สามีข้า คือพรานป่าตอนที่346 เศษสวะ

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter ตอนที่346 เศษสวะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 346 เศษสวะ

หยุนเถียนเถียนถอนหายใจยาว “หยุนเคอ ทว่าทั้งเจ้าและข้าต่างก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ ดังนั้นเราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องความรู้สึกกันตอนนี้ได้ไหม?”

มู่หรงหยนเคอเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงที่แหบแห้งยิ่งกว่าเดิม

“เอาล่ะ! เมื่อคืนข้าคิดว่าข้าคงเหนื่อยเกินไปจนเผลอหลับข้างเจ้า ข้าจะไม่ทําเช่นนี้อีก”

หยุนเสียนเกียนยกยิ้มแสดงความขอบคุณ “หยุนเคอ… อันที่จริงข้าก็รู้ว่าตราบใดที่เราทั้งสองอยู่ใกล้ชิดกัน ข้าก็แทบจะหักห้ามใจตนเองไว้ไม่อยู่ ทว่าหากเจ้ากับข้ามีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดก็ย่อมไม่อาจใช้ชีวิตร่วมกันเช่นนั้นได้”

มู่หรงหยุนเคอพยักหน้า “ข้ารู้ดี ทว่าเถียนเถียน… ข้าเชื่อในสิ่งที่ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่มีทางเป็นน้องสาวของข้าแน่นอน ทว่าเพื่อความสบายใจของเจ้าจึงต้องหาหลักฐานมายืนยันให้ได้เสียก่อน ซึ่งข้าเองก็เห็นด้วย ไม่ว่าเจ้าจะเป็นน้องสาวหรือภรรยาของข้าความปลอดภัยของเจ้าก็เป็นสิ่งสําคัญที่สุด หากเซิ่นสิ่งยังไม่กลับมาข้าจะคอยอยู่เคียงข้างเจ้าเอง!”

หยุนเถียนเถียนอยากจะปฏิเสธทว่ามู่หรงหยุนเคอรีบกล่าวต่อ “มั่นใจได้ว่าข้าจะไม่นอนร่วมห้องกับเจ้า ข้าพร้อมปกป้องเจ้าจากภัยอันตรายโดยจะนอนแยกห้องกับเจ้า ตกลงไหม?”

ความจริงแล้วมู่หรงหยุนเคอมีผลประโยชน์ส่วนตัวแอบแฝง เพราะตราบใดที่เขาอยู่ใกล้สาวน้อยผู้นี้ก็จะได้คอยเป็นก้างขวางคอไม่ให้ชายใดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับนางมากเกินไปนั่นเอง

บัดนี้หยุนเคออดนึกชมตนเองไม่ได้ว่าเป็นคนรอบคอบนัก ปกติหยุนเถียนเถียนก็เป็นคนปฏิเสธไม่เก่งอยู่แล้ว แม้นางจะลังเลทว่าสุดท้ายก็พยักหน้ารับ

เมื่อนึกถึงการลอบสังหารที่เกิดขึ้น นางก็นึกได้ว่าตนคงไม่อาจหนีรอดมาได้แน่หากไม่พึ่งพาตนเอง แม้จะมีรัฐทายาทอยู่ด้วยทว่าเขาก็ไม่อาจช่วยเหลือนางได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นคงจะดีกว่าหากมีหยุนเคอคอยช่วยปกป้องอีกคน

มู่หรงหยุนเคอรู้สึกภูมิใจเล็กน้อยเพราะในที่สุดเขาก็บรรลุเป้าหมาย ทว่าเขากลับไม่แสดงออกทางสีหน้าเลย

ขณะนี้สถานการณ์ที่นี่ดูสงบเรียบร้อยแล้ว ทว่าในชั้นใต้ดินของบ่อนที่อยู่ไม่ไกลกลับไม่สงบสุขนัก

คนชุดดําที่ได้รับบาดเจ็บเดินเข้าไปในห้องใต้ดิน เจ้าเมืองหลงยืนคอยอยู่ก่อนแล้วในห้องนั้น

เจ้าเมืองหลงเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าถมึงทึง “แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียวพวกเจ้าก็ยังไม่อาจจับตัวมาได้อย่างนั้นหรือ? ยกพวกไปตั้งมากมายก็ยังไม่อาจเอาชนะองครักษ์ฝีมืออ่อนหัดเช่นนั้นได้ พวกเจ้าช่างเก่งกาจกันเสียจริง!”

