จอมนักรบท้าโลก 777 ใบหน้าแดงด้วยความอาย

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 777 ใบหน้าแดงด้วยความอาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ติงเมิ่งเหยนมองเข้าไปที่ทางเข้าโรงพยาบาล อยากจะรู้ว่าตำรวจนั้นเข้าไปทำอะไรกันแน่

ท้ายที่สุด สิบนาทีต่อมา เธอก็เห็นสิ่งที่เธอนั้นอยากจะดู

เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนนำตัวจินเค่อจงออกมา แถมยังเห็นได้ชัดอีกว่ามือทั้งสองข้างของจินเค่อจงนั้นถูกใส่กุญแจมืออยู่ เมื่อมองดูใบหน้าที่อับอายก็รู้ได้เลยว่าต้องไม่มีจุดจบที่ดีเป็นแน่

ขณะที่เขากำลังเดินออกจากประตูโรงพยาบาล เจียงชื่อจงใจหมุนกระจกลงและตะโกนออกไป “คุณจิน ใช้ได้เลยนะเนี่ย ไม่คุ้นเคยกับการนอนโรงพยาบาลเลยจะไปนอนเรือนจำในสถานีตำรวจเหรอ?”

จินเค่อจงเงยหน้าขึ้นมามองเจียงชื่อจากนั้นก็ได้ก้มหน้าลงต่ออย่างรวดเร็ว ละอายใจเกินกว่าจะมองผู้คน

ในไม่ช้า จินเค่อจงก็ถูกตำรวจพาตัวไป

เมื่อเห็นฉากนี้ ติงเมิ่งเหยนก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น แม้จะบอกว่าอย่าทำตัวได้ทีขี่แพะไล่ เธอไม่ควรจะมีความสุขเมื่อเห็นคนอื่นทุกข์ลำบาก พฤติกรรมเช่นนี้นั้นน่าอับอายเป็นอย่างมากแต่ติงเมิ่งเหยนนั้นกลับไม่สามารถซ่อนความสุขของเธอเอาไว้ได้ ถึงกับหัวเราะเสียงดังออกมา

เจียงชื่อพูดช้าๆ “เห็นไหมล่ะ นี่คือจุดจบของการที่ละเมิดกฎ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือไม่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎของโลกใบนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่มีข้อยกเว้น”

ติงเมิ่งเหยนยักไหล่ “เชอะ ฉันไม่ฟังเทศนาของนายหรอกนะ”

อย่างไรก็ตามมันน่าทึ่งจริงๆ นั่นแหละ พวกเขาเพิ่งจะออกมาจากโรงพยาบาลก็มีคนจากสำนักงานสาธารณสุขเข้ามาตรวจสอบแถมจินเค่อจงยังโดนจับกุมอีก ราวกับว่ามันได้ถูกจัดแจงมาก่อนแล้ว

ติงเมิ่งเหยนหันกลับไปมองเจียงชื่อและรู้สึกอยู่บ่อยครั้งว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเจียงชื่อเป็นแน่

แต่เธอก็กลับมาคิด เจียงชื่อเองก็ไม่ได้เป็นคนที่มีความสามารถมากขนาดนั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะเซ็นสัญญาและมีเงินจำนวนมากแต่การมีเงินมันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีสิทธิ์อะไรนี่

สำนักงานสาธารณสุข สถานีตำรวจล้วนแต่เป็นคนของทางราชการ เจียงชื่อที่เป็นสามัญชนคนธรรมดาจะไปเรียกระดมมาได้ยังไงกัน?

ดังนั้นติงเมิ่งเหยนจึงไม่ได้ถามอะไรต่อพร้อมกับขับรถกลับบ้าน

เมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้าน ติงฉี่ซานที่เพิ่งจะล้างเท้าและเตรียมจะเข้านอนก็ถามอย่างสงสัยว่า “เฮ้ พวกนายกลับมาทำไมกัน?ไม่ได้จะนอนที่โรงพยาบาลกันหรอกเหรอ?”

