สามีข้า คือพรานป่า 62 คลุมถุงชน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 62 คลุมถุงชน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อย่ามัวแต่สนใจความชั่วร้ายของมนุษย์ ยิ่งเห็นก็จะยิ่งรู้สึกแย่!”

เฉินเฉินพยักหน้า ภายในเวลาแค่สี่ห้าวันเขาก็อ่านคัมภีร์สามอักษรอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะขอหนังสือเล่มอื่นจากบิดา แต่ว่าพี่สาวของเขาก็ได้มอบตำราแซ่ร้อยสกุลให้แทน

หัวใจของเขาเปี่ยมไปด้วยความกตัญญูต่อพี่สาว ผู้ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือผู้ที่พาเขาไปสู่โลกใบใหม่และได้เห็นโลกในมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม

หลังจากศึกษาบทเรียนสำหรับวันนี้ เฉินเถียนเถียนเตรียมอาหารเย็นในถ้ำ เมื่อสองพี่น้องกินข้าวเสร็จก็เหลืออาหารอีกส่วนไว้ให้เจ้าของถ้ำด้วย ก่อนจะออกจากภูเขาเทพธิดาและกลับไปที่ลานหน้าบ้าน

ในที่สุด เฉินเฉิงเยี่ยก็พบกับอาจารย์ที่ยอมรับเขาเป็นศิษย์ ซึ่งความจริงแล้วอยู่ที่เมืองข้าง ๆ เนื่องจากเขาฝึกฝนอย่างหนัก อาจารย์จึงจำใจต้องรับเขาเป็นศิษย์ อีกไม่กี่วันหลังจากนี้เฉินเฉิงเยี่ยจะได้ไปเรียนที่เมืองข้าง ๆ แล้ว

เนื่องจากเมืองที่ต้องไปอยู่ค่อนข้างไกล ทำให้เขากลับบ้านได้แค่เดือนละหนึ่งครั้ง หลินชวนฮวาจึงไม่ลังเลที่จะซื้ออาหารดี ๆ เพื่อเป็นรางวัลให้แก่บุตรชายคนโตของตน

และทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับสองคนพี่น้องนี้เลย!

เดิมทีเฉินผิงอันต้องการเรียกเฉินเฉินออกไป แต่หลินชวนฮวาหยุดเขาไว้ “ไม่รู้ว่าเถียนเถียนกับเฉินเอ๋อไปไหนกันมาทั้งวัน แต่อย่างไรพี่สาวก็คงไม่ปล่อยให้น้องชายของตนต้องทนหิว เมื่อครู่ข้าเดินผ่านเขาไปก็ได้กลิ่นเนื้อบนตัวของเฉินเอ๋อ พวกเขาน่าจะกินข้าวกันมาแล้ว”

เฉินผิงอันรู้สึกหงุดหงิดใจที่ลูกชายของตนมีความสัมพันธ์อันดีกับนังเด็กชั้นต่ำไม่มีหัวนอนปลายเท้า เขาจึงไม่สนใจเด็กหน้าเหม็นพวกนั้นและเพลิดเพลินกับอาหารมื้ออร่อยบนโต๊ะอย่างอิ่มหนำสำราญ

ส่งผลให้พี่น้องทั้งสองถูกทอดทิ้งอีกครั้ง แต่ช่วงนี้ชีวิตของเฉินเถียนเถียนไม่ได้แย่นัก เฉินเฉินเองก็ไม่ได้ดูน่าสงสารหรือโหยหิวเหมือนแต่ก่อน

ถึงอย่างนั้นเสียงแห่งความสุขของครอบครัวสามคนที่ดังอยู่ข้างนอกก็ทำให้หัวใจดวงน้อยของเฉินเฉินขุ่นมัว เขารู้สึกเหมือนตนเป็นคนนอกคอยมองดูคนอื่นมีความสุข

โชคดีที่พี่สาวของเขาสอนว่าถึงแม้โลกนี้จะมีคนเลว แต่ก็ยังมีคนดีอยู่ด้วย ถ้ำของลุงหยุนกลายเป็นฐานที่มั่นลับสำหรับพวกเขาสองพี่น้อง!

