สามีข้า คือพรานป่า 280 หากไม่เปรียบเทียบย่อมไม่เจ็บปวด

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 280 หากไม่เปรียบเทียบย่อมไม่เจ็บปวด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 280 หากไม่เปรียบเทียบย่อมไม่เจ็บปวด

ขณะที่จซื่อยื่นมือมาช่วยประคองหยุนเถียนเถียนให้ยืนขึ้นด้านนอกประตูก็เกิดการโต้เถียงกันขึ้นบุตรชายของเฉินไปนับว่าตนเป็นพี่ชายของหยุนเสียนเถียนเขาจึงต้องการเป็นผู้ส่งตัวเจ้าสาวออกไปนอกลานบ้าน

แต่บุตรชายของชื่อกลับไม่ยินยอม ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนที่หยุนเถียนเถียนเรียกขานว่าพี่ชายมาโดยตลอด

ในที่สุดเสียงทะเลาะกันก็ดังเขาหูหยุนเคอ สีหน้าของเขาดําทะมึน หญิงสาวมิได้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับผู้ใดทั้งนั้นจะปล่อยให้คนอื่นทําหน้าที่นี้ได้อย่างไร!

ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ไม่ทันได้เอ่ยปากห้าม หยุนเคอก็เปิดประตูเข้ามาแล้ว ฝ่ามือของเขาเปี่ยมไปด้วยพลังมืดจึงไม่มีใครกล้าขัดขวาง

ท่ามกลางเสียงอุทานของด้วยความตกใจของแขกเหรื่อในงาน เขาตรงเข้าไปอุ้มหญิงสาวขึ้นมาโดยไม่ลังเลหยุนเถียนเถียนที่ตัวเบาราวกับไร้น้ําหนัก รีบโอบรอบคอของหยุนเคออย่างตื่นตระหนกจากนั้นหยุนเคอจึงเดินออกจากลานบ้านภายใต้คําอวยพรของทุกคนก่อนจะพาเจ้าสาวขึ้นไปนั่งในเกี้ยว

คนในหมู่บ้านต่างเต็มใจมาช่วยกันแบกเกี้ยวเจ้าสาวนานแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นขบวนแห่เช่นนี้

เกี่ยวเจ้าสาวหลังใหญ่สี่คนหามนับว่าหาได้ยากมากในหมู่บ้านชนบทโดยทั่วไปแล้วตระกูลที่พอมีฐานะอยู่บ้างมักใช้เพียงเกี่ยวสองคนหามหรือไม่ก็ใช้เกวียนวัวแม้จะไม่ต่างจากหลินหูนักแต่ก็ยังมีเพิ่งอยู่บนเกวียนสําหรับกาบังให้เจ้าสาว

อันที่จริง หากไม่ใช่เพราะถนนในชนบทคับแคบเกินไปหยุนเคอคิดจะใช้เกี่ยวแปดคนหามเลยด้วยซ้ํา

เมื่อนึกถึงพิธีแต่งงานนี้ก็ให้รู้สึกผิดต่อหญิงสาวหยุนเคอลอบกัดฟันเขาต้องหาหนทางกู้คืนฐานันดรของตัวเองให้ได้ภายหน้าจะได้จัดงานแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่ในเมืองหลวงขบวนสินสอดสีแดงยาวสิบลี้เท่านั้นถึงจะคู่ควรกับนาง

ทางด้านหลินหู หลังจากชดใช้เงินให้หญิงชาวนาไปแล้วเขาขับเกวียนวัวมายังบ้านของเฉินซ่งด้วยความอับอายเมื่อเฉินไฉ่อีเห็นงานแต่งที่อนาถาเช่นนี้ก็ถึงกับหลั่งน้ําตาออกมา

หลินหูตวาดออกมาด้วยท่าที่ไม่สุภาพนัก“เหตุใดเจ้าถึงร้องไห้? หรือว่าไม่อยากแต่งงาน?หากเจ้าไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่งข้าเองก็ไม่อยากแต่งงานกับหญิงกาลกิณีเช่นเจ้า!วันมงคลเช่นนี้เจ้ากลับมาร้องไห้!”

