไหน หนิงเสวี่ยและเบลลิก้าทีน่าก็เป็นเพื่อนของเธอ”

หยูหานเดินไปทาหงฉี่ฮว๋าช้า ๆ ส่วนหนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่ายังคงยืนสับสนงุนงงอยู่ที่เดิม

“หึ….!” หงฉี่ฮว๋าเผยรอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของเธอ

“พวกเขาจะรอด ฉันเชื่อในตัวพวกไป๋อี้”

“เธอชอบเขา”

“ไม่ผิดหรอก ใช่ ฉันชอบไป๋อี้ ชอบโม่โม่!” หงฉี่ฮว๋ายอมรับเรื่องนี้อย่างไม่ทุกข์ร้อน แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาหยูหาน “และสิ่งสำคัญที่สุด คือ ฉันเกลียดแก” หงฉี่ฮว๋าเพิ่มความเร็วแล้วพุ่งเข้าไปหาหยูหาน ส่วนหยูหานก็เผยสายตาเย็นเฉียบพร้อมการตัดสินใจที่สิ้นสุดลง

ในเมื่อร่วมมือกันไม่ได้ งั้นฉันก็จะส่งเธอไปเจอไป๋อี้เอง!

โล่กระดองเต่ากับมีดสั้นปะทะกันอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างมองเห็นแววตาสังหารของอีกคน มีเพียงแค่หนิงเสวี่ยกับเบลลิก้าทีน่าเท่านั้นที่ยังคงเพ้อฝันหาสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพที่ไม่มีอยู่จริง ……… หยูหานพูดว่าชอบหงฉี่ฮว๋า เพราะงั้นคงจะไม่……

พวกเธอยังไม่รู้ว่านิสัยใจคอของหยูหานเปลี่ยนเป็นคนโหดเหี้ยมไปแล้ว ….. ทั้งเสแสร้ง ทะเยอทะยาน เด็ดเดี่ยว และไร้ความปราณี!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+