จอมนักรบท้าโลก 801 ทุกอย่างคือฟ้าลิขิต

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 801 ทุกอย่างคือฟ้าลิขิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสียงดังก้องในหัวของติงเฟิงเฉิง เขาได้แต่นั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วคำนวณกำไรและการขาดทุนของเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก

เมื่อฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ถึงแม้จะได้รับโรงงานเป็นการชดเชย แต่เขาก็มีโอกาสที่จะสูญเสียเงินทุน และถ้าเขายืนหยัดที่จะเอาเงินทุกกลับ เขาก็อาจต้องเผชิญกับการไม่เหลืออะไรเลย

มันช่างเป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ

หลังจากลังเลอยู่สักพักใหญ่ ติงเฟิงเฉิงเลือกที่จะก้มหน้าลง

“ตกลง ผมยอมรับข้อเสนอ”

ถ้ายอมรับข้อเสนอ อย่างน้อยเขายังได้โรงงานไป วันหลังคิดหาวิธีขายมันทิ้งก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางออก ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

ซึ่งนี่ก็เป็นตอนจบที่ดีที่สุด

หลังออกจากศาล

ติงเฟิงเฉิงกลับมาที่สำนักงานด้วยความเศร้าใจ ถงก้วนฉือก็รีบเข้ามาถามทันทีว่า “ประธานติง เกิดอะไรขึ้นครับ? กรมโยธาธิการและผังเมืองฟ้องพวกเราเหรอครับ?”

ติงเฟิงเฉิงส่ายหัว

“ไม่ได้ฟ้องเหรอครับ?” ถงก้วนฉือถามด้วยความสงสัย “แล้วเกิดอะไรขึ้นครับ”

ติงเฟิงเฉิงถอนหายใจแล้วนั่งลงบนที่นั่ง จากนั้นเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในศาลให้กับถงก้วนฉือฟัง

ถงก้วนฉือส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “ผมไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้จริงๆ ครับ ยกโรงงานมูลค่าห้าร้อยล้านให้พวกเรา ก็ควรดีใจอยู่นะ แต่สิ่งที่เราขาดตอนนี้ไม่ใช่โรงงาน มันเป็นวัตถุดิบมากกว่า ต่อให้เรามีโรงงานแล้วรีบผลิต มันก็ไม่ทันการอยู่ดี ที่แย่กว่านั้นคือเราไม่รู้วิธีในการผลิตด้วยซ้ำ แบบนี้ยิ่งทำก็ยิ่งแย่สิครับ”

แน่นอนว่าติงเฟิงเฉิงก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน

เขาจึงพูดขึ้นอย่างขมขื่น “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ก็คือที่มาของเงินทุนสองร้อยล้าน ธนาคารไม่มีทางให้เรากู้หรอก และบริษัทใหญ่อื่นๆ ก็ไม่มีทางให้เรากู้แน่นอน”

ช่างลำบากใจเหลือเกิน

ติงเฟิงเฉิงกับถงก้วนฉือทั้งสองต่างก็ขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด

ในเวลานี้ เลขานุการเดินเข้ามาและพูดว่า “ประธานติงคะคุณหลิงหวาจากบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งมาถึงแล้วค่ะ”

“บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง? รีบเชิญเขาเข้ามา!”

ไม่นานหลังจากนั้นหลิงหวาก็เดินเข้ามา

ติงเฟิงเฉิงพูดอย่างสุภาพว่า “คุณหลิง ผมไม่ทราบว่าคุณจะมา ไม่ได้ออกไปต้อนรับคุณเลย อย่าถือสากันนะครับ”

หลิงหวาโบกมือพูด “ประธานติงไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ครั้งนี้ผมก็มาอย่างกะทันหันเหมือนกัน พอดีผมได้รับคำสั่งจากทานประธาน ให้ผมส่งสินค้ามาให้คุณ”

“สินค้า?”

หลิงหวาวางรายการไว้บนโต๊ะ

“ประธานติง เราได้ข่าวของคุณที่นี่แล้วครับ ท่านประธานจึงกังวลว่าโครงการจะดำเนินการต่อไปไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจนำเงิน 300 ล้านจากเงินทุนสำรองของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งออกมาเพื่อซื้อวัตถุดิบ”

“นี่คือรายการสินค้านะครับ”

“วันนี้ผมมาเพื่อปรึกษาประธานติงว่าจะเอาสินค้านี้ไว้ที่ไหนครับ?”

นี่มัน……

ติงเฟิงเฉิงตื่นเต้นจนถึงกับลุกขึ้นยืนและไม่รู้จะพูดอะไร

เขาที่กำลังหมดหวังอยู่แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งไม่เพียงแต่ไม่ทิ้งเขาในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ แถมยังมอบถ่านไม้กลางหิมะให้เขาเพื่อช่วยเขาให้รอดด้วย

ดังนั้น ด้วยสินค้าเหล่านี้ โครงการของเขาจึงสามารถดำเนินต่อไปได้

“ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ!”

