สามีข้า คือพรานป่า 279 แต่งงานวันเดียวกัน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 279 แต่งงานวันเดียวกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 279 แต่งงานวันเดียวกัน

ตอนนี้เฉินไฉ่อีรู้สึกปวดร้าวไปทั่วสรรพางค์กายจนแทบไม่อยากทําอะไรทั้งสิ้น แต่ในสถานการณ์เช่นนี้นางจะทําให้มารดาขุ่นเคืองได้อย่างไร? ด้วยความมีไหวพริบ นางจึงข่มกลั้นความเจ็บปวดและนั่งลงข้างเตา

ภรรยาของเฉินซ่งมองดูบุตรสาว กลับมาบ้านจนถึงตอนนี้ เสื้อผ้ายังไม่ได้เปลี่ยน เนื้อตัวเลอะเทอะมอมแมม ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก จนนางต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“ไฉ่อี! แม่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกที่เจ้าคิดต่อสู้กับแม่นางหยุน เจ้าพบกับความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้เจ้าสูญเสียชีวิตที่เคยสุขสบายและมั่นคงไปจนสิ้น แต่คนอื่นกลับไม่ได้รับความเจ็บปวดระคายเคืองอันใด ทั้งยังมีชีวิตที่สุขสบายมั่งคั่ง เหตุใดเจ้าถึงปล่อยให้ความโกรธทําร้ายตัวเองเล่า?”

แววตาของเฉินไฉ่อีเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม แต่ตอนนี้นางไม่อาจพูดออกมาได้ตามใจคิด

“เจ้าดูเถิด หากเชื่อฟังแม่ตั้งแต่แรกแต่งงานกับนายน้อยจาง ตอนนี้เจ้าคงเป็นสมบัติล้ำค่าที่ถูกประคองไว้กลางฝ่ามือของเขา จะว่าไปพวกเขาก็นับว่าจิตใจดีมีคุณธรรม ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้พ่อเจ้าคงจะต้องไปที่บ้านพวกเขาเพื่อรับสินสอดทองหมั้น อา!”

นอกจากเฉินไฉ่อีจะไม่เชื่อฟังคําพูดของมารดา ตรงกันข้ามนางกลับนึกแค้นเคืองอยู่ในใจ

หากสนับสนุนนางให้แต่งงานกับนายน้อยหลี่ตั้งแต่แรก นางหรือจะทําเรื่องน่าอับอายเช่นนี้? เมื่อนึกถึงตอนที่ตนถูกชายน่าขยะแขยงกักขังไว้บนเตียง แม้จะดูถูกนางตั้งแต่แรก แต่ก็ข่มเหงนางทั้งคืนอย่างไร้ยางอาย ทําให้นางรู้สึกอยากขย้อนอาเจียนออกมาอยู่ครู่หนึ่ง

หากคนที่นางแต่งให้แต่แรกคือนายน้อยหลี่มีหรือที่จะไม่เต็มใจเช่นนี้? วิธีการเหล่านี้เมื่อถูกใช้กับบัณฑิตนับว่าเปล่าประโยชน์ยิ่งนัก คงจะดีไม่น้อยหากได้ใช้กับนายน้อยหลี่?

แต่ตอนนี้ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว นางต้องทนแต่งงานกับชายที่น่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้ และที่สําคัญคือเป็นคนที่หยุนเถียนเถียนไม่ต้องการ

“ไจ่อ ชีวิตลูกผู้หญิงงก็เป็นเช่นนี้ ชะตากรรมของเจ้าจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะล้มลงอยู่ที่ใด ในเมื่อเจ้าไม่ได้ชื่นชอบตระกูลจางที่ดีงาม และแต่งงานเข้าตระกูลหลินแล้ว ดังนั้นอย่าได้คิดทําเรื่องอื่นอีก แม้ว่าหลินหูไม่อาจเทียบได้กับตระกูลจาง แต่เขาเองก็เป็นบัณฑิตเช่นกัน เจ้าเป็นคนฉลาด ควรรู้วิธีจัดการชีวิตของตัวเอง!”