ติงเมิ่งเหยนโบกมือ “อย่าพูดถึงเลย เจอเรื่องน่าคับข้องใจมาเลยกลับบ้านมานอนน่าจะนอนสบายกว่า”

ทั้งสองเข้าไปในห้องพร้อมกับล็อกประตู

ยังไม่ทันที่ติงเมิ่งเหยนจะได้นั่งลงพัก เจียงชื่อก็ได้ใช้แขนโอบไปที่เอวของเธอพร้อมกับกดเธอลงไปที่เตียง

“อ๊า~~นายทำอะไรน่ะ?” ติงเมิ่งเหยนตกใจ

“เธอว่าฉันจะทำอะไรล่ะ?” เจียงชื่อยิ้มด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายและพูดว่า “พวกเราพนันกันแล้วเธอก็แพ้ไงล่ะ เธอจะต้องมีลูกกับฉัน”

“อย่า อย่าเลย…”

ปากบอกว่าอย่าแต่ติงเมิ่งเหยนนั้นแทบไม่ต่อต้านใดๆ อีกทั้งในใจก็ยังชอบหน่อยๆ อีกด้วย

แต่สิ่งที่น่าอายก็คือ ขณะที่เจียงชื่อกำลังจะลงมือนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บแปล๊บตรงหัวใจขึ้นมาทันที

บาดแผลนั้นกำเริบขึ้นมา

แม้จะเป็นถึงเทพแห่งสงครามชูร่าแต่ก็ไม่อาจต่อกรกับโชคชะตาได้

เจียงชื่อนอนอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวด หายใจหอบแรง ต้องนอนพักกว่าสองนาทีถึงจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว “แผลยังไม่หายดีเลย ดูเหมือนว่าวันสองวันนี้จะขยับตัวมากไม่ได้ซะแล้ว”

ติงเมิ่งเหยนยิ้มพร้อมกับจิ้มไปที่จมูกของเขา “หึ เจ้าเล่ห์ ครั้งนี้นายคงจะไม่มีข้ออ้างแล้วสินะ?ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมรับที่แพ้ แต่เป็นนายที่ทำไม่ได้นะ”

เจียงชื่อส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

จากนั้นเขาก็ได้พูดออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “ร่างกายฉันบาดเจ็บแต่เธอไม่ได้เจ็บด้วยนี่หน่า ฉันไม่สามารถเคลื่อนไหวรุนแรงได้แต่เธอทำได้”

ติงเมิ่งเหยนมองเขาด้วยความสงสัย “ห๊ะ?หมายความว่ายังไง?”

เจียงชื่อส่งเสียงอ่ะแฮ่มออกมา “ก็คือ ฉันสามารถนอนโดยไม่ต้องขยับเคลื่อนไหวตัวได้ เธอก็แค่ขึ้นมาบนตัวฉัน…แล้วขยับตัว”

ติงเมิ่งเหยนไม่ใช่เด็กสามขวบ เธอรู้ว่าประโยคนี้มีความหมายว่าอย่างไร ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็แดงก่ำด้วยความอายจึงทุบเข้าไปที่เจียงชื่อในทันที

“ไอกุ๊ยเอ๊ย!พูดอะไรของนายน่ะ?”

“นี่มันไร้ยางอายเกินไปแล้ว”

“เธออายเหรอ?อายเหรอ?”

เจียงชื่อหัวเราะออกมาเสียงดัง “นี่เป็นพฤติกรรมปกติของคู่สามีภรรยากันนะ มีอะไรต้องอาย?อยากจะลองหน่อยไหมล่ะ?”

ติงเมิ่งเหยนส่งเสียงเหอะออกมา “ลองอะไรกันล่ะ?ไม่ได้มีการเหนียมอายเลยจริงๆ ฉันไม่สนใจนายแล้ว”

เธอลุกจากเตียงเข้าไปในห้องน้ำ

ติงเมิ่งเหยนมองตัวเองในกระจกของห้องน้ำ ใบหน้าของเธอนั้นแดงจนจะม่วงอยู่แล้ว

เธอหายใจถี่เร็ว หัวใจเต้นแรงเป็นอย่างมาก

“ฉัน…ขยับตัว?”