วันนี้ ในขณะที่เฉินเถียนเถียนเพิ่งกลับมาจากถ้ำและยังคงจับมือน้อย ๆ ของเฉินเฉินเอาไว้ จี๋ชื่อก็เข้ามาขวางทางด้วยสีหน้าจริงจังราวกับมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น!

“เถียนเถียนวันนี้เจ้ามัวทำอะไรอยู่? ป้าตามหาตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่เจอ!”

เฉินเทียนเถียนยิ้มอย่างขมขื่น “ตั้งแต่กลับบ้านครั้งที่แล้ว หลินชวนฮวาก็ไม่ยอมให้ข้ากินข้าว! ข้าต้องออกไปหาอะไรกินเพื่อไม่ให้อดตาย!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้จี๋ชื่อก็โกรธจัด “นังหญิงสารเลวนี่! ข้านึกแล้วเชียวว่านางไม่เคยมีเมตตาต่อเจ้า!”

เฉินเถียนเถียนมองดูมือเล็ก ๆ ที่ตนกอบกุมไว้ “ข้าไม่ใช่ลูกของนาง จึงไม่แปลกใจที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ แต่เด็กคนนี้อย่างไรก็เป็นลูกชายของนาง เวลาพ่ออยู่ที่บ้านเขายังพอได้กินข้าวครบทุกมื้อบ้าง แต่หากวันใดที่พ่อไม่อยู่เขาแทบไม่ได้กินอะไรเลยด้วยซ้ำ!”

“หลินชวนฮวาไร้จิตสำนึกแต่ข้าทนเห็นแบบนี้ไม่ได้! เด็กคนนี้เป็นเด็กดี ข้าจึงทำได้แค่พากันไปที่ภูเขาเพื่อหาอาหาร อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาไม่ต้องอดตาย”

ดวงตาของจี๋ชื่อเบิกโพลง “แม้เสือจะร้ายแต่ก็ไม่กินลูกของตน ดอกมะลิหน้าหนาวก็ยังต้องดูแลเอาใจใส่ แต่นี่เป็นคน… เมื่อพวกเจ้าหิวเหตุใดไม่ไปบอกพ่อ!”

เฉินเถียนเถียนถอนหายใจอย่างเย็นชา “ป้าใหญ่ท่านคิดง่ายเกินไป แม้ท่านพ่อจะดีต่อเฉินเอ๋อแต่เขาก็เชื่อฟังหลินชวนฮวามาก เฉินเอ๋อจะถูกหลินชวนฮวาขังทุกครั้งที่เขาคิดจะบอกพ่อ! ตัวข้ายิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ข้าไม่ได้กินข้าวที่บ้านมาหลายวันแล้ว แต่พ่อไม่เคยสนใจว่าข้าจะอยู่หรือตาย ไม่พอยังสมคบคิดกันโกงโฉนดบ้านและที่ดินไปจากข้า!”

จี๋ชื่อตระหนักในทันใด “ข้าว่าแล้วเชียว ไม่ว่าเจ้าจะโง่เง่าเพียงใดก็คงไม่มีทางขายที่ดินที่เป็นชื่อของเขาอย่างแน่นอน ที่แท้เป็นฝีมือของเฉินผิงอัน กล้าที่จะขายสินเดิมของภรรยา! เขาเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร?”

เฉินเถียนเถียนยิ้มจาง ๆ “ตอนนี้เขาต้องการขายที่ดินเพื่อส่งเด็กคนนี้ไปเรียน ข้าจึงยอมรับได้และไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องเสียหายอันใดหากเขาส่งเด็กผู้นี้ไปเรียนจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่หลินชวนฮวาไม่ยอมพลาดโอกาสดี ๆ เช่นนี้ นางขัดขวางอยู่ตั้งหลายครั้ง ข้าเกรงว่า…”

จี๋ชื่อถอนหายใจ “พ่อของเจ้าใจดำเกินไปแล้ว ข้าไม่อยากพูดถึงเขาแล้ว แต่ตอนนี้ที่ดินถูกตั้งราคาขายไปแล้ว สินเดิมของเจ้าก็จะถูกเอาไปด้วยเพราะเป็นที่ดินในหมู่บ้าน!”

