สามีข้า คือพรานป่า 393 มือสังหารตื่นตระหนก

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 393 มือสังหารตื่นตระหนก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 393 มือสังหารตื่นตระหนก

หยุนเถียนเถียนยักไหล่ “นั่นคือปัญหาของเจ้า! แต่ตอนนี้มีเรื่องที่จะต้องตกลงกันก่อนว่า ธุรกิจไม่ได้เป็นของเจ้าเพียงผู้เดียว หากมีปัญหาเกิดขึ้นจริงและส่งผลกระทบต่อความมั่งคั่งของข้ารับรองว่าข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด!”

หลี่ซื่อฮวาแบมืออย่างจนปัญญา “ดูท่าแล้ว ข้าคงไม่มีโอกาสออกจากเมืองเพื่อตามเจ้าไป! แต่เอาเป็นว่า รอให้ข้าจัดการเรื่องที่นี่ให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปพบเจ้าที่ฟูเฉิง แต่ไม่ว่าเจ้าจะค้นคว้าอะไรใหม่ ๆ ได้ ผู้ที่จะมาร่วมงานกับเจ้าคนแรกต้องเป็นข้าเท่านั้นจําได้หรือไม่?”

หยุนเถียนเถียนหัวเราะเสียงสดใสราวกระดิ่งเงินทันที “เรื่องนี้เจ้าวางใจได้ ข้าจะไปหาคู่หูที่เชื่อฟังและคบหาแล้วรู้สึกสบายใจเช่นนี้ได้จากที่ใดกัน!”

หลี่ซื่อฮวายิ้มอย่างจนปัญญาและลุกขึ้นยืนเพื่อพาอีกฝ่ายออกไปนอกประตู! เพราะหยุนเถียนเถียนยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับงานประมูลอีกหลาย

รายการที่อยากจะเล่าให้หลี่ซื่อฮวาฟัง ดังนั้นเมื่อเขาจากไปจึงเป็นเวลาที่โคมได้ถูกแขวนขึ้นที่สูงแล้ว!

ครั้งที่ซื้อบ้าน สิ่งที่สําคัญที่สุดคือความเงียบสงบ ทว่าปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้กลับมาจากที่

หยุนเถียนเถียนมองชายชุดดําสี่ห้าคนที่กําลังล้อมตนเองและอดที่จะสบถในใจไม่ได้ นี่ใครกัน? เหตุใดถึงต้องพากันมามากมายถึงเพียงนี้!

โชคดีที่คราวนี้นอกจากเฉินเฉินที่อยู่ข้างกายแล้ว หญิงสาวยังมีผู้ติดตามคอยสอดส่องเพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย! โดยทั้งสองเป็นองครักษ์ลับของราชวงศ์ ซึ่งไม่ควรพ่ายแพ้นักฆ่าอย่าง พวกมัน!

ชายชุดดําเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ทราบที่มาที่ไปทั้งวาจาและการกระทําของพวกเขา จนกระทั่งประมือกันเป็นเวลาสักพัก จู่ ๆ ฝ่ายตรงข้ามก็ร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัว “พวกเขาเป็นองครักษ์เงา! องครักษ์ลับของตระกูลมู่หรง!”

เซ็นสิ่งรู้สึกประหลาดใจจึงเอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจว่า “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่? ในเมื่อรู้ว่าพวกเราเป็นองครักษ์ลับของราชวงศ์ เช่นนั้นย่อมรู้ว่าผู้ที่อยู่ข้างหลังข้าไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าสามารถแตะต้องได้”

จากนั้นชายชุดดําต่างมองหน้ากันแล้วกระโจนเข้าใส่อีกครั้ง! ครั้งนี้เซ็นสิ่งรู้สึกตกใจอย่างแท้จริง ในเมื่อคนเหล่านี้รู้ว่าเขาเป็นองครักษ์ลับของราชสํานัก แต่กลับกล้าลงมืออีก! เห็นได้ชัดว่าเขามีความมุ่งมั่นที่จะปลิดชีพ!

ในตอนนั้นเอง มู่หรงหยุนเคอเข้ามาต้อนรับ เนื่องจากเป็นห่วงหยุนเถียนเถียน และบังเอิญได้พบกับชายชุดดําที่กําลังปฏิบัติการลอบสังหารพอดี แม้วรยุทธของมู่หรงหยุนเคอจะสูงส่ง ทว่า เพียงสองหมัดย่อมยากที่จะต่อกรกับฝีมือ ส่งผลให้บุรุษผู้นี้ถูกผลักออกไปในพริบตา!

