[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 88 ร่างแม่แบบทดลองสิ้นลมหายใจ

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 88 ร่างแม่แบบทดลองสิ้นลมหายใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ทุกคนลงมือทำลายสายค้ำของลิฟต์ทันทีอย่างบ้าคลั่ง และในที่สุดเมื่อปีศาจอสรพิษบีบหัวของมันโผล่ออกมากว่าครึ่งหนึ่ง วูล์ฟก็ตัดสายเคเบิลลิฟต์อย่างรุนแรง ลิฟต์ขนาดใหญ่ทั้งตัวหยุดกะทันหันจากนั้นก็ตกลงไปข้างล่างอย่างแรง ทันทีที่หัวของปีศาจอสรพิษยักษ์ยื่นออกมามันก็ตกสู่พื้นด้วยแรงโน้มถ่วงของลิฟต์

  วูล์ฟเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็กระโดดไปมา ลิฟต์ตกลงไปเสียงดังโครมคราม พื้นของลิฟต์ถูกศีรษะของปีศาจอสรพิษบดขยี้โดยตรงจากนั้นตัวมันก็หล่นลงไปพร้อมกับลิฟต์

  ทุกคนยืนอยู่บนขอบลิฟต์ที่พังทลายพร้อมกับหอบหายใจ หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงแหลมดังขึ้นจากด้านล่างซึ่งก็ไม่รู้ว่าปีศาจอสรพิษจะถูกบดขยี้ไปแล้วหรือไม่

  “ไปกันเถอะ พวกเราก็ลงไปข้างล่างกัน!” ไป๋อี้สงบลมหายใจลงและพูดกับทุกคน

  เหตุผลที่ต้องไปหาร่างแม่แบบทดลอง ไนท์ไม่ได้บอกให้ชัดเจนกับไป๋อี้และทุกคน แต่มันก็คุ้มค่าที่จะได้เห็น ที่จริงทุกคนก็แค่อยากรู้เกี่ยวกับร่างแม่แบบทดลอง แต่คิดไม่ออกจริง ๆ ว่ามันควรค่าแก่การปล่อยให้ทุกคนเสี่ยงตายเพื่อไปพบร่างแม่แบบสักครั้งหรือไม่ แต่ในที่สุดความคิดเห็นของทุกคนก็เป็นเอกฉันท์อย่างน่าประหลาดใจ แม้ว่ามันจะอันตรายมาก แต่พวกเขาก็เต็มใจที่จะเข้าพบร่างแม่แบบเพื่อดูว่าเธอดำรงอยู่อย่างไรจึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในนิวซีแลนด์เช่นนี้ได้

  เมื่อมองไปที่ทางเดินลิฟต์ที่มืดสนิท ไป๋อี้ก็เหลือบมองไปที่สายเคเบิลที่ยังเหลืออยู่ เฮลัวส์บินขึ้นไปและสงสัญญาณยืนยันว่าเธอมัดเชือกตายแล้ว พร้อมทั้งพยักหน้าให้ทุกคน

  “ชาร์ไป่ ขึ้นมาขี่หลังฉัน!” ไป๋อี้บอกกับชาร์ไป่

  ชาร์ไป่และพูพูเฉลียวฉลาดมาก แต่รูปร่างของพวกมันยังคงเป็นรูปร่างของสัตว์และยังมีกรงเล็บซึ่งไม่เหมาะกับการเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นนี้อย่างแน่นอน  ลักษณะที่เป็นการไต่เชือกเพื่อเลื่อนลงไปข้างล่าง ชาร์ไป่ถูกแบกขึ้นหลังโดยไป๋อี้ ส่วนพูพูอยู่กับเวอร์เนอร์ โชคดีที่ชาร์ไป่และพูพูเข้าใจภาษาของมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย ไม่เช่นนั้นมันคงเป็นเรื่องที่ลำบากไม่น้อย แน่นอนว่าสำหรับโม่โม่นั้นอยู่ในความดูแลของเฮลัวส์ แม้ว่าเฮลัวส์จะไม่ค่อยคล่องตัว แต่เธอก็ยังสามารถบินได้ไม่ใช่เหรอ

  เมื่อไป๋อี้ต้องการอาสาสมัครคนแรก วูล์ฟก็หยุดอยู่ตรงหน้าเขา

  “ฉันเอง นายแบกชาร์ไป่อยู่แบบนี้ถ้านายเจออันตรายใด ๆ มันจะจัดการได้ยาก” วูล์ฟพูดแล้วกระโดดออกไปคว้าเชือกจากนั้นก็โรยตัวลงไป

  ข้างล่างนี้ไม่มีแสงสว่างใด ๆ ทุกคนตกอยู่ในความมืดมน พวกเขาค่อย ๆ ลงมาอย่างระมัดระวังโดยมีเพียงลำแสงเล็ก ๆ ที่ทอดมาและเสียงหอบหายใจจากเฮลัวส์เท่านั้นที่สะท้อนอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้ หลังจากผ่านไปสิบนาทีในที่สุดทุกคนก็เห็นพื้นลิฟต์ที่ถูกบีบอัดเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์และจมดิ่งลงสู่พื้น

  หลายคนเฝ้าดูอย่างระมัดระวังและพบว่าครึ่งหนึ่งของร่างของปีศาจติดอยู่ในลิฟต์ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของร่างมันก็บีบอัดอยู่บนพื้น

  เมื่อทุกคนลงถึงพื้นจึงได้เห็นถึงความน่ากลัวของลิฟต์ที่ตกลงมาและกระแทกอย่างรุนแรง วูล์ฟเข้าหาปีศาจอสรพิษอย่างระมัดระวังเพื่อต้องการดูว่าสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวตัวนี้ตายหรือยัง อย่างไรก็ตามเมื่อวูล์ฟเข้ามาใกล้ หัวของมันก็เงยขึ้นอีกครั้งและส่งเสียงขู่ฟ่อใส่วูล์ฟ

  วูล์ฟผงะและถอยกลับไปทันทีเมื่อพบว่าปีศาจอสรพิษยังอยู่ตรงนั้น อันที่จริงปีศาจอสรพิษจัดว่าอยู่ในระดับ LV2 แม้ว่ามันจะมีพลังมากมายมหาศาล แต่ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ยงคงกระพันได้ หลังจากที่ตกลงมากับลิฟต์ มันก็คงจะตายในไม่ช้านี้

  “ไปกันเถอะ!” ไป๋อี้กล่าว

  ทุกคนเข้าไปในทางเดินข้าง ๆ หลังจากเดินไปได้สักระยะหนึ่ง อุปกรณ์ตรวจจับอัตโนมัติที่พบว่าที่นี่มีคนเข้ามาก็เปิดไฟขึ้นมาทันที หลังจากเดินไปไม่กี่นาทีทั้งหมดก็มาถึงประตูบานใหญ่และหนา ไป๋อี้ชี้นาฬิกาในมือไปที่ประตู ไนท์มีการกำหนดขั้นตอนการเปิดประตูไว้ หลังจากสแกนแล้วประตูหนาบานนี้ก็ค่อย ๆ เปิดออก

