สามีข้า คือพรานป่า 197 ปัญหาคืบคลาน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 197 ปัญหาคืบคลาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 197 ปัญหาคืบคลาน

 

ตอนที่ 197 ปัญหาคืบคลาน

 

เขาไม่คาดคิดว่าหลี่ซื่อฮวาจะเห็นสิ่งผิดปกติเลยเตรียมการแก้ไขไว้แล้ว

 

เมื่อรสชาติของอาหารดีขึ้น ลูกค้าก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แขกที่รู้จี้จุกจิกเหล่านั้นไม่นานก็สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างเนื้อทั้งสองร้าน

 

ผู้ที่มีกำลังพอเข้ารับประทานอาหารในร้านต่างพร้อมที่จะจ่ายเงินอยู่แล้ว หากรสชาติอาหารดีกว่า แม้จะราคาสูงสักหน่อยทำไมพวกเขาจึงจะไม่เลือกล่ะ?

 

เถ้าแก่จางจากไปทิ้งหลี่เฟิงไว้กับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ตอนนี้เขายิ่งเดือดดาล การหนีไปของเถ้าแก่จางทำให้เขาโกรธจัดแน่นอนว่าหลี่เฟิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฟ้องร้อง!

 

เขาต้องตามกลิ่นเพื่อจับคนร้ายให้ได้ หลังจากนั้นเขาจะชำระแค้นทุกสิ่ง!

 

ถ้าเจอตัวเถ้าแก่จางเมื่อไหร่ มันจะต้องเป็นที่ระบายความโกรธที่ยอดเยี่ยมแน่! หลี่เฟิงอยู่ในเขตเมืองเพื่อจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น เขาขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วเคลื่อนย้ายของกลับเมืองหลวง

 

ของที่ขายทั้งหมดนั้นได้ราคาต่ำมาก หลังจากชำระบัญชีที่ติดค้างไว้ก็แทบจะไม่เหลือ หรือให้พูดอีกก็คือกิจการเนื้อหมูของหลี่เฟิงมันทำให้เขาสูญเสียทรัพย์สินของตนเองจนหมดสิ้น!

 

แม้สิ่งเหล่านี้จะไม่ได้กระทบตระกูลหลี่มากนัก มันก็ยังส่งผลไม่น้อย ตอนนี้น้องสาวของเขาอยู่ที่บ้านของนายน้อยหลี่ และผู้ชนะทั้งหมดจะเป็นใครไม่ได้นอกจากลูกพี่ลูกน้องของเขา!

 

เจ้าตัวไม่สามารถหาเรื่องอีกฝ่ายได้ชั่วคราว อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นพี่น้องกัน หลี่เฟิงเคยรักน้องสาวคนนี้มาก แต่นางกลับแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเขาเสียก่อน ซึ่งเขาพ่ายแพ้อีกฝ่ายตั้งแต่ยังไม่ทันได้ลงแข่งด้วยซ้ำ

 

ยังไงซะตอนนี้เขาก็ยังตามหาเถ้าแก่จางไม่เจอ ยังไงก็ต้องอดทนรอไปก่อน!

 

สิ่งแรกที่หลี่เฟิงทำเมื่อกลับมายังเมืองหลวงคือการไปหาฮูหยินหลี่ และได้ทราบข่าวของเฉินฉ่เกินแห่งหมู่บ้านเทพธิดา

 

หลี่เฟิงรู้สึกว่าถ้าความโกรธที่ยังพลุ่งพล่านไม่ได้ระบายออก ในไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องกลั้นหายใจจนตาย ดังนั้นเขาจึงตรงดิ่งไปที่หมู่บ้านเทพธิดาทันที

 

ในหมู่บ้านมีรถม้าคันหนึ่งกำลังขับเคลื่อนเข้ามา มันไม่ใช่รถของนายน้อยหลี่ เช่นนี้จึงดึงดูดความสนใจของผู้คนไม่น้อย

 

น่าแปลกใจที่รถม้าคันนี้ไม่ได้จอดอยู่ที่บ้านของหยุนเถียนเถียนแต่กลับจอดอยู่บ้านของเฉินฉ่เกินที่ทุกคนรังเกียจที่สุด

 

หลี่เฟิงให้คนเตะประตูบ้านของเฉินฉ่เกินและเดินเข้าไปอย่างไร้มารยาท

 

หลี่ชุนเถียวร้องออกมาเสียงดัง “ใครกัน! รีบเหมือนมีใครตายกล้าดีอย่างไรมาถีบประตูบ้านของข้า เจ้าคิดรนหาที่ตายรึ!”

