สามีข้า คือพรานป่า 284 หนทางสู่ความสําเร็จ

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 284 หนทางสู่ความสําเร็จ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 284 หนทางสู่ความสําเร็จ

จุดต่าหนิเดียวคือชุดแต่งงานบนร่างของเฉินไฉ่อ ด้วยคุณภาพที่ไม่ได้ดีนักและสีย้อมที่ไม่สม่ําเสมอหลังโดนน้ําที่หวงฉือสาดใส่สีก็จางลงไปไม่น้อย!

สีย้อมสีแดงเหล่านั้นเปรอะเปื้อนไปตามตัวของหญิงสาว แม้จะแห้งไปแล้วเพราะไอร้อนจากเตาทว่าหากผู้ใดพบเห็นอาจคิดว่านางนั้นสติไม่ดีก็เป็นได้

อย่างน้อยช่วงเวลาที่นางเดินเข้ามา ดวงตาของหลินหูก็เต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด!

แม้เฉินไฉ่อจะไม่ชอบใจนักแต่นางก็รู้ดีว่าเวลาเช่นนี้นางไม่ควรแข็งข้อนางยังจําเป็นต้องพึ่งพาแรงสนับสนุนจากชายน่ารังเกียจตรงหน้า

“ท่านพี่ การศึกษาหาความรู้ไม่ใช่จะทําได้เลยในระยะเวลาอันสั้น กินข้าวเช้าก่อนเถิด!”

หลินหูไม่ได้ตอบรับ เขาวางกระดาษพู่กันลงแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะพร้อมหยิบตะเกียบขึ้นมาถือ

เฉินไฉ่อแสร้งทําตัวไม่สังเกตเห็นกระดาษสาแผ่นนั้นขณะเดินผ่าน บทกวีบนกระดาษนั้นคล้ายโคลงกลอนเสียจนนางที่วาดฝันการเป็นฮูหยินเอกในขุนนางชั้นสูงอดงนงงเสียไม่ได้

แต่เมื่อคิดถึงช่วงเวลาที่นางจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกก็ทําให้นางต้องฝืนทนหยิบจับพู่กันแม้ไม่เต็มใจ! การเป็นสตรีนั้นมีข้อจํากัดมากมาย ยามที่เฉินซ่งบอกให้นางร่ําเรียนเขาคาดหวังให้บุตรสาวของตนสามารถเป็นสตรีที่คอยคิดอ่านเคียงข้างสามีในอนาคตได้ด้วยเหตุนี้สิ่งที่นางได้รับไม่ใช่การเล่าเรียนอย่างถูกต้องบทกวีซึ่งเกี่ยวข้องกับสี่หนังสือหาคัมภีร์ที่จําต้องสอบนางก็ไม่เคยศึกษามาก่อน!

ทว่าหากเป็นบทกวีที่เกี่ยวข้องกับความรัก เฉินไฉ่อเขียนขึ้นมาได้อย่างลื่นไหลเลยทีเดียว!

ชั่วพริบตาบทกวีซึ่งกล่าวถึงสตรีวัยเยาว์ผู้คะนึงหาในรักก็ปรากฏขึ้นตรงปลายพู่กันบัณฑิตทั่ว ไปยามได้อ่านอาจนึกดูถูกกวีบทนี้แต่นั่นไม่ใช่กับหลินหูที่ไม่มีไหวพริบเพียงพอเขายอมรับว่าบทกวีนี้สมควรได้รับยกย่อง!

ยามหลินหูสังเกตเห็นหญิงสาวน่าตายผู้นี้กล้าแตะต้องพู่กันและกระดาษของตนเขาแทบ อยากจะเป็นบ้า ทว่าบทกวี ความรู้สรรค์สร้างบัณฑิต”ก็ไม่ใช่ประโยคน่าขบขันครั้นเฉินไฉ่อยกฟู กันขึ้น ท่วงท่าของนางนั้นสง่างามเสียจนหลินหูไม่มีท่าทางโกรธเคียงไปชั่วขณะ

เมื่อเฉินไฉ่อหยุดเขียนด้วยความพึงพอใจ หลินหูก้าวไปเบื้องหน้าเพื่อมองสบใกล้ ๆ เพียงแค่ชําเลืองดูก็สัมผัสได้ถึงความสวยงามอันไร้ที่ติ!