  ไม่มีอัครสาวกคนไหนที่ถูกตรึงไว้ที่ไม้กางเขน มีเพียงร่างกายขนาดใหญ่ที่แช่อยู่ในของเหลวเพาะเลี้ยงที่หมดฤทธิ์แล้ว การปรากฏตัวของร่างนี้ดูเหมือนกับศพอายุกว่าร้อยปี ที่ร่างมีรูขนาดใหญ่อยู่บริเวณศีรษะ แต่เมื่อไป๋อี้เห็นร่างนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือร่างของแม่แบบ

 

  ทุกคนมองไปที่ร่างแม่แบบอย่างเงียบ ๆ ร่างแม่แบบดูเหมือนจะหลับไป ไป๋อี้ไม่รู้ว่าเขามาสายเกินไปจนแม่แบบรอไม่ไหวหรือไม่

  “คุณเจ็บมากไหมคะ?” ทันใดนั้นโม่โม่ก็เดินไปข้างหน้าและพูดออกมาเบา ๆ

  “โม่โม่!” ไป๋อี้มองโม่โม่ด้วยความประหลาดใจ

  “คุณเจ็บปวดมากสินะคะ หนูได้ยินเสียงของคุณจริง ๆ หนูได้ยินเสียงของคุณที่ระเบียงในวันนั้น” โม่โม่พูดกับร่างแม่แบบแล้วมองไปที่ไป๋อี้ แต่ไป๋อี้ยังตกตะลึงอยู่ ตอนนั้นเขาตรงไปที่ตรงระเบียงและได้ยินเสียงโม่โม่ นั่นคือวันที่เซลล์ดัดแปลงปะทุขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?

  ‘ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่ารักจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะหนู บางทีฉันคงหลับใหลไปทั้งอย่างนี้’

  ไป๋อี้และทุกคนต่างตกตะลึงในทันทีเพราะเสียงนี้ดังขึ้นในจิตของทุกคน

  ‘อย่าแปลกใจไปเลย ฉันคือร่างแม่แบบ วิวัฒนาการไปไกลก่อนพวกคุณเสียอีก และคุณน่าจะมาถึงระดับของฉันได้ในอนาคต’

  “นี่คือการสื่อสารทางจิตเหรอ?” ไม่ว่าเป็นคนประเทศไหนก็ล้วนสื่อสารกันได้ด้วยภาษาทางจิตที่ราวกับมีเวทมนตร์

  ‘ก็คงจะประมาณนั้น!’

  “ไนท์บอกให้พวกเรามาหาคุณสักครั้ง แต่ไม่รู้ว่าคุณมีเรื่องอะไรอยากคุยกับพวกเราหรือเปล่า” ไป๋อี้พูดกับร่างแม่แบบ

  ‘สำหรับพวกคุณแล้ว ไม่มีความรู้สึกโกรธเคืองหรือรู้สึกอะไรกับฉันบ้างเหรอ’ ร่างแม่แบบกล่าว

  “พูดอะไรอย่างนั้น?”

  ‘มันเป็นเพราะฉัน ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์แบบนี้ พวกคุณควรเกลียดฉัน’

  “ถ้าเป็นเรื่องนั้น ก่อนที่ฉันจะเจอคุณ ฉันอาจจะยังมีความแค้นอยู่บ้าง แต่หลังจากเจอคุณฉันก็ไม่มีความคิดแบบนั้นอีก เพราะคุณแค่ถูกเลือกมาก่อนที่คุณจะกลายเป็นร่างแม่แบบทดลอง คุณเป็นเพียงร่างทดลอง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างร่างทดลองอื่น ๆ คือคุณได้ผสานรวมกับเซลล์สาหร่ายปีศาจได้อย่างสมบูรณ์ ในตอนแรกคุณก็เป็นคนธรรมดาเช่นกันและไม่น่าแปลกใจที่คุณต้องการแก้แค้นหลังจากถูกปฏิบัติเช่นนี้” ไป๋อี้พูดช้า ๆ และทุกคนก็พยักหน้าตาม

  ‘คุณนี่จริง ๆ เลย ……!’ ร่างแม่แบบไม่รู้จะประเมินไป๋อี้อย่างไร

  ‘ใช่ ฉันธรรมดามาก ฉันแค่เกลียดนักวิจัยที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้และต้องการแก้แค้น ถ้ารู้ว่านิวซีแลนด์จะกลายเป็นแบบนี้ล่ะก็ ฉันไม่รู้มาก่อนจริง ๆ บางทีถ้ารู้ล่ะก็…..’ ร่างแม่แบบพูดค้างไว้แบบนี้และหยุดชั่วขณะราวกับว่าเธอตกอยู่ในห้วงแห่งความเงียบ บางทีอะไรกัน คำว่าบางทีอาจจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างนั้นเหรอ มันเป็นเพียงสมมติฐานที่ไม่สามารถย้อนกลับไปข้างหลังได้ มันไม่มีความหมายอะไรในตอนนี้

  ‘ฉันเป็นคนธรรมดาจริง ๆ หลังจากพบว่านิวซีแลนด์กลายเป็นแบบนี้ฉันก็เสียใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะชดเชยเรื่องทั้งหมดได้ ถ้าเป็นไปได้คุณช่วยฉันชดเชยสิ่งที่ฉันทำได้ไหม’

  “ชดเชย หมายความว่าอย่างไร?”

  ‘ไม่รู้สิ ฉันเพิ่งเห็นสถานการณ์ในนิวซีแลนด์ ฉันอยากทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ให้คุณช่วยโดยเปล่าประโยชน์ ฉันจะให้บางอย่างเป็นรางวัล “แม่แบบพูดขึ้นอีกครั้ง เธอเป็นผู้หญิงที่ซื่อจริง ๆ เธอพูดถึงผลประโยชน์ก่อนอันดับแรก นี่เธอไม่กลัวว่าไป๋อี้และทุกคนจะแสร้งทำเป็นเห็นด้วยหรือ แต่โชคดีที่กลุ่มของไป๋อี้ไม่ใช่คนแบบนั้น

  “ฉันรับปากกับคุณว่าจะทำอะไรบางอย่างกับนิวซีแลนด์ แต่อย่างที่คุณบอก ฉันจะไม่รับประกันอะไรเพราะการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์นั้นเกินความคาดหมายของทุกคนอย่างสิ้นเชิง และเราไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี” ไป๋อี้กล่าว

  ‘ไม่เป็นไร ในเมื่อพวกคุณรับปากว่าจะช่วยฉันชดเชยความผิดพลาดครั้งใหญ่นี้แล้ว!’ ร่างแม่แบบเห็นด้วย

  ‘ถ้าอย่างนั้น รับรางวัลของพวกคุณไว้เถอะ ฉันกลัวว่าคุณจะไม่มีโอกาสมาที่นี่อีกในอนาคต ร่างแม่แบบพูด ร่างกายของเธอค่อย ๆ ลุกขึ้น การเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นเรื่องยากมากและดูเหมือนว่าแค่การพยุงร่างกายขึ้นก็เป็นเรื่องยากมากสำหรับเธอ ร่างกายของร่างแม่แบบมีความสูงมากกว่า 40 เมตร หลายคนหันหน้าไปทางร่างกายของร่างแม่แบบซึ่งพวกเขามีขนาดเล็กเกินไปและไม่มีทางที่จะช่วยได้แน่หลังจากนั้นไม่นานร่างแม่แบบก็นอนลงอีกครั้งแล้วเหยียดมือขวาออกมา

  มือขวาซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าคนปกติยื่นออกจากสระเพาะเลี้ยงด้านนอก

  ‘ขอโทษนะ ฉันอ่อนแอเกินไป เอาแบบนี้แล้วกัน’

  ‘โม่โม่ มารับไปสิ!’ ร่างแม่แบบกล่าว

  ‘ตอนที่ฉันถูกจับมาที่นี่ ฉันมีลูกสาวคนหนึ่งอายุแค่ห้าขวบ อายุไล่เลี่ยกับเธอนี่แหละ ฉันมีคำขออีกอย่างหากคุณมีโอกาส คุณช่วยฉันตามหาลูกสาวได้ไหม เธอชื่อ ……’ ร่างแม่แบบกล่าว

  “ถ้าหากมีโอกาสล่ะก็!” ไป๋อี้พยักหน้ารับ

  ร่างแม่แบบไม่สนใจคำสัญญาของไป๋อี้นัก แต่เธอยื่นนิ้วชี้ของเธอและวางไว้เหนือหัวของโม่โม่ ทุกคนเฝ้าดูพฤติกรรมของร่างแม่แบบ ไป๋อี้เกร็งร่างกายให้แน่นยิ่งขึ้นเพื่อเตรียมพร้อม แม้ว่าร่างแม่แบบจะดูเป็นมิตรมาก แต่ไป๋อี้ก็ยังไม่กล้าที่จะเชื่อใจเธอ 100%

  หยดเลือดค่อย ๆ กลั่นตัวจากปลายนิ้วชี้ของร่างแม่แบบ!

  เลือดสีแดงสดหยดนี้โผล่ออกมาจากปลายนิ้วของร่างแม่แบบ หัวใจของทุกคนบีบรัดแน่น จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างรุนแรง ความปรารถนาที่ไม่อาจบรรยายได้ แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าหยดเลือดนั้นคืออะไร แต่ทุกคนก็เดาได้ว่าสิ่งนี้มีค่ามาก

  ถ้าหากร่างแม่แบบยังแสดงสีหน้าได้อยู่ สีหน้าของเธอในตอนนี้ก็คงจะดูไม่ดีนัก เพราะในเวลานี้หงฉี่ฮว๋าที่อยู่ในท้องของเธอดูเหมือนจะไม่พอใจอย่างมากกับการกระทำของร่างแม่แบบที่ทิ้งเลือดดั้งเดิมและขัดขวางไม่ให้เธอเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวของร่างแม่แบบแข็งไปในอากาศจนไม่สามารถทำต่อไปได้

  ติ๋ง!

  หยดเลือดสีแดงฉานตกลงในดวงตาของโม่โม่อย่างพอดิบพอดี  ร่างกายของแม่แบบสามารถขยับได้เพียงเล็กน้อยในเวลานี้

  ‘หง……หงฉี่……!’ มือขวาของร่างแม่แบบโรยราลงทันที

  “หง? หงฉี่ฮว๋า!” ไป๋อี้ถามด้วยความประหลาดใจ แต่ก่อนที่ไป๋อี้จะถามออกมาอย่างชัดเจน เสียงของร่างแม่แบบก็หายไปจากความคิดของทุกคน ไป๋อี้รีบวิ่งและเมื่อวิ่งไปได้เพียงสองก้าว ทันใดนั้นก็มีแสงไฟพุ่งออกมาจากอวกาศ ทันใดนั้นก็ระเบิดออกทันที นั่นเป็นภาพที่ฉายผ่านจิตใจของไป๋อี้

  ร่างแม่แบบทดลองสิ้นใจแล้ว!

 

  ไป๋อี้ตัดสินได้ในทันทีว่าร่างกายของแม่แบบนั้นตายไปแล้วจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงความรู้สึกในขณะนั้น แต่สามารถสัมผัสได้ตราบเท่าที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์ดัดแปลงอยู่ คุณรู้ไหมว่าเซลล์ที่มีชีวิตทั้งหมดสามารถสกัดได้จากร่างแม่แบบ ร่างกายทดลองที่ยังคงยุ่งเหยิงอยู่ ร่างทดลองที่ต่อสู้และถูกกลืนกิน …… ทั้งหมดหยุดลงแล้วในขณะนี้ จากนั้นทุกคนก็มองไปยังร่างของแม่แบบทดลอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 88 ร่างแม่แบบทดลองสิ้นลมหายใจ

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 88 ร่างแม่แบบทดลองสิ้นลมหายใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ทุกคนลงมือทำลายสายค้ำของลิฟต์ทันทีอย่างบ้าคลั่ง และในที่สุดเมื่อปีศาจอสรพิษบีบหัวของมันโผล่ออกมากว่าครึ่งหนึ่ง วูล์ฟก็ตัดสายเคเบิลลิฟต์อย่างรุนแรง ลิฟต์ขนาดใหญ่ทั้งตัวหยุดกะทันหันจากนั้นก็ตกลงไปข้างล่างอย่างแรง ทันทีที่หัวของปีศาจอสรพิษยักษ์ยื่นออกมามันก็ตกสู่พื้นด้วยแรงโน้มถ่วงของลิฟต์

  วูล์ฟเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็กระโดดไปมา ลิฟต์ตกลงไปเสียงดังโครมคราม พื้นของลิฟต์ถูกศีรษะของปีศาจอสรพิษบดขยี้โดยตรงจากนั้นตัวมันก็หล่นลงไปพร้อมกับลิฟต์

  ทุกคนยืนอยู่บนขอบลิฟต์ที่พังทลายพร้อมกับหอบหายใจ หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงแหลมดังขึ้นจากด้านล่างซึ่งก็ไม่รู้ว่าปีศาจอสรพิษจะถูกบดขยี้ไปแล้วหรือไม่

  “ไปกันเถอะ พวกเราก็ลงไปข้างล่างกัน!” ไป๋อี้สงบลมหายใจลงและพูดกับทุกคน

  เหตุผลที่ต้องไปหาร่างแม่แบบทดลอง ไนท์ไม่ได้บอกให้ชัดเจนกับไป๋อี้และทุกคน แต่มันก็คุ้มค่าที่จะได้เห็น ที่จริงทุกคนก็แค่อยากรู้เกี่ยวกับร่างแม่แบบทดลอง แต่คิดไม่ออกจริง ๆ ว่ามันควรค่าแก่การปล่อยให้ทุกคนเสี่ยงตายเพื่อไปพบร่างแม่แบบสักครั้งหรือไม่ แต่ในที่สุดความคิดเห็นของทุกคนก็เป็นเอกฉันท์อย่างน่าประหลาดใจ แม้ว่ามันจะอันตรายมาก แต่พวกเขาก็เต็มใจที่จะเข้าพบร่างแม่แบบเพื่อดูว่าเธอดำรงอยู่อย่างไรจึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในนิวซีแลนด์เช่นนี้ได้