“เอาเถิดเถียนเถียน ข้าเกรงว่าพวกผู้เฒ่าคงรอไม่ได้แล้ว เขาต้องการให้เจ้าแต่งงานออกไปในเร็ว ๆ นี้ เจ้าต้องเตรียมใจให้พร้อม ขอโทษที่ข้าต้องเร่งเร้า แต่คราวนี้ฟังที่ป้าบอกเถิด หรือไม่อย่างนั้นเจ้าก็บอกป้ามาว่าเจ้าชอบคนแบบไหน ป้าจะได้ช่วยมองหาคนในหมู่บ้านนี้ให้”

เฉินเถียนเถียนยิ้มอย่างขมขื่นและก้มหน้าลง เฉินเฉินที่เห็นว่าพี่สาวถูกบีบบังคับขนาดนี้ด้วยตาตัวเอง หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธพร้อมกับคิดในใจ ‘ท่านแม่… ทำเกินไปแล้ว’

“ช่างเถิด! ท่านป้าช่วยข้าหาหน่อยแล้วกัน ขอแค่เป็นชาวนาที่ซื่อสัตย์ ข้าคิดว่าท่านป้าคงหาเจอในหมู่บ้านนี้”

จี๋ชื่อมองใบหน้าที่เริ่มปรากฏเค้าความงามอย่างยากจะหาใครเทียบได้ ช่างน่าเสียดายนัก!

หญิงงามขนาดนี้ ต่อให้แต่งเข้าตระกูลใหญ่มั่งคั่งในฐานะภรรยาเอกก็ยังเป็นไปได้ น่าเสียดายที่โอกาสทั้งหมดถูกทำลายโดยนังคนโง่หลินชวนฮวา!

กล่าวตามตรง หญิงผู้นั้นช่างโง่เขลานัก หากบุตรสาวคนนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างดี เฉินเถียนเถียนหรือจะไม่ปฏิบัติต่อนางเหมือนเป็นมารดา?

ด้วยความงามของเด็กสาวคนนี้ ย่อมสามารถแต่งเข้าตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวยได้ และคู่ควรกับตำแหน่งภรรยาเอกที่ได้รับการยอมรับอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นยังจะกลัวว่าลูกสาวจะไม่สำนึกบุญคุณและดูแลครอบครัวไม่ดีอีกหรือ?

แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองกลายเป็นเช่นนี้ไปเสียแล้ว! แม้ว่าหลินชวนฮวาต้องการจะชดเชยในภายหลังก็เกรงว่าจะไม่ได้!

“ป้าจะพยายามช่วยหาอย่างดีที่สุด ชีวิตเจ้าช่างน่าเวทนานัก!”

แม้เฉินเถียนเถียนไม่ได้หวั่นไหวเมื่อได้ยินเช่นนี้แต่ก็ก้มหน้าลง ส่วนจี๋ชื่อก็ถอนหายใจแล้วค่อย ๆ เดินจากไป!

ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดพวกคนแก่หัวแข็งถึงต้องบังคับให้แต่งงานด้วย เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ความผิดของตน แต่กลับต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมด!

เฉินเฉินพูดอย่างระมัดระวัง “พี่สาว! ท่านจะแต่งงานจริง ๆ หรือ? ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปหาพี่สาวเพื่อฝึกอ่านหนังสือได้หรือไม่?”

เฉินเถียนเถียนยิ้มและจิ้มที่ปลายจมูกของเฉินเฉิน “อะไรที่ทำให้เด็กอย่างเจ้าสนใจขนาดนี้? ไม่ต้องกังวลหรอก แม้ว่าพี่สาวจะแต่งงานแล้ว แต่เรื่องของเจ้าย่อมต้องถูกจัดการอย่างเหมาะสม”

เฉินเฉินไม่ยิ้ม ทั้งยังถอนหายใจใส่พี่สาวของเขาอีกด้วย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 62 คลุมถุงชน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 62 คลุมถุงชน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อย่ามัวแต่สนใจความชั่วร้ายของมนุษย์ ยิ่งเห็นก็จะยิ่งรู้สึกแย่!”