มู่หรงหยุนเคอกาวยาว ๆ ไปข้างหน้าพร้อมดึงกระบอ่อนที่เอวออกมา

ในเวลานี้ชายชุดด่าที่เป็นผู้นําเบิกตากว้างอีกครั้ง “อ่องล่วย!”

ด้วยเหตุนี้จึงพาชายชุดดําที่อยู่ด้านข้างเกิดอาการตกใจไปด้วย! ชายคนหนึ่งถึงกับหน้าเปลี่ยนสีขณะหันไปรอบ ๆ ก่อนจะหายตัวไปในความมืด!

มู่หรงหยุนเคอไม่คิดจะไล่ตาม แต่วิ่งไปหาหยุนเถียนเถียนด้วยความเป็นห่วง “เถียนเถียน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

หยุนเสียนเถียนขมวดคิ้วพร้อมมองชายชุดดําที่นอนตายอยู่บนพื้นและรีบค้นตัวชายชุดดําผู้นั้น แต่กลับไม่พบหลักฐานอะไรเลย!

“คนเหล่านี้ไม่น่าเป็นคนของเจ้าเมืองหลวง เพราะหากใช่ คงไม่ประหลาดใจกับการปรากฏตัวของท่าน! และท้ายที่สุดคือเขาไม่เคยคิดที่จะสังหารเฉินเฉินเช่นนี้”

มู่หรงหยุนเคอพยักหน้าเล็กน้อย “ข้ารู้จักฝีมือองครักษ์ลับของตระกูลมู่หรงเป็นอย่างดี ข้าจึงมั่นใจว่าควรเป็นคนจากเมืองหลวง! เพียงไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่ล่วงรู้ว่าเจ้ามีตัวตนทั้งยังส่งมือสังหารมา!”

เดิมที่จิ๋นเหยียนมักพูดมาก แต่ภายใต้คําสั่งของท่านอ๋องของเขาที่ห้ามพูดพล่ามไร้สาระต่อหน้าคุณหนูหยุนมากนัก ทําให้ต้องกลั้นหายใจอยู่นาน ยามนี้เขาพบช่องว่างที่สามารถแสดงความคิดเห็นจึงรีบกล่าวทันที!

“ท่านอ๋อง คนผู้นี้มาจากจวนอวหยางหรือไม่? อย่างไรเสียผู้ที่รู้ถึงการคงอยู่ของคุณหนูหยุนมีเพียงมู่หรงซื้อเท่านั้น!”

หยุนเถียนเถียนอึ้งชั่วขณะก่อนส่ายหน้า “มู่หรงป้อไม่ใช่ผู้ปากสว่าง และไม่มีผู้ใดรู้เกี่ยวกับการดํารงอยู่ของข้านอกจากคนของจักรพรรดิอวหยาง! แต่คนผู้นี้คงไม่มีเหตุผลอันใดที่จะลงมือกับข้า!”

จีนเหยียนเลิกคิ้วขึ้น “ข้าพอจะมีเบาะแสบ้าง เนื่องด้วยมีคนกล่าวไว้ว่านิสัยของผู้หญิงนั้นขี้หึง หากมเหสีของจักพรรดิแห่งอวหยางรู้ว่าเจ้ามีตัวตนอยู่จริง นางคงต้องลงมือก่อน!”

“แม่ในสายตาของพวกเขา หยุนเพียนเพียนและมารดาของเจ้าจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่ในเมื่อนางแต่งงานกับจักรพรรดิแห่งอวหยางมาหลายปี ข้าไม่เชื่อว่านางจะไม่สนใจสามีของตนเอง เมื่อพบว่ายังมีผู้หญิงคนอื่นซ่อนอยู่ในหัวใจเขา!”

เมื่อเห็นสีหน้าของหยุนเถียนเถียนเคร่งเครียด มู่หรงหยุนเคอจึงถลึงตาใส่ผู้ใต้บัญชาพร้อมกล่าวอีกครั้ง “หากเจ้าทําได้ถึงเพียงนี้ เหตุใดถึงไม่ไปช่วยแม่นางหยุนสืบคดีของข้าหลวงเล่า?”