  เมื่อมองไปที่ทางเดินลิฟต์ที่มืดสนิท ไป๋อี้ก็เหลือบมองไปที่สายเคเบิลที่ยังเหลืออยู่ เฮลัวส์บินขึ้นไปและสงสัญญาณยืนยันว่าเธอมัดเชือกตายแล้ว พร้อมทั้งพยักหน้าให้ทุกคน

  “ชาร์ไป่ ขึ้นมาขี่หลังฉัน!” ไป๋อี้บอกกับชาร์ไป่

  ชาร์ไป่และพูพูเฉลียวฉลาดมาก แต่รูปร่างของพวกมันยังคงเป็นรูปร่างของสัตว์และยังมีกรงเล็บซึ่งไม่เหมาะกับการเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นนี้อย่างแน่นอน  ลักษณะที่เป็นการไต่เชือกเพื่อเลื่อนลงไปข้างล่าง ชาร์ไป่ถูกแบกขึ้นหลังโดยไป๋อี้ ส่วนพูพูอยู่กับเวอร์เนอร์ โชคดีที่ชาร์ไป่และพูพูเข้าใจภาษาของมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย ไม่เช่นนั้นมันคงเป็นเรื่องที่ลำบากไม่น้อย แน่นอนว่าสำหรับโม่โม่นั้นอยู่ในความดูแลของเฮลัวส์ แม้ว่าเฮลัวส์จะไม่ค่อยคล่องตัว แต่เธอก็ยังสามารถบินได้ไม่ใช่เหรอ

  เมื่อไป๋อี้ต้องการอาสาสมัครคนแรก วูล์ฟก็หยุดอยู่ตรงหน้าเขา

  “ฉันเอง นายแบกชาร์ไป่อยู่แบบนี้ถ้านายเจออันตรายใด ๆ มันจะจัดการได้ยาก” วูล์ฟพูดแล้วกระโดดออกไปคว้าเชือกจากนั้นก็โรยตัวลงไป

  ข้างล่างนี้ไม่มีแสงสว่างใด ๆ ทุกคนตกอยู่ในความมืดมน พวกเขาค่อย ๆ ลงมาอย่างระมัดระวังโดยมีเพียงลำแสงเล็ก ๆ ที่ทอดมาและเสียงหอบหายใจจากเฮลัวส์เท่านั้นที่สะท้อนอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้ หลังจากผ่านไปสิบนาทีในที่สุดทุกคนก็เห็นพื้นลิฟต์ที่ถูกบีบอัดเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์และจมดิ่งลงสู่พื้น

  หลายคนเฝ้าดูอย่างระมัดระวังและพบว่าครึ่งหนึ่งของร่างของปีศาจติดอยู่ในลิฟต์ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของร่างมันก็บีบอัดอยู่บนพื้น

  เมื่อทุกคนลงถึงพื้นจึงได้เห็นถึงความน่ากลัวของลิฟต์ที่ตกลงมาและกระแทกอย่างรุนแรง วูล์ฟเข้าหาปีศาจอสรพิษอย่างระมัดระวังเพื่อต้องการดูว่าสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวตัวนี้ตายหรือยัง อย่างไรก็ตามเมื่อวูล์ฟเข้ามาใกล้ หัวของมันก็เงยขึ้นอีกครั้งและส่งเสียงขู่ฟ่อใส่วูล์ฟ

  วูล์ฟผงะและถอยกลับไปทันทีเมื่อพบว่าปีศาจอสรพิษยังอยู่ตรงนั้น อันที่จริงปีศาจอสรพิษจัดว่าอยู่ในระดับ LV2 แม้ว่ามันจะมีพลังมากมายมหาศาล แต่ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ยงคงกระพันได้ หลังจากที่ตกลงมากับลิฟต์ มันก็คงจะตายในไม่ช้านี้

  “ไปกันเถอะ!” ไป๋อี้กล่าว

  ทุกคนเข้าไปในทางเดินข้าง ๆ หลังจากเดินไปได้สักระยะหนึ่ง อุปกรณ์ตรวจจับอัตโนมัติที่พบว่าที่นี่มีคนเข้ามาก็เปิดไฟขึ้นมาทันที หลังจากเดินไปไม่กี่นาทีทั้งหมดก็มาถึงประตูบานใหญ่และหนา ไป๋อี้ชี้นาฬิกาในมือไปที่ประตู ไนท์มีการกำหนดขั้นตอนการเปิดประตูไว้ หลังจากสแกนแล้วประตูหนาบานนี้ก็ค่อย ๆ เปิดออก

  ไม่มีอัครสาวกคนไหนที่ถูกตรึงไว้ที่ไม้กางเขน มีเพียงร่างกายขนาดใหญ่ที่แช่อยู่ในของเหลวเพาะเลี้ยงที่หมดฤทธิ์แล้ว การปรากฏตัวของร่างนี้ดูเหมือนกับศพอายุกว่าร้อยปี ที่ร่างมีรูขนาดใหญ่อยู่บริเวณศีรษะ แต่เมื่อไป๋อี้เห็นร่างนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือร่างของแม่แบบ

 

  ทุกคนมองไปที่ร่างแม่แบบอย่างเงียบ ๆ ร่างแม่แบบดูเหมือนจะหลับไป ไป๋อี้ไม่รู้ว่าเขามาสายเกินไปจนแม่แบบรอไม่ไหวหรือไม่

  “คุณเจ็บมากไหมคะ?” ทันใดนั้นโม่โม่ก็เดินไปข้างหน้าและพูดออกมาเบา ๆ

  “โม่โม่!” ไป๋อี้มองโม่โม่ด้วยความประหลาดใจ

  “คุณเจ็บปวดมากสินะคะ หนูได้ยินเสียงของคุณจริง ๆ หนูได้ยินเสียงของคุณที่ระเบียงในวันนั้น” โม่โม่พูดกับร่างแม่แบบแล้วมองไปที่ไป๋อี้ แต่ไป๋อี้ยังตกตะลึงอยู่ ตอนนั้นเขาตรงไปที่ตรงระเบียงและได้ยินเสียงโม่โม่ นั่นคือวันที่เซลล์ดัดแปลงปะทุขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?

  ‘ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่ารักจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะหนู บางทีฉันคงหลับใหลไปทั้งอย่างนี้’

  ไป๋อี้และทุกคนต่างตกตะลึงในทันทีเพราะเสียงนี้ดังขึ้นในจิตของทุกคน

  ‘อย่าแปลกใจไปเลย ฉันคือร่างแม่แบบ วิวัฒนาการไปไกลก่อนพวกคุณเสียอีก และคุณน่าจะมาถึงระดับของฉันได้ในอนาคต’

  “นี่คือการสื่อสารทางจิตเหรอ?” ไม่ว่าเป็นคนประเทศไหนก็ล้วนสื่อสารกันได้ด้วยภาษาทางจิตที่ราวกับมีเวทมนตร์

  ‘ก็คงจะประมาณนั้น!’

