สามีข้า คือพรานป่า 403 สํานึก

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 403 สํานึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 403 สํานึก

ภรรยาของเฉินซ่งที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยินบทสนทนาทุกอย่างภายในห้องชัดเจน แววตาของนางวูบไหวคล้ายสับสน และขาทั้งสองขาเริ่มขยับถอยครูดไปราวกับรับรู้ลางร้าย

ทันทีที่เห็นว่าเฉินเต่ออันเดินออกมาจากห้อง ผู้เป็นแม่พลันยืนขึ้นพร้อมกล่าวอย่างเย้ยหยัน “เฉินเต่ออัน! ข้าเป็นแม่ของเจ้า แล้วเช่นนี้ยังกล้าคิดทุบตีข้างั้นหรือ?”

เฉินเต่ออันเผยรอยยิ้มขมขื่นออก “ท่านเป็นมารดาของข้า แน่นอนว่าข้าย่อมไม่มีสิทธิ์ทุบตีท่าน”

แววตาของภรรยาเฉินซ่งผ่อนคลายลงมาก อย่างน้อยนางก็ได้รู้ว่าลูกชายจะไม่ประพฤติตนเช่นเดียวกับนาง

“แต่ถ้าหากท่านไม่สามารถปฏิบัติต่อลูกสะใภ้ดั่งที่เคยให้สัญญาไว้ว่าจะดูแลนางราวกับบุตรสาวของตนได้…งั้นเราแยกบ้านกันเถิด! ท่านกล้าที่จะเอาเข็มใหญ่เย็บผ้าไล่แทงบุตรสาวตัวเองด้วยงั้นหรือ? หากยังเป็นมนุษย์อยู่ คงรู้ว่ามันเลวร้ายมากเพียงใด!”

“ข้าไม่เคยทําเช่นนั้น!” แววตาของภรรยาเฉินซังวูบไหวเล็กน้อยก่อนตะเบ็งเสียงสุดแรง “ไอ้ชั่ว นังแพศยา! เจ้ายุยงให้ลูกชายแตกหักกับข้าใช่หรือไม่? เจ้ามันไร้หัวใจ เจ้าอยากให้ลูกชายทิ้งข้าใช่หรือไม่!”

หยุนเถียนเถียนยืนอยู่ตรงนั้นถึงกับเผยรอยยิ้มออกมา “ยอดเยี่ยมจริง ๆ แม้แต่ข้าก็ยังเดาไม่ถูกว่าเฉินเต่ออันจะอยู่ข้างใด แม่หรือภรรยา…”

“ทําไมข้าถึงคิดวิธีการนี้ไม่ออกกันนะ… เข็มใหญ่เย็บผ้า! มันสามารถสร้างความเจ็บปวดยิ่งแต่กลับไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็น…”

หยุนเถียนเถียนเผยรอยยิ้มเยาะ แววตาของนางจับจ้องที่ภรรยาของเฉินซ่งด้วยความเหยียดหยัน

ในตอนนี้เองที่ภรรยาเฉินซ่งถึงกับตื่นตระหนก ร่างกายของนางสันสะท้านพร้อมกล่าวค่าออก “ข้าไม่ได้ทํา ข้าไม่ได้ทํา! ข้าก็แค่อยากจะสั่งสอนนางให้หัดเคารพข้าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนเสียบ้าง!”

เฉินเต่ออันถึงกับเผยรอยยิ้มขมขึ้นออก “สุดท้ายท่านก็ทํามันจริง ๆ! หากเป็นเช่นนั้น เราแยกกันเถิด ท่านก็อาศัยอยู่ในห้องของตนและไม่มาวุ่นวายใด ส่วนข้าจะนําอาหารมาส่งให้ทุกวันแล้ว ข้าก็จะเป็นคนดูแลท่านพ่อเอง!”

“ข้ารู้ว่าในบ้านของเรามีเงิน แต่ข้าไม่ต้องการมันอีกแล้ว ตอนนี้สําหรับเงินที่จะใช้รักษาท่านพ่อ ข้าจะเป็นคนหามันด้วยตัวเอง! หลังจากนี้ห้ามสั่งให้ภรรยาข้าทํางานใดอีก จําไว้ให้ขึ้นใจว่า เราตัดขาดกันนับตั้งแต่วันนี้!”

ภรรยาเฉินซ่งถึงกับหลั่งน้ําตา “เจ้ามันเนรคุณ ทําผิดกฏฟ้าดิน! ไอ้ลูกนอกคอก สวรรค์จะต้องลงโทษเจ้า!”