ในด้านการเขียน เฉินไฉ่อถือได้ว่าเชี่ยวชาญลายเส้นเล็กอันวิจิตรอีกผู้หนึ่งเลยก็ว่าได้ ทั้งยัง เขียนออกมาได้อย่างลื่นไหล หากเทียบกับตัวเขาที่เขียนออกมาได้อย่างถูกต้องเท่านั้นลายเส้นนี้ถือว่าดดีกว่ามาก! ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือบทกวีที่ท่าให้แววตาของเขาเปล่งประกาย!

“บทกวีนี้เจ้าเป็นคนเขียนขึ้นเองหรือ?”

เฉินไฉ่อทราบดีว่าแผนการของนางถือว่าสําเร็จลุล่วง อย่างน้อยก็สามารถดึงดูดความสนใจของหลินหูไว้ได้

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ”

พลันหลินหูก็นึกถึงการชุมนุมบทกวีที่เขากําลังจะจัดขึ้น ได้ยินมาว่าเมืองนั้นคราคร่ําไปด้วยเหล่าบัณฑิตที่สามารถเข้าร่วมงานชุมนุมได้เช่นกัน หากเขาสามารถทําให้ผู้คนตกตะลึงได้ยามการสอบขุนนางมาถึงชื่อเสียงของเขาก็จะดีมากขึ้นไม่น้อย

“เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าไม่มีผู้ใดทราบว่าเจ้าเขียนบทกวีนี้ขึ้นมา?”

แม้ว่าเฉินไฉ่อจะแปลกใจเล็กน้อยแต่นางไม่ทราบว่าเหตุใดหลินหูถึงถามเช่นนี้หญิงสาวพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ข้าเพิ่งเขียนไป นอกจากท่านแล้วจะมีผู้ใดเห็นได้อีก?”

หลินหูตาเป็นประกายราวกับได้พบทางลัด! เขามีผู้ช่วยที่เป็นประโยชน์เช่นนี้หากไม่ใช้งานก็โง่เต็มที่!

“หลังจากนี้เจ้ายังสามารถเขียนมากกว่านี้ได้อีกหรือไม่?

เฉินไฉ่อค้อมหัวอย่างสุภาพ “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ! ไม่สิ ท่านพ่อาจยังไม่ทราบว่าวันนี้ท่านแม่จะพาข้าไปทํางานเกรงว่าข้าคงไม่มีเวลาคิดบทกวีเหล่านี้ให้ท่าน”

หลินหูโบกมืออย่างไม่แยแส “เรื่องนี้ข้าจะบอกให้ท่านแม่ทราบ เจ้าตั้งใจเขียนบทกวีอยู่ในห้องหนังสือก็พอเขียนให้มากหน่อยเล่า!”

หลังจากที่หลินห์กล่าวจบเขาก็เดินออกไปทันที เฉินไฉ่อลอบยิ้มอย่างพึงพอใจหากการเขีย นสิ่งเหล่านี้ทําให้นางได้อยู่แต่ในห้องหนังสือไม่ต้องทํางานนางก็ยินดีทําอย่างยิ่ง!

ด้านหลินหูนั้นเมื่อก้าวพ้นประตูก็คว้ามารดาไว้อย่างรวดเร็ว

“ท่านแม่ ท่านดูนี่! สิ่งนี้คือสิ่งที่เฉินไฉ่อเขียนขึ้นมา”

เป็นธรรมดาที่หวงฉือจะไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้แม้กระทั่งตัวอักษรบนหน้ากระดาษนางกลอกตาขึ้นพร้อมพูดว่า“ลูกข้าเจ้าอย่าได้ตกหลุมพลางอันชั่วร้ายของนางนางไม่ใช่สตรีที่จะเขียนอะไรดี ๆ ออกมาได้ข้าส์ที่เขียนได้เก่งที่สุด!”

หลินหูไม่ต้องการวุ่นวายกับมารดามากนักเขามีสิ่งที่สําคัญกว่านั้นต้องไปทํา

“ท่านแม่ท่านไม่เข้าใจ หากข้าใช้สิ่งเหล่านี้เป็นหนทางสู่ความสําเร็จไม่แน่ข้าอาจสามารถเข้าร่วมกลุ่มเหล่าบัณฑิตได้เมื่อการสอบขุนนางมาถึงและข้ามีชื่อเสียงมากพอแม้แต่นายอําเภอจากทางการก็ไม่กล้าที่จะไม่เลือกข้า!”

หวงจือใจเต้นระรัวด้วยความตื่นตระหนก เรื่องอื่นนางไม่เข้าใจแต่นางเข้าใจว่าสิ่งนี้สามารถช่วยบุตรชายของนางได้!

