จอมนักรบท้าโลก 807 อันดับหนึ่งในสายงาน

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 807 อันดับหนึ่งในสายงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ติงเฟิงเฉิงนั่งลงข้างๆ เจียงชื่อ จากนั้นหยิบกล่องสี่เหลี่ยมสีดำที่ดูสวยงามยื่นออกไป

“อาสามครับ นี่เป็นของขวัญแทนคำอวยพรเล็กๆ จากผมครับ โปรดรับไว้ด้วยนะครับ”

“หืม มันคืออะไร?”

ติงฉี่ซานรับมันมาและเปิดกล่องต่อหน้าทุกคน ด้านในกล่องนั้นคือพู่กันจีนที่เรียบง่ายแต่ดูสวยงามมาก

ซึ่งดูจากภายนอกแล้วมันต้องเป็นของที่ล้ำค่าอย่างแน่นอน

“นี่มัน เฟิงเฉิง พู่กันจีนนี้ไม่ใช่ของถูกใช่ไหม? เอ็งต้องเสียเงินเยอะอีกแล้วล่ะสิ”

ติงเฟิงเฉิงตอบ “ก็แค่พู่กันจีนธรรมดา จะเสียเงินเยอะได้ไงล่ะครับ? ที่สำคัญคืออาสามชอบเขียนอักษรพู่กันจีน ถ้าใช้มัน ก็เหมือนเสือที่ติดปีก ต่อไปผลงานต้องยอดเยี่ยมแน่นอนครับ”

ซูฉินส่ายหัว “เฟิงเฉิงเอ๋ย ฉันคิดว่าเอ็งต้องผิดหวังแล้วล่ะ อาสามของเอ็งชอบเขียนอักษรพู่กันจีนก็จริง แต่ตัวอักษรที่เขาเขียนนั้นดูไม่ได้เลยนะ”

ติงฉี่ซานกลอกตาใส่ “พูดอะไรของคุณ? ผู้หญิงขี้บ่น ผู้ชายเขาคุยกันอยู่ จะมาขัดจังหวะทำไมกัน!”

ซูฉินแสยะยิ้มแต่ไม่สนใจเขา

ครอบครัวรวมตัวกันอย่างมีความสุข และทำให้อาหารอร่อยเป็นพิเศษ

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ผู้คนอีกกลุ่มก็เดินเข้ามา คนที่ยืนอยู่แถวหน้าสุดคือชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งก็คือติงหงเหย้า เจ้าบ้านตระกูลติง และน้องสายของเขาติงจื่อยวี่

ทันทีที่ทั้งสองปรากฏตัว บรรยากาศในงานก็ดูแปลกไป

ทุกคนไม่กล้าพูดเสียงดังอีก แม้แต่ตะเกียบก็ไม่กล้าเหยียดออกไปข้างหน้า กระทั่งทั้งสองเดินไปถึงที่โต๊ะของติงฉี่ซาน ทุกคนถึงจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ช่วยไม่ได้ เพราะคนส่วนใหญ่ในนี้คือพนักงานที่ถูกติงหงเหย้าไล่ออก และยังมีอีกหลายๆ คนเคยถูกติงหงเหย้าทรมานมาก่อน

พวกเขาต่างก็เกลียดติงหงเหย้า แต่กลัวติงหงเหย้ามากกว่า

แม้ว่าเจียงชื่อในตอนนี้พัฒนาแล้ว ติงเฟิงเฉิงเองก็ยกระดับตัวเองขึ้นมาแล้วด้วย แต่ในสายตาของผู้คน ต่อให้เจียงชื่อกับติงเฟิงเฉิงรวมกันก็ไม่อาจเทียบกับติงหงเหย้าได้

ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลอำนาจหรือกลอุบาย รวมไปถึงความมั่งคั่ง

ติงหงเหย้าก็เป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่โดยไม่ต้องสงสัย

ติงหงเหย้าแสร้งไอเบาๆ แล้วพูดขึ้นก่อน “อาสามครับ วันนี้เป็นวันเกิดของอาสาม จัดงานใหญ่ขนาดนี้ ทำไมไม่บอกผมกับจื่อยวี่หน่อยครับ?”