ติงเมิ่งเหยนจินตนาการภาพอยู่ในหัว ยิ่งคิดก็ยิ่งอาย ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นไปหมด

อย่างไรก็ตาม เธอเป็นผู้หญิงหัวโบราณ เรื่องแบบนี้เธอคงจะไม่สามารถทำมันได้

ค่ำคืนนี้ ทั้งสองคนนั้นพลิกตัวไปมา ต่างคนต่างนอนไม่หลับ

จนกระทั่งฟ้าใกล้จะสาง แต่ละคนจึงได้ผล็อยหลับเข้าไปในความฝันและจินตนาการที่เต็มไปด้วยเรื่องพิเศษเหล่านั้น

หรือว่า ถึงเวลาแล้วเหรอ?

รอจนแผลหายดี ก็…

ตุบตุบตุบ ตุบตุบตุบ

การเคาะประตูหลายครั้งได้ปลุกให้ทั้งสองคนตื่นจากการหลับใหล ติงเมิ่งเหยนมุ่ยปากของเธอ มีอารมณ์เล็กน้อยจากการปลุกให้ตื่น “แม่คะ เคาะทำไมตั้งแต่เช้าเนี่ย?”

ผลลัพธ์คือเสียงที่ดังมาจากด้านนอกนั้นไม่ใช่เสียงของซูฉินแต่คือ…

“พี่สาว หนูเอง ซูสวน”

ซูสวน?

ติงเมิ่งเหยนลุกขึ้นมานั่งในทันทีพร้อมกับสบตากับเจียงชื่อ เด็กคนนี้ทำไมอยู่ดีๆ ถึงมาได้?

“ซูสวน วันนี้มามีอะไรหรือเปล่า?” ติงเมิ่งเหยนใส่เสื้อผ้าพร้อมกับเอ่ยปากพูดออกมา

ซูสวนพูดจากด้านนอกห้อง “ก็แค่คิดถึงพวกพี่เองจึงมาดูพวกพี่หน่อย พี่ ทำไมยังไม่ตื่นอีก?หรือว่าเมื่อคืนพี่ใช้แรงเกินกำลังกับพี่เขยเหรอ?”

“เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย พูดอะไรกันเนี่ย?เป็นสาวเป็นแซ่ไม่รู้จักอายบ้างเลยนะ” ใบหน้าของติงเมิ่งเหยนแดงอีกครั้ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบท้าโลก 777 ใบหน้าแดงด้วยความอาย

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 777 ใบหน้าแดงด้วยความอาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ติงเมิ่งเหยนมองเข้าไปที่ทางเข้าโรงพยาบาล อยากจะรู้ว่าตำรวจนั้นเข้าไปทำอะไรกันแน่

ท้ายที่สุด สิบนาทีต่อมา เธอก็เห็นสิ่งที่เธอนั้นอยากจะดู

เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนนำตัวจินเค่อจงออกมา แถมยังเห็นได้ชัดอีกว่ามือทั้งสองข้างของจินเค่อจงนั้นถูกใส่กุญแจมืออยู่ เมื่อมองดูใบหน้าที่อับอายก็รู้ได้เลยว่าต้องไม่มีจุดจบที่ดีเป็นแน่

ขณะที่เขากำลังเดินออกจากประตูโรงพยาบาล เจียงชื่อจงใจหมุนกระจกลงและตะโกนออกไป “คุณจิน ใช้ได้เลยนะเนี่ย ไม่คุ้นเคยกับการนอนโรงพยาบาลเลยจะไปนอนเรือนจำในสถานีตำรวจเหรอ?”

จินเค่อจงเงยหน้าขึ้นมามองเจียงชื่อจากนั้นก็ได้ก้มหน้าลงต่ออย่างรวดเร็ว ละอายใจเกินกว่าจะมองผู้คน

ในไม่ช้า จินเค่อจงก็ถูกตำรวจพาตัวไป

เมื่อเห็นฉากนี้ ติงเมิ่งเหยนก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น แม้จะบอกว่าอย่าทำตัวได้ทีขี่แพะไล่ เธอไม่ควรจะมีความสุขเมื่อเห็นคนอื่นทุกข์ลำบาก พฤติกรรมเช่นนี้นั้นน่าอับอายเป็นอย่างมากแต่ติงเมิ่งเหยนนั้นกลับไม่สามารถซ่อนความสุขของเธอเอาไว้ได้ ถึงกับหัวเราะเสียงดังออกมา