คนชุดดํากัดฟันกรอด “นายท่าน พวกเราเกือบทําสําเร็จแล้วเพียงแต่สตรีผู้นั้นฉลาดแกมโกงนัก นางไม่หวาดหวั่นแม้จะถูกมีดจ่อคอทว่ายังหาหนทางหนีรอดไปได้!”

เจ้าเมืองหลงตกใจจนตาเบิกโพลงเมื่อได้ยินว่าหญิงสาวถูกใครบางคนเอามีดจ่อคอ เขาถามเสียงดังว่า “เจ้าเอามีดไปจ่อคอนางจริง ๆ หรือ? เจ้าไม่ได้ทําร้ายนางใช่หรือไม่?”

แม้คนชุดดําจะไม่เต็มใจบอกทว่าเขาก็ไม่กล้าโกหกจึงตอบอ้อมแอ้มว่า “มันเป็นเพียงรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย สตรีผู้นั้นคงจะไม่เป็นอะไรนัก”

ทว่าเจ้าเมืองหลงตบโต๊ะอย่างดุดัน “เจ้ากล้าทําร้ายนาง! มานี่ เอาตัวมันไปโบยสักสามสิบไม้! ดีเหมือนกันจะได้ทวนความจําให้เจ้ารู้ว่าใครที่เจ้าไม่อาจแตะต้องได้!”

คนชุดดําคํานับอย่างไม่ขัดขืนแม้จะรู้ว่าตนถูกสั่งประหารชีวิตแล้วก็ตาม แม้แต่ตอนที่ท่อนไม้ทุบลงกลางหลังก็ไม่ร้องออกมาแม้แต่คําเดียว

เจ้าเมืองหลงเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกงุนงงระคนเดือดดาล จึงใช้มือกวาดทุกสิ่งบนโต๊ะลงพื้นจนแตกกระจาย จากนั้นเขาก็หยิบรูปเหมือนภาพหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก หน้าตาของสตรีในรูปคล้ายกับหยุนเถียนเถียนราวกับเป็นคนคนเดียวกัน

“หยุนจิงเอ่อ เจ้าคิดว่าเจ้าตายไปแล้วจะหนีรอดไปได้อย่างนั้นหรือ? ฮี! เจ้าเศษสวะพวกนั้นยังไม่อาจจัดการแม้เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้ เห็นทีข้าต้องลงมือเองเสียแล้ว!”

เจ้าเมืองหลงรีบเก็บเสื้อผ้าก่อนจะหนีออกไปทางประตูห้องใต้ดิน เขาพยายามเร่งเดินทางไปยังหมู่บ้านเทพธิดา

ว่ากันว่าผู้ที่มีชีวิตยากล่ามากที่สุดในหมู่บ้านเทพธิดา ไม่ใช่คนยากไร้ที่ไม่มีแม้แต่อาหารประทังชีวิตทว่าคือเฉินเจียวเฉียว

นางสร้างความบาดหมางกับแม่ของตนเมื่อนานมาแล้ว สุดท้ายก็แต่งงานกับหลี่เฟิงเพราะหวังจะได้ทรัพย์สมบัติมาปรนเปรอครอบครัว จึงทําให้หลี่ชุนเกี่ยวผู้เป็นแม่ปฏิบัติต่อนางดีขึ้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามข่าวการล้มละลายของหลี่เพิ่งก็ยังไม่แพร่มาถึงหมู่บ้านเทพธิดา ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็มาถึงจนได้ในวันหนึ่ง

นางไม่คาดฝันมาก่อนว่าเศรษฐีผู้มั่งคั่งอย่างหลี่เพิ่งจะสามารถล้มละลายลงได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ เฉินเจียวเจียวเดินทางไปสู่เฉิงเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ น่าเสียดายที่นางมีฐานะเป็นเพียงนางบําเรอผู้น่าละอาย ดังนั้นเมื่อนางไปสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่มีใครพูดอะไรกับนางเลย

ท้ายที่สุดนางก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับมาด้วยความสิ้นหวัง เงินทองที่เคยมีก็หมดสิ้นไปนานแล้ว บัดนี้นางจึงไม่มีที่ไปนอกจากจะหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านของตน

