สามีข้า คือพรานป่า 398 แผนของคู่ชิว

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 398 แผนของคู่ชิว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 398 แผนของคู่ชิว

“แม่นางหยุน เจ้าคงไม่รู้หรอก! ผู้หญิงที่ไม่มีลูกชายคนนี้ไม่สามารถเงยหน้าได้ในบ้านของสามี! ไม่ว่าข้าจะทําอันใด แม่สามีมักจะคิดว่าข้าทําผิดเสมอ!”

หยนเถียนเถียนเริ่มร้อนใจขึ้นมา เมื่อเห็นว่ามันเป็นความผิดของอีกฝ่ายที่ไม่มีความกล้าเองทำให้ถูกข่มเหง แล้วจะให้นางช่วยอันใดได้?

“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะลําบากอย่างไร แต่ร่างกายของเจ้าในตอนนี้ดูไม่ได้เลย! หากยังทําต่อไปอาจเกิดปัญหาขึ้น ไม่แน่ว่าแม่สามีของเจ้าจะมาสร้างเรื่องให้ข้าอีก! อันที่จริงข้าไม่เคยกลัวอันใด แต่ข้าไม่อยากมีปัญหาต่างหาก!”

กู่ชิวรู้สึกสับสนจึงรีบพูด “ได้! ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ข้าจะไม่โทษแม่นางเป็นอันขาด! กรุณามอบหมายงานให้ข้าตอนนี้ด้วยเถิด!”

หยุนเถียนเถียนถึงกับจนปัญญา และไม่เข้าใจว่าบางคนเกิดมาเหตุใดจึงไร้สมองเช่นนี้! แม้นางจะพร่ําบ่นว่าคนอื่นไม่ดีต่อนาง แต่ยังคงทําตัวเป็นวัวเป็นม้ารับใช้อย่างสุดหัวใจ!

เฉินผิงเหอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดว่า “เช่นนั้นจงไปถอนหญ้าในที่ดินแปลงหนึ่งที่ยังไม่ได้กําจัดวัชพืช! งานประเภทนี้ค่อนข้างง่ายเจ้าคงพอทําได้!”

กู่ชิวซาบซึ้งจนน้ําตาคลอเบ้า “ขอบคุณพี่เฉินมาก!”

มุมปากของเฉินผิงเหอถึงกับกระตุกด้วยท่าทางเย้ายวนนี้ หากเป็นเด็กสาวที่อายุน้อยแล้วล่ะก็แน่นอนว่าต้องน่ายินดีอย่างแน่นอน!

ทว่ากู่ชิวผู้นี้อายุไม่น้อยแล้ว หลังจากทํางานหนักมาหลายปี ร่างกายของนางจึงดูแก่กว่าอายุจริง! อีกทั้งผิวหน้ายังถูกแดดเผาจนดําคล้ําและเสื้อผ้าทั้งชุดถูกซักจนขาวโพลนแล้ว!

หยุนเถียนเถียนยิ้มอย่างจนปัญญา เมื่อเจอมารดาที่ไม่รู้ตัวแบบนี้ เกรงว่าชีวิตความเป็นอยู่ของเอ้อหยาคงจะลําบากโดยมิต้องสงสัย

หลังจากเฉินผิงเหอถูกกู่ชิวหว่านเสน่ห์ จู่ ๆ เขาพลันนึกขึ้นได้จึงหันหน้าไปพูดกับหยุ นเถียนเถียนว่า “ข้าเห็นกู่ชิวผู้นี้ทํางานอย่างสุดกําลัง ดังนั้นปกติแล้วข้าจะพาเอ้อหยามากินข้าวด้วยกัน แต่นางกลับไม่ยอม! ข้าคิดว่าเด็กสาวตัวน้อยคงไม่มีอาหารกินมากนัก!”

หยุนเถียนเถียนพยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่สนใจรายละเอียดเหล่านี้มากนัก ยิ่งเป็นเด็กคนนั้นที่หิวจนหน้าเหลืองและผอมบาง นางยิ่งไม่ใส่ใจ แต่ปกติแล้วนางไม่ใช่คนใจร้ายถึงเพียงนี้!

ทว่าตอนที่กู่ชิวเข้าไปในทุ่งบังเอิญชนเข้ากับเฉินเฉินที่เข้ามาทางประตูหน้าพอดี!