เจียงชื่อพูดช้าๆ “เห็นไหมล่ะ นี่คือจุดจบของการที่ละเมิดกฎ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือไม่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎของโลกใบนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่มีข้อยกเว้น”

ติงเมิ่งเหยนยักไหล่ “เชอะ ฉันไม่ฟังเทศนาของนายหรอกนะ”

อย่างไรก็ตามมันน่าทึ่งจริงๆ นั่นแหละ พวกเขาเพิ่งจะออกมาจากโรงพยาบาลก็มีคนจากสำนักงานสาธารณสุขเข้ามาตรวจสอบแถมจินเค่อจงยังโดนจับกุมอีก ราวกับว่ามันได้ถูกจัดแจงมาก่อนแล้ว

ติงเมิ่งเหยนหันกลับไปมองเจียงชื่อและรู้สึกอยู่บ่อยครั้งว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเจียงชื่อเป็นแน่

แต่เธอก็กลับมาคิด เจียงชื่อเองก็ไม่ได้เป็นคนที่มีความสามารถมากขนาดนั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะเซ็นสัญญาและมีเงินจำนวนมากแต่การมีเงินมันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีสิทธิ์อะไรนี่

สำนักงานสาธารณสุข สถานีตำรวจล้วนแต่เป็นคนของทางราชการ เจียงชื่อที่เป็นสามัญชนคนธรรมดาจะไปเรียกระดมมาได้ยังไงกัน?

ดังนั้นติงเมิ่งเหยนจึงไม่ได้ถามอะไรต่อพร้อมกับขับรถกลับบ้าน

เมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้าน ติงฉี่ซานที่เพิ่งจะล้างเท้าและเตรียมจะเข้านอนก็ถามอย่างสงสัยว่า “เฮ้ พวกนายกลับมาทำไมกัน?ไม่ได้จะนอนที่โรงพยาบาลกันหรอกเหรอ?”

ติงเมิ่งเหยนโบกมือ “อย่าพูดถึงเลย เจอเรื่องน่าคับข้องใจมาเลยกลับบ้านมานอนน่าจะนอนสบายกว่า”

ทั้งสองเข้าไปในห้องพร้อมกับล็อกประตู

ยังไม่ทันที่ติงเมิ่งเหยนจะได้นั่งลงพัก เจียงชื่อก็ได้ใช้แขนโอบไปที่เอวของเธอพร้อมกับกดเธอลงไปที่เตียง

“อ๊า~~นายทำอะไรน่ะ?” ติงเมิ่งเหยนตกใจ

“เธอว่าฉันจะทำอะไรล่ะ?” เจียงชื่อยิ้มด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายและพูดว่า “พวกเราพนันกันแล้วเธอก็แพ้ไงล่ะ เธอจะต้องมีลูกกับฉัน”

“อย่า อย่าเลย…”

ปากบอกว่าอย่าแต่ติงเมิ่งเหยนนั้นแทบไม่ต่อต้านใดๆ อีกทั้งในใจก็ยังชอบหน่อยๆ อีกด้วย

แต่สิ่งที่น่าอายก็คือ ขณะที่เจียงชื่อกำลังจะลงมือนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บแปล๊บตรงหัวใจขึ้นมาทันที

บาดแผลนั้นกำเริบขึ้นมา

แม้จะเป็นถึงเทพแห่งสงครามชูร่าแต่ก็ไม่อาจต่อกรกับโชคชะตาได้

เจียงชื่อนอนอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวด หายใจหอบแรง ต้องนอนพักกว่าสองนาทีถึงจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว “แผลยังไม่หายดีเลย ดูเหมือนว่าวันสองวันนี้จะขยับตัวมากไม่ได้ซะแล้ว”

ติงเมิ่งเหยนยิ้มพร้อมกับจิ้มไปที่จมูกของเขา “หึ เจ้าเล่ห์ ครั้งนี้นายคงจะไม่มีข้ออ้างแล้วสินะ?ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมรับที่แพ้ แต่เป็นนายที่ทำไม่ได้นะ”

เจียงชื่อส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

จากนั้นเขาก็ได้พูดออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “ร่างกายฉันบาดเจ็บแต่เธอไม่ได้เจ็บด้วยนี่หน่า ฉันไม่สามารถเคลื่อนไหวรุนแรงได้แต่เธอทำได้”

ติงเมิ่งเหยนมองเขาด้วยความสงสัย “ห๊ะ?หมายความว่ายังไง?”