“สิ่งที่นางเขียนมีประโยชน์จริงหรือ?”

หลินห์พยักหน้าอย่างจริงจัง “อย่างน้อยข้าก็ไม่สามารถเขียนถึงขั้นนี้ได้!เพราะฉะนั้นท่านแม่ช่วงนี้ท่านก็อย่าได้ทําอะไรให้นางล่าบากใจ ให้นางอยู่ในห้องหนังสือเขียนบทกวีออกมาสักสองสามบท”

แม้หวงฉือจะไม่เต็มใจ แต่ด้วยเพราะเส้นสายนั้นสําคัญกับบุตรชายของนางมากนางจึงทําได้เพียงพยักหน้าอย่างจริงจัง

“เอาเถิด เจ้ารีบไปเสีย มารดาไม่รู้เรื่องราวยังจะกล้าทําให้เจ้าล่าช้าอีกหรือ? งานในไร่ข้าจะจัดการเองแล้วบิดาไม่รู้จักโตของเจ้าก็ไม่รู้หายหัวไปไหน บอกว่าไปหาเงินแต่เงินสักอีแปะก็ไม่เห็นมีแม้แต่ตัวก็ยังไม่เห็นกลับมา!”

หลินหูไม่แปลกใจที่ได้ยินสิ่งเหล่านี้ หลังจากได้รับความเห็นชอบจากมารดาเขาก็ยัดแผ่นกระดาษลงในอ้อมอก หันตัวกลับหลังเดินออกจากจวน!

อีกด้านหนึ่ง เฉินเฉินที่อยู่ในห้องหนังสือของเฉินซิ่วไฉก็ได้รับข่าวเกี่ยวกับงานชุมนุมบทกวีที่ ทั่วทั้งบัณฑิตในเมืองร่วมกันจัดขึ้น หลายคนคงใช้งานนี้ป่าวประกาศว่าตนนั้นดีเลิศเพียงใด เขา
คิด

เขารับฟังข่าวนี้อย่างไม่ใส่ใจนักทว่าก็เดินไปสอบถามเฉินซิ่วไจ เหตุเพราะหยุนเวียนเถียนหวาดเกรงว่าบัณฑิตในเมืองบางกลุ่มที่มีนิสัยไม่ดีอาจชักจูงให้เฉินเฉินหลงผิดได้จึงเร่งรีบเข้ามาอธิบายให้เขาฟังแต่เช้าหากเขาไม่เข้าใจเรื่องใดให้เดินไปถามท่านอาจารย์!

เฉินเฉินจดจําค่าของพี่สาวได้ขึ้นใจ ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องหนังสือของอาจารย์เฉิน!

“ท่านอาจารย์ ศิษย์มีเรื่องจะสอบถาม!”

เฉินซิ่วไฉมองไปยังศิษย์ตรงหน้าก่อนจะยกยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ มีความสามารถและฉลาดเฉลียวอยู่เสมอ สิ่งที่สําคัญที่สุดคือความตั้งใจที่จะเรียนรู้ มากไปกว่านั้นคือพี่สาวที่เต็มใจพาเขาออกไปพบเจอเรื่องราวและสิ่งต่าง ๆ บนโลกกว้างแน่นอนว่าเด็กคนนี้รู้มากกว่าผู้ใหญ่คนอื่น ๆ เสียอีกด้วยวัยเพียงเท่านี้ก็สามารถเข้าใจสิ่งที่แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่สามารถ

“เจ้าพูดมาเถิด”

“ท่านอาจารย์ สหายข้าเชิญชวนให้ไปร่วมงานชุมนุมบทกวีที่จะจัดขึ้นในเมือง ศิษย์ไม่ทราบจริง ๆ ว่าเขาต้องการจะทําอะไร จึงมาขอคําชี้แนะจากท่านอาจารย์เป็นกรณีพิเศษขอรับว่างานชุมนุมนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อการสอบขุนนางของข้าหรือไม่!”

เฉินซิ่วไฉหน้าเปลี่ยนสีในทันที เจ้าพวกสารเลวกลุ่มนั้นคิดเพียงแต่จะพึ่งพาเงินในตระกูลไม่ทําสิ่งใดนอกจากสร้างความวุ่นวายข้างนอก และยังคิดร้ายกับศิษย์ที่เขาภาคภูมิใจที่สุดอีกหรือ!