แน่นอนว่านางสามารถจําได้ว่านี่คือบุตรชายของหลินชวนฮวา! เพียงปีเดียวเด็กคนนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว และตอนนี้มีกลิ่นอายของนายน้อยผู้หนึ่งแล้ว!

ดวงตาคู่นั้นของกู่ชิวแทบจะติดบนตัวของเฉินเฉินไป!

สําหรับเฉินเฉินไม่ได้รู้สึกว่าตนเองมีอันใดเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน แม้ผู้คนในหมู่บ้านจะให้ความสนใจในตัวเขาอยู่บ้าง!

ทว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกัน นางยืนอยู่ตรงหน้าเขาเพื่อขวางทาง! “เฉินเฮ่อ เจ้าคือเฉินเอ๋อใช่หรือไม่? ข้าคือป้าคู่ของเจ้า! ข้าเคยอุ้มเจ้าตอนที่เจ้ายังเล็ก!”

เฉินเฉินเหมือนจะจําคนผู้นี้ได้และความประทับใจอันยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือนางชอบร้องไห้และขี้บ่น!

“โอไ มีอันใดให้ช่วยเช่นนั้นหรือ?”

เมื่อนึกถึงหลินชวนฮวา สีหน้าของเฉินเฉินพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที!

ทว่ากู่ชิวกลับไม่ได้รู้สึกว่ามีอันใดผิดปกติ แต่กลับเล่าเรื่องในอดีตขึ้นมาอย่างตื่นเต้น!

“เมื่อก่อนข้ากับท่านแม่ของเจ้าสนิทกันมาก แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายนางจะลงเอยเช่นนี้! จะว่าไปนางก็เป็นแค่ผู้หญิงที่น่าสงสารกลุ่มหนึ่ง แต่เจ้ายังจ่าเอ้อหยาได้หรือไม่? เมื่อก่อนนางมักจะเดินตามกันและเรียกเจ้าว่าพี่เฉิน พี่เฉิน!”

เฉินเฉินขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “มีอันใดอีกหรือไม่? ถ้าไม่มีแล้วโปรดหลีกทางด้วย ข้าต้องกลับไปเรียนหนังสือ!”

หนุ่มน้อยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายปฏิเสธ เขารีบเดินอ้อมไปด้านข้างแล้วหลบเข้าไปในห้อง และปิดประตูทันที!

เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เป็นเพียงเรื่องที่ไม่มีความสําคัญสําหรับเขา แต่ผู้มีพรสวรรค์ในวัยเยาว์ผู้นี้ได้ประทับตราแห่งความหวังไว้ในหัวใจของคู่ชิวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!

แน่นอนว่านางไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น เพียงแต่นึกขึ้นได้ว่าตอนที่นางกับหลินชวนฮวาดีกัน นางเคยพูดติดตลกว่าอยากให้สองครอบครัวเป็นทองแผ่นเดียวกัน!

หากเป็นเมื่อก่อนเด็กผอมแห้งเช่นนี้ นางยังไม่รู้ว่าจะเลี้ยงจนโตได้หรือไม่ แน่นอนว่านางไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องการแต่งงานนี้!

ทว่าตอนนี้เฉินเฉินคือผู้มีพรสวรรค์และที่สําคัญกว่านั้นคือเขามีโอกาสสอบเข้าเป็นขุนนางได้ตั้งแต่อายุยังน้อย! ได้ยินเฉินผิงเหอบอกกับพวกเขาว่า หากไม่ใช่เพราะพลาดการสอบฤดูใบไม้ร่วงครั้งนี้ ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายคงเป็นถึงผู้มียศถาบรรดาศักดิ์แล้ว!

หากบุตรสาวของนางสามารถไขว่คว้าผู้มีอํานาจวาสนาเช่นนี้ได้ ไม่แน่ว่าฐานะของนางในตระกูลสามีอาจจะสูงขึ้น!

เมื่อความคิดดังกล่าวหยั่งรากแล้วมันย่อมงอกเงยขึ้นตามธรรมชาติ และแน่นอนว่าจะต้องเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สูงตระหง่าน!

กู่ชิวชําเลืองมองเอ้อหยาที่กําลังนั่งเล่นอยู่บริเวณมุมห้อง! เขาอายุเก้าขวบเศษยังมีพรสวรรค์มากแล้ว ส่วนคนที่ไม่เอาไหนเช่นบุตรสาวของนางยังนั่งนับมดอยู่ตรงมุมห้อง!