“แม้สถานการณ์ในตอนนี้จะดูย่าแย่ไปหน่อย แต่ถึงอย่างไรมีหรือที่ผู้ชายจะไม่ชอบสาวงาม? ขอเพียงเจ้าแต่งตัวให้สวยงามดูดี ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้หัวใจของหลินห์มาครอง และตราบใดที่หัวใจของเขาอยู่กับเจ้า ชีวิตก็จะไม่ลําบาก”

เฉินไฉ่อีเบ้ปากด้วยความรังเกียจ ตอนนี้นางประจักษ์แล้ว ด้วยรูปลักษณ์อันมีเสน่ห์เย้ายวนของหยุนเถียนเถียน เมื่อหลินหูได้พบนางครั้งหนึ่ง หญิงสาวคนอื่นก็กลายเป็นเพียงคนธรรมดาในสายตาของเขา นางจะสามารถคว้าหัวใจของหลินห์ได้อย่างไร? เป็นไปได้หรือที่นางจะสามารถเปลี่ยนแปลงใบหน้าให้เหมือนหยุนเถียนเถียน?

ในที่สุดอาหารก็เสร็จแล้ว เฉินไฉ่อีนําอาหารส่วนของตัวเองกลับเข้าไปในห้องและปิดประตูอย่างแน่นหนา

ในขณะที่ภรรยาของเฉินซ่งพยายามปลอบโยนบุตรสาวอยู่ที่บ้าน ทางฝั่งหยุนเถียนเถียนเองก็กําลังปลอบโยนหยุนเคอ เมื่อนึกถึงสิ่งที่หยุนเถียนเถียนเกือบต้องเผชิญ หยุนเคอก็รู้สึกเกลียดชังครอบครัวของเฉินซ่ง เขาใช้ความอดทนทั้งหมดที่มีเพื่อระงับความต้องการสังหารคน!

ตอนนี้หญิงสาวกําลังขัดขวางไม่ให้เขาลงมือ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีทางปล่อยเงินไฉ่อีไปอย่างง่ายดาย หากแต่เรื่องทั้งหมดนี้จะต้องทําลับหลังหญิงสาว

ทางด้านภรรยาของเฉินซ่งที่พยายามซื้อเวลาให้บุตรสาวสามวัน ในคราแรกนางคิดว่าภายในสามวันนี้จะช่วยให้บุตรสาวเรียนรู้ที่จะเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือของหวงซื้อผู้ดร้ายจอมบงการ ใครจะรู้ว่าเฉินไฉ่อีเอาแต่เก็บตัวเงียบไม่พูดไม่จาอยู่แต่ในห้องตลอดทั้งสามวัน ไม่ว่าภรรยาของเฉินซ่งจะพยายามง้างปากของนางเพียงใด ก็ไม่มีการตอบรับจากบุตรสาว

สามวันต่อมา นอกจากเป็นวันแต่งงานของหลินหูกับเฉินไฉ่อีแล้ว ยังเป็นวันมงคลของหยุนเคอและหยุนเถียนเถียนอีกด้วย

แม้ว่าเฉินซ่งจะเป็นอดีตหัวหน้าหมู่บ้าน แต่งานแต่งงานนี้น่าอับอายยิ่งนัก ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดมาแสดงความยินดีกับเขา ต่างจากหยุนเถียนเถียน โรงงานและพื้นที่รกร้างของนางสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกคนในหมู่บ้าน

แม้แต่เคล็ดลับการปลูกข้าวสาลีในฤดูหนาวล้วนถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณะ ตอนนี้ข้าวสาลีได้ปลูกลงดินและเริ่มออกรวงเขียวขจี นั่นคือความหวังอันเรืองรองของชาวบ้านในชนบท

จากผลประโยชน์เหล่านี้ หยุนเถียนเถียนจึงได้อยู่ในบ้านเฉินไปเพื่อแต่งตัวและแต่งหน้าเจ้าสาว ส่วนหยุนเคอผู้เย็นชาอยู่เสมอ จากครั้งล่าสุดที่เขาโยนฉ่เกินฮูหยินออกจากลานบ้านจนกระดูกหักไปหลายท่อน เหตุการณ์นั้นยังคงทําให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวมิรู้ลืม แต่ก็ยังมีชาวบ้านบางส่วนมาที่บ้านเพื่อช่วยตกแต่งบ้านใหม่ให้หยุนเถียนเถียน