เฉินซ่งกับภรรยารู้สึกเสียหน้ายิ่งนักแม้อยากจะโจมตีชายหนุ่มแต่พวกเขาเองก็รู้สึกผิดท้ายที่สุดจึงแสร้งทําเป็นหูหนวกตาบอดส่งบุตรสาวที่กําลังร้องไห้ออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย

หลินหูขับเกวียนวัวออกจากหมู่บ้านพร้อมกับน้องชายอีกสองคนที่เดินลากเท้าตามมา เมื่อไป ถึงทางเข้าหมู่บ้านก็พบกับหยุนเคอที่ไปรับเกี้ยวเจ้าสาวของหยุนเสียนเถียนที่หน้าประตูเช่นกัน

แม้จะมีคนส่งเสียงร้องเรียกให้หยุนเคอเตะ*ประตูเกี้ยวเจ้าสาวแต่หยุนเคอกลับเปิดม่านออก อย่างไม่สนใจใยดีก่อนจะเอื้อมมือไปโอบประคองพาคนออกมา

* หนึ่งในพิธีการ ก่อนจะพาเจ้าสาวเข้าบ้านเจ้าบ่าวจะต้องเตะเกี้ยวเจ้าสาวสามครั้ง

นั่นทําให้เฉินไฉ่อมองเห็นหยุนเกียนเถียนในชุดแต่งงานอันวิจิตรตระการตาทันทีนางเข้าเมืองอยู่บ่อยครั้งเหตุใดถึงจะไม่รู้เรื่องสินค้าเหล่านี้?ลายปักอันประณีตงดงามบนผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวผืนนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของช่างปักชั้นหนึ่ง!

เมื่อสวมชุดแต่งงานยิ่งส่งให้เรือนร่างของนางดูบอบบางน่าทะนุถนอมแม้แต่หยุนเคอผู้หยาบกระด้างยังโอบกอดนางอย่างอ่อนโยน

มีบางคนกล่าวสัพยอกหยุนเคอว่าหลังแต่งงานคงให้ภรรยามีอํานาจเหนือกว่าหยุนเคอจึงตอบกลับไปด้วยท่าที่เคร่งขรึมว่าบ้านของเขานั้นเชื่อฟังหยุนเสียนเถียนอยู่แล้ว

หากชุดแต่งงานของหยุนเถียนเถียนทิมแทงสายตาของเฉินไฉ่อ เช่นนั้นทัศนคติของหยนเคอคงเปรียบดังมีดแหลมคมที่มแทงเข้าไปในหัวใจของนาง

เห็นชัดแล้วว่าสิ่งที่เรียกว่าบัณฑิตหรือผู้มั่งคั่งล้วนจอมปลอมทั้งสิ้นหากรู้ว่าหยุนเคอที่รูปลักษณ์ภายนอกดูเย็นชาและโหดเหี้ยม แต่ความเป็นจริงแล้วเขามีจิตใจที่อ่อนโยนมากเฉินไฉ่อคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่หากเขาแต่งงานกับนาง

น่าเสียดายที่ตอนนี้สายเกินกว่าจะพูดสิ่งใดได้ผู้ชายที่เกรงใจภรรยาถึงเพียงนี้โดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองแม้กระทั่งนายน้อยหลีสุภาพบุรุษหนึ่งเดียวในดวงใจของนางยังไม่ยอมดูหมุนตัวเองด้วยซ้ํา

แม้แต่จางซึ่งเพิ่งยังสนใจแต่ตัวเองจนทําให้ความอดทนและความเคารพที่มีต่อตัวเขานั้นสูญสิ้นลงในตอนสุดท้าย

ตอนนี้นางรู้สึกเสียใจที่ต้องแต่งงานกับหลินห์ชื่อเสียงของเขาไม่ดีนัก แม้จะเป็นบัณฑิตแต่ก็ไม่เคยทํางานอันใดทั้งยังมักมากในกามกระทั่งอยู่ต่อหน้าท่านพ่อท่านแม่ของนางยังกล้าสถบออกมาไม่รู้ว่าลับหลังจะต้องเผชิญกับเรื่องใดบ้าง

เฉินไฉ่อสํานึกผิดจนร้องไห้ออกมาอย่างขมขึ้นเสียงคร่ำครวญนี้บีบหัวใจของหลินห์ยิ่งนักแทนที่เขาจะได้แต่งหญิงงามเป็นภรรยาแต่แผนการทั้งหมดกลับถูกผู้หญิงที่น่ารังเกียจผู้นี้ทําลายจนสิ้นใครจะรู้ว่าจะได้พบกับหญิงสาวเปลี่ยวเหงาที่ถูกสามีทอดทิ้ง