จินเหยียนอยากจะตบปากตัวเองซ้ําแล้วซ้ําเล่า แต่แล้วกลับถอยออกไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด

“เอาล่ะ! ไม่ว่าผู้ใดเป็นคนลงมือ เราย่อมพบมันในไม่ช้า! ช่วงนี้ข้าต้องกลับเมืองหลวง เจ้าจะอยู่ในเมืองหลวงนี้คงไม่ปลอดภัยนัก เช่นนั้นเจ้าจงตามข้าไป!”

หยุนเถียนเถียนส่ายหน้า “ไม่เป็นไร! ท่านมีปัญหามากแล้ว การพาข้าไปด้วยก็รังแต่จะเป็นภาระเท่านั้น! ยิ่งไปกว่านั้นข้างกายข้าเองยังมีเรื่องวุ่นวาย เอาเป็นว่าเจ้าทิ้งเซิ่นสิ่งไว้ปกป้องข้า แล้วท่านกลับเมืองหลวงไปจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเถิด!”

มู่หรงหยุนเคอลังเลเล็กน้อย เนื่องจากเขาไม่อยากแยกจากสาวน้อยผู้นี้ไป! แต่ทางเมืองหลวงยังมีเรื่องต้องทํามากมาย อีกทั้งสิ่งที่หญิงสาวตัวน้อยพูดย่อมมีเหตุผล เพราะการอยู่ที่นคงปลอดภัยกว่าการติดตามเขาไปเมืองหลวงเสียอีก!

“เถียนเถียน ตอนนี้ข้าต้องไปแล้ว แต่การปล่อยให้เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าเองก็ไม่วางใจเช่นกัน ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เจ้าเมืองหลวงคงไม่มีเจตนาร้ายต่อเจ้า ดังนั้นเราไปเยี่ยมเขาอีกรอบเพื่อให้เขาปกป้องเจ้าจะดีกว่า!”

หยุนเถียนเถียนพูดอย่างจนปัญญา “ท่านไม่ต้องห่วง! เจ้าเมืองหลวงผู้นี้ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจทําอะไรกันแน่ การทิ้งคนของท่านไว้ข้างกายข้าย่อมวางใจได้เสียกว่า!”

มู่หรงหยุนเคอถลึงตาใส่จีนเหยียนอีกครั้งก่อนกล่าวอย่างจริงจัง “เจ้าไม่ไปหาเจ้าเมืองหลวงย่อมได้ เช่นนั้นเจ้าต้องรักษาวาจาและการกระทําให้รอบคอบทุกครั้งที่อยู่กับคุณหนูหยุน! และจงวางใจเถิด องครักษ์เงาข้างกายข้ามีมากกว่าสองตน! กล่าวให้ถูกคือเจ้าจงฟังให้ดี! หากยังกล้าพูดพล่อย ๆ ต่อหน้าคุณหนูหยุนอีก ครั้งหน้าหากพบเจ้า ข้าจะตัดลิ้นเจ้าแน่!”

จินเหยียนตัวสั่นงันงก จากนั้นจึงรีบปิดปากตัวเองแล้วถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะหยุดฝีเท้าลง!

“นายท่านวางใจได้ ข้าไม่บังอาจอีกแน่!”

มู่หรงหยุนเคอมองหยุนเถียนเถียนอย่างจนปัญญา ทว่าแววตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์! แต่เพื่อความปลอดภัยของทั้งสอง สุดท้ายเขาจําต้องกลับไปยังสถานที่แทบไม่อยากไปเหยียบมากที่สุด!

“นายท่านไม่ต้องกังวล อีกสองวันข้าจะพาเฉินเฮ่อกลับไปหมู่บ้านเทพธิดา! ที่นั่นข้าจะจ้างองครักษ์มาเพิ่ม คิดว่าคนในเมืองหลวงนี้คงไม่มีความกล้าถึงเพียงนั้น! เมื่อครู่ยังเห็นท่านอ๋องต้องการปกป้องข้า ทว่าวินาทีถัดมายังกล้าเข้าลอบสังหารข้าอีก นี่ไม่ใช่การแสวงหาความตายจากตัวพวกเขาเองหรอก?”