ทําให้ลานบ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันตา

ในขณะที่หลินหูมาถึงหมู่บ้านเทพธิดาด้วยใบหน้าอันขมขึ้น ก็ได้พบกับหยุนเคอที่กําลังควบขี่อาชาตัวสูงใหญ่ แม้สีหน้าของเขาจะดูเรียบเฉย แต่ความปิติยินดีฉายชัดออกมา

หยุนเคอกําลังนั่งอยู่บนอาชาลักษณะดี สวมชุดมงคลสีแดง ทั้งร่างหล่อเหลาราวกับไม่ใช่มนุษย์เดินดิน ทันทีที่เขาเห็นหลินหู ลมหายใจของเขาราวกับลูกธนูแหลมคม กราดสายตาทิ่มแทงไปยังหลินหูโดยตรง

หลินหูมิใคร่สนใจใยดีงานแต่งงานครั้งนี้ของตนนัก เขาเพียงยืมเกวียนไม้จากเพื่อนบ้านและใช้วัวแก่ลากเกวียนเพื่อมารับเจ้าสาว ผ้าฝ้ายสีแดงราคาถูกที่ปักเย็บและย้อมสีอย่างไม่สม่ำเสมอกันแขวนไว้ที่คอวัวแก่ จึงทําให้มันดูน่าตลกขบขันยิ่งนัก

ไอสังหารของหยุนเคอรุนแรงจนกระตุ้นให้วัวแก่ตกใจ มันวิ่งวนไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตระหนก จนในที่สุดก็ลากเกวียนไม้ที่โดยสารหลินหูเข้าไปในทุ่งนา ส่วนหนึ่งของทุ่งข้าวสาลีถูกทําลาย ฉับพลันหญิงสาวผู้ยากไร้คนหนึ่งก็ก้าวออกมา

ใบหน้าของหลินหูเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาตะเกียกตะกายออกมาจากท้องทุ่งด้วยความอับอายแต่หญิงชาวนาคว้าคอของเขาเอาไว้และเรียกร้องค่าชดเชย

เมื่อหยุนเคอเห็นเช่นนี้ก็หัวเราะเยาะออกมา ก่อนจะขี่ม้าของเขาตรงไปยังลานบ้านของเฉินไปยังมีเจ้าสาวที่เขาเฝ้าคิดถึง รอเข้าพิธีแต่งงานอยู่

แม้ว่าหยุนเสียนเถียนจะคุ้นเคยกับโลกใบนี้แล้ว แต่เมื่อถึงวันแต่งงานของตน นางก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี ครั้นนึกถึงใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาปราศจากหนวดเคราของหยุนเคอ จ้องมองนางด้วยแววตาเสน่ห์หา หยุนเถียนเถียนก็รู้สึกว่าไม่อาจควบคุมการเต้นของหัวใจเอาไว้ได้

หลังจากถูกฉีปัว จับแต่งตัวพลิกไปมา หยุนเสียนเถียนมองเห็นใบหน้าอันเลือนรางราวกับผีผู้หญิงในกระจกทองเหลือง

*ผู้หญิงที่มีหน้าที่ดูแลเจ้าสาวในงานแต่งงาน

นางกัดฟันใช้เงินไม่กี่ต่าลึงเพื่อจ้างฉีป่วมาคอยช่วยเหลือ ก่อนจะหยิบตลับชาดที่ไม่เคยใช้เลยตั้งแต่เข้ามาในยุคนี้ขึ้นมา

ความตื่นเต้นสงบลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางจึงเริ่มลงมือแต่งหน้าให้ตัวเองด้วยความใจเย็นเมื่อแต่งหน้าเสร็จและหันกลับมา ทุกคนในบ้านต่างพากันตกตะลึงพรึงเพริศ

เดิมที่หยุนเวียนเถียนนั้นงดงามจับใจอยู่แล้ว เพียงแต่งเติมประทินโฉมลงบนใบหน้าอีกเล็กน้อย ก็เต็มไปด้วยความเย้ายวน

ในที่สุด เมื่อบทกลอนกล่าวยินดีในวันแต่งงานจากด้านนอกดังขึ้น จซื้อก็เอื้อมมือไปหยิบผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวที่ทําขึ้นอย่างวิจิตรบรรจงวางลงบนศีรษะของนางด้วยความอ่อนโยน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 279 แต่งงานวันเดียวกัน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 279 แต่งงานวันเดียวกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 279 แต่งงานวันเดียวกัน