“เด็กดี ด้วยวัยของเจ้าในตอนนี้ เจ้ายังไม่ควรไปเข้าร่วมงานเช่นนั้น!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 284 หนทางสู่ความสําเร็จ

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 284 หนทางสู่ความสําเร็จ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 284 หนทางสู่ความสําเร็จ

จุดต่าหนิเดียวคือชุดแต่งงานบนร่างของเฉินไฉ่อ ด้วยคุณภาพที่ไม่ได้ดีนักและสีย้อมที่ไม่สม่ําเสมอหลังโดนน้ําที่หวงฉือสาดใส่สีก็จางลงไปไม่น้อย!

สีย้อมสีแดงเหล่านั้นเปรอะเปื้อนไปตามตัวของหญิงสาว แม้จะแห้งไปแล้วเพราะไอร้อนจากเตาทว่าหากผู้ใดพบเห็นอาจคิดว่านางนั้นสติไม่ดีก็เป็นได้

อย่างน้อยช่วงเวลาที่นางเดินเข้ามา ดวงตาของหลินหูก็เต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด!

แม้เฉินไฉ่อจะไม่ชอบใจนักแต่นางก็รู้ดีว่าเวลาเช่นนี้นางไม่ควรแข็งข้อนางยังจําเป็นต้องพึ่งพาแรงสนับสนุนจากชายน่ารังเกียจตรงหน้า

“ท่านพี่ การศึกษาหาความรู้ไม่ใช่จะทําได้เลยในระยะเวลาอันสั้น กินข้าวเช้าก่อนเถิด!”

หลินหูไม่ได้ตอบรับ เขาวางกระดาษพู่กันลงแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะพร้อมหยิบตะเกียบขึ้นมาถือ

เฉินไฉ่อแสร้งทําตัวไม่สังเกตเห็นกระดาษสาแผ่นนั้นขณะเดินผ่าน บทกวีบนกระดาษนั้นคล้ายโคลงกลอนเสียจนนางที่วาดฝันการเป็นฮูหยินเอกในขุนนางชั้นสูงอดงนงงเสียไม่ได้

แต่เมื่อคิดถึงช่วงเวลาที่นางจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกก็ทําให้นางต้องฝืนทนหยิบจับพู่กันแม้ไม่เต็มใจ! การเป็นสตรีนั้นมีข้อจํากัดมากมาย ยามที่เฉินซ่งบอกให้นางร่ําเรียนเขาคาดหวังให้บุตรสาวของตนสามารถเป็นสตรีที่คอยคิดอ่านเคียงข้างสามีในอนาคตได้ด้วยเหตุนี้สิ่งที่นางได้รับไม่ใช่การเล่าเรียนอย่างถูกต้องบทกวีซึ่งเกี่ยวข้องกับสี่หนังสือหาคัมภีร์ที่จําต้องสอบนางก็ไม่เคยศึกษามาก่อน!

ทว่าหากเป็นบทกวีที่เกี่ยวข้องกับความรัก เฉินไฉ่อเขียนขึ้นมาได้อย่างลื่นไหลเลยทีเดียว!

ชั่วพริบตาบทกวีซึ่งกล่าวถึงสตรีวัยเยาว์ผู้คะนึงหาในรักก็ปรากฏขึ้นตรงปลายพู่กันบัณฑิตทั่ว ไปยามได้อ่านอาจนึกดูถูกกวีบทนี้แต่นั่นไม่ใช่กับหลินหูที่ไม่มีไหวพริบเพียงพอเขายอมรับว่าบทกวีนี้สมควรได้รับยกย่อง!

ยามหลินหูสังเกตเห็นหญิงสาวน่าตายผู้นี้กล้าแตะต้องพู่กันและกระดาษของตนเขาแทบ อยากจะเป็นบ้า ทว่าบทกวี ความรู้สรรค์สร้างบัณฑิต”ก็ไม่ใช่ประโยคน่าขบขันครั้นเฉินไฉ่อยกฟู กันขึ้น ท่วงท่าของนางนั้นสง่างามเสียจนหลินหูไม่มีท่าทางโกรธเคียงไปชั่วขณะ

เมื่อเฉินไฉ่อหยุดเขียนด้วยความพึงพอใจ หลินหูก้าวไปเบื้องหน้าเพื่อมองสบใกล้ ๆ เพียงแค่ชําเลืองดูก็สัมผัสได้ถึงความสวยงามอันไร้ที่ติ!