ติงเฟิงเฉิงพูดทั้งน้ำตา “คุณหลิง รบกวนฝากคำขอบคุณให้กับท่านประธานซุนแทนผมทีนะครับ ผมขอสาบานว่า ทันทีที่โครงการของผมสร้างกำไรได้ ผมจะคืนเงิน 300 ร้อยล้านนี้ทันทีเลยครับ!”

หลิงหวายิ้มเบาๆ แล้วตอบเขา “ประธานติง ผมว่าเรามาคุยเรื่องการจัดส่งสินค้าก่อนดีกว่าครับ?”

“ใช่ๆ ๆ เรื่องนี้ควรจัดการก่อน”

ติงเฟิงเฉิงชี้ไปที่ถงก้วนฉือ “ไอ้ถง คุณช่วยไปกับคุณหลิงหวาหน่อย ไปคุยเรื่องการจัดเก็บสินค้าของเขา”

“ครับผม!!!”

จากนั้นถงก้วนฉือก็พาหลิงหวาออกจากสำนักงาน

ในขณะนี้ สำนักงานออฟฟิศก็เหลือเพียงติงเฟิงเฉิงคนเดียว

เขาได้แต่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความสับสน

เขามีความสุขไหม?

แน่นอนว่าต้องมีความสุขอยู่แล้ว

แต่เขากลับรู้สึกว่า เหมือนจะมีพลังบางอย่างคอยปกป้องเขา คอยช่วยเขาให้ผ่านช่วงวิกฤตของชีวิต

แล้วใครเป็นคนช่วยเขา?

มีสองคำปรากฏขึ้นในใจของติงเฟิงเฉิง ‘เจียงชื่อ’ ?

แต่คิดๆ แล้ว เจียงชื่อจะมีความสามารถขนาดนั้นได้ยังไง? เขาสามารถสั่งบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งได้เลยหรือ?

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้

แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังนี้อยู่ดี

และเขาก็อดไม่ได้ที่จะโทรหาเจียงชื่อ

ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด เสียงโทรออกดังขึ้น และสายก็โทรติด

ติงเฟิงเฉิงอดใจถามไม่ได้ “เจียงชื่อ ผมมีข่าวดีจะบอกสองเรื่อง!”

“ข่าวดี? สองเรื่องด้วย?”

“ใช่ๆ เรื่องแรก ผมเพิ่งไปที่ศาลมา ซุนเค่เฉินไม่มีเงินคืนให้ผม แต่เขายกโรงงานที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านให้ผม! เรื่องที่สอง บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งซื้อวัตถุดิบไปกว่า 300 ล้านและกำลังจัดส่งมาให้ผมแล้ว!”

“โอ้ว เป็นข่าวดีจริงๆ ความโชคดีในความโชคร้าย ได้โรงงานของซุนเค่เฉินไป วันหลังไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับวัตถุดิบแล้ว แค่บริหารดีๆ อนาคตคุณผลิตเองแล้วจำหน่ายเองได้เลย คุ้มจริงๆ”

ติงเฟิงเฉิงก็คิดเหมือนกัน

เมื่อมีโรงงานนนี้ อิทธิพลของติงเฟิงเฉิงก็จะเพิ่มมากขึ้น และความมั่นใจในการต่อกรกับติงหงเหย้าก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

ช่างเป็นดั่งเรื่อง “ชายชราสูญเสียม้า แต่กลับเป็นโชคอันยิ่งใหญ่” จริงๆ

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ติงเฟิงเฉิงก็ถามอย่างจริงจังว่า “คือว่า ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อย”

“เรื่องอะไรครับ”

“เจียงชื่อ ครั้งนี้ผมผ่านวิกฤตไปได้ เป็นเพราะคุณใช่ไหม?”

ปลายอีกด้านเงียบไปสักพัก จากนั้นเสียงหัวเราะของเจียงชื่อดังขึ้นเบาๆ

“เฟิงเฉิง ครั้งนี้ผมไม่ได้ช่วยอะไรคุณหรอก ทุกอย่างคือโชคชะตาฟ้าลิขิต คุณโชคดี ฉะนั้นถึงได้ผ่านวิกฤตนี้ไปได้ แต่คุณต้องระวังกว่านี้นะ วันหลังถ้าเกิดปัญหาแบบนี้อีก คุณอาจจะไม่โชคดีขนาดนี้ก็ได้”

ติงเฟิงเฉิงพยักหน้า “ครับ ผมเข้าใจแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบท้าโลก 801 ทุกอย่างคือฟ้าลิขิต