  “ไนท์บอกให้พวกเรามาหาคุณสักครั้ง แต่ไม่รู้ว่าคุณมีเรื่องอะไรอยากคุยกับพวกเราหรือเปล่า” ไป๋อี้พูดกับร่างแม่แบบ

  ‘สำหรับพวกคุณแล้ว ไม่มีความรู้สึกโกรธเคืองหรือรู้สึกอะไรกับฉันบ้างเหรอ’ ร่างแม่แบบกล่าว

  “พูดอะไรอย่างนั้น?”

  ‘มันเป็นเพราะฉัน ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์แบบนี้ พวกคุณควรเกลียดฉัน’

  “ถ้าเป็นเรื่องนั้น ก่อนที่ฉันจะเจอคุณ ฉันอาจจะยังมีความแค้นอยู่บ้าง แต่หลังจากเจอคุณฉันก็ไม่มีความคิดแบบนั้นอีก เพราะคุณแค่ถูกเลือกมาก่อนที่คุณจะกลายเป็นร่างแม่แบบทดลอง คุณเป็นเพียงร่างทดลอง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างร่างทดลองอื่น ๆ คือคุณได้ผสานรวมกับเซลล์สาหร่ายปีศาจได้อย่างสมบูรณ์ ในตอนแรกคุณก็เป็นคนธรรมดาเช่นกันและไม่น่าแปลกใจที่คุณต้องการแก้แค้นหลังจากถูกปฏิบัติเช่นนี้” ไป๋อี้พูดช้า ๆ และทุกคนก็พยักหน้าตาม

  ‘คุณนี่จริง ๆ เลย ……!’ ร่างแม่แบบไม่รู้จะประเมินไป๋อี้อย่างไร

  ‘ใช่ ฉันธรรมดามาก ฉันแค่เกลียดนักวิจัยที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้และต้องการแก้แค้น ถ้ารู้ว่านิวซีแลนด์จะกลายเป็นแบบนี้ล่ะก็ ฉันไม่รู้มาก่อนจริง ๆ บางทีถ้ารู้ล่ะก็…..’ ร่างแม่แบบพูดค้างไว้แบบนี้และหยุดชั่วขณะราวกับว่าเธอตกอยู่ในห้วงแห่งความเงียบ บางทีอะไรกัน คำว่าบางทีอาจจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างนั้นเหรอ มันเป็นเพียงสมมติฐานที่ไม่สามารถย้อนกลับไปข้างหลังได้ มันไม่มีความหมายอะไรในตอนนี้

  ‘ฉันเป็นคนธรรมดาจริง ๆ หลังจากพบว่านิวซีแลนด์กลายเป็นแบบนี้ฉันก็เสียใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะชดเชยเรื่องทั้งหมดได้ ถ้าเป็นไปได้คุณช่วยฉันชดเชยสิ่งที่ฉันทำได้ไหม’

  “ชดเชย หมายความว่าอย่างไร?”

  ‘ไม่รู้สิ ฉันเพิ่งเห็นสถานการณ์ในนิวซีแลนด์ ฉันอยากทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ให้คุณช่วยโดยเปล่าประโยชน์ ฉันจะให้บางอย่างเป็นรางวัล “แม่แบบพูดขึ้นอีกครั้ง เธอเป็นผู้หญิงที่ซื่อจริง ๆ เธอพูดถึงผลประโยชน์ก่อนอันดับแรก นี่เธอไม่กลัวว่าไป๋อี้และทุกคนจะแสร้งทำเป็นเห็นด้วยหรือ แต่โชคดีที่กลุ่มของไป๋อี้ไม่ใช่คนแบบนั้น

  “ฉันรับปากกับคุณว่าจะทำอะไรบางอย่างกับนิวซีแลนด์ แต่อย่างที่คุณบอก ฉันจะไม่รับประกันอะไรเพราะการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์นั้นเกินความคาดหมายของทุกคนอย่างสิ้นเชิง และเราไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี” ไป๋อี้กล่าว

  ‘ไม่เป็นไร ในเมื่อพวกคุณรับปากว่าจะช่วยฉันชดเชยความผิดพลาดครั้งใหญ่นี้แล้ว!’ ร่างแม่แบบเห็นด้วย

  ‘ถ้าอย่างนั้น รับรางวัลของพวกคุณไว้เถอะ ฉันกลัวว่าคุณจะไม่มีโอกาสมาที่นี่อีกในอนาคต ร่างแม่แบบพูด ร่างกายของเธอค่อย ๆ ลุกขึ้น การเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นเรื่องยากมากและดูเหมือนว่าแค่การพยุงร่างกายขึ้นก็เป็นเรื่องยากมากสำหรับเธอ ร่างกายของร่างแม่แบบมีความสูงมากกว่า 40 เมตร หลายคนหันหน้าไปทางร่างกายของร่างแม่แบบซึ่งพวกเขามีขนาดเล็กเกินไปและไม่มีทางที่จะช่วยได้แน่หลังจากนั้นไม่นานร่างแม่แบบก็นอนลงอีกครั้งแล้วเหยียดมือขวาออกมา

  มือขวาซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าคนปกติยื่นออกจากสระเพาะเลี้ยงด้านนอก

  ‘ขอโทษนะ ฉันอ่อนแอเกินไป เอาแบบนี้แล้วกัน’

  ‘โม่โม่ มารับไปสิ!’ ร่างแม่แบบกล่าว

  ‘ตอนที่ฉันถูกจับมาที่นี่ ฉันมีลูกสาวคนหนึ่งอายุแค่ห้าขวบ อายุไล่เลี่ยกับเธอนี่แหละ ฉันมีคำขออีกอย่างหากคุณมีโอกาส คุณช่วยฉันตามหาลูกสาวได้ไหม เธอชื่อ ……’ ร่างแม่แบบกล่าว

  “ถ้าหากมีโอกาสล่ะก็!” ไป๋อี้พยักหน้ารับ

  ร่างแม่แบบไม่สนใจคำสัญญาของไป๋อี้นัก แต่เธอยื่นนิ้วชี้ของเธอและวางไว้เหนือหัวของโม่โม่ ทุกคนเฝ้าดูพฤติกรรมของร่างแม่แบบ ไป๋อี้เกร็งร่างกายให้แน่นยิ่งขึ้นเพื่อเตรียมพร้อม แม้ว่าร่างแม่แบบจะดูเป็นมิตรมาก แต่ไป๋อี้ก็ยังไม่กล้าที่จะเชื่อใจเธอ 100%

  หยดเลือดค่อย ๆ กลั่นตัวจากปลายนิ้วชี้ของร่างแม่แบบ!