เฉินเฉินพยักหน้า ภายในเวลาแค่สี่ห้าวันเขาก็อ่านคัมภีร์สามอักษรอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะขอหนังสือเล่มอื่นจากบิดา แต่ว่าพี่สาวของเขาก็ได้มอบตำราแซ่ร้อยสกุลให้แทน

หัวใจของเขาเปี่ยมไปด้วยความกตัญญูต่อพี่สาว ผู้ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือผู้ที่พาเขาไปสู่โลกใบใหม่และได้เห็นโลกในมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม

หลังจากศึกษาบทเรียนสำหรับวันนี้ เฉินเถียนเถียนเตรียมอาหารเย็นในถ้ำ เมื่อสองพี่น้องกินข้าวเสร็จก็เหลืออาหารอีกส่วนไว้ให้เจ้าของถ้ำด้วย ก่อนจะออกจากภูเขาเทพธิดาและกลับไปที่ลานหน้าบ้าน

ในที่สุด เฉินเฉิงเยี่ยก็พบกับอาจารย์ที่ยอมรับเขาเป็นศิษย์ ซึ่งความจริงแล้วอยู่ที่เมืองข้าง ๆ เนื่องจากเขาฝึกฝนอย่างหนัก อาจารย์จึงจำใจต้องรับเขาเป็นศิษย์ อีกไม่กี่วันหลังจากนี้เฉินเฉิงเยี่ยจะได้ไปเรียนที่เมืองข้าง ๆ แล้ว

เนื่องจากเมืองที่ต้องไปอยู่ค่อนข้างไกล ทำให้เขากลับบ้านได้แค่เดือนละหนึ่งครั้ง หลินชวนฮวาจึงไม่ลังเลที่จะซื้ออาหารดี ๆ เพื่อเป็นรางวัลให้แก่บุตรชายคนโตของตน

และทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับสองคนพี่น้องนี้เลย!

เดิมทีเฉินผิงอันต้องการเรียกเฉินเฉินออกไป แต่หลินชวนฮวาหยุดเขาไว้ “ไม่รู้ว่าเถียนเถียนกับเฉินเอ๋อไปไหนกันมาทั้งวัน แต่อย่างไรพี่สาวก็คงไม่ปล่อยให้น้องชายของตนต้องทนหิว เมื่อครู่ข้าเดินผ่านเขาไปก็ได้กลิ่นเนื้อบนตัวของเฉินเอ๋อ พวกเขาน่าจะกินข้าวกันมาแล้ว”

เฉินผิงอันรู้สึกหงุดหงิดใจที่ลูกชายของตนมีความสัมพันธ์อันดีกับนังเด็กชั้นต่ำไม่มีหัวนอนปลายเท้า เขาจึงไม่สนใจเด็กหน้าเหม็นพวกนั้นและเพลิดเพลินกับอาหารมื้ออร่อยบนโต๊ะอย่างอิ่มหนำสำราญ

ส่งผลให้พี่น้องทั้งสองถูกทอดทิ้งอีกครั้ง แต่ช่วงนี้ชีวิตของเฉินเถียนเถียนไม่ได้แย่นัก เฉินเฉินเองก็ไม่ได้ดูน่าสงสารหรือโหยหิวเหมือนแต่ก่อน

ถึงอย่างนั้นเสียงแห่งความสุขของครอบครัวสามคนที่ดังอยู่ข้างนอกก็ทำให้หัวใจดวงน้อยของเฉินเฉินขุ่นมัว เขารู้สึกเหมือนตนเป็นคนนอกคอยมองดูคนอื่นมีความสุข

โชคดีที่พี่สาวของเขาสอนว่าถึงแม้โลกนี้จะมีคนเลว แต่ก็ยังมีคนดีอยู่ด้วย ถ้ำของลุงหยุนกลายเป็นฐานที่มั่นลับสำหรับพวกเขาสองพี่น้อง!