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 801 ทุกอย่างคือฟ้าลิขิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสียงดังก้องในหัวของติงเฟิงเฉิง เขาได้แต่นั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วคำนวณกำไรและการขาดทุนของเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก

เมื่อฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ถึงแม้จะได้รับโรงงานเป็นการชดเชย แต่เขาก็มีโอกาสที่จะสูญเสียเงินทุน และถ้าเขายืนหยัดที่จะเอาเงินทุกกลับ เขาก็อาจต้องเผชิญกับการไม่เหลืออะไรเลย

มันช่างเป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ

หลังจากลังเลอยู่สักพักใหญ่ ติงเฟิงเฉิงเลือกที่จะก้มหน้าลง

“ตกลง ผมยอมรับข้อเสนอ”

ถ้ายอมรับข้อเสนอ อย่างน้อยเขายังได้โรงงานไป วันหลังคิดหาวิธีขายมันทิ้งก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางออก ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

ซึ่งนี่ก็เป็นตอนจบที่ดีที่สุด

หลังออกจากศาล

ติงเฟิงเฉิงกลับมาที่สำนักงานด้วยความเศร้าใจ ถงก้วนฉือก็รีบเข้ามาถามทันทีว่า “ประธานติง เกิดอะไรขึ้นครับ? กรมโยธาธิการและผังเมืองฟ้องพวกเราเหรอครับ?”

ติงเฟิงเฉิงส่ายหัว

“ไม่ได้ฟ้องเหรอครับ?” ถงก้วนฉือถามด้วยความสงสัย “แล้วเกิดอะไรขึ้นครับ”

ติงเฟิงเฉิงถอนหายใจแล้วนั่งลงบนที่นั่ง จากนั้นเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในศาลให้กับถงก้วนฉือฟัง

ถงก้วนฉือส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “ผมไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้จริงๆ ครับ ยกโรงงานมูลค่าห้าร้อยล้านให้พวกเรา ก็ควรดีใจอยู่นะ แต่สิ่งที่เราขาดตอนนี้ไม่ใช่โรงงาน มันเป็นวัตถุดิบมากกว่า ต่อให้เรามีโรงงานแล้วรีบผลิต มันก็ไม่ทันการอยู่ดี ที่แย่กว่านั้นคือเราไม่รู้วิธีในการผลิตด้วยซ้ำ แบบนี้ยิ่งทำก็ยิ่งแย่สิครับ”

แน่นอนว่าติงเฟิงเฉิงก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน

เขาจึงพูดขึ้นอย่างขมขื่น “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ก็คือที่มาของเงินทุนสองร้อยล้าน ธนาคารไม่มีทางให้เรากู้หรอก และบริษัทใหญ่อื่นๆ ก็ไม่มีทางให้เรากู้แน่นอน”

ช่างลำบากใจเหลือเกิน

ติงเฟิงเฉิงกับถงก้วนฉือทั้งสองต่างก็ขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด

ในเวลานี้ เลขานุการเดินเข้ามาและพูดว่า “ประธานติงคะคุณหลิงหวาจากบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งมาถึงแล้วค่ะ”

“บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง? รีบเชิญเขาเข้ามา!”

ไม่นานหลังจากนั้นหลิงหวาก็เดินเข้ามา

ติงเฟิงเฉิงพูดอย่างสุภาพว่า “คุณหลิง ผมไม่ทราบว่าคุณจะมา ไม่ได้ออกไปต้อนรับคุณเลย อย่าถือสากันนะครับ”

หลิงหวาโบกมือพูด “ประธานติงไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ครั้งนี้ผมก็มาอย่างกะทันหันเหมือนกัน พอดีผมได้รับคำสั่งจากทานประธาน ให้ผมส่งสินค้ามาให้คุณ”

“สินค้า?”

หลิงหวาวางรายการไว้บนโต๊ะ

“ประธานติง เราได้ข่าวของคุณที่นี่แล้วครับ ท่านประธานจึงกังวลว่าโครงการจะดำเนินการต่อไปไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจนำเงิน 300 ล้านจากเงินทุนสำรองของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งออกมาเพื่อซื้อวัตถุดิบ”

“นี่คือรายการสินค้านะครับ”

“วันนี้ผมมาเพื่อปรึกษาประธานติงว่าจะเอาสินค้านี้ไว้ที่ไหนครับ?”

นี่มัน……

ติงเฟิงเฉิงตื่นเต้นจนถึงกับลุกขึ้นยืนและไม่รู้จะพูดอะไร

เขาที่กำลังหมดหวังอยู่แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งไม่เพียงแต่ไม่ทิ้งเขาในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ แถมยังมอบถ่านไม้กลางหิมะให้เขาเพื่อช่วยเขาให้รอดด้วย

ดังนั้น ด้วยสินค้าเหล่านี้ โครงการของเขาจึงสามารถดำเนินต่อไปได้

“ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ!”