เฉินเมื่ออันเหยียดยิ้มออก “หากว่าข้าต้องถูกฟ้าผ่า แล้วท่านล่ะจะสมควรโดนสิ่งใด? ภรรยาที่ละเลยความเป็นความตายของสามี อีกทั้งยังเก็บเงินทั้งหมดของบ้านไว้เพียงคนเดียว ท่านเอาเปรียบทุกคนในครอบครัว..รอบนี้ข้าไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป โปรดดูแลตัวเอง!”

เฉินเต่ออันหันหลังทันทีที่กล่าวจบ เขาไม่สนแววตาสาปแช่งของผู้เป็นแม่แต่อย่างใด

ภายในห้อง ภรรยาของเฉินเต่ออันเผยใบหน้าเจ็บปวดออก “สามี ข้าทราบถึงความใจดีของเจ้า! ตอนนี้พวกเราแยกตัวออกมาแล้ว แต่ก็ควรให้เกียรติทางบ้าน ข้าจะทําเอง!”

“ข้าจะทําเช่นไรมันไม่สําคัญ แต่ข้าไม่อาจปล่อยให้เจ้าถูกรังแกไปมากกว่านี้ได้ เหตุใดท่านแม่จึงไร้เหตุผลเช่นนี้ ข้าไม่เข้าใจเลย…”

ใบหน้าของเฉินเต่ออันเผยความทุกข์ใจออก เขารู้สึกเจ็บปวดจนไม่อาจกล่าวคําใดนอกจากทิ้งตัวลงในอ้อมแขนของภรรยาเพื่อหวังว่าจะขอพักใจอยู่ตรงนี้เสียก่อน

อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดของครอบครัวเขายังไม่จบลงเพียงเท่านี้ จางซึ่งเพิ่งมาถึงลานบ้านตระกูลหยุนในช่วงบ่าย

แน่นอนว่าเขามาตามหาเฉินเฉิน และจะใช้โอกาสนี้เพื่ออธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจให้ชัดเจน ปีหน้าเฉินเฉินจะต้องเข้าเมืองหลวงเพื่อสอบ!

รถม้าหยุนลงหน้าบ้าน จางชิงเฟิงลงจากรถ วันนั้นที่เขาออกไปจากหมู่บ้านเทพธิดา เขาปล่อยให้เฉินไฉ่อีและหลินหูอยู่ด้วยกันที่นี่… ใบหน้าของเขาในวันนั้นถูกทําลายจนป่นปี้แทบไม่เหลือสิ่งใด

ทว่าวันนี้เขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและเกียรติยศ อีกทั้งความเก่งกาจและฉลาดเฉลียว ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ถึงกับก้มหน้าตําด้วยความเขินอาย

หลี่เสี่ยวเหอมีความสัมพันธ์อันดีกับหยุนเถียนเถียนมาโดยตลอด แต่เป็นเพราะแม่สามีของ นางจึงทําให้ทั้งคู่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันนัก

และหลี่เสี่ยวเหอก็มีครอบครัวที่นางเกลียดชังที่สุดเช่นกัน นั่นก็คือครอบครัวของหัวหน้าหมู่บ้าน เพราะนางไม่สามารถให้กําเนิดลูกชายได้ และหญิงชราก็ตะโกนป่าวประกาศขอให้แยกทางกันอยู่ร่ําไป ทั้งหมดเป็นเฉินซ่งที่ลุกขึ้นมาและทําให้นางได้หย่าร้างกับสามี

แต่โชคดีที่พี่น้องของนางมิเคยทอดทิ้ง ตอนนี้นางไม่อาจรักษาสถานะภาพการแต่งงานของตนไว้ได้ แต่หลังจากสามีแยกทางไปกว่าสิบวัน ไม่นานนักเขาก็ซมซานกลับมาหานาง…

ตอนนี้เห็นว่าคุณชายจางซึ่งเคยเป็นลูกเขยของครอบครัวของเฉินซ่งกลับมาแล้ว หลี่เสี่ยวเหอรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะปลดปล่อยความแค้นที่สุมในอกให้หมดสิ้นเสียที

นางวิ่งตรงไปที่บ้านของเฉินซ่งอย่างรวดเร็ว เป้าหมายคือพูดคุยกับภรรยาของเฉินซ่ง

คนในหมู่บ้านนี้ไม่ได้มากนัก ทุกคนรู้ดีว่าหลีเสียวเหอไม่มีเจตนาดีใดกับครอบครัวของเฉินซ่ง โดยปกติแล้วนางไม่เคยมาเยี่ยมเยียนอีกฝ่ายเลย ทว่าวันนี้กลับต้องการพูดคุยอย่างกระทันหัน