มู่หรงหยุนเคอยิ้มพลางพยักหน้าและหันมองจีนเหยียนด้วยแววตาดุดัน ก่อนหมุนตัวกลับเข้าไปในลานบ้านและควบม้าของตนเองออกไป!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 393 มือสังหารตื่นตระหนก

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 393 มือสังหารตื่นตระหนก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 393 มือสังหารตื่นตระหนก

หยุนเถียนเถียนยักไหล่ “นั่นคือปัญหาของเจ้า! แต่ตอนนี้มีเรื่องที่จะต้องตกลงกันก่อนว่า ธุรกิจไม่ได้เป็นของเจ้าเพียงผู้เดียว หากมีปัญหาเกิดขึ้นจริงและส่งผลกระทบต่อความมั่งคั่งของข้ารับรองว่าข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด!”

หลี่ซื่อฮวาแบมืออย่างจนปัญญา “ดูท่าแล้ว ข้าคงไม่มีโอกาสออกจากเมืองเพื่อตามเจ้าไป! แต่เอาเป็นว่า รอให้ข้าจัดการเรื่องที่นี่ให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปพบเจ้าที่ฟูเฉิง แต่ไม่ว่าเจ้าจะค้นคว้าอะไรใหม่ ๆ ได้ ผู้ที่จะมาร่วมงานกับเจ้าคนแรกต้องเป็นข้าเท่านั้นจําได้หรือไม่?”

หยุนเถียนเถียนหัวเราะเสียงสดใสราวกระดิ่งเงินทันที “เรื่องนี้เจ้าวางใจได้ ข้าจะไปหาคู่หูที่เชื่อฟังและคบหาแล้วรู้สึกสบายใจเช่นนี้ได้จากที่ใดกัน!”

หลี่ซื่อฮวายิ้มอย่างจนปัญญาและลุกขึ้นยืนเพื่อพาอีกฝ่ายออกไปนอกประตู! เพราะหยุนเถียนเถียนยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับงานประมูลอีกหลาย

รายการที่อยากจะเล่าให้หลี่ซื่อฮวาฟัง ดังนั้นเมื่อเขาจากไปจึงเป็นเวลาที่โคมได้ถูกแขวนขึ้นที่สูงแล้ว!

ครั้งที่ซื้อบ้าน สิ่งที่สําคัญที่สุดคือความเงียบสงบ ทว่าปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้กลับมาจากที่

หยุนเถียนเถียนมองชายชุดดําสี่ห้าคนที่กําลังล้อมตนเองและอดที่จะสบถในใจไม่ได้ นี่ใครกัน? เหตุใดถึงต้องพากันมามากมายถึงเพียงนี้!

โชคดีที่คราวนี้นอกจากเฉินเฉินที่อยู่ข้างกายแล้ว หญิงสาวยังมีผู้ติดตามคอยสอดส่องเพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย! โดยทั้งสองเป็นองครักษ์ลับของราชวงศ์ ซึ่งไม่ควรพ่ายแพ้นักฆ่าอย่าง พวกมัน!

ชายชุดดําเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ทราบที่มาที่ไปทั้งวาจาและการกระทําของพวกเขา จนกระทั่งประมือกันเป็นเวลาสักพัก จู่ ๆ ฝ่ายตรงข้ามก็ร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัว “พวกเขาเป็นองครักษ์เงา! องครักษ์ลับของตระกูลมู่หรง!”

เซ็นสิ่งรู้สึกประหลาดใจจึงเอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจว่า “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่? ในเมื่อรู้ว่าพวกเราเป็นองครักษ์ลับของราชวงศ์ เช่นนั้นย่อมรู้ว่าผู้ที่อยู่ข้างหลังข้าไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าสามารถแตะต้องได้”

จากนั้นชายชุดดําต่างมองหน้ากันแล้วกระโจนเข้าใส่อีกครั้ง! ครั้งนี้เซ็นสิ่งรู้สึกตกใจอย่างแท้จริง ในเมื่อคนเหล่านี้รู้ว่าเขาเป็นองครักษ์ลับของราชสํานัก แต่กลับกล้าลงมืออีก! เห็นได้ชัดว่าเขามีความมุ่งมั่นที่จะปลิดชีพ!

ในตอนนั้นเอง มู่หรงหยุนเคอเข้ามาต้อนรับ เนื่องจากเป็นห่วงหยุนเถียนเถียน และบังเอิญได้พบกับชายชุดดําที่กําลังปฏิบัติการลอบสังหารพอดี แม้วรยุทธของมู่หรงหยุนเคอจะสูงส่ง ทว่า เพียงสองหมัดย่อมยากที่จะต่อกรกับฝีมือ ส่งผลให้บุรุษผู้นี้ถูกผลักออกไปในพริบตา!