 

แต่ทันทีที่ตะโกนเสร็จ นางเงยหน้าขึ้นจึงเห็นใบหน้าเย็นชาของหลี่เฟิงชัดเจน

 

หลี่ซุนเกี่ยวคนนี้จะว่าฉลาดก็ไม่มาก แต่จะว่าโง่ก็ไม่ใช่ อย่างน้อยใบหน้าคนตรงหน้าก็คลับคล้ายกับฮูหยินหลีที่เคยเห็นในจวนสกุลหลี่ ไม่ต้องบอกก็รู้คนตรงหน้ามีความสัมพันธ์ฉันญาติพี่น้อง

 

หลี่เฟิงเดินเข้าไปด้วยความเกรี้ยวกราด บรรยากาศกดดันปกคลุมไปทั่วบ้าน หลี่ขุนเขียวไม่กล้ามองคนตรงหน้าเพราะรู้ว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี

 

แม้ว่านายท่านผู้นี้ดูอายุราวสามสิบสี่สิบปี แต่ร่างกายก็สวมผ้าล้ำค่า แม้หน้าตาจะดูไม่ดีนัก แต่ทั้งร่างก็ดูสูงส่ง หลี่ซุนเฉียวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ใบหน้าของนางกลับแดงก่ำเวลามองไปที่หลี่เฟิง

 

“นายท่าน ท่านมาที่นี่มีอะไรหรือไม่?”

 

ตอนนี้หลี่เฟิงรู้สึกขยะแขยงคนตรงหน้า นางเป็นแค่หญิงชาวนาใบหน้าหยาบกระด้างดูไม่ได้ แต่กลับแสดงท่าที่เขินอายออกมา ให้เห็นมันน่าขยะแขยง น่าบีบคอให้ตายยิ่งนัก

 

เขาไม่ได้ลืมจุดประสงค์ของวันนี้… มาเพื่อคิดบัญชี

 

หลี่เฟิงนั่งไขว้ห้างอยู่บนโต๊ะหินและยกขาขึ้น “สูตรเนื้อหมูพวกนั้นเป็นสูตรที่เจ้าให้น้องสาวข้าใช้ไหม?”

 

หลี่ชุนเดียวไม่สามารถโต้แย้งได้และถามอย่างกระสับกระส่าย “เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ สูตรนั้นถูกต้องแล้ว ตอนนั้นข้าเป็นคนทำเอง”

 

“หึ! ของที่ทำออกมาย่ำแย่กว่าคนอื่นหายขุม ไม่แม้แต่ได้ประโยชน์ เจ้าต้องการเงินงั้นรี ถึงกล้าหลอกหลวงน้องสาวของข้า!”

 

การแสดงออกจากหลี่เฟิงดูน่ากลัวมาก เดิมที่หลี่ชุนเกี่ยวรังแกคนอ่อนแอเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเจอกับตัวเองถึงกับต้องหวาดหวั่น คนตรงหน้ามิใช่สิ่งที่นางจะสามารถล่วงเกินได้ นางตกใจจนเผลอถอยหลังไปหลายก้าว สุดท้ายได้แต่เอนทิ้งอ่างน้ำข้าง ๆ พร้อมร่างกายที่สั่นสะท้าน

 

“รับเงินจากข้าไปแล้ว แต่กลับไม่ทำให้ดี ให้ข้าคิดก่อนว่าข้าจะจัดการกับครอบครัวเจ้าอย่างไรดี?”