หลินหูยิ่งอารมณ์เสียเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญจึงเตะเกวียนวัวอย่างรุนแรง

“เหตุใดถึงร้องไห้? หากไม่ใช่เพราะเจ้าวันนี้คนที่ได้แต่งงานกับเจ้าสาวแสนสวยคงเป็นข้าเพราะเจ้าหลอกลวงข้าตอนนี้ข้าถึงต้องกัดฟันทนแต่งงานกับเจ้า ในวันมงคลเช่นนี้กลับหลั่งน้ําตาให้ข้าไม่อยากมีชีวิตที่ดีแล้วใช่หรือไม่?”

เฉินไฉ่อตกใจกับพฤติกรรมหยาบคายและวาจาอันโหดร้ายจนไม่กล้ากล่าวอันใดออกมาหลินหูรออยู่นานกว่าเดี๋ยวเจ้าสาวจะเข้าไป ภายในบ้านหลังนั้นเต็มไปด้วยความครึกครื้นมีชีวิตชีวาแต่เขาทําได้เพียงลากเกวียนวัวกลับบ้านอย่างโดดเดี่ยวและเย็นชา

ต่างจากความตื่นเต้นของฝั่งหยุนเสียนเถียน ที่บ้านของหลินหูไม่มีแม้กระทั่งถุงผ้าไหมสีแดงแขวนอยู่ด้วยซ้ําหลินห์ยังคงสวมชุดคลุมบัณฑิตตัวเดิมของเขาสิ่งเดียวที่เป็นสักขีพยานถึงวันมงคลนี้คือผ้าสีแดงคุณภาพต่ำของเฉินไฉ่อซึ่งย้อมสีอย่างไม่สม่ําเสมอส่งผลให้ชุดแต่งงานของนางนั้นดูหยาบกระด้างยิ่งนัก

หวงซื่อยืนเอนตัวพิงกรอบประตูพร้อมกับแทะเมล็ดแตงโมงที่ละเม็ด

นางฮัวยิ้มเมื่อเห็นพี่สะใภ้ที่วางตัวสูงส่งอยู่เสมอตอนนี้กําลังมองไปยังหน้าประตูอย่างหมดความอด

“พี่สะใภ้ ไม่ใช่ว่าวันนี้เป็นวันมงคลของลูกชายท่านหรอกหรือ? เหตุใดถึงไม่ตื่นเต้นเลยเล่า?”

หวงซื่อกลอกตาด้วยความโกรธเคือง “เจ้าอย่าสนใจเลย ก็แค่สินค้ามีตําหนิมาตกใส่ลูกชายข้าคอยดูเถิดข้าจะไม่ปล่อยให้นางอยู่สบายแน่!”

สิ้นเสียงสนทนา เกวียนวัวก็หยุดตรงหน้าประตู ญาติที่ติดตามไปรับตัวเจ้าสาวด้วยรู้ดีว่าหวง ซื่อเป็นคนเช่นไร พวกเขาจึงไม่เข้ามาทักทายและดื่มน้ําชา ทว่าทิ้งเกวียนวัวเอาไว้แล้วหันหลัง จากไปในทันที

หลินหูสีหน้าบูดบึง เมื่อเห็นว่าเฉินไฉ่อที่นั่งก้มศีรษะอยู่บนเกวียนวัว ไม่ยอมเข้าไปในบ้าน

หวงซื่อเห็นบุตรชายตกอยู่ในสถานการณ์ลําบาก จึงรีบก้าวเข้าไปถามด้วยความห่วงใย “ลูกแม่เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? ตอนไปรับเจ้าสาวยังดี ๆ อยู่เลย เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้?”

หลินหูไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก จึงเดินเลี่ยงหวงซื่อเข้าไปในห้อง พร้อมทั้งปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา

หวงซื้อไตร่ตรองว่าเหตุใดถึงสะใภ้ถึงยังไม่เข้าบ้าน? ถึงอย่างไรนางก็ยังรอคอยที่จะได้ใช้อํานาจกดข่มลูกสะใภ้ผู้นี้ คอยดูเถิด!