  เลือดสีแดงสดหยดนี้โผล่ออกมาจากปลายนิ้วของร่างแม่แบบ หัวใจของทุกคนบีบรัดแน่น จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างรุนแรง ความปรารถนาที่ไม่อาจบรรยายได้ แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าหยดเลือดนั้นคืออะไร แต่ทุกคนก็เดาได้ว่าสิ่งนี้มีค่ามาก

  ถ้าหากร่างแม่แบบยังแสดงสีหน้าได้อยู่ สีหน้าของเธอในตอนนี้ก็คงจะดูไม่ดีนัก เพราะในเวลานี้หงฉี่ฮว๋าที่อยู่ในท้องของเธอดูเหมือนจะไม่พอใจอย่างมากกับการกระทำของร่างแม่แบบที่ทิ้งเลือดดั้งเดิมและขัดขวางไม่ให้เธอเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวของร่างแม่แบบแข็งไปในอากาศจนไม่สามารถทำต่อไปได้

  ติ๋ง!

  หยดเลือดสีแดงฉานตกลงในดวงตาของโม่โม่อย่างพอดิบพอดี  ร่างกายของแม่แบบสามารถขยับได้เพียงเล็กน้อยในเวลานี้

  ‘หง……หงฉี่……!’ มือขวาของร่างแม่แบบโรยราลงทันที

  “หง? หงฉี่ฮว๋า!” ไป๋อี้ถามด้วยความประหลาดใจ แต่ก่อนที่ไป๋อี้จะถามออกมาอย่างชัดเจน เสียงของร่างแม่แบบก็หายไปจากความคิดของทุกคน ไป๋อี้รีบวิ่งและเมื่อวิ่งไปได้เพียงสองก้าว ทันใดนั้นก็มีแสงไฟพุ่งออกมาจากอวกาศ ทันใดนั้นก็ระเบิดออกทันที นั่นเป็นภาพที่ฉายผ่านจิตใจของไป๋อี้

  ร่างแม่แบบทดลองสิ้นใจแล้ว!

 

  ไป๋อี้ตัดสินได้ในทันทีว่าร่างกายของแม่แบบนั้นตายไปแล้วจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงความรู้สึกในขณะนั้น แต่สามารถสัมผัสได้ตราบเท่าที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์ดัดแปลงอยู่ คุณรู้ไหมว่าเซลล์ที่มีชีวิตทั้งหมดสามารถสกัดได้จากร่างแม่แบบ ร่างกายทดลองที่ยังคงยุ่งเหยิงอยู่ ร่างทดลองที่ต่อสู้และถูกกลืนกิน …… ทั้งหมดหยุดลงแล้วในขณะนี้ จากนั้นทุกคนก็มองไปยังร่างของแม่แบบทดลอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ 88 ร่างแม่แบบทดลองสิ้นลมหายใจ

Now you are reading [นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ Chapter 88 ร่างแม่แบบทดลองสิ้นลมหายใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ทุกคนลงมือทำลายสายค้ำของลิฟต์ทันทีอย่างบ้าคลั่ง และในที่สุดเมื่อปีศาจอสรพิษบีบหัวของมันโผล่ออกมากว่าครึ่งหนึ่ง วูล์ฟก็ตัดสายเคเบิลลิฟต์อย่างรุนแรง ลิฟต์ขนาดใหญ่ทั้งตัวหยุดกะทันหันจากนั้นก็ตกลงไปข้างล่างอย่างแรง ทันทีที่หัวของปีศาจอสรพิษยักษ์ยื่นออกมามันก็ตกสู่พื้นด้วยแรงโน้มถ่วงของลิฟต์

  วูล์ฟเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็กระโดดไปมา ลิฟต์ตกลงไปเสียงดังโครมคราม พื้นของลิฟต์ถูกศีรษะของปีศาจอสรพิษบดขยี้โดยตรงจากนั้นตัวมันก็หล่นลงไปพร้อมกับลิฟต์

  ทุกคนยืนอยู่บนขอบลิฟต์ที่พังทลายพร้อมกับหอบหายใจ หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงแหลมดังขึ้นจากด้านล่างซึ่งก็ไม่รู้ว่าปีศาจอสรพิษจะถูกบดขยี้ไปแล้วหรือไม่

  “ไปกันเถอะ พวกเราก็ลงไปข้างล่างกัน!” ไป๋อี้สงบลมหายใจลงและพูดกับทุกคน

  เหตุผลที่ต้องไปหาร่างแม่แบบทดลอง ไนท์ไม่ได้บอกให้ชัดเจนกับไป๋อี้และทุกคน แต่มันก็คุ้มค่าที่จะได้เห็น ที่จริงทุกคนก็แค่อยากรู้เกี่ยวกับร่างแม่แบบทดลอง แต่คิดไม่ออกจริง ๆ ว่ามันควรค่าแก่การปล่อยให้ทุกคนเสี่ยงตายเพื่อไปพบร่างแม่แบบสักครั้งหรือไม่ แต่ในที่สุดความคิดเห็นของทุกคนก็เป็นเอกฉันท์อย่างน่าประหลาดใจ แม้ว่ามันจะอันตรายมาก แต่พวกเขาก็เต็มใจที่จะเข้าพบร่างแม่แบบเพื่อดูว่าเธอดำรงอยู่อย่างไรจึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในนิวซีแลนด์เช่นนี้ได้

  เมื่อมองไปที่ทางเดินลิฟต์ที่มืดสนิท ไป๋อี้ก็เหลือบมองไปที่สายเคเบิลที่ยังเหลืออยู่ เฮลัวส์บินขึ้นไปและสงสัญญาณยืนยันว่าเธอมัดเชือกตายแล้ว พร้อมทั้งพยักหน้าให้ทุกคน

  “ชาร์ไป่ ขึ้นมาขี่หลังฉัน!” ไป๋อี้บอกกับชาร์ไป่

  ชาร์ไป่และพูพูเฉลียวฉลาดมาก แต่รูปร่างของพวกมันยังคงเป็นรูปร่างของสัตว์และยังมีกรงเล็บซึ่งไม่เหมาะกับการเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นนี้อย่างแน่นอน  ลักษณะที่เป็นการไต่เชือกเพื่อเลื่อนลงไปข้างล่าง ชาร์ไป่ถูกแบกขึ้นหลังโดยไป๋อี้ ส่วนพูพูอยู่กับเวอร์เนอร์ โชคดีที่ชาร์ไป่และพูพูเข้าใจภาษาของมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย ไม่เช่นนั้นมันคงเป็นเรื่องที่ลำบากไม่น้อย แน่นอนว่าสำหรับโม่โม่นั้นอยู่ในความดูแลของเฮลัวส์ แม้ว่าเฮลัวส์จะไม่ค่อยคล่องตัว แต่เธอก็ยังสามารถบินได้ไม่ใช่เหรอ

  เมื่อไป๋อี้ต้องการอาสาสมัครคนแรก วูล์ฟก็หยุดอยู่ตรงหน้าเขา

  “ฉันเอง นายแบกชาร์ไป่อยู่แบบนี้ถ้านายเจออันตรายใด ๆ มันจะจัดการได้ยาก” วูล์ฟพูดแล้วกระโดดออกไปคว้าเชือกจากนั้นก็โรยตัวลงไป