ภรรยาของเฉินเต่ออันเห็นว่าอีกฝ่ายมาถึงบ้าน และนางรู้สึกว่าหลี่เสี่ยวเหอคงต้องการอยากพบแม่สามี เช่นนี้นางจึงคิดใช้ประโยคจากหลี่เสี่ยวเหอ… สตรีผู้นี้ก็ได้พบเจอกับแม่สามีที่โหดเหี้ยมเช่นกัน แม้ว่าทั้งสองจะเคยกระทบกระทั่งกันบ้างในอดีต แต่นางก็จะลืมมันไป ยังไงซะนิสัยของหลี่เสี่ยวเหอก็ไม่ได้เลวร้ายนัก

เช่นนี้ภรรยาของเฉินเต่ออันเพียงเผยรอยยิ้มและปล่อยให้คนนอกเข้ามาในบ้านอย่างง่ายดาย

หลี่เสียวเหอพุ่งตรงเข้าไปหาภรรยาของเฉินซ่งในทันที ไม่มีผู้ใดในบ้านได้ทันระวังตัวมาก่อน

“ข้ามีเรื่องจะบอกกล่าวกับพี่สะใภ้สักหน่อย วันนี้มีแขกผู้มีเกียรติมาเยี่ยมเยือนหมู่บ้านของเรารู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร? เขาคนนี้ยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน ตอนนี้เขาเป็นบัณทิตจวเหรินแล้ว!”

ภรรยาของเฉินซึ่งเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “ในเมื่อเป็นถึงจวเหริน แล้วเหตุใดเขาจึงต้องเดินทางเข้าหมู่บ้านห่างไกลความเจริญเช่นนี้ด้วย? เจ้าคิดจะล้อเล่นกับข้างั้นหรือ?”

หลี่เสี่ยวเหอยิ้มกว้างก่อนจะถอนหายใจยาว “ชายคนนั้นเกี่ยวข้องกับครอบครัวของท่านยิ่ง ท่านไม่คิดบ้างหรือว่าหากลูกสาวของท่านมียางอายและยอมแต่งงานกับใครสักคนตั้งแต่แรกชีวิตของพวกท่านย่อมสุขสบายกว่านี้!”

ภรรยาเฉินซึ่งหยุดปักผ้าในมือทันที นางจับจ้องหลี่เสี่ยวเหอด้วยสายตาที่ตื่นตระหนก “เจ้ากําลังพูดเรื่องใด? เจ้าเด็กแก่เรียนผู้นั้นน่ะหรือ? มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะสามารถสอบผ่านระดับจวเหวินได้!”

“ไม่ต้องเชื่อข้าก็ได้ ท่านเพียงไปที่หน้าบ้านของหยุนเถียนเถียนแล้วจะทราบได้เอง ข้าได้ยินมาว่าปีหน้าเขาอาจจะสอบผ่านเป็นชิ้นซื้อแล้ว! ฟังให้ดีเถิด ข้าได้ยินมาว่าชื่อของเขาอยู่ในอันดับที่แปดของการสอบระดับประเทศในคราวนี้!”

“เขาเคยเกือบได้เป็นคนของหมู่บ้านเรา ตอนนี้เขาประสบความสําเร็จตั้งแต่ยังหนุ่ม อีกทั้งในอนาคตอันใกล้เขาอาจจะมีสิทธิ์ได้รับตําแหน่งจอหงวน! สักวันหนึ่งคุณชายผู้นี้จะต้องกลายเป็นขุนนางผู้ยิ่งใหญ่แน่ น่าเสียดายที่ใครบางคนได้เขาเป็นลูกเขย แต่ไม่อาจรักษาเขาไว้ได้!”