เมื่อนางเดินออกจากลานบ้าน เฉินไฉ่อคนดียังคงนั่งร้องไห้อย่างโศกศัลย์อยู่บนเกวียนวัว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 280 หากไม่เปรียบเทียบย่อมไม่เจ็บปวด

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 280 หากไม่เปรียบเทียบย่อมไม่เจ็บปวด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 280 หากไม่เปรียบเทียบย่อมไม่เจ็บปวด

ขณะที่จซื่อยื่นมือมาช่วยประคองหยุนเถียนเถียนให้ยืนขึ้นด้านนอกประตูก็เกิดการโต้เถียงกันขึ้นบุตรชายของเฉินไปนับว่าตนเป็นพี่ชายของหยุนเสียนเถียนเขาจึงต้องการเป็นผู้ส่งตัวเจ้าสาวออกไปนอกลานบ้าน

แต่บุตรชายของชื่อกลับไม่ยินยอม ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนที่หยุนเถียนเถียนเรียกขานว่าพี่ชายมาโดยตลอด

ในที่สุดเสียงทะเลาะกันก็ดังเขาหูหยุนเคอ สีหน้าของเขาดําทะมึน หญิงสาวมิได้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับผู้ใดทั้งนั้นจะปล่อยให้คนอื่นทําหน้าที่นี้ได้อย่างไร!

ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ไม่ทันได้เอ่ยปากห้าม หยุนเคอก็เปิดประตูเข้ามาแล้ว ฝ่ามือของเขาเปี่ยมไปด้วยพลังมืดจึงไม่มีใครกล้าขัดขวาง

ท่ามกลางเสียงอุทานของด้วยความตกใจของแขกเหรื่อในงาน เขาตรงเข้าไปอุ้มหญิงสาวขึ้นมาโดยไม่ลังเลหยุนเถียนเถียนที่ตัวเบาราวกับไร้น้ําหนัก รีบโอบรอบคอของหยุนเคออย่างตื่นตระหนกจากนั้นหยุนเคอจึงเดินออกจากลานบ้านภายใต้คําอวยพรของทุกคนก่อนจะพาเจ้าสาวขึ้นไปนั่งในเกี้ยว

คนในหมู่บ้านต่างเต็มใจมาช่วยกันแบกเกี้ยวเจ้าสาวนานแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นขบวนแห่เช่นนี้

เกี่ยวเจ้าสาวหลังใหญ่สี่คนหามนับว่าหาได้ยากมากในหมู่บ้านชนบทโดยทั่วไปแล้วตระกูลที่พอมีฐานะอยู่บ้างมักใช้เพียงเกี่ยวสองคนหามหรือไม่ก็ใช้เกวียนวัวแม้จะไม่ต่างจากหลินหูนักแต่ก็ยังมีเพิ่งอยู่บนเกวียนสําหรับกาบังให้เจ้าสาว

อันที่จริง หากไม่ใช่เพราะถนนในชนบทคับแคบเกินไปหยุนเคอคิดจะใช้เกี่ยวแปดคนหามเลยด้วยซ้ํา

เมื่อนึกถึงพิธีแต่งงานนี้ก็ให้รู้สึกผิดต่อหญิงสาวหยุนเคอลอบกัดฟันเขาต้องหาหนทางกู้คืนฐานันดรของตัวเองให้ได้ภายหน้าจะได้จัดงานแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่ในเมืองหลวงขบวนสินสอดสีแดงยาวสิบลี้เท่านั้นถึงจะคู่ควรกับนาง

ทางด้านหลินหู หลังจากชดใช้เงินให้หญิงชาวนาไปแล้วเขาขับเกวียนวัวมายังบ้านของเฉินซ่งด้วยความอับอายเมื่อเฉินไฉ่อีเห็นงานแต่งที่อนาถาเช่นนี้ก็ถึงกับหลั่งน้ําตาออกมา

หลินหูตวาดออกมาด้วยท่าที่ไม่สุภาพนัก“เหตุใดเจ้าถึงร้องไห้? หรือว่าไม่อยากแต่งงาน?หากเจ้าไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่งข้าเองก็ไม่อยากแต่งงานกับหญิงกาลกิณีเช่นเจ้า!วันมงคลเช่นนี้เจ้ากลับมาร้องไห้!”