ภรรยาของเฉินฉ่เกินเฝ้าดูลูกสาวของตนอย่างไม่พอใจมานานแล้ว นางใช้เงินของตัวเองสั่งให้ทุกคนต้องพินอบพิเทา

ทว่าบัดนี้เฉินเจียวเจียวไม่มีเงินทองอีกต่อไปแล้ว ภรรยาของเฉินฉ่เกินย่อมเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นธรรมดา นางไม่เพียงแต่ให้เฉินเจียวเจียวกินอาหารชั้นเลวที่สุด ทว่ายังให้ลูกสาวท้องโย้ของตนทํางานหนักด้วย โชคดีที่เฉินเจียวเจียวเป็นคนสุขภาพแข็งแรง เด็กในท้องของนางจึงยังคงมีชีวิตอยู่แม้ว่านางจะทํางานหนักถึงเพียงนั้น

ทว่าเฉินเจียวเจียวก็รู้อยู่แก่ใจว่าผู้ที่ทําลายชีวิตอันแสนสุขสบายของนางต้องเป็นหยุนเถียนเถียน เพราะนางได้ยินชัดเจนว่านายน้อยหลี่เป็นตัวการทําให้หลี่เฟิงต้องล้มละลาย ดังนั้นต้อง ป็นหยุนเถียนเถียนแน่ที่ยุยงนายน้อยหลีให้ทําเช่นนั้น

บัดนี้เด็กในท้องของนางอายุได้หนึ่งเดือนแล้ว แม้ว่านางจะไม่ต้องการเด็กคนนี้ทว่าก็ยังไม่กล้าท่าแท้ง เพราะแม่ของนางเตือนไว้ว่าหากลูกอายุหนึ่งเดือนแล้วทําแท้งอาจจะส่งผลร้ายถึงชีวิตของนางได้ นางคิดว่าตนยังเด็กนักจึงยังไม่อยากเสียงปลิดชีวิตตนเองตอนนี้

นางนั่งท้องโย้ซักผ้าอยู่ริมล่าธาร ช่วงเวลานี้คนอื่นเก็บผ้ากลับบ้านไปกันหมดแล้ว ริมล่าธารจึงแทบไม่มีผู้ใดเลย

เจ้าเมืองหลงปรากฏตัวข้าง ๆ เฉินเจียวเจียว นางรู้จักเขาในฐานะบุคคลที่คอยดูแลช่วยเหลือหยุนเถียนเถียน

“หยุนเกียนเถียนส่งเจ้ามาทําร้ายข้าหรือ? ข้าต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้วยังมีเหตุผลใดที่นางจะมาใส่ร้ายข้าอีก?

เจ้าเมืองหลงแสยะยิ้ม “แม่นางเฉิน… เมื่อก่อนข้าต้องการจะปกป้องสตรีผู้นั้น ทว่าบัดนี้จุดประสงค์ของข้าเหมือนกับเจ้า!”

“นางทําให้ชีวิตของเจ้าต้องตกระกําาล่าบากเช่นนี้ เจ้าไม่ต้องการจะแก้แค้นหรือ? บัดนี้โอกาสดีมาถึงแล้ว!

ความเกลียดชังสะสมในใจของเฉินเจียวเจียวมาเนิ่นนาน เมื่อนางได้ยินดังนั้นจึงรีบถามขึ้นทันที “โอกาสอะไร? บัดนี้นางอยู่ที่บ้านพักของนายน้อยหลี่ เพียงแค่จะพบหน้านางยังยากสําหรับข้า”

“เจ้าสามารถใช้เด็กในท้องของเจ้าเป็นตัวล่อให้นางออกมาได้! เจ้าต้องกินอาหารที่ดีเพื่อให้ท้องของเจ้าดูใหญ่ขึ้นกว่านี้ จากนั้นก็จงไปที่หน้าบ้านนั้นแล้วบอกว่ามาเพื่อตามหาหยุนเคอ โดยบอกกับทุกคนว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขาจริง ๆ”

ดวงตาของเฉินเจียวเจียวเป็นประกาย หรือว่าข้าจะยังมีโอกาสได้หยุนเคอ ข้าเคยเห็นใบหน้า ที่แท้จริงของเขามาก่อนเมื่อเขาไร้หนวดเครารุงรัง… ข้าจะไม่ยอมปล่อยชายหนุ่มผู้หล่อเหลาเช่นนั้นไปแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่าตอนที่346 เศษสวะ

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter ตอนที่346 เศษสวะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 346 เศษสวะ

หยุนเถียนเถียนถอนหายใจยาว “หยุนเคอ ทว่าทั้งเจ้าและข้าต่างก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ ดังนั้นเราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องความรู้สึกกันตอนนี้ได้ไหม?”