อีกฝ่ายบอกกล่าวว่าพวกเขาได้สูญเสียลูกเขยที่กําลังจะกลายเป็นขุนนางยิ่งใหญ่ไปแล้ว หลังจากที่บุตรสาวของนางถูกไล่ตะเพิดออกจากตระกูลจาง นั่นเป็นวันที่คุณชายจางได้เริ่มพัฒนา ตนเองจนพวกเขาไม่มีวันตามทันอีกแล้ว

เป็นตอนนี้เองที่ภรรยาของเฉินซ่งนึกถึงค่าพูดสามีก่อนหน้านี้…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 403 สํานึก

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 403 สํานึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 403 สํานึก

ภรรยาของเฉินซ่งที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยินบทสนทนาทุกอย่างภายในห้องชัดเจน แววตาของนางวูบไหวคล้ายสับสน และขาทั้งสองขาเริ่มขยับถอยครูดไปราวกับรับรู้ลางร้าย

ทันทีที่เห็นว่าเฉินเต่ออันเดินออกมาจากห้อง ผู้เป็นแม่พลันยืนขึ้นพร้อมกล่าวอย่างเย้ยหยัน “เฉินเต่ออัน! ข้าเป็นแม่ของเจ้า แล้วเช่นนี้ยังกล้าคิดทุบตีข้างั้นหรือ?”

เฉินเต่ออันเผยรอยยิ้มขมขื่นออก “ท่านเป็นมารดาของข้า แน่นอนว่าข้าย่อมไม่มีสิทธิ์ทุบตีท่าน”

แววตาของภรรยาเฉินซ่งผ่อนคลายลงมาก อย่างน้อยนางก็ได้รู้ว่าลูกชายจะไม่ประพฤติตนเช่นเดียวกับนาง

“แต่ถ้าหากท่านไม่สามารถปฏิบัติต่อลูกสะใภ้ดั่งที่เคยให้สัญญาไว้ว่าจะดูแลนางราวกับบุตรสาวของตนได้…งั้นเราแยกบ้านกันเถิด! ท่านกล้าที่จะเอาเข็มใหญ่เย็บผ้าไล่แทงบุตรสาวตัวเองด้วยงั้นหรือ? หากยังเป็นมนุษย์อยู่ คงรู้ว่ามันเลวร้ายมากเพียงใด!”

“ข้าไม่เคยทําเช่นนั้น!” แววตาของภรรยาเฉินซังวูบไหวเล็กน้อยก่อนตะเบ็งเสียงสุดแรง “ไอ้ชั่ว นังแพศยา! เจ้ายุยงให้ลูกชายแตกหักกับข้าใช่หรือไม่? เจ้ามันไร้หัวใจ เจ้าอยากให้ลูกชายทิ้งข้าใช่หรือไม่!”

หยุนเถียนเถียนยืนอยู่ตรงนั้นถึงกับเผยรอยยิ้มออกมา “ยอดเยี่ยมจริง ๆ แม้แต่ข้าก็ยังเดาไม่ถูกว่าเฉินเต่ออันจะอยู่ข้างใด แม่หรือภรรยา…”

“ทําไมข้าถึงคิดวิธีการนี้ไม่ออกกันนะ… เข็มใหญ่เย็บผ้า! มันสามารถสร้างความเจ็บปวดยิ่งแต่กลับไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็น…”

หยุนเถียนเถียนเผยรอยยิ้มเยาะ แววตาของนางจับจ้องที่ภรรยาของเฉินซ่งด้วยความเหยียดหยัน

ในตอนนี้เองที่ภรรยาเฉินซ่งถึงกับตื่นตระหนก ร่างกายของนางสันสะท้านพร้อมกล่าวค่าออก “ข้าไม่ได้ทํา ข้าไม่ได้ทํา! ข้าก็แค่อยากจะสั่งสอนนางให้หัดเคารพข้าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนเสียบ้าง!”

เฉินเต่ออันถึงกับเผยรอยยิ้มขมขึ้นออก “สุดท้ายท่านก็ทํามันจริง ๆ! หากเป็นเช่นนั้น เราแยกกันเถิด ท่านก็อาศัยอยู่ในห้องของตนและไม่มาวุ่นวายใด ส่วนข้าจะนําอาหารมาส่งให้ทุกวันแล้ว ข้าก็จะเป็นคนดูแลท่านพ่อเอง!”

“ข้ารู้ว่าในบ้านของเรามีเงิน แต่ข้าไม่ต้องการมันอีกแล้ว ตอนนี้สําหรับเงินที่จะใช้รักษาท่านพ่อ ข้าจะเป็นคนหามันด้วยตัวเอง! หลังจากนี้ห้ามสั่งให้ภรรยาข้าทํางานใดอีก จําไว้ให้ขึ้นใจว่า เราตัดขาดกันนับตั้งแต่วันนี้!”

ภรรยาเฉินซ่งถึงกับหลั่งน้ําตา “เจ้ามันเนรคุณ ทําผิดกฏฟ้าดิน! ไอ้ลูกนอกคอก สวรรค์จะต้องลงโทษเจ้า!”