 

หลีชุนเกียวสันสะท้าน แต่ยังคงโต้กลับว่า “เดิมที่พวกท่านรับปากที่สองร้อยตำลึง แต่สุดท้ายกลับให้ข้าแค่ร้อยตำลึง การได้สูตรเช่นนี้นับว่าไม่เลวร้ายเลย พวกท่านยังต้องการอะไรอีก!”

 

“มันใช่เรื่องที่เจ้าจะมาโต้ตอบข้างั้นหรือ? มานี่ ข้าจะสั่งสอนเจ้า!”

 

หลี่เฟิงพาเหล่าข้ารับใช้รุ่นเยาว์และแข็งแรงเข้ามาในลานบ้านพวกเขาเริ่มทุบตีสั่งสอนคนตรงหน้า

 

เหตุการณ์เช่นนี้ย่อมดึงดูดผู้คนในหมู่บ้าน แม้ว่าหลีชุนเฉียวจะไม่ได้เป็นคนที่ใครชอบนัก แต่สุดท้ายก็เป็นคนในหมู่บ้าน ทุกคนไม่อยากเห็นคนอื่นมารังแกคนในหมู่บ้านของตัวเอง

 

ดังนั้นชาวบ้านกลุ่มใหญ่จึงนำจอบ เสียมหลากหลายชนิดเดินมาที่บ้านของหลี่ซุนเกี่ยว

 

เหล่าข้ารับใช้ยังคงทุบนางไม่หยุด หลี่ซุนเกี่ยวกระโดดหนีอย่างร้อนรน แม้แต่เฉินซูเกินก็พยายามปกป้องของในบ้านตนเอง แต่ก็ถูกเตะจนล้มลงไปกับพื้น

 

“พอได้แล้ว! พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ เจ้ามาจากที่ไหนถึงวิ่งมารังแกคนในหมู่บ้านของเรา!”

 

คนที่พูดประโยคนี้คือหัวหน้าหมู่บ้านเฉินซ่ง หากไม่เคยรู้จักเขามาก่อน หยุ นเถียนเถียนคงคิดว่าหัวหน้าหมู่บ้านเป็นคนยุติธรรม

 

นางรับชมเรื่องสนุกอยู่ด้านหลังได้แต่เบ้ปาก หัวหน้าหมู่บ้านจอมเสแสร้งยังคิดจะอวดดีต่อหน้าคนพวกนี้อีกหรือ?

 

หลี่เฟิงมองไปยังหัวหน้าหมู่บ้านด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคงเป็นหัวหน้าหมู่บ้านของที่นี่? เจ้าพยายามปกป้องหญิงคนนี้งั้นเหรอ?”

 

เฉินซ่งขมวดคิ้ว รู้ว่าคนตรงหน้าไม่ง่ายจะตอแยด้วย แต่การขี่เสือนั้นลงยาก ในเมื่อเขาเลือกที่จะอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องปกป้องชาวบ้าน

 

“เจ้าเข้ามาในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุผล แล้วมาทำเช่นนี้ข้าจึงไม่อาจยืนดูเฉย ๆ ได้!”

 

“หากข้าทุบตีอย่างมีเหตุผล แล้วท่านหัวหน้าหมู่บ้านจะว่าอย่าง ไร?”

 

หลี่เฟิงพูดพลางโบกพัดในมือไปด้วย

 

“ถ้าครอบครัวนี้น่าสงสารจริง ๆ ก็ให้พวกเขาชดใช้ค่าเสียหายเงินแค่นี้ไม่ทำให้พวกมันไร้บ้านหรอก”

 

“ข้าสูญเสียของที่ครอบครัวนี้ไม่สามารถจ่ายได้ แล้วข้าควรทำเช่นไรดี? หัวหน้าหมู่บ้านควรชั่งน้ำหนักให้ดีว่าควรปกป้องคนพวกนี้หรือไม่

 

ขณะที่หัวหน้าหมู่บ้านกำลังลังเลว่าจะทำอย่างไรดี แววตาของเขากลอกไปมา เหลือบเห็นหยุนเถียนเถียนที่ซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 197 ปัญหาคืบคลาน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 197 ปัญหาคืบคลาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 197 ปัญหาคืบคลาน