แต่ถึงเอ้อหยาจะผ่ายผอม อย่างไรเสียนางก็เป็นหญิงสาวและหน้าตาไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด ไม่แน่ว่าหลังจากแต่งหน้าแต่งตัวให้ดูดีขึ้น นางอาจอาศัยมิตรภาพในอดีตทําให้งานแต่งครั้งนี้เกิดขึ้นได้

ดังนั้นสิ่งที่ต้องรีบทําในตอนนี้คือแต่งตัวสาวน้อยผู้นี้ให้เรียบร้อย และวางแผนให้หยุ นเถียนเถียนติดหนี้บุญคุณของนางด้วย! กู่ชิวครุ่นคิดอยู่ในใจก่อนขุดจอบลงบนพื้น!

ตกกลางคืน เรื่องเงินงานย่อมมีเฉินผิงเหอคอยจัดการอยู่ ส่วนหยุนเถียนเถียนนั่งอยู่ตรงหน้ามองดูคนที่กําลังสับมันเทศให้เป็นผง! จากนั้นบรรจุลงในถังขนาดใหญ่เพื่อรอให้แป้งมันเทศตกตะกอน!

เมื่อเฉินผิงเหอเดินออกมา คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันขณะในมือของเขายังมีเหรียญทองแดงอยู่ยี่สิบเหรียญ!

“เถียนเถียน ข้าไม่รู้ว่าคู่ชิวผู้นั้นเป็นอันใด เมื่อก่อนทํางานแทบตายเพราะอยากได้เงิน แม้เหรียญทองแดงสักเหรียญก็อย่าคิดว่าจะเอาออกมาจากมือนางได้ แต่วันนี้กลับไม่ยอมรับมันแล้ว ยังบอกข้าให้เอากลับมาให้เจ้าอีก!”

“ข้าไม่รู้ว่าคนผู้นี้กําลังคิดอันใดอยู่! เป็นไปได้หรือไม่ที่นางกลัวว่าเจ้าจะไม่ต้องการนาง ดังนั้น จึงเอาใจเจ้าด้วยวิธีนี้?”

หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะสงสัยว่า เรื่องนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิด!

หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้วนางได้กล่าวว่า “ท่านเตรียมกล่องเพื่อเก็บเงินทั้งหมดของนางที่ได้จากการทํางานทั้งหมดและจดบันทึกไว้อย่างชัดเจน! เมื่อถึงตอนนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นมาจริง เราโยนมันให้นางก็สิ้นเรื่อง ถึงอย่างไรข้าย่อมไม่สนใจเงินเหล่านี้อยู่แล้ว!”

เฉินผิงเหอพยักหน้าซ้ําแล้วซ้ําเล่า “ดีเหมือนกัน! ข้าจะเตรียมตัวให้พร้อมเดี๋ยวนี้! เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนวุ่นวายกับเรื่องนี้ในภายหลัง! คู่ชิวผู้นี้อาจเป็นคนพูดง่าย แต่แม่สามีของนางไม่ใช่ผู้ที่ควรยุ่งเกี่ยวด้วย!”

หลังจากกู่ชิวกลับมาถึงบ้านในตอนกลางคืน นางลากเอ้อหยาเข้าไปในห้องอย่างรีบร้อน! และ เมื่อกลับมาถึงบ้านโดยไม่ทํางานเช่นนี้ แน่นอนว่าหญิงชราหลัวจะต้องไม่พอใจ!

จากนั้นคําด่าทอได้หลุดรอดออกมาจากปาก “นังคนเกียจคร้าน แค่ทํางานก็ถือว่าตนเองยอดเยี่ยมแล้วใช่หรือไม่? พอกลับถึงบ้านก็หลบอยู่ในห้อง หรือว่าจะยังหวังให้ลูกชายตัวน้อยจะออกมาจากผ้าห่มได้!”

กู่ชิวคิดอย่างรอบคอบและเชื่อว่าเรื่องดีงามเช่นนี้ หญิงชราหลัวผู้นี้คงไม่ปฏิเสธแน่!