เฉินเมื่ออันเหยียดยิ้มออก “หากว่าข้าต้องถูกฟ้าผ่า แล้วท่านล่ะจะสมควรโดนสิ่งใด? ภรรยาที่ละเลยความเป็นความตายของสามี อีกทั้งยังเก็บเงินทั้งหมดของบ้านไว้เพียงคนเดียว ท่านเอาเปรียบทุกคนในครอบครัว..รอบนี้ข้าไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป โปรดดูแลตัวเอง!”

เฉินเต่ออันหันหลังทันทีที่กล่าวจบ เขาไม่สนแววตาสาปแช่งของผู้เป็นแม่แต่อย่างใด

ภายในห้อง ภรรยาของเฉินเต่ออันเผยใบหน้าเจ็บปวดออก “สามี ข้าทราบถึงความใจดีของเจ้า! ตอนนี้พวกเราแยกตัวออกมาแล้ว แต่ก็ควรให้เกียรติทางบ้าน ข้าจะทําเอง!”

“ข้าจะทําเช่นไรมันไม่สําคัญ แต่ข้าไม่อาจปล่อยให้เจ้าถูกรังแกไปมากกว่านี้ได้ เหตุใดท่านแม่จึงไร้เหตุผลเช่นนี้ ข้าไม่เข้าใจเลย…”

ใบหน้าของเฉินเต่ออันเผยความทุกข์ใจออก เขารู้สึกเจ็บปวดจนไม่อาจกล่าวคําใดนอกจากทิ้งตัวลงในอ้อมแขนของภรรยาเพื่อหวังว่าจะขอพักใจอยู่ตรงนี้เสียก่อน

อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดของครอบครัวเขายังไม่จบลงเพียงเท่านี้ จางซึ่งเพิ่งมาถึงลานบ้านตระกูลหยุนในช่วงบ่าย

แน่นอนว่าเขามาตามหาเฉินเฉิน และจะใช้โอกาสนี้เพื่ออธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจให้ชัดเจน ปีหน้าเฉินเฉินจะต้องเข้าเมืองหลวงเพื่อสอบ!

รถม้าหยุนลงหน้าบ้าน จางชิงเฟิงลงจากรถ วันนั้นที่เขาออกไปจากหมู่บ้านเทพธิดา เขาปล่อยให้เฉินไฉ่อีและหลินหูอยู่ด้วยกันที่นี่… ใบหน้าของเขาในวันนั้นถูกทําลายจนป่นปี้แทบไม่เหลือสิ่งใด

ทว่าวันนี้เขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและเกียรติยศ อีกทั้งความเก่งกาจและฉลาดเฉลียว ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ถึงกับก้มหน้าตําด้วยความเขินอาย

หลี่เสี่ยวเหอมีความสัมพันธ์อันดีกับหยุนเถียนเถียนมาโดยตลอด แต่เป็นเพราะแม่สามีของ นางจึงทําให้ทั้งคู่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันนัก

และหลี่เสี่ยวเหอก็มีครอบครัวที่นางเกลียดชังที่สุดเช่นกัน นั่นก็คือครอบครัวของหัวหน้าหมู่บ้าน เพราะนางไม่สามารถให้กําเนิดลูกชายได้ และหญิงชราก็ตะโกนป่าวประกาศขอให้แยกทางกันอยู่ร่ําไป ทั้งหมดเป็นเฉินซ่งที่ลุกขึ้นมาและทําให้นางได้หย่าร้างกับสามี

แต่โชคดีที่พี่น้องของนางมิเคยทอดทิ้ง ตอนนี้นางไม่อาจรักษาสถานะภาพการแต่งงานของตนไว้ได้ แต่หลังจากสามีแยกทางไปกว่าสิบวัน ไม่นานนักเขาก็ซมซานกลับมาหานาง…

ตอนนี้เห็นว่าคุณชายจางซึ่งเคยเป็นลูกเขยของครอบครัวของเฉินซ่งกลับมาแล้ว หลี่เสี่ยวเหอรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะปลดปล่อยความแค้นที่สุมในอกให้หมดสิ้นเสียที

นางวิ่งตรงไปที่บ้านของเฉินซ่งอย่างรวดเร็ว เป้าหมายคือพูดคุยกับภรรยาของเฉินซ่ง

คนในหมู่บ้านนี้ไม่ได้มากนัก ทุกคนรู้ดีว่าหลีเสียวเหอไม่มีเจตนาดีใดกับครอบครัวของเฉินซ่ง โดยปกติแล้วนางไม่เคยมาเยี่ยมเยียนอีกฝ่ายเลย ทว่าวันนี้กลับต้องการพูดคุยอย่างกระทันหัน