 

ตอนที่ 197 ปัญหาคืบคลาน

 

เขาไม่คาดคิดว่าหลี่ซื่อฮวาจะเห็นสิ่งผิดปกติเลยเตรียมการแก้ไขไว้แล้ว

 

เมื่อรสชาติของอาหารดีขึ้น ลูกค้าก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แขกที่รู้จี้จุกจิกเหล่านั้นไม่นานก็สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างเนื้อทั้งสองร้าน

 

ผู้ที่มีกำลังพอเข้ารับประทานอาหารในร้านต่างพร้อมที่จะจ่ายเงินอยู่แล้ว หากรสชาติอาหารดีกว่า แม้จะราคาสูงสักหน่อยทำไมพวกเขาจึงจะไม่เลือกล่ะ?

 

เถ้าแก่จางจากไปทิ้งหลี่เฟิงไว้กับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ตอนนี้เขายิ่งเดือดดาล การหนีไปของเถ้าแก่จางทำให้เขาโกรธจัดแน่นอนว่าหลี่เฟิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฟ้องร้อง!

 

เขาต้องตามกลิ่นเพื่อจับคนร้ายให้ได้ หลังจากนั้นเขาจะชำระแค้นทุกสิ่ง!

 

ถ้าเจอตัวเถ้าแก่จางเมื่อไหร่ มันจะต้องเป็นที่ระบายความโกรธที่ยอดเยี่ยมแน่! หลี่เฟิงอยู่ในเขตเมืองเพื่อจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น เขาขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วเคลื่อนย้ายของกลับเมืองหลวง

 

ของที่ขายทั้งหมดนั้นได้ราคาต่ำมาก หลังจากชำระบัญชีที่ติดค้างไว้ก็แทบจะไม่เหลือ หรือให้พูดอีกก็คือกิจการเนื้อหมูของหลี่เฟิงมันทำให้เขาสูญเสียทรัพย์สินของตนเองจนหมดสิ้น!

 

แม้สิ่งเหล่านี้จะไม่ได้กระทบตระกูลหลี่มากนัก มันก็ยังส่งผลไม่น้อย ตอนนี้น้องสาวของเขาอยู่ที่บ้านของนายน้อยหลี่ และผู้ชนะทั้งหมดจะเป็นใครไม่ได้นอกจากลูกพี่ลูกน้องของเขา!

 

เจ้าตัวไม่สามารถหาเรื่องอีกฝ่ายได้ชั่วคราว อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นพี่น้องกัน หลี่เฟิงเคยรักน้องสาวคนนี้มาก แต่นางกลับแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเขาเสียก่อน ซึ่งเขาพ่ายแพ้อีกฝ่ายตั้งแต่ยังไม่ทันได้ลงแข่งด้วยซ้ำ

 

ยังไงซะตอนนี้เขาก็ยังตามหาเถ้าแก่จางไม่เจอ ยังไงก็ต้องอดทนรอไปก่อน!

 

สิ่งแรกที่หลี่เฟิงทำเมื่อกลับมายังเมืองหลวงคือการไปหาฮูหยินหลี่ และได้ทราบข่าวของเฉินฉ่เกินแห่งหมู่บ้านเทพธิดา

 

หลี่เฟิงรู้สึกว่าถ้าความโกรธที่ยังพลุ่งพล่านไม่ได้ระบายออก ในไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องกลั้นหายใจจนตาย ดังนั้นเขาจึงตรงดิ่งไปที่หมู่บ้านเทพธิดาทันที

 

ในหมู่บ้านมีรถม้าคันหนึ่งกำลังขับเคลื่อนเข้ามา มันไม่ใช่รถของนายน้อยหลี่ เช่นนี้จึงดึงดูดความสนใจของผู้คนไม่น้อย

 

น่าแปลกใจที่รถม้าคันนี้ไม่ได้จอดอยู่ที่บ้านของหยุนเถียนเถียนแต่กลับจอดอยู่บ้านของเฉินฉ่เกินที่ทุกคนรังเกียจที่สุด

 

หลี่เฟิงให้คนเตะประตูบ้านของเฉินฉ่เกินและเดินเข้าไปอย่างไร้มารยาท

 

หลี่ชุนเถียวร้องออกมาเสียงดัง “ใครกัน! รีบเหมือนมีใครตายกล้าดีอย่างไรมาถีบประตูบ้านของข้า เจ้าคิดรนหาที่ตายรึ!”