ติงเฟิงเฉิงพูดทั้งน้ำตา “คุณหลิง รบกวนฝากคำขอบคุณให้กับท่านประธานซุนแทนผมทีนะครับ ผมขอสาบานว่า ทันทีที่โครงการของผมสร้างกำไรได้ ผมจะคืนเงิน 300 ร้อยล้านนี้ทันทีเลยครับ!”

หลิงหวายิ้มเบาๆ แล้วตอบเขา “ประธานติง ผมว่าเรามาคุยเรื่องการจัดส่งสินค้าก่อนดีกว่าครับ?”

“ใช่ๆ ๆ เรื่องนี้ควรจัดการก่อน”

ติงเฟิงเฉิงชี้ไปที่ถงก้วนฉือ “ไอ้ถง คุณช่วยไปกับคุณหลิงหวาหน่อย ไปคุยเรื่องการจัดเก็บสินค้าของเขา”

“ครับผม!!!”

จากนั้นถงก้วนฉือก็พาหลิงหวาออกจากสำนักงาน

ในขณะนี้ สำนักงานออฟฟิศก็เหลือเพียงติงเฟิงเฉิงคนเดียว

เขาได้แต่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความสับสน

เขามีความสุขไหม?

แน่นอนว่าต้องมีความสุขอยู่แล้ว

แต่เขากลับรู้สึกว่า เหมือนจะมีพลังบางอย่างคอยปกป้องเขา คอยช่วยเขาให้ผ่านช่วงวิกฤตของชีวิต

แล้วใครเป็นคนช่วยเขา?

มีสองคำปรากฏขึ้นในใจของติงเฟิงเฉิง ‘เจียงชื่อ’ ?

แต่คิดๆ แล้ว เจียงชื่อจะมีความสามารถขนาดนั้นได้ยังไง? เขาสามารถสั่งบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งได้เลยหรือ?

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้

แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังนี้อยู่ดี

และเขาก็อดไม่ได้ที่จะโทรหาเจียงชื่อ

ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด เสียงโทรออกดังขึ้น และสายก็โทรติด

ติงเฟิงเฉิงอดใจถามไม่ได้ “เจียงชื่อ ผมมีข่าวดีจะบอกสองเรื่อง!”

“ข่าวดี? สองเรื่องด้วย?”

“ใช่ๆ เรื่องแรก ผมเพิ่งไปที่ศาลมา ซุนเค่เฉินไม่มีเงินคืนให้ผม แต่เขายกโรงงานที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านให้ผม! เรื่องที่สอง บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งซื้อวัตถุดิบไปกว่า 300 ล้านและกำลังจัดส่งมาให้ผมแล้ว!”

“โอ้ว เป็นข่าวดีจริงๆ ความโชคดีในความโชคร้าย ได้โรงงานของซุนเค่เฉินไป วันหลังไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับวัตถุดิบแล้ว แค่บริหารดีๆ อนาคตคุณผลิตเองแล้วจำหน่ายเองได้เลย คุ้มจริงๆ”

ติงเฟิงเฉิงก็คิดเหมือนกัน

เมื่อมีโรงงานนนี้ อิทธิพลของติงเฟิงเฉิงก็จะเพิ่มมากขึ้น และความมั่นใจในการต่อกรกับติงหงเหย้าก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

ช่างเป็นดั่งเรื่อง “ชายชราสูญเสียม้า แต่กลับเป็นโชคอันยิ่งใหญ่” จริงๆ

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ติงเฟิงเฉิงก็ถามอย่างจริงจังว่า “คือว่า ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อย”

“เรื่องอะไรครับ”

“เจียงชื่อ ครั้งนี้ผมผ่านวิกฤตไปได้ เป็นเพราะคุณใช่ไหม?”

ปลายอีกด้านเงียบไปสักพัก จากนั้นเสียงหัวเราะของเจียงชื่อดังขึ้นเบาๆ

“เฟิงเฉิง ครั้งนี้ผมไม่ได้ช่วยอะไรคุณหรอก ทุกอย่างคือโชคชะตาฟ้าลิขิต คุณโชคดี ฉะนั้นถึงได้ผ่านวิกฤตนี้ไปได้ แต่คุณต้องระวังกว่านี้นะ วันหลังถ้าเกิดปัญหาแบบนี้อีก คุณอาจจะไม่โชคดีขนาดนี้ก็ได้”

ติงเฟิงเฉิงพยักหน้า “ครับ ผมเข้าใจแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+