มู่หรงหยุนเคอกาวยาว ๆ ไปข้างหน้าพร้อมดึงกระบอ่อนที่เอวออกมา

ในเวลานี้ชายชุดด่าที่เป็นผู้นําเบิกตากว้างอีกครั้ง “อ่องล่วย!”

ด้วยเหตุนี้จึงพาชายชุดดําที่อยู่ด้านข้างเกิดอาการตกใจไปด้วย! ชายคนหนึ่งถึงกับหน้าเปลี่ยนสีขณะหันไปรอบ ๆ ก่อนจะหายตัวไปในความมืด!

มู่หรงหยุนเคอไม่คิดจะไล่ตาม แต่วิ่งไปหาหยุนเถียนเถียนด้วยความเป็นห่วง “เถียนเถียน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

หยุนเสียนเถียนขมวดคิ้วพร้อมมองชายชุดดําที่นอนตายอยู่บนพื้นและรีบค้นตัวชายชุดดําผู้นั้น แต่กลับไม่พบหลักฐานอะไรเลย!

“คนเหล่านี้ไม่น่าเป็นคนของเจ้าเมืองหลวง เพราะหากใช่ คงไม่ประหลาดใจกับการปรากฏตัวของท่าน! และท้ายที่สุดคือเขาไม่เคยคิดที่จะสังหารเฉินเฉินเช่นนี้”

มู่หรงหยุนเคอพยักหน้าเล็กน้อย “ข้ารู้จักฝีมือองครักษ์ลับของตระกูลมู่หรงเป็นอย่างดี ข้าจึงมั่นใจว่าควรเป็นคนจากเมืองหลวง! เพียงไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่ล่วงรู้ว่าเจ้ามีตัวตนทั้งยังส่งมือสังหารมา!”

เดิมที่จิ๋นเหยียนมักพูดมาก แต่ภายใต้คําสั่งของท่านอ๋องของเขาที่ห้ามพูดพล่ามไร้สาระต่อหน้าคุณหนูหยุนมากนัก ทําให้ต้องกลั้นหายใจอยู่นาน ยามนี้เขาพบช่องว่างที่สามารถแสดงความคิดเห็นจึงรีบกล่าวทันที!

“ท่านอ๋อง คนผู้นี้มาจากจวนอวหยางหรือไม่? อย่างไรเสียผู้ที่รู้ถึงการคงอยู่ของคุณหนูหยุนมีเพียงมู่หรงซื้อเท่านั้น!”

หยุนเถียนเถียนอึ้งชั่วขณะก่อนส่ายหน้า “มู่หรงป้อไม่ใช่ผู้ปากสว่าง และไม่มีผู้ใดรู้เกี่ยวกับการดํารงอยู่ของข้านอกจากคนของจักรพรรดิอวหยาง! แต่คนผู้นี้คงไม่มีเหตุผลอันใดที่จะลงมือกับข้า!”

จีนเหยียนเลิกคิ้วขึ้น “ข้าพอจะมีเบาะแสบ้าง เนื่องด้วยมีคนกล่าวไว้ว่านิสัยของผู้หญิงนั้นขี้หึง หากมเหสีของจักพรรดิแห่งอวหยางรู้ว่าเจ้ามีตัวตนอยู่จริง นางคงต้องลงมือก่อน!”

“แม่ในสายตาของพวกเขา หยุนเพียนเพียนและมารดาของเจ้าจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่ในเมื่อนางแต่งงานกับจักรพรรดิแห่งอวหยางมาหลายปี ข้าไม่เชื่อว่านางจะไม่สนใจสามีของตนเอง เมื่อพบว่ายังมีผู้หญิงคนอื่นซ่อนอยู่ในหัวใจเขา!”

เมื่อเห็นสีหน้าของหยุนเถียนเถียนเคร่งเครียด มู่หรงหยุนเคอจึงถลึงตาใส่ผู้ใต้บัญชาพร้อมกล่าวอีกครั้ง “หากเจ้าทําได้ถึงเพียงนี้ เหตุใดถึงไม่ไปช่วยแม่นางหยุนสืบคดีของข้าหลวงเล่า?”