นางจึงรีบเดินออกมาหายายเฒ่าหลัวแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่! ข้าจะกล้าเกียจคร้านได้อย่างไร แค่กําลังคิดถึงเรื่องดี ๆ ของครอบครัวเรา หากเรื่องนี้สําเร็จ พวกเราคงไม่ต้องลําบากอีกต่อไปแล้ว และวันข้างหน้าจะมีแต่ความสุขสบาย!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 398 แผนของคู่ชิว

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 398 แผนของคู่ชิว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 398 แผนของคู่ชิว

“แม่นางหยุน เจ้าคงไม่รู้หรอก! ผู้หญิงที่ไม่มีลูกชายคนนี้ไม่สามารถเงยหน้าได้ในบ้านของสามี! ไม่ว่าข้าจะทําอันใด แม่สามีมักจะคิดว่าข้าทําผิดเสมอ!”

หยนเถียนเถียนเริ่มร้อนใจขึ้นมา เมื่อเห็นว่ามันเป็นความผิดของอีกฝ่ายที่ไม่มีความกล้าเองทำให้ถูกข่มเหง แล้วจะให้นางช่วยอันใดได้?

“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะลําบากอย่างไร แต่ร่างกายของเจ้าในตอนนี้ดูไม่ได้เลย! หากยังทําต่อไปอาจเกิดปัญหาขึ้น ไม่แน่ว่าแม่สามีของเจ้าจะมาสร้างเรื่องให้ข้าอีก! อันที่จริงข้าไม่เคยกลัวอันใด แต่ข้าไม่อยากมีปัญหาต่างหาก!”

กู่ชิวรู้สึกสับสนจึงรีบพูด “ได้! ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ข้าจะไม่โทษแม่นางเป็นอันขาด! กรุณามอบหมายงานให้ข้าตอนนี้ด้วยเถิด!”

หยุนเถียนเถียนถึงกับจนปัญญา และไม่เข้าใจว่าบางคนเกิดมาเหตุใดจึงไร้สมองเช่นนี้! แม้นางจะพร่ําบ่นว่าคนอื่นไม่ดีต่อนาง แต่ยังคงทําตัวเป็นวัวเป็นม้ารับใช้อย่างสุดหัวใจ!

เฉินผิงเหอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดว่า “เช่นนั้นจงไปถอนหญ้าในที่ดินแปลงหนึ่งที่ยังไม่ได้กําจัดวัชพืช! งานประเภทนี้ค่อนข้างง่ายเจ้าคงพอทําได้!”

กู่ชิวซาบซึ้งจนน้ําตาคลอเบ้า “ขอบคุณพี่เฉินมาก!”

มุมปากของเฉินผิงเหอถึงกับกระตุกด้วยท่าทางเย้ายวนนี้ หากเป็นเด็กสาวที่อายุน้อยแล้วล่ะก็แน่นอนว่าต้องน่ายินดีอย่างแน่นอน!

ทว่ากู่ชิวผู้นี้อายุไม่น้อยแล้ว หลังจากทํางานหนักมาหลายปี ร่างกายของนางจึงดูแก่กว่าอายุจริง! อีกทั้งผิวหน้ายังถูกแดดเผาจนดําคล้ําและเสื้อผ้าทั้งชุดถูกซักจนขาวโพลนแล้ว!

หยุนเถียนเถียนยิ้มอย่างจนปัญญา เมื่อเจอมารดาที่ไม่รู้ตัวแบบนี้ เกรงว่าชีวิตความเป็นอยู่ของเอ้อหยาคงจะลําบากโดยมิต้องสงสัย

หลังจากเฉินผิงเหอถูกกู่ชิวหว่านเสน่ห์ จู่ ๆ เขาพลันนึกขึ้นได้จึงหันหน้าไปพูดกับหยุ นเถียนเถียนว่า “ข้าเห็นกู่ชิวผู้นี้ทํางานอย่างสุดกําลัง ดังนั้นปกติแล้วข้าจะพาเอ้อหยามากินข้าวด้วยกัน แต่นางกลับไม่ยอม! ข้าคิดว่าเด็กสาวตัวน้อยคงไม่มีอาหารกินมากนัก!”

หยุนเถียนเถียนพยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่สนใจรายละเอียดเหล่านี้มากนัก ยิ่งเป็นเด็กคนนั้นที่หิวจนหน้าเหลืองและผอมบาง นางยิ่งไม่ใส่ใจ แต่ปกติแล้วนางไม่ใช่คนใจร้ายถึงเพียงนี้!

ทว่าตอนที่กู่ชิวเข้าไปในทุ่งบังเอิญชนเข้ากับเฉินเฉินที่เข้ามาทางประตูหน้าพอดี!