 

แต่ทันทีที่ตะโกนเสร็จ นางเงยหน้าขึ้นจึงเห็นใบหน้าเย็นชาของหลี่เฟิงชัดเจน

 

หลี่ซุนเกี่ยวคนนี้จะว่าฉลาดก็ไม่มาก แต่จะว่าโง่ก็ไม่ใช่ อย่างน้อยใบหน้าคนตรงหน้าก็คลับคล้ายกับฮูหยินหลีที่เคยเห็นในจวนสกุลหลี่ ไม่ต้องบอกก็รู้คนตรงหน้ามีความสัมพันธ์ฉันญาติพี่น้อง

 

หลี่เฟิงเดินเข้าไปด้วยความเกรี้ยวกราด บรรยากาศกดดันปกคลุมไปทั่วบ้าน หลี่ขุนเขียวไม่กล้ามองคนตรงหน้าเพราะรู้ว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี

 

แม้ว่านายท่านผู้นี้ดูอายุราวสามสิบสี่สิบปี แต่ร่างกายก็สวมผ้าล้ำค่า แม้หน้าตาจะดูไม่ดีนัก แต่ทั้งร่างก็ดูสูงส่ง หลี่ซุนเฉียวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ใบหน้าของนางกลับแดงก่ำเวลามองไปที่หลี่เฟิง

 

“นายท่าน ท่านมาที่นี่มีอะไรหรือไม่?”

 

ตอนนี้หลี่เฟิงรู้สึกขยะแขยงคนตรงหน้า นางเป็นแค่หญิงชาวนาใบหน้าหยาบกระด้างดูไม่ได้ แต่กลับแสดงท่าที่เขินอายออกมา ให้เห็นมันน่าขยะแขยง น่าบีบคอให้ตายยิ่งนัก

 

เขาไม่ได้ลืมจุดประสงค์ของวันนี้… มาเพื่อคิดบัญชี

 

หลี่เฟิงนั่งไขว้ห้างอยู่บนโต๊ะหินและยกขาขึ้น “สูตรเนื้อหมูพวกนั้นเป็นสูตรที่เจ้าให้น้องสาวข้าใช้ไหม?”

 

หลี่ชุนเดียวไม่สามารถโต้แย้งได้และถามอย่างกระสับกระส่าย “เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ สูตรนั้นถูกต้องแล้ว ตอนนั้นข้าเป็นคนทำเอง”

 

“หึ! ของที่ทำออกมาย่ำแย่กว่าคนอื่นหายขุม ไม่แม้แต่ได้ประโยชน์ เจ้าต้องการเงินงั้นรี ถึงกล้าหลอกหลวงน้องสาวของข้า!”

 

การแสดงออกจากหลี่เฟิงดูน่ากลัวมาก เดิมที่หลี่ชุนเกี่ยวรังแกคนอ่อนแอเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเจอกับตัวเองถึงกับต้องหวาดหวั่น คนตรงหน้ามิใช่สิ่งที่นางจะสามารถล่วงเกินได้ นางตกใจจนเผลอถอยหลังไปหลายก้าว สุดท้ายได้แต่เอนทิ้งอ่างน้ำข้าง ๆ พร้อมร่างกายที่สั่นสะท้าน

 

“รับเงินจากข้าไปแล้ว แต่กลับไม่ทำให้ดี ให้ข้าคิดก่อนว่าข้าจะจัดการกับครอบครัวเจ้าอย่างไรดี?”