ในด้านการเขียน เฉินไฉ่อถือได้ว่าเชี่ยวชาญลายเส้นเล็กอันวิจิตรอีกผู้หนึ่งเลยก็ว่าได้ ทั้งยัง เขียนออกมาได้อย่างลื่นไหล หากเทียบกับตัวเขาที่เขียนออกมาได้อย่างถูกต้องเท่านั้นลายเส้นนี้ถือว่าดดีกว่ามาก! ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือบทกวีที่ท่าให้แววตาของเขาเปล่งประกาย!

“บทกวีนี้เจ้าเป็นคนเขียนขึ้นเองหรือ?”

เฉินไฉ่อทราบดีว่าแผนการของนางถือว่าสําเร็จลุล่วง อย่างน้อยก็สามารถดึงดูดความสนใจของหลินหูไว้ได้

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ”

พลันหลินหูก็นึกถึงการชุมนุมบทกวีที่เขากําลังจะจัดขึ้น ได้ยินมาว่าเมืองนั้นคราคร่ําไปด้วยเหล่าบัณฑิตที่สามารถเข้าร่วมงานชุมนุมได้เช่นกัน หากเขาสามารถทําให้ผู้คนตกตะลึงได้ยามการสอบขุนนางมาถึงชื่อเสียงของเขาก็จะดีมากขึ้นไม่น้อย

“เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าไม่มีผู้ใดทราบว่าเจ้าเขียนบทกวีนี้ขึ้นมา?”

แม้ว่าเฉินไฉ่อจะแปลกใจเล็กน้อยแต่นางไม่ทราบว่าเหตุใดหลินหูถึงถามเช่นนี้หญิงสาวพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ข้าเพิ่งเขียนไป นอกจากท่านแล้วจะมีผู้ใดเห็นได้อีก?”

หลินหูตาเป็นประกายราวกับได้พบทางลัด! เขามีผู้ช่วยที่เป็นประโยชน์เช่นนี้หากไม่ใช้งานก็โง่เต็มที่!

“หลังจากนี้เจ้ายังสามารถเขียนมากกว่านี้ได้อีกหรือไม่?

เฉินไฉ่อค้อมหัวอย่างสุภาพ “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ! ไม่สิ ท่านพ่อาจยังไม่ทราบว่าวันนี้ท่านแม่จะพาข้าไปทํางานเกรงว่าข้าคงไม่มีเวลาคิดบทกวีเหล่านี้ให้ท่าน”

หลินหูโบกมืออย่างไม่แยแส “เรื่องนี้ข้าจะบอกให้ท่านแม่ทราบ เจ้าตั้งใจเขียนบทกวีอยู่ในห้องหนังสือก็พอเขียนให้มากหน่อยเล่า!”

หลังจากที่หลินห์กล่าวจบเขาก็เดินออกไปทันที เฉินไฉ่อลอบยิ้มอย่างพึงพอใจหากการเขีย นสิ่งเหล่านี้ทําให้นางได้อยู่แต่ในห้องหนังสือไม่ต้องทํางานนางก็ยินดีทําอย่างยิ่ง!

ด้านหลินหูนั้นเมื่อก้าวพ้นประตูก็คว้ามารดาไว้อย่างรวดเร็ว

“ท่านแม่ ท่านดูนี่! สิ่งนี้คือสิ่งที่เฉินไฉ่อเขียนขึ้นมา”

เป็นธรรมดาที่หวงฉือจะไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้แม้กระทั่งตัวอักษรบนหน้ากระดาษนางกลอกตาขึ้นพร้อมพูดว่า“ลูกข้าเจ้าอย่าได้ตกหลุมพลางอันชั่วร้ายของนางนางไม่ใช่สตรีที่จะเขียนอะไรดี ๆ ออกมาได้ข้าส์ที่เขียนได้เก่งที่สุด!”

หลินหูไม่ต้องการวุ่นวายกับมารดามากนักเขามีสิ่งที่สําคัญกว่านั้นต้องไปทํา

“ท่านแม่ท่านไม่เข้าใจ หากข้าใช้สิ่งเหล่านี้เป็นหนทางสู่ความสําเร็จไม่แน่ข้าอาจสามารถเข้าร่วมกลุ่มเหล่าบัณฑิตได้เมื่อการสอบขุนนางมาถึงและข้ามีชื่อเสียงมากพอแม้แต่นายอําเภอจากทางการก็ไม่กล้าที่จะไม่เลือกข้า!”

หวงจือใจเต้นระรัวด้วยความตื่นตระหนก เรื่องอื่นนางไม่เข้าใจแต่นางเข้าใจว่าสิ่งนี้สามารถช่วยบุตรชายของนางได้!