ตอนนี้เฉินไฉ่อีรู้สึกปวดร้าวไปทั่วสรรพางค์กายจนแทบไม่อยากทําอะไรทั้งสิ้น แต่ในสถานการณ์เช่นนี้นางจะทําให้มารดาขุ่นเคืองได้อย่างไร? ด้วยความมีไหวพริบ นางจึงข่มกลั้นความเจ็บปวดและนั่งลงข้างเตา

ภรรยาของเฉินซ่งมองดูบุตรสาว กลับมาบ้านจนถึงตอนนี้ เสื้อผ้ายังไม่ได้เปลี่ยน เนื้อตัวเลอะเทอะมอมแมม ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก จนนางต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“ไฉ่อี! แม่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกที่เจ้าคิดต่อสู้กับแม่นางหยุน เจ้าพบกับความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้เจ้าสูญเสียชีวิตที่เคยสุขสบายและมั่นคงไปจนสิ้น แต่คนอื่นกลับไม่ได้รับความเจ็บปวดระคายเคืองอันใด ทั้งยังมีชีวิตที่สุขสบายมั่งคั่ง เหตุใดเจ้าถึงปล่อยให้ความโกรธทําร้ายตัวเองเล่า?”

แววตาของเฉินไฉ่อีเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม แต่ตอนนี้นางไม่อาจพูดออกมาได้ตามใจคิด

“เจ้าดูเถิด หากเชื่อฟังแม่ตั้งแต่แรกแต่งงานกับนายน้อยจาง ตอนนี้เจ้าคงเป็นสมบัติล้ำค่าที่ถูกประคองไว้กลางฝ่ามือของเขา จะว่าไปพวกเขาก็นับว่าจิตใจดีมีคุณธรรม ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้พ่อเจ้าคงจะต้องไปที่บ้านพวกเขาเพื่อรับสินสอดทองหมั้น อา!”

นอกจากเฉินไฉ่อีจะไม่เชื่อฟังคําพูดของมารดา ตรงกันข้ามนางกลับนึกแค้นเคืองอยู่ในใจ

หากสนับสนุนนางให้แต่งงานกับนายน้อยหลี่ตั้งแต่แรก นางหรือจะทําเรื่องน่าอับอายเช่นนี้? เมื่อนึกถึงตอนที่ตนถูกชายน่าขยะแขยงกักขังไว้บนเตียง แม้จะดูถูกนางตั้งแต่แรก แต่ก็ข่มเหงนางทั้งคืนอย่างไร้ยางอาย ทําให้นางรู้สึกอยากขย้อนอาเจียนออกมาอยู่ครู่หนึ่ง

หากคนที่นางแต่งให้แต่แรกคือนายน้อยหลี่มีหรือที่จะไม่เต็มใจเช่นนี้? วิธีการเหล่านี้เมื่อถูกใช้กับบัณฑิตนับว่าเปล่าประโยชน์ยิ่งนัก คงจะดีไม่น้อยหากได้ใช้กับนายน้อยหลี่?

แต่ตอนนี้ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว นางต้องทนแต่งงานกับชายที่น่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้ และที่สําคัญคือเป็นคนที่หยุนเถียนเถียนไม่ต้องการ

“ไจ่อ ชีวิตลูกผู้หญิงงก็เป็นเช่นนี้ ชะตากรรมของเจ้าจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะล้มลงอยู่ที่ใด ในเมื่อเจ้าไม่ได้ชื่นชอบตระกูลจางที่ดีงาม และแต่งงานเข้าตระกูลหลินแล้ว ดังนั้นอย่าได้คิดทําเรื่องอื่นอีก แม้ว่าหลินหูไม่อาจเทียบได้กับตระกูลจาง แต่เขาเองก็เป็นบัณฑิตเช่นกัน เจ้าเป็นคนฉลาด ควรรู้วิธีจัดการชีวิตของตัวเอง!”