ภรรยาของเฉินเต่ออันเห็นว่าอีกฝ่ายมาถึงบ้าน และนางรู้สึกว่าหลี่เสี่ยวเหอคงต้องการอยากพบแม่สามี เช่นนี้นางจึงคิดใช้ประโยคจากหลี่เสี่ยวเหอ… สตรีผู้นี้ก็ได้พบเจอกับแม่สามีที่โหดเหี้ยมเช่นกัน แม้ว่าทั้งสองจะเคยกระทบกระทั่งกันบ้างในอดีต แต่นางก็จะลืมมันไป ยังไงซะนิสัยของหลี่เสี่ยวเหอก็ไม่ได้เลวร้ายนัก

เช่นนี้ภรรยาของเฉินเต่ออันเพียงเผยรอยยิ้มและปล่อยให้คนนอกเข้ามาในบ้านอย่างง่ายดาย

หลี่เสียวเหอพุ่งตรงเข้าไปหาภรรยาของเฉินซ่งในทันที ไม่มีผู้ใดในบ้านได้ทันระวังตัวมาก่อน

“ข้ามีเรื่องจะบอกกล่าวกับพี่สะใภ้สักหน่อย วันนี้มีแขกผู้มีเกียรติมาเยี่ยมเยือนหมู่บ้านของเรารู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร? เขาคนนี้ยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน ตอนนี้เขาเป็นบัณทิตจวเหรินแล้ว!”

ภรรยาของเฉินซึ่งเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “ในเมื่อเป็นถึงจวเหริน แล้วเหตุใดเขาจึงต้องเดินทางเข้าหมู่บ้านห่างไกลความเจริญเช่นนี้ด้วย? เจ้าคิดจะล้อเล่นกับข้างั้นหรือ?”

หลี่เสี่ยวเหอยิ้มกว้างก่อนจะถอนหายใจยาว “ชายคนนั้นเกี่ยวข้องกับครอบครัวของท่านยิ่ง ท่านไม่คิดบ้างหรือว่าหากลูกสาวของท่านมียางอายและยอมแต่งงานกับใครสักคนตั้งแต่แรกชีวิตของพวกท่านย่อมสุขสบายกว่านี้!”

ภรรยาเฉินซึ่งหยุดปักผ้าในมือทันที นางจับจ้องหลี่เสี่ยวเหอด้วยสายตาที่ตื่นตระหนก “เจ้ากําลังพูดเรื่องใด? เจ้าเด็กแก่เรียนผู้นั้นน่ะหรือ? มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะสามารถสอบผ่านระดับจวเหวินได้!”

“ไม่ต้องเชื่อข้าก็ได้ ท่านเพียงไปที่หน้าบ้านของหยุนเถียนเถียนแล้วจะทราบได้เอง ข้าได้ยินมาว่าปีหน้าเขาอาจจะสอบผ่านเป็นชิ้นซื้อแล้ว! ฟังให้ดีเถิด ข้าได้ยินมาว่าชื่อของเขาอยู่ในอันดับที่แปดของการสอบระดับประเทศในคราวนี้!”

“เขาเคยเกือบได้เป็นคนของหมู่บ้านเรา ตอนนี้เขาประสบความสําเร็จตั้งแต่ยังหนุ่ม อีกทั้งในอนาคตอันใกล้เขาอาจจะมีสิทธิ์ได้รับตําแหน่งจอหงวน! สักวันหนึ่งคุณชายผู้นี้จะต้องกลายเป็นขุนนางผู้ยิ่งใหญ่แน่ น่าเสียดายที่ใครบางคนได้เขาเป็นลูกเขย แต่ไม่อาจรักษาเขาไว้ได้!”

อีกฝ่ายบอกกล่าวว่าพวกเขาได้สูญเสียลูกเขยที่กําลังจะกลายเป็นขุนนางยิ่งใหญ่ไปแล้ว หลังจากที่บุตรสาวของนางถูกไล่ตะเพิดออกจากตระกูลจาง นั่นเป็นวันที่คุณชายจางได้เริ่มพัฒนา ตนเองจนพวกเขาไม่มีวันตามทันอีกแล้ว

เป็นตอนนี้เองที่ภรรยาของเฉินซ่งนึกถึงค่าพูดสามีก่อนหน้านี้…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+