ติงฉี่ซานแสยะยิ้ม “แหม่ รู้ตัวอยู่ว่าข้าไม่ได้เชิญพวกเอ็งมาด้วย การที่ไม่ได้เชิญ แต่พวกเอ็งก็ยังมา มันจะเป็นการไร้มารยาทมากเลยนะ รู้ไหม?”

เป็นการเปิดศึกอย่างเปิดเผย

ในบรรดาของคนตระกูลติง ติงฉี่หมิงเป็นคนโดดเด่นอยู่แล้ว

แม้ว่าคนอื่นจะมีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่ไม่มีใครกล้าพูดตรงๆ เหมือนเขา ต่อให้จะไม่พอใจแค่ไหนก็ต้องเก็บซ่อนมันไว้

แต่ติงฉี่ซานต่างกัน

เขาไม่เคยทำเช่นนั้น ถ้าเขาชอบ เขาจะบอกว่าชอบ แต่ถ้าไม่ เขาก็จะด่าต่อหน้าทันที

นิสัยแบบนี้แตกต่างกับคุณปู่ราวฟ้ากับเหว ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่คุณปู่ไม่ชอบเขา และทำให้เขาต้องออกจากบ้านแล้วไปใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง

แต่ทุกคนรู้นิสัยของติงฉี่ซานดี ดังนั้นจึงไม่รู้สึกแปลกใจ

ติงหงเหย้าก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ได้แต่ยิ้มอย่างไม่แยแส

จากนั้นพูดต่อว่า “นิสัยของอาสามยังไม่เปลี่ยนจริงๆ เลยนะครับ ยังคงซื่อตรงไม่เปลี่ยน แต่ไม่ต้องห่วงครับ วันนี้ผมกับจื่อยวี่ไม่ได้มาก่อกวน เราตั้งใจจะมาอวยพรท่านจริงๆ นะครับ”

ติงจื่อยวี่ก้าวออกมาพูดว่า “อาสาม พวกเราจำได้ว่าท่านชอบโอเปร่าหวงเหมยมาก ดังนั้นเราจึงคัดเลือกตัวเอกของโอเปร่าหวงเหมยมา เขาซื่อคุณ เราตั้งใจจะเชิญเขามาร้องเพลงให้คุณปู่ฟังนะคะ!”

หยูฉงโหลว?

เมื่อทุกคนได้ยินต่างก็ตกตะลึง

เพราะเขาคือศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยทั่วไปแล้ว คนธรรมดาไม่มีปัญญาเชิญเขามาได้อย่างแน่นอน

ในตำนานเล่าว่าบุคคลนี้มีพรสวรรค์ทางศิลปะที่สูงมาก เขาไม่ได้รักในเงินทองหรือศักดิ์ศรีใดๆ เขาแทบไม่ต้องการผลตอบแทนเลยด้วยซ้ำ ขอเพียงเขาได้ร้องเพลงเพื่อความรักในศิลปะของเขา เขาไม่เคยเกรงกลัวเศรษฐีคนไหน และไม่เคยก้มหัวให้ใครอีกด้วย

ดังนั้น การที่จะเชิญเขาออกมาได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว

ที่ผ่านมาผู้คนมากมายอยากชมการแสดงสดของเขา แต่ยังไม่มีโอกาสนั้นเลย ซึ่งสามารถบอกได้ว่า ในวงการโอเปร่าหวงเหมยนั้น หยูฉงโหลวก็คืออันดับหนึ่ง และไม่มีใครในโลกนี้จะเทียบกับเขาได้

แต่ไม่คิดเลยว่าติงหงเหย้าจะเชิญศิลปินแนวหน้าอย่างหยูฉงโหลวคนนี้ออกมาได้

ทุกคนต่างยกนิ้วให้เขา และชื่นชมในความสามารถของเขามาก

ติงฉี่ซานรู้สึกไม่สบายใจมาก

แม้เขาอยากชมการแสดงของหยูฉงโหลวมาก แต่ว่า เขาหวังอยากให้เจียงชื่อเป็นคนเชิญมามากกว่า แต่ไม่ใช่ติงหงเหย้าคนนี้

เพราะนี่มันหมายความว่าอย่างไร?