เฉินซ่งกับภรรยารู้สึกเสียหน้ายิ่งนักแม้อยากจะโจมตีชายหนุ่มแต่พวกเขาเองก็รู้สึกผิดท้ายที่สุดจึงแสร้งทําเป็นหูหนวกตาบอดส่งบุตรสาวที่กําลังร้องไห้ออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย

หลินหูขับเกวียนวัวออกจากหมู่บ้านพร้อมกับน้องชายอีกสองคนที่เดินลากเท้าตามมา เมื่อไป ถึงทางเข้าหมู่บ้านก็พบกับหยุนเคอที่ไปรับเกี้ยวเจ้าสาวของหยุนเสียนเถียนที่หน้าประตูเช่นกัน

แม้จะมีคนส่งเสียงร้องเรียกให้หยุนเคอเตะ*ประตูเกี้ยวเจ้าสาวแต่หยุนเคอกลับเปิดม่านออก อย่างไม่สนใจใยดีก่อนจะเอื้อมมือไปโอบประคองพาคนออกมา

* หนึ่งในพิธีการ ก่อนจะพาเจ้าสาวเข้าบ้านเจ้าบ่าวจะต้องเตะเกี้ยวเจ้าสาวสามครั้ง

นั่นทําให้เฉินไฉ่อมองเห็นหยุนเกียนเถียนในชุดแต่งงานอันวิจิตรตระการตาทันทีนางเข้าเมืองอยู่บ่อยครั้งเหตุใดถึงจะไม่รู้เรื่องสินค้าเหล่านี้?ลายปักอันประณีตงดงามบนผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวผืนนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของช่างปักชั้นหนึ่ง!

เมื่อสวมชุดแต่งงานยิ่งส่งให้เรือนร่างของนางดูบอบบางน่าทะนุถนอมแม้แต่หยุนเคอผู้หยาบกระด้างยังโอบกอดนางอย่างอ่อนโยน

มีบางคนกล่าวสัพยอกหยุนเคอว่าหลังแต่งงานคงให้ภรรยามีอํานาจเหนือกว่าหยุนเคอจึงตอบกลับไปด้วยท่าที่เคร่งขรึมว่าบ้านของเขานั้นเชื่อฟังหยุนเสียนเถียนอยู่แล้ว

หากชุดแต่งงานของหยุนเถียนเถียนทิมแทงสายตาของเฉินไฉ่อ เช่นนั้นทัศนคติของหยนเคอคงเปรียบดังมีดแหลมคมที่มแทงเข้าไปในหัวใจของนาง

เห็นชัดแล้วว่าสิ่งที่เรียกว่าบัณฑิตหรือผู้มั่งคั่งล้วนจอมปลอมทั้งสิ้นหากรู้ว่าหยุนเคอที่รูปลักษณ์ภายนอกดูเย็นชาและโหดเหี้ยม แต่ความเป็นจริงแล้วเขามีจิตใจที่อ่อนโยนมากเฉินไฉ่อคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่หากเขาแต่งงานกับนาง

น่าเสียดายที่ตอนนี้สายเกินกว่าจะพูดสิ่งใดได้ผู้ชายที่เกรงใจภรรยาถึงเพียงนี้โดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองแม้กระทั่งนายน้อยหลีสุภาพบุรุษหนึ่งเดียวในดวงใจของนางยังไม่ยอมดูหมุนตัวเองด้วยซ้ํา

แม้แต่จางซึ่งเพิ่งยังสนใจแต่ตัวเองจนทําให้ความอดทนและความเคารพที่มีต่อตัวเขานั้นสูญสิ้นลงในตอนสุดท้าย

ตอนนี้นางรู้สึกเสียใจที่ต้องแต่งงานกับหลินห์ชื่อเสียงของเขาไม่ดีนัก แม้จะเป็นบัณฑิตแต่ก็ไม่เคยทํางานอันใดทั้งยังมักมากในกามกระทั่งอยู่ต่อหน้าท่านพ่อท่านแม่ของนางยังกล้าสถบออกมาไม่รู้ว่าลับหลังจะต้องเผชิญกับเรื่องใดบ้าง

เฉินไฉ่อสํานึกผิดจนร้องไห้ออกมาอย่างขมขึ้นเสียงคร่ำครวญนี้บีบหัวใจของหลินห์ยิ่งนักแทนที่เขาจะได้แต่งหญิงงามเป็นภรรยาแต่แผนการทั้งหมดกลับถูกผู้หญิงที่น่ารังเกียจผู้นี้ทําลายจนสิ้นใครจะรู้ว่าจะได้พบกับหญิงสาวเปลี่ยวเหงาที่ถูกสามีทอดทิ้ง