  ข้างล่างนี้ไม่มีแสงสว่างใด ๆ ทุกคนตกอยู่ในความมืดมน พวกเขาค่อย ๆ ลงมาอย่างระมัดระวังโดยมีเพียงลำแสงเล็ก ๆ ที่ทอดมาและเสียงหอบหายใจจากเฮลัวส์เท่านั้นที่สะท้อนอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้ หลังจากผ่านไปสิบนาทีในที่สุดทุกคนก็เห็นพื้นลิฟต์ที่ถูกบีบอัดเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์และจมดิ่งลงสู่พื้น

  หลายคนเฝ้าดูอย่างระมัดระวังและพบว่าครึ่งหนึ่งของร่างของปีศาจติดอยู่ในลิฟต์ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของร่างมันก็บีบอัดอยู่บนพื้น

  เมื่อทุกคนลงถึงพื้นจึงได้เห็นถึงความน่ากลัวของลิฟต์ที่ตกลงมาและกระแทกอย่างรุนแรง วูล์ฟเข้าหาปีศาจอสรพิษอย่างระมัดระวังเพื่อต้องการดูว่าสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวตัวนี้ตายหรือยัง อย่างไรก็ตามเมื่อวูล์ฟเข้ามาใกล้ หัวของมันก็เงยขึ้นอีกครั้งและส่งเสียงขู่ฟ่อใส่วูล์ฟ

  วูล์ฟผงะและถอยกลับไปทันทีเมื่อพบว่าปีศาจอสรพิษยังอยู่ตรงนั้น อันที่จริงปีศาจอสรพิษจัดว่าอยู่ในระดับ LV2 แม้ว่ามันจะมีพลังมากมายมหาศาล แต่ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ยงคงกระพันได้ หลังจากที่ตกลงมากับลิฟต์ มันก็คงจะตายในไม่ช้านี้

  “ไปกันเถอะ!” ไป๋อี้กล่าว

  ทุกคนเข้าไปในทางเดินข้าง ๆ หลังจากเดินไปได้สักระยะหนึ่ง อุปกรณ์ตรวจจับอัตโนมัติที่พบว่าที่นี่มีคนเข้ามาก็เปิดไฟขึ้นมาทันที หลังจากเดินไปไม่กี่นาทีทั้งหมดก็มาถึงประตูบานใหญ่และหนา ไป๋อี้ชี้นาฬิกาในมือไปที่ประตู ไนท์มีการกำหนดขั้นตอนการเปิดประตูไว้ หลังจากสแกนแล้วประตูหนาบานนี้ก็ค่อย ๆ เปิดออก

  ไม่มีอัครสาวกคนไหนที่ถูกตรึงไว้ที่ไม้กางเขน มีเพียงร่างกายขนาดใหญ่ที่แช่อยู่ในของเหลวเพาะเลี้ยงที่หมดฤทธิ์แล้ว การปรากฏตัวของร่างนี้ดูเหมือนกับศพอายุกว่าร้อยปี ที่ร่างมีรูขนาดใหญ่อยู่บริเวณศีรษะ แต่เมื่อไป๋อี้เห็นร่างนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือร่างของแม่แบบ

 

  ทุกคนมองไปที่ร่างแม่แบบอย่างเงียบ ๆ ร่างแม่แบบดูเหมือนจะหลับไป ไป๋อี้ไม่รู้ว่าเขามาสายเกินไปจนแม่แบบรอไม่ไหวหรือไม่

  “คุณเจ็บมากไหมคะ?” ทันใดนั้นโม่โม่ก็เดินไปข้างหน้าและพูดออกมาเบา ๆ

  “โม่โม่!” ไป๋อี้มองโม่โม่ด้วยความประหลาดใจ

  “คุณเจ็บปวดมากสินะคะ หนูได้ยินเสียงของคุณจริง ๆ หนูได้ยินเสียงของคุณที่ระเบียงในวันนั้น” โม่โม่พูดกับร่างแม่แบบแล้วมองไปที่ไป๋อี้ แต่ไป๋อี้ยังตกตะลึงอยู่ ตอนนั้นเขาตรงไปที่ตรงระเบียงและได้ยินเสียงโม่โม่ นั่นคือวันที่เซลล์ดัดแปลงปะทุขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?

  ‘ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่ารักจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะหนู บางทีฉันคงหลับใหลไปทั้งอย่างนี้’

  ไป๋อี้และทุกคนต่างตกตะลึงในทันทีเพราะเสียงนี้ดังขึ้นในจิตของทุกคน

  ‘อย่าแปลกใจไปเลย ฉันคือร่างแม่แบบ วิวัฒนาการไปไกลก่อนพวกคุณเสียอีก และคุณน่าจะมาถึงระดับของฉันได้ในอนาคต’

  “นี่คือการสื่อสารทางจิตเหรอ?” ไม่ว่าเป็นคนประเทศไหนก็ล้วนสื่อสารกันได้ด้วยภาษาทางจิตที่ราวกับมีเวทมนตร์

  ‘ก็คงจะประมาณนั้น!’

  “ไนท์บอกให้พวกเรามาหาคุณสักครั้ง แต่ไม่รู้ว่าคุณมีเรื่องอะไรอยากคุยกับพวกเราหรือเปล่า” ไป๋อี้พูดกับร่างแม่แบบ

  ‘สำหรับพวกคุณแล้ว ไม่มีความรู้สึกโกรธเคืองหรือรู้สึกอะไรกับฉันบ้างเหรอ’ ร่างแม่แบบกล่าว

  “พูดอะไรอย่างนั้น?”

  ‘มันเป็นเพราะฉัน ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์แบบนี้ พวกคุณควรเกลียดฉัน’

  “ถ้าเป็นเรื่องนั้น ก่อนที่ฉันจะเจอคุณ ฉันอาจจะยังมีความแค้นอยู่บ้าง แต่หลังจากเจอคุณฉันก็ไม่มีความคิดแบบนั้นอีก เพราะคุณแค่ถูกเลือกมาก่อนที่คุณจะกลายเป็นร่างแม่แบบทดลอง คุณเป็นเพียงร่างทดลอง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างร่างทดลองอื่น ๆ คือคุณได้ผสานรวมกับเซลล์สาหร่ายปีศาจได้อย่างสมบูรณ์ ในตอนแรกคุณก็เป็นคนธรรมดาเช่นกันและไม่น่าแปลกใจที่คุณต้องการแก้แค้นหลังจากถูกปฏิบัติเช่นนี้” ไป๋อี้พูดช้า ๆ และทุกคนก็พยักหน้าตาม

  ‘คุณนี่จริง ๆ เลย ……!’ ร่างแม่แบบไม่รู้จะประเมินไป๋อี้อย่างไร

  ‘ใช่ ฉันธรรมดามาก ฉันแค่เกลียดนักวิจัยที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้และต้องการแก้แค้น ถ้ารู้ว่านิวซีแลนด์จะกลายเป็นแบบนี้ล่ะก็ ฉันไม่รู้มาก่อนจริง ๆ บางทีถ้ารู้ล่ะก็…..’ ร่างแม่แบบพูดค้างไว้แบบนี้และหยุดชั่วขณะราวกับว่าเธอตกอยู่ในห้วงแห่งความเงียบ บางทีอะไรกัน คำว่าบางทีอาจจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างนั้นเหรอ มันเป็นเพียงสมมติฐานที่ไม่สามารถย้อนกลับไปข้างหลังได้ มันไม่มีความหมายอะไรในตอนนี้

  ‘ฉันเป็นคนธรรมดาจริง ๆ หลังจากพบว่านิวซีแลนด์กลายเป็นแบบนี้ฉันก็เสียใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะชดเชยเรื่องทั้งหมดได้ ถ้าเป็นไปได้คุณช่วยฉันชดเชยสิ่งที่ฉันทำได้ไหม’

  “ชดเชย หมายความว่าอย่างไร?”