หมายความว่าติงหงเหย้าอยากจะอวดดี

ภายนอกอาจดูเป็นมิตร แต่ภายในอยากจะพิสูจน์ให้คนอื่นรู้ว่าเขาผู้เป็นติงหงเหย้าสามารถทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้

ที่ผ่านมาติงหงเหย้าพ่ายแพ้ให้กับเจียงชื่อมาหลายครั้ง

แต่ในคืนนี้ เขาจะกู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้ได้ และในขณะเดียวกันเขาจะบอกกับทุกคนว่า ในบรรดาทายาทที่รุ่นเดียวกันกับเขา เขาติงหงเหย้าเป็นอันดับหนึ่ง เจียงชื่อไม่มีวันเทียบกับเขาได้!

ดังนั้น ซึ่งดูเหมือนว่าติงหงเหย้าตั้งใจจะเชิญหยูฉงโหลวมาเพื่ออวยพรวันเกิดของติงฉี่ซาน แต่ในความเป็นจริงนั้นเขาแค่จะมาอวดดี และจะมาแก้แค้นเท่านั้น

ซึ่งในจุดนี้ คนที่มีสายตาเฉียบคมถึงจะมองออกได้

เดิมทีบรรยากาศในงานกำลังราบรื่น แต่ด้วยการมาของติงหงเหย้าทำให้ทุกคนถึงกับกินไม่ลง

ติงฉี่ซานก็วางตะเกียบลง เขาอยากระเบิดอารมณ์ออกมามาก แต่ก็หาเหตุผลที่ดีไม่ได้

เขาด่ายังไง?

คนอื่นอุตส่าห์เชิญหยูฉงโหลวมาให้ นั่นเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาดันไปด่าคนอื่น มันจะไร้เหตุผลเกินไป!

ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งอึดอัดใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบท้าโลก 807 อันดับหนึ่งในสายงาน

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 807 อันดับหนึ่งในสายงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ติงเฟิงเฉิงนั่งลงข้างๆ เจียงชื่อ จากนั้นหยิบกล่องสี่เหลี่ยมสีดำที่ดูสวยงามยื่นออกไป

“อาสามครับ นี่เป็นของขวัญแทนคำอวยพรเล็กๆ จากผมครับ โปรดรับไว้ด้วยนะครับ”

“หืม มันคืออะไร?”

ติงฉี่ซานรับมันมาและเปิดกล่องต่อหน้าทุกคน ด้านในกล่องนั้นคือพู่กันจีนที่เรียบง่ายแต่ดูสวยงามมาก

ซึ่งดูจากภายนอกแล้วมันต้องเป็นของที่ล้ำค่าอย่างแน่นอน

“นี่มัน เฟิงเฉิง พู่กันจีนนี้ไม่ใช่ของถูกใช่ไหม? เอ็งต้องเสียเงินเยอะอีกแล้วล่ะสิ”

ติงเฟิงเฉิงตอบ “ก็แค่พู่กันจีนธรรมดา จะเสียเงินเยอะได้ไงล่ะครับ? ที่สำคัญคืออาสามชอบเขียนอักษรพู่กันจีน ถ้าใช้มัน ก็เหมือนเสือที่ติดปีก ต่อไปผลงานต้องยอดเยี่ยมแน่นอนครับ”

ซูฉินส่ายหัว “เฟิงเฉิงเอ๋ย ฉันคิดว่าเอ็งต้องผิดหวังแล้วล่ะ อาสามของเอ็งชอบเขียนอักษรพู่กันจีนก็จริง แต่ตัวอักษรที่เขาเขียนนั้นดูไม่ได้เลยนะ”

ติงฉี่ซานกลอกตาใส่ “พูดอะไรของคุณ? ผู้หญิงขี้บ่น ผู้ชายเขาคุยกันอยู่ จะมาขัดจังหวะทำไมกัน!”