“แม้สถานการณ์ในตอนนี้จะดูย่าแย่ไปหน่อย แต่ถึงอย่างไรมีหรือที่ผู้ชายจะไม่ชอบสาวงาม? ขอเพียงเจ้าแต่งตัวให้สวยงามดูดี ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้หัวใจของหลินห์มาครอง และตราบใดที่หัวใจของเขาอยู่กับเจ้า ชีวิตก็จะไม่ลําบาก”

เฉินไฉ่อีเบ้ปากด้วยความรังเกียจ ตอนนี้นางประจักษ์แล้ว ด้วยรูปลักษณ์อันมีเสน่ห์เย้ายวนของหยุนเถียนเถียน เมื่อหลินหูได้พบนางครั้งหนึ่ง หญิงสาวคนอื่นก็กลายเป็นเพียงคนธรรมดาในสายตาของเขา นางจะสามารถคว้าหัวใจของหลินห์ได้อย่างไร? เป็นไปได้หรือที่นางจะสามารถเปลี่ยนแปลงใบหน้าให้เหมือนหยุนเถียนเถียน?

ในที่สุดอาหารก็เสร็จแล้ว เฉินไฉ่อีนําอาหารส่วนของตัวเองกลับเข้าไปในห้องและปิดประตูอย่างแน่นหนา

ในขณะที่ภรรยาของเฉินซ่งพยายามปลอบโยนบุตรสาวอยู่ที่บ้าน ทางฝั่งหยุนเถียนเถียนเองก็กําลังปลอบโยนหยุนเคอ เมื่อนึกถึงสิ่งที่หยุนเถียนเถียนเกือบต้องเผชิญ หยุนเคอก็รู้สึกเกลียดชังครอบครัวของเฉินซ่ง เขาใช้ความอดทนทั้งหมดที่มีเพื่อระงับความต้องการสังหารคน!

ตอนนี้หญิงสาวกําลังขัดขวางไม่ให้เขาลงมือ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีทางปล่อยเงินไฉ่อีไปอย่างง่ายดาย หากแต่เรื่องทั้งหมดนี้จะต้องทําลับหลังหญิงสาว

ทางด้านภรรยาของเฉินซ่งที่พยายามซื้อเวลาให้บุตรสาวสามวัน ในคราแรกนางคิดว่าภายในสามวันนี้จะช่วยให้บุตรสาวเรียนรู้ที่จะเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือของหวงซื้อผู้ดร้ายจอมบงการ ใครจะรู้ว่าเฉินไฉ่อีเอาแต่เก็บตัวเงียบไม่พูดไม่จาอยู่แต่ในห้องตลอดทั้งสามวัน ไม่ว่าภรรยาของเฉินซ่งจะพยายามง้างปากของนางเพียงใด ก็ไม่มีการตอบรับจากบุตรสาว

สามวันต่อมา นอกจากเป็นวันแต่งงานของหลินหูกับเฉินไฉ่อีแล้ว ยังเป็นวันมงคลของหยุนเคอและหยุนเถียนเถียนอีกด้วย

แม้ว่าเฉินซ่งจะเป็นอดีตหัวหน้าหมู่บ้าน แต่งานแต่งงานนี้น่าอับอายยิ่งนัก ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดมาแสดงความยินดีกับเขา ต่างจากหยุนเถียนเถียน โรงงานและพื้นที่รกร้างของนางสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกคนในหมู่บ้าน

แม้แต่เคล็ดลับการปลูกข้าวสาลีในฤดูหนาวล้วนถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณะ ตอนนี้ข้าวสาลีได้ปลูกลงดินและเริ่มออกรวงเขียวขจี นั่นคือความหวังอันเรืองรองของชาวบ้านในชนบท

จากผลประโยชน์เหล่านี้ หยุนเถียนเถียนจึงได้อยู่ในบ้านเฉินไปเพื่อแต่งตัวและแต่งหน้าเจ้าสาว ส่วนหยุนเคอผู้เย็นชาอยู่เสมอ จากครั้งล่าสุดที่เขาโยนฉ่เกินฮูหยินออกจากลานบ้านจนกระดูกหักไปหลายท่อน เหตุการณ์นั้นยังคงทําให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวมิรู้ลืม แต่ก็ยังมีชาวบ้านบางส่วนมาที่บ้านเพื่อช่วยตกแต่งบ้านใหม่ให้หยุนเถียนเถียน