วันนี้ ในขณะที่เฉินเถียนเถียนเพิ่งกลับมาจากถ้ำและยังคงจับมือน้อย ๆ ของเฉินเฉินเอาไว้ จี๋ชื่อก็เข้ามาขวางทางด้วยสีหน้าจริงจังราวกับมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น!

“เถียนเถียนวันนี้เจ้ามัวทำอะไรอยู่? ป้าตามหาตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่เจอ!”

เฉินเทียนเถียนยิ้มอย่างขมขื่น “ตั้งแต่กลับบ้านครั้งที่แล้ว หลินชวนฮวาก็ไม่ยอมให้ข้ากินข้าว! ข้าต้องออกไปหาอะไรกินเพื่อไม่ให้อดตาย!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้จี๋ชื่อก็โกรธจัด “นังหญิงสารเลวนี่! ข้านึกแล้วเชียวว่านางไม่เคยมีเมตตาต่อเจ้า!”

เฉินเถียนเถียนมองดูมือเล็ก ๆ ที่ตนกอบกุมไว้ “ข้าไม่ใช่ลูกของนาง จึงไม่แปลกใจที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ แต่เด็กคนนี้อย่างไรก็เป็นลูกชายของนาง เวลาพ่ออยู่ที่บ้านเขายังพอได้กินข้าวครบทุกมื้อบ้าง แต่หากวันใดที่พ่อไม่อยู่เขาแทบไม่ได้กินอะไรเลยด้วยซ้ำ!”

“หลินชวนฮวาไร้จิตสำนึกแต่ข้าทนเห็นแบบนี้ไม่ได้! เด็กคนนี้เป็นเด็กดี ข้าจึงทำได้แค่พากันไปที่ภูเขาเพื่อหาอาหาร อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาไม่ต้องอดตาย”

ดวงตาของจี๋ชื่อเบิกโพลง “แม้เสือจะร้ายแต่ก็ไม่กินลูกของตน ดอกมะลิหน้าหนาวก็ยังต้องดูแลเอาใจใส่ แต่นี่เป็นคน… เมื่อพวกเจ้าหิวเหตุใดไม่ไปบอกพ่อ!”

เฉินเถียนเถียนถอนหายใจอย่างเย็นชา “ป้าใหญ่ท่านคิดง่ายเกินไป แม้ท่านพ่อจะดีต่อเฉินเอ๋อแต่เขาก็เชื่อฟังหลินชวนฮวามาก เฉินเอ๋อจะถูกหลินชวนฮวาขังทุกครั้งที่เขาคิดจะบอกพ่อ! ตัวข้ายิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ข้าไม่ได้กินข้าวที่บ้านมาหลายวันแล้ว แต่พ่อไม่เคยสนใจว่าข้าจะอยู่หรือตาย ไม่พอยังสมคบคิดกันโกงโฉนดบ้านและที่ดินไปจากข้า!”

จี๋ชื่อตระหนักในทันใด “ข้าว่าแล้วเชียว ไม่ว่าเจ้าจะโง่เง่าเพียงใดก็คงไม่มีทางขายที่ดินที่เป็นชื่อของเขาอย่างแน่นอน ที่แท้เป็นฝีมือของเฉินผิงอัน กล้าที่จะขายสินเดิมของภรรยา! เขาเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร?”

เฉินเถียนเถียนยิ้มจาง ๆ “ตอนนี้เขาต้องการขายที่ดินเพื่อส่งเด็กคนนี้ไปเรียน ข้าจึงยอมรับได้และไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องเสียหายอันใดหากเขาส่งเด็กผู้นี้ไปเรียนจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่หลินชวนฮวาไม่ยอมพลาดโอกาสดี ๆ เช่นนี้ นางขัดขวางอยู่ตั้งหลายครั้ง ข้าเกรงว่า…”

จี๋ชื่อถอนหายใจ “พ่อของเจ้าใจดำเกินไปแล้ว ข้าไม่อยากพูดถึงเขาแล้ว แต่ตอนนี้ที่ดินถูกตั้งราคาขายไปแล้ว สินเดิมของเจ้าก็จะถูกเอาไปด้วยเพราะเป็นที่ดินในหมู่บ้าน!”