ซูฉินแสยะยิ้มแต่ไม่สนใจเขา

ครอบครัวรวมตัวกันอย่างมีความสุข และทำให้อาหารอร่อยเป็นพิเศษ

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ผู้คนอีกกลุ่มก็เดินเข้ามา คนที่ยืนอยู่แถวหน้าสุดคือชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งก็คือติงหงเหย้า เจ้าบ้านตระกูลติง และน้องสายของเขาติงจื่อยวี่

ทันทีที่ทั้งสองปรากฏตัว บรรยากาศในงานก็ดูแปลกไป

ทุกคนไม่กล้าพูดเสียงดังอีก แม้แต่ตะเกียบก็ไม่กล้าเหยียดออกไปข้างหน้า กระทั่งทั้งสองเดินไปถึงที่โต๊ะของติงฉี่ซาน ทุกคนถึงจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ช่วยไม่ได้ เพราะคนส่วนใหญ่ในนี้คือพนักงานที่ถูกติงหงเหย้าไล่ออก และยังมีอีกหลายๆ คนเคยถูกติงหงเหย้าทรมานมาก่อน

พวกเขาต่างก็เกลียดติงหงเหย้า แต่กลัวติงหงเหย้ามากกว่า

แม้ว่าเจียงชื่อในตอนนี้พัฒนาแล้ว ติงเฟิงเฉิงเองก็ยกระดับตัวเองขึ้นมาแล้วด้วย แต่ในสายตาของผู้คน ต่อให้เจียงชื่อกับติงเฟิงเฉิงรวมกันก็ไม่อาจเทียบกับติงหงเหย้าได้

ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลอำนาจหรือกลอุบาย รวมไปถึงความมั่งคั่ง

ติงหงเหย้าก็เป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่โดยไม่ต้องสงสัย

ติงหงเหย้าแสร้งไอเบาๆ แล้วพูดขึ้นก่อน “อาสามครับ วันนี้เป็นวันเกิดของอาสาม จัดงานใหญ่ขนาดนี้ ทำไมไม่บอกผมกับจื่อยวี่หน่อยครับ?”

ติงฉี่ซานแสยะยิ้ม “แหม่ รู้ตัวอยู่ว่าข้าไม่ได้เชิญพวกเอ็งมาด้วย การที่ไม่ได้เชิญ แต่พวกเอ็งก็ยังมา มันจะเป็นการไร้มารยาทมากเลยนะ รู้ไหม?”

เป็นการเปิดศึกอย่างเปิดเผย

ในบรรดาของคนตระกูลติง ติงฉี่หมิงเป็นคนโดดเด่นอยู่แล้ว

แม้ว่าคนอื่นจะมีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่ไม่มีใครกล้าพูดตรงๆ เหมือนเขา ต่อให้จะไม่พอใจแค่ไหนก็ต้องเก็บซ่อนมันไว้

แต่ติงฉี่ซานต่างกัน

เขาไม่เคยทำเช่นนั้น ถ้าเขาชอบ เขาจะบอกว่าชอบ แต่ถ้าไม่ เขาก็จะด่าต่อหน้าทันที

นิสัยแบบนี้แตกต่างกับคุณปู่ราวฟ้ากับเหว ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่คุณปู่ไม่ชอบเขา และทำให้เขาต้องออกจากบ้านแล้วไปใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง

แต่ทุกคนรู้นิสัยของติงฉี่ซานดี ดังนั้นจึงไม่รู้สึกแปลกใจ

ติงหงเหย้าก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ได้แต่ยิ้มอย่างไม่แยแส

จากนั้นพูดต่อว่า “นิสัยของอาสามยังไม่เปลี่ยนจริงๆ เลยนะครับ ยังคงซื่อตรงไม่เปลี่ยน แต่ไม่ต้องห่วงครับ วันนี้ผมกับจื่อยวี่ไม่ได้มาก่อกวน เราตั้งใจจะมาอวยพรท่านจริงๆ นะครับ”

ติงจื่อยวี่ก้าวออกมาพูดว่า “อาสาม พวกเราจำได้ว่าท่านชอบโอเปร่าหวงเหมยมาก ดังนั้นเราจึงคัดเลือกตัวเอกของโอเปร่าหวงเหมยมา เขาซื่อคุณ เราตั้งใจจะเชิญเขามาร้องเพลงให้คุณปู่ฟังนะคะ!”