เจียงชื่อส่งเสียงอ่ะแฮ่มออกมา “ก็คือ ฉันสามารถนอนโดยไม่ต้องขยับเคลื่อนไหวตัวได้ เธอก็แค่ขึ้นมาบนตัวฉัน…แล้วขยับตัว”

ติงเมิ่งเหยนไม่ใช่เด็กสามขวบ เธอรู้ว่าประโยคนี้มีความหมายว่าอย่างไร ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็แดงก่ำด้วยความอายจึงทุบเข้าไปที่เจียงชื่อในทันที

“ไอกุ๊ยเอ๊ย!พูดอะไรของนายน่ะ?”

“นี่มันไร้ยางอายเกินไปแล้ว”

“เธออายเหรอ?อายเหรอ?”

เจียงชื่อหัวเราะออกมาเสียงดัง “นี่เป็นพฤติกรรมปกติของคู่สามีภรรยากันนะ มีอะไรต้องอาย?อยากจะลองหน่อยไหมล่ะ?”

ติงเมิ่งเหยนส่งเสียงเหอะออกมา “ลองอะไรกันล่ะ?ไม่ได้มีการเหนียมอายเลยจริงๆ ฉันไม่สนใจนายแล้ว”

เธอลุกจากเตียงเข้าไปในห้องน้ำ

ติงเมิ่งเหยนมองตัวเองในกระจกของห้องน้ำ ใบหน้าของเธอนั้นแดงจนจะม่วงอยู่แล้ว

เธอหายใจถี่เร็ว หัวใจเต้นแรงเป็นอย่างมาก

“ฉัน…ขยับตัว?”

ติงเมิ่งเหยนจินตนาการภาพอยู่ในหัว ยิ่งคิดก็ยิ่งอาย ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นไปหมด

อย่างไรก็ตาม เธอเป็นผู้หญิงหัวโบราณ เรื่องแบบนี้เธอคงจะไม่สามารถทำมันได้

ค่ำคืนนี้ ทั้งสองคนนั้นพลิกตัวไปมา ต่างคนต่างนอนไม่หลับ

จนกระทั่งฟ้าใกล้จะสาง แต่ละคนจึงได้ผล็อยหลับเข้าไปในความฝันและจินตนาการที่เต็มไปด้วยเรื่องพิเศษเหล่านั้น

หรือว่า ถึงเวลาแล้วเหรอ?

รอจนแผลหายดี ก็…

ตุบตุบตุบ ตุบตุบตุบ

การเคาะประตูหลายครั้งได้ปลุกให้ทั้งสองคนตื่นจากการหลับใหล ติงเมิ่งเหยนมุ่ยปากของเธอ มีอารมณ์เล็กน้อยจากการปลุกให้ตื่น “แม่คะ เคาะทำไมตั้งแต่เช้าเนี่ย?”

ผลลัพธ์คือเสียงที่ดังมาจากด้านนอกนั้นไม่ใช่เสียงของซูฉินแต่คือ…

“พี่สาว หนูเอง ซูสวน”

ซูสวน?

ติงเมิ่งเหยนลุกขึ้นมานั่งในทันทีพร้อมกับสบตากับเจียงชื่อ เด็กคนนี้ทำไมอยู่ดีๆ ถึงมาได้?

“ซูสวน วันนี้มามีอะไรหรือเปล่า?” ติงเมิ่งเหยนใส่เสื้อผ้าพร้อมกับเอ่ยปากพูดออกมา

ซูสวนพูดจากด้านนอกห้อง “ก็แค่คิดถึงพวกพี่เองจึงมาดูพวกพี่หน่อย พี่ ทำไมยังไม่ตื่นอีก?หรือว่าเมื่อคืนพี่ใช้แรงเกินกำลังกับพี่เขยเหรอ?”

“เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย พูดอะไรกันเนี่ย?เป็นสาวเป็นแซ่ไม่รู้จักอายบ้างเลยนะ” ใบหน้าของติงเมิ่งเหยนแดงอีกครั้ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+