หลินหูยิ่งอารมณ์เสียเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญจึงเตะเกวียนวัวอย่างรุนแรง

“เหตุใดถึงร้องไห้? หากไม่ใช่เพราะเจ้าวันนี้คนที่ได้แต่งงานกับเจ้าสาวแสนสวยคงเป็นข้าเพราะเจ้าหลอกลวงข้าตอนนี้ข้าถึงต้องกัดฟันทนแต่งงานกับเจ้า ในวันมงคลเช่นนี้กลับหลั่งน้ําตาให้ข้าไม่อยากมีชีวิตที่ดีแล้วใช่หรือไม่?”

เฉินไฉ่อตกใจกับพฤติกรรมหยาบคายและวาจาอันโหดร้ายจนไม่กล้ากล่าวอันใดออกมาหลินหูรออยู่นานกว่าเดี๋ยวเจ้าสาวจะเข้าไป ภายในบ้านหลังนั้นเต็มไปด้วยความครึกครื้นมีชีวิตชีวาแต่เขาทําได้เพียงลากเกวียนวัวกลับบ้านอย่างโดดเดี่ยวและเย็นชา

ต่างจากความตื่นเต้นของฝั่งหยุนเสียนเถียน ที่บ้านของหลินหูไม่มีแม้กระทั่งถุงผ้าไหมสีแดงแขวนอยู่ด้วยซ้ําหลินห์ยังคงสวมชุดคลุมบัณฑิตตัวเดิมของเขาสิ่งเดียวที่เป็นสักขีพยานถึงวันมงคลนี้คือผ้าสีแดงคุณภาพต่ำของเฉินไฉ่อซึ่งย้อมสีอย่างไม่สม่ําเสมอส่งผลให้ชุดแต่งงานของนางนั้นดูหยาบกระด้างยิ่งนัก

หวงซื่อยืนเอนตัวพิงกรอบประตูพร้อมกับแทะเมล็ดแตงโมงที่ละเม็ด

นางฮัวยิ้มเมื่อเห็นพี่สะใภ้ที่วางตัวสูงส่งอยู่เสมอตอนนี้กําลังมองไปยังหน้าประตูอย่างหมดความอด

“พี่สะใภ้ ไม่ใช่ว่าวันนี้เป็นวันมงคลของลูกชายท่านหรอกหรือ? เหตุใดถึงไม่ตื่นเต้นเลยเล่า?”

หวงซื่อกลอกตาด้วยความโกรธเคือง “เจ้าอย่าสนใจเลย ก็แค่สินค้ามีตําหนิมาตกใส่ลูกชายข้าคอยดูเถิดข้าจะไม่ปล่อยให้นางอยู่สบายแน่!”

สิ้นเสียงสนทนา เกวียนวัวก็หยุดตรงหน้าประตู ญาติที่ติดตามไปรับตัวเจ้าสาวด้วยรู้ดีว่าหวง ซื่อเป็นคนเช่นไร พวกเขาจึงไม่เข้ามาทักทายและดื่มน้ําชา ทว่าทิ้งเกวียนวัวเอาไว้แล้วหันหลัง จากไปในทันที

หลินหูสีหน้าบูดบึง เมื่อเห็นว่าเฉินไฉ่อที่นั่งก้มศีรษะอยู่บนเกวียนวัว ไม่ยอมเข้าไปในบ้าน

หวงซื่อเห็นบุตรชายตกอยู่ในสถานการณ์ลําบาก จึงรีบก้าวเข้าไปถามด้วยความห่วงใย “ลูกแม่เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? ตอนไปรับเจ้าสาวยังดี ๆ อยู่เลย เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้?”

หลินหูไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก จึงเดินเลี่ยงหวงซื่อเข้าไปในห้อง พร้อมทั้งปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา

หวงซื้อไตร่ตรองว่าเหตุใดถึงสะใภ้ถึงยังไม่เข้าบ้าน? ถึงอย่างไรนางก็ยังรอคอยที่จะได้ใช้อํานาจกดข่มลูกสะใภ้ผู้นี้ คอยดูเถิด!

เมื่อนางเดินออกจากลานบ้าน เฉินไฉ่อคนดียังคงนั่งร้องไห้อย่างโศกศัลย์อยู่บนเกวียนวัว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+