ทําให้ลานบ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันตา

ในขณะที่หลินหูมาถึงหมู่บ้านเทพธิดาด้วยใบหน้าอันขมขึ้น ก็ได้พบกับหยุนเคอที่กําลังควบขี่อาชาตัวสูงใหญ่ แม้สีหน้าของเขาจะดูเรียบเฉย แต่ความปิติยินดีฉายชัดออกมา

หยุนเคอกําลังนั่งอยู่บนอาชาลักษณะดี สวมชุดมงคลสีแดง ทั้งร่างหล่อเหลาราวกับไม่ใช่มนุษย์เดินดิน ทันทีที่เขาเห็นหลินหู ลมหายใจของเขาราวกับลูกธนูแหลมคม กราดสายตาทิ่มแทงไปยังหลินหูโดยตรง

หลินหูมิใคร่สนใจใยดีงานแต่งงานครั้งนี้ของตนนัก เขาเพียงยืมเกวียนไม้จากเพื่อนบ้านและใช้วัวแก่ลากเกวียนเพื่อมารับเจ้าสาว ผ้าฝ้ายสีแดงราคาถูกที่ปักเย็บและย้อมสีอย่างไม่สม่ำเสมอกันแขวนไว้ที่คอวัวแก่ จึงทําให้มันดูน่าตลกขบขันยิ่งนัก

ไอสังหารของหยุนเคอรุนแรงจนกระตุ้นให้วัวแก่ตกใจ มันวิ่งวนไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตระหนก จนในที่สุดก็ลากเกวียนไม้ที่โดยสารหลินหูเข้าไปในทุ่งนา ส่วนหนึ่งของทุ่งข้าวสาลีถูกทําลาย ฉับพลันหญิงสาวผู้ยากไร้คนหนึ่งก็ก้าวออกมา

ใบหน้าของหลินหูเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาตะเกียกตะกายออกมาจากท้องทุ่งด้วยความอับอายแต่หญิงชาวนาคว้าคอของเขาเอาไว้และเรียกร้องค่าชดเชย

เมื่อหยุนเคอเห็นเช่นนี้ก็หัวเราะเยาะออกมา ก่อนจะขี่ม้าของเขาตรงไปยังลานบ้านของเฉินไปยังมีเจ้าสาวที่เขาเฝ้าคิดถึง รอเข้าพิธีแต่งงานอยู่

แม้ว่าหยุนเสียนเถียนจะคุ้นเคยกับโลกใบนี้แล้ว แต่เมื่อถึงวันแต่งงานของตน นางก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี ครั้นนึกถึงใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาปราศจากหนวดเคราของหยุนเคอ จ้องมองนางด้วยแววตาเสน่ห์หา หยุนเถียนเถียนก็รู้สึกว่าไม่อาจควบคุมการเต้นของหัวใจเอาไว้ได้

หลังจากถูกฉีปัว จับแต่งตัวพลิกไปมา หยุนเสียนเถียนมองเห็นใบหน้าอันเลือนรางราวกับผีผู้หญิงในกระจกทองเหลือง

*ผู้หญิงที่มีหน้าที่ดูแลเจ้าสาวในงานแต่งงาน

นางกัดฟันใช้เงินไม่กี่ต่าลึงเพื่อจ้างฉีป่วมาคอยช่วยเหลือ ก่อนจะหยิบตลับชาดที่ไม่เคยใช้เลยตั้งแต่เข้ามาในยุคนี้ขึ้นมา

ความตื่นเต้นสงบลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางจึงเริ่มลงมือแต่งหน้าให้ตัวเองด้วยความใจเย็นเมื่อแต่งหน้าเสร็จและหันกลับมา ทุกคนในบ้านต่างพากันตกตะลึงพรึงเพริศ

เดิมที่หยุนเวียนเถียนนั้นงดงามจับใจอยู่แล้ว เพียงแต่งเติมประทินโฉมลงบนใบหน้าอีกเล็กน้อย ก็เต็มไปด้วยความเย้ายวน

ในที่สุด เมื่อบทกลอนกล่าวยินดีในวันแต่งงานจากด้านนอกดังขึ้น จซื้อก็เอื้อมมือไปหยิบผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวที่ทําขึ้นอย่างวิจิตรบรรจงวางลงบนศีรษะของนางด้วยความอ่อนโยน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+