มู่หรงหยนเคอเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงที่แหบแห้งยิ่งกว่าเดิม

“เอาล่ะ! เมื่อคืนข้าคิดว่าข้าคงเหนื่อยเกินไปจนเผลอหลับข้างเจ้า ข้าจะไม่ทําเช่นนี้อีก”

หยุนเสียนเกียนยกยิ้มแสดงความขอบคุณ “หยุนเคอ… อันที่จริงข้าก็รู้ว่าตราบใดที่เราทั้งสองอยู่ใกล้ชิดกัน ข้าก็แทบจะหักห้ามใจตนเองไว้ไม่อยู่ ทว่าหากเจ้ากับข้ามีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดก็ย่อมไม่อาจใช้ชีวิตร่วมกันเช่นนั้นได้”

มู่หรงหยุนเคอพยักหน้า “ข้ารู้ดี ทว่าเถียนเถียน… ข้าเชื่อในสิ่งที่ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่มีทางเป็นน้องสาวของข้าแน่นอน ทว่าเพื่อความสบายใจของเจ้าจึงต้องหาหลักฐานมายืนยันให้ได้เสียก่อน ซึ่งข้าเองก็เห็นด้วย ไม่ว่าเจ้าจะเป็นน้องสาวหรือภรรยาของข้าความปลอดภัยของเจ้าก็เป็นสิ่งสําคัญที่สุด หากเซิ่นสิ่งยังไม่กลับมาข้าจะคอยอยู่เคียงข้างเจ้าเอง!”

หยุนเถียนเถียนอยากจะปฏิเสธทว่ามู่หรงหยุนเคอรีบกล่าวต่อ “มั่นใจได้ว่าข้าจะไม่นอนร่วมห้องกับเจ้า ข้าพร้อมปกป้องเจ้าจากภัยอันตรายโดยจะนอนแยกห้องกับเจ้า ตกลงไหม?”

ความจริงแล้วมู่หรงหยุนเคอมีผลประโยชน์ส่วนตัวแอบแฝง เพราะตราบใดที่เขาอยู่ใกล้สาวน้อยผู้นี้ก็จะได้คอยเป็นก้างขวางคอไม่ให้ชายใดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับนางมากเกินไปนั่นเอง

บัดนี้หยุนเคออดนึกชมตนเองไม่ได้ว่าเป็นคนรอบคอบนัก ปกติหยุนเถียนเถียนก็เป็นคนปฏิเสธไม่เก่งอยู่แล้ว แม้นางจะลังเลทว่าสุดท้ายก็พยักหน้ารับ

เมื่อนึกถึงการลอบสังหารที่เกิดขึ้น นางก็นึกได้ว่าตนคงไม่อาจหนีรอดมาได้แน่หากไม่พึ่งพาตนเอง แม้จะมีรัฐทายาทอยู่ด้วยทว่าเขาก็ไม่อาจช่วยเหลือนางได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นคงจะดีกว่าหากมีหยุนเคอคอยช่วยปกป้องอีกคน

มู่หรงหยุนเคอรู้สึกภูมิใจเล็กน้อยเพราะในที่สุดเขาก็บรรลุเป้าหมาย ทว่าเขากลับไม่แสดงออกทางสีหน้าเลย

ขณะนี้สถานการณ์ที่นี่ดูสงบเรียบร้อยแล้ว ทว่าในชั้นใต้ดินของบ่อนที่อยู่ไม่ไกลกลับไม่สงบสุขนัก

คนชุดดําที่ได้รับบาดเจ็บเดินเข้าไปในห้องใต้ดิน เจ้าเมืองหลงยืนคอยอยู่ก่อนแล้วในห้องนั้น

เจ้าเมืองหลงเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าถมึงทึง “แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียวพวกเจ้าก็ยังไม่อาจจับตัวมาได้อย่างนั้นหรือ? ยกพวกไปตั้งมากมายก็ยังไม่อาจเอาชนะองครักษ์ฝีมืออ่อนหัดเช่นนั้นได้ พวกเจ้าช่างเก่งกาจกันเสียจริง!”

คนชุดดํากัดฟันกรอด “นายท่าน พวกเราเกือบทําสําเร็จแล้วเพียงแต่สตรีผู้นั้นฉลาดแกมโกงนัก นางไม่หวาดหวั่นแม้จะถูกมีดจ่อคอทว่ายังหาหนทางหนีรอดไปได้!”

เจ้าเมืองหลงตกใจจนตาเบิกโพลงเมื่อได้ยินว่าหญิงสาวถูกใครบางคนเอามีดจ่อคอ เขาถามเสียงดังว่า “เจ้าเอามีดไปจ่อคอนางจริง ๆ หรือ? เจ้าไม่ได้ทําร้ายนางใช่หรือไม่?”

แม้คนชุดดําจะไม่เต็มใจบอกทว่าเขาก็ไม่กล้าโกหกจึงตอบอ้อมแอ้มว่า “มันเป็นเพียงรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย สตรีผู้นั้นคงจะไม่เป็นอะไรนัก”

ทว่าเจ้าเมืองหลงตบโต๊ะอย่างดุดัน “เจ้ากล้าทําร้ายนาง! มานี่ เอาตัวมันไปโบยสักสามสิบไม้! ดีเหมือนกันจะได้ทวนความจําให้เจ้ารู้ว่าใครที่เจ้าไม่อาจแตะต้องได้!”

คนชุดดําคํานับอย่างไม่ขัดขืนแม้จะรู้ว่าตนถูกสั่งประหารชีวิตแล้วก็ตาม แม้แต่ตอนที่ท่อนไม้ทุบลงกลางหลังก็ไม่ร้องออกมาแม้แต่คําเดียว

เจ้าเมืองหลงเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกงุนงงระคนเดือดดาล จึงใช้มือกวาดทุกสิ่งบนโต๊ะลงพื้นจนแตกกระจาย จากนั้นเขาก็หยิบรูปเหมือนภาพหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก หน้าตาของสตรีในรูปคล้ายกับหยุนเถียนเถียนราวกับเป็นคนคนเดียวกัน

“หยุนจิงเอ่อ เจ้าคิดว่าเจ้าตายไปแล้วจะหนีรอดไปได้อย่างนั้นหรือ? ฮี! เจ้าเศษสวะพวกนั้นยังไม่อาจจัดการแม้เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้ เห็นทีข้าต้องลงมือเองเสียแล้ว!”

เจ้าเมืองหลงรีบเก็บเสื้อผ้าก่อนจะหนีออกไปทางประตูห้องใต้ดิน เขาพยายามเร่งเดินทางไปยังหมู่บ้านเทพธิดา

ว่ากันว่าผู้ที่มีชีวิตยากล่ามากที่สุดในหมู่บ้านเทพธิดา ไม่ใช่คนยากไร้ที่ไม่มีแม้แต่อาหารประทังชีวิตทว่าคือเฉินเจียวเฉียว

นางสร้างความบาดหมางกับแม่ของตนเมื่อนานมาแล้ว สุดท้ายก็แต่งงานกับหลี่เฟิงเพราะหวังจะได้ทรัพย์สมบัติมาปรนเปรอครอบครัว จึงทําให้หลี่ชุนเกี่ยวผู้เป็นแม่ปฏิบัติต่อนางดีขึ้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามข่าวการล้มละลายของหลี่เพิ่งก็ยังไม่แพร่มาถึงหมู่บ้านเทพธิดา ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็มาถึงจนได้ในวันหนึ่ง

นางไม่คาดฝันมาก่อนว่าเศรษฐีผู้มั่งคั่งอย่างหลี่เพิ่งจะสามารถล้มละลายลงได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ เฉินเจียวเจียวเดินทางไปสู่เฉิงเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ น่าเสียดายที่นางมีฐานะเป็นเพียงนางบําเรอผู้น่าละอาย ดังนั้นเมื่อนางไปสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่มีใครพูดอะไรกับนางเลย

ท้ายที่สุดนางก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับมาด้วยความสิ้นหวัง เงินทองที่เคยมีก็หมดสิ้นไปนานแล้ว บัดนี้นางจึงไม่มีที่ไปนอกจากจะหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านของตน

ภรรยาของเฉินฉ่เกินเฝ้าดูลูกสาวของตนอย่างไม่พอใจมานานแล้ว นางใช้เงินของตัวเองสั่งให้ทุกคนต้องพินอบพิเทา

ทว่าบัดนี้เฉินเจียวเจียวไม่มีเงินทองอีกต่อไปแล้ว ภรรยาของเฉินฉ่เกินย่อมเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นธรรมดา นางไม่เพียงแต่ให้เฉินเจียวเจียวกินอาหารชั้นเลวที่สุด ทว่ายังให้ลูกสาวท้องโย้ของตนทํางานหนักด้วย โชคดีที่เฉินเจียวเจียวเป็นคนสุขภาพแข็งแรง เด็กในท้องของนางจึงยังคงมีชีวิตอยู่แม้ว่านางจะทํางานหนักถึงเพียงนั้น

ทว่าเฉินเจียวเจียวก็รู้อยู่แก่ใจว่าผู้ที่ทําลายชีวิตอันแสนสุขสบายของนางต้องเป็นหยุนเถียนเถียน เพราะนางได้ยินชัดเจนว่านายน้อยหลี่เป็นตัวการทําให้หลี่เฟิงต้องล้มละลาย ดังนั้นต้อง ป็นหยุนเถียนเถียนแน่ที่ยุยงนายน้อยหลีให้ทําเช่นนั้น

บัดนี้เด็กในท้องของนางอายุได้หนึ่งเดือนแล้ว แม้ว่านางจะไม่ต้องการเด็กคนนี้ทว่าก็ยังไม่กล้าท่าแท้ง เพราะแม่ของนางเตือนไว้ว่าหากลูกอายุหนึ่งเดือนแล้วทําแท้งอาจจะส่งผลร้ายถึงชีวิตของนางได้ นางคิดว่าตนยังเด็กนักจึงยังไม่อยากเสียงปลิดชีวิตตนเองตอนนี้

นางนั่งท้องโย้ซักผ้าอยู่ริมล่าธาร ช่วงเวลานี้คนอื่นเก็บผ้ากลับบ้านไปกันหมดแล้ว ริมล่าธารจึงแทบไม่มีผู้ใดเลย

เจ้าเมืองหลงปรากฏตัวข้าง ๆ เฉินเจียวเจียว นางรู้จักเขาในฐานะบุคคลที่คอยดูแลช่วยเหลือหยุนเถียนเถียน

“หยุนเกียนเถียนส่งเจ้ามาทําร้ายข้าหรือ? ข้าต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้วยังมีเหตุผลใดที่นางจะมาใส่ร้ายข้าอีก?

เจ้าเมืองหลงแสยะยิ้ม “แม่นางเฉิน… เมื่อก่อนข้าต้องการจะปกป้องสตรีผู้นั้น ทว่าบัดนี้จุดประสงค์ของข้าเหมือนกับเจ้า!”

“นางทําให้ชีวิตของเจ้าต้องตกระกําาล่าบากเช่นนี้ เจ้าไม่ต้องการจะแก้แค้นหรือ? บัดนี้โอกาสดีมาถึงแล้ว!

ความเกลียดชังสะสมในใจของเฉินเจียวเจียวมาเนิ่นนาน เมื่อนางได้ยินดังนั้นจึงรีบถามขึ้นทันที “โอกาสอะไร? บัดนี้นางอยู่ที่บ้านพักของนายน้อยหลี่ เพียงแค่จะพบหน้านางยังยากสําหรับข้า”

“เจ้าสามารถใช้เด็กในท้องของเจ้าเป็นตัวล่อให้นางออกมาได้! เจ้าต้องกินอาหารที่ดีเพื่อให้ท้องของเจ้าดูใหญ่ขึ้นกว่านี้ จากนั้นก็จงไปที่หน้าบ้านนั้นแล้วบอกว่ามาเพื่อตามหาหยุนเคอ โดยบอกกับทุกคนว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขาจริง ๆ”

ดวงตาของเฉินเจียวเจียวเป็นประกาย หรือว่าข้าจะยังมีโอกาสได้หยุนเคอ ข้าเคยเห็นใบหน้า ที่แท้จริงของเขามาก่อนเมื่อเขาไร้หนวดเครารุงรัง… ข้าจะไม่ยอมปล่อยชายหนุ่มผู้หล่อเหลาเช่นนั้นไปแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+