จินเหยียนอยากจะตบปากตัวเองซ้ําแล้วซ้ําเล่า แต่แล้วกลับถอยออกไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด

“เอาล่ะ! ไม่ว่าผู้ใดเป็นคนลงมือ เราย่อมพบมันในไม่ช้า! ช่วงนี้ข้าต้องกลับเมืองหลวง เจ้าจะอยู่ในเมืองหลวงนี้คงไม่ปลอดภัยนัก เช่นนั้นเจ้าจงตามข้าไป!”

หยุนเถียนเถียนส่ายหน้า “ไม่เป็นไร! ท่านมีปัญหามากแล้ว การพาข้าไปด้วยก็รังแต่จะเป็นภาระเท่านั้น! ยิ่งไปกว่านั้นข้างกายข้าเองยังมีเรื่องวุ่นวาย เอาเป็นว่าเจ้าทิ้งเซิ่นสิ่งไว้ปกป้องข้า แล้วท่านกลับเมืองหลวงไปจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเถิด!”

มู่หรงหยุนเคอลังเลเล็กน้อย เนื่องจากเขาไม่อยากแยกจากสาวน้อยผู้นี้ไป! แต่ทางเมืองหลวงยังมีเรื่องต้องทํามากมาย อีกทั้งสิ่งที่หญิงสาวตัวน้อยพูดย่อมมีเหตุผล เพราะการอยู่ที่นคงปลอดภัยกว่าการติดตามเขาไปเมืองหลวงเสียอีก!

“เถียนเถียน ตอนนี้ข้าต้องไปแล้ว แต่การปล่อยให้เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าเองก็ไม่วางใจเช่นกัน ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เจ้าเมืองหลวงคงไม่มีเจตนาร้ายต่อเจ้า ดังนั้นเราไปเยี่ยมเขาอีกรอบเพื่อให้เขาปกป้องเจ้าจะดีกว่า!”

หยุนเถียนเถียนพูดอย่างจนปัญญา “ท่านไม่ต้องห่วง! เจ้าเมืองหลวงผู้นี้ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจทําอะไรกันแน่ การทิ้งคนของท่านไว้ข้างกายข้าย่อมวางใจได้เสียกว่า!”

มู่หรงหยุนเคอถลึงตาใส่จีนเหยียนอีกครั้งก่อนกล่าวอย่างจริงจัง “เจ้าไม่ไปหาเจ้าเมืองหลวงย่อมได้ เช่นนั้นเจ้าต้องรักษาวาจาและการกระทําให้รอบคอบทุกครั้งที่อยู่กับคุณหนูหยุน! และจงวางใจเถิด องครักษ์เงาข้างกายข้ามีมากกว่าสองตน! กล่าวให้ถูกคือเจ้าจงฟังให้ดี! หากยังกล้าพูดพล่อย ๆ ต่อหน้าคุณหนูหยุนอีก ครั้งหน้าหากพบเจ้า ข้าจะตัดลิ้นเจ้าแน่!”

จินเหยียนตัวสั่นงันงก จากนั้นจึงรีบปิดปากตัวเองแล้วถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะหยุดฝีเท้าลง!

“นายท่านวางใจได้ ข้าไม่บังอาจอีกแน่!”

มู่หรงหยุนเคอมองหยุนเถียนเถียนอย่างจนปัญญา ทว่าแววตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์! แต่เพื่อความปลอดภัยของทั้งสอง สุดท้ายเขาจําต้องกลับไปยังสถานที่แทบไม่อยากไปเหยียบมากที่สุด!

“นายท่านไม่ต้องกังวล อีกสองวันข้าจะพาเฉินเฮ่อกลับไปหมู่บ้านเทพธิดา! ที่นั่นข้าจะจ้างองครักษ์มาเพิ่ม คิดว่าคนในเมืองหลวงนี้คงไม่มีความกล้าถึงเพียงนั้น! เมื่อครู่ยังเห็นท่านอ๋องต้องการปกป้องข้า ทว่าวินาทีถัดมายังกล้าเข้าลอบสังหารข้าอีก นี่ไม่ใช่การแสวงหาความตายจากตัวพวกเขาเองหรอก?”

มู่หรงหยุนเคอยิ้มพลางพยักหน้าและหันมองจีนเหยียนด้วยแววตาดุดัน ก่อนหมุนตัวกลับเข้าไปในลานบ้านและควบม้าของตนเองออกไป!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+