 

หลีชุนเกียวสันสะท้าน แต่ยังคงโต้กลับว่า “เดิมที่พวกท่านรับปากที่สองร้อยตำลึง แต่สุดท้ายกลับให้ข้าแค่ร้อยตำลึง การได้สูตรเช่นนี้นับว่าไม่เลวร้ายเลย พวกท่านยังต้องการอะไรอีก!”

 

“มันใช่เรื่องที่เจ้าจะมาโต้ตอบข้างั้นหรือ? มานี่ ข้าจะสั่งสอนเจ้า!”

 

หลี่เฟิงพาเหล่าข้ารับใช้รุ่นเยาว์และแข็งแรงเข้ามาในลานบ้านพวกเขาเริ่มทุบตีสั่งสอนคนตรงหน้า

 

เหตุการณ์เช่นนี้ย่อมดึงดูดผู้คนในหมู่บ้าน แม้ว่าหลีชุนเฉียวจะไม่ได้เป็นคนที่ใครชอบนัก แต่สุดท้ายก็เป็นคนในหมู่บ้าน ทุกคนไม่อยากเห็นคนอื่นมารังแกคนในหมู่บ้านของตัวเอง

 

ดังนั้นชาวบ้านกลุ่มใหญ่จึงนำจอบ เสียมหลากหลายชนิดเดินมาที่บ้านของหลี่ซุนเกี่ยว

 

เหล่าข้ารับใช้ยังคงทุบนางไม่หยุด หลี่ซุนเกี่ยวกระโดดหนีอย่างร้อนรน แม้แต่เฉินซูเกินก็พยายามปกป้องของในบ้านตนเอง แต่ก็ถูกเตะจนล้มลงไปกับพื้น

 

“พอได้แล้ว! พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ เจ้ามาจากที่ไหนถึงวิ่งมารังแกคนในหมู่บ้านของเรา!”

 

คนที่พูดประโยคนี้คือหัวหน้าหมู่บ้านเฉินซ่ง หากไม่เคยรู้จักเขามาก่อน หยุ นเถียนเถียนคงคิดว่าหัวหน้าหมู่บ้านเป็นคนยุติธรรม

 

นางรับชมเรื่องสนุกอยู่ด้านหลังได้แต่เบ้ปาก หัวหน้าหมู่บ้านจอมเสแสร้งยังคิดจะอวดดีต่อหน้าคนพวกนี้อีกหรือ?

 

หลี่เฟิงมองไปยังหัวหน้าหมู่บ้านด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคงเป็นหัวหน้าหมู่บ้านของที่นี่? เจ้าพยายามปกป้องหญิงคนนี้งั้นเหรอ?”

 

เฉินซ่งขมวดคิ้ว รู้ว่าคนตรงหน้าไม่ง่ายจะตอแยด้วย แต่การขี่เสือนั้นลงยาก ในเมื่อเขาเลือกที่จะอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องปกป้องชาวบ้าน

 

“เจ้าเข้ามาในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุผล แล้วมาทำเช่นนี้ข้าจึงไม่อาจยืนดูเฉย ๆ ได้!”

 

“หากข้าทุบตีอย่างมีเหตุผล แล้วท่านหัวหน้าหมู่บ้านจะว่าอย่าง ไร?”

 

หลี่เฟิงพูดพลางโบกพัดในมือไปด้วย

 

“ถ้าครอบครัวนี้น่าสงสารจริง ๆ ก็ให้พวกเขาชดใช้ค่าเสียหายเงินแค่นี้ไม่ทำให้พวกมันไร้บ้านหรอก”

 

“ข้าสูญเสียของที่ครอบครัวนี้ไม่สามารถจ่ายได้ แล้วข้าควรทำเช่นไรดี? หัวหน้าหมู่บ้านควรชั่งน้ำหนักให้ดีว่าควรปกป้องคนพวกนี้หรือไม่

 

ขณะที่หัวหน้าหมู่บ้านกำลังลังเลว่าจะทำอย่างไรดี แววตาของเขากลอกไปมา เหลือบเห็นหยุนเถียนเถียนที่ซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+