แน่นอนว่านางสามารถจําได้ว่านี่คือบุตรชายของหลินชวนฮวา! เพียงปีเดียวเด็กคนนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว และตอนนี้มีกลิ่นอายของนายน้อยผู้หนึ่งแล้ว!

ดวงตาคู่นั้นของกู่ชิวแทบจะติดบนตัวของเฉินเฉินไป!

สําหรับเฉินเฉินไม่ได้รู้สึกว่าตนเองมีอันใดเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน แม้ผู้คนในหมู่บ้านจะให้ความสนใจในตัวเขาอยู่บ้าง!

ทว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกัน นางยืนอยู่ตรงหน้าเขาเพื่อขวางทาง! “เฉินเฮ่อ เจ้าคือเฉินเอ๋อใช่หรือไม่? ข้าคือป้าคู่ของเจ้า! ข้าเคยอุ้มเจ้าตอนที่เจ้ายังเล็ก!”

เฉินเฉินเหมือนจะจําคนผู้นี้ได้และความประทับใจอันยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือนางชอบร้องไห้และขี้บ่น!

“โอไ มีอันใดให้ช่วยเช่นนั้นหรือ?”

เมื่อนึกถึงหลินชวนฮวา สีหน้าของเฉินเฉินพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที!

ทว่ากู่ชิวกลับไม่ได้รู้สึกว่ามีอันใดผิดปกติ แต่กลับเล่าเรื่องในอดีตขึ้นมาอย่างตื่นเต้น!

“เมื่อก่อนข้ากับท่านแม่ของเจ้าสนิทกันมาก แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายนางจะลงเอยเช่นนี้! จะว่าไปนางก็เป็นแค่ผู้หญิงที่น่าสงสารกลุ่มหนึ่ง แต่เจ้ายังจ่าเอ้อหยาได้หรือไม่? เมื่อก่อนนางมักจะเดินตามกันและเรียกเจ้าว่าพี่เฉิน พี่เฉิน!”

เฉินเฉินขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “มีอันใดอีกหรือไม่? ถ้าไม่มีแล้วโปรดหลีกทางด้วย ข้าต้องกลับไปเรียนหนังสือ!”

หนุ่มน้อยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายปฏิเสธ เขารีบเดินอ้อมไปด้านข้างแล้วหลบเข้าไปในห้อง และปิดประตูทันที!

เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เป็นเพียงเรื่องที่ไม่มีความสําคัญสําหรับเขา แต่ผู้มีพรสวรรค์ในวัยเยาว์ผู้นี้ได้ประทับตราแห่งความหวังไว้ในหัวใจของคู่ชิวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!

แน่นอนว่านางไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น เพียงแต่นึกขึ้นได้ว่าตอนที่นางกับหลินชวนฮวาดีกัน นางเคยพูดติดตลกว่าอยากให้สองครอบครัวเป็นทองแผ่นเดียวกัน!

หากเป็นเมื่อก่อนเด็กผอมแห้งเช่นนี้ นางยังไม่รู้ว่าจะเลี้ยงจนโตได้หรือไม่ แน่นอนว่านางไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องการแต่งงานนี้!

ทว่าตอนนี้เฉินเฉินคือผู้มีพรสวรรค์และที่สําคัญกว่านั้นคือเขามีโอกาสสอบเข้าเป็นขุนนางได้ตั้งแต่อายุยังน้อย! ได้ยินเฉินผิงเหอบอกกับพวกเขาว่า หากไม่ใช่เพราะพลาดการสอบฤดูใบไม้ร่วงครั้งนี้ ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายคงเป็นถึงผู้มียศถาบรรดาศักดิ์แล้ว!

หากบุตรสาวของนางสามารถไขว่คว้าผู้มีอํานาจวาสนาเช่นนี้ได้ ไม่แน่ว่าฐานะของนางในตระกูลสามีอาจจะสูงขึ้น!

เมื่อความคิดดังกล่าวหยั่งรากแล้วมันย่อมงอกเงยขึ้นตามธรรมชาติ และแน่นอนว่าจะต้องเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สูงตระหง่าน!

กู่ชิวชําเลืองมองเอ้อหยาที่กําลังนั่งเล่นอยู่บริเวณมุมห้อง! เขาอายุเก้าขวบเศษยังมีพรสวรรค์มากแล้ว ส่วนคนที่ไม่เอาไหนเช่นบุตรสาวของนางยังนั่งนับมดอยู่ตรงมุมห้อง!