“เอาเถิดเถียนเถียน ข้าเกรงว่าพวกผู้เฒ่าคงรอไม่ได้แล้ว เขาต้องการให้เจ้าแต่งงานออกไปในเร็ว ๆ นี้ เจ้าต้องเตรียมใจให้พร้อม ขอโทษที่ข้าต้องเร่งเร้า แต่คราวนี้ฟังที่ป้าบอกเถิด หรือไม่อย่างนั้นเจ้าก็บอกป้ามาว่าเจ้าชอบคนแบบไหน ป้าจะได้ช่วยมองหาคนในหมู่บ้านนี้ให้”

เฉินเถียนเถียนยิ้มอย่างขมขื่นและก้มหน้าลง เฉินเฉินที่เห็นว่าพี่สาวถูกบีบบังคับขนาดนี้ด้วยตาตัวเอง หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธพร้อมกับคิดในใจ ‘ท่านแม่… ทำเกินไปแล้ว’

“ช่างเถิด! ท่านป้าช่วยข้าหาหน่อยแล้วกัน ขอแค่เป็นชาวนาที่ซื่อสัตย์ ข้าคิดว่าท่านป้าคงหาเจอในหมู่บ้านนี้”

จี๋ชื่อมองใบหน้าที่เริ่มปรากฏเค้าความงามอย่างยากจะหาใครเทียบได้ ช่างน่าเสียดายนัก!

หญิงงามขนาดนี้ ต่อให้แต่งเข้าตระกูลใหญ่มั่งคั่งในฐานะภรรยาเอกก็ยังเป็นไปได้ น่าเสียดายที่โอกาสทั้งหมดถูกทำลายโดยนังคนโง่หลินชวนฮวา!

กล่าวตามตรง หญิงผู้นั้นช่างโง่เขลานัก หากบุตรสาวคนนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างดี เฉินเถียนเถียนหรือจะไม่ปฏิบัติต่อนางเหมือนเป็นมารดา?

ด้วยความงามของเด็กสาวคนนี้ ย่อมสามารถแต่งเข้าตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวยได้ และคู่ควรกับตำแหน่งภรรยาเอกที่ได้รับการยอมรับอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นยังจะกลัวว่าลูกสาวจะไม่สำนึกบุญคุณและดูแลครอบครัวไม่ดีอีกหรือ?

แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองกลายเป็นเช่นนี้ไปเสียแล้ว! แม้ว่าหลินชวนฮวาต้องการจะชดเชยในภายหลังก็เกรงว่าจะไม่ได้!

“ป้าจะพยายามช่วยหาอย่างดีที่สุด ชีวิตเจ้าช่างน่าเวทนานัก!”

แม้เฉินเถียนเถียนไม่ได้หวั่นไหวเมื่อได้ยินเช่นนี้แต่ก็ก้มหน้าลง ส่วนจี๋ชื่อก็ถอนหายใจแล้วค่อย ๆ เดินจากไป!

ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดพวกคนแก่หัวแข็งถึงต้องบังคับให้แต่งงานด้วย เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ความผิดของตน แต่กลับต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมด!

เฉินเฉินพูดอย่างระมัดระวัง “พี่สาว! ท่านจะแต่งงานจริง ๆ หรือ? ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปหาพี่สาวเพื่อฝึกอ่านหนังสือได้หรือไม่?”

เฉินเถียนเถียนยิ้มและจิ้มที่ปลายจมูกของเฉินเฉิน “อะไรที่ทำให้เด็กอย่างเจ้าสนใจขนาดนี้? ไม่ต้องกังวลหรอก แม้ว่าพี่สาวจะแต่งงานแล้ว แต่เรื่องของเจ้าย่อมต้องถูกจัดการอย่างเหมาะสม”

เฉินเฉินไม่ยิ้ม ทั้งยังถอนหายใจใส่พี่สาวของเขาอีกด้วย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+