หยูฉงโหลว?

เมื่อทุกคนได้ยินต่างก็ตกตะลึง

เพราะเขาคือศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยทั่วไปแล้ว คนธรรมดาไม่มีปัญญาเชิญเขามาได้อย่างแน่นอน

ในตำนานเล่าว่าบุคคลนี้มีพรสวรรค์ทางศิลปะที่สูงมาก เขาไม่ได้รักในเงินทองหรือศักดิ์ศรีใดๆ เขาแทบไม่ต้องการผลตอบแทนเลยด้วยซ้ำ ขอเพียงเขาได้ร้องเพลงเพื่อความรักในศิลปะของเขา เขาไม่เคยเกรงกลัวเศรษฐีคนไหน และไม่เคยก้มหัวให้ใครอีกด้วย

ดังนั้น การที่จะเชิญเขาออกมาได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว

ที่ผ่านมาผู้คนมากมายอยากชมการแสดงสดของเขา แต่ยังไม่มีโอกาสนั้นเลย ซึ่งสามารถบอกได้ว่า ในวงการโอเปร่าหวงเหมยนั้น หยูฉงโหลวก็คืออันดับหนึ่ง และไม่มีใครในโลกนี้จะเทียบกับเขาได้

แต่ไม่คิดเลยว่าติงหงเหย้าจะเชิญศิลปินแนวหน้าอย่างหยูฉงโหลวคนนี้ออกมาได้

ทุกคนต่างยกนิ้วให้เขา และชื่นชมในความสามารถของเขามาก

ติงฉี่ซานรู้สึกไม่สบายใจมาก

แม้เขาอยากชมการแสดงของหยูฉงโหลวมาก แต่ว่า เขาหวังอยากให้เจียงชื่อเป็นคนเชิญมามากกว่า แต่ไม่ใช่ติงหงเหย้าคนนี้

เพราะนี่มันหมายความว่าอย่างไร?

หมายความว่าติงหงเหย้าอยากจะอวดดี

ภายนอกอาจดูเป็นมิตร แต่ภายในอยากจะพิสูจน์ให้คนอื่นรู้ว่าเขาผู้เป็นติงหงเหย้าสามารถทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้

ที่ผ่านมาติงหงเหย้าพ่ายแพ้ให้กับเจียงชื่อมาหลายครั้ง

แต่ในคืนนี้ เขาจะกู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้ได้ และในขณะเดียวกันเขาจะบอกกับทุกคนว่า ในบรรดาทายาทที่รุ่นเดียวกันกับเขา เขาติงหงเหย้าเป็นอันดับหนึ่ง เจียงชื่อไม่มีวันเทียบกับเขาได้!

ดังนั้น ซึ่งดูเหมือนว่าติงหงเหย้าตั้งใจจะเชิญหยูฉงโหลวมาเพื่ออวยพรวันเกิดของติงฉี่ซาน แต่ในความเป็นจริงนั้นเขาแค่จะมาอวดดี และจะมาแก้แค้นเท่านั้น

ซึ่งในจุดนี้ คนที่มีสายตาเฉียบคมถึงจะมองออกได้

เดิมทีบรรยากาศในงานกำลังราบรื่น แต่ด้วยการมาของติงหงเหย้าทำให้ทุกคนถึงกับกินไม่ลง

ติงฉี่ซานก็วางตะเกียบลง เขาอยากระเบิดอารมณ์ออกมามาก แต่ก็หาเหตุผลที่ดีไม่ได้

เขาด่ายังไง?

คนอื่นอุตส่าห์เชิญหยูฉงโหลวมาให้ นั่นเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาดันไปด่าคนอื่น มันจะไร้เหตุผลเกินไป!

ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งอึดอัดใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+