  ‘ไม่รู้สิ ฉันเพิ่งเห็นสถานการณ์ในนิวซีแลนด์ ฉันอยากทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ให้คุณช่วยโดยเปล่าประโยชน์ ฉันจะให้บางอย่างเป็นรางวัล “แม่แบบพูดขึ้นอีกครั้ง เธอเป็นผู้หญิงที่ซื่อจริง ๆ เธอพูดถึงผลประโยชน์ก่อนอันดับแรก นี่เธอไม่กลัวว่าไป๋อี้และทุกคนจะแสร้งทำเป็นเห็นด้วยหรือ แต่โชคดีที่กลุ่มของไป๋อี้ไม่ใช่คนแบบนั้น

  “ฉันรับปากกับคุณว่าจะทำอะไรบางอย่างกับนิวซีแลนด์ แต่อย่างที่คุณบอก ฉันจะไม่รับประกันอะไรเพราะการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์นั้นเกินความคาดหมายของทุกคนอย่างสิ้นเชิง และเราไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี” ไป๋อี้กล่าว

  ‘ไม่เป็นไร ในเมื่อพวกคุณรับปากว่าจะช่วยฉันชดเชยความผิดพลาดครั้งใหญ่นี้แล้ว!’ ร่างแม่แบบเห็นด้วย

  ‘ถ้าอย่างนั้น รับรางวัลของพวกคุณไว้เถอะ ฉันกลัวว่าคุณจะไม่มีโอกาสมาที่นี่อีกในอนาคต ร่างแม่แบบพูด ร่างกายของเธอค่อย ๆ ลุกขึ้น การเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นเรื่องยากมากและดูเหมือนว่าแค่การพยุงร่างกายขึ้นก็เป็นเรื่องยากมากสำหรับเธอ ร่างกายของร่างแม่แบบมีความสูงมากกว่า 40 เมตร หลายคนหันหน้าไปทางร่างกายของร่างแม่แบบซึ่งพวกเขามีขนาดเล็กเกินไปและไม่มีทางที่จะช่วยได้แน่หลังจากนั้นไม่นานร่างแม่แบบก็นอนลงอีกครั้งแล้วเหยียดมือขวาออกมา

  มือขวาซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าคนปกติยื่นออกจากสระเพาะเลี้ยงด้านนอก

  ‘ขอโทษนะ ฉันอ่อนแอเกินไป เอาแบบนี้แล้วกัน’

  ‘โม่โม่ มารับไปสิ!’ ร่างแม่แบบกล่าว

  ‘ตอนที่ฉันถูกจับมาที่นี่ ฉันมีลูกสาวคนหนึ่งอายุแค่ห้าขวบ อายุไล่เลี่ยกับเธอนี่แหละ ฉันมีคำขออีกอย่างหากคุณมีโอกาส คุณช่วยฉันตามหาลูกสาวได้ไหม เธอชื่อ ……’ ร่างแม่แบบกล่าว

  “ถ้าหากมีโอกาสล่ะก็!” ไป๋อี้พยักหน้ารับ

  ร่างแม่แบบไม่สนใจคำสัญญาของไป๋อี้นัก แต่เธอยื่นนิ้วชี้ของเธอและวางไว้เหนือหัวของโม่โม่ ทุกคนเฝ้าดูพฤติกรรมของร่างแม่แบบ ไป๋อี้เกร็งร่างกายให้แน่นยิ่งขึ้นเพื่อเตรียมพร้อม แม้ว่าร่างแม่แบบจะดูเป็นมิตรมาก แต่ไป๋อี้ก็ยังไม่กล้าที่จะเชื่อใจเธอ 100%

  หยดเลือดค่อย ๆ กลั่นตัวจากปลายนิ้วชี้ของร่างแม่แบบ!

  เลือดสีแดงสดหยดนี้โผล่ออกมาจากปลายนิ้วของร่างแม่แบบ หัวใจของทุกคนบีบรัดแน่น จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างรุนแรง ความปรารถนาที่ไม่อาจบรรยายได้ แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าหยดเลือดนั้นคืออะไร แต่ทุกคนก็เดาได้ว่าสิ่งนี้มีค่ามาก

  ถ้าหากร่างแม่แบบยังแสดงสีหน้าได้อยู่ สีหน้าของเธอในตอนนี้ก็คงจะดูไม่ดีนัก เพราะในเวลานี้หงฉี่ฮว๋าที่อยู่ในท้องของเธอดูเหมือนจะไม่พอใจอย่างมากกับการกระทำของร่างแม่แบบที่ทิ้งเลือดดั้งเดิมและขัดขวางไม่ให้เธอเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวของร่างแม่แบบแข็งไปในอากาศจนไม่สามารถทำต่อไปได้

  ติ๋ง!

  หยดเลือดสีแดงฉานตกลงในดวงตาของโม่โม่อย่างพอดิบพอดี  ร่างกายของแม่แบบสามารถขยับได้เพียงเล็กน้อยในเวลานี้

  ‘หง……หงฉี่……!’ มือขวาของร่างแม่แบบโรยราลงทันที

  “หง? หงฉี่ฮว๋า!” ไป๋อี้ถามด้วยความประหลาดใจ แต่ก่อนที่ไป๋อี้จะถามออกมาอย่างชัดเจน เสียงของร่างแม่แบบก็หายไปจากความคิดของทุกคน ไป๋อี้รีบวิ่งและเมื่อวิ่งไปได้เพียงสองก้าว ทันใดนั้นก็มีแสงไฟพุ่งออกมาจากอวกาศ ทันใดนั้นก็ระเบิดออกทันที นั่นเป็นภาพที่ฉายผ่านจิตใจของไป๋อี้

  ร่างแม่แบบทดลองสิ้นใจแล้ว!

 

  ไป๋อี้ตัดสินได้ในทันทีว่าร่างกายของแม่แบบนั้นตายไปแล้วจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงความรู้สึกในขณะนั้น แต่สามารถสัมผัสได้ตราบเท่าที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์ดัดแปลงอยู่ คุณรู้ไหมว่าเซลล์ที่มีชีวิตทั้งหมดสามารถสกัดได้จากร่างแม่แบบ ร่างกายทดลองที่ยังคงยุ่งเหยิงอยู่ ร่างทดลองที่ต่อสู้และถูกกลืนกิน …… ทั้งหมดหยุดลงแล้วในขณะนี้ จากนั้นทุกคนก็มองไปยังร่างของแม่แบบทดลอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+