“สิ่งที่นางเขียนมีประโยชน์จริงหรือ?”

หลินห์พยักหน้าอย่างจริงจัง “อย่างน้อยข้าก็ไม่สามารถเขียนถึงขั้นนี้ได้!เพราะฉะนั้นท่านแม่ช่วงนี้ท่านก็อย่าได้ทําอะไรให้นางล่าบากใจ ให้นางอยู่ในห้องหนังสือเขียนบทกวีออกมาสักสองสามบท”

แม้หวงฉือจะไม่เต็มใจ แต่ด้วยเพราะเส้นสายนั้นสําคัญกับบุตรชายของนางมากนางจึงทําได้เพียงพยักหน้าอย่างจริงจัง

“เอาเถิด เจ้ารีบไปเสีย มารดาไม่รู้เรื่องราวยังจะกล้าทําให้เจ้าล่าช้าอีกหรือ? งานในไร่ข้าจะจัดการเองแล้วบิดาไม่รู้จักโตของเจ้าก็ไม่รู้หายหัวไปไหน บอกว่าไปหาเงินแต่เงินสักอีแปะก็ไม่เห็นมีแม้แต่ตัวก็ยังไม่เห็นกลับมา!”

หลินหูไม่แปลกใจที่ได้ยินสิ่งเหล่านี้ หลังจากได้รับความเห็นชอบจากมารดาเขาก็ยัดแผ่นกระดาษลงในอ้อมอก หันตัวกลับหลังเดินออกจากจวน!

อีกด้านหนึ่ง เฉินเฉินที่อยู่ในห้องหนังสือของเฉินซิ่วไฉก็ได้รับข่าวเกี่ยวกับงานชุมนุมบทกวีที่ ทั่วทั้งบัณฑิตในเมืองร่วมกันจัดขึ้น หลายคนคงใช้งานนี้ป่าวประกาศว่าตนนั้นดีเลิศเพียงใด เขา
คิด

เขารับฟังข่าวนี้อย่างไม่ใส่ใจนักทว่าก็เดินไปสอบถามเฉินซิ่วไจ เหตุเพราะหยุนเวียนเถียนหวาดเกรงว่าบัณฑิตในเมืองบางกลุ่มที่มีนิสัยไม่ดีอาจชักจูงให้เฉินเฉินหลงผิดได้จึงเร่งรีบเข้ามาอธิบายให้เขาฟังแต่เช้าหากเขาไม่เข้าใจเรื่องใดให้เดินไปถามท่านอาจารย์!

เฉินเฉินจดจําค่าของพี่สาวได้ขึ้นใจ ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องหนังสือของอาจารย์เฉิน!

“ท่านอาจารย์ ศิษย์มีเรื่องจะสอบถาม!”

เฉินซิ่วไฉมองไปยังศิษย์ตรงหน้าก่อนจะยกยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ มีความสามารถและฉลาดเฉลียวอยู่เสมอ สิ่งที่สําคัญที่สุดคือความตั้งใจที่จะเรียนรู้ มากไปกว่านั้นคือพี่สาวที่เต็มใจพาเขาออกไปพบเจอเรื่องราวและสิ่งต่าง ๆ บนโลกกว้างแน่นอนว่าเด็กคนนี้รู้มากกว่าผู้ใหญ่คนอื่น ๆ เสียอีกด้วยวัยเพียงเท่านี้ก็สามารถเข้าใจสิ่งที่แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่สามารถ

“เจ้าพูดมาเถิด”

“ท่านอาจารย์ สหายข้าเชิญชวนให้ไปร่วมงานชุมนุมบทกวีที่จะจัดขึ้นในเมือง ศิษย์ไม่ทราบจริง ๆ ว่าเขาต้องการจะทําอะไร จึงมาขอคําชี้แนะจากท่านอาจารย์เป็นกรณีพิเศษขอรับว่างานชุมนุมนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อการสอบขุนนางของข้าหรือไม่!”

เฉินซิ่วไฉหน้าเปลี่ยนสีในทันที เจ้าพวกสารเลวกลุ่มนั้นคิดเพียงแต่จะพึ่งพาเงินในตระกูลไม่ทําสิ่งใดนอกจากสร้างความวุ่นวายข้างนอก และยังคิดร้ายกับศิษย์ที่เขาภาคภูมิใจที่สุดอีกหรือ!

“เด็กดี ด้วยวัยของเจ้าในตอนนี้ เจ้ายังไม่ควรไปเข้าร่วมงานเช่นนั้น!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+