แต่ถึงเอ้อหยาจะผ่ายผอม อย่างไรเสียนางก็เป็นหญิงสาวและหน้าตาไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด ไม่แน่ว่าหลังจากแต่งหน้าแต่งตัวให้ดูดีขึ้น นางอาจอาศัยมิตรภาพในอดีตทําให้งานแต่งครั้งนี้เกิดขึ้นได้

ดังนั้นสิ่งที่ต้องรีบทําในตอนนี้คือแต่งตัวสาวน้อยผู้นี้ให้เรียบร้อย และวางแผนให้หยุ นเถียนเถียนติดหนี้บุญคุณของนางด้วย! กู่ชิวครุ่นคิดอยู่ในใจก่อนขุดจอบลงบนพื้น!

ตกกลางคืน เรื่องเงินงานย่อมมีเฉินผิงเหอคอยจัดการอยู่ ส่วนหยุนเถียนเถียนนั่งอยู่ตรงหน้ามองดูคนที่กําลังสับมันเทศให้เป็นผง! จากนั้นบรรจุลงในถังขนาดใหญ่เพื่อรอให้แป้งมันเทศตกตะกอน!

เมื่อเฉินผิงเหอเดินออกมา คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันขณะในมือของเขายังมีเหรียญทองแดงอยู่ยี่สิบเหรียญ!

“เถียนเถียน ข้าไม่รู้ว่าคู่ชิวผู้นั้นเป็นอันใด เมื่อก่อนทํางานแทบตายเพราะอยากได้เงิน แม้เหรียญทองแดงสักเหรียญก็อย่าคิดว่าจะเอาออกมาจากมือนางได้ แต่วันนี้กลับไม่ยอมรับมันแล้ว ยังบอกข้าให้เอากลับมาให้เจ้าอีก!”

“ข้าไม่รู้ว่าคนผู้นี้กําลังคิดอันใดอยู่! เป็นไปได้หรือไม่ที่นางกลัวว่าเจ้าจะไม่ต้องการนาง ดังนั้น จึงเอาใจเจ้าด้วยวิธีนี้?”

หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะสงสัยว่า เรื่องนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิด!

หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้วนางได้กล่าวว่า “ท่านเตรียมกล่องเพื่อเก็บเงินทั้งหมดของนางที่ได้จากการทํางานทั้งหมดและจดบันทึกไว้อย่างชัดเจน! เมื่อถึงตอนนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นมาจริง เราโยนมันให้นางก็สิ้นเรื่อง ถึงอย่างไรข้าย่อมไม่สนใจเงินเหล่านี้อยู่แล้ว!”

เฉินผิงเหอพยักหน้าซ้ําแล้วซ้ําเล่า “ดีเหมือนกัน! ข้าจะเตรียมตัวให้พร้อมเดี๋ยวนี้! เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนวุ่นวายกับเรื่องนี้ในภายหลัง! คู่ชิวผู้นี้อาจเป็นคนพูดง่าย แต่แม่สามีของนางไม่ใช่ผู้ที่ควรยุ่งเกี่ยวด้วย!”

หลังจากกู่ชิวกลับมาถึงบ้านในตอนกลางคืน นางลากเอ้อหยาเข้าไปในห้องอย่างรีบร้อน! และ เมื่อกลับมาถึงบ้านโดยไม่ทํางานเช่นนี้ แน่นอนว่าหญิงชราหลัวจะต้องไม่พอใจ!

จากนั้นคําด่าทอได้หลุดรอดออกมาจากปาก “นังคนเกียจคร้าน แค่ทํางานก็ถือว่าตนเองยอดเยี่ยมแล้วใช่หรือไม่? พอกลับถึงบ้านก็หลบอยู่ในห้อง หรือว่าจะยังหวังให้ลูกชายตัวน้อยจะออกมาจากผ้าห่มได้!”

กู่ชิวคิดอย่างรอบคอบและเชื่อว่าเรื่องดีงามเช่นนี้ หญิงชราหลัวผู้นี้คงไม่ปฏิเสธแน่!

นางจึงรีบเดินออกมาหายายเฒ่าหลัวแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่! ข้าจะกล้าเกียจคร้านได้อย่างไร แค่กําลังคิดถึงเรื่องดี ๆ ของครอบครัวเรา หากเรื่องนี้สําเร็จ พวกเราคงไม่ต้องลําบากอีกต่อไปแล้ว และวันข้างหน้าจะมีแต่